คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 11 :: แฟนสาวของฮยอกแจ 2
ตอนที่ 11 แฟนสาวของฮยอกแจ 2
...ใจเต้น? เอิบอิ่ม? หน้าแดง? มีความสุข?
ฤดูกาลแปรผัน
ดอกไม้แย้มบาน
ใบไม้โรยรา
เปลี่ยนจากสีเขียว...เป็นสีน้ำตาลซีดแข็งกรอบ ร่วงโรยลงกระทบผิวน้ำใส
คลื่นน้ำกระจายแผ่ออกไป...จนกระทั่งหมดลง แล้วกลมกลืนไปกับผืนน้ำกว้างใหญ่
...ฤดูหนาวมาถึงแล้ว
ลมหนาวมาถึง...แต่หิมะก็ยังไม่ตก
อากาศเริ่มแปรปรวนง่ายเสียจนน่าตกใจ ยิ่งข่าวในครั้งก่อน ๆ ก็ยิ่งน่าสลด ไม่ว่าจะเป็นคลื่นสึนามิ พายุดีเปรสซั่ส ภัยน้ำท่วม หรือแม้กระทั่งเชื้อโรคกลายพันธุ์
ช่องตามสื่อทีวีต่าง ๆ กำลังแสดงถึงการรณรงค์ลดภาวะโลกร้อน หากแต่คนดูกลับดูจะไม่ค่อยสนใจฟังมันเท่าไหร่ ยังคงเอามือเท้าคางแล้วเหม่อลอยไปเรื่อยเปื่อยจนดงเฮชักจะเอะใจแล้วสะกิดผู้เป็นเพื่อน
“ฮยอกแจ”
แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีเสียงใด ๆ ตอบรับอีกเช่นเคย
ฮยอกแจหายจากไข้แล้วหลังจากที่นอนซมมาหลังทั้งวันจนไม่เป็นอันต้องไปโรงเรียน ซึ่งหายแล้วถือเป็นเรื่องดีใช่...แต่หลังจากหายไข้แล้วกลับมีอาการเหม่อลอยมาแทนที่นี่สิปัญหา
“เฮ้อ...การบ้านเนี่ยทำไปนะ สงสัยตรงไหนมาถามฉันก็แล้วกัน จะไปงีบก่อน” ดงเฮถอนหายใจในที่สุดแล้วก้าวขาเดินออกไปจากห้องของผู้เป็นเพื่อน เขาเป็นบอดี้การ์ด...เลยจำเป็นจะต้องเก่งทุกด้านเพื่อฮยอกแจ เรื่องเรียนก็เช่นกัน ก็เลยขู่เข่นมันทุกวันให้ทำการบ้านอยู่แบบนี้นี่ล่ะ แต่ก็ต้องยกเว้นเรื่องว่ายน้ำเอาไว้สักหนึ่งอย่างเพราะเขาว่ายไม่เป็นจริง ๆ
ว่าแต่มันจะเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนรึเปล่านะ...ที่ว่าจู่ ๆ คนทั้งบ้านก็ตื่นขึ้นมาเกือบหมดเสียแบบนั้น
งั้นเห็นทีต้องไปถามคิบอมซะแล้วล่ะ!
คิดได้ก็รีบเร่งสปีดไปหาคนที่คิดนึกปล่อยให้ร่างบางนั่งเท้าคางเหม่อลอยอยู่ในห้องคนเดียวอีกเช่นเคย ฮยอกแจเหม่อลอยไปเรื่อยเปื่อยและหลังจากที่เสียงประตูปิดลงก็ผุบนอนลงกับโต๊ะทันที
เมื่อคืนฝันดี...ฝันดีมากจนแทบอยากให้เป็นความจริง
เขาฝันว่า...ฮันคยองจูบที่หน้าผาก
ไม่ใช่จูบด้วยความใคร่ หากแต่เป็นด้วยความอ่อนโยนและความหวังดี
มือบางเอื้อมไปสัมผัสที่หน้าผากของตัวเองอย่างแผ่วเบา สัมผัสอุ่น ๆ ยังไม่หายเลย..
แต่
แต่ทว่า..
...มันก็แค่ฝันนี่นา...
