คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : :: Chapter II :: Stranger
Chapter II
Stranger
เป็นค่ำคืนที่แสนหวานราวกับยาพิษ...
สวมบทเป็นคนรัก มอบความสุขให้แก่กันเพียงชั่วข้ามคืน ก่อนจะตื่นขึ้นมาเป็นคนที่ไม่รู้จักกันอีกครั้ง
ร่างบางติดกระดุมเสื้อช้า ๆ มองเบอร์โทรที่ทิ้งวางไว้อยู่บนโต๊ะก่อนจะตัดสินใจขยำมันทิ้ง... ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ... เมื่อคืนนั้นสนุกและตื่นเต้นดีใช้ได้ แต่เขาไม่ต้องการผูกพันกับใครมากไปกว่านี้ ขอให้มันเป็นเพียงการคลายเหงาชั่วข้ามคืนอย่างที่เขาเคยทำก็พอ...
หากความคิดก็กลับหวนย้อนไปอีกครั้ง ร่างกายของชายหนุ่มที่เขาไม่รู้จักนั้นเต็มไปด้วยบาดแผลมากมายจนน่าตกใจ... ทั้งที่ยังเป็นนักศึกษาอยู่แท้ ๆ แต่กลับสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ผ่านความตายมาอย่างโชกโชน
อีกทั้งดวงตาที่ดูแข็งกร้าวแต่เบื้องลึกนั้นกลับหม่นหมอง...
พลันเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นฉุดความคิดให้กลับมาปัจจุบันอีกครั้ง มือบางหยิบมือถือขึ้นมาดูชื่อก่อนจะกดรับ...
“...ยุทธนันท์ครับ”
‘ทักทายได้เย็นชาเหมือนเดิมเลยนะนัท’เสียงทะเล้นของคู่สนทนาเอ่ย ก่อนจะแจ้งรายละเอียดที่โทรมา เขารับฟังและตอบรับสั้น ๆ ก่อนตัดสายไป
ย้ายหน่วย...
ชายหนุ่มถอนหายใจเล็กน้อย ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับเขาที่ไม่ต้องการจะผูกสัมพันธ์กับใคร การได้ย้ายหน่วยบ่อย ๆ ตามความจำเป็นของงานทำให้ไม่ต้องสนิทชิดเชื้อกับใครมากนัก... แถมคเชนทร์ยิ่งพยายามจะตีสนิทกับเขาอยู่ด้วย
นัทเก็บมือถือใส่กระเป๋า ก้าวเท้าเดินไปที่ประตูหากกลับชะงัก เหลียวมองกลับมาและนิ่งไปสักพัก ก่อนจะหยิบกระดาษที่ขยำทิ้งไปนั้นเก็บใส่กระเป๋าไปด้วย...
-----------------------------------
“ย้ายไปหน่วยที่ 6 นะ”คเชนทร์เอ่ยบอกหลังจากเขาเข้ามาในห้อง“ไปกินข้าวกันสักมื้อไหม ผมอยากจะเลี้ยงส่งคุณสักหน่อย”
“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณ”นัทปฏิเสธเรียบ ๆ ด้วยคำพูดเดิม รับเอกสารมาและตั้งใจจะกลับบ้านทันที หากชายหนุ่มก็เอ่ยรั้งไว้
“ไม่ไปทักทายหัวหน้าหน่วยใหม่หน่อยเหรอ เห็นเขาบอกอยากเจอคุณอยู่เหมือนกัน”ในทีแรกตั้งใจจะปฏิเสธไปอีกครั้ง แต่เมื่อนึกดี ๆ แล้วก็ควรจะไปทำความรู้จักตามมารยาทจริง ๆ
“แวะไปก่อนก็ได้ครับ”
“เดี๋ยวผมพาไปละกัน รู้ไหมหัวหน้าหน่วย 6 นี่เป็นแค่เด็กมหาลัยเองนะ”ชายหนุ่มหัวเราะก่อนจะเดินนำเขาออกจากห้องไป “แถมท่าทางเหมือนคุณชาย ไม่น่าเชื่อจริง ๆ ว่าเด็กคนนั้นจะอยู่หน่วยสูงกว่าผม”
อายุแค่นั้นแต่ได้เป็นถึงหัวหน้าหน่วยแล้วเหรอ... ท่าทางจะไม่เบา
“เฮ้ พาเด็กใหม่มาหา”คเชนทร์เคาะประตูพลางตะโกนบอก ไม่นานนักก็มีเสียงตอบรับกลับมาว่าให้เข้าไปได้... เสียงนั้นช่างคุ้นหูจนน่าตกใจ
และเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เป็นไปตามที่คิดเอาไว้ เขากับหัวหน้าคนใหม่ชะงักทันทีที่เห็นหน้ากัน ความเงียบปกคลุมไปชั่วขณะจนคนตรงหน้าหลุดอุทานออกมา
“คุณเองเหรอ...”ใช่... เขาแทบอยากจะตบหน้าตัวเอง เมื่อหัวหน้าคนใหม่ของตนนั้น...
