ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ Yaoi] Because I hate you เกลียดนาย...น้องชายของฉัน

    ลำดับตอนที่ #13 : Chapter 12 :: หลอกลวง [100%] ในที่สุดมันก็ครบ!!

    • อัปเดตล่าสุด 20 มิ.ย. 52


     

     

     

     

     

     

    ตอนที่ 12 หลอกลวง

     

    สุดท้ายก็แค่หน้ากากทั้งนั้นที่ฉันเคยเจอ

     

     

     

                เคยโดนตั้งความหวังไหม

     

     

                แล้วเคยมั่นใจว่าตัวเองจะทำได้หรือเปล่า

     

     

                เพราะยิ่งถูกตั้งความหวังมากเท่าไหร่  หากยิ่งล้มลงและทำได้ไม่ดีมากเท่าไหร่

     

     

                คนที่จะเจ็บปวด  ก็คือตัวเราเอง

     

     

                ทว่าในทางกลับกัน

     

     

    เพราะไว้ใจจึงถึงได้มอบภาระอันแสนหนังอึ้งให้

     

     

                เรื่องมันเริ่มมาตั้งแต่ในอดีต..

     

     

                เหล่าสองพรรคทั้งพรรคโซฮวา  และพรรคคังคยองเคยเป็นมิตรต่อกันมาก่อน  เคยร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันและมีรอยยิ้มที่จริงใจต่อกัน  ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่จะหาได้ยากยิ่งในวงการมาเฟียแห่งโลกมืด นั่นช่างนับเป็นเรื่องดี ใช่..

     

     

                แต่แล้วเรื่องที่ไม่คาดฝันกลับเกิดขึ้น

     

     

                การสูญเสียสิ่งที่แสนสำคัญทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองพรรคต้องขาดสะบั้นลง

     

     

                นั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง...ที่ไม่มีใครอยากให้เกิด

     

     

                คนที่เคยเป็นเพื่อนรักต้องกลับกลายเป็นศัตรู  เป็นคู่แข่ง  และระแวงซึ่งกันและกัน

     

     

    ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เขาจะได้รับภารกิจนี้

     

     

    สอดแนม

     

     

    ล้วงความลับ   แย่งชิง  หนอนบ่อนไส้  และทำลาย

    น็ปุ

     

     

              นี่คือบ้านของคุณหนูที่นายจะต้องปกป้องคุ้มครอง 

     

     

    เสียงของหัวหน้าหน่วยมือสังหารเอ่ยบอกกับชายหนุ่ม  เขาจึงพยักหน้ารับเบา ๆ ทำให้เส้นผมสีดำสนิทพอได้คลอเคลียไปกับใบหน้าคมก่อนที่นัยน์ตาสีรัตติกาลจะมองตามผู้ที่มีตำแหน่งเหนือกว่ากำลังเดินนำหน้าแล้วเดินตามไป

     

     

    ข้างในบ้านถูกประดับประดาด้วยสไตล์วิคตอเรียเช่นเดียวกับนอกบ้านซึ่งดูอบอุ่นและหรูหรา  โคมไฟระย้าราคาแพงหูฉี่และกระเบื้องลวดลายสวยงามประกอบกับสิ่งของหลาย ๆ อย่างภายในบ้านบ่งบอกถึงฐานะของคนในบ้านได้เป็นอย่างดี  นายของเขาเดินนำหน้าไปเรื่อย ๆ ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่ชายชุดดำร่างสูงใหญ่ที่กำลังเฝ้าอยู่บริเวณหน้าประตูคนหนึ่งแล้วพูดคุยกันเล็กน้อยพอเป็นถามพิธี  ก่อนที่ชายคนนั้นจะหยักหน้ารับแล้วหลีกถอยให้ทั้งสองเดินเข้าไปด้านใน

     

     

                ทั้งสองเดินเข้ามาในห้องที่คาดว่าน่าจะเป็นห้องรับแขก  นัยน์ตาสีรัตติกาลจึงกวาดมองไปทั่วห้องอย่างใคร่รู้ทำให้เห็นชายร่างสูงหน้าตาหล่อเหลาราวกับปะติกรรมชิ้นเอกท่าทางดีมีภูมิฐานคนหนึ่งกำลังนั่งด้วยท่าทีสบาย ๆ อยู่บนโซฟา  ทางด้านซ้ายมือของชายคนนั้นก็คือชายอีกคนที่มีดวงหน้าหวานราวกับอิสตรี  ส่วนรอบ ๆ ก็เต็มไปด้วยบอดี้การ์ดชุดดำร่างใหญ่อีกสองสามคน  นายของเขาโน้มตัวทำความเคารพอย่างสง่างามก่อนจะปริปากเอ่ยกับบุคคลในห้อง

     

     

                สวัสดีครับคุณยุนโฮ

     

     

                สวัสดี  ฉันกำลังรออยู่เลย เจ้าของชื่อคนนั้นขานตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบทว่าแฝงไปด้วยอำนาจดุดัน  เขาจึงคิดว่าชายร่างสูงคนนั้นน่าจะชื่อยุนโฮเป็นแน่

     

     

                ชอง  ยุนโฮหัวหน้าพรรคโซฮวาคนนั้น

     

     

                นี่คงจะคือคิม  เยซองสินะ

     

     

                ใช่ครับ นายของเขาตอบก่อนจะส่งสายตาให้ลูกน้องของตัวเองทำให้สิ่งที่ควรทำ  เยซองรู้ดี  เขาจึงโน้มตัวลงอย่างไม่รีรอ

     

     

                สวัสดีครับ ร่างโปร่งทักทายด้วยสีหน้าไร้อารมณ์  เพราะบอดี้การ์ดไม่จำเป็นต้องมีอารมณ์  แค่ปกป้องเจ้านายของตนด้วยชีวิตก็เพียงพอแล้ว

     

     

