คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 7 :: คู่หมั้นของฮันคยอง
ตอนที่ 7 คู่หมั้นของฮันคยอง
คนเรามักจะรู้ตัวก็ตอนที่สายเกินไป
ตอนนี้ฮยอกแจกำลังอยู่ในภาวะสับสน
ใบหน้าหวานหันมองซ้าย มองขวา แต่มองไปทางไหนก็เจอแต่คนที่ไม่รู้จัก ทั้ง ๆ ที่คิดไว้ว่าเขาคงไม่คงหลงเด็ดขาด ไม่มีทางหลงแน่นอน ชัวร์ป๊าบ ๆ ร้อยเปอร์เซ้นต์เลยเอ้า!
แต่สุดท้ายก็หลงจนได้
“เฮ้อ..” ฮยอกแจถอนหายใจแล้วหยุดนั่งพักตรงลานน้ำพุหลังจากที่เดินตามหาดงเฮมาเป็นเวลาประมาณสามสิบนาที มือถือก็แบตหมดทำให้ติดต่อไม่ได้..
ถ้าถามว่ากลัวไหมที่เดินหลงกับเพื่อน เขาก็ต้องตอบว่า ‘กลัวสิ’
แต่ก็ช่วยไม่ได้นี่นา..
ดวงตาสุกใสหลับตาพริ้มรับลมเย็นที่พัดผ่านมาคลอเคลียตามใบหน้า แต่แล้วจู่ ๆ ใบหน้าคมเข้มของใครคนหนึ่งกลับผุดขึ้นมาในห้วงความคิด
“ฮึ่ย..!” ใบหน้าหวานรีบสะบัดไปมาอย่างแรงแล้วใช้มือตบพวงแก้มใสที่ขึ้นสีแดงระเรื่อเบา ๆ หากแต่ใบหน้าของใครคนนั้นของยังไม่จางหายไปสักที กลับจะมีแต่เด่นชัดขึ้นพร้อม ๆ สมองที่เอาแต่ย้อนถึงความทรงจำในครั้งก่อน สัมผัสเบาบางตรงปลายผมที่ร่างสูงจับยังคงไม่จางหาย มือบางจึงลูบผมตรงบริเวณนั้นแผ่วเบา
แล้วถ้าพี่ฮันไม่ได้จะหยิบเศษที่ติดผมออกล่ะ
เขาจะทำอะไร..?
จู่ ๆ คำถามหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวสมอง ฮยอกแจจึงเผลอไผลไปลูบไล้ตรงริมฝีปากเอิ่บอิ่มของตัวเองโดยอัตโนมัติ
รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นอยู่จาง ๆ
ไม่รู้ว่าเป็นเขาฝ่ายเดียวหรือเปล่าที่รู้สึกแปลก ๆ แบบนี้กับฮันคยอง
แต่เขาจะแอบหวังลึก ๆ ได้หรือเปล่านะว่าฮันคยองเองก็มีความรู้สึกแปลก ๆ นี้เหมือนกับเขา
ความรู้สึกแปลก ๆ
คล้ายกับตัวลอยได้ ใจเต้นตึกตัก รู้สึกดีที่ได้อยู่ใกล้กันจนอยากจะหยุดเวลานี้เอาไว้นาน ๆ
และเขาก็ไม่ได้ใสซื่อถึงขนาดที่จะไม่รู้ว่าสิ่งนี้คือ ‘ความรัก’
เพียงแต่เขายังไม่แน่ใจว่าเขากำลังรู้สึกกับฮันคยองในฐานะไหน..
ระหว่างรักแบบพี่น้อง
หรือว่ารักแบบที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักได้
ยามที่เขามองลึกเข้าไปในดวงตาของพี่ชาย ดวงตาคู่นั้นเหมือนจะดึงดูดเขาเอาไว้ไม่ให้ไปไหน ยามที่อ้อมแขนแกร่งนั้นปกป้องเขา..ก็รู้สึกอบอุ่นไร้อันตรายใด ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ฮันคยองเคยทำให้
..มันทำให้เขาใจสั่น
“คุณ
คุณครับ”
“ห๊ะ? เออ
มีอะไรหรอครับ” ฮยอกแจสะดุ้งโหยงแล้วตอบรับด้วยท่าทางเอ๋อ ๆ เมื่อโดนชายหนุ่มร่างเล็กที่ไม่รู้จักทัก อีกฝ่ายจึงแย้มยิ้มน้อย ๆ
“คุณนั่งทับหนังสือผมอยู่ครับ”
“ห๊า?”
