คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Chapter 13 :: ฐานะที่แตกต่าง[100%]
ตอนที่ 13 ฐานะที่แตกต่าง
...นายคิดอะไรอยู่กันแน่
“แน่ใจจริง ๆ เหรอครับว่าจะเอาชุดนั้นไปให้” ชางมินทักผู้เป็นนายด้วยความไม่แน่ใจ เพราะขืนเอาไปให้มีหวังซองมินได้แหกปากโวยวายแน่ คยูฮยอนจึงหัวเราะ ๆ เป็นคำตอบ
“แน่ซะยิ่งกว่าแน่” ...ก็เวลาได้แกล้งซองมินน่ะสนุกที่สุด “อ๋อ แล้วก็บอกแล้วไง ว่าเวลาอยู่กันสองคนให้เรียกฉันว่าคยูฮยอนเฉย ๆ ก็พอ”
“ลืมน่ะ ‘โทษที” ชางมินตอบพลางยิ้มแหย ๆ เขาและคยูฮยอนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก เขาถูกแม่แท้ ๆ ของคยูฮยอนอุปถัมภ์มา เขาจึงค่อนข้างสนิทกับคยูฮยอน
แต่ยังไงคนใช้ก็คือคนใช้...ฐานะที่สูงที่สุดจึงเป็นได้แค่บอดี้การ์ด
และแล้วเขาทั้งสองก็กลับมาถึงบ้าน แต่รองเท้าของใครคนหนึ่งที่ไม่ใช่ทั้งของเขา ชางมิน และซองมินกลับเกินมาหนึ่งคู่ตรงหน้าบ้านที่วางรองเท้า ..หรือจะมีใครเข้ามาในบ้าน?
“ซองมิน นายอยู่ไหนน่ะ!” คยูฮยอนเรียกหาซองมินดังลั่น เตรียมท่าจะป้องกันตัว แล้วก็ต้องค่อยเบาใจลงมานิดนึงเมื่อเจ้าตัวตอบกลับมาเสียงร่า
“ฉันอยู่นี่! อยู่ในห้องครัว!”
คยูฮยอนเดินไปตามทางพร้อม ๆ กับชางมินที่เดินไปด้วยกันจนกระทั่งมาถึงจุดหมาย ทำให้ปรากฏเห็นคนสองคนที่กำลังนั่งคุยกัน คิ้วหนาจึงขมวดมุ่นพร้อม ๆ กับนัยน์ตาสีดำขลับที่สะท้อนความไม่พอใจ
“มาทำไม”
ร่างสูงถามเสียงแข็ง เขาไม่ได้พูดกับซองมิน แต่พูดกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญและเป็นเจ้าของรองเท้าปริศนาคนนั้น
..ชเว ซีวอน
แขกผู้มาใหม่ยิ้มแห้ง “มาเยี่ยมนายน่ะ นาน ๆ ทีพี่ถึงจะกลับมา เลยอยากมาหา...”
“ใครให้มา” ถามต่ออย่างไม่สบอารมณ์ ในแววตามีแววคลุกรุ่นที่ราวกับกำลังระงับโทสะอย่างสุดกำลัง
“ก็พี่เป็นห่ว...”
“ผมถามว่าใครให้มา!” เสียงทุ้มพูดดังจนแทบเป็นตวาด “แล้วใครเป็นน้องคุณ คุณเคยนับผมเป็นญาติด้วยรึไง!!”
“พอเถอะคยูฮยอน” ซองมินรีบพูดเมื่อเห็นท่าไม่ดี “ซีวอนเขาแค่อยากมาเยี่ยมนายนะ”
“แต่ฉันไม่ต้อนรับ” คยูฮยอนพูดเสียงเย็นชา “คุณกลับไปเถอะ”
น้ำเสียงของร่างสูงฟังดูพยายามรักษาระยะห่าง ใช้คำว่า ‘คุณ’ หรือ ‘ผม’ แทนที่จะใช้พี่กับน้องเหมือนที่ใคร ๆ เขาทำกันเพื่อตอกย้ำความสัมพันธ์
...ว่าเรามันไม่ใช่พี่น้องกัน
ไม่ใช่ ..แม้แต่คนรู้จักที่ดูจะสูงค่าเกินไป
“คยูฮยอน” ซองมินเริ่มออกแววตำหนิ “อย่างน้อยเขาก็เป็นพี่ชายนายนะ”
นัยน์ตาของเจ้าของชื่อหันกลับมาทางร่างบางทันที ใบหน้าคมดูนิ่งเฉยจนน่ากลัวก่อนที่เสียงทุ้มจะเอื้อนเอ่ย
“..ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าห้ามให้ใครเข้ามาให้บ้านฉัน”
“แต่...”
