ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภูตพราวรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : -หลักฐานแห่งความลับ2-

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ย. 63


    “ดีกับผีสิ!” ธรรมบูชาขนลุกขนพองยิ่งกว่าเก่า

    มัชฌิมายิ้มพราย ยักไหล่...ใช่ ดีกับผีสิเข้าท่า ผีดีกว่าคนตั้งเยอะ อยากหลอกก็หลอก มีความจริงใจจะตายไป แต่ดีกับคน คนชอบทำให้เสียความรู้สึก บางคนแกล้งหลอกทำดีกับเรา เพราะหวังผล พอได้ผลที่ต้องการก็ถีบหัวเราส่ง สำหรับหล่อน คนน่ากลัวกว่าผี คบผีสบายใจกว่า

    เมื่อผ้าดิบพร้อม ชนนกับกานต์จึงช่วยกันยกศพขึ้นมาวางบนผ้า ยังไม่ทันจะจัดการช่วยกันห่อศพให้เสร็จ ตำรวจนายหนึ่งก็เดินเข้ามา บอกว่าผู้จัดการโรงแรมขอพบทีมกู้ภัย จะเป็นใครก็ได้ ให้ไปพบที่หน้าห้องด่วนในเวลานี้ ชนนกับกานต์อาสาออกไป...

    แต่เพราะสองคนนั้นหายไปนานเป็นสิบ ๆ นาที ธรรมบูชาจึงขอตัวออกไปดูว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ ตอนนี้จึงมีมัชฌิมาคนเดียวที่อยู่กับศพ และต้องจัดการห่อศพต่อให้เสร็จเรียบร้อย

    วันนี้มัชฌิมาเสร็จธุระ และมาเข้าเวรที่มูลนิธิเกื้อกูลประชาตอนบ่ายสี่โมง...

    ห้านาทีผ่านไป หลังจากมัชฌิมาสวมเครื่องแบบของมูลนิธิเรียบร้อย วิทยุสื่อสารก็แจ้งเหตุเข้ามาทันที มัชฌิมาและทีมงานกู้ภัยอีกสี่คนจึงรีบรุดมายังที่เกิดเหตุ มาถึงเร็วไม่ใช่เปิดไซเรนแล้วขับรถทำความเร็ว แต่เป็นเพราะมูลนิธิเกื้อกูลประชาอยู่ห่างจากโรงแรมสถานที่เกิดเหตุ แค่สามซอยเท่านั้น

    มัชฌิมาอยู่ในชุดหมีสีดำซึ่งเป็นชุดเครื่องแบบของหน่วยกู้ภัย พื้นที่ด้านหลังของชุดเครื่องแบบมีอักษรตัวหนาปักด้วยไหมสีขาวสะท้อนแสงว่า ‘กู้ภัยเกื้อกูล’ ใต้อักษรภาษาไทยประโยคนี้ ปักอักษรจีนสีเหลืองดอกบวบขนาดใหญ่ด้วยเส้นไหมสะท้อนแสงเช่นกัน...

    อักษรจีนดังกล่าวมีความหมายว่า ‘เกื้อกูล,สนับสนุน’ ความหมายเดียวกับชื่อของมูลนิธิ บริเวณต้นแขนของเสื้อแขนยาวทั้งข้างซ้ายและขวา มีอาร์มทรงสามเหลี่ยมคว่ำพื้นสีน้ำเงินเข้มขอบส้ม บนพื้นสีน้ำเงินเข้มนั้นปักคำว่า ‘กู้ภัยเกื้อกูล’ ด้วยไหมสีแดงเข้มมองเห็นชัดเจน ถัดลงมาคืออักษรจีนตัวหนา ที่แปลว่าเกื้อกูล,สนับสนุน ปักด้วยไหมสีเหลือง ถัดลงมาลำดับสุดท้าย คือภาษาอังกฤษคำว่า ‘RESCUE’ ปักด้วยไหมสีแดงเข้ม...ตรงบริเวณไหล่เสื้อสองข้าง แขนและขาสองข้าง มีแถบผ้าสีเขียวสะท้อนแสง แถบสะท้อนแสงนี้มีไว้เพื่อความปลอดภัยในการออกเหตุ (ปฏิบัติหน้าที่) ในเวลากลางคืน

