ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ Yaoi] Because I hate you เกลียดนาย...น้องชายของฉัน

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 8 :: คนนี้นี่แหละแฟนผม

    • อัปเดตล่าสุด 26 เม.ย. 52


     

     

     

     

    ตอนที่ 8  คนนี้นี่แหละแฟนผม

     

    โลกนี้มันกว้างจะตาย  คิดหรอว่านายจะเจอคนใหม่ ๆ อีกไม่ได้น่ะ

     

     

     

     

     

     

    วันนี้กับข้าวฝีมือนายไม่ได้เรื่องเลยซองมิน

     

     

                คยูฮยอนเจ้าของวาจาปากฟาร์มสุนัขพูดขึ้นในขณะกำลังรับประทานอาหารเช้าเช่นทุกวันพร้อมทำหน้าแหวะ

     

     

                ไม่ได้เรื่องก็ไม่ต้องกิน!  ทีนายล่ะ..ทำเป็นบ้างมั้ย  ให้เข้าครัวเมื่อวานครัวแทบระเบิด  ถ้าชางมินไม่ไปเห็นก่อนสงสัยไฟไหม้บ้านไปหมดแล้วมั้ง ซองมินสวนกลับทำตาดุ  คยูฮยอนจึงหน้าบึ้งทำปากยื่น

     

     

                ก็ยังดีกว่านาย  ข้าวต้มนี่รสชาติอย่างกะน้ำยาล้างตรีน

     

     

                ไอคุณโจว คยูฮยอน!!”

     

     

                พอเถอะครับ  ตอนนี้ก็ใกล้สายแล้ว  รีบ ๆ ทานจะได้รีบ ๆ ไปโรงเรียน   เดี๋ยวเข้าช้าแล้วอาจารย์เขาจะว่าเอา ชางมินรีบห้ามทัพเมื่อเห็นท่าไม่ดี  ขืนปล่อยให้เถียงกันต่อไปมีหวังข้าวเย็นได้เป็นข้าวผัดหมาป่าแน่

     

     

                ไม่กลัว // ช่างมัน  ฉันจะฆ่าหมอนี่ก่อน!”

     

     

                วาจาของทั้งคู่ที่พูดขึ้นพร้อม ๆ กันทำเอาคนห้ามปราบอย่างชางมินต้องสะดุ้งโหยง  ต่างจากคยูฮยอนที่รีบหันขวับมาทางซองมินแล้วยิ้มแฉ่งโชว์ฟันขาว

     

     

                ดูท่าทางเราจะเป็นเนื้อคู่กันนะซองมิน  ขนาดพูดยังพูดพร้อมกันเลย

     

     

                ใครจะตาต่ำไปเป็นเนื้อคู่กับนายกัน!”

     

     

                ก็นายไงแหม  ว่าตัวเองแบบนี้ได้ยังไง นายออกจะโชคดีที่ได้เป็นเนื้อคู่กับฉัน  ฉันน่ะมีหน้าตาหล่อเหลาขึ้นเทพของขวัญชิ้นสำคัญที่พระเจ้าประทานมาให้แก่โลกนี้เชียวนะ พูดได้ไม่อายปากใกล้เคียงกับกับว่าหน้าหนา(หรือหน้าด้าน)  ทำเอาซองมินต้องมีสีหน้าระอาใจ

     

     

                นายเพิ่งออกมาจากโรงพยาบาลศรีธัญญา  ขอพระเจ้าจงคุ้มครอง พูดเอามือแตะอกด้านซ้ายแล้วแตะอกด้านขวา  แตะหน้าผากแล้วแตะอกจากนั้นจึงประสานมือทั้งสองข้างไว้ที่อกพลางก้มหน้าลงพึมพำบทสวด  ประมาณว่าอย่าถือคนบ้าอย่าว่าคนเมา

     

     

                แสบจริงนะลี  ซองมิน!

     

     

                คนบ้าย่อมพูดกับคนบ้ารู้เรื่อง  นายน่ะพรหมลขิตของแท้เลย  งั้นเราไปตั้งฐานรักอยู่ที่โรงพยาบาลที่ว่านั่นกันเถอะ  ดีมั้ยที่รัก?” คนอย่างโจว คยูฮยอนย่อมไหลตามได้เสมอ  ก็เอาเซ่!  มาดูว่าใครจะแน่กว่าใคร

     

     

                ไม่ดี  เฮ้อฉันล่ะสงสารนายจริง ๆ นี่แหละนะสัตว์โลก   ซวยคนเดียวไม่พอชอบลากคนอื่นเข้ายุ่ง  เห็นแก่นายและฉันเองก็เป็นคนหน้าตาดีมีศีลธรรมที่พระเจ้าส่งมาเกิด  ยังไงฉันจะช่วยเรียกรถโรงพยาบาลมาให้ก็แล้วกัน  ไปแล้วไปลับไม่ต้องกลับนะคยูฮยอน ทำหน้าสมเพชเอ้ย!  สงสารแล้วส่งยิ้มบางโปรดสัตว์โลกไปให้  คยูฮยอนจึงคิดในใจว่าแต่เขาหลงตัวเอง  แล้วทีตัวเองล่ะไม่ค่อยจะเป็น(น้อย)เลยนะ!