“บ้านฉัน กฎฉัน นายมันก็แค่คนใช้ ไม่มีสิทธิขัดคำสั่ง!” กระแทกเสียงด้วยโทสะจนมันดังก้องในหูของคนฟัง ปลายจมูกร่างบางจึงเริ่มแดงก่ำ รู้ทั้งรู้ว่าคยูฮยอนพูดเพราะกำลังโกรธ....
แต่เขากำลังน้อยใจ
หรือบางที...ที่พูดออกมา คยูฮยอนอาจจะกำลังรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ ก็ได้
ว่าเขาเป็นแค่คนใช้ ส่วนคยูฮยอนเป็นเจ้านาย
เป็นแค่คนที่มีฐานะแตกต่างกัน
เป็นแค่คนสองคนที่ต้องมาผูกมัดกันด้วยหนี้บ้า ๆ
แค่นั้นจริง ๆ..
“โอเค” ซองมินผลุบใบหน้าลงต่ำ ที่ผ่านมามีแต่เขาที่คิดไปเองกันนั้น ว่าคยูฮยอนจะใจดีขึ้นกับเขา อย่างน้อยก็สนิทกันในฐานะอื่นอย่างเช่นเพื่อน ไม่ใช่เจ้านายกับคนใช้
“ยังไงก็ขอบคุณที่ช่วยเตือนสติผมนะครับ คุณคยูฮยอน”
“..ซองมิน” แววตาร่างสูงเริ่มอ่อนลง เริ่มรู้สึกตัวว่าพูดอะไรออกไป
“งานบ้านทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ตามข้อตกลงของเราคือให้ผมพักอยู่ที่นี่ แต่ผมรู้สึกปวดหัวไม่สบาย ผมเลยอยากจะขอกลับไปพักที่บ้านนะครับ แต่ช่วงเช้าและบ่ายผมจะมาทำงานให้ตามปกติ เพราะผมไม่อยากให้อาการป่วยของผมมันติดคุณ”
“...”
“ยังไงผมก็ขอตัวก่อน สวัสดีครับ” พูดจบก็เดินหนีออกไปจากห้องทันทีทั้ง ๆ ที่ยังก้มหน้าหลบสายตาอยู่แบบนั้น คยูฮยอนยืนนิ่ง ต่างจากชางมินและซีวอนที่ได้แต่ยืนดูสถานการณ์อยู่อย่างเงียบ ๆ
“ผ่านไปนานเท่าไหร่..นายก็ยังคงเป็นเด็กน้อยอยู่เหมือนเดิม” ซีวอนเริ่มพูดขึ้นหลังจากที่เริ่มแน่ใจว่าซองมินเดินออกไปไกล คยูฮยอนจึงหันกลับมามองยังร่างโปร่งด้วยสีหน้าเครียดแค้นสุดชีวิต มือหนากำหมัดแน่นอย่างแค้นใจ
“กลับมาทำไม!” กดเสียงต่ำตะคอกถามอีกฝ่าย ...เขาไม่เคยเลยสักครั้งที่จะตามเกมส์ของคนตรงหน้าทัน
ซีวอนยกยิ้มขึ้นที่มุมปาก แววตาที่เคยดูสุภาพบุรุษกลับเปลี่ยนแปลงไป
“ก็แค่มาดูน้องชาย...ผิดรึไง”
คำพูดที่ทำให้คนฟังต้องพ่นหัวเราะออกทางจมูกอย่างสมเพช
“เคยนับผมเป็นน้องชายด้วยเหรอ”
ถามออกไปทั้ง ๆ ที่รู้คำตอบอยู่แก่ใจทุกคน...
...
ท้องฟ้า...ไม่สดใสเหมือนเคย
หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะเขาเองที่เห็นมันไม่สดใส ทั้ง ๆ ที่วันนี้ออกจะอากาศดีแท้ ๆ...
เขากำลังยืนอยู่ตรงหน้าบ้านของตัวเอง
หน้าบ้านที่เปรียบเสมือนความทรงจำ ...และมีคนที่เขารักอย่างฮานึลและอานารินอาศัยอยู่
ไม่เหมือนกับบ้านหลังนั้นที่มีแต่คนใจร้าย...