ความฝันน่ะ มันไม่ใช่ความจริงสักหน่อย
ถึงมันจะไม่ใช่ความจริง...แต่ทำไม.. เขาถึงได้รู้สึกเอิบอิ่มและสุขไปทั้งหัวใจแบบนี้นะ
มันอาจจะดูแปลก ๆ เมื่อรู้สึกทั้งเศร้าและสุขไปในเวลาเดียวกัน แต่เขาก็กำลังรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ...ความคิดที่มันตีไปมาอยู่ในหัวสมอง ไม่ต่างอะไรจากการที่น้ำและไฟหักล้างกันเอง
“เฮ้อ..” ฮยอกแจถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ นัยน์ตาสุกใสสะท้อนความผิดหวังอยู่ลึก ๆ
สิ่งที่นายจะทำได้ตอนนี้ก็มีเพียงแต่ทำหน้าที่น้องชายให้ดีที่สุดก็เท่านั้นเองแหละฮยอกแจ
ใช่...เขาพอคิดได้แล้ว เขาได้ลองทบทวนอะไรดูหลาย ๆ อย่าง และมันก็ทำให้เขารู้ว่า...เขาจะต้องพยายามเก็บความรู้สึกที่เกินคำว่าพี่น้องนี่เอาไว้ให้มากที่สุด และทำหน้าที่น้องชายที่ดีให้ดีที่สุดแทน ถึงแม้ไม่แน่ใจว่าจะทำได้รึเปล่าก็เถอะ...แต่มันก็น่าจะลองนี่นา
อย่างน้อยก็เพื่อทำให้ครอบครัวนี้...มีคำว่า ‘อบอุ่น’ ให้มากที่สุด
ส่วนเรื่องโซฮี...เขาตัดสินใจแล้วว่าจะคบกับเธอ
คบเป็นแฟน
แฟนสาว ที่เขาหวังว่าคงจะช่วยเขาลบล้างความรักที่มีต่อฮันคยองให้หมดไป
อย่างน้อยนิดนึงก็ยังดี..
ถึงแม้จะรู้สึกผิดกับโซฮีที่ใช้เป็นแค่ตำแหน่งตัวแทนก็ตามที
.
ก๊อก ๆๆ
“..”
ก๊อก ๆๆ
“คิบอม นี่ดงเฮเองนะ ขอคุยด้วยหน่อยสิ”
แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีเสียงอะไรตอบกลับมา คิ้วเรียวจึงขมวดมุ่นอย่างแปลกใจแล้วเคาะประตูอีกที แต่ก็ไม่มีวี่แววของเจ้าของห้องอีกเช่นเคย มือบางจึงจัดการบิดลูกบิดประตูทำให้รู้ว่ามันไม่ได้ล็อกอยู่ จากนั้นก็หันมองซ้ายมองขวาก่อนจะเดินพรวดเข้าไปในห้องทันทีด้วยความเร็วสูงและเงียบเชียบที่สุด
เท้าของดงเฮเบาเป็นธรรมดา...เพราะเคยเป็นอดีตนักฆ่ามือฉกาจ ประสาทสัมผัสทั้งห้าก็เช่นกัน ทันทีที่เขามาในห้องเสียงของสายน้ำที่กระทบลงสู่พื้นก็ดังเข้ามาในโสตประสาท ทำให้สามารถคาดเดาได้ว่าร่างสูงคงจะอาบน้ำอยู่
ตอนแรกแค่กะจะเข้ามาในห้องนี่เล่น ๆ เผื่อเจออะไรดี ๆ แต่ถ้าเจ้าของห้องอยู่แบบนี้...ก็ปรึกษาเรื่องของฮยอกแจแทนก็แล้วกัน
ร่างบางเดินสำรวจไปรอบห้องที่ดูแสนธรรมดาไม่มีอะไรเป็นพิเศษ มีเพียงแค่เตียงนอนสีขาว โต๊ะทำงานที่มีแฟ้มเอกสารเรียงรายระเกะระกะ ตู้เก็บเอกสาร ชั้นวางหนังสือ ตู้เสื้อผ้า เก้าอี้ และก็โต๊ะที่มีลิ้นชักสำหรับวางโคมไฟใกล้ ๆ เตียงนอน บ่งบอกนิสัยของเจ้าของห้องได้เป็นอย่างดี....เรียบง่ายดูเงียบเหงา แต่ก็นี่แหละนะคิบอม เงียบ ๆ เย็นชาไม่ค่อยสุงสิงกับใคร
แถมยังเงียบไปจนแบบน่าหมันไส้ (ในสายตาดงเฮ)
และแล้วเจ้าตัวยุ่งก็ทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนของร่างสูงอย่างสบายใจเฉิบทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้รับอนุญาตพลางบิดเนื้อตัวไปมาแล้วสูดอากาศเข้าไปเต็มปอด
กลิ่นนี้เหมือนกลิ่นตัวคิบอมเลย...