“คุณ-นั่ง-ทับ-หนัง-สือ-ผม-อยู่-ครับ” เสียงหวานเน้นหนัก ฮยอกแจจึงถึงกับหน้าเอ๋อแล้วรีบลุกขึ้นให้ในที่สุด ร่างเล็กจึงยิ้มขำเล็กน้อยกับความรู้สึกช้าของคนตรงหน้าแล้วหยิบหนังสือมา ส่วนฮยอกแจเมื่อเห็นดังนั้นก็เลยได้แต่หัวเราะตามแล้วเกาหัวท้ายทอยแก้เก้อเขิน
จะบ้าตาย นี่เขานั่งทับหนังสือเล่มนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
“คุณมาที่นี่คนเดียวหรอครับ” คนตัวเล็กกว่าเปิดการสนทนา พลางหย่อนกายนั่งข้าง ๆ ฮยอกแจ
“อ๋อ ความจริงผมไม่ได้มาคนเดียวหรอกครับ คือว่า..ตอนนี้ผมหลงทางกับเพื่อน”
“หืม..?”
“อ่า มันคงจะดูตลกสินะครับ โตป่านดีแล้วยังหลงทางเป็นเด็กอีก..” ฮยอกแจยิ้มแหย ๆ แต่ร่างเล็กกลับส่ายหน้า
“ไม่หรอกครับ เพราะผมเองก็เคยหลงทางเหมือนกัน” ร่างเล็กตอบความจริงกลั้วหัวเราะ ..อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น
“หรอครับ แหะ ๆ”
“งั้นผมว่าเราเดินเที่ยวกันแถวนี้ก่อนดีมั้ยครับ ผมไม่ค่อยคุ้นที่นี่ อีกอย่าง..เผลอ ๆ จะได้เจอเพื่อนของคุณด้วย” ร่างเล็กออกความเห็น เดินไปหาไปยังมีโอกาสเจอกว่าที่จะมานั่งรออยู่เฉย ๆ แบบนี้ ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้าเห็นด้วย
“งั้นจะรออะไรอยู่ล่ะครับ”
~~~~***Because I hate you***~~~~
ดงเฮเพิ่งได้เดินออกมาจากร้าน..
เส้นผมที่ลงมาปรกใบหน้าหวานเพราะการก้มหน้าทำให้ไม่สามารถเห็นได้ว่านัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มคู่นั้นกำลังคิดอะไรอยู่
..จากการบอกเล่าของซอนฮโย ทำให้เขารู้ว่าว่าหล่อนนั้นกำลังปกป้องลูกชายของหล่อนมากแค่ไหน
หรือจะพูดให้ถูกคือทำให้เขาได้รู้ว่าแม่กำลังปกป้องเขามากเพียงใด..
เพราะเสียงกรีดร้องจึงทำให้เพื่อนบ้านเอะใจตามมาดู แต่สิ่งที่พบกลับคือซอนฮโยกำลังนั่งเสียสติอยู่ในห้องนอนของเด็กชาย กับศพของพ่อเลี้ยงที่นอนจมกองเลือดอยู่กลางห้องครัว สภาพศพไม่สู้ดีนัก มีรอยแผลแหวะสองแห่ง รอยถูกของมีคมเชือดลากผ่าน และลูกตาหายไปหนึ่งข้าง
คดีนี้ถูกนำไปแจ้งความที่โรงพักโดยเพื่อนบ้านที่มาพบเข้า แน่นอนว่าตำรวจต้องซักถามตามหน้าที่
แต่ซอนฮโยกลับไม่ให้ปากคำอะไรเลยแม้แต่น้อย หล่อนนั่งเหม่อลอยและไม่ปริปากพูด ข้าวก็ไม่กินน้ำก็ไม่ดื่ม บ้างครั้งก็ร้องไห้โฮอกมาอยู่คนเดียว
ไม่มีใครรู้สาเหตุที่แท้จริง
พอตรวจสอบถึงญาติและเพื่อน ๆ ที่ใกล้ชิดกับผู้ตาย ดูแล้วไม่มีใครน่าสงสัยเพราะมีหลักฐานที่อยู่และพยานชัดเจน บางคนก็อยู่ทางไกลเกินไปไม่น่าลงมือฆ่าได้
แต่ก็ยังมีอยู่อีกหลายข้อที่น่าสงสัย..มีหลายคนคิดว่าเด็กชายที่หายไปคือฆาตกร แต่ในขณะเดียวกันก็มีหลายคนค้านเพราะการฆ่าอันป่าเถื่อนนี้เด็กวัยสิบสองปีไม่น่าทำได้ แต่หากพิจารณาจากอุปนิสัยของเด็กที่เป็นคนชอบเก็บตัวเงียบแล้วก็อาจจะเป็นไปได้ อีกอย่างเด็กกับบัญชีธนาคารและเงินอีกเล็กน้อยก็หายไป
