คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : -ก่อนที่พุทธโธ จะรั้งความโมโหไว้ไม่ได้-
๓
-ก่อนที่พุทธโธ จะรั้งความโมโหไว้ไม่ได้-
ก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่หมูต้มยำพิเศษลูกชิ้น ไม่ใส่ต้นหอมผักชีซอยชามที่สาม เกลี้ยงตามชามที่สองไป ภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที เร็ว...เร็วจนเหมือนดาวนึกทึ่งกับสิ่งที่เห็น
มัชฌิมาอยู่ในชุดหมีสีดำซึ่งเป็นเครื่องแบบอาสาสมัครกู้ภัย แขนเสื้อสองข้างพับขึ้นถึงข้อศอก ซิปยาวกลางลำตัวถูกรูดลงเผยให้เห็นเสื้อยืดคอวีสีขาวตัวใน มัชฌิมาตะโกนบอกแม่ค้าว่าขอก๋วยเตี๋ยวอีกหนึ่งชาม
“สี่ชามแล้วนะไอ้มัช สามชามเมื่อกี้แกเอาไปเก็บไว้ไหนวะ”
มัชฌิมาปรุงก๋วยเตี๋ยวชามที่สี่ ใส่เครื่องปรุงทุกอย่างยกเว้นน้ำตาลทรายเช่นเคย เพราะหญิงสาวไม่ชอบกินหวาน หน้าสีจืดของมัชฌิมาแดงปลั่งเพราะฤทธิ์พริกป่น
เมื่อครู่ตอนเหมือนดาวเผลอหันไปทางอื่นแวบหนึ่ง มัชฌิมาแอบใส่พริกป่นเติมลงไปในก๋วยเตี๋ยวอย่างรวดเร็วอีกหนึ่งช้อน ที่ต้องแอบ เพราะถ้าเหมือนดาวเห็นจะต้องเอ็ดหล่อนแน่ที่กินเผ็ดเกินไป
เหมือนดาวกลัวมัชฌิมาจะปวดท้อง เพราะมัชฌิมาเป็นคนท้องเสียง่าย กินอะไรไปถ้าเผ็ดหน่อยแป๊บเดียวเป็นต้องวิ่งเข้าห้องน้ำ
มัชฌิมายักไหล่ ทำยังไงได้ล่ะ ก็คนมันติดรสเผ็ดนี่นา งดมาตั้งนาน นาน ๆ จะได้กินเผ็ดแบบแซ่บนัวสักที ขอกินให้สะใจหน่อยเถอะ เรื่องท้องเสียแค่เข้าห้องน้ำก็เคลียร์จบ
“ละลายไปหมดแล้วมั้ง ฉันไม่รู้สึกเลยสักนิดว่าอิ่ม...วานรินน้ำให้หน่อยสิ”
เหมือนดาวมองมัชฌิมากระดกน้ำอัก ๆ แล้วกลัวว่าอีกฝ่ายจะสำลักออกมา
“อาสากู้ภัยสาวหิวจัดซัดก๋วยเตี๋ยวสี่ชาม สวาปามสำลักน้ำเปล่าตายอนาถ ค่อย ๆ กิน พาดหัวข้อข่าวแบบนั้นมันน่าอายอยู่นะแก”
“กินไดโนเสาทั้งตัวยังได้เลย แกรู้ไหมไอ้ดาว เจ๊ผู้จัดการโรงแรมคนนั้นชื่อบรา...บรา อะไรสักอย่างนี่ละจำไม่ได้ ไม่อยากจะจำ เจ๊แกตามลงมา บ่น ๆๆ บอกว่าช่วยเอาศพลงไปเร็ว ๆ หน่อยได้ไหม เดี๋ยวลูกค้าโรงแรมจะขวัญเสียไปมากกว่านี้”
เหมือนดาวยิ้มเจื่อน ๆ เมื่อนึกภาพตามแล้วรู้สึกถึงความเหน็ดเหนื่อยของเพื่อนสนิทและทีมกู้ภัย ลิฟต์ก็ไม่ให้ใช้ ยังมาเร่งให้เร็วอีก