ไม่เข้าใจเหมือนกัน เขาเองก็ผุ้ชายเหมือนกับคิบอมแต่กลับมีกลิ่นที่แตกต่างขนาดนี้...อืม แต่ก็หอมดี
ดงเฮหาวปากกว้างทั้ง ๆ ที่ไม่ยอมเอามือปิดปากเผยให้เห็นทั้งเขี้ยวทั้งลิ้นไก่ก่อนจะหลับตาพริ้มตามประสาคนชักจะเคลิ้มหลับ...แล้วหลับลงไปในที่สุด
ฝ่ายคิบอมที่ยังคงอยู่ในห้องน้ำ เหตุเพราะเสียงน้ำไหลจึงทำให้ร่างสูงไม่ได้ยินเสียงว่าใครเข้ามาในห้อง มือหนาบิดปิดก๊อกน้ำเอาผ้าขนหนูพันรวบเอวแล้วเปิดประตูออกมา สิ่งแรกที่ได้เห็นจึงคือเจ้าตัวยุ่งที่คุ้นเคยดีกำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงนอนของเขา
คิ้วเรียวขมวดมุ่น ไปมายังไงถึงได้มาหลับเตียงเขาล่ะเนี่ย..
“ดงเฮ” เสียงทุ้มพูดเรียกคนกำลังหลับ แต่ก็ไม่มีวี่แววตอบกลับ ทำให้เข้าใจได้ลาง ๆ ว่าร่างบางคงเป็นคนตื่นยากน่าดูเลยทีเดียว...ขนาดเมื่อคืนที่เขาลุกมากันแทบทั้งบ้านแล้วเจ้าตัวดีนี่ยังหลับอุดอู้อยู่ในที่นอนได้อยู่เลย ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด
รอยยิ้มที่มักจะประดับอยู่บนใบหน้าหวานเสมอ เขี้ยวเล็ก ๆ ที่เผยให้เห็นเวลายิ้มยิงฟัน ดวงตาสุกใสส่อประกายขี้เล่นตลอดเวลา นึกจะร้ายก็ร้ายจะดีก็ดี อารมณ์แปรปรวนเร็วยิ่งกว่าฝนฟ้าอากาศ แถมไหนยังจะชอบงอนนี่อีก
ประหลาด...แต่ก็น่าสนใจ
พอเขาอยู่กับดงเฮทีไร เขาบอกตรง ๆ ว่าเขาไม่เคยเบื่อ
...ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน...
ร่างสูงทิ้งตัวนั่งบนเตียงนอนเบา ๆ เพื่อไม่เป็นการกวนให้เจ้าตัวยุ่งได้ตื่น นัยน์ตาคมสังเกตไปทั่วใบหน้าหวาน...ดูดี ๆ แล้วเจ้านี่ก็หล่อเหมือนกัน...
แต่สำหรับเขา น่าจะเรียกว่า ‘น่ารัก’ เสียมากกว่า
แถมยังน่ารักน่าก(อ)ดมากซะด้วยสิ..
“หึ..” คิบอมเผลอยิ้มที่มุมปาก ริมฝีปากแดง ๆ ที่ชอบพะงาบขึ้นพะงาบลงเวลาอยู่กับเขาบัดนี้มันกำลังสงบลงและปิดสนิท แปลกดีเหมือนกัน...ถ้าเจ้าของริมฝีปากบาง ๆ นั้นรู้ว่าเขากำลังจ้องอยู่แบบนี้มีหวังได้โดนด่าว่าโรคจิตแน่
แต่ความรู้สึกแรกที่เข้ามาในจิตใจเวลาเห็นเรียวปากนั่น
คือ ‘น่าจูบ’
แถมลำคอขาว ๆ ...ก็น่า ‘ทำรอย’
เอวที่บางกว่าเขา...ก็น่า ‘กอด’
สรุปโดยรวม...ก็คือน่า ‘กด’
รู้ดีว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่ทะลึ่งเงียบขนาดไหน แถมยังเป็นสปีชี่ส์เดียวกันกับฮันคยอง เจ้านายของเขา พูดง่าย ๆ ก็คือ ‘เซเมะ’ นั่นแหละ ฮันคยองที่เป็นเพื่อนกับเขามาตั้งแต่เด็ก ๆ จนกระทั่งข้ามขั้นมาเป็นเจ้านายยังเคยบอกเลยว่า คนอย่างเขาน่ะ...หื่นเงียบขนาดไหน
ตอนแรกเฉย ๆ กับคำพูดนั้น....แต่ตอนนี้ก็เริ่มรู้สึกจะค้านไม่ออกซะแล้วสิ
เพราะเขาน่ะหื่นเงียบมาก ๆ เลยด้วย...