     

     

                ไม่เอาดีกว่า  ฉันอยากจะอยู่กับนายเนี่ยแหละอยากให้ใครบางคนแถวนี้ช่วยรักษาใจ  จะได้หายบ้ารัก ถ้าคุณคิดว่าคนอย่างโจว  คยูฮยอนจะยอมแค่นี้ล่ะก็คิดผิดถนัด

     

     

                ชางมินคยูฮยอนพูดถึงนายน่ะ  เห็นแก่สัตว์โลกยังไงก็ช่วย ๆ มันเอ้ย! เขาหน่อยก็แล้วกันนะ น่าน  มันนั่นมันใช้กับสัตว์น่ะครับคุณนายโจว! (หมายถึงซองมินนั่นแหละ  คยูฮยอนอยากหมั้นไว้ก่อน)

     

     

                อ่าผมไม่นิยมเคะหน้าหื่นครับ  ชางมินรีบปฎิเสธ  ไม่อยากเล่นชางคยูถ้าสมมติวันไหนคยูฮยอนนึกผีเข้าอยากยั่วเขาขึ้นมาชิม  ชางมินคนนี้ขอกัดลิ้นฆ่าตัวตายยังทรมานน้อยกว่าเลย

     

     

                “’งั้นเห็นทีนายคงต้องขอความช่วยเหลือจากอาแป๊ะข้างบ้านแล้วล่ะคยูฮยอน  ขนาดชางมินเป็นลูกน้องคนสนิทนายมาสิบกว่าปียังปฏิเสธเลยซองมินแสร้งทำหน้าเศร้า  แหม..รู้นะ  ว่าในใจน่ะคงหัวเราะเยาะไปถึงไหนต่อไหนแล้ววว!

     

     

                ไม่ดีกว่า  อาแป๊ะข้างบ้านฉันมีภรรยาแล้ว  ให้นายรักษานี่แหละดี  ยังหนุ่ม ๆ อวบอั๋นน่าจับน่ากด  ฉันคงได้นอนหลับฝันดีทุกวันแน่เลยถ้าได้พยาบาลคนนี้….รักษาแบบกีฬาในร่มก้มแล้วแทงเสร็จ

     

     

                อะ  อะไอคยู!!”

     

     

                ซองมินเริ่มทนไม่ไหวจนหลุดออกมา  ที่หน้าแดงเนี่ยไม่รู้ว่าเขินหรือโกรธกันแน่

     

     

                แน่ะ  พูดไม่เพราะเลย  ฉันชื่อคยูฮยอนต่างหาแอ่ก!!

     

     

                จนสุดท้ายคนขาดการรักษาก็ได้กินบาทาแทนข้าวก่อนไปโรงเรียน

               

     

     

    …~~~~***Because I hate you***~~~~…

     

     

     

                ฮยอกแจเป็นอะไรไปน่ะดงเฮจุนซู  ทำไมดูท่าทางไม่ค่อยดีเลย ซองมินซักถามผู้เป็นเพื่อนอีกสองคนที่นั่งกำลังนั่งคุยอยู่ใกล้ ๆ กัน  แต่คำตอบที่ได้รับกลับมาคือการส่ายหน้าของทั้งสองคน

     

     

                ไม่รู้สิ  เสียงหวานติดจะแหลมของจุนซูตอบเศร้า ๆ

     

     

                แล้วนายล่ะดงเฮ  ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของฮยอกแจแล้วไม่ใช่หรอ  นายรู้อะไรบ้างหรือเปล่า

     

     

                ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน  ดงเฮตอบด้วยน้ำเสียงเช่นเดียวจุนซู  ทั้ง ๆ ที่รู้สาเหตุอยู่เต็มอก..

     

     

                ฮยอกแจกำลังโดนพิษรักโจมตี

     

     

                งั้นหรอ ซองมินพูดเสียงแผ่ว  เขารู้สึกเป็นห่วงผู้เป็นเพื่อนเหลือเกิน  พอจะเดินเข้าไปถามคำถามที่ได้รับกลับมาก็คือ ฉันแค่เวียนหัวนิดหน่อยน่ะคล้ายคลึงกับการตอบแบบส่ง ๆ

     

     

                นายเห็นฉันเป็นคนไกลหรอฮยอกแจ..

     

     

                เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งห้าปีทำไมฉันจะไม่รู้ว่านายกำลังรู้สึกแบบไหน

     

     

                คนอย่างนายถ้าไม่ถึงขีดสุดจริง ๆ ก็จะไม่มีวันระบายหรือพูดมันออกมาฉันรู้  ฮยอกแจ  ฉันรู้ดีเพราะฉันคือเพื่อนของนาย

     

     

                แต่ฉันคนนี้มันไม่มีค่าสำหรับนายแล้วหรอฮยอกแจ

     

     

                เพื่อนคนนี้ไม่ดีพอที่จะเป็นที่พึ่งสำหรับนายเลยหรอ

     

     

                ความน้อยใจเริ่มถาโถมเข้ามาในจิตใจของซองมินจนแทบจะแสดงออกมาชัดเจนทางสีหน้าทำให้ใครบางคนต้องนึกเป็นห่วงอยู่ไกล ๆ

     

     

     

     

     

     

     

                เสียงออดดังขึ้นเป็นสัญญาณว่าบัดนี้ได้เวลาพักกลางวัน

     

     

                หลายคนบิดไปมาอย่างเมื่อยล้า  หลายคนตื่นจากการหลับใหล  หลายคนจัดการเก็บสมุดหนังสือและเครื่องเขียน  แต่ซองมินกลับรีบตรงไปยังโต๊ะของผู้เป็นเพื่อนที่นั่งเหม่อลอยมาตลอดทั้งคาบซึ่งอยู่ถัดไปอีกทางด้านซ้ายอีกสามโต๊ะ

     

     

                ไปทานข้าวด้วยกันนะฮยอกแจ  เสียงหวานเอ่ยด้วยท่าทางร่าเริง  หวังอยากจะให้ผู้เป็นเพื่อนร่าเริงขึ้นมาบ้าง  แต่ไม่เลยมีเพียงแค่ตอบรับอื้ออึงในลำคอเบา ๆ ก่อนที่ร่างบางจะลุกจากโต๊ะไป

     

     

                ดวงตาใสของซองมินกระตุกวูบ

     

     

                ฮยอกแจกำลังทำเหมือนเขาไร้ตัวตน

     

     

                อย่าเก็บมันไว้คนเดียวสิฮยอกแจ..