แต่หลักฐานที่มีไม่แน่ชัด มีดที่ใช้ในการฆาตกรรมนั้นหายไปทำให้ตรวจสอบรอยนิ้วมือไม่ได้ บ้านไม่มีรอยถูกแงะ แต่มีร่องรอยของการป้องกันตัวคือสังเกตจากข้าวของที่ระเนระนาด จึงมีการตั้งข้อสันนิฐานว่าโจรอาจจะเข้ามาทางหน้าต่างห้องเด็กชายที่มีบันไดลิง แล้วจึงฆาตกรรมพ่อเลี้ยง จากนั้นจึงจับตัวเด็กไป และขโมยสมุดบัญชีธนาคารของเด็กชาย
แต่ทำไมบัญชีธนาคารของคุณนายคิมถึงไม่หาย
นี่คือข้อถกเถียง
ดังนั้นเป็นไปได้ไหม
ที่เด็กชายอาจจะกำลังหนีออกจากบ้านแต่โดนพ่อเลี้ยงเจอตัวก่อน จึงโดนห้ามไว้ จนสุดท้ายเด็กชายนึกโมโหจึงฆ่าพ่อเลี้ยงในที่สุด
หรือ
เด็กชายเผลอพลั้งไปฆ่าพ่อเลี้ยงจนสติแตกกลัวความผิดจึงหนีออกจากบ้าน โดยมีแรงจูงใจบางอย่าง แต่อะไรคือแรงจูงใจล่ะ..? ในเมื่อดูจากสิ่งที่เด็กชอบทำแล้วไม่มีอะไรส่อถึงการเป็นฆาตกรเลยนอกจากการชอบเก็บตัวเงียบ
แล้วถ้าเป็นเด็กมีปัญหาหนีออกจากบ้านจริง ทำไมถึงไม่ขโมยสมุดบัญชีธนาคารของซอนฮโยออกไปด้วย ทั้ง ๆ ที่สมุดบัญชีธนาคารก็อยู่ในลิ้นชักใกล้ ๆ เตียงนอนในห้องของเธอ ที่สำคัญ
มันก็ไม่ได้ล็อก
แล้วทำไมซอนฮโยถึงไม่เป็นอะไรเลยล่ะ..? ในเมื่อเธอเองอยู่ในบ้านหลังนั้นเหมือนกัน
แล้วทำไมซอนฮโยถึงต้องนั่งเสียสติอยู่ในห้องของเด็กชายล่ะ
? ทำไมไม่เสียสติในห้องครัวก็ในเมื่อศพก็อยู่ตรงห้องครัว อีกอย่าง
ห้องนอนของเด็กชายคือทางหนี
แล้วทำไมซอนฮโยถึงต้องเสียสติขนาดนี้ล่ะ..
ทำไม ทำไม ทำไม
ทำไมกันนะ
แต่ก็ไม่มีใครรู้
สามวันต่อมาเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ ๆ ก็มีชายร่างผอมโซท่าทางขี้โรคคนหนึ่งขึ้นมามอบตัวกับโรงพัก พร้อมยอมรับสารภาพว่าตนเป็นคนฆ่าพ่อเลี้ยงและลักพาตัวเด็กชายไป จากนั้นจึงขายให้กับพ่อค้ามนุษย์เพื่อแลกกับเงิน ส่วนบัญชีธนาคารตนถอนไปใช้ ซึ่งทางตำรวจตรวจสอบ
ก็ปรากฏว่ามีการถอนไปใช้จริง ๆ
โดยมีแรงจูงใจในการฆ่าคือความเครียดและอยากหาเงินไปดื่มเหล้า
เมื่อถึงคราวชี้ตัวยืนยัน หล่อนลังเลเล็กน้อย
เธอไม่เคยรู้จักผู้ชายคนนี้เลยด้วยซ้ำ แต่เพื่อลูก
และผู้ชายคนนี้ก็มายอมสารภาพเอง เธอจึงป้ายความผิดให้ทันที
ชายผู้นั้นมาพร้อมมีดที่เป็นของกลาง มีรอยเลือดแห้งเกรอะและกรุ๊ปเดียวกันกับพ่อเลี้ยง พร้อมทั้งบัญชีธนาคารของเด็กชาย มีหลายคนสงสัย
ทำไมถึงยอมมอบตัวง่ายขนาดนี้เพราะโทษของเขายังไงก็ต้องคือประหารชีวิตสถานเดียว ชายผู้นั้นจึงตอบแค่ว่า
เขารู้สึกผิด รู้สึกไม่มีค่า อยู่ไปก็ไร้ความหมายจึงขอมอบตัวดีกว่า
หลังจากที่ตัดสินคดีไปแล้วและให้เยี่ยมนักโทษ เพียงแค่เธอมองเขาด้วยความสงสัย เขาก็ตอบแค่ว่า
ลูกชายของเธอปลอดภัยดี แต่จากนี้ไปจะไม่มีคนที่ชื่อคิม ดงเฮอีก
ซอนฮโยเล่าให้เขาฟังเพียงแค่นั้น
แต่เพียงเท่านี้เขารู้ซึ้งถึงทุกอย่าง..
