ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ~แวมเพอร์เรีย วิกฤติรักแวมไพร์( SUJU ) HanHyuk~ Yaoi

    ลำดับตอนที่ #34 : My Vampire 34

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 443
      3
      9 ต.ค. 55

     


     

     

    ฮันกยองถอนหายใจยาว พลางมองดูคุงอินและลีทึกที่คุยกันอย่างสนิทสนมอยู่ข้างหลังเขา โดยที่ตอนนี้เขาและทั้ง2คนกำลังเดินเข้ามายังตัวบ้านหลังเล็ก จริงๆแล้วเขาตั้งใจว่าชวนคังอินมาครั้งนี้เพื่อจะให้ฮยอกแจอารมณ์ดีแล้วก็เลิกโกรธเขาซักที ยิ่งคิดถึงเรื่องนั่นยิ่งแย่ไปใหญ่


    ทำไมเขาถึงจำอะไรไม่ได้เลยน่ะ แถมยังทำไปซะขนาดนั่นอีก ปกติอดนอนหรือเมาเขาก็น่าจะจำอะไรได้บ้างสิ แบบนี้มันน่าเสียดายใจริงๆเลยน่ะ.. เดียวสิ ไม่ใช่น่าเสียดาย พูดแบบนั่นไม่ได้ ยังไงก็ช่าง เขานั่นและที่ผิด แบบนี้จะให้ร่างเล็กมีหวังต้องมองเขาเป็นพวกชั่วช้า ฉวยโอกาส หรืออะไรต่างๆน่าๆแน่นอนเลย


    “สวัสดีครับพี่ฮัน คุณคังอิน คุณลีทึก”เสียงหวานๆของซองมินดังขึ้น ทำให้เขาเงยหน้ามองทันที นั่นทำให้เขาพบกับฮยอกแจและซองมินกำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่


    “ฮยอกแจ...”


    “คังอิน!!”ร่างเล็กฉีกยิ้มกว้างขึ้นมา ก่อนจะวิ่งมากระโดดกอดคอชายหนุ่มตัวโตอย่างดีใจ นั่นทำให้เขาอดน้อยใจไม่ได้ แต่ก็ทำได้เพียงมองดู2คนที่กอดกันตัวกลมอยู่ข้างๆเท่านั่นเอง


    “คิดถึงนายมากเลยคังอิน”ฮยอกแจบอกเสียงอู้อี้แนบอกกว้างของคังอิน เมื่อนึกถึงความรู้สึกเย็นวูบเมื่อกลางวัน


    “...”ลีทึกมองดู2คนที่กอดกันอย่างสนิทสนม ก่อนจะเบ้หน้าออกมา ฮันกยอง แล้วก็คังอิน! ดี ทิ้งเขาไปกันให้หมด หลงอะไรนักหน้ากับไอ้เด็กตัวเล็กนี้ แบบนี้หรือเป็นเพราะผมสีแดงของคนตัวเล็กน่ะ ถ้าแบบนี้เขาไปย้อมผมบ้างก็คงจะดี


    “เข้าบ้านก่อนดีไหมครับ”คังอินบอกยิ้มๆ นั่นทำให้ฮยอกแจยอมปล่อยมือจากเขา


    “ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย เรื่องสำคัญด้วย”ร่างเล็กบอกอย่างร้อนใจ นั่นทำให้คังอินนิ่งเงียบไม่พูดอะไรต่อ เพราะเขาก็พอรู้ว่าน่าจะเป็นเรื่องอะไร


    “ครับ ผมอยู่ตรงนี้แล้วไง..ไม่ต้องกลัวน่ะ”ชายหนุ่มบอกเสียงเบา ทำให้ฮยอกแจพยักหน้าออกมานิดหนึ่ง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ลีทึกรีบเดินเข้าไปในบ้าน เพื่อที่จะให้พ้นจากภาพนั่น แม้เขาเองจะไม่เข้าใจเลยก็เถอะว่าทำไมฮันกยองถึงไม่หึง? หรือแสดงอาการอะไรออกมาบ้างก็ได้? ดูเขาสิ! อุสาทำใจเรื่องฮันกยองได้ ก็ต้องมาเจอภาพบาดตากับคนที่อุสาว่าจะยอมเปิดใจด้วย


    เวลาผ่านไปซักพักหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ทุกคนกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทานอาหาร โดยมีซองมินและลีทึกค่อยยกแกงกะรี่เนื้อมาให้ ฮยอกแจมองดูลีทึกที่วันนี้ดูจะไม่คิดอะไรเพ้อเจ้อนัก แต่กลับมีความคิดเกี่ยวกับเขาและคังอินเข้ามาแทนที จริงๆเขาก็ไม่รังเกียจที่ลีทึกจะคบกับคังอินหรอกน่ะ ดูแลลูกชายตัวน้อยของเขาก็ชอบลีทึกอยู่ไม่น้อย