ดันเป็นคนแปลกหน้าที่นอนกับเขาเมื่อวาน!
“หืม รู้จักกันมาก่อนแล้วเหรอ”คเชนทร์เลิกคิ้ว แม้จะรู้สึกแปลก ๆ กับบรรยากาศในตอนนี้...
“ขอผมอยู่กับเขาสองคนได้ไหมครับ บังเอิญมีเรื่องต้องคุยกันนิดหน่อย”ไผ่เอ่ยบอกเขา เรียกให้รู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาจนต้องเอ่ยตอกกลับไป
“คุยอะไรก็คุยตรงนี้เลยสิครับ”หัวหน้าหน่วยหกขมวดคิ้วมุ่นเล็กน้อยกับคำตอบของเขา คเชนทร์สังหรณ์ใจว่าสองคนนี้ต้องเคยมีความสัมพันธ์อะไรกันมาก่อน เพราะสายตาของนัทมันบ่งออกชัดเจน อีกทั้งไผ่เองก็เช่นกัน...
แต่เรื่องอะไรเขาจะยอมยกคนที่เขาหมายตาเอาไว้ให้เด็กพรรค์นี้กัน
“มันเรื่องของพวกผม”นัทเป็นคนย้อนขึ้นมาแทน เขาไม่ตอบอะไรหากมองหน้าไผ่นิ่งด้วย ส่วนชายหนุ่มเองก็จ้องมองกลับไม่หลบสายตาเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าจะไม่อยากมีเรื่องจึงไม่พูดอะไรตอบเขา
เด็กเมื่อวานซืนอย่างนี้เนี่ยนะอยู่หน่วยสูงกว่าเขา?
มันมีดีกว่าเขาตรงไหน นัทถึงสนใจมัน
“ผมเพิ่งรู้ว่าคุณมีรสนิยมชอบเด็ก ๆ”คเชนทร์หันไปสบตากับร่างบาง“เนื้อมันนุ่มเลยเคี้ยวง่ายสินะ”
“ออกไปได้แล้ว”ไผ่เค้นเสียงต่ำโดยพยายามระงับอารมณ์ที่เริ่มคุกกรุ่นขึ้นมา“ผมไม่อยากมีเรื่องเหมือนเด็ก ๆ”
มันพูดถูก... การมีเรื่องกับคนที่ตำแหน่งสูงกว่าคงไม่ใช่เรื่องฉลาดเท่าไหร่นัก เพราะถึงแม้ว่าจะอยู่คนละหน่วยกันแต่อย่างไรก็ยังมีระดับอำนาจมากกว่า
วันนี้พอก่อนแล้วกัน...
คเชนทร์สบกับดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่สวยนั้นอีกครั้งก่อนจะเหลียวตัวเดินออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไร
แต่มันไม่จบแค่นี้แน่...
หลังจากตัวปัญหาเดินออกจากห้องไปหัวหน้าหน่วยก็หลุดถอนหายใจออกมาเบา ๆ
แต่ดูท่าคเชนทร์จะไม่ใช่คนที่จะยอมรามือง่าย ๆ ... เป็นไปได้ว่าอาจจะต้องฉะกันอย่างนี้อีก
“ไม่น่าเชื่อว่าคุณจะ... ทำงานอยู่ที่นี่”เขาหันไปหาร่างบางก่อนจะเอ่ยแนะนำตัว“ผมชื่อไผ่... คุณชื่อนัทเหรอ?”
