ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภูตพราวรัก

    ลำดับตอนที่ #23 : -กาวดักผี5-

    • อัปเดตล่าสุด 14 ธ.ค. 63


    “ก็ลองยอมรับสิคะ ว่าสิ่งที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้มันมีอยู่จริง”

    เหมือนดาวพูดอย่างกับเข้ามาสิงในสมองของเขา...คณาธิปพ่นลมหายใจ ส่ายหน้าไปมาช้า ๆ ร่างสูงกำยำผุดลุกขึ้นยืนพร้อมจับเสื้อสูทสีกรมท่าให้เข้าที่ แล้วเอามือสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกง ให้ยอมรับว่าผีมีจริงหรือ งั้นบอกว่าในทะเลไม่มีคลื่น ก็คงจะได้เหมือนกันน่ะสิ 

    แต่สิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่คืออะไร เสียงที่รบกวนสติเขาอยู่...เมื่อใจต่อต้านไม่ยอมรับ ชายหนุ่มจึงตอบเหมือนดาวกลับไปว่า

    “มันไม่มีหรอกดาว”

    “สาบานค่ะว่าคิดอย่างนั้น...จากใจจริง” 

    เหมือนดาวยิ้มมุมปาก หมุนเก้าอี้ที่ตัวเองนั่งไปยังด้านที่เจ้านายยืนอยู่ สาวสวยร่างบางระหงบุคลิกคล่องแคล่วประเปรียวลุกยืนขึ้น หล่อนทำท่าขยับ ๆ จัดระเบียบที่ปกเสื้อเชิ้ตพับแขนสีขาว แล้วเอามือสองข้างล้วงกระเป๋ากางเกงยีนสีน้ำเงินเข้มของตัวเองบ้าง เลียนแบบท่าทางที่คณาธิปชอบทำเวลาคิดอะไรไม่ออก 

    “โธ่ ดาว”

    “บางทีการลองเปิดใจยอมรับในสิ่งที่ข้างในใจเราต่อต้าน อาจทำให้อะไร ๆ เดินทางไปถึงทางออกได้เร็วขึ้นนะคะ ความคิดของคนเราไม่ถูกต้องตามหลักเสมอไปหรอกค่ะ มันต้องมีนอกกรอบกันบ้างแหละ”

    “ยอมรับว่า ผีมีในโลกอย่างนั้นหรือดาว...เฮอะ!”

    “สิบปากว่าไม่เท่าได้เห็นเอง สัมผัสด้วยตัวเอง...เอาเป็นว่าดาวขอตัวก่อนดีกว่าค่ะ อีกยี่สิบนาทีต้องออกไปไซด์งาน วันนี้มีนัดประชุมกับทีมช่าง อ้อ อย่าลืมเซ็นเอกสารให้ดาวด้วยนะคะ แฟ้มวางอยู่บนโต๊ะ พรุ่งนี้ดาวเข้ามารับคืนค่ะ”

    “ดาว” เมื่อเหมือนดาวหันกลับมา คณาธิปก็กลั้นใจ ถามออกไปทันทีว่า “เพื่อนคุณ...มัชฌิมา เขา...มีสัมผัสที่หก มองเห็นผีได้จริงหรือ”

    ยิ้มพรายของเหมือนดาวทำให้คณาธิปขนลุกชัน...

    รอยยิ้มนั้นคงคือคำตอบ เพราะอินทีเรียดีไซด์มือหนึ่งของบริษัท ‘2183 REAL DESIGN’ ผลักประตูกระจกใสบานสูงให้เปิดออก แล้วเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรอีกเลย!

    “ไม่จริง ที่ได้ยินเสียงรบกวน เราอาจไม่สบาย” คณาธิปพยายามหาเหตุผลมาหักล้างความเชื่อที่เขาไม่เคยคิดจะเชื่อ ภูตผี วิญญาณ ไร้สาระทั้งเพ “อาจน้ำในหูไม่เท่ากันก็ได้ เราต้องไปตรวจร่างกาย ตรวจให้ละเอียดไปเลย!”