     

     

                เมื่อจุนซูกับดงเฮที่เดินตามมาด้วยกันข้างหลังเริ่มเห็นท่าไม่ดีจึงรีบจะสะกิดเพื่อนหากแต่มือหนาของใครบางคนกลับดึงซองมินให้ถลาเข้าไปในอ้อมแขนแกร่งของตนเสียก่อน  แล้วจัดการอุ้มในท่าเจ้าหญิงก่อนจะเดินออกจากห้องเรียนไปหน้าตาเฉย

     

     

                อ่ะ..รอเดี๋ยวสิ!”

     

     

                ปล่อยไปเถอะจุนซู ดงเฮเอ่ยเสียงเรียบแล้วดึงไหล่ของร่างเล็กเอาไว้  จุนซูจึงหันกลับมามองดงเฮด้วยแววตาไม่เข้าใจ  ในเมื่อคนที่อุ้มซองมินไปคือโจว  คยูฮยอนคนที่มีข่าวลือด้านร้าย ๆ หนาหูคนนั้น!

     

     

                แต่ว่า..!”

     

     

                เชื่อสิ  คยูฮยอนไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรหรอก  หน้าที่ของเราตอนนี้คือต้องตามฮยอกแจไปมากกว่า  ซองมินเองก็คงคิดแบบนั้น  เสียงหวานเอ่ยบอก  จุนซูจึงนิ่งเงียบ

     

     

                อาจจะเป็นอย่างที่ดงเฮพูดก็ได้..

     

     

                ซองมินคือคนที่อ่อนไหวง่ายที่สุดในกลุ่ม  แต่ก็คือคนที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับฮยอกแจมากที่สุดเช่นกัน

     

     

                ตกลง

     

     

                จุนซูตอบด้วยแววตาเข้มแข็ง

     

     

                ฉันจะรับหน้าที่ต่อจากนายเอง..ซองมิน

     

     

                ดงเฮยิ้มรับเบาบาง

     

     

                จุนซูเป็นคนดีและเป็นเพื่อนที่ดี  เขาเชื่อแบบนั้น  และที่เขาค่อนข้างวางใจคยูฮยอนก็ไม่ใช่เพราะอะไรหรอก..

     

     

                แต่เป็นเพราะแววตาที่คยูฮยอนมองซองมินมันเหมือนกับแววตาที่ฮันคยองมองฮยอกแจต่างหาก

     

     

    ……..

     

     

     

                คยูฮยอนอุ้มซองมินในท่าอุ้มเจ้าหญิงอย่างไม่อายสายตาใครจนมาถึงดาดฟ้า  มือหนาจัดการบิดล็อกประตูแล้วค่อย ๆ ปล่อยคนตัวเล็กที่เอาแต่หันหน้าซบอกเขามาตลอดทาง

     

     

                ไม่ใช่ซบเพราะอายใคร

     

     

                แต่เป็นซบเพราะปิดบังน้ำตาของตน

     

     

                หลายสิ่งหลายอย่างที่มันสั่งสมกันมานานทำให้ซองมินต้องปิดกั้นความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ในใจ  แต่ความอดทนของเราย่อมต้องมีขีดจำกัด  เหมือนกับแก้วน้ำที่บรรจุน้ำเอาไว้  หากเติมมันลงไปมาก ๆ ก็มีแต่จะล้นปรี่จนสุดท้ายมันก็จะไหลทะลักล้นออกมา

     

     

                สำหรับซองมินความรู้สึกนั้นก็คือสิ่งที่เรียกว่า น้ำตา

     

     

                เขาเป็นห่วงฮานึลไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง  ถึงแม้คยูฮยอนจะบอกว่าตนส่งพี่เลี้ยงที่ชื่อริคกี้ ยูฮวานแฟนชางมินไปช่วยดูให้แล้วก็เถอะ  แต่มันอดที่จะห่วงลึก ๆ ไม่ได้

     

     

                เป็นห่วงอานารินที่ไม่รู้ว่าตอนนี้อาการจะดีขึ้นหรือยัง

     

     

                เป็นห่วงฮยอกแจที่ไม่รู้ว่านายยังนับฉันเป็นเพื่อนอยู่อีกหรือเปล่า

     

     

                ความเป็นห่วงเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความเครียดและความกังวล

     

     

                เขากำลังกังวลเพราะบุคคลรอบข้างหรือยังไม่ชินที่พ่อแม่จากไปกันแน่นะเขาถึงได้รู้สึกแย่ขนาดนี้

     

     

                ขี้แยเสียเหลือเกิน

     

     

                นายไม่ควรร้องไห้เพราะเรื่องแค่นี้นะซองมิน เสียงทุ้มเอ่ยบอกทั้ง ๆ ที่สายตายังคงมองออกไปฟากฟ้าไกล  ซองมินที่พยายามกลั้นน้ำตาสุดชีวิตจึงยิ้มหัวเราะแห้ง

     

     

                ฮะ ๆ ฉันรู้

     

     

                นายไม่ควรปิดบังหลายเรื่องเอาไว้คนเดียว

     

     

                “…อันนั้น..ฉันก็รู้

     

     

    เสียงหวานพูด  แต่สายตากลับผลุบลงต่ำราวกับกำลังโกหก

     

     

                และนายเองก็มีฉันอยู่

     

     

                “…”

     

     

                นายบอกกับฉันว่าฉันยังมีนาย   แต่ซองมินจำเอาไว้ว่านายเองก็ยังมีฉัน

     

     

                คยูฮยอนพูดน้ำเสียงอ่อนโยนทว่ามั่นคง  พลางใช้สายตาสีรัตติกาลมองลึกเข้าไปในดวงตาสีดำขลับที่กำลังสั่นระริกของอีกฝ่าย  ทำให้ซองมินอดที่ใจเต้นเล็ก ๆ ไม่ได้  แต่สุดท้ายใบหน้าหวานก็เริ่มแย้มยิ้มออกแม้ว่ามันจะฝืด ๆ ก็ตาม  มือบางเช็ดน้ำใสที่ยังค้างคาตรงหางตาของตัวเองอย่างลวก ๆ