                สวัสดีเยซอง  นายคงจะคือบอดี้การ์ดคนใหม่ของเรียวอุคสินะ  ฉันชื่อชอง ยุนโฮ  พี่ชายของเรียวอุค  รอสักพักก็แล้วกัน  เดี๋ยวก็คงลงมาแล้วล่ะนั่นไง  มาแล้ว  เรียวอุค  มานั่งใกล้ ๆ พี่มา ยุนโฮระบายยิ้มบนใบหน้าพร้อมผายมือเรียกผู้เป็นน้องที่เพิ่งเดินเข้ามา  ร่างบางจึงเดินผ่านเยซองที่ยืนอยู่หน้าประตูไปยังผู้เป็นพี่แล้วนั่งตรงลงทางขวามือ

     

     

                อรุณสวัสดิ์ครับพี่ยุนโฮ  พี่แจจุง เสียงหวานใสราวกับระฆังแก้วเอ่ยบอก  ยุนโฮพยักหน้ารับแทนคำตอบในขณะที่ชายหน้าหวานราวกับอิสตรีเลือกที่จะพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดเสียงหวานพร้อมรอยยิ้ม

     

     

                อรุณสวัสดิ์จ้ะ

     

     

                นี่บอดี้การ์ดคนใหม่  คิม เยซอง ยุนโฮแนะนำร่างโปร่งให้น้องคนเล็กได้รู้จัก  เจ้าของชื่อจึงโค้งตัวลงอย่างน้อบน้อมพลางลอบสังเกตคนที่ขึ้นชื่อว่าจะได้เป็นนายใหม่

     

     

                และนี้คิม  เรียวอุค  ฝากน้องชายของฉันด้วยนะ  ฉันเชื่อมั่นในฝีมือนายเยซอง เสียงทุ้มฝากฝัง  น้ำราบเรียบแต่แฝงไว้ซึ่งด้วยอำนาจ  มันคือเค้าลางว่าหากเรียวอุคเป็นอะไรไปเขาจะไม่ได้ตายดี  เพราะฉะนั้นอย่าได้ทรยศความไว้วางใจของคน ๆ นี้เด็ดขาด

     

     

                ยินดีที่ได้รู้จักนะเยซอง เรียวอุคพูดเสียงหวานพร้อมแย้มรอยยิ้มพิมพ์ใจ  เส้นผมสีดำขลับตัดกับใบหน้าที่ออกไปค่อนข้างจะหวานสีขาวผ่องและน้ำเสียงทุ้มตามประสาเพศชายหากแต่กลับหวานใสทำให้ผู้ที่เพิ่งพบเจอต้องหลงเสน่ห์ได้อย่างไม่ยากเย็น  นั่นจึงคือข้อสงสัยที่ทำให้เยซองต้องแอบคิดอยู่ในใจว่าคนเป็นพี่เป็นน้องนั้นสามารถต่างกันได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ

     

     

                ในเมื่อคนพี่ช่างดูน่ากลัว  แต่คนน้องกลับดูเหมือนเทวดาน้อย ๆ มาจุติ

     

               

                งั้นเริ่มงานเลยนะฮะ  ปะเยซองฉันจะพานายไปดูห้อง ร่างบางพูดอย่างร่าเริง

     

     

                ไม่จำเป็นหรอกเรียวอุค  เดี๋ยวค่อยให้คนอื่นพาไปเยี่ยมชมก็ได้นี่นา พี่คนโตตระกูลชองพูดขัด

     

     

                ไม่เป็นไรหรอกครับ  ผมจะได้รู้จักกับเยซองไปในตัวด้วย พูดเองเออเองไม่ฟังคำห้ามปราบแล้วจับมือดึงบอดี้การ์ดหน้าใหม่ให้ออกไปจากห้องทันทีก่อนที่หนุ่มชองจะได้เอ่ยปาก  ฝั่งชายหน้าหวานราวกับอิสตรีที่นั่งเงียบดูเหตุการณ์มานานจึงอดหัวเราะไม่ได้

     

               

                น้องชายนายนี่น่ารักได้เสมอเลยนะยุนโฮ  คิม แจจุงหรือชายหน้าหวานคนนั้นพูดติดตลกหัวเราะร่วน  พี่ชายของคนถูกชมจึงได้แต่ทำหน้ามุ่ย

     

     

                เพราะงี้แหละถึงน่าเป็นห่วง  อัธยาศัยดีก็จริงแต่ใสซื่อแบบนี้ฉันกลัวจะตามคนไม่ทันร่างสูงถอนหายใจ  เขาเข้าใจว่าน้องชายเป็นคนแบบนั้น  แจจุงจึงหัวเราะคิกคักแล้วพูดขึ้นบ้าง

     

     

                ไม่แน่ก็ได้นะ  ฉันคิดว่าเรียวอุคน่ะฉลาดจะตาย

     

     

                แน่นอน  ฉลาดเหมือนพี่คนนี้นี่ไง เสียงทุ้มยอตัวเอง  มือบางจึงหยิกแก้มของอีกฝ่ายอย่างหมันเขี้ยวแล้วหยอกล้อเล่นกันต่อตามประสาคู่รักก่อนที่มือหนาจะคว้าขวับเข้าที่เอวบางแล้วดึงเข้ามาหาตัว

     

     

                ยุนโฮ  คนอยู่เต็มห้องเลยนะ!” เสียงหวานกระซิบเชิงจะดุเบา ๆ ร่างสูงจึงหัวเราะร่วนแล้วพูดหน้าตาย ไม่เห็นจะแคร์  เรียกนัยน์ตาเขียวปึ้ดจากคนรักได้เป็นอย่างดี  หนุ่มชองก็เลยยื่นข้อเสนอต่อไปไปให้

     

     

                งั้นถ้าไม่มีใครอยู่ในห้องก็ทำได้ใช่มั้ย

     

     

                ห๊ะ จะ  จะ  จะบ้าเหรอ!!” แจจุงหน้าแดงแป๊ดเรียกเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานได้จากยุนโฮเป็นชุดใหญ่  ทำให้บอดี้การ์ดในห้องอดที่จะยิ้มตามไปกับคู่รักหวานชื่นตรงหน้าไม่ได้  ในขณะที่บอดี้การ์ดบางคนยังคงมองภาพนั้นด้วยสีหน้าว่างเปล่ายากที่จะคาดเดาอารมณ์

     

     

                มีความสุขให้มาก ๆ นะชอง  ยุนโฮ

     

     

                เพราะต่อไปหลังจากที่บางอย่างถูกคำสั่งให้เริ่มก้าวเดิน

     

     

                วันนั้นล่ะจะเป็นวันที่นายต้องเจ็บปวดเจียนตาย..