ซองมินยืนอยู่หน้าบ้านอยู่ชั่วครู่อย่างเหม่อลอย แววตาหม่นสะท้อนความคิดถึงก่อนที่ขาเรียวจะก้าวเข้าไปในบ้าน และตอนที่เขากำลังจะเปิดประตูนั่นเอง จู่ ๆ ก็มีใครอีกคนทะเล่อทะล่าเปิดประตูออกมาจนเกือบจะกระแทกหน้าพอดี แต่ซองมินหลบทัน อีกฝ่ายจึงตาค้างก่อนรีบขอโทษขอโพยเสียยกใหญ่
“ขอโทษจริง ๆ นะครับ! ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังจะเดินเข้ามา” ชายหนุ่มแปลกหน้าพูดพร้อมก้มหัวให้เป็นการขอโทษ ซองมินจึงปัดมือไปมาเป็นเชิงยกโทษให้
“ไม่เป็นไร ๆ ..ว่าแต่นายเป็นใครเหรอ คนรู้จักอานารินหรือเปล่า ทำไมฉันไม่เคยเห็นหน้า”
คำถามของร่างบางทำอีกฝ่ายขมวดคิ้วพร้อมเอียงคอฉงน ก่อนจะทำหน้าเหมือนนึกอะไรออกแล้วตอบเสียงร่าตามประสาคนอัธยาศัยดี
“คุณคงจะคือลี ซองมินสินะครับ”
“
เอิ่ม ก็ใช่”
คำตอบของซองมินทำอีกฝ่ายแย้มยิ้มกว้าง
“ผมชื่อปารค์ ยูฮวานฮะ หรือจะเรียกผมว่าริคกี้ก็ได้” เด็กหนุ่มคนนั้นแนะนำตัว แต่คนฟังกลับขมวดคิ้ว ..ชื่อนี้คุ้น ๆ เหมือนเคยได้ยิน แต่ก็นึกไม่ออกว่าเป็นใคร
“ผมเป็นพี่เลี้ยงที่คยูฮยอนส่งมาไงฮะ” ตอบราวกับรู้ทัน เท่านั้นแหละร่างบางจึงเก็ททันที ใช่...เห็นว่าคยูฮยอนจะส่งพี่เลี้ยงมาดูแลฮานึลแทนเขาเวลาที่เขาไม่อยู่
...แต่พอนึกชื่อของคยูฮยอน...ใจมันก็กลับรู้สึกเคว้ง ๆ ขึ้นมาซะแล้วสิ...
“อ้าว ซองมิน กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” คำทักทายของนารินที่เพิ่งโผล่มาหน้าบ้านทำให้คนเหม่อลอยต้องตื่นจากภวังค์ นัยน์ตาสีดำขลับเบิกกว้างก่อนจะวิ่งเข้าไปโผกอดผู้เป็นอาอย่างคิดถึงจนอีกฝ่ายแทบเซถลาล้ม
“ผมคิดถึงอาจัง!” ซองมินร้องอย่างดีใจ นารินที่ถูกกอดไม่ทันตั้งตัวจึงได้แต่หัวเราะเบา ๆ แล้วกอดอีกฝ่ายตอบ
“อาก็คิดถึงเหมือนกัน” พูดด้วยความเอ็นดู ก่อนจะผละออกมาเบา ๆ แล้วถามต่อ “แล้วกลับมายังไงน่ะเรา คยูฮยอนเขายกเลิกข้อตกลงแล้วเหรอ”
ซองมินทำตะกุกตะกักเล็กน้อยก่อนจะยิ้มแหย ๆ “ผมลาพักน่ะฮะ คิดถึงฮานึลกับอานารินก็เลยขอหยุดมา”
หญิงสาวทำหน้าไม่ค่อยเชื่อ เธอเลี้ยงดูซองมินมาตั้งแต่เล็ก ๆ ทำไมเธอจะดูไม่ออกว่ามีพิรุธอะไร แต่ในเมื่อถ้าซองมินยังไม่อยากจะเล่า เธอก็จะไม่ซักถาม
แต่ที่เธอสงสัย...คือซองมินต้องทะเลาะกับคยูฮยอนมาแน่ ๆ
...ก็ตรงเบ้าตามันยังมีรอยแดงช้ำและคราบน้ำตาอยู่เลยนี่นา
“ถ้างั้นผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับ” ยูฮวานเอ่ยขึ้นจังหวะ นารินจึงเบนความสนใจไปยังร่างเล็กแทนทันที
“อย่าเพิ่งเลยจ้ะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว...อยู่ทานอาหารเย็นด้วยกันก่อนดีไหมจ้ะ จะได้ทำความรู้จักกันไปด้วย” หญิงสาวพูด ยูฮวานจึงทำหน้าลำบากใจเล็กน้อยเป็นเชิงเกรงใจ แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะทานด้วย
“พี่ซองมินน!” เสียงใสแจ๋วประสาเด็กผู้หญิงดังขึ้นพร้อมวิ่งเข้ามาโผกอดผู้เป็นพี่แท้ ๆ อย่างคิดถึง ซองมินจึงหัวเราะรับอย่างมีความสุขแล้วหอมแก้มเด็กหญิงตามประสาพี่น้อง
“ฮานึลคิดถึงพี่ซองมินจังเลย!”