     

     

                อื้มขอบใจนะคยูฮยอน..” ร่างบางพูดเสียงเบาบางพลางเอียงศีรษะของตนให้ไปซบไหล่คนข้าง ๆ แต่ร่างสูงก็ไม่ได้ว่าอะไร  กลับใช้มืออีกข้างที่ว่างลูบหัวทุยเบา ๆ เป็นเชิงปลอบ  ซองมินหลับตาพริ้มรู้สึกสบายกับสัมผัสที่ได้รับ

     

     

                การอ้อนมันเป็นแบบนี้นี่เอง

     

     

                รู้สึกสบายเมื่อมีคนมาใส่ใจ

     

     

                มิน่าฮยอกแจกับจุนซูถึงได้ชอบอ้อนเขานักหนา

     

     

                นายรู้ใช่มั้ยว่าควรทำยังไงต่อไป เสียงทุ้มพูดน้ำเสียงธรรมดา  เรียบง่ายแต่ฟังดูอ่อนโยน  ซองมินพยักหน้าหงึกหงักทั้ง ๆ ที่ยังซบอยู่  แก้มนุ่มจึงถูไปตามไหล่แกร่ง

     

     

                ฉันรู้

     

     

                เพราะฉะนั้นในฐานะเจ้านายฉันขอสั่งให้นายปฏิบัติตามนั้นเดี๋ยวนี้

     

     

                คำสั่งวางกล้ามน่าหมั่นไส้ทำซองมินเด้งตัวขึ้นจากการซบทันที

     

     

                นายมันแย่ที่สุดเลยคยูฮยอนซองมินทำหน้ามุ่ย

     

     

                อุตส่าห์ได้บรรยากาศทั้งทีจู่ ๆ กลับมาทำลายซะนี่

     

     

                เอ๋ทำลายบรรยากาศ

     

     

                นายหมายความว่ายังไงน่ะซองมิน..?

     

     

                นายกำลังคาดหวังอะไรอยู่งั้นหรอ

     

     

                ล่ะ  ล่ะแล้วนายคาดหวังอาร๊ายยย!

     

     

                แย่ยังไง คยูฮยอนทำหน้างง  พอจะช่วยดี ๆ ก็ด่า  ปลอบดี ๆ ก็ด่า  กวนตรีนก็ด่า  จะเอายังไงกันแน่  นี่ถ้าจับกดยิ่งไม่ด่าพร้อมเสียงครางเซ็กซี่เลยหรอกเหรอ

     

     

                ป่ะ  เปล่าเปล๊าาา  ไม่มีอะไร  ฉันแค่พูดลอย ๆ ซองมินขึ้นเสียงสูงน่าสงสัยแล้วรีบหันหน้าหนีไปทางอื่น  ซุกซ่อนใบหน้าแดงระเรื่อผลพ่วงจากความคิดบ้า ๆ ของตัวเอง

     

     

                นายเป็นอะไรไปเนี่ยซองมิน!

     

     

                คยูฮยอนหรี่ตามองอย่างจับผิด แน่ใจนะ

     

     

                อะ  เออ!  แน่ใจสิ!!” ท่าทางของซองมินดูคล้ายคลึงกับเด็กทำความผิดแต่ปากแข็ง แล้วนายจะจ้องฉันอีกนานมั้ย  รีบ ๆ ไปดีกว่า  ฉันมีเรื่องต้องทำ เสียงหวานพูดเร็วเป็นปืนกล  หมายจะรีบออกไปจากตรงนี้สักที  สายตาค้านคั้นของร่างสูงทำเขาทำตัวไม่ถูก!

     

     

                ปัง..!

     

     

                คยูฮยอนขมวดคิ้วมุ่นทันทีหลังจากร่างบางเดินออกจากดาดฟ้าไปแล้ว  อุเคะนี่ก็เข้าใจยากเดี๋ยวดี  เดี๋ยวร้าย  เดี๋ยวร้องไห้  เดี๋ยวชอบอ้อนจะเอายังไงกันแน่

     

     

                แต่เอาเถอะ..

     

     

                คยูฮยอนยิ้มกรุ้มกริ่ม  พลางเอาแขนวางบนรั้วดาดฟ้าแล้วเงยหน้ารับลมเย็น  

     

     

                แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน  จะได้ไม่เบื่อ..

     

     

                ไม่เบื่อจนถึงขนาดที่ว่าจะให้ดูแลตลอดชีวิตก็ยังได้เลย

     

     

     

                …~~~~***Because I hate you***~~~~…

     

     

     

                แสงแดดที่สอดลอดออกมาจากแมกไม้ด้านบนทำให้คนโดดเรียนต้องเลื่อนตัวหลบพลางเอนหลังพิงต้นไม้ต่อตามเดิมโดยไม่กลัวว่าเสื้อนักเรียนสีขาวจะเปรอะ  นัยน์ตาสีน้ำตาลมะฮอกกานีหลับตาพริ้ม ปล่อยให้เสียงเพลงจาก MP3 ไหลแล่นเข้ามาในโสตประสาท

     

     

                เนื้อเพลงที่ราวกับตรงใจ..

     

     

                เสียงร้องหวานใสของเด็กผู้หญิงกำลังขับร้องบอกเรื่องราวของตน  แต่ถึงกระนั้นมันกลับตรงใจเขาแล้วฟังดูมีพลังเสียเหลือเกิน

     

     

                เรื่องเล่าของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่แอบรักคนใกล้ ๆแต่ก็ไม่อาจสมหวังเมื่อเขาคนนั้นคิดกับตนเป็นแค่น้องสาว  และเรื่องก็ดูจะเลวร้ายมากยิ่งขึ้นเมื่อเขาคนนั้นมีใครคนหนึ่งอยู่ในหัวใจอยู่แล้ว

     

     

                ได้แต่อยู่ในตำแหน่งนี้

     

     

                ตำแหน่งเดิม ๆ ที่เดิม ๆ และซ้ำไปมาของตัวเอง

     

     

                ตำแหน่งที่ไม่อยากได้รับ..