               

     

     

    ……

     

     

     

    นี่คือห้องของนายล่ะ  เป็นไงน่าอยู่ดีมั้ย ผู้เป็นนายเอ่ยเสียงใสแล้วเดินนำหน้าเข้ามาในห้อง  บอดี้การ์ดหน้าใหม่จึงได้แต่รับคำไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

     

     

    ครับ

     

     

    ห้องนี้ถือว่าน่าอยู่มากเลยทีเดียว  มีอุปกรณ์บันเทิงและอำนวยความสะดวกพร้อมครบครั้น  ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นคลาสลิคสบาย ๆ เน้นไปที่โทนสีน้ำตาล  สีขาวและสีดำ  ดูน่าอยู่มากจนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นของบอดี้การ์ดอย่างเขา

     

     

    ห้องนี้จะต่อกับห้องของฉันโดยมีประตูบานนี้เป็นตัวเชื่อมต่อ   ถ้าฉันเรียกนาย ๆ ก็ต้องมาหาฉันทันที  เข้าใจนะ พูดพร้อมชี้ไปที่ประตูบานหนึ่งที่อยู่ใกล้ ๆ ตู้กระจกให้ดู  เยซองจึงพยักหน้าเนิบ ๆ เป็นเชิงเข้าใจ

     

     

    ครับ

     

     

    นายนี่ชอบพูดแต่ครับ ๆ มีคำอื่นบ้างมั้ยเนี่ย  ลองพูดให้ฉันฟังหน่อยสิ

     

     

    ได้ครับคุณหนู

     

     

    คำพูดที่ออกมาตามคำสั่งทำเอาร่างบางต้องกุมขมับ  ไม่รู้ว่าจงใจกวนทีนหรือใสซื่อจริง ๆ กันแน่  แต่เอาเถอะยังไงมันก็ยาวกว่าคำว่าครับล่ะนะ

     

     

    อ๋อ  แล้วก็ห้องน้ำ  รับรองว่านายต้องชอบ  ตามฉันมาสิ เรียวอุคทำหน้าเหมือนคนเพิ่งนึกอะไรออกแล้วยิ้มใสซื่อราวกับเจ้าบานที่ดีพร้อมเดินนำหน้าไป  ร่างสูงจึงเดินตามไปถึงแม้จะตะขิดตะขวางในใจเล็กน้อย  ในเมื่อเขาเป็นแค่บอดี้การ์ดไม่เห็นจะต้องมาใส่ใจเขาขนาดนี้เลยนี่นา

     

     

    หรือว่าจะมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงกัน..

     

     

    เยซองก้าวตามเข้าไปในห้องน้ำอย่างไม่รีบร้อน  ห้องน้ำนี้เป็นห้องน้ำกว้างขวางสีขาวสะอาดตาดูสะดวกสบาย  หากแต่มันกลับทำให้เขาแปลกใจยิ่งขึ้นเมื่อไม่มีคนอยู่..

     

     

    คุณหนู

     

     

    เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างเริ่มใจเสีย  กวาดนัยน์ตาไปทั่วห้องน้ำก่อนที่จะเบิกตากว้างเมื่อสัมผัสได้ถึงบางอย่างแล้วหยุดนิ่งอยู่ที่เดิมพลางพยายามเหล่ตามองไปทางด้านหลัง

     

     

    วัตถุมัจจุราชสีดำกำลังจ่ออยู่ที่ศีรษะของเขา...

     

     

    ทำไม เยซองพูดเสียงเรียบ  ทำให้อีกฝ่ายต้องตอบด้วยน้ำเย็นชาไม่ต่างกัน

     

     

    ก็เพราะฉันรู้ความลับของนายไง..

     

     

    ความลับ?

     

     

    ใช่  ความลับ.. น้ำเสียงหวานราวกับระฆังนั้นขานตอบพร้อมเดินเพื่อเคลื่อนย้ายร่างกายมาไว้ที่ด้านหน้าของร่างสูงแทน  หากแต่มือบางก็ยังถือปืนจ่อหัวของอีกฝ่ายไว้แบบนั้น  นัยน์ตาหวานของเรียวอุคจ้องมองเข้าไปในนัยน์ตาของอีกฝ่ายอย่างบีบเค้นคำตอบ

     

     

    ฉันรู้ว่านายเป็นสายสืบให้กับพรรคคังคยอง

     

     

    “…”

     

     

    ถ้าความลับนี้แพร่งพรายออกไป  ทั้งนายและพรรคของนายจะแย่รู้ดีใช่มั้ย

     

     

    นายต้องการอะไร

     

     

    เยซองเอ่ยเสียงเรียบ  แววตาที่จ้องมองลึกเข้าไปในแววตาของอีกฝ่ายยังคงนิ่งเรียบไม่ไหวติ่ง  ดูมั่นคงเสียซะจนร่างบางต้องเป็นฝ่ายสะอึกเองคน ๆ นี้ยอมตายได้เพื่อพรรคของตัวเองแน่นอน

     

     

    เพราะกฎเหล็กของการเป็นสายลับก็คือ…’หากถูกจับได้ต้องตายให้เร็วที่สุด

     

     

    นี่คือข้อปฏิบัติที่ใคร ๆ ก็ย่อมรู้ดี..