    มัชฌิมาขมวดคิ้ว ทอดถอนใจ ดวงตากลมซึ่งเคยสดใสเป็นประกาย ตอนนี้มีแววกังวลและสับสน ใบหน้าเรียวงดงามพึงตาเผือดสีมีเหงื่อกาฬไหลไม่มีชีวิตชีวาอย่างที่เคยเป็น หญิงสาวกำลังเพ่งมองร่างไร้วิญญาณซึ่งเวลานี้ถูกห่อคลุมด้วยผ้าดิบสีขาวตลอดทั้งร่าง

    มัชฌิมาไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยคนแรกที่เข้ามาถึงร่างของผู้ตาย ไม่ได้เป็นคนเดียวที่ห่อศพผู้ตาย แต่เมื่อครู่นี้ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าดิบมาห่อศพ มัชฌิมาเป็นคนเดียวที่พบสิ่งของมีค่าบางอย่างที่ใต้โซฟา ใกล้ร่างของผู้ตาย!

    ...ตอนแรกก็ไม่ได้มองเห็น แต่ทำไปทำมา มัชฌิมาก็เท้ามือลงกับพื้น แล้วนิ้วมือของหญิงสาวก็ไปสัมผัสโดนบางสิ่งเข้า มันให้ความรู้สึกเย็น ๆ แม้มือของหล่อนจะสวมถุงมือยางอยู่ เมื่อรู้สึกว่าคล้ายจะเป็นสายสร้อย มัชฌิมาเลยคลำ ๆ แล้วค่อย ๆ ใช้นิ้วเขี่ยสายสร้อยออกมาออกมาทีละนิด ครั้นพอเห็นว่าสิ่งที่แขวนติดอยู่กับสร้อยคอแสตนเลสซึ่งขาดออกจากกันคือสิ่งใด มัชฌิมาจึงตาลุก ไม่ได้ตาลุกเพราะอยากได้ แต่เพราะตกใจ 

    มัชฌิมาปรายตามองซ้ายมองขวา จนแน่ใจว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือใครคนอื่นให้ความสนใจมองมาทางตนเอง แล้วหญิงสาวจึงได้เก็บสิ่งของที่ตนเองพบเจอใส่ลงกระเป๋าเสื้ออย่างรวดเร็วในอาการที่ใจเต้นไม่เป็นระส่ำ พอจังหวะที่ธรรมบูชาหันมาเรียก ใช้ให้ลุกไปหยิบผ้าดิบมาเพื่อห่อศพ ตอนลุกขึ้นไปหล่อนก็รีบรูดซิปกระเป๋าเสื้อให้มิดชิดเสีย เพื่อกันใครสังเกต และกันหล่น

    ความจริงมัชฌิมาควรเก็บของที่เจอไว้คืนให้ญาติของเสี่ยวิทูรผู้ตาย หรือไม่ก็เอาไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะมันอาจเป็นหลักฐานสำคัญซึ่งเกี่ยวข้องในคดีความ แต่เพราะรู้ แน่ใจ ว่ามันคือหลักฐานสำคัญนี่ละ มัชฌิมาจึงตัดสินใจเลือกที่จะทำตามเสียงเรียกร้องในใจ เก็บมันเอาไว้เองโดยไม่ส่งให้ใครทั้งนั้น

    มัชฌิมามั่นใจ ของที่หล่อนเจอไม่ใช่ของของเสี่ยวิทูรเซียนพระผู้เสียชีวิต เพราะว่าของสิ่งนี้เคยเป็น...ของหล่อน ไม่ใช่สายสร้อย แต่เป็นสิ่งที่แขวนติดอยู่กับสายสร้อย 

    จริงอยู่ พระเครื่องแบบนี้อาจไม่ได้มีองค์เดียวในโลก แต่มัชฌิมาจำตำหนิครูดถลอกบนกรอบพลาสติกกันน้ำ กับรอยบุบเล็ก ๆ ตรงกรอบเลี่ยมทองแกะลายสวยงามนี่ได้ มันเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุที่หล่อนขับมอเตอร์ไซด์ชนท้ายรถเก๋งเมื่อหลายปีที่แล้ว

    ตอนนั้นมัชฌิมากำลังขับมอเตอร์ไซค์ไปแข่งกีฬาที่มหาวิทยาลัย ก็ขับมาทางตรงปกติ ในขณะที่รถเก๋งคู่กรณีแล่นสวนพรวดออกมาจากซอยโดยไม่ดูรถทางตรง หล่อนหักหลบไม่ทัน เบรกก็ไม่ทัน มอเตอร์ไซด์จึงชนช่วงท้ายของรถเก๋งเข้าเต็มแรง