“ครับ...”นัทตอบรับเรียบ ๆ สำหรับตัวเขาไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดี ไผ่คือคนที่เขาถูกใจแต่ก็อยากให้เป็นแค่นั้น ถ้าหากต้องมาเจอหน้ากันประจำแบบนี้ ความสัมพันธ์มันอาจจะถลำลึกไปมากกว่านั้น
รู้ทั้งรู้...
หากเมื่อใบหน้าคมขยับเข้ามาชิด แก้มก็อดจะร้อนผ่าวขึ้นมาไม่ได้
“คุณคบกับคเชนทร์อยู่เหรอ”
“เปล่า...”นัทรีบปฏิเสธไปอย่างรวดเร็ว ถึงคเชนทร์จะหน้าตาดีเข้าขั้นแต่ไม่ใช่ประเภทที่เขาชอบ... ผู้ชายที่ทำตัวมั่วผู้หญิงและหยาบคายแบบนั้น อย่าหวังว่าจะได้แตะต้องตัวเขาสักนิดเลย
“ดูเขาชอบคุณอยู่นะ”กลับกัน... ความอ่อนโยนของไผ่สามารถทำให้เขาใจเต้นแรงขึ้นมาได้ จนคาดไม่ถึงว่าจะมีคนแบบชายหนุ่มทำงานอยู่ในองค์กรที่สกปรกอย่างนี้อีก
“แต่ผมไม่ชอบ...”นัทหลุบตาลงต่ำ ลมหายใจอุ่นที่เป่ารดกันเป็นสัญญาณบ่งถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า ไผ่ก้มหน้าลงมาแตะริมฝีปากกันเบา ๆ ก่อนรั้งร่างเขาเข้ามากอดเอาไว้
นัทขัดขืนเล็กน้อยอย่างไม่จริงจังเท่าใดนัก ร่างสูงเบียดปากเข้ามาจูบอีกครั้ง จากที่แผ่วเบาเริ่มหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนไผ่จะดึงเขาไปที่โซฟา กดตัวลงมาคร่อมทับเอาไว้และบรรเลงบทรักต่อ
“นี่ห้องทำงาน...”คำปรามไม่เป็นผลเท่าใดนัก ร่างบางสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมือใหญ่สอดเข้ามาในเสื้อ สัมผัสจุดอ่อนไหวให้อารมณ์เริ่มพลุ้งพล่าน
“ก็ห้องของผม”ไผ่จูบที่ซอกคอของเขาก่อนจะประทับริมฝีปากสร้างรอยความเป็นเจ้าของเอาไว้ มือซุกซนปลดกระดุมเสื้อออกอย่างรวดเร็ว แผ่นกระดาษที่ถูกขยำทิ้งไว้ก็พลันร่วงออกมาจากกางเกงของเขา
ชายหนุ่มเหลือบตาไปมองเล็กน้อยอย่างแปลกใจ หยิบขึ้นมาคลี่ดูก็พบว่าเป็นเบอร์โทรของตนเอง
“ขยำแต่ก็เก็บเอาไว้ แปลกจังเลยนะครับ”ร่างสูงโน้มกายลงมา มือขยำกระดาษเบอร์โทรนั้นทิ้งไปอีกครั้ง“ยังไงก็คงไม่จำเป็นแล้วล่ะ”
เมื่อนับจากนี้... เขาสองคนก็ไม่ใช่เพียงแค่คนแปลกหน้าอีกต่อไปแล้ว
-----------------------------------------------------------
“วันนี้ว่างรึเปล่า” เสียงปลายสายยังทุ้มนุ่มเหมือนเก่า อ่อนโยน
ชวนให้คิดถึงใครบางคนในอดีต
“ว่าง” นัทตอบเสียงเรียบตามนิสัย เดาเอาว่าปลายสายกำลังยิ้มเป็นแน่
“ผมไปหาที่คอนโดได้มั้ย”
“
มีธุระอะไร” เขาเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง แม้เขาจะเคยมีใครมามากแค่ไหนแต่ก็ไม่เคยให้ใครมาเหยียบบนห้องของเขา
“ได้มั้ย”