     

     

    ฉันอยากให้นายช่วย เรียวอุคลดปืนลงพร้อมเริ่มพูดเข้าถึงประเด็น  ร่างสูงจึงขมวดคิ้วมุ่น

     

     

    แล้วทำไมต้องพูดในห้องน้ำ

     

     

    ห้องน้ำคือที่ ๆ เดียวที่ปลอดภัยจากเครื่องดักฟังและกล้องวงจรปิดมากที่สุด ร่างบางเอ่ยตอบ ก่อนจะวกกลับเข้าประเด็นหลัก

     

     

    นายจะช่วยฉันได้หรือเปล่าคำขอร้องเฉกเช่นเดิมที่ทำให้ร่างสูงต้องขมวดคิ้วอีกเป็นชุดใหญ่

     

     

    แต่พรรคโซฮวาของพี่ชายนายเป็นศัตรูกับพรรคฉัน

     

     

    ใช่  เพราะอย่างนั้นแหละฉันถึงต้องการให้นายช่วยถ้อยคำของร่างบางดูรีบร้อนและลุกลี้ลุกลน

     

     

    นายไม่สงสัยบ้างเลยเหรอว่าทำไมจู่ ๆ พรรคโซฮวาที่เคยเป็นมิตรกับพรรคคังคยองอยู่ดี ๆ ถึงกลายเป็นศัตรูกัน

     

     

    “…” เยซองนิ่งเงียบแทนคำตอบ  สงสัยสิทำไมจะไม่สงสัยล่ะ  แต่สงสัยไปจะได้อะไรขึ้นมาในเมื่อรู้มากไปก็มีแต่ก็เป็นภัยแก่ตัว

     

     

    เรียวอุคเมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งเงียบไปแบบนั้นจึงรีบถามต่อ นายคงเคยได้ยินใช่มั้ยว่าพี่ชายฉันกับหาน  ฮันคยองแห่งพรรคคังคยองเคยเป็นเพื่อนรักกัน

     

     

    อีกคราที่นัยน์ตาคมต้องจ้องมองคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ  เขาเคยได้ยินแน่นอนแต่เขาก็ไม่อยากด่วนสรุปในเมื่อทั้งสองที่อยู่คนละพรรคกำลังเป็นศัตรูกัน  เรียวอุคตีสีหน้าเรียบนิ่ง  ก่อนที่ริมฝีปากได้รูปจะเริ่มปริเอ่ย..

     

     

    พี่ชายของฉันสูญเสียคนรักไปเมื่อสามปีก่อน

     

     

    “..”

     

     

    ตอนนั้นก่อนจะเกิดเรื่องพี่ยุนโฮสนิทกับพี่ฮันคยองมาก ๆ จะใช้คำว่าเพื่อนรักเลยก็คงไม่ผิด  แต่แล้วจู่ ๆ ทั้งสองกลับหลงรักผู้หญิงคนเดียวกัน  พี่ยุนโฮตกใจมากเมื่อได้รับรู้เรื่องนั้น  แต่แล้วเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะคิดว่าตนเป็นลูกผู้ชายพอที่ร่วมกันแข่งอย่างสมศักดิ์ศรีว่าใครจะได้หัวใจของเธอไปครอง  ซึ่งผลสุดท้ายก็สรุปว่าผู้หญิงคนนั้นหลงรักพี่ยุนโฮ  พี่ฮันคยองเสียใจแต่เขาก็ไม่พูดอะไร  เขาฉลาดพอที่จะยอมรับการตัดสินครั้งนี้โดยรักษาความเป็นเพื่อนกับพี่ยุนโฮต่อไปและภาวนาให้ทั้งสองมีความสุขเรียวอุคเล่าเรื่องด้วยน้ำเสียงธรรมดา  แต่พอจากนี้ไปก็เริ่มสะดุดและแผ่วเบาลงเรื่อย ๆ จนร่างสูงสามารถสังเกตได้ถึงความเศร้าสร้อยที่ปนอยู่ในน้ำเสียงหวานนั่น

     

     

    หลายเดือนต่อมา  เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นผู้หญิงคนนั้นเริ่มที่จะหันมารักพี่ฮันคยอง  ในขณะที่พี่ฮันคิดกับผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่เพื่อนแล้ว  เพราะหลังจากที่โดนหักอกเขาก็ได้เข้าใจว่าเขาไม่ได้รักเธอจริงจัง  มันเป็นแค่ความรู้สึกหลงชอบชั่ววูบชั่วขณะ  แต่พี่ยุนโฮต่างหาก  ที่รักเธอเข้าจริง ๆ

     

     

    “…”

     

     

    แล้ววันหนึ่งผู้หญิงคนนั้นก็เรียกพี่ฮันออกไปคุย  พี่ยุนโฮที่เดินตามมาเห็นพอดีจึงแอบสะกดลอยตามไปซุ่มดูอยู่หลังพุ่มไม้  แล้วเกิดอะไรขึ้นต่อรู้มั้ย  ผู้หญิงคนนั้นมันทรยศพี่ยุนโฮ!  มันบอกรักกับพี่ฮันแล้วบอกว่ามันไม่เคยรักพี่ยุนโฮเลย  การที่มันเคยรักพี่ยุนโฮเป็นแค่ความหลงชอบชั่ววูบเท่านั้น!” น้ำตาใสเริ่มไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย  เขาเข้าใจความรู้สึกของพี่ชายดีว่าการถูกหักหลังมันเป็นยังไงในเมื่อเขามีสายเลือดเดียวกัน

     

     

    พี่ของฉันต้องเจ็บแค่ไหนก็เพราะมัน!  แต่พี่ฉันไม่พูด  เพราะเขาโทษตัวเองต่างหาก  เขาโทษที่ตัวเองที่ไม่ดีพอจนผู้หญิงคนนั้นต้องหันไปรักคนอื่น..

