ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภูตพราวรัก

    ลำดับตอนที่ #21 : -กาวดักผี3-

    • อัปเดตล่าสุด 12 ธ.ค. 63


    “ผม...นอนไม่ค่อยหลับ” 

    “สาเหตุ”

    “ก็นอนไม่หลับไงครับ” 

    “มีที่ไหนคะ นอนไม่หลับสาเหตุเพราะนอนไม่หลับ” เหมือนดาวเลิกคิ้ว ยิ้มนิด ๆ “คุณธิปคิดเรื่องคดีฆาตกรรมที่โรงแรมมากไปใช่ไหม เก็บเอามากังวลเลยเครียด ไม่มีสมาธิทำอะไรเลยแบบนี้”

    “นั่นคงเป็นส่วนหนึ่ง”

    “แสดงว่าต้องมีอีกส่วน” เหมือนดาวกอดอก “อะไรคะ ดาวขออนุญาตทราบ อย่าหาว่าก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวเลยค่ะ ดาวไม่อยากเห็นคุณธิปเป็นแบบนี้นาน ๆ มันไม่ดีต่อตัวคุณธิปเองนะคะ”

    “ผม...คือ ผมเหมือนได้ยินเสียงคนเรียก”

    “แล้ว...” เหมือนดาวหรี่ตา

    “เรียกแทบตลอดเวลาเลยดาว เรียกชื่อผม ทั้งที่ไม่มีใครเรียก ยิ่งตอนผมอยู่คนเดียวยิ่งได้ยิน เสียงดังบ้างไม่ดังบ้าง เรียกชื่อบ้าง พูดเป็นประโยคบ้าง บางทีผมก็...”

    “ก็อะไรคะ”

    “ก็คุ้น ๆ กับเสียงเรียก เสียงพูดนั้น” คณาธิปพูดเบา ๆ ขนลุกเกรียว “แต่มันเป็นไปไม่ได้ไงดาว ที่ผมจะได้ยินเสียง เพราะเขาตายไปแล้ว!”

    “เข้าใจแล้วค่ะ” เหมือนดาวพยักหน้าหงึก ๆ ที่สะดุ้งเมื่อครู่ไม่ใช่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ แต่เจ้านายสะดุ้งเพราะถูกหล่อนเรียกชื่อ “พี่พลอย...ใช่ไหมคะ คุณธิปคิดว่าเสียงที่ได้ยินคือเสียงพี่พลอยใช่ไหม”

    “พี่พลอย...” คณาธิปหรี่ตามองหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามฝั่งโต๊ะทำงาน มีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กสีเงินเครื่องหนึ่งกั้นกลาง ชายหนุ่มพับโน้ตบุ๊กปิดลงทันที “ดาวรู้จักพลอยส่วนตัวหรือ”

    “ค่ะ รู้จัก แต่ไม่สนิท เคยเจอกันไม่กี่ครั้งเท่านั้น พี่พลอยเป็นพี่สาวของแฟน...อดีตแฟนไอ้มัช เพื่อนดาวค่ะ”

    เป็นหัวเราะแรกในรอบสัปดาห์ทีเดียวสำหรับคณาธิป แม้จะเป็นหัวเราะซึ่งเบาจนแทบไม่ได้ยินเสียง เขาไม่คิดว่าอย่างมัชฌิมาจะมีแฟน เพ้อเจ้อก็เท่านั้น กวนประสาทก็ที่หนึ่ง 

    “หัวเราะไปนะคะ คบกันมาตั้งแต่มอต้นเลยนะ”

    “แล้ว ทำไม...” เขาหยุดพูดไป ไม่พูดต่อ เพราะรู้ว่าเหมือนดาวจะเข้าใจในสิ่งที่เขาอยากรู้

    “ทำไมถึงเลิกกันดาวก็ไม่รู้ค่ะ รู้แต่ว่าเลิกกันด้วยดี ถ้าคุณธิปอยากรู้ไปถามไอ้มัชดูสิคะ รู้จักกันแล้วนี่” 

    ท้ายประโยคเหมือนดาวแค่อยากลองเย้าคณาธิปเท่านั้น และเป็นอีกครั้งที่คณาธิปหัวเราะเบา ๆ คราวนี้ยิ้มบาง ๆ ด้วยนิดหนึ่ง

    “ผมคุยกับเพื่อนคุณรู้เรื่องมากเลยงั้นสิ ถ้าวันนั้นที่ร้านก๋วยเตี๋ยวไม่มีดาว คนแถวนั้นคงได้ดูมวย” 

    “ไอ้มัชมันไม่มีอะไรหรอกค่ะ วันนั้นคงหงุดหงิดผู้จัดการโรงแรมของคุณธิปมากเลยเม้งแตก ปกติมันใจเย็นอย่างกับอะไร ธรรมมะธรรมโมจนดาวเรียกว่าแม่ชี” 

    เหมือนดาวว่ายิ้ม ๆ แต่ดูท่าเจ้านายจะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ เพราะเขาเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นและยิ้มมุมปากแปลก ๆ 