นัทเงียบไป ชั่งใจก่อนจะตอบตกลง “ได้”
“งั้นเดี๋ยวผมไปหานะ”
ปลายทางตัดสายไป ไผ่เป็นคนน่ารักเสมอ ตลอดเวลาที่ผ่านมาห้าเดือน ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าไผ่เป็นคนอ่อนโยนมาก มากจนไม่น่าเชื่อว่าจะอยู่ในองค์กรสกปรกแบบนั้นได้
แล้วอะไรที่ทำให้ไผ่อยู่ในองค์กรแบบนั้นได้ล่ะ
คำตอบนั้นอยู่แค่เอื้อม แค่เขาสัมผัสไผ่ แค่ใช้พลังมองอดีต เขาก็จะเห็นทุกอย่าง แต่
เขาไม่ทำ
ความรู้สึกในตอนนี้ของเขาที่มีต่อไผ่มันไม่ใช่ความรัก เขารู้ตัวเองดี แต่ถึงแบบนั้น
เขาก็ไม่อยากสูญเสียไผ่ไป
ไม่อยาก
สูญเสียใครทั้งนั้น
ร่างบางลุกขึ้นเก็บกวาดห้องพร้อมเช็คสภาพความเรียบร้อยของตัวเองเพื่อต้อนรับแขกที่กำลังมาถึง ไม่นานสักเท่าไหร่ก็มีเสียงออดดังขึ้น
เขาลุกขึ้นไปเปิดประตู เผยให้เห็นร่างสูงที่มักจะยิ้มหวานทุกครั้งที่ที่เจอหน้ากัน
“เข้ามาสิ”
ภายในห้องของเขาแต่งด้วยโทนสีเรียบและคลาสสิคเสียส่วนใหญ่ ซึ่งจริงๆแล้วไผ่ก็รู้สึกว่ามันก็เหมาะกับนัทดี เขากวาดสายตามองไปทั่วห้อง ก่อนจะหยุดที่โซฟาที่น้ำตาลครีมแล้วนั่งลง
“ขอบคุณ” รับน้ำจากอีกฝ่ายมายังแล้วดื่มไปอึกหนึ่ง เหลือบตาดูก็พบว่าร่างบางยังคงจ้องเขาอย่างไม่วางตา
“ผมหล่อมากเลยสินะ” ไผ่วางแก้วลงแล้วพูดเสียงทะเล้น “จ้องจนจะท้องได้อยู่แล้ว”
“นั่นกล่องอะไร” แต่ดูเหมือนพ่อคนเย็นชาจะไม่ค่อยรับมุกสักเท่าไหร่ หากกลับสนใจกล่องดิ้นได้ข้างๆเขามากกว่า
ไผ่มองตามสายตาคู่นั้น เกือบลืมไปแล้วว่าเอากล่องใบนี้มาด้วย จริงๆมันเป็นตะกร้าไม้สานที่มีฝาปิด สามารถเห็นได้ตามทั่วไปตามสถานที่ปิคนิค แต่ที่ผิดสังเกตอย่างที่สุดก็คือ
กล่องมันขยับเองได้
“แล้วนั่นเสียงอะไร” ทักอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงบางอย่าง ถ้าหูไม่ฝาด มันฟังดูเหมือนเสียง
แมว
“ไม่รู้คุณจะชอบมันรึเปล่า” ไผ่ยิ้ม ก่อนจะยกมาวางตรงหน้าเขาแล้วเปิดฝา
เป็นอย่างคาด แมวตัวหนึ่งกำลังกระกุยกระกายผนังกล่อง มันกระโดดออกจากกล่องแล้วมาแหมะที่ตักของนัททันทีที่ถูกเปิดฝา
ร่างบางสะดุ้งโหยง ตกใจไม่น้อยที่เจออะไรแบบนี้
“นี่มัน” และเหมือนมันจะรู้ตัว จึงเอ่ยเสียงเมี๊ยวทักทายชวนเอ็นดูออกมาเบาๆ
อืม เหมือนแมวมันจะรู้หน้าที่ดียังไงชอบกล
“คุณชอบรึเปล่า” ร่างสูงซักถาม จริงๆเขาใช้เวลาเลือกไม่ค่อยนานเท่าไหร่เพราะแมวตัวนี้ค่อนข้างจะสะดุดตาเป็นพิเศษ “สีขนของมันออกน้ำตาลส้มเหมือนผมของคุณเลย ผมคิดถึงคุณเลยซื้อมาให้เป็นของขวัญวันเกิด”
วันเกิด