มีดที่ชายคนนั้นเอามาเป็นของกลางคงไม่ใช่ของจริง ของจริง
ซอนฮโยคงจะจัดการทิ้งมันไปแล้วเป็นแน่ ไม่ก็คงต้องซ่อนเอาไว้ที่ไหนสักแห่ง เมื่อเรื่องซาลงแล้วจึงค่อยทิ้งเพื่อไม่ให้มีใครสงสัย
ส่วนผู้ชายคนนั้น
คงต้องเป็นลูกน้องคนใดคนหนึ่งในพรรคคังคยองอย่างแน่นอน และมีหน้าที่นำสารภายใต้คำสั่งของชินดงมาสู่เธอว่าเขานั้นปลอดภัยดี เพียงแต่จะไม่มีคนที่ชื่อคิม ดงเฮอีกต่อไป..
เพราะจะมีแต่คนชื่อลี ดงเฮเท่านั้น
เหมือนเป็นการตายแล้วเกิดใหม่ ทิ้งอดีตไว้เบื้องหลัง มีชีวิตอยู่เพื่อรับใช้ผู้เป็นนาย
ดงเฮเดินไปได้สักพักก่อนจะหยุดนิ่ง ปล่อยให้น้ำตาได้ไหลริน
อยู่ภายในใจ
สำหรับวงการมาเฟีย การมีความรักคือสัญญาณของการสูญเสีย ซึ่งก็ดูเหมือนจะเป็นความจริงมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง..
เพราะฉะนั้น
ถ้าไม่อยากเจ็บปวด ก็จงอย่ามีความรัก
แต่มันก็ยากเหลือเกิน ทั้ง ๆ ที่คิดไว้ว่ามันคงง่ายนิดเดียวแต่พอเจอกับตัวจริง ๆ
เขาก็เริ่มลังเลใจ
หากมีใครล่วงรู้ว่าบอดี้การ์ดของลี ฮยอกแจมีแม่
แม่ของเขาจะต้องเป็นอันตรายแน่นอน
เขาจึงน่าจะทำเป็นไม่รู้จักกับซอนฮโยไปเลยจะดีกว่า เพราะเขาหันหลังกลับไม่ได้อีกแล้ว
ตั้งแต่วินาทีแรกที่เริ่มก้าวเข้าสู่วงการมาเฟียโดยสมบูรณ์
“เฮ้อ
” ดงเฮถอนหายใจพลางเงยหน้ามองท้องฟ้าสีคราม ..สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด
หน้าที่ ๆ จะต้องปกป้องลี ฮยอกแจ..
อืม
แต่เหมือนมีอะไรขาดหายไปนะ
อะไรหายไปหว่า..
อ๋อ ใช่ ฮยอกแจหายไป เขากำลังผลัดหลงกับฮยอกแจ
เฮ้ยยยยยยยยย!!
“ดงเฮ!” เสียงหวานที่คุ้นเคยจากทางด้านหลัง เจ้าของชื่อจึงรีบหันขวับตามเสียงเรียก
..ฮยอกแจอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว..
เดี๋ยวนะ เขาแค่เพิ่งนึกได้ว่าหลงกับฮยอกแจไม่ใช่หรอ?
“อ้า! ดีใจจัง นึกว่าจะไม่เจอนายซะแล้ว” คนที่เพิ่งหายตัวไปยิ้มร่า ทำเอาดงเฮปรับสีหน้าจากกำลังเอ๋อเป็นยิ้มแหย ๆ ตามน้ำแทบไม่ทัน
“อะ..อ๋อ! ใช่ ๆ!! ฉันก็ดีใจ รู้มั้ยว่าฉันตามหานายแทบแย่แน่ะ”
เนียนจังนะ ดงเฮ
ฮยอกแจผู้ไม่รู้อะไรบ้างเลยยิ้มร่าเริงเสียยกใหญ่ก่อนจะทำสีหน้าเหมือนคนเพิ่งนึกอะไรออกแล้วชี้ไปทางด้านหลัง “นี่ดงเฮ คนนี้ชื่อเรียวอุคล่ะ ฉันหลงแล้วเจอกับเขา เราก็เลยเดินมาด้วยกัน ถ้าไม่มีเรียวอุคฉันคงแย่”
ดงเฮทำหน้างง เพ่งตามองไปตามที่ผู้เป็นเพื่อนชี้ “ไหนเรียวอุค?”