“อืม..” ดงเฮครางอื้ออึงในลำคออย่างแผ่วเบาเมื่อมือหนาเริ่มจะลูบไล้ไปตามเรียวขาอ่อนพร้อม ๆ กับริมฝีปากหนาที่ครอบครองเข้าที่เรียวปากบาง แต่พอผ่านไปได้ไม่นานเกินนาทีร่างสูงก็เด้งตัวขึ้นมาแล้วถอนหายใจ
เขาท่าจะบ้าไปแล้วจริง ๆ ...หื่นแล้วลักหลับมันไม่ใช่ตัวเขาเลย
ต้องกดตอนที่กำลังตื่นอยู่ต่างหากถึงจะเป็นตัวเขา
“อืม...” คนเกือบถูกลักหลับครางเบา ๆ อีกครั้งแล้วขยี้ตาเล็กน้อยเป็นสัญญาณว่าตื่นแล้ว ก่อนจะกวาดสายตาไปรอบ ๆ ห้องจนมาหยุดอยู่ที่ร่างสูงที่กำลังนั่งอยู่ข้าง ๆ ตนแล้วมองตาแป๋ว
“สวัสดี” เสียงหวานเอ่ยทักทาย
“อ่ะ...อืม สวัสดี” คิบอมพูดตะกุกตะกัก ก็เพิ่งจะเกือบไปลักหลับเขาเมื่อกี้นี่ แต่จู่ ๆ ก็กลับโดนมองด้วยสายตาใสซื่อกลับมาก็ทำเอาเขาทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน
“ตกใจล่ะสิที่จู่ ๆ ฉันก็เข้ามาในห้องนายแบบนี้” พูดพร้อมลุกขึ้นนั่งบนเตียงนอนในท่าขัดสมาธิ
“อืม นิดหน่อย”
สิ้นประโยคก็เงียบไปทั้งคู่อีกรอบ ดงเฮจึงจำเป็นต้องเปิดการสนทนาเสียเอง
“ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้า ไม่หนาวเหรอ”
“เฉย ๆ ...แล้วนายล่ะ มองหุ่นฉันตอนเปลือยท่อนบนแล้วไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ”
คำถามที่ทำให้ดงเฮต้องขมวดคิ้วมุ่น
“ทำไม นึกว่าฉันจะอายแบบสาว ๆ หรืออุเคะในหนังรึไงเวลาเห็นพระเอกไม่ใส่เสื้อผ้าแล้วกรี๊ด ๆๆ” ร่างบางเอ่ยถาม คิบอมจึงพยักหน้าให้แทนคำตอบด้วยสีหน้าราบเรียบเหมือนเดิม เรียกเสียงหัวเราะร่วนจากดงเฮได้เป็นอย่างชุดใหญ่
“จะตกใจทำไม ฉันก็ผู้ชายเหมือนกับนายนั่นแหละ ฉันมีเหมือนกับนายทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นตรงนี้ ตรงนี้ ตรงนี้ หรือตรงนี้” พูดพร้อมชี้ไปที่ลูกระเดือก ซิกแพ็ค ยอดอกสีน้ำตาลคล้ำ...และน้องชายที่อยู่ใต้สะดือในร่มผ้าเป็นท่าทางประกอบ
คิบอมมองร่างบางอย่างแปลกใจพลางกระตุกยิ้มกริ้ม เจ้าตัวแสบนี่ดูไม่อายเลยสักนิด แต่ก็ดี...เขาชอบ
“แต่ฉันว่านายไม่มีซิกแพ็คหรอก” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงปัด ๆ เชิงดูถูกแล้วเบนสายตาไปทางอื่น คิ้วเรียวของใบหน้าหวานจึงกระตุกขึ้นสูง บังอาจมาก!