“พี่ก็คิดถึงฮานึลเหมือนกันค่ะ ไหน...โห ไม่เจอกันแป๊บเดียว อ้วนขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย”
“พี่ซองมินง่ะ!”
“พี่ล้อเล่น ฮ่า ๆๆ” ซองมินยิ้มตาหยีให้กับความน่ารักของน้องสาวที่บัดนี้งอนตุ๊บป่องไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่นารินจะเรียกทุกคนให้ไปทานข้าวด้วยกัน ฮานึลจึงรีบวิ่งเข้าห้องครัวไปด้วยความหิวทันที
หลังจากที่ทุกคนทานข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้วซองมินก็จัดการล้างจาน การสนทนาบนโต๊ะอาหารไม่มีอะไรมากนอกจากการถามถึงสารทุกข์สุขดิบ แถมเขายังเหม่อลอยตั้งหลายครั้งจนถูกอานารินดุอีกแหน่ะ...ไม่ไหวเลยจริง ๆ
“ซองมิน” เสียงหวานพูดเรียกผู้เป็นหลานรักทำให้คนถูกเรียกต้องหันไปตามเสียง ตอนนี้ยูฮวานกลับบ้านและฮานึลเองก็นอนหลับปุ๋ยไปแล้ว บ้านทั้งบ้านจึงมีคนที่ยังไม่หลับอยู่แค่สองคนคือนารินกับซองมิน
“ว่าไงฮะ” ซองมินตอบกลับ
“เช็ดมือแล้วมานั่งคุยกับอาหน่อย” นารินพูด ซองมินจึงปฏิบัติตามอย่างว่าง่ายแล้วเดินมานั่งตรงเก้าอี้ตรงโต๊ะอาหารข้าง ๆ หญิงสาว
“อาถามเราตรง ๆ นะซองมิน”
“..”
“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า”
ร่างบางเงียบแทนคำตอบ หลบสายตาผลุบลงต่ำตามประสาคนกำลังโกหก นารินถอนหายใจเล็กน้อย เธอรู้จักนิสัยหลานเธอดี...มีอะไรชอบเก็บเงียบ อ่อนไหวง่าย นั่นแหละที่ทำให้เธอเป็นห่วง
“ทะเลาะกับคยูฮยอนมาใช่มั้ย”
นัยน์ตาของซองมินอ่อนไหวลงวูบหนึ่ง นั่นจึงทำให้นารินยิ่งแน่ใจก่อนจะพูดต่อ
“ความจริงตอนแรก... ตอนที่อาพักอยู่โรงพยาบาลแล้วพึ่งฟื้น อาไม่ยอมหรอกนะเรื่องที่ให้เราไปเป็นพ่อบ้าน ๆ เขา อาคัดค้านด้วยซ้ำ แต่พอรู้จุดประสงค์จริง ๆ ของเขา อาก็เลยยอมส่งให้เราไป”
“...”