ฮยอกแจขมวดคิ้วมุ่นกับคำตอบที่ได้รับ “ก็คนที่ฉันชี้นี่ไงชื่อเรียวอุค..อะ
อ้าว..”
แต่เมื่อร่างบางหันหลังกลับ
ตรงนั้นก็ไม่มีใครอยู่เลย..
ชายหนุ่มเดินออกจากร้านไปแล้ว
แต่ซอนฮโยก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม พลางเบือนสายตามองไปยังแก้วเปล่า ๆ ของโกโก้สูตรพิเศษที่หนุ่มน้อยคนนั้นดื่มทิ้งเอาไว้
โกโก้แก้วนั้นถูกดื่มจนหมดแก้ว..
ซอนฮโยไม่ใช่คนโง่ที่จะเล่าเรื่องครอบครัวให้ใครฟังได้ง่าย ๆ จนลึกซึ้งขนาดนี้ ก็ทำไมเธอจะไม่รู้ล่ะ..ว่าหนุ่มน้อยลี ดงเฮคนนั้นก็คือคิม ดงเฮ ลูกชายคนเดียวของเธอที่หายตัวไป
เธอเลี้ยงเขามาแต่อ้อนแต่อ่อนและเป็นลูกในไส้ เพียงแค่เห็นวูบแรกก็รู้สึกได้เลยว่าใช่ แต่แล้วนัยน์ตาคู่นั้นที่มีบางอย่างซ่อนลึกอยู่ภายในทำให้เธอจำเป็นต้องเล่นตามน้ำ ทำเป็นไม่รู้จักกัน
ลึก ๆ เธอเองก็อยากจะถาม
ว่า ‘ลูก’ เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมถึงได้ดูมีความเศร้าหมองอยู่ลึก ๆ ในนัยน์ตาคู่นั้น แต่เธอกลัวดงเฮไม่สบายใจ
ก็เลยปิดปากเงียบไปเลยดีกว่า รอให้อีกฝ่ายพร้อมจะเล่า..นั้นคงจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
แต่สุดท้าย
ดงเฮก็ยังทำเหมือนไม่รู้จักกัน นั่นคือสิ่งที่ทำให้หัวใจของเธอแทบสลาย แต่หากเป็นความต้องการของลูกชายเธอ เธอก็ยอม..
เธออยากกอด อยากหอม อยากซักถาม แต่อะไรบ้างอย่างมันทำให้เธอรู้สึกหนักอึ้งจนทำไม่ได้
ดงเฮโตขึ้นมาก
และมีอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งนั้นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกชายเย็นชากับเธอ
แต่บางทีมันก็อาจสมควรแล้ว
สมัยก่อนตอนที่เธอและดงเฮยังอยู่ด้วยกันแค่สองคน เจ้าหนี้ตามทวงหนักมาก อีกทั้งยังมีเงินภายในระบบที่ยังไม่ได้จ่ายและปัญหาจากญาติ ๆ ของเธออีก ปัญหาที่รุมเร้าทุกทิศทางมันทำให้เธอเริ่มท้อใจ แล้วยิ่งโดนดงเฮมาตอแยพูดโน้นพูดนี่ตามประสาเด็กมันทำให้เธอรำคาญพาลไปลงที่ดงเฮหมด พอเด็กชายทำอะไรนิดหน่อยก็ดูน่าเบื่อ...จนแปรเป็นความโกรธ ความโกรธที่มาจากส่วนลึกของความเครียดที่จิตใจ จนสุดท้ายถูกระบายออกมาโดยการพาลลงที่เด็กชาย
ต่อมาเมื่อเธอแต่งงานกับพ่อเลี้ยงคนใหม่เพื่อหวังให้ช่วยกันดูแลลูก เธอหวังว่าดงเฮคงจะมีความสุข ตอนนั้นปัญหาจากญาติ ๆ เริ่มซาลง หนี้ยังคงมีอยู่และทวงหนักขึ้น แต่งานที่เธอทำกำลังรุ่ง
เธอจึงจำเป็นต้องขยันมากขึ้นเพื่อตัวเธอเองและครอบครัว
แต่แล้วใครจะรู้เล่า
ว่ามันกลับกลายมาเป็นแบบนี้ สามีที่เธอไว้ใจกลับข่มขื่นลูกชายของเธอ แต่สุดท้าย
ก็ต้องจบสิ้นชีวิตด้วยน้ำมือของลูกชายเธออีกเช่นกัน
น้ำตาใสเริ่มไหลรินจากดวงตาสีน้ำตาลอ่อน เธอมันแย่
หากเธอใส่ใจลูกน้อยมากกว่านี้ป่านนี้เธอคงอยู่อย่างมีความสุขกับดงเฮ มีรอยยิ้ม มีความอบอุ่นตามประสาครอบครัวไม่ต้องเปลี่ยวเหงา และลูกชายของเธอคงไม่ต้องมีอะไรสักอย่างที่เหมือนเป็นพันธนาการ
ยึดติดเขาเอาไว้ไปตลอดชีวิต เธอไม่รู้ว่าลูกชายกำลังเจอกับอะไร แต่มันคงทำให้ดงเฮต้องคิดหนักอยู่พอสมควร..
