ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภูตพราวรัก

    ลำดับตอนที่ #11 : -ก่อนที่พุทธโธ จะรั้งความโมโหไว้ไม่ได้2-

    • อัปเดตล่าสุด 2 ธ.ค. 63


    มัชฌิมาหยิบถุงซิปล็อกเนื้อหนาขนาดไม่เกินเจ็ดคูณสิบเซนติเมตรออกมาจากระเป๋าเสื้อ แล้วยื่นถุงซิปล็อกนั้นให้เหมือนดาว ด้วยความใส จึงทำให้เหมือนดาวมองเห็นว่าในถุงบรรจุพระเครื่องสีขมิ้นองค์เล็กกรอบเลี่ยมทอง

    สิบห้านาทีก่อนออกมาจากโรงแรม มัชฌิมาได้จัดการปลดพระเครื่องออกจากสร้อยคอสแตนเลสขาด ๆ แล้วก็จัดการนำพระเครื่องใส่ในถุงซิปล็อก ซึ่งถุงซิปล็อกนั้นมัชฌิมาขอมาจากป้าแม่บ้าน มันเป็นถุงบรรจุยาคลายเส้นซึ่งป้าแม่บ้านกำลังจะทิ้งลงถังขยะ เพราะเพิ่งกินยาคลายเส้นชุดสุดท้ายในถุงหมดไปพอดี ส่วนสายสร้อย มัชฌิมาเก็บเอาไว้กับตัวเหมือนเดิม

    “ฉันฝากแกไว้หน่อยนะไอ้ดาว ฝากชั่วคราว จะเอาคืนเดี๋ยวบอก”

    เหมือนดาวพลิกพระในถุงดูด้านหน้าด้านหลัง หล่อนจะไม่ถามว่าเป็นของแท้หรือไม่ เพราะรู้ดี ระดับมัชฌิมา ไม่มีคำว่าปลอม

    “ไอ้มัช” เหมือนดาวย่นหัวคิ้ว จ้ององค์พระไม่ละสายตา “ฉันคุ้น ๆ ว่าพระองค์นี้เหมือนพระที่เมื่อก่อนแกใส่ติดตัวเลยนะ”

    “แค่เหมือน แต่ไม่ใช่หรอก” มัชฌิมาส่ายหน้า หล่อนผิดศีลข้อสี่สองครั้งแล้ววันนี้ “พระฉันก็ต้องอยู่ที่ฉันสิวะ เก็บอยู่บ้านโน่น องค์นี่เพิ่งได้มา...ลุงคิด คนขับรถที่มูลนิธิเขาร้อนเงิน เลยวานให้ฉันเป็นธุระให้หาคนเช่าให้หน่อย”

    “เขาฝากแกให้หาคนเช่า แล้วแกก็มาฝากฉันให้เก็บไว้ก่อน เพื่อ...”

    “ก็เพื่อให้แกเก็บไง”

    “แม่ชี” เหมือนดาวชี้หน้าเพื่อน “นี่มันเหตุผลอะไรของแกวะ แกมุสาอะไรฉันหรือเปล่า”

    “ไม่มีอะไร ฝากไงแก ฝากก็คือฝากโอเคนะ”

    “ไม่โอ”

    “โธ่ ไอ้ดาว” มัชฌิมากระพริบตาปริบ ๆ “ฝากหน่อยนะ นะ ๆๆ ขอร้อง”

    พระในมือเหมือนดาว เรียกว่าพระกำแพงซุ้มกอพิมพ์เล็ก จัดเป็นพระเครื่องที่สุดยอดสกุลหนึ่ง ถูกจัดอยู่ในชุดเบญจภาคีที่สูงที่สุดของพระเครื่องเมืองไทย ทำจากเนื้อดินผสมว่านร้อยแปดและเกสรดอกไม้ หรือองค์ที่ทำจากเนื้อชินเงินก็มี 

    พุทธลักษณะของพระซุ้มกอกำแพงเพชร องค์พระแกะสลักเป็นรูปพระโพธิ์สัตว์ทรงเครื่อง พุทธลักษณะอยู่ในยุคสุโขทัย นั่งขัดสมาธิ มีลวดลายกนกอยู่ด้านข้างองค์พระ องค์พระนั่งประทับอยู่บนดอกบัวเล็บช้างห้าดอก ส่วนขอบพิมพ์พระจะโค้งมนคล้ายตัวกอไก่ คนรุ่นเก่า เรียกตามลักษณะนี้ว่า พระซุ้มกอ

    มัชฌิมากระซิบบอกเหมือนดาวว่า พระรุ่นนี้ ตอนนี้ราคาเกือบแสน แถมมัชฌิมายังมีข้อห้ามหนึ่งข้อ คือห้ามไม่ให้เหมือนดาวแกะพระออกมาจากถุงเด็ดขาด

    ส่วนเหตุผลว่าทำไมถึงนำพระเครื่องมาฝากกับเหมือนดาว มัชฌิมาตัดสินใจไม่บอกเหมือนดาว หญิงสาวไม่พร้อมจะบอกอะไรเพื่อนทั้งนั้น จนกว่า...จะได้คำตอบที่ตัวเองคับข้องใจ