     

     

    โทษตัวเองที่ไม่ดีพอ

     

     

    ไม่ดีพอที่แม้จะรั้งคนที่ตัวเองรักไว้ก็ยังทำไม่ได้

     

     

    แล้วเกิดอะไรขึ้นรู้มั้ย  ผู้หญิงคนนั้นมันขอเลิกกับพี่ยุนโฮ!  มันบอกว่ามันรักพี่ฮันมากกว่า  ขอบคุณสำหรับทุก ๆ อย่าง  เฮอะดูพูดง่าย  พูดง่าย ๆ ในขณะที่พี่ชายฉันต้องเจ็บเจียนตาย!  และสุดท้ายเรื่องนี้ก็จบ  จบแบบที่ไม่มีใครต้องการ!  พี่ยุนโฮเรียกทุกคนออกมาพร้อมหน้ากันเพื่อจะเคลียร์เรื่องนี้  แต่เพราะพี่ยุนโฮเพิ่งได้ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคของโซฮวาคนใหม่ทำให้ถูกหมายหัวจากพวกพรรคอื่น  แล้วตอนนั้นมีการซุ่มลอบสังหารพี่ยุนโฮพอดี  และเพราะผู้หญิงคนนั้นและพี่ฮันกำลังอยู่ในเหตุการณ์ด้วยก็เลยโดนลูกหลง  มีคนถือปืนเล็งมาที่พี่ฮัน  แล้วผู้หญิงคนนั้น...ฮึก.. ผู้หญิงคนนั้นกลับเอาตัวเอาบังรับกระสุนแทน..”

     

     

    เพราะเขายังจำเหตุการณ์นั้นได้

     

     

    เธอคนนั้นที่กระโดดรับกระสุนแทนฮันคยอง..เพื่อคนที่ตัวเองรัก

     

     

    ปกป้องคนหนึ่ง

     

     

    ..แต่อีกคนกลับใจสลาย

     

     

    นับตั้งแต่วันนั้นมาคำว่าเพื่อนรักของพี่ชายฉันและพี่ฮันเลยกลายเป็นแค่อดีต  พี่ชายฉันเกลียดพี่ฮันเข้ากระดูกดำเพราะคิดว่าพี่ฮันเป็นต้นเหตุทำให้ผู้หญิงคนนั้นต้องตาย.. และดูเหมือนความพยายามในการเล่าเรื่องของเรียวอุคจะเริ่มสิ้นสุดลงเมื่อน้ำเสียงหวานเริ่มสะอื้นไห้อยู่เงียบ ๆ  ริมฝีปากบางกับฟันเรียงสวยกัดเข้าหากันจนมันเริ่มแดงช้ำเพื่อกลั้นเสียงไม่ให้เล็ดลอดออกมา  เยซองก้มหน้านิ่ง  ก่อนที่ท่อนแขนแกร่งจะค่อย ๆ รวบคนตัวเล็กกว่าที่เป็นฝ่ายของศัตรูให้เข้ามาในอ้อมกอด

     

     

    รู้ดีว่าไม่ควร

     

     

    คนตรงหน้าคือศัตรู

     

     

    ดังนั้นที่ได้ฟังมามันอาจจะเป็นแค่เรื่องที่แต่งขึ้นเองเพื่อให้เขาตายใจ

     

     

    แต่ทำไม...

     

     

    เขาถึงไม่ชอบที่จะให้คนตรงหน้าร้องไห้เลยนะ

     

     

    นาย...อยากจะให้ฉันช่วยอะไร

     

     

    เอ๋..

     

     

    นายอยากจะให้ฉันช่วยนายยังไง เสียงทุ้มทวนอีกรอบทั้ง ๆ ที่ยังกอดอีกฝ่ายเอาไว้แบบนั้นพลางใช้มือหนากดให้หัวทุยซบเข้าที่อกของเขาเพื่อไม่ให้ได้เห็นสีหน้าที่กำลังแดงระเรื่อด้วยความรู้สึกไม่แน่ใจว่ากำลังสับสนหรืออะไรกันแน่  ส่วนอีกฝ่ายเมื่อจู่ ๆ ก็ถูกกอดถูกปลอบแบบนี้แก้มพวงใสจึงขึ้นสีชมพูอย่างช่วยไม่ได้

     

     

    อะอืมพี่ของฉันไม่ใช่คนที่จะตัดสินใจอะไรได้ง่ายขนาดนั้น  ยิ่งกลับพี่ฮันที่สนิทกันมานานยิ่งต้องมีอะไรที่สำคัญมาก ๆ จริง ๆ ถึงจะเกลียด...แต่คราวนี้  พี่ยุนโฮกลับเกลียดพี่ฮันเข้ากระดูกดำได้ง่ายเกิน...จนเหมือนไม่มีเหตุผล  ฉันก็เลยคิดว่าพี่ฉันต้องโดนเป่าหูเข้ามาก ๆ แน่

     

     

    นายกำลังจะบอกว่า…” เยซองลากเสียงแผ่วเบา  เรียวอุคจึงพยักหน้าเล็กน้อยทำให้ใบหน้าหวานถูไถไปตามอกแกร่งแล้วจึงดันตัวออกมา

     

     

    คนที่จะเป่าหูพี่ฉันได้  ต้องเป็นคนที่พี่ฉันไว้ใจได้มาก ๆ เท่านั้น เสียงหวานเอ่ยตอบ  เยซองจึงทำหน้ากรุ่นคิด  คนที่สนิทกับยุนโฮมากจนทำเรื่องแบบนี้ได้ที่เขารู้ ๆ มาก็มีแค่ไม่กี่คน  มีเรียวอุคที่เป็นน้องชาย  หัวหน้าพรรคองค์กรที่ส่งเขามา  หัวหน้าพรรคองค์กรอีกสององค์กร  และก็..คิม  แจจุงที่เป็นแฟนหนุ่ม

     

     

    เรียวอุคไม่น่าใช่  ดังนั้นก็เหลือหัวหน้าองค์กรพวกนั้นอีกสามองค์กรเพราะแจจุงเองก็ไม่น่าจะใช่เหมือนกัน..