    “คังอิน เราไปคุยกันตรงนู้นแปปหนึ่งได้ไหม”ร่างเล็กพูดขึ้นมา เมื่อเห็นสีหน้าของฮันกยอง เขาไม่อยากให้ร่างสูงรู้เรื่องนี้ ไม่อยากให้เข้ามายุ่งเกียวกับเรื่องแบบนี้ซักเท่าไร กลัวว่ามันจะอันตรายเกินไปสำหรับฮันกยอง


    “ครับ..”คังอินรับคำเสียงเบา พลางลุกตามฮยอกแจออกไป ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินหายออกไปที่หลังบ้าน


    คังอินมองดูผู้มีพระคุณของเขา กำลังเดินวนไปวนมาอย่างกระสับกระสาย ก่อนที่คนตัวเล็กจะหันมาหาเขาด้วยสีหน้าจริงจัง ซึ่งเขาเองก็คิดไว้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นเรื่องไหน


    “ฉันรู้สึกถึงยัยนั่น...รู้สึกถึงแรงอารมณ์ รู้สึกถึงความเย็นชา ...”ร่างเล็กพูดขึ้นมา


    “...”


    “มันเกิดอะไรขึ้นหรือคังอิน ปกติฉันไม่เคยรู้สึกถึงยัยนั่นมาก่อน ราวกับว่า...ราวกับว่า คอของฉันมีมืออันเย็นเฉียบโอบไว้”


    “เป็นเพราะว่าเธอไม่เคยเปิดเผยตัวต่อคุณไงละครับ คุณถึงยังไม่เคยเจอความรู้สึกอะไรแบบนั่น ต่างกันตรงที่ว่า คุณไม่เคยปิดกั้นตัวตนจากผม เวลาคุณเศร้า คุณโกรธ คุณเจ็บปวด ผมจะรู้สึกได้..”คังอินเอ่ยเสียงเบา


    “แปลว่ายัยนั่นจงใจให้ฉันรู้สึก..”ร่างเล็กเอ่ยเสียงสั่น


    “อาจจะแปลว่าเธอกำลังบอกให้คุณรู้ว่า เธอกำลังจะมาหาคุณ”คังอินว่า


    “ฉันจะฆ่ามัน...”ฮยอกแจกัดฟันแน่น เมื่อนึกถึงครั้งสุดท้ายที่เขาเจอกับยัยนั่น มันเป็นคืนที่แสนเงียบสงบแต่เขากลับถูกมันไว้ด้วยโซเหล็กภายในห้องใต้ดิน ถูกฉีกร่างกายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถูกดึงกระดูกออกมา ถูกบีบอวัยวะภายในจนแทบจะฝื้นตัวไม่ได้ เขาเคยคิดอยากจะตายๆไปซะ แต่เพราะความเป็นอัมตะ การรักษาบาดแผลของตัวเอง แถมยังถูกบังคับให้ดูเลือดหญิงสาวชาวบ้านธรรมดาในตอนทีต้องการเลือดแทบขาดใจ ถูกบังคับให้มองดูมนุษย์ที่น่าสงสารค่อยๆตายเพราะน้ำมือตัวเอง


    “คุณพ่อ..”คังอินเรียกเสียงเบาเมื่อเห็นว่าใบหน้าของฮยอกแจซีดลงไป


    “ฉันไม่เป็นไร..”


    “ผมอยู่ทีนี้แล้วไงครับ ผมจะไม่ยอมให้หล่อนทำอะไรคุณ ผมจะปกป้องคุณ”ชายหนุ่มว่า


    “นายอาจจะโดนฆ่าตาย ฉันไม่ต้องการให้นายเป็นอะไร”ฮยอกแจว่า “ถ้ายัยนั่นมาจริงๆ ฉันจะสู้หน้าเอง”


    “ถ้าคุณไม่ต้องการ ผมก็จะไม่ตาย...คุณพ่อครับ หนีไปกับผมเถอะครับ”คังอินว่า


    “...”


    “อยู่ที่นี้รอให้เธอมาก็มีแต่แย่ ถ้าเราหนีไปตอนนี้มันอาจจะ...”


    “ฉันจะไม่หนีคังอิน ฉันจะอยู่..”ฮยอกแจบอกเสียงแข็ง ทำให้คังอินเงียบลงไป


    “เพราะคุณฮันกยองหรือครับ..” ฮยอกแจไม่ตอบ “..ถ้าเป็นแบบนั่น ผมจะฆ่าเขาให้ หรืออย่างน้อยก็ทำให้เขาเป็นเหมือนพวกเรา...”