     

    สามวันแล้วที่คณาธิปไปหาหมอมา คุณหมอวินิจฉัยว่าเขาร่างการปกติ แข็งแรงดี เพียงแต่พักผ่อนน้อย ไม่ได้มีอาการน้ำในหูไม่เท่ากันหรืออาการอื่นใดทั้งนั้น

    แน่นอน สาเหตุความผิดปกติที่หมอยังหาไม่ได้นั้นไม่ได้ ยังคงอยู่กับเขามาจนถึงวินาทีนี้ คณาธิปยังได้ยินเสียงเรียกชื่อแทบตลอดเวลาเหมือนเดิม จนตอนนี้เขาคิดว่าตัวเอง...ประสาทหลอน

    “พลอยขอโทษนะธิป” พลอยบุณย์รู้สึกผิดมาก ที่ทำให้คณาธิปต้องรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเป็นบ้า “พลอยแค่อยากสื่อสารกับธิป ไม่คิดว่าจะทำให้ธิปเดือดร้อนแบบนี้”

    “ได้ยินอีกแล้ว นี่เราเป็นบ้าไปแล้วหรือไงวะ” คณาธิปกุมขมับ หลับตา “เพราะยายแม่ชีมัชแน่ ๆ  พูดเรื่องผีบ้าบอ เพ้อเจ้อ”

    “มัชไม่ได้เพ้อเจ้อ พลอยยืนอยู่ตรงนี้ไง” พลอยบุณย์นั่งลงข้างคณาธิปตรงขอบเตียง “ใจธิปต่อต้านว่าผีไม่มีจริง จิตธิปเลยปิดกั้นวิญญาณพลอย ได้ยินพลอยบ้างไม่ได้ยินบ้าง ธิปต้องเชื่อมัช ต้องไปหามัชนะ พลอยเชื่อว่ามัชช่วยธิปได้”

    “โอ๊ย! หยุดพูด...นี่มันเสียงบ้าอะไรกัน ฉันฟังไม่รู้เรื่อง!” 

    เสียงที่คณาธิปได้ยินนั้นฟังไม่ได้ศัพท์ จะว่าหูแว่วได้ยินเสียงไปเองนั้นตอนนี้เขาคิดว่ามันไม่ใช่เสียแล้ว เสียงที่ได้ยินนั้นแผ่ว ๆ ไม่ชัดเจน บางครั้งรู้สึกเหมือนหูอื้อมีเสียงลมอยู่ในหู 

    แต่ทว่า...ลมที่ว่านั้นไม่ได้อยู่แค่ในหู มันพัดหวนไปมาอยู่ใกล้กาย ทำให้เขาขนลุกชันเย็นเยือก อย่างยากจะอธิบาย พอย้อนกลับไปถึงคำพูดของเหมือนดาวที่ว่า  

    “ก็ลองยอมรับสิคะ ว่าสิ่งที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้มันมีอยู่จริง”

    คณาธิปก็ส่ายหน้า สำหรับเขาโลกนี้ไม่มีผี ไม่มีสิ่งเหนือธรรมชาติอะไรทั้งนั้น มันมีแต่สิ่งที่จิตมนุษย์ปรุงแต่งขึ้นมาเอง กลัวความคิดของตัวเอง เมื่อหาทางลบล้างความกลัวในใจไม่ได้ ก็โทษว่าเป็นผีมือของสิ่งเหนือธรรมชาติ ผีสางนางไม้ต่าง ๆ นานา แล้วความงมงายก็เกิดขึ้น พ่อหมอแม่หมอร่างทรงก็หากินกับความเชื่อและความทุกข์ของคนอย่างไม่มีวันสิ้นสุด 

    เขาเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ใจ ถ้าใจมั่นคงไม่ฟุ้งซ่าน จิตก็จะสงบ ทุกอย่างมันอยู่ที่ตัวคนเรา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งเหนือธรรมชาติใด ๆ ทั้งสิ้น

    “ผีไม่มีจริง” คณาธิปบอกย้ำยืนกรานกับตัวเอง “ไม่มี...ผีไม่มีจริง”

    แต่แล้ว คำแช่งของมัชฌิมาก็ดังก้องขึ้นในหู...