“คยูฮยอนบอกว่าตัวเองเป็นเพื่อนร่วมชั้นของซองมิน ก็เลยอยากจะช่วยเหลือ ตอนแรกอาตะขวิดตะขวางใจ....แต่แววตาของคยูฮยอนมันบอกว่าอยากช่วยเหลือจริง ๆ ตอนแรกอาก็แปลกใจนะ เขาเสนอจะช่วยเราตั้งมากมาย ทั้งออกค่ารักษาพยาบาลให้ฮานึล ทั้งช่วยส่งคนมาดูแลฮานึลตอนอาไม่อยู่ แต่กลับต้องการเพียงแค่ให้ซองมินไปอยู่กับเขา ตอนแรกอาไม่ยอม อานึกว่าเขา...หมิ่นเรา เพราะยังไงอาก็ไม่มีวันขายหลานตัวเองเพื่อเงินแน่ ๆ แถมดูที่เขาทำกับอาตอนนั้นสิ...เขาเป็นมาเฟีย อาไม่ค่อยไว้ใจเขา”
นารินเล่าพร้อมทอดสายตามองซองมินที่ยังคงหลบตาหนี ก่อนจะถอนลมหายใจเฮือกใหญ่
“แต่พอคุยไปคุยมา อาเริ่มรู้สึก...ว่าคยูฮยอนต้องการช่วยเราจริง ๆ แถมเวลาที่พูดถึงซองมิน แววตาเขาก็สะท้อนแววแปลก ๆ..”
ซองมินเริ่มขยับตัว คิ้วเรียวขมวดมุ่นมุ่นอย่างฉงนใจ...
คยูฮยอนต้องการอะไรจากเขากันแน่?
พอถึงประโยคต่อมานารินก็เริ่มขยับยิ้มกรุ้มกริ่ม “สุดท้ายอาเลยตัดสินใจส่งเราให้ไปเป็นพ่อบ้านนั่นแหละ เพราะเป็นผู้ชายทั้งคู่นี่นา...คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกเนอะ”
คำพูดที่ทำซองมินต้องสะอึก
เพราะเป็นผู้ชายนั่นแหละครับถึงยิ่งอันตรายยย!
“อามีเรื่องจะบอกแค่นี้แหละจ้ะ ดู ๆ แล้วคยูฮยอนเขาเป็นคนอารมณ์ร้าย แต่อาว่าลึก ๆ เขาอ่อนโยนดีนะ มีบางมุมลึกลับอีกต่างหาก หน้าตาก็หล่อเสียงก็ทุ้มนุ่ม สเปกอาเลย หุ ๆๆ” หญิงสาวพูดพร้อมหัวเราะอย่างมีจริต ซองมินจึงหรี่ตามองอีกฝ่าย...นี่ต่างหากที่เป็นเหตุผลหลักในการส่งผมไปให้เขาใช่มั้ยครับเนี่ย?
แต่ก็จริงอย่างที่อานารินว่านั่นแหละ
บางทีก็ร้าย บางทีก็อ่อนโยน บางทีก็ชอบแกล้ง...
“เฮ้อ..” ซองมินถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ
ถ้าคยูฮยอนเป็นอย่างที่อานารินพูดจริง...แล้วทำไมถึงต้องผลักไสเขาขนาดนี้ล่ะ
แถมพูดว่าเขาเป็นแค่คนใช้อีก!
ให้ตายเถอะ เขาชักจะเริ่มเดาอารมณ์คยูฮยอนไม่ถูกจริง ๆ ซะแล้ว
ไอแฟร์อยากสลบค่ะ orz...
แต่ไม่เม้นต์แฟร์โกรธนะ...ขอคำติชมหน่อยสิ กังวลนะเออ T T
จะพยายามมาอัพบ่อย ๆ เน้อ..
แฟร์ได้ไปป็อบมิวสิคด้วยแหละ พูดให้อิจฉาเล่น (ใครเขาจะอิจฉาแก!)
แต่ไอแฟร์ดันกลับสลบเหมือดก่อนที่ 2PM จะขึ้นค่ะ เสียดายมากกกกกก!!
ไม่น่าไปเร็วเลย ไอเราอุตส่าห์ลงทุนไปรอตั้งแต่บ่ายสอง ;_;
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
| ||||
| ||||
Name : soyminho< My.iD > [ IP : 125.27.57.110 ] |
| ||||
| ||||
Name : ~oRabbiTo~< My.iD > [ IP : 58.11.65.180 ] |
| ||||
| ||||
Name : happy@@@ [ IP : 125.26.188.126 ] |
| ||||
| ||||
Name : lovesarang [ IP : 114.128.176.55 ] |
| ||||
| ||||
Name : @_minto_@< My.iD > [ IP : 58.8.29.46 ] |
| ||||
| ||||
Name : naezii-oaezii< My.iD > [ IP : 112.143.20.100 ] |
| ||||
| ||||
Name : อิ อิ< My.iD > [ IP : 222.123.53.176 ] |
ความคิดเห็น