“ยายเจ๊นั่นเดินตัวปลิว ขณะที่ฉันกับทีมเดินแบกศพลงมา พักเหนื่อยหน่อยก็ว่าชักช้า เดินว่าพวกฉันมาตลอดทาง” มัชฌิมาชี้ที่แขนเสื้อทั้งสองข้างของตัวเอง ให้เหมือนดาวมองตาม “ตราหน่วยงานอันเท่าบ้าน ก็เห็นนะว่าฉันเป็นเจ้าหน้าที่ เจ๊เขาควรจะให้ความร่วมมือหรือเปล่าวะ งานมันจะได้ลุล่วงเร็ว ๆ”
“ยายเจ๊บรา อะไรที่แกว่าเป็นแค่ผู้จัดการโรงแรม ไม่ใช่เจ้าของโรงแรมสักหน่อย ตอนแรกแกทำไมไม่ขอคุยกับเจ้าของโรงแรม”
“ก็ตาขี้เก๊กนั่นมาช้า รู้ว่าโรงแรมตัวเองมีคนถูกฆ่าตายแท้ ๆ แทนที่จะรีบมา แต่กว่าจะมาถึงได้ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต้องรอเกือบชาติ นักข่าวก็เยอะ วุ่นวายจะแย่”
“แกเรียกเจ้าของโรงแรมว่า ตาขี้เก๊กหรือไอ้มัช”
“ก็เรียกตามบุคลิกที่ฉันเห็น...เออ ฉันเจอคุณธีรดาในโรงแรมด้วยนะ คือผู้ถือหุ้นใหญ่ของโรงแรมมีสามคน หนึ่งในสามนั้นคือคุณธีรดา คุณธีรดากับตาขี้เก๊กเป็นเพื่อนกัน...ทำไมฉันไม่เจอคุณธีรดาตั้งแต่แรกวะ ทำไมต้องเจอยายผู้จัดการจอมสั่ง กับตาผู้ถือหุ้นคนขี้เก๊กนั่นก่อนด้วยก็ไม่รู้”
“นี่แกไปทะเลาะอะไรกับเขามาหรือเปล่า...ฉันหมายถึงกับ ตาขี้เก๊ก”
มัชฌิมายักไหล่ หล่อนเปล่า เป็นตาขี้เก๊กนั่นละ ที่พอหล่อนไปแจ้งเรื่องวิธีการขนศพ ตาคนนั้นพูดขอโทษแค่ประโยคเดียว ไม่พอ มาทำหน้าหงิกหน้างอใส่หล่อน แต่ไม่ว่าอะไรยายผู้จัดการเสียงแหลมนั่นสักคำนอกจากสั่งให้ขอโทษ ที่รายนั้นปล่อยให้พวกหล่อนขนย้ายศพลงมาทางบันไดหนีไฟ จากชั้นสามสิบหกลงมาชั้นล่าง ถ้าเป็นบันไดเลื่อนจะไม่ว่า แบกอีกสิบศพก็ไหว หล่อนจะแบกยายเจ๊ผู้จัดการโรงแรมจอมพูดมากไปเก็บคนแรกเลยคอยดู
“คุณธีรดาเขาจำได้ว่าฉันเป็นเพื่อนแก ถ้าเขาไม่เข้ามาช่วยเคลียร์นะ ป่านนี้ฉันยังยืนเถียงกับยายเจ๊บราเซียนั่นอยู่เลยมั้ง”
“ใจเย็น ๆ น่าแม่ชี”
เหมือนดาวหัวเราะร่วน นี่ถ้าเจ้าของชื่อมาได้ยินคงตรงดิ่งมาต่อว่ามัชฌิมาแน่ ๆ ที่เปลี่ยนชื่อให้ วันนี้เป็นบุญตาหรือบาปตาของหล่อนก็ไม่รู้ ที่ได้เห็นคนใจเย็นเป็นแม่ชีอย่างมัชฌิมาโกรธจนควันแทบพุ่งออกหูขนาดนี้ ตาผู้ถือหุ้นโรงแรมคนขี้เก๊กเขาเก่งจัง ทำให้แม่ชีกลายร่างเป็นแม่มดได้
“เออนี่ คุณธีรดาสุดหล่อ เขาฝากความคิดถึงถึงแกด้วยนะ” มัชฌิมายักคิ้วแผล็บให้เพื่อนสนิท
“แกโม้ละไอ้มัช เขาจะมาฝากความคิดถึงถึงฉันทำไม”