“ฉันมีนะ! ดูสิเนี่ย!!” พูดแล้วเลิกชายเสื้อของตัวเองขึ้นโชว์หน้าท้องแบนราบขาวเนียนด้วยความโมโห นัยน์ตาคมจึงเหล่กลับมาที่เดิมก่อนจะทำเป็นยักไหล่ไม่ใส่ใจ
“ไม่เห็นจะมีเลย”
“ไอตาถั่วเอ้ย! แก้มก็พอง ตาก็ตี่แล้วยังตาถั่วอีก ดูดี ๆ สิเนี่ย!” พูดพร้อมเลิกเสื้อตัวบางขึ้นกว่าเดิมจนแทบจะเห็นจุดสองจุดบนยอดอกอยู่ร่ำไร...ไม่สิ เห็นไปแล้วเลยแหละ ร่างสูงจึงแอบลอบยิ้มขำอยู่ในใจก่อนจะเก๊กหน้าขรึมแล้วหันมาหรี่ตามอง
“ไหน...อืม มีจริง ๆ ด้วยแหะ” พูดพร้อมใช้มือหนาลูบไล้หน้าท้องของคนตัวเล็กเบา ๆ ทำให้คนตัวเล็กต้องเชิดหน้าขึ้นสูงแล้วยิ้มอย่างพอใจหรือภูมิใจตัวเอง
“ใช่มะ ใช่มะ”
“อืม...ใช่ ๆ” พูดไปแบบนั้นแต่มือนี่สิปัญหา ไม่ยอมเลิกหยุดลูบสักที แถมยังมีแต่ลูบลง ลูบลงจนจะเข้าไปในชายกางเกงอยู่แล้ว ไม่ก็ลูบขึ้น ลูบขึ้นจนแทบจะโดนเม็ดสองเม็ดบนยอดอก ซึ่งดูเหมือนร่างบางจะเริ่มจั๊กจะจี้จึงปัดมืออีกฝ่ายออก
“พอแล้ว! ลูบอยู่นั่นแหละ ชอบนักรึไง ไปลูบของตัวเองไป๊!” ตีมือหนาดังเพี๊ยะทำให้คิบอมต้องทำสีหน้าอย่างขัดใจ
“ก็นายฉันมันไม่นุ่มเท่าของนายนี่”
“ห๊า..?”
“แล้วของฉันมันจะไม่ได้น่าทำรอยเท่ากับของนายด้วย” พูดน้ำเสียงเจ้าเล่ห์พร้อมเขยิบตัวเข้าไปใกล้ร่างบางที่เริ่มกระเถิบตัวหนีด้วยสีหน้าหวั่น ๆ ใบหน้าคมจึงส่งยิ้มกริ้มชวนละลายใจไปให้ทำเอาดงเฮต้องรู้สึกเหมือนหัวใจกระตุกแล้วหยุดนิ่งไปชั่วขณะ คิบอมจึงถือจังหวะนั้นที่หัวใจดวงน้อยมัวแต่เต้นไม่เป็นจังหวะเคลื่อนใบหน้าได้รูปไปอยู่ใกล้ ๆ ใบหูของคนหน้าท้องนุ่มแล้วกระซิบเสียงแหบพร่า
“และอีกอย่าง ของนายน่ะ...น่าลูบต่ำไปกว่าเยอะเลย”
แล้วจึงจงใจงับเข้าที่ใบหูของอีกฝ่ายเบา ๆ ...
งับเบา ๆ...เป่าเบา ๆ..
ตามด้วยท่าทีแสดงการเขินอายจนโอเว่อร์ของดงเฮที่ถีบร่างสูงจนตกเตียงเกิดเสียงดังโคร๊ม! ก่อนจะรีบกระโดดหนีลงจากเตียงเปิดประตูวิ่งออกนอกห้องไปทันที
...สรุปก็คือไม่ได้ถามเรื่องของฮยอกแจอีกตามเคย..
วันต่อมาของการเริ่มต้นวันใหม่
เพราะอาการที่หายดีจากพิษไข้ของฮยอกแจแล้วจึงทำให้ทั้งสองสามารถมาที่โรงเรียนได้เช่นเดิมตามปกติ แต่เพียงแค่ก้าวแรกที่คนเพิ่งหายป่วยเดินก้าวเข้ามาในห้องคำถามมากมายจากเพื่อน ๆ ก็ถูกยิงมาเป็นขบวนทันที
บ้างก็ถามว่า ‘ทำไมถึงไม่มาโรงเรียน’
บ้างก็ถามว่า ‘ตะกละกินอาหารมั่วซั่วจนท้องเสียอีกแล้วเหรอ’
และอันนี้ดูท่าจะหนักสุด...