     

     

                คลิ๊ก

     

     

                มือบางกดปุ่มหยุดเพลง  ไม่อยากฟังเพราะมันตรงกับตัวเอง  ฟังไปก็มีแต่จะดึงตัวเองในจมอยู่ในห้วงความคิด  จมอยู่ในความเจ็บปวด  แล้วจะฟังไปเพื่ออะไรเพื่อให้รู้ตัวสักทีงั้นเหรอ

     

     

                เฮ้อ..” ร่างบางถอนหายใจเล็กน้อย  นัยน์ตาสีน้ำตาลค่อย ๆ ลืมตาอย่างอ้อยอิ่ง หน้าอกกระเพื่อมลงอย่างเชื่องช้าและแผ่วเบาเป็นจังหวะสม่ำเสมอ  รู้ทั้งรู้ว่ามัวแต่ซึมอยู่ต่อไปก็มีแต่จะไร้ความหมาย   แต่ว่าเขายังไม่พร้อมที่จะรับรู้อะไรตอนนี้จริง ๆ

     

     

                อยากให้เวลาผ่านไปช้า ๆ..

     

     

                ไม่อยากให้ถึงตอนเย็นเลย

     

     

                ไม่อยากให้ถึงตอนที่ผู้หญิงคนนั้นหรือ คนสำคัญของฮันคยองจะมาร่วมรับประทานทานอาหารที่บ้าน  เพราะว่ากลัวกลัวที่จะเห็นภาพบาดใจ

     

     

                หากการอยากให้เวลาหยุดคือการหนีปัญหา  เขาก็ยอมจะเป็นคนขี้ขลาด

     

     

                เพราะอย่างน้อยจะได้ก็เลื่อนเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับความจริงไปอีกนิดหน่อยก็ยังดี

     

     

                ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่ามันเป็นไปไม่ได้..

     

     

                ฮยอกแจ!”

     

     

                เสียงหวานที่คุ้นเคยดังลั่นขึ้น  ทำให้ฮยอกแจต้องหันไปมองอย่างแปลกใจ  ไม่จริงซองมินหาเขาเจอได้ยังไง!

     

     

                แปลกใจล่ะสิ ผู้มาใหม่พูดพร้อมเช็ดเหงื่อที่ไหลย้อยตามใบหน้าแล้วงอตัวหอบแฮ่ก รู้ไหมว่าลำบากแทบตายกับการหาข้ออ้างเพื่อโดดเรียน  แล้วแอบหนีจากตึกนั้นมาวิ่งตามหานายทั่วอาคารโดยไม่ให้อาจารย์จับได้เนี่ย

     

     

                ซองมิน..”

     

     

                หยุด  ฉันรู้ว่านายจะพูดว่าอะไร มือเรียวรีบยกขึ้นห้ามพลางหย่อนกายนั่งลงข้าง ๆ ผู้เป็นเพื่อน

     

                นายกำลังหนีปัญหานะฮยอกแจ

     

     

                “…ฉันรู้

     

     

                รู้แล้วทำไมไม่ลุกขึ้นสู้ซะล่ะ เสียงหวานพูดต่อ  ในขณะที่ร่างบางส่ายหน้าน้อย ๆ

     

     

                มันยากเกิน..”

     

     

                แต่นายยังไม่ลองเลยนะ!” เสียงหวานพูดดังลั่น  รู้สึกผิดหวังกับคนตรงหน้า  ฮยอกแจคือคนที่คอยให้กำลังใจและผลักดันเขาให้สู้มาตลอด  แต่เมื่อตัวเองเจอปัญหาเองแล้วทำไมกลับถึงหันหน้าหนี

     

     

                ฮยอกแจฉันไม่รู้หรอกนะว่านายกำลังเจอกับอะไร ร่างเล็กพยายามพูดช้า ๆ สงบสติอารมณ์  แต่ถ้านายหนีมัน  ก็เท่ากับนายยอมแพ้  แล้วยิ่งหนีมันมากเท่าไหร่มันก็จะยิ่งมาถึงนายเร็วขึ้นเท่านั้น

     

     

                “…ฉันรู้

     

     

                รู้แล้วนั่งบื้อทำไมเล่า!”

     

     

                ก่ะ  ก็ฉันไม่รู้จะทำยังไงนี่นา!” ฮยอกแจเริ่มตะโกนบ้าง  ปัญหานี้รั้งไปสู้ไปก็มีแต่จะเจ็บ!”  นัยน์ตาสุกใสผลุบลงต่ำ  มือบางชี้ไปตรงตำแหน่งหัวใจ

     

     

                ความรักมันกำลังทำให้เขาอ่อนแอ

     

     

                นายก็รู้นี่นาซองมิน

     

     

                “…”

     

     

                นายก็รู้นี่นา...ว่านายบังคับจิตใจของคนไม่ได้หรอก

     

     

                เหมือนกับที่เขาพยายามห้ามจิตใจของตัวเองไม่ให้รักฮันคยองเกินพี่ชายยังไงล่ะ

     

     

                เขามีแค่สามทางเลือก...ระหว่างตัดใจ  รุก  และปิดกั้นความรู้สึกนี้เอาไว้ในใจ

     

     

                ตัดใจ...มันอาจจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำเมื่อต้องเจอหน้ากันอยู่ทุกวัน

     

     

                รุก...มีแต่จะเกลียดกันเปล่า ๆ  มีแต่จะเจ็บช้ำ  มีแต่จะมองหน้ากันไม่ติด...