    “ดาวเสียใจเรื่องพี่พลอยด้วยนะคะ ไม่ควรเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นเลย ดาวเองก็ไม่ได้ไปช่วยงานศพ ขาเดี้ยงจนลางานไปเป็นอาทิตย์ พอกลับมาก็ยุ่ง ๆ อยู่ที่แต่ที่ไซด์งาน ได้แต่ฝากเงินไอ้มัชไปทำบุญ”

    "ครับ ขอบคุณแทนพลอย" คณาธิปยิ้มน้อย ๆ

    งานศพพลอยบุณย์ทั้งเจ็ดคืน ไม่ค่อยมีใครนอกจากเพื่อนบ้านไม่กี่ราย เพื่อนที่ทำงานของพลอยบุณย์ ซึ่งผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมา หากไร้เงา ‘นายปถวี ลัคนา’ หรือ ‘ดิน’ ลูกชายคนโตของเสี่ยวิทูรผู้เป็นเจ้าของบริษัทเอเจนซี่โฆษณาที่พลอยบุณย์ทำงานอยู่ 

    ปถวีไม่มาที่งานศพเลยแม้แต่คืนเดียว คนที่มาคือลูกสาวคนเล็กของเสี่ยวิทูร ซึ่งก็คือน้องสาวของปถวี ชื่อ ‘วาลิกา ลัคนา’ หรือ ‘ทราย’ คณาธิปรู้จักและเคยคุยกับวาลิกามาแล้วก่อนหน้านี้ที่สถานีตำรวจในวันเกิดเหตุ วันที่เสี่ยวิทูรเสียชีวิตในโรงแรมของเขา วาลิกาเป็นหญิงสาวหน้าสวยหวาน ยิ้มเก่ง และดูจะอัธยาศัยดีกว่าผู้เป็นพี่ชายอยู่มาก

    ในงานศพคืนที่สองซึ่งวาลิกามาร่วมงาน หญิงสาวเพิ่งทราบในคืนนั้นว่าคณาธิปเป็นคนรักของพลอยบุณย์ วาลิกาได้บอกให้คณาธิปฟังถึงเรื่องความคืบหน้าการชันสูตรพลิกศพเสี่ยวิทูร 

    ผลการชันสูตรซึ่งยังไม่ถูกเปิดเผยกับสำนักข่าวใดนั้นระบุว่า เสี่ยวิทูร...ฆ่าตัวตาย 

    พูดได้แค่นั้นวาลิกาก็ร้องไห้ คณาธิปจึงไม่อาจเสียมรรยาทซักไซ้ให้ทราบสาเหตุการตายของเสี่ยวิทูรไปมากกว่านี้ วาลิกาตัดบทโดยบอกให้เขาทราบ ว่าศพของเสี่ยวิทูรจะถูกนำออกจากนิติเวชมาบำเพ็ญกุศลในอีกห้าวันข้างหน้า คณาธิปรับปากจะไปร่วมงาน คำทิ้งท้ายของวาลิกาก่อนขอตัวกลับคือ

    ‘คดีของพ่อทราย มันมีอะไรมากกว่าการฆ่าตัวตายค่ะ ทรายไม่อยากพูดอะไรไปมากกว่านี้ ยังไงคุณธิป รอดูแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้แล้วกันคะ’

    มางานศพพลอยบุณย์ทุกวัน ตัวคณาธิปไม่ค่อยได้คุยกับใครมากนักนอกจากธรรมบูชา เพราะไม่มีใครในที่นั้นที่รู้จักเป็นการส่วนตัวอีก 

    ยิ่งนายรงค์พ่อของพลอยบุณย์ไม่ต้องพูดถึง รับไหว้เขา ยังไม่รับ ไม่รู้เกลียดขี้หน้าอะไรเขานักหนา ตั้งแต่รู้จักกับพ่อของพลอยบุณย์คณาธิปก็เข้าใจคำว่า ‘เกลียดขี้หน้าแบบไม่มีเหตุผล’ ได้อย่างลึกซึ้งทีเดียว แต่เขาก็คิดในแง่ดีว่า นายรงค์คงแค่หวงลูกสาว

    จะมีที่ชวนเขาพูดคุยอย่างกันเองก็คือคุณยายมาลี ยายของธรรมบูชากับมัชฌิมา ซึ่งมาฟังสวดในคืนที่สี่และคืนที่หก ได้คุยกับยายมาลีก็ผ่อนคลายดี คุณยายเป็นคนคุยสนุก ทำให้เขาหายเศร้าและหายหนักใจลงไปได้มาก 

    คุณยายมาลีชวนเขาไปเที่ยวบ้าน ไปกินขนมไทยฝีมือคุณยาย แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ตอบรับหรือปฏิเสธ แม่หลานสาวมัชฌิมาก็ตอบแทนทันควันว่า เขาคงไม่ว่างไป… 

         
      
          SQW   
     
       
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×