     

     

    ไม่ใช่หัวหน้าองค์กรอีกสามคนหรอก เรียวอุคพูดอย่างรู้ทัน  เขาคิดว่าสายลับอย่างเยซองต้องสืบประวัติยุนโฮมาก่อนเป็นแน่  และเขาก็คิดถูกเมื่อใบหน้าคมเริ่มจะขมวดคิ้วยิ่งขึ้นไปอีก

     

     

    งั้นผู้ต้องสงสัยก็เหลือแค่คนเดียว

     

     

    ไม่...ไม่น่าใช่

     

     

    ชายหน้าหวานที่ชื่อแจจุงน่ะหรือจะคือคนเป่าหูชอง  ยุนโฮ

     

     

    บางอย่างก็ไม่ใช่สิ่งที่เราเห็นหรอก.. เสียงหวานพูดแผ่วเบาให้ขบคิด

     

     

    เพราะไม่ใช่สิ่งที่เราเห็น

     

     

    เพราะหลอกลวง

     

     

    เพราะไว้ใจไม่ได้

     

     

    เพราะฉะนั้น...คนที่เราคิดว่าดีที่สุด  รักที่สุด  อาจจะต้องเป็นคนที่ร้ายที่สุด...หรือเกลียดที่สุด

     

     

    และเยซองที่ได้ยินดังนั้นจึงเริ่มแน่ใจขึ้นมาอีกหน่อย  ไม่..จะใช่คน ๆ นั้นจริงเหรอ  ร่างสูงคิดในใจก่อนจะเอ่ยออกไป ถ้างั้น...

     

     

    ใช่ น้ำเสียงหวานเอ่ยบอก  ตอกย้ำสิ่งที่อีกฝ่ายคิดให้กระจ่าง  นัยน์ตาสุกใสจ้องมองเข้าลึกไปในดวงตาของอีกฝ่าย คนที่เป่าหูพี่ชายของฉัน..

     

     

    ..

     

     

    ก็คือคิม  แจจุง

     

     

     

     

     

     

     

    ฮื้ม~” ซองมินฮึมเพลงในลำคอพลางหยิบเสื้อตัวใหญ่ของคยูฮยอนที่ผ่านการซักแล้วขึ้นมาจากตะกร้าขึ้นตากตรงราวอย่างอารมณ์ดี  อากาศแบบนี้แหละที่เหมาะกับการตากผ้า!  ตอนนี้แดดกำลังร่ม  แต่เดี๋ยวอีกหน่อยก็คงแดดจัด

     

     

    สวัสดีครับ เสียงทุ้มที่ไม่คุ้นเคยเอ่ยขึ้นจากทางด้านหลัง  ซองมินจึงชะงักแล้วหันไปตามเสียง  ปรากฏให้เห็นคนที่รู้จักกำลังยืนยิ้มอย่างเป็นยิ้มให้กับเขาอย่างเป็นมิตรอยู่นอกประตูรั้วบ้านของคยูฮยอน(ที่มีแต่ลวดหนามขึงอยู่อย่างกะป้องกันข้าศึก)

     

     

    อะ  เอ่อ..สวัสดีครับ ตอบกลับไปแบบลังเลใจ  คยูฮยอนเคยย้ำนักย้ำหนาว่าห้ามคุยกับคนแปลกหน้าที่พบเจอที่นี่ไม่ว่ามันจะเป็นใครหน้าไหนก็ตาม

     

     

    คยูฮยอนคงบอกคุณว่าห้ามคุยกับผมสินะครับ ชายหนุ่มที่ยืนนอกประตูรั้วตีหน้าเศร้ายิ้มฝืด ๆ  ซองมินจึงเริ่มลุกลี้ลุกลนปฏิเสธ

     

     

    ม่ะ  ไม่ใช่หรอกครับ  ผมกำลัง...เอ่อ  คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยสมองเลยโต้ตอบคุณช้า ร่างเล็กเลือกตอบแบบที่คิดว่าดีที่สุด  ถึงแม้มันจะทำให้อีกฝ่ายเข้าใจว่าตนเป็นพวกเอ๋อ ๆ พัฒนาการทางสมองช้าก็ตาม

     

     

    แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้คิดว่าซองมินเป็นเด็กเอ๋อเลย  ซีวอนแย้มยิ้มอย่างโล่งใจก่อนจะยื่นกระเช้าผลไม้ให้

     

     

                น้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ จากผม.. สายตาคมผลุบลงต่ำ  ก่อนจะค่อยตวัดขึ้นสบตากับซองมินเหมือนเดิม ยังไงก็ฝากให้คยูฮยอนด้วยนะครับ  และฝากบอกด้วยว่าผมเป็นห่วงเขาเสมอ..”

     

     

                น้ำเสียงของซีวอนดูเศร้าสร้อยและเป็นห่วงบุคคลที่สามอย่างชัดเจน  หากแต่ก็ยังคงพยายามที่จะแย้มยิ้มฝืด ๆ ออกมา  นัยน์ตาของซองมินจึงเริ่มอ่อนลง

     

     

                ยังไง..ก็เข้ามาดื่มน้ำเย็น ๆ ในบ้านก่อนก็ได้นะครับ  จะได้ถือเป็นสิ่งตอบแทนเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับกระเช้าผลไม้นี่ด้วย ซองมินเสนอ  รู้ทั้งรู้  ตัวเองกำลังฝ่าฝืนคำสั่งของคยูฮยอน  แต่ในบางทีคยูฮยอนก็ชอบทำอะไรไม่มีเหตุผลนี่นา  คนตรงหน้าก็ดูจะเป็นห่วงเป็นใยคยูฮยอนขนาดนี้...แล้วทำไมจะต้องเกลียดกันด้วยล่ะ?