     

     

                ปิดกั้นความรู้สึกของตัวเอง...คล้ายคลึงกับรักข้างเดียว  รอคอยให้เขาหันมาถึงแม้อาจจะไม่มีวันนั้น 

     

     

                และบางที...ทางสุดท้ายอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดด้วยซ้ำไป..

     

     

                ฉันเข้าใจนายนะฮยอกแจ.. ซองมินเอ่ยเสียงเบาบาง

     

     

                แต่ขืนนายมัวแต่นั่งจมปลักอยู่แบบนี้มันก็ไม่ต่างอะไรจากคนที่ตายแล้วหรอก  นายเกิดมาทั้งทีนะ!  ทำชีวิตให้มีค่าสิ!!  นายต้องทำได้ลี  ฮยอกแจ  เชื่อฉัน...เรื่องความรักน่ะ  ค่อยเป็นค่อยไปก็ได้  เราบังคับจิตใจใครไม่ได้ก็จริง  แต่นายก็ทำให้มันดีขึ้นได้นี่นา   มองโลกในแง่ดีซะบางสิ!  ลี  ฮยอกแจแสนคนที่ชอบมองโลกในแง่ดีจนซื่อบื้อน่ะไปไหนหมดห๊า  ให้เวลากับหัวใจตัวเองบ้าง...โลกนี้มีเป็นล้านล้านล้านล้านคนนะ  เดี๋ยวนายก็เจอรักใหม่เองแหละน่า  เผลอ ๆ อาจจะดีกว่าเดิมด้วยซ้ำไป!”

     

     

                เสียงหวานพูดยาวพรืดเป็นกิโลทำเอาฮยอกแจต้องตกใจเล็กน้อย  แต่นั่นมันก็ทำให้เขาเริ่มตาสว่าง...ใช่  ลีฮยอกแจคนที่ซื่อบื้อเบ๊อะบ๊ะเฟอะฟะซกมกคนนั้นหายไปไหนหมด

     

     

                อื้ม!” ฮยอกแจรับคำ ขอบใจนายมากนะซองมิน  นายทำฉันตาสว่าง

     

     

                เหอ ๆ แต่มันก็จะสว่างกว่านี้ถ้านายทำมันได้สำเร็จ..” ซองมินพูดแล้วหยุดไปสักครู่  หันหน้ามองซ้ายมองขวาพลางเอามือหนึ่งข้างป้องปากแล้วกระซิบกับผู้เป็นเพื่อน

     

     

                ว่าแต่คนที่นายชอบน่ะ...ใครหรอ

     

     

                อะ  เอ๋..?”

     

     

                คนที่นายชอบน่ะใคร

     

     

                อะ...อ๊า!  จะบ้าหรอ  ถามออกมาได้ยังไงน่ะ!?  นายไม่ต้องรู้หรอก  อะ...เอาไว้ฉันพร้อมเมื่อไหร่ฉันจะบอกก็แล้วกัน ทำท่าทางอ้ำอึ้งสงสัยพร้อมโบกมือไปมาปฏิเสธ  แก้มพวงใสบัดนี้ราวกับมะเขือเทศสุกทำเอาซองมินหัวเราะร่วน

     

     

                เออ ๆ  โอเค  แต่นายต้องบอกฉันนะ

     

     

                บอกเซ่  บอกแน่ ๆ

     

     

                อืม...งั้นไปเรียนกันเถอะ

     

     

                เรียน?”  ฮยอกแจทวนคำ

     

     

                ก็ใช่น่ะสิ  เรียนไงเรียน  ฉันอุตส่าห์หาข้ออ้างให้ว่านายท้องเสียอยู่ในห้องน้ำ  จะได้ไม่โดนอาจารย์เช็คขาด  แล้วค่อยแกล้งปวดหัวออกมาตามหานายเนี่ย ซองมินพูดหน้าตาย  ฮยอกแจทำหน้าเหวอ

     

     

                ท้องเสีย!  ให้ตายสิ  แล้วนายจะหาข้ออ้างให้ดีกว่านี้ไม่ได้รึไงเล่า!!”

     

     

                ง่ะ  ก็ฉันคิดไม่ออกแล้วนี่  แต่ดูเหมือนอาจารย์แทยอนจะเชื่อด้วยนะ  แถมยังเป็นห่วงนายเอามาก ๆ ด้วย  แหม...ก็นายมันเด็กดีนี่หว่า  อาจารย์แทยอนแกดูเป็นห่วงมากเลย  ยังไงถ้ากลับไปแล้วก็ช่วยแกล้งป่วยให้มันเนียน ๆ หน่อยละกัน ซองมินอธิบายแผนการ  ทำเอาฮยอกแจอยากตาย...ฮืออ  เขาหายไปเกือบสามสิบนาทีเลยนะ   ป่านนี้ถ้าเพื่อน ๆ ในห้องไม่คิดว่าเขากินไม่เลือกจนท้องเสียก็ให้มันรู้ไปสิ!

     

     

                …~~~~***Because I hate you***~~~~…

     

     

     

                เขาคิดถูก..

     

     

                พอกลับถึงห้องอาจารย์แทยอนก็เป็นห่วงเขาเสียยกใหญ่  เพื่อน ๆ ในห้องก็รุมถาม  ถ้าไม่ติดที่ว่าอาจารย์แทยอนเกิดฟิวส์ขาดแปลงร่างเป็น Black TaeYeon  เสียก่อน  สงสัยต่อให้ทั้งคาบเพื่อน ๆ ก็ยังคงไม่เลิกรุมแกล้ง

     

     

                กิ๊งก่อง 

     

     

                ออดที่ดังเป็นกิจวัตรประจำวันมาเรียนดังขึ้นทำเอาหลายคนต้องส่งเสียงเฮในใจ  แต่ในขณะที่อีกหลายคนได้แต่โอดครวญเบา ๆ ก็แหมอาจารย์ประจำวิชาภาษาอังกฤษสวยนี่นา...อยากจะเรียนด้วยนาน ๆ

     

     