‘ไม่มาเพราะลำบากใจที่จะตอบคำถามโซฮีใช่หรือเปล่า’
ฮยอกแจตัดสินใจส่งยิ้มเบาบางไปให้แทนคำตอบ เมื่อวานเขาไม่ได้ไปให้คำตอบโซฮี...เพราะฉะนั้นวันนี้แหละที่เขาจะเอาคำตอบไปให้ตอนพักกลางวัน
และหลังจากให้คำตอบ...ทั้งสองจึงตกเป็นหัวข้อของการสนทนาของคนทั้งโรงเรียนทันที
ฮยอกแจ...เจ้าชายแห่งรอยยิ้มประจำห้อง ขาแดนซ์ ร่าเริง นิสัยดี บ้านรวย แถมหน้าตายังหล่อเหลาติดไปทางค่อนข้างจะหวานหน่อย ๆ
กับอาน โซฮี...ผู้ที่ได้รับการโหวตว่าหน้าตาดีและน่ารักที่สุดในชั้นปีหนึ่ง เด็กสาวผู้มีหน้าตาน่ารักและรอยยิ้มบาดใจพ่วงด้วยตัวเล็กอ้อนแอ้นอรชรน่าปกป้อง บ้างก็ว่าเธอคนนี้น่ารักใสซื่อ แต่บ้างก็ว่าเธอคือคาสโนวี่ตัวฉกาจ
และเมื่อทั้งสองที่ใคร ๆ ก็ต่างหมายปองมาคบกัน ข่าวนี้จึงแพร่สะบัดไปทั่วโรงเรียนทันที
บางคนบอกว่าฮยอกแจน่ะตาถั่ว...น่าสงสารจังทำไมไปคบกับผู้หญิงมารยาร้อยเล่มเกวียนแบบนี้ ในขณะที่บางคนก็บอกว่าทั้งสองน่ะเหมาะกันมากราวกับกิ่งทองใบหยกเลยทีเดียว
สำหรับซองมิน...เขาเองก็รู้สึกไม่ค่อยถูกชะตากับอาน โซฮีสักเท่าไหร่
เขาไม่เคยรู้จักเธอ ไม่เคยได้คุยกับเธอ...ดังนั้นเขาจึงจะด่วนสรุปอะไรไม่ได้ ถึงแม้จะได้ยินข่าวสารจากซูยองมาบ้างว่าโซฮีน่ะร้ายอย่างนู้นอย่างนี้แต่ถึงไงก็ควรจะฟังหูไว้หูก่อนจะดีกว่า
และสิ่งที่เขาแปลกใจที่สุดก็คือ แววตาของฮยอกแจที่มองโซฮี...มันไม่ได้เป็นแววตาที่หลงรักหรือชื่นชอบอะไรเลยแม้แต่น้อย มันเหมือนแววตาของคนที่มองกันแบบธรรมดา ๆ มากกว่าถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะทำเป็นบอกว่าชอบโซฮีมากแค่ไหนก็ตามทีเถอะ
“เฮ้อ..” ซองมินถอนหายใจออกมาแต่ในมือก็ไม่ว่างงาน ยังคงกวาดบ้านอยู่แบบนั้นล่ะ...จะไม่ทำก็ไม่ได้ ก็มาเป็นพ่อบ้าน ๆ เขานี่หว่า พ่อบ้านน่ะ มันก็แค่คำเรียกให้สวยหรูสำหรับเขาก็เท่านั้นแหละ ยิ่งมาเป็นพ่อบ้านให้คยูฮยอน...มันก็ไม่ต่างอะไรจาก ‘ขี้ข้า’ ดี ๆ นี่เอง ยิ่งห้องนอนเนี่ยก็ไม่รู้จะรกไปไหน จะเรียกว่ารังคนหรือรังหนูก็ไม่อาจทราบได้ เป็นคุณ ๆ ลองคิดดูสิ...เสื้อผ้าที่มันสมควรจะอยู่ในตู้เสื้อผ้ากลับไปอยู่ในห้องน้ำและหลังตู้ แถมถุงเท้าที่เขาเจอก็ใช่ว่าจะครบคู่นะ...ข้างนึงเจอใต้เตียง ข้างหนึ่งเจอที่ชั้นหนังสือ(ที่มีแต่หนังสือการ์ตูน) จนบัดนี้เขาก็ยังไม่ทราบคำตอบเลยว่ามันไปอยู่แบบนั้นได้ยังไง...
ก็ใครที่ไหนมันบ้าเอาถุงเท้ามาคั่นหนังสือการ์ตูนกันเล่า!