ดงเฮ
แม่ขอโทษ
ฮยอกแจเดินลับตาไปแล้ว
ช่างเป็นคนที่ใสซื่อสมคำล่ำลือ
รูปร่างหน้าตาที่ดูราวกับนางฟ้าตัวน้อย ๆ มาจุติ รอยยิ้มที่ดูดุจดั่งดอกไม้แรกแย้มแห่งแสงสว่าง
ความบริสุทธิ์ ความสดใส และความหวัง
นำมาซึ่งความสุขคล้ายกับนกสีฟ้า
ขอโทษนะ..ฮยอกแจ
ขอโทษที่ทำให้นายต้องผัวพันกับการแก้แค้นของพี่ชายฉัน
ทั้ง ๆ ที่นายไม่ผิด...แต่เรื่องทั้งหมด มันเกิดขึ้นก็เพราะฉัน
เพราะฉันคนนี้...
นัยน์ตาสีดำขลับเหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่างรถ ก่อนจะถูกดึงความสนใจกลับมาโดยเสียงของลูกน้องคนสนิทที่กำลังนั่งอยู่ตรงตำแหน่งคนขับ
“ท่านเรียวอุคครับ งานที่ท่านมอบหมายให้เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ”
“หืม..” เรียวอุคเลิกคิ้วขึ้น “งั้นแสดงว่าบอดี้การ์ดคนใหม่ก็จะมา..”
“ใช่ครับ ภายในวันพรุ่งนี้..” แจจินกล่าวเสียงเรียบ “บอดี้การ์ดคนใหม่ที่เพียบพร้อมจะถูกส่งตรงมาจากทางองค์กรที่เป็นพันธมิตรของเรา ส่วนประวัติคร่าว ๆ ผมเตรียมไว้ให้ที่ห้องแล้วครับ”
“นายก็รู้ฉันอยากรู้ไว ๆ” ร่างเล็กเริ่มทำหน้ามุ่ย
“แต่มาเฟียควรจะมีความอดทน”
“ฉันว่านายไม่อยากให้ฉันสายตาเสียมากกว่าเพราะว่าอ่านในรถ”
“ครับ...นั่นก็ส่วนหนึ่ง” แจจินเฉลยออกมาในที่สุด ร่างเล็กจึงถอนหายใจน้อย ๆ แจจินชอบทำเหมือนเขาเป็นเด็กอยู่เรื่อย...แต่ก็นะ คน ๆ นี้คือคนที่เขาไว้ใจที่สุดและสนิทที่สุดมาตั้งแต่เล็กจนโต
“แล้วบอกได้มั้ยว่าชื่ออะไร” เสียงหวานยังคงตื้อต่อ
“คิม เยซองครับ”
ชื่อที่ไม่คุ้นหูถูกเฉลยออกมา แต่มันก็ทำให้ร่างเล็กพอยิ้มได้...ไม่ใช่ว่ายิ้มเพราะดีใจที่คน ๆ นี้จะมาเป็นบอดี้การ์ดให้หรืออะไร แต่กำลังยิ้มดีใจเพราะแผนของเขากำลังไปได้สวย
บอดี้การ์ดคนเก่าตาย...ก็เพราะถูกเขาสั่งฆ่าเองนั่นแหละ เพราะถ้าคนเก่าตาย คนใหม่ก็จะได้มา แต่ถ้าพูดถึงเรื่องฝีมือ...คนเก่าถือว่าใช้ได้ แต่ยังอ่อนหัดนักเมื่อเทียบกับแจจิน
ก็เพราะเขานี่แหละที่เป็นคนสั่งให้แจจินฆ่าบอดี้การ์ดคนเก่าเอง..
แต่เขาก็ไม่แคร์
ตายหนึ่งคน...ยังดีกว่าตายหลายคน
..จริงไหม..