    “ไม่!!!”ร่างเล็กปฏิเสธเสียงแข็ง “ฉันมีวิธีที่ง่ายกว่านั่น ฉันจะกลับเป็นมนุษย์ สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ อ่อนแอ มีวันแก่และวันตาย..”


    “...”ชายหนุ่มมองดูดวงตาที่วาวโรดขึ้นมาของฮยอกแจ ก่อนที่เขาจะพยักหน้ารับ


    “แล้วแต่คุณครับ คุณพ่อ..”

    *




    *



    *



    ลีทึกมองบานประตูบานโตที่ตอนนี้ ชายหนุ่มสองคนก็ยังไม่เดินกลับเข้ามาซักที แม้จะผ่านมากว่า10นาทีแล้ว ไม่รู้ว่าคุยเรื่องอะไรกันนักหนา ถึงได้นานแบบนี้ ดวงตากลมโตหันมามองดูฮันกยองที่ตอนนี้แทบจะกลายเป็นร่างไร้วิญญาณไปแล้ว เหมือนกับกำลังคิดมากเรื่องอะไรซักอยากอยู่


    “ขอโทษที่ให้รอครับ”เสียงคังอินดังขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มบางๆที่ยิ้มให้เขา แต่เขาเลือกจะหันหน้าหนี


    “หายกันไปนานเหลือเกินน่ะ มีความในใจคุยกันเยอะหรือ”ชายหนุ่มบ่นเบาๆ


    “ก็ทำนองนั่นครับ”คังอินว่า ทำให้ลีทึกหันหน้าหนีไปอีกทาง เป็นเวลาเดียวกับที่ฮยอกแจเดินมานั่งลงข้างๆเขา ซึ่งร่างเล็กก็ไม่ได้พูดแก้ตัวอะไร ได้แต่มองหน้าฮันกยองแล้วก็หลบตา ราวกับคิดเรื่องอะไรอยู่


    “คุณฮยอกแจ คุณคังอิน..นี้ครับ แกงกะรี่เนื้อสุดอร่อย”ซองมินบอกอย่างกระตือรือร้น ก่อนจะวางจานทั้ง2ลงตรงหน้าของคังอินและฮยอกแจ


    “น่ากินมากเลยซองมิน”คังอินบอกยิ้มๆ นั่นทำให้ลีทึกแบ้ปากออกมา แล้วก็กำลังจะหันไปทานของตัวเองต่อ แต่เพราะคนที่นั่งหน้าเครียดอยู่ข้างๆเลยทำให้เขาหันมามองอีกรอบ


    “ไม่กินล่ะ หรือเนื้อชิ้นใหญ่ไป...เอามีดของฉันก็ได้”ลีทึกบอก ก่อนจะหยิบมีดที่โต๊ะของตัวเองยื่นให้ฮยอกแจ เพราะเขาเป็นพวกชอบใช้มีดกับช้อน ก็เลยมีแค่เขาที่มีมีด จริงๆแล้วเขาชอบกินติดเนื้อเป็นชิ้นเล็กๆมากกว่า มันกินง่ายกว่าเยอะ ฮยอกแจหันมามองเขา ก่อนจะเอื่อมมือมาหยิบมีดจากมือเขา


    “โอ้ย!!!!!”ร่างเล็กตะโกนลั่นก่อนที่จะรีบปล่อยมือทันที ซึ่งเขาเองก็รีบปล่อยมือไม่แพ้กัน มันเลยทำให้มีดเงินคันเล็กหล่นลงพื้น


    “ฮยอกแจ/ฮยอกแจ!”2หนุ่มร้องขึ้นมาอย่างเป็นห่วง ก่อนจะรีบรุดมายังร่างเล็กที่ยืนนิ่งกุมมือไว้แบบนั่น


    “ฉ..ฉันขอโทษน่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ”ลีทึกร้องออกมาเสียงเบา ทั้งพยายามเข้าไปหาร่างเล็ก แต่คังอินก็เข้ามาขวางไว้อย่างน่ากลัว


    “อย่ามาแตะต้องคุณฮยอกแจ”ชายหนุ่มขู่ออกมาเสียงแข็งจนทำให้ลีทึกหยุด


    “ฉันบอกว่าไม่ได้ตั้งใจยังไงล่ะ ไม่มีใครเขาอยากเอามีดบาดมือคนอื่นแบบนี้หรอก”ลีทึกตัดพ้อขึ้นมา ก่อนจะเอื่อมมือออกไปหาฮยอกแจเพื่อจะดูอาการ








    เพี้ย!!