“อย่าบอกนะว่าจำไม่ได้” ไผ่ถามอีกครั้ง หัวเราะออกมาเบาๆเมื่อดูท่าจะเป็นอย่างนั้นจริงๆซะด้วย นัททำหน้ามุ่ย แต่คือจริงๆแล้วต้องเข้าใจว่านัทเป็นคนที่มีอารมณ์และสีหน้าเดียว จึงยากต่อการอ่านอารมณ์เอามากๆ ถ้าไม่อยู่กับร่างบางบ่อยๆและคอยสังเกตล่ะก็ จะรู้สึกว่าหน้าธรรมดาหรือหน้ามุ่ยมันก็ไม่ได้ต่างกันเลยสักกะนิด
“ให้ผมเลี้ยงข้าวเป็นการฉลองวันเกิดได้รึเปล่า” ไม่ได้การ ถึงร่างบางจะเป็นคนเย็นชาแต่ก็ยังมีความรู้สึก ไผ่เริ่มแหย่เข้าหน่อย ก่อนนัทจะเลิกคิ้วขึ้นแล้วยิ้มกริ่ม
“ผมทำอาหารให้เองดีกว่า” ไม่พูดเปล่าพร้อมขยับตัวเข้ามาแนบชิด “ตอบแทน
ของขวัญไปในตัว”
คราวนี้เป็นร่างสูงที่เริ่มฉีกยิ้ม
มนุษย์
หากมีตัณหา ก็ต้องมีการเลิกราเพราะความเบื่อ
และความเบื่อที่ว่านั้น จนถึงตอนนี้
เขาก็ยังไม่ค้นพบสิ่งนั้นในตัวของนัท
ร่างสูงผลักอีกฝ่ายราบลงบนโซฟา มือไม้เริ่มซุกซนตามอารมณ์ที่เริ่มครุกกรุ่น ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นโต๊ะเบื้องหน้าติดกับกำแพงที่มีแจกันดอกไม้และรูปภาพรูปหนึ่งวางอยู่บนนั้น
นัทเมื่อเห็นไผ่แน่นิ่งไปจึงชะงัก หันหน้าไปดูว่าร่างสูงกำลังมองอะไร
ในภาพนั้นเป็นรูปถ่ายของผู้หญิงคนหนึ่งด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ดวงตาอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยเสน่ห์อันแปลกประหลาดถ่ายทอดให้รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา โครงหน้าสวยคมแบบคนต่างชาติรับกับเส้นผมสีน้ำตาลส้มประกายทองได้อย่างไม่มีที่ติ
ราวกับเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
นัทกุมใบหน้าของร่างสูงให้หันมาทางเขา ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นั้นที่ไผ่คิดว่ามันน่ารักราวกับแมวบัดนี้กำลังฉายแววเอาแต่ใจ
“มองที่ผม
” ริมฝีปากบางพูดเสียงแผ่ว ก่อนจะโน้มหน้าของอีกฝ่ายให้ลงมาแล้วเบียดริมฝีปากเข้าหา
ราวกับเบี่ยงเบนความสนใจ
ไผ่ตอบรับสัมผัสนั้น เลื่อนมือลงไปต่ำเรื่อยๆแต่ยังคงสงสัยอยู่ในความคิด เขารู้นิสัยนัทดีว่าอะไรที่อีกฝ่ายไม่ต้องการ นั่นก็คือห้ามทำเด็ดขาด
ผู้หญิงคนนั้น..
..เป็นใครกันแน่..
------------------------------------
รูปไผ่ค่ะ กรี๊ดดดดดดด (รูปจากปาร์ค แทจุนค่ะ)
ส่วนนี่คือนัทค่ะ คนแต่งใจละลาย //
ถ้าหนูจะสวยขนาดนี้นะคะลูก orz (รูปจากปาร์ค จีโฮค่ะ)
ปล. ส่วนรูปพี่เดนนิส โอ ที่อยู่หน้าแรกของเรื่องนั่นไม่ใช่คเชนทร์นะคะ จะเป็นใครต้องรอติดตาม -..-
ความคิดเห็น