~~~~***Because I hate you***~~~~
“คุณฮันคยองครับ เวลาหนึ่งทุ่มมีนัดทานอาหารเพื่อตกลงการค้าขายกับลูกค้าครับ พอถัดจากนี้วันนี้ก็ไม่มีนัดอะไรอีกแล้ว” คิม คิบอมบรรยายตารางงานให้ร่างสูงฟังตามหน้าที่ เมื่อผู้เป็นนายที่เพิ่งประชุมเสร็จกลับเข้ามาในห้องทำงานแล้วเอนตัวลงกับเก้าอี้อย่างเมื่อยล้า ก่อนจะผ่ายมือน้อย ๆ เป็นสัญญาณว่าเข้าใจ
ตอนนี้เป็นเวลาห้าโมงเย็น..
ประชุมวันนี้ถือว่านานเลยทีเดียว เพราะดูเหมือนบริษัทของคู่แข่งสำคัญเริ่มจะกำเริบขึ้นทุกวัน ทำให้เขาต้องจำเป็นออกกลยุทธ์ขายสินค้าใหม่ ๆ เพื่อรักษายอดขาย
บริษัทคู่แข่ง
ของพรรคโซฮวา ร้ายกว่าที่เขาคิดเอาไว้เยอะ
“อืม..” ฮันคยองลากเสียงแผ่ว “ลูกค้าคนไหน”
“อิม ยุนอาครับ” คิบอมตอบ ฮันคยองจึงถึงกับชะงักเล็กน้อย แววตาคมสะท้อนการกรุ่นคิด ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นถอนหายใจในที่สุด
“ลูกค้างั้นหรอ..” ร่างสูงพูดน้ำเสียงแผ่วเบา “พ่อฉันนี่ก็ร้าย...แต่เอาเถอะ”
พูดพร้อมลุกขึ้นยืน เขาจำเป็นจะต้องไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ให้ดี ๆ
ต้อนรับการเจรจากับ ‘ลูกค้า’ คนสำคัญ
คิบอมยืนนิ่ง เขารู้ว่าฮันคยองหมายถึงอะไร
การไปทานอาหารครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อเจรจาการค้าขาย
แต่เป็นเพื่อ ‘ดูตัว’ ต่างหาก
อิม ยุนอาคือคู่หมั้นของฮันคยองที่ชินดงจัดหามาให้ ซึ่งถ้าชินดงทำถึงขั้นนี้แล้วก็หมายความว่าพรรคโซราเริ่มจะเคลื่อนไหวอะไรบางอย่าง
อะไรบางอย่างที่อาจจะทำให้ฮยอกแจเป็นอันตราย
จึงจำเป็นจะต้องกีดกันฮันคยองให้ออกห่างจากฮยอกแจโดยเร็วที่สุด
“ฝากดูแลฮยอกแจด้วยนะ ดงเฮ..”
เสียงทุ้มพูดอย่างแผ่วเบา หวังจะให้คำพูดนี้ส่งไปถึงร่างเล็กโดยสายลมที่พัดผ่าน..
เกมส์เริ่มขึ้นแล้ว
~~~~***Because I hate you***~~~~
เช้าวันใหม่ของบ้านตระกูลลี
ฮยอกแจยังคงตื่นสายเฉกเช่นทุกวัน เหตุเพราะวันนี้เป็นวันหยุด
จึงไม่มีใครไปปลุก ซึ่งดูเหมือนเหมือนป้าโซอาเธอจะรู้ดีจึงอุ่นข้าวร้อน ๆ ไว้ให้
“อรุณสวัสดิ์ฮยอกแจ” ดงเฮพูดทักเมื่อเห็นเพื่อนขี้เซาเดินเข้ามาในห้องครัวเพื่อหาของกิน ร่างบางจึงพยักหน้าหงึกหงักแบบมึน ๆ ตามประสาคนเพิ่งตื่น แต่แล้วก็ต้องตื่นเต็มตาเมื่อได้กลิ่นอาหารแสนเย้ายวนใจ
ร่างบางสูดเข้าไปเต็มปอด เริ่มมองหาอาหารที่ว่า ดงเฮจึงหัวเราะร่า เจ้านี่ยังเป็นจอมตะกละไม่มีเปลี่ยน
“อยู่นี่ ฉันเตรียมไว้ให้แล้ว จานนี้ฝีมือฉันเลยนะ” ร่างเล็กบอกพร้อมหันไปทางป้าโซอาให้ช่วยพูดสมทบ หญิงชราจึงหัวเราะเบา ๆ
“ลองทานสิคะคุณหนู คุณดงเฮเธอตื่นตั้งแต่เช้ามาช่วยป้าทำอาหารเชียวนะคะ”
“ใช่ครับ ไม่เหมือนใครบางคนที่มัวแต่อุดอู้อยู่แต่ในที่นอน” ร่างเล็กต่อท้ายทันทีแล้วไปหัวเราะคิกคักกับหญิงชราอยู่สองคน ฮยอกแจแยกเขี้ยวงุดให้เพื่อนแต่สุดท้ายก็ไม่เอาเรื่องเพราะสนใจอาหารมากกว่า
ก็กองทัพต้องเดินด้วยท้องนี่นา!