     

     

                ร่างโปร่งพยักหน้ารับ  ก่อนจะเดินเข้ามาในประตูรั้วที่ซองมินเปิดเอาไว้ให้

     

     

                น่าอยู่ดีนะครับ พูดพร้อมกอดสายตามองไปทั่วบ้าน  ในขณะที่ซองมินกำลังเดินเอากระเช้าผลไม้เข้าไปวางในห้องครัว  ก่อนจะออกมาอีกทีพร้อมกับน้ำเย็นหนึ่งแก้ว

     

     

                ขอบคุณครับ ร่างโปร่งยิ้มพลางรับน้ำดื่มมาจากร่างเล็ก ผมชื่อซีวอน  เป็นพี่ชายคนละแม่ของคยูฮยอน

     

     

                ผมชื่อซองมิน ร่างเล็กแนะนำตัวบ้าง เป็นพ่อบ้านของคยูฮยอน

     

     

                พ่อบ้าน?” ซีวอนทวนคำ

     

     

                ครับ  พ่อบ้าน

     

     

                น่าแปลก คิ้วเรียวขมวดมุ่นด้วยความสงสัย คุณยังเด็กอยู่เลย

     

     

                อ๋อ  ผมอยากจะหางานพิเศษทำเฉย ๆ น่ะครับ ซองมินหัวเราะแห้ง  จะให้บอกได้ยังล่ะว่าติดหนี้จนต้องมาทำงานใช้เนี่ย!

     

     

                ขยันจัง นัยน์ตาคมออกแววชื่นชม ผมชอบคนขยัน  ถ้าขาดตกบกพร่องเรื่องอะไรก็บอกผมได้นะครับ  ผมยินดีช่วยเสมอ

     

     

                ร่างเล็กพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มแห้งพร้อมกล่าวขอบคุณ  รู้สึกเสียวสันหลังวาบกับไอคำว่า ชอบคนขยันยังไงก็ไม่รู้

     

     

                ว่าแต่  คุณซีวอน...พักอยู่ที่บ้านเรือนใหญ่นั้นใช่มั้ยครับ ซองมินถามต่อ

     

     

                ครับ  ผมพักอยู่ที่นั้น  แต่ช่วงนี้งานเยอะมาก  นาน ๆ ทีผมจะได้กลับมาพักที่นี่และเยี่ยมครอบครัว ซีวอนตอบ  ก่อนจะเงียบไปสักครู่แล้วถามต่อ

     

     

                คยูฮยอนสบายดีหรือเปล่าครับ

     

     

                อ๋อครับ  สบายดี ซองมินตอบ  ก่อนจะเหลือบมองซีวอนอย่างชั่งใจแล้วเปิดปากถาม

     

     

                คุณ...ไม่ถูกกับคยูฮยอนเหรอครับ อยากจะกัดลิ้นตัวเองตาย  เรื่องในครอบครัว  ใครจะมาบอกคนนอกอย่างแกกันเล่าซองมิน!

     

     

                คุณซีวอนจะต้องคิดว่าเราเป็นพวกชอบเ-สื-อ-กแน่ ๆ เลย!

     

     

                ซีวอนนิ่งไปชั่วอึดใจ  ซองมินเห็นดังนั้นจึงรีบลุกลี้ลุกลนขอโทษขอโพย

     

     

                ถ่ะ  ถ้าไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องเล่าก็ได้นะครับ

     

     

                ความจริงเรื่องในครอบครัวมันไม่สมควรจะเล่าอยู่แล้วด้วยซ้ำ!

     

     

                ไม่เป็นไรหรอกครับ  ถ้าเป็นคุณ...ผมจะเล่าให้ฟังก็ได้

     

     

                พูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม  แต่ทว่านั้นมันก็ทำซองมินลำบากใจไม่น้อย

     

     

                ถ้าเป็นเขา  ซีวอนจึงเล่าให้ฟังงั้นเหรอ

     

     

                เพราะอะไรกัน?

     

     

                อย่างที่บอกไป...ผมและคยูฮยอนเป็นพี่น้องคนละแม่กัน เมื่อเสียงทุ้มเริ่มเล่าถึงอดีต  นัยน์ตาคมก็ดูเศร้าหมองลง  แต่แม่ของผม...ท่านเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของพ่อผม  และแม่ของคยูฮยอน..ก็คือภรรยานอกกฎหมาย

     

     

                ..

     

     

                ผมเข้าใจคยูฮยอน...เขาเป็นลูกที่เกิดมาโดยไม่ได้ตั้งใจ  อีกทั้งแม่ของเขาก็ป่วยตายตั้งแต่ผมและเขายังเด็ก  ที่พ่อของผมยังเลี้ยงดูคยูฮยอนไว้..ก็เพราะท่านรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับคุณปู่  คยูฮยอนจึงได้รับการเลี้ยงดู  แต่กลับไม่ได้รับความรัก  ผม..ผม...พยายามที่จะทำตัวเป็นพี่ที่ดีของเขา แต่..

     

     

                น้ำเสียงของซีวอนขาดหายไป  ความรู้สึกผิดเริ่มเข้ามาแทนที่  ซองมินจึงจ้องมองอีกฝ่ายอย่างสงสารก่อนจะบีบมือหนาของซีวอนเบา ๆ

     

     

                คุณพยายามดีที่สุดแล้ว เสียงหวานพยายามปลอบ ผมจะช่วยพูดกับคยูฮยอนให้เอง

     

     

                คุณซองมิน..”

     

     

                เรียกผมว่าซองมินเฉย ๆ เถอะครับ  ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันแล้ว รอยยิ้มหวานประดับบนใบหน้าหวังให้อีกฝ่ายใจชื้น  และได้ผล...นัยน์ตาของซีวอนเริ่มสดใสขึ้นด้วยความดีใจ

     

     

                ขอบใจมากนะ เสียงทุ้มพูด  เขาอยากจะทำตัวเป็นพี่ชายที่ดี  แต่คงจะเป็นเพราะคยูฮยอนเป็นลูกที่ไม่ได้รับการสนใจ  แตกต่างจากเขา...ที่เป็นลูกทีได้รับการสนใจ คยูฮยอนจึงอิจฉาและเกลียดเขา

     

     

                ไม่เป็นไร ซองมินพูด  แย้มรอยยิ้มเอาไว้เบื้องหน้าทั้ง ๆ ที่ในใจเต็มไปด้วยคำถามมากมาย

     

     

                ที่คยูฮยอนเกลียดซีวอน...ก็เพราะเหตุผลนี้จริง ๆ น่ะเหรอ

     

     

                ที่คยูฮยอนเกลียดคนในบ้านหลังนั้น...ก็เพราะแบบนี้จริง ๆ ใช่ไหม

     

     

                เพราะแบบนี้ใช่ไหมนายถึงบอกว่าโลกที่นายอยู่มันโหดร้ายกว่าโลกที่ฉันอยู่เยอะ

     

     

                คยูฮยอน..