    ตัวมัชฌิมาตีลังกากระเด็นข้ามรถเก๋งไปตกตุ้บแล้วกลิ้งแรง ๆ สองสามทอด พระที่พ่อให้ไว้ใส่ติดตัวหลุดออกมานอกคอเสื้อครูดไปกับพื้นถนน จึงเกิดรอยถลอกพร้อมรอยบุบเป็นตำหนิบนกรอบเลี่ยมทองขึ้นมาราวประทับตรา ไม่น่าเชื่อว่าหล่อนจะบาดเจ็บแค่ขาแพลงกับหัวแตกเย็บสามเข็ม คนเห็นเหตุการณ์พูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามัชฌิมาน่าจะหัวกระแทกอย่างแรงจนสมองกระทบกระเทือนเพราะหมวกกันน็อกกระเด็นหลุดจากหัว แข้งขาหัก หรือเป็นอย่างอื่นที่อาการหนักกว่านั้น เสียงพูดเสียงถามเซ็งแซ่ไปหมดว่าหล่อนใส่พระอะไร

    สองปีที่แล้ว มัชฌิมาเคยให้พระองค์นี้กับใครบางคนไป และก็แน่ใจ ว่าคนผู้นั้นไม่มีทางจะเอาของที่หล่อนให้ไปให้ใครฟรี ๆ หรือให้เซียนพระชื่อดังคนใดเช่าเป็นอันขาด แม้จะได้ราคาสูงแค่ไหนก็ตาม! 

    “มัช เรียบร้อยยัง” 

    มัชฌิมาสะดุ้งเล็กน้อย เสียงเรียกทำให้หล่อนตื่นจากความคิด ซึ่งคิดย้อนไปค่อนข้างลึก...ร่างสูงใหญ่ของชนนยืนอยู่ด้านหลัง

    ชนน ชายหนุ่มหน้าคมคายหล่อเหลา ไว้ผมเหยียดตรงสีดำขลับยาวประบ่า แน่นอน บุคลิกและหน้าตาซึ่งดีมาก ๆ ของชนนเป็นที่ชื่นชอบของสาวเกือบทุกรายที่ได้พบเห็น แต่ชนนไม่สนใจใคร นอกจากหญิงสาวคนที่อยู่ในสายตาของเขาตอนนี้ ชายหนุ่มผู้อยู่ในชุดเครื่องแบบอาสากู้ภัยเหมือนมัชฌิมาสะกิดไหล่มัชฌิมา เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังไม่ยอมหันกลับมา 

    ร่างระหงประเปรียวค่อย ๆ หยัดกายลุกยืน แล้วหันไปยิ้มนิด ๆ ชนนเป็นรุ่นพี่ในมูลนิธิ ชายหนุ่มเข้ามาทำงานที่มูลนิธิเกื้อกูลประชาก่อนมัชฌิมาเกือบสองปี

    “...เรียบร้อยแล้วพี่นนท์ มัชห่อศพเสร็จสักพักละ”

    “นี่มัชได้เดินดูรอบห้องบ้างหรือเปล่า เจอของอะไรบ้างไหม พี่หมายถึงวัตถุพยาน หลักฐานที่อาจเกี่ยวข้องกับคดีน่ะ”

    มัชฌิมาส่ายหน้า ยิ้มฝืด ในใจกำลังท่องศีลห้าข้อมุสาวาทาซ้ำไปซ้ำมา ขอเถอะน่า วันนี้ขอหล่อนผิดศีลข้อสี่สักครั้ง...ก็มันจำเป็นต้องผิด จำเป็นมาก ๆ จริง ๆ

    “แล้วตำรวจเขาว่าไงบ้างพี่นนท์ เจออะไรเพิ่มเติมไหม รอยนิ้วมือ หรือภาพวงจรปิดอะไรประมาณนั้นน่ะ” 

    หญิงสาววกเข้าเรื่องที่ค่อนข้างอยากรู้ หล่อนอยากรู้ว่าตำรวจเจอหลักฐานอื่นอีกบ้างไหม อยากรู้เรื่องนี้จนลืมถามว่าธรรมบูชาพี่ชายของตัวเองกับกานต์ เด็กหนุ่มรุ่นน้องอีกคนในทีมกู้ภัยหายไปไหนทำไมถึงยังไม่กลับเข้ามา 

    “เจอ” ชนนพยักหน้า  

    “อะไร...” มัชฌิมาถามเบา ๆ พยายามซ้อนเร้นความตื่นเต้นในน้ำเสียงให้มิดที่สุด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×