“ฝากความคิดถึง ก็เพราะคิดถึงน่ะสิวะ” มัชฌิมาพูดแกมหัวเราะ “ว่าแต่แกเถอะ มาทำอะไรแถวนี้ ที่ทำงานแกมันไม่ได้อยู่ใกล้กับตรงนี้เลยนะไอ้ดาว”
“ออกมาคุยงานกับเจ้านายแต่ไม่ใช่แถวนี้ เผอิญเจ้านายบอกว่ามีเรื่องใหญ่ต้องรีบมาจัดการด่วน เลยยกเลิกงานแล้วรีบมาที่นี่ เดี๋ยวฉันต้องเข้ากลับออฟฟิศพร้อมเจ้านายอีก ไปเคลียร์งานต่อให้เสร็จเรียบร้อยน่ะ”
“ที่นี่สาธรนะไอ้ดาว ตึกที่แกทำงานมันอยู่ไกลจากที่นี่มาก อ้อมโลกไปสามรอบเลยมั้ง เย็นมากแล้วด้วย รถติดตาย แต่เดี๋ยวนะ แล้วยังไงเจ้านายแก พาแกมา แต่เอาแกมาทิ้งไว้หน้าปากซอย ทำไมเขาไม่พาแกเข้าไปทำธุระด้วย”
เหมือนดาวส่ายหน้า ไม่รู้เหตุผลเหมือนกันว่าทำไมเจ้านายไม่พาหล่อนเข้าไปทำธุระด้วย นี่ถ้ามูลนิธิกู้ภัยที่มัชฌิมาทำงานไม่ได้อยู่แถวนี้ หล่อนได้นั่งแกร่วอยู่คนเดียว หรือไม่ก็ไปยืนลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวกับป้าแม่ค้าแล้วแน่ ๆ
“ทำไมไม่รู้ ก็มาด้วยกัน”
“คุณมัชฌิมาเจ้าคะ อิฉันเป็นแค่ลูกจ้างเจ้าค่ะไม่ใช่เมีย จะได้ต้องรู้ทุกอย่างตามทุกเรื่อง...ประเดี๋ยวเจ้านายอิฉันมา คุณมัชฌิมาก็เรียนถามเขาเองเลยว่าทำไมเอาอิฉันมาทิ้งไว้หน้าปากซอยนี่” คุณมัชฌิมาสำลักก๋วยเตี๋ยวกับคำแนะนำของหล่อน เหมือนดาวขำท่าทางของเพื่อนสนิท “แค่นี้ทำปอดแหกหรือเจ้าคะคุณมัช”
มัชฌิมาวางมือจากการกินก๋วยเตี๋ยว ใบหน้าของเพื่อนสนิทขึงขังขึ้นจนเหมือนดาวนึกแปลกใจ
มัชฌิมาหยิบถุงซิปล็อกเนื้อหนาขนาดไม่เกินเจ็ดคูณสิบเซนติเมตรออกมาจากระเป๋าเสื้อ แล้วยื่นถุงซิปล็อกนั้นให้เหมือนดาว ด้วยความใส จึงทำให้เหมือนดาวมองเห็นว่าในถุงบรรจุพระเครื่องสีขมิ้นองค์เล็กกรอบเลี่ยมทอง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ (ลงตั้งสองตอนละ เพิ่งมาทักทาย ฮ่า ๆๆ)
จะบอกว่า เหมือนดาวกับธีรดา เป็นตัวละครจากเรื่องก่อนหน้านี้นะคะ (ยังไม่ได้ลงค่ะ ลงเรื่องนี้ก่อน) อาจมีสองคนนี้มาป้วนเปี้ยนบ่อยหน่อย เพราะสองเรื่อง มีเรื่องเชื่อมกันอยู่เป็นบางช่วงบางตอนค่ะ
ป.ล. สนุก ไม่สนุก หรือขัดอกขัดใจว่าผีเยอะยังไง บอกกันได้นะคะ 55
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค่ะ ขอให้สนุกกับการอ่าน อย่าเพิ่งกลัวผี แล้วหนีไปไหนกันนะคะ จุ๊บ ๆ
ความคิดเห็น