“ซองมิน” ตายยากจริง ๆ เสียงของคนซกมกได้โล่กำลังขานเรียกเขาอีกแล้ว
“ว่าไง” ซองมินตอบกลับไปทั้ง ๆ ที่ไม่มองหน้าเพราะกำลังสาละวนอยู่กับการกวาดบ้าน คยูฮยอนจึงทำหน้ามุ่ยเมื่อไม่ได้รับการสนใจ “หันมาคุยกันดี ๆ ก่อน”
“เออ มีอะไรล่ะ คนทำงานบ้านทั้งวันงก ๆๆ เนี่ยมันเหนื่อยนะโว้ย บ้านก็ใช่ว่าจะหลังน้อย ๆ ซกมกน้อย ๆ ซะเมื่อไหร่” ร่างบางบ่นอุบอิบ ลืมบอกไป..ห้องชางมินก็ซกมกพอ ๆ กับห้องคยูฮยอนเลย เพียงแต่พวกเสื้อผ้าถุงเท้าไม่ได้กระจัดกระจายหนักเท่ากับเจ้าบ้านี่
คยูฮยอนพ่นหัวเราะออกทางจมูก “นายนี่ขยันดีนะ ดีแล้ว...เดี๋ยวฉันจะไปซื้อชุดเมดมาให้”
“ชุดเมด? ไม่เอา ร้อนจะตาย มีทั้งโบว์หูกระต่ายกางเกงขายาวบ้าบออะไรก็ไม่รู้” ซองมินเข้าใจผิดคิดว่าเป็นชุดพ่อบ้านที่ใส่ชุดสีดำหวีผมเรียบแป้นเมื่อในการ์ตูนหรือในหนัง คยูฮยอนจึงหัวเราะร่วน
“บ้า ชุดเมดที่ฉันว่าไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อย แล้วนายจะต้องชอบ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ประดับขึ้นบนใบหน้า นั่นจึงทำให้ซองมินต้องตัดสินใจรีบเปลี่ยนเรื่องพูดทันที
“ว่าแต่นายมาเรียกฉันด้วยเรื่องนี้รึไง”
“อ๋อ เปล่า ๆ” ร่างสูงตอบเมื่อเพิ่งนึกขึ้นได้ “ฉันจะออกไปข้างนอกสักหน่อย อยู่คนเดียวได้ใช่มั้ย”
เมดจำเป็นขมวดคิ้วมุ่น “ฉันโตแล้วนะ แค่นี้ฉันต้องอยู่ได้อยู่แล้ว”
“ไม่ใช่ ฉันหมายความว่านายน่ะห้ามนายพูดคุยหรือไว้ใจใครเด็ดขาดที่นายเจอที่นี่เด็ดขาดไม่ว่ามันจะบอกว่าเป็นญาติแขนงไหนของฉันก็ตาม แล้วก็ห้ามเปิดรับคนแปลกหน้า ล็อกบ้านดี ๆ ด้วย”
“นายพูดเหมือนเวลาที่สั่งเด็กตัวเล็ก ๆ เวลาอยู่คนเดียวที่บ้าน กลัวจะมีขโมยเข้ารึไง ยามเพียบเลยนี่ฉันเห็นอยู่ มันไม่กล้าเข้ามาหรอก” แววตาสะท้อนความสงสัย คิดไปว่าคยูฮยอนคงจะระแวงมากจนเกินเขต
“ไม่ใช่แบบนั้น...ช่างเถอะ ทำตามที่ฉันบอกก็แล้วกัน แล้วนายจะปลอดภัย” ร่างสูงพูด คิ้วเรียวของร่างบางจึงขมวดมุ่น...เขาคิดไปเองหรือเปล่านะว่าน้ำเสียงทุ้มนั่นมันเจือไปด้วยความอ่อนโยนและเป็นห่วง
“ล่ะ..แล้วนายจะไปไหนน่ะ”
“ธุระ”
คำตอบที่หลีกเลี่ยงการตอบโดยตรงและท่าทีที่เหมือนจะเลี่ยง ๆ การตอบทำให้ซองมินตัดสินใจไม่ถามต่อและก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก ร่างสูงจึงเดินแยกออกไปเมื่อชางมินเดินลงมาจากบันไดแล้วเดินออกจากบ้านไปด้วยกัน เหลือไว้แต่เพียงซองมินที่มองแผ่นหลังของคยูฮยอนตามไปจนกระทั่งอีกฝ่ายเข้าไปนั่งในรถ ร่างสูงเมื่อเห็นว่าโดนมองจึงโบกมือแล้วส่งยิ้มละลายใจไปให้ทำเอากระต่ายน้อยต้องหน้าแดงเถือกแล้วแลบลิ้นกลับไปให้ทันที
คนบ้า!
ทำไมอยู่ดีไม่ว่าดีชอบมาทำให้เขาใจเต้นจังเลยนะ..