    “...”ชายหนุ่มยืนมองคนตัวสูงอย่างตกใจสุดๆ เมื่อมือเรียวของเขาถูกปัดออกอย่างแรงจนเขาเจ็บ แล้วมันก็ถูกกระทำโดยคนตัวสูงที่เคยใช่มือนี้ช่วยชีวิตเขาไว้ ชายหนุ่มเงยหน้ามองสบตาสีดำที่มองมายังเขาอย่างเย็นชา


    “บอกว่าอย่ามาแตะต้องคุณฮยอกแจ..”คังอินบอกอีกครั้งเสียงดุ นั่นทำให้ชายหนุ่มกัดฟันแน่นเพื่อไล่น้ำตา อีกแล้วสิน่ะที่ไม่มีใครสนใจเขาจริงๆ ทุกคนห่วงแต่ฮยอกแจๆกันทั้งนั่น! ชายหนุ่มค่อยๆลุกขึ้นก่อนจะเดินไปยังกระเป๋าของตัวเองทีวางอยู่บนเก้าอี้


    “พี่...พี่จะไปไหนครับ”ฮันกยองถามออกไปหลังจากดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ลีทึกไม่ได้ทำมีดบาดฮยอกแจหรอก แต่เป็นตัวมีดต่างห่างที่น่าจะเป็นมีดเงิน ลีทึกยังคงไม่ตอบเขา แต่กลับเดินออกจากบ้านไปเลย


    “พี่! รอผมก่อน...”ฮันกยองตะโกนออกไปอย่างร้อนใจ เขาไม่เคยเห็นลีทึกเป็นแบบนี้เลย ปกติเจ้าตัวถ้าไม่พอใจอะไรจะโวยวาย ไม่เคยเงียบแบบนี้ ดวงตาคมหันมามองฮยอกแจสลับกับคังอิน


    “นายทำเกินไปน่ะคังอิน”ร่างสูงว่าเสียงแข็ง “ก็เห็นอยู่ว่าพี่เขาไม่ได้ตั้งใจ”ร่างสูงว่าพลางใส่เสื้อโค๊ตตัวหนา


    “เขาทำคุณฮยอกแจต้องเจ็บ มันเป็นธรรมดา”คังอินว่าอย่างไม่ค่อยแคร์


    “ถ้าคุณทำแบบนั่นกับพี่ลีทึกอีก คุณมีปัญหากับผมแน่”ฮันกยองบอกเสียงแข็ง ก่อนจะรีบออกจากบ้านไปเพื่อจะตามพี่ลีทึกให้ทัน


    “ผมขอโทษครับ...ผมไม่ได้ตั้งใจ...ถ้าผมตรวจดูให้ดีว่ามีมีดเงินหรือเปล่า ก็คงไม่ต้อง..”


    “ไม่หรอกซองมิน ไม่ใช่ความผิดนาย”ร่างเล็กพูดขึ้นแต่ยังคงมองจ้องหน้าคมของคังอินอยู่


    “ทำแบบนี้ดีแล้วหรือ คังอิน”ร่างเล็กพูดอีก พลางเลียมือของตัวเองที่เป็นรอยแดง คังอินยังคงไม่ตอบเขา


    “คิดหรือว่าฉันไม่เห็น สายตาเมื่อกี่...”


    “ผมต้องปกป้องคุณ มันเป็นเรื่องปกติที่ผมจะ...”


    “นายไม่เคยทำกับมนุษย์แบบนี้เลยน่ะ อีกอย่างถ้าเทียบกับพวกค้าเลือดที่เราเจอเมื่อก่อน นายยังดูสุภาพกว่าที่ทำกับลีทึกอีก สับสนอะไรอยู่หรือ?”ฮยอกแจพูดออกมาลอยๆ พลางมองดูมือตัวเองที่หายดีแล้ว


    “ผมไม่ได้สับสนอะไรทั้งนั่นครับ ผมแค่จะปกป้องคุณ”


    “งั้นก็เดินไปโยนซองมินออกจากบ้านสิ เจ้านั่นเป็นต้นเหตุของเรื่องน่ะ ที่เอามีดเงินให้ลีทึก”ร่างเล็กว่า


    “คุณพ่อ...”


    “เห็นไหม นายก็ทำไม่ได้เพราะนายคิดว่าซองมินไม่ผิด หรืออย่างน้อยซองมินก็ไม่ได้ตั้งใจ”


    “คุณพยายามจะพูดอะไรกันแน่ครับ”คังอินถามออกไป ทั้งยังจ้องเซี้ยวหน้าหวานอยู่


    “เปล่านิ”ร่างเล็กว่ายิ้มๆ แล้วเดินไปช่วยซองมินที่ก้มหน้าก้มตาเก็บของด้วยความสำนึกผิด ต่างจากคังอินที่มองตามไปด้วยสายตาแปลกๆ เขาควรทำไงดี








    **************************************************************************************************************************

    พรุ้งนี้หนูสอบ กฏหมายค่ะ


    เป็นกำลังใจให้ด้วย สอบเสร็จจะมาอัพต่อ อิอิ


    ขอบคุณที่ติดตามค่ะ




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×