    “มี และฉันก็แช่ง ให้ผีมาหลอกคุณด้วย!”

     “ยายแม่ชีหลอน ผีไม่มีจริง เธอได้ยินไหม ผีไม่มีในโลก!”

    “โธ่เอ๊ย!” พลอยบุณย์เม้มปากเป็นเส้นตรง “ถ้าธิปยังมัวแต่คิดแบบนี้ แล้วเมื่อไหร่พลอยจะสื่อสาร กับธิปได้ล่ะ พลอยควรทำยังไงดีนะ”

    แล้วพลอยบุณย์ก็คิดขึ้นมาได้ว่า โดยปกติมัชฌิมาจะสามารถมองเห็นและพูดคุยกับวิญญาณได้ มัชฌิมามองเห็นพร้อมทั้งพูดคุยกับวิญญาณทุกตนได้ ยกเว้นก็แต่วิญญาณของหล่อน  

    ส่วนคณาธิปผู้ไม่เชื่อว่าวิญญาณหรือสิ่งเหนือธรรมชาติมีอยู่จริง กลับได้ยินเสียงวิญญาณอย่างหล่อน ถ้าจิตของคณาธิปไม่ปิดกั้นว่าผีไม่มีจริง เขาก็คงจะรู้ไปแล้วนานว่าตัวเองไม่ได้ป่วยไม่ได้หูแว่วหูอื้อใด ๆ 

    ระหว่างคณาธิปและมัชฌิมา พลอยบุณย์คาดว่าต้องมีอะไรเชื่อมโยงกันอยู่สักอย่างแน่ ๆ สังเกตเมื่อตอนงานศพเมื่อคณาธิปมีอันต้องยืนใกล้มัชฌิมาทุกครั้ง มัชฌิมาผู้ไม่รู้สึกเลยว่ามีวิญญาณของหล่อนอยู่ ก็กลับรู้สึกว่ามีวิญญาณวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ ถึงจะไม่รู้ว่าเป็นวิญญาณของหล่อนแต่มัชฌิมาก็รู้ได้ว่าสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวคือวิญญาณของใครสักดวง

    แล้วถ้าเป็นอย่างที่หล่อนคิด หากมัชฌิมาและคณาธิปได้อยู่ด้วยกัน ใกล้ชิดกันเพียงสองคน คนทั้งคู่อาจมีสิทธิ์ทั้งมองเห็นและได้ยินเสียงหล่อนพร้อมกันได้ คิดไปเองหรือเปล่าพลอยบุณย์ไม่รู้ แต่มันเป็นสิ่งเดียวที่ผู้ไร้ตัวตนบนโลกมนุษย์อย่างหล่อนคิดได้ในเวลานี้

    พลอยบุณย์นึกอยากพิสูจน์สมมุตฐานของตัวเองขึ้นมาทันที แต่นึกไม่ออกว่าจะทำให้คณาธิปและมัชฌิมาพบเจอกันในวิธีปกติ ๆ ได้อย่างไร ทั้งสองคนไม่ชอบหน้ากัน เจอกันเป็นมีปากเสียง นัดมาเจอกันคงเป็นไปไม่ได้ ถึงเป็นไปได้ก็ไม่ทันใจหล่อน

    จ้องมองคณาธิปที่ตอนนี้อยู่ในชุดนอนซึ่งนั่งหน้าบึ้งตึงคิดไม่ตกอยู่ข้าง ๆ นิ่งคิดหาทางอยู่สักครู่วิญญาณสาวก็ยิ้มมุมปาก 

    “ไปหามัชกันนะธิป”

     

         
      
          SQW   
     
       
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×