“ว่าแต่คุณหนูรู้หรือยังคะว่าพรุ่งนี้จะมีคนอื่นมาร่วมทานอาหารด้วย คุณฮันคยองบอกให้ป้าเตรียมอาหารชุดพิเศษเชียว สงสัยจะเป็นคนสำคัญ” หญิงชราพูดเปิดประเด็น ฮยอกแจจึงเลิกคิ้วเล็กน้อย
“ใครหรือครับ”
“ป้าก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ เรื่องของคุณชาย
ป้าไม่ค่อยอยากยุ่งเดี๋ยวเขาหาว่าก้าวก่ายเรื่องของเจ้านาย” ป้าโซอาพูด ที่เธอพูดก็มีส่วนถูก
ถึงเธอจะเป็นคนเก่าคนแก่ในบ้านมากเพียงไหนแต่ก็ยังต้องมีการวางตัวในฐานะของตัวเอง นี่คือสิ่งที่เธอปฏิบัติมาตลอดทำให้ฮยอกแจและฮันคยองไว้ใจเธอได้ในระดับหนึ่ง
“งั้นหรือครับ” หากแต่ร่างบางกลับพูดน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับกำลังจมลึกเข้าไปในความคิดของตัวเอง นัยน์ตาสีน้ำตาลมะฮอกกานีออกแววอ่อนไหว
ไม่รู้ว่าอ่อนไหวเพราะคำพูดของหญิงชราหรืออะไรกันแน่
คนสำคัญของพี่ฮันคยอง..
คนสำคัญ..
หึ นายสำคัญตัวเองผิดไปหรือเปล่าลี ฮยอกแจ
คงมีแต่นายที่คิดไปฝ่ายเดียวว่าความรู้สึกของนายมันเริ่มจะเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นจนมากกว่าคำว่า ‘พี่น้อง’ จะสามารถจำกัดความ
ทำไมถึงเพิ่งมารู้สึกตอนนี้..
ทำไมถึงเพิ่งมารู้สึกมั่นใจตอนนี้
ว่านาย ‘รัก’ พี่ฮันคยองในฐานะที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักได้
ทำไมถึงเพิ่งแน่ใจตอนนี้ล่ะฮยอกแจ..
นายแน่ใจในความรู้สึก
ก็เพราะว่ารู้สึกเจ็บปวดตรงหน้าอกข้างซ้ายใช่หรือเปล่า
นายรู้สึกเจ็บ
เมื่อได้ยินว่า ‘คนสำคัญ’ ของพี่ฮันคยองไม่ใช่นาย
นายมันโง่ที่สุดเลยฮยอกแจ เพิ่งมารู้ตัวก็ตอนที่สาย
มารู้ตัวก็วันที่รักเขาคนนั้นหมดหัวใจ
นายมันโง่ที่สุดเลยลี ฮยอกแจ
To be continue..
มีใครงงเนื้อเรื่องบ้างไหม? ถามได้นะ TT^TT
ส่วนดงเฮไม่ได้ขโมยบัญชีเพราะ ‘รักแม่’ ค่ะ ดูเป็นเหตุผลที่ง่ายดีเนอะ ;_;
ถ้าอ่านเนื้อเรื่องแล้วมึนคือคนแต่งกำลังมึนค่ะ
สมองตื่อ ๆ
คิดไม่ค่อยออกเลย
ร้อนน! มึนนน ย๊ากกกกก
/me พ่นไฟ
>_____________<!!
Love U reader!!
| ||||
| ||||
Name : Kihae4< My.iD > [ IP : 118.172.143.142 ] |
| ||||
| ||||
Name : !..Alone_Wolf..!< My.iD > [ IP : 124.121.151.176 ] |
| ||||
| ||||
Name : ^@^ ChOmPoO ^@^< My.iD > [ IP : 222.123.58.176 ] |
| ||||
| ||||
Name : @_minto_@< My.iD > [ IP : 58.8.20.235 ] |
| ||||
| ||||
Name : MoLoVeKyUmIn [ IP : 210.86.208.129 ] |
| ||||
| ||||
Name : yaoisang [ IP : 125.27.69.120 ] |
ความคิดเห็น