คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : -ลิฟต์ผีสิง3-
คุณ” คราวนี้มัชฌิมาเรียกเต็มเสียง ขณะที่ชายหนุ่มเดินไปหยุดอยู่หน้าลิฟต์ แต่ชายหนุ่มร่างสูงผู้ที่ถูกเรียกไม่ยอมหยุดเดิน “คุณคณาธิป”
คณาธิปเพียงหยุดเดินแต่ยังไม่หันมา คนหันมาคือแม่ผู้จัดการโรงแรมซึ่งมัชฌิมาเพิ่งปะทะคารมด้วยเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว
ครึ่งชั่วโมงที่แล้วมัชฌิมาอึดอัด แต่แม่ผู้จัดการโรงแรมนี่อึด...และถึกมาก ๆ เพราะนอกจากเจ้าหล่อนจะยืนกรานอย่างหนักแน่นว่าไม่ให้ทีมกู้ภัยใช้ลิฟต์ขนย้ายร่างผู้เสียชีวิตแล้ว เจ้าหล่อนยังเดินตามลงมาคุมทีมกู้ภัยจากชั้นสามสิบหก ลงมาถึงชั้นแรกนี่เลยทีเดียว
มัชฌิมาคิดว่าปอดของเจ้าหล่อนจะต้องใหญ่และแข็งแรงมาก เพราะไม่เช่นนั้น คงจะเดินตามลงมาโดยขาไม่หยุดเดินและปากไม่หยุดพูดไม่ได้ เจ้าหล่อนเดินตามลงมาแล้วก็ใช้ปากเคลือบลิปสติกสีเลือดนก เร่ง ๆๆ เร่งให้ทีมกู้ภัยรีบ ๆ ขนศพออกไปให้พ้นโรงแรมเร็ว ๆ เร่งตั้งแต่ชั้นสามสิบหกจนลงมาถึงชั้นหนึ่ง
มัชฌิมาผู้ซึ่งเป็นคนใจเย็นมาก ๆ นั้นไม่เคยรู้สึกรำคาญและคันปากอยากด่าใครเช่นแม่คนนี้มาก่อน ในขณะปฏิบัติงานหญิงสาวได้แต่สงบจิตใจและกัดกรามกรอด ๆ ทั้งที่อยากจะมอบหน้าที่แบกศพให้แม่ผู้จัดการโรงแรมทำแต่เพียงผู้เดียว
หล่อนกับทีมกู้ภัยซึ่งประกอบด้วย ธรรมบูชา ชนน และ กานต์ ใช้แขนขาบ่าไหล่ทำงานผลัดคู่กันหามศพ แต่แม่ผู้จัดการโรงแรมใช้เพียงปากพ่นคำพูดเห็นแก่ตัวออกมา แบบนี้แน่ ๆ ที่เขาเรียกผีเจาะปากของจริง
มัชฌิมากำลังคิดว่า อยากจะท่องคาถาเรียกแม่ผีสาว สาวโรงงานเย็บผ้าที่จบชีวิตเพราะไฟครอกจากเหตุเพลิงไหม้โรงงานซึ่งรู้จักกันเมื่ออาทิตย์ก่อนตอนหล่อนไปเก็บศพ ให้พกเข็มพกด้ายมาเย็บด้นปิดปากยายผู้จัดการโรงแรมคนนี้ให้เข้าที่เข้าทางเสียจริง ๆ เย็บแล้วไม่ต้องเจาะออกมาอีกเลย จะได้ไม่ต้องพูดมาก
“เธออีกแล้วหรือ มีอะไร” บราลีถามห้วน ๆ หน้ายังคงเชิด
“ชื่อคณาธิปหรือคะ” มัชฌิมาสวนกลับทันควัน “ถ้าไม่ใช่ กรุณาเงียบ”
“นี่เธอ!”