     

               

     

     

     

    มาแบบมั่ว ๆ มึน ๆ =[]=!

               

     

     

    ความคิดเห็นที่ 97 (จากตอนที่ 13)
    เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ ไรเตอร์
    เรื่องนี้สนุกมากๆเลยค่ะ  ขอบคุณค่ะ TwT
    ไรเตอร์รีบอัพต่อเร้วๆนะค่ะ  จ้า..
    เอ่อ...ทำไมแจถึงทำอย่างนี้ล่ะเนี้ย
    ไรเตอร์รีบเฉลยนะค่ะ 
    จ้า >O<
    Name : อิ อิ< My.iD > [ IP : 222.123.205.180 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 7 มิถุนายน 2552 / 00:16

    ความคิดเห็นที่ 96 (จากตอนที่ 13)
    เรื่องเริ่มเข้มข้นขึ้น...
    ความจริงบางอย่างเริ่มเปิดเผย...และซับซ้อนได้อีก -_-"  ถูก แต่...555+  แฟร์ลืมพล็อตมันหมดแล้ว  ไม่ได้แต่งนาน T_T

    มาต่อให้จบนะไรเตอร์...รออ่านอยู่
    Name : รักฮันฮยอก [ IP : 58.136.50.162 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 27 พฤษภาคม 2552 / 02:06

    ความคิดเห็นที่ 95 (จากตอนที่ 13)

    เปิดตัวเย ก็มีเยเรียวเลยหรอแฟร์!!!  เยส!

    แจเป็นคนร้ายหรอยังไงกันเนี่ย ชักจะงง-*-  ไม่บอก  ฮิ้วว

    หนูเรียวร้ายเงียบ พี่ตัวเองยังไม่รู้เลย  555+  แฟร์ชอบแบบนี้

    อัพๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


    PS.  Super Junior 3rd album!!!! Sorry Sorry
    Name : @_minto_@< My.iD > [ IP : 58.8.28.21 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 17 พฤษภาคม 2552 / 20:39

    ความคิดเห็นที่ 94 (จากตอนที่ 13)
    เริ่มมีเยเรียวมาแล้วดีใจจัง 

    อย่าลืมมาต่อให้ครบ 100%นะจ๊ะ  มาแล้วจ้ะ  หลังจากที่หายไปหนึ่งเดือนเต็มกับอีกสี่วัน -*-

    อยากอ่านเรื่องของป๋ากับฮยอกอ่ะ

    แต่ไม่เป็นไรเพื่อแฟร์แล้วเรารอได้  โอ้ว =[]=;;

    ขอแบบเศร้าจนน้ำตาไหลเลยนะ 
    จะพยายามจ้ะ... orz
    Name : soyminho< My.iD > [ IP : 125.27.6.45 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 17 พฤษภาคม 2552 / 14:08

    ความคิดเห็นที่ 93 (จากตอนที่ 13)
    ซับซ้อนได้อีกอ่า
    55555.
    อ่านแล้วเดาไม่ได้เลยอ่า  เหรอ  แหะ ๆ
    รีบมาอัพเร็วๆนะคะ:))   ค่า >_<
    PS.  ขอบคุณที่มาเป็นเพื่อนกัน:D
    Name : naezii-oaezii< My.iD > [ IP : 112.143.28.206 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 17 พฤษภาคม 2552 / 12:15

    ความคิดเห็นที่ 92 (จากตอนที่ 13)
    เอิ๊กกก เยเรียวมาแว้ววววว
    วี๊ดวิ๊ววววว

    โอววว..ต้องแอบกลับไปอ่านตอนก่อนๆนิสนึง
    เพราะแอบงงในความเป็นมา แง้ววว
    คดีนี้..ซับซ้อนซ่อนเงื่อน ทางเดียวที่จะช่วยได้
    คือ..จ้างนักสืบโคนัน <<เกี่ยวไม๊???? คริคริ   555+

    ตอนที่พี่เย่เอาอุ๊คกี้เข้ามากอด
    ..เลยทำให้คิดว่า เมะเรื่องนี้แอบหื่นทุกคนเรยนะเนี่ย55        ถูก  ทำไมต้องกอด!  55+


    ไรเตอร์...อัพต่อเร็ววว ไม่ทันใจเด๋วปั๊ดจับกด55  กำ ใครจะกดกันแน่จ้ะ 55

    Name : pommie [ IP : 58.8.100.148 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 17 พฤษภาคม 2552 / 05:43

    ความคิดเห็นที่ 91 (จากตอนที่ 13)
    โอ้ แจจ๋า  -  -
    เรื่องมันช่างซับซ้อนซ่อนเงื่อน =[]=  แฟร์กลัวคนอ่านงงมาก orz


    ทำเอาพี่มึน 555
    เดี๋ยวขอไปอ่านอีกรอบเพื่อทำความเข้าใจก่อนนะแฟร์  ค่า
    และสุดท้าย อัพซะ -  -+
    อ่า...อัพแล้ว ;_;  ฮืออ
    PS.  E.L.F. = Ever Lasting Friend
    Name : ~รักฮีซอล~< My.iD > [ IP : 222.123.137.85 ]
    Email / Msn:
    วันที่: 16 พฤษภาคม 2552 / 21:14

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×