    แต่เหตุที่มัชฌิมาไม่ให้เหมือนดาวแกะพระออกจากถุงนั้น เพราะเรื่องลายนิ้วมือ มัชฌิมาไม่ต้องการให้ลายนิ้วมือของเหมือนดาว ไปปะปนกับลายนิ้วมือซึ่งติดอยู่ก่อนหน้าบนองค์พระเครื่องซึ่งเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญนี้ เพราะขนาดตอนปลดพระเครื่องออกจากสายสร้อย มัชฌิมายังสวมถุงมือยางเพื่อป้องกันนิ้วมือตนเอง ไม่ให้ไปให้สัมผัสกับองค์พระ

    พระเครื่ององค์นี้เคยเป็นของมัชฌิมา เมื่อสองปีที่แล้ว มัชฌิมาได้ให้พระองค์นี้เป็นของขวัญวันเกิดกับผลึกเพชร ชายหนุ่มรุ่นพี่ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของธรรมบูชา ผลึกเพชรเป็นคนรักเก่าของมัชฌิมา ทั้งคู่คบหากันมาตั้งแต่เรียนมอต้น แต่ก็มีเหตุผลบางประการทำให้ทั้งคู่เลิกกันเมื่อต้นปีก่อน เลิกกันด้วยดี ไม่ได้โกรธเกลียดกัน

    แต่วันนี้มัชฌิมาแทบไม่เชื่อสายตา เพราะเมื่อเก็บศพอยู่ดี ๆ ก็ได้เจอกับพระเครื่องซึ่งเป็นของผลึกเพชรที่ใต้โซฟาภายในห้องพักของเสี่ยวิทูรที่โรงแรม ถึงใจแรกจะลังเลว่าควรส่งหลักฐานคือตำรวจดีไหม แต่ใจที่สองซึ่งเชื่อมั่นว่าคนอย่างผลึกเพชรไม่มีทางฆ่าใครได้นั้นมีน้ำหนักมากกว่า มัชฌิมาจึงเสี่ยงเก็บหลักฐานสำคัญชิ้นนี้ไว้โดยไม่คืนให้ใครทั้งนั้น

    พระกำแพงซุ้มกอพิมพ์เล็กองค์นี้ ผลึกเพชรรักและหวงมาก...หวง เพราะเป็นของที่มัชฌิมาให้ มัชฌิมารู้ว่าชายผู้เป็นอดีตคนรักจะคล้องพระเครื่ององค์นี้ติดตัวไว้ตลอด

    ผลึกเพชรเคยให้สัญญากับมัชฌิมาไว้ว่าจะไม่ถอดพระออกจากคอเด็ดขาด จนกว่ามัชฌิมาจะอยากได้พระองค์นี้คืน จนกว่ามัชฌิมาจะไม่อยากให้เขาเป็นเจ้าของพระองค์นี้แล้ว และจนกว่ามัชฌิมาจะมาถอดพระเครื่ององค์นี้ออกไปจากคอของเขาเองกับมือ

    มัชฌิมาไม่เคยอยากได้พระเครื่องคืน และมัชฌิมา...เชื่อในคำสัญญาของผลึกเพชร 

    “ฉันไม่รับฝากหรอกไอ้มัช เกิดว่าทำตกทำหายขึ้นมา ฉันขี้เกียจต้องเอาเงินมาผ่อนใช้หนี้ค่าเสียหายให้แก” 

    เหมือนดาวยื่นพระคืน แต่มัชฌิมาไม่รับคืน รายนั้นพูดอย่างหนักแน่นว่าอย่างไรก็จะฝากไว้กับเหมือนดาว เพราะเชื่อมั่นว่าเหมือนดาวสามารถเก็บรักษาพระองค์นี้ได้ 

    เหมือนดาวรู้สึกว่าเหตุผลที่มัชฌิมาให้ เพื่อจะฝากพระเครื่องไว้กับหล่อนมันฟังดูไม่ค่อยน่าเชื่อ ฟังดูแล้วไม่น่าจะเป็นเหตุผลที่แท้จริง สงสัยก็สงสัย อยากเค้นความจริงก็อยากเค้น แต่เหมือนดาวก็เลือกไม่ถามอะไร เพราะถึงจะสนิทกันมากแค่ไหน เหมือนดาวกับมัชฌิมาก็ไม่เคยก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของกันและกัน

    “เออ รับฝากก็ได้”

    “ขอบใจ...แต้งกิ้วนะเพื่อนรัก” 

    เหมือนดาวยักคิ้วพลางเก็บพระใส่กระเป๋าเป้ส่วนตัว ก่อนเลื่อนสายตามองไปยังคนที่กำลังเดินเข้ามาจากทางด้านหลังของมัชฌิมา หญิงสาวโบกมือให้คนมาใหม่มองเห็น

    “ขอโทษนะดาว ผมเพิ่งเคลียร์ธุระเรียบร้อย คุณคอยนานเลย”

    “ก๋วยเตี๋ยวไหมคะดาวสั่งให้ ยังไม่เห็นคุณธิปกินอะไรเลยตั้งแต่เที่ยง”

    มัชฌิมาปรายตามองผู้เป็นเจ้านายของเหมือนดาว ครั้นพอเห็นหน้า ทั้งช้อนทั้งตะเกียบก็หลุดมือ ร่วงลงกระทบชามกระเบื้องบังเกิดเสียงดังจนพาให้ลูกค้าทุกโต๊ะในร้านหันมอง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×