“มีธุระอะไรกับผมครับ”
คณาธิปหันมาก่อนที่บราลีจะทันสาวเท้าไปประชิดตัวมัชฌิมา คิ้วดำเป็นปื้นของชายหนุ่มร่างสูงรูปงามขมวดมุ่นยามจ้องหน้าหญิงสาวร่างสูงระหงในชุดเครื่องแบบอาสากู้ภัย ก็ดูสวยสะดุดตาดี แต่สะดุดตาแบบแปลก ๆ อะไรในตัวหล่อนแปลกเขาไม่แน่ใจ แต่รู้สึกว่าแปลกจนขนลุก ไม่รู้ขนลุกเพราะอะไรอีกต่างหาก
“คุณกลัวผีไหมคะ” มัชฌิมาถามเนิบ ๆ
“ถามอะไรของคุณ” คณาธิปคิ้วขมวดยิ่งกว่าเก่า “ถ้าไม่มีธุระอะไรสำคัญนอกจากคำถามไม่มีสาระนี่ ผมขอตัว”
“ในลิฟต์มีผีนะคะ” มัชฌิมายิ้มมุมปาก เมื่อเห็นคณาธิปชะงัก หญิงสาวพูดต่อไปว่า “ทุกที่รอบ ๆ ตัว มีสิ่งที่สายตาคนเรามองไม่เห็นทั้งนั้นละค่ะ ในลิฟต์นี่ก็เหมือนกัน...ตอนสร้างโรงแรมใหม่ ๆ มีลุงช่างติดตั้งลิฟต์คนหนึ่ง หัวใจวายตายในลิฟต์ ตัวที่คุณกดเรียกไปเมื่อกี้”
“รู้เรื่องนี้ได้ยังไง ใครบอกคุณ”
คณาธิปถามเสียงหนัก เรื่องที่หญิงสาวในชุดอาสากู้ภัยคนนี้พูดเป็นความจริง มีช่างติดตั้งลิฟต์ชื่อสรพงศ์หัวใจวายตายในลิฟต์จริง แต่เรื่องนี้ถูกสั่งห้ามไม่ให้แพร่งพรายให้นักข่าวหรือบุคคลภายนอกรู้ แล้วหญิงสาวผู้เป็นคนนอกคนนี้ไปรู้เรื่องนี้มาจากใคร
“ผีในลิฟต์บอกค่ะ” มัชฌิมาพยักพเยิดไปที่ลิฟต์ข้างหลังเขา “ลุงสรพงศ์บอกฉันด้วยนะคะ ว่าเขาไม่มีญาติที่ไหน พ่อแม่ตายหมด โสดสนิท ลุงเขาตายที่นี่มาจะหกปีแล้วไม่มีใครทำบุญไปให้เลย ลุงลำบากแล้วก็หิวมาก ไปเกิดก็ยังไปไม่ได้ ฉันว่าคุณในฐานะเจ้าของโรงแรมคนหนึ่ง ควรทำบุญไปให้เขาบ้างนะคะ”
มัชฌิมาไม่ได้พูดปด ผีในลิฟต์บอกมาหล่อนจริง ๆ ผีชื่อลุงสรพงศ์ ลุงสรพงศ์บอกตอนที่หล่อนขึ้นลิฟต์ตัวนั้นเพื่อจะไปเก็บศพเสี่ยวิทูรที่ชั้นสามสิบหก หล่อนเห็นกับตา ได้ยินสิ่งที่ลุงสรพงศ์พูดกับหู ลุงสรพงศ์อยู่ในชุดหมีคล้าย ๆ หล่อน ชุดหมีอาสากู้ภัยของหล่อนเป็นสีดำ แต่ชุดหมีของลุงสรพงศ์เป็นสีเทา
ลุงสรพงศ์สวมหมวกนิรภัยสีเหลืองลูกไก่เอาไว้ด้วย เพราะลุงตายขณะกำลังทำงาน ไม่มีใครช่วยลุงทันเพราะลุงหัวใจวายเฉียบพลัน เลยตายคาลิฟต์ วิญญาณติดอยู่ที่ลิฟต์ ก็ตอนเอาศพลุงออกไป ไม่มีใครจุดธูปเชิญวิญญาณลุงกลับไปด้วย
พอมัชฌิมาเอ่ยปากบอกพรุ่งนี้ว่าจะทำบุญไปให้ ลุงสรพงศ์ก็ขอบใจหล่อนอย่างซาบซึ้งใจ ในขณะที่ธรรมบูชา ชนน กานต์ ซึ่งขึ้นลิฟต์มาด้วยกัน รี ๆ ขวาง ๆ มองอากาศรอบตัว เพราะทุกคนนั้นรู้ดีว่ามัชฌิมามีสัมผัสพิเศษเห็นผี และลองมัชฌิมาพูดคนเดียวได้เป็นฉาก ๆ แบบนี้ แสดงว่าในลิฟต์ตัวนี้ ต้องมีสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ปนอยู่ด้วยแน่ ๆ
มัชฌิมามองผ่านหลังคณาธิปไปแล้วยิ้มหวาน แน่นอน หล่อนไม่ได้ยิ้มให้คณาธิป และไม่มีวันยิ้มหวานแบบที่กำลังยิ้มอยู่นี้ให้เขา หล่อนยิ้มหวานผูกมิตรให้กับวิญญาณของลุงสรพงศ์ซึ่งโผล่หน้าออกมาจากประตูลิฟต์แล้วยกนิ้วโป้งยอดเยี่ยมให้หล่อนต่างหาก คงจะพอใจที่หล่อนพูด ลุงแกคงอยากได้บุญบ้าง
“พูดบ้าอะไรของเธอ ประสาท คุณธิปอย่าไปเชื่อนะคะ ผีเผลองมงาย เรื่องหลอกเด็ก แม่กู้ภัยนี่คงแต่งเรื่องจะหลอกให้เรากลัวจนไม่อยากขึ้นลิฟต์ เพราะต้องการแก้แค้นที่ลี...”
“แก้แค้นอะไรคะคุณผู้จัดการโลงศพ เอ๊ย ผู้จัดการโรงแรม” มัชฌิมายิ้มเย็น “