บทนำ
แสงไฟหัวเตียงบนหัวเตียงส่องแสงสว่างไสวเป็นสิ่งเดียวที่ช่วยให้ดวงตาโฉบเฉี่ยวมองเห็นหน้าคนข้างตัวบนเตียงได้อย่างชัดเจน ดวงตาเขาหลับพริ้มในท่าทีที่สงบ
นี่เป็นครั้งแรกที่เขานอนหลับข้างตัวเธอ ปกติหลังเสร็จกิจกรรมบนเตียงเขามักจะปล่อยให้เธอนอนบนเตียงกว้างขวางคนเดียว ส่วนเขาเธอคิดว่าน่าจะแยกไปนอนอีกห้อง
ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่เธอถลำลึกกลายเป็นผู้หญิงหนึ่งในคนที่เขาใช้ปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศ มันสุขสมแค่ไหนวารินทร์รู้ดีอยู่กับใจ
เตชินคือผู้ชายที่เป็นที่ใฝ่ฝันของหญิงสาวแทบทุกคน นักแสดงหนุ่มผู้มีอิทธิพลกับวงการบันเทิง ไม่ว่าฐานะหรือหน้าตาทั้งนิสัยเรียกได้ว่าเพียบพร้อม
วารินทร์บังคับมือตัวเองไม่ให้ยื่นไปสัมผัสโครงหน้าอันหล่อเหลาบนเตียงอย่างยากลำบาก เธอนั่งมองเขาจนพอใจจึงลุกไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อออกจากโรงแรม
เธอก้าวเท้าลงมาถึงชั้นล่างของโรงแรมในเวลาเกือบเที่ยงคืน พนักงานต้อนรับต่างมองมาที่เธอด้วยแววตาเหยียดหยาม โรงแรมนี้เป็นของครอบครัวชายหนุ่มที่หลับใหลอยู่ข้างบน
สายตาพวกนั้นทำอะไรคนอย่างวารินทร์ไม่ได้อยู่แล้วเธอละความสนใจก่อนกดโทรศัพทร์โทรออกหาเพื่อนอย่างวรภพ
“อะไรโทรมาทำไม”
“มารับเราหน่อยได้ไหม”
“อะไรทำไมไม่นอนพักค่อยกลับพรุ่งนี้เหมือนทุกทีไง”
“ชินนอน”
“ก็ปกติของมัน”
“นอนห้องเดียวกับที่นอนกับเราไง”
“ไม่จริงหน่า”
“เรารอล็อบบี้นะ”
“ได้ๆเจอกันนังวา”
ไม่ใช่เพียงผู้จัดกราส่วนตัวของเตชินอย่างวรภพหรอกที่แปลกใจ วารินทร์เองก็แปลกใจเหมือนกันที่เห็นเขาหลับไป
ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาจะเรียกว่าคู่นอนก็ไม่ถูกซะทีเดียวก็ในเมื่อเขาจ่ายเงินให้เธอทุกครั้ง แล้วก็ไม่ใช่เธอคนเดียวที่ได้สิทธินั้น
ในหนึ่งถึงสองเดือนเธอมักจะถูกเรียกแค่ครั้งเดียว เธอทำเรื่องแบบนี้กับเขามาได้เกือบปีแต่ยังไม่ถึงสิบครั้งเลยด้วยซ้ำ
วารินทร์ไม่ได้ทำเพื่อเงินหรือเพราะอยากจะจับผู้ชายแบบที่ใครๆคิด เธอทำไปทั้งหมดเพียงเพราะคำๆเดียว รักละมั้งหรือคำที่นิยมหน่อยก็คลั่งรัก
เพราะการตัดสินใจครั้งนั้นเพียงครั้งเดียวทำให้เธอไม่สามารถถอนตัวได้อย่างที่คิด
บางเส้นทางถ้ากลับไปเลือกได้เธอคงไม่เลือกแบบตอนนี้อีกแล้ว เธออยากกลับไปเป็นแฟนคลับกับนักแสดงเหมือนเมื่อก่อน แม้อยากเลิกแต่เธอก็รู้ดีว่าใจไม่รักดีของเธอไม่สามารถทำได้
เพียงเวลาแค่หนึ่งปีเธอได้เรียนรู้หลายเรื่อง ว่าความคลั่งรักของเธอสมัยก่อนมันก็เป็นเพียงเรื่องเพ้อฝันของผู้หญิงเพียงคนนึงเท่านั้น มีสิทธิรักแต่ไม่มีสิทธิหวงมันเป็นยังไง เขายังไม่รู้จักชื่อเธอเลยด้วยซ้ำ วงวนแห่งนี้คงไม่ใช่เธอคนเดียวหรอกที่โดนตกลงมา
“คิดอะไรถึงหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างนั้น”เธอมองไปยังวรภพที่เดินเข้ามา
“ไม่รู้สิเค”
“บอกว่าชื่อเคธีย่ะ”
“เค”
“ว่า”วรภพนั่งลงตรงข้ามเพื่อนสาว เพื่อนคิดอะไรมีหรือเขาจะดูไม่ออก
“เราไม่อยากทำแล้ว”
“จริงไหมเนี่ย”วรภพขึ้นเสียงดังกว่าปกติ
“ทำไมไม่เชื่อเราหรอ”
“แกเป็นอะไรวันนี้ยังตื้อให้ฉันหาวันให้อยู่เลย”
“ฉันคงหมดศรัทธาในเรื่องที่เคยเชื่อเมื่อก่อนแล้วแหละเค”วารินทร์เงยหน้ามองเพดานพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลลงมา เรื่องนี้โทษอะไรกับใครได้บ้างนอกจากตัวเธอ
เป็นเธอที่ดึงดันจะตกในสภาพนี้เอง
เธอจำได้ว่าครั้งแรกเธอดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ แต่พอหลังจากนั้นมาความดีใจก็แทนที่ด้วยความเฉยๆ ความเสียใจและในที่สุดเธอก็เริ่มรู้สึกเกลียดสภาพตัวเองที่เป็นอยู่
“เคว่าเราจะรักเขาไปได้อีกนานแค่ไหนกัน”
“วา...ทำไมอยู่ๆก็เป็นแบบนี้”
“เคก็อยากให้เราเลิกทำมาตั้งนานแล้วไม่ใช่หรอ เคไม่เห็นด้วยกับที่เราทำมาตั้งแต่แรกแล้วหนิ”
“แต่แกต้องไม่ทำหน้าเหมือนจะตายขนาดนี้”
“เค ตอนนั้นเราโง่จังเลยเนอะ”วรภพที่เห็นอาการเพื่อนสาวเริ่มไม่ดีก็ลุกขึ้นเดินมากอดปลอบ
“แกต้องทำได้ดิวาแกเก่งทุกเรื่องอยู่แล้ว”
“เราพึ่งเข้าใจว่ารักอย่างเดียวมันเป็นไปไม่ได้จริงๆเนอะ”หลังจากที่อดกลั้นอยู่นานวารินทร์ก็ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างช้าๆ
ถ้าถามว่าเธอรู้สึกผิดกับใครมากที่สุดคงไม่พ้นตัวเองและพ่อแม่...
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น