                เอาล่ะ  การบ้านวันนี้ก็คือให้แปลเรื่องสั้นภาษาอังกฤษที่สนใจมาสักเรื่องก็แล้วกัน  จะเป็นข่าวก็ได้ครูไม่ว่า  เลิกเรียนได้ อาจารย์ทิฟฟานี่ผู้ขึ้นชื่อสวยแต่โหดสั่งงาน  เรียกเสียงโอดครวญกันเป็นแถบ ๆ ของนักเรียนในห้องได้เป็นอย่างดี

     

     

                ซองมินจัดการเก็บของใส่กระเป๋า  แต่จู่ ๆ เพื่อนผู้หญิงสามสี่คนในห้องก็รีบเดินมากักตัวร่างเล็กเอาไว้ไม่ให้ไปไหนพร้อมยิงคำถามใส่ทันที

     

     

                ซองมิน  ได้ข่าวมานายเป็นแฟนของคยูฮยอน  มันจริงรึเปล่า

     

     

                ห๊า!” คนถูกถามทำหน้าเหวอ  จะบ้าหรอ  เธอไปได้ยินมาจากไหนน่ะยูริ

     

     

                จากซูยอง  คำตอบที่ทำให้ซองมินถึงกับกุมขมับ  ซูยองคือแม่สาวนักข่าวประจำห้องเลยทีเดียว  แถมยังเป็นสาวขาเม้าท์ตัวฉกาจ 

     

     

                แต่ว่าพวกเราไม่ได้ยินมาจากซูยองคนเดียวหรอกนะ  เขาลือกันทั่วโรงเรียนแล้ว  เพราะใคร ๆ ก็เห็นว่าคยูฮยอนน่ะเดินอุ้มนาย

     

     

                ตุบ

     

     

                ประโยคถัดมาทำเอาซองมินต้องเผลอปล่อยกระเป๋านักเรียน  งานเข้าแล้วไง!

     

     

                ยิ่งควอน  ยูริคนนี้ยิ่งเป็นประธานชมรมคนรักโจว  คยูฮยอนเสียด้วย!!

     

     

                ว่าไง

     

     

                อะ  อ๋อ  ตอนนั้นฉันซุ่มซ่ามเผลอไปชนโต๊ะเรียนน่ะ  ของก็เลยหล่นมาทับเท้า  คยูฮยอนมาเห็นเข้าก็เลยจะพาไปห้องพยาบาล ซองมินไถลไปตามเรื่องพร้อมรอยยิ้มแหย ๆ  เจ้าแม่ยูริจึงหรี่ตามองร่างเล็กอย่างจับผิด 

     

     

                แน่ใจนะ?”

     

     

                น่ะ...แน่ใจสิ!”

     

     

                แต่มีคนบอกว่าคยูฮยอนอุ้มนายขึ้นไปบนดาดฟ้านี่นา เสียงหวานใสของเจสสิก้าดังขึ้นทำใครหลายคนหันขวับไปมองซองมินเป็นตาเดียว  เหงื่อเม็ดใสจึงผุดขึ้นตามใบหน้าร่างเล็ก  โธ่เอ้ยยัยเจสสิก้า...เห็นเป็นคนไม่ชอบพูดนักแล้วทำไมต้องมาพูดตอนนี้ด้วยเนี่ย!

     

     

                อะ...เออ.. ซองมินเริ่มทำอ้ำอึ้ง  จะบอกยังไงดี...โฮ  พระเจ้าครับ  ช่วยกระต่ายด้วย  ผมยังไม่อยากตายก่อนวัยก่อนควร!

     

     

                อย่าถามอะไรให้ซองมินต้องลำบากใจสิครับสาว ๆ

     

     

                หมับ!!

     

     

                เพราะเดี๋ยวฉันจะเป็นตอบเอง

     

     

                เสียงทุ้มชวนของละลายใจอันเป็นเอกลักษณ์ของคนต้นเหตุดังขึ้นพร้อมกับมือปลาหมึกที่โอบขวับเข้าที่เอวค่อดของซองมิน  ร่างเล็กจึงสะดุ้งโหยงแล้วเบิกตากว้าง

     

     

                ซวยบรม

     

     

                คยูฮยอน!!” 

     

     

                ใช่  แหม..คิดถึงฉันขนาดเรียกชื่อซะดังเลยหรอ

     

     

                ปล่อยนะ!” ซองมินตะโกนลั่นแล้วพยายามแกะมือที่ติดหนึบอยู่กับแขนของตัวเองออก  แต่ดูเหมือนยิ่งแกะเท่าไหร่ก็ยิ่งแน่นมากขึ้นเสียมากกว่า

     

     

                เดี๋ยวก่อนนะ...คยูฮยอน  ที่นายทำแบบนี้มันหมายความว่ายังไง ซันนี่หนึ่งในแฟนคลับพูดขึ้นบ้าง  ร่างสูงจึงยิ้มกรุ้มกริ่มชวนละลายใจที่ซองมินคิดว่ามันคือ แสยะยิ้มไปให้  ก่อนจะตามมาด้วยประโยคที่ทำเอาใครหลายคนต้องอ้าปากค้างไปเป็นแถบ ๆ

     

     

                มันคือความจริงช็อคโลก

     

     

              ก็ซองมินเป็นแฟนฉันนี่

     

               

     

     

     

     

     

    เดี๋ยวก่อน...เรื่องนี้มันฮันฮยอกนะ

    แต่ดูเหมือนมันเริ่มไม่ใช่คู่หลักแล้วววว =[]=!

               

    หึหึแต่คยูมินก็มาแล้ว =_,=

    เยเรียวรอก่อน  ออกแน่แต่ไม่รู้เมื่อไหร่  ฮา..

     

     

    >____________________<!!!

     

     

    Love U reader!!

     

     

     
    ความคิดเห็นที่ 49
    มะไหร่จาอัพอ่า  อัพแล้วววว  ~


    รอนานแล้นนนนน  น่ะ...นานหรอ

    ไรเต้ออออออออออออออออออ  จ๋าาา =[]=!!?