*** (แก้คำผิด 11 พ.ค.)
นี่คือชุดเมดที่คยูว่าไว้! วะฮะฮ่า
ชอบไม่ชอบยังไงบอกด้วยนะ J
ปล.อยากอ่านเศร้าให้รอไปก่อน เดี๋ยวให้แฟร์วางพล็อตให้สมบูรณ์ก่อนนน =[]=!
ตอนหน้าเศร้าจริงๆหรอแฟร์TT^TT เฮ้ย ยังๆ ค่อยเป็นค่อยไปสิจ้ะ =w=''ความคิดเห็นที่ 81 (จากตอนที่ 11)
เอาแบบสุดไปเลยนะ อยากอ่านแล้วร้องไห้อ่ะ 555+ กำ แฟร์ก็อยากแต่งได้เหมือนกัน
ป๋านะป๋า รักเค้าก็บอกไปเหอะๆ สงสารอ่ะ ได้ไง...เดี๋ยวสิ อิอิ
จะรอนะจ้ะแฟร์ สู้!!! เย้ >O<!
PS. Super Junior 3rd album!!!! Sorry Sorry Name : @_minto_@< My.iD > [ IP : 58.8.19.103 ] ความคิดเห็นที่ 80 (จากตอนที่ 11) อ่า...
ฮยอกที่น่ารักหายไวๆนะจ๊ะ หายแล้ว...ออกจะได้กินยาดีขนาดนี้ =.,=
ป๋าอ่า -3- ขัดใจ o>O<o ที่สุดเลย!
ด๊อง ตกลงมาเป็นบอดิการ์ดให้ฮยอกจริงๆใช่มั้ย-*-
ว่ายน้ำไม่เป็น เป็นปลาได้ไงนี่ นั่นสิ..อืม...น่าคิดName : yaoisang [ IP : 125.27.1.27 ] ความคิดเห็นที่ 79 (จากตอนที่ 11) หวานได้อีก ณ จุดนี้อ่ะนะ-.,- คริคริ =,.= Name : puppete.l.f< My.iD > [ IP : 202.28.78.20 ] ความคิดเห็นที่ 78 (จากตอนที่ 11) เย้^_^ อัพครบ 100% แล้ว
รีบมาอัพต่ออีกนะค่ะ มาต่อแล้ว >_<
สนุกมากๆเลย ขอบคุณค่ะ!
ชอบจังเวลาฮันเป็นห่วงฮยอก Name : soyminho< My.iD > [ IP : 125.27.1.218 ] ความคิดเห็นที่ 77 (จากตอนที่ 11) ฮยอกกระโดดไปชวนหมา
แมนมากกกก กรี๊ดๆๆๆ ก็ฮยอกเป็นผู้ชาย...55+
แต่..ด๊องว่ายน้ำไม่เป็น
ตื่นเพราะปวดฉี่อีกตะหาก
ตกลง..มาเปนบอดี้การ์ด หรือมาเป็นคุนหนูคนที่สามคะ อันนี้น่าคิด! เป็นคุณหนูมาให้คิมคิดูแลหัวใจน่ะ ฮ่าๆๆ
5555555 Name : pommie [ IP : 58.8.101.102 ] ความคิดเห็นที่ 76 (จากตอนที่ 11) ไม่เช่นนั้นจะเกิดการหมักหมม
ฮากับบรรทัดนี้ ฮันแกคิดอะไรอยู่ =,.= 5555 พูดซะแฟร์ฮาเลย! แฟร์พยายามแต่งอิงความจริงแต่นี่มันออกจะจริงจนฮา 55+
เริ่มรักฮัน สงสารฮยอก อิอิอิ
เฮ้อ ความจริงที่ปวดใจ T T
มาอัพเร็วๆนะแฟร์ ^ ^ ค่า ^O^
PS. E.L.F. = Ever Lasting Friend Name : ~รักฮีซอล~< My.iD > [ IP : 114.128.73.30 ] ความคิดเห็นที่ 75 (จากตอนที่ 11) สงสารฮันฮยอกจังเลย
เมื่อไหร่จะได้รักกัน (อย่างเปิดเผย)... TOT
ด๊องช่างไม่รู้เรื่องอะไรกะคนอื่น...ฮ่าๆ นั่นสิ ด๊องซื่อบื้อมาก แต่ก็ร้ายสุดๆเลยนะ (ดูตอนเด็กๆด๊องฆ่าพ่อเลี้ยงสิ)
มาต่อนะไรเตอร์...รออยู่ๆ...อิอิ จ้าName : รักฮันฮยอก [ IP : 58.136.56.21 ]
ความคิดเห็น