    อยากกกกกกกอ่านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน  
    อ่า  ขอบคุณที่ติดตามค่ะ  จะพยายามมาอัพเร็วๆนะ =w=;;
    Name : จับฮยอกกดกรี๊ดดด [ IP : 125.24.123.227 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 25 เมษายน 2552 / 22:55

    ความคิดเห็นที่ 48
    สวัสดีค่า ไรเตอร์ เพิ่งเข้ามาอ่านเป็นครั้งแรก  สวัสดีเช่นกันค่ะ  /me สวัสดีงามๆ

    แม่เจ้า ตอนแรกก็อ่านเรื่อย ๆ เพลิดเพลิน

    พอมาตอนที่ทงเฮเอามีดจ่อคอคิบอม เริ่มจะด่า "ทงเฮโรคจิต"  =[]=!!

    มาถึงตอนที่ทงเฮฆ่าพ่อเลี้ยงหนักกว่าเก่าอีก ดีนะไม่กินข้าวอยู่อ่ะ  555+

    สยดสยองสุด ๆ ดูหนังฆาตกรรมตอนแต่งหรือเปล่าไรเตอร์  
    ไม่เลยค่ะ  แฟร์กลัวหนังโรคจิตนะ  แค่อยากดูแต่ไม่กล้าดู  อยากดู SAW 6 มากๆ TT_TT  แต่แค่ภาคแรกๆแฟร์ก็จะไม่ไหวแล้ว  น่ากลัว..
    ทำไมต้องเป็นอิม ยุน อา ?

    ทำไม ทำมายยยยยยยยย
    ง่ะ  คือว่าเขาตรงกับคาแร็กเตอร์...

    Name : maybeloveu< My.iD > [ IP : 58.8.41.245 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 24 เมษายน 2552 / 18:59

    ความคิดเห็นที่ 47 (จากตอนที่ 8)

    ด๊องน่าสงสารรร TT^TT เดี๋ยวเราปลอบเองนะที่รัก (พลั่ก! บอมตบTT_TT)  ผ่านดงมืออรหันต์ของแฟร์ไปก่อนเถอะ =[]=!   /me โดนตบ

    แต่เธอก็นะ ทำฮยอกหายไปยังเพิ่งจะมารู้ตัว-*- 

    หนุเรียวเป็นคนร้ายหรอเนี่ยOoO  แนะนำให้อ่านต่อ!  555+

    แถมด้วยพี่เย่อีกคน แต่หนุเรียวก็โหดอยู่นะ สั้งฆ่าบอดี้การ์ง่ายๆเฉยเลย-*-   ความจริง...อืม...บอกไม่ได้ TT TT

    ขอบคุณที่ชอบฟิคที่เราแต่งนะแฟร์^^ ดีใจมากๆ   สู้ๆ!!  โอ้~!

    สู้ๆจ้ะ


    PS.  Super Junior 3rd album!!!! Sorry Sorry
    Name : @_minto_@< My.iD > [ IP : 58.8.22.158 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 24 เมษายน 2552 / 18:00

    ความคิดเห็นที่ 46 (จากตอนที่ 8)
    ฮยอกแจที่รักอย่าเศร้าไปเลยค่ะ  ใช่  TT_TT

    เด๋วเราเศร้าด้วย TT^TT  แง้ๆๆ

    ดีแล้วค่ะที่รู้ว่ารักป๋า  ตอนที่สาย..

    พยายามมองในแง่ดีไว้-*-

    ถึงจะเป็นคู่หมั้นคนสำคัญ 

    แต่ก็ไม่ใช่คนสำคัญที่สุดของป๋านะ (ปลอบใจตัวเอง T^T)   55+  แล้วจะได้เห็นในตอนต่อไป
    Name : yaoisang [ IP : 125.27.6.169 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 24 เมษายน 2552 / 14:32

    ความคิดเห็นที่ 45 (จากตอนที่ 8)
    ไรเตอร์ขา
    ตกลงมันมีกี่พรรคง่า  มีสองพรรคจ้ะ  พรรคคังคยองของป๋า  และก็พรรคโซฮวาของศัตรู  จะมีออกมาอีกแต่ใกล้ๆจะจบถึงจะออกมา
    เริ่มสับสน แหะๆๆๆๆๆ  ง่า

    ลงไวๆน๊า
    เป็นกำลังใจให้  ค่า  ขอบคุณค่ะ ^^
    จุฟฟฟฟฟ 
    >3<
    Name : pommie [ IP : 58.8.107.42 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 24 เมษายน 2552 / 03:05

    ความคิดเห็นที่ 44 (จากตอนที่ 8)

    วู้~~~!!!   ชินดงฮยองนี่จริงๆเลยง่ะ=_="
    เง้อ.....
    อ่า...อุคกี้ไหงเป้นแบบนี้ล่ะคะTOT!!!???
    ทำร้ายจิตใจจจจ~~!!!!  โฮกฮากกก

    พี่แฟร์มาต่อไวๆเลยนะ=w=;; ริกะก็จะไปต่อของตัวเองแล้ว... ฮูๆๆๆ

    อ่า  อุคกี้จะเป็นตัวร้ายหรือไม่แฟร์ไม่อาจบอกได้
    แต่เยซองคือคนที่จะเป็นคนช่วยอุคในแผนการ! !

    ส่วนชินดง..เขามาดีนะจ้ะ =w=''
    ริก้าก็รีบไปต่อของตัวเองเลยนะ!


    PS.  !..Alone_Wolf..! + นู๋อาริกะจัง >+< {[ RiKa ]} = ริกะ or วูลฟ์ = ME!! คนเดียวกันน้อ =.,=
    Name : !..Alone_Wolf..!< My.iD > [ IP : 124.121.152.147 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 23 เมษายน 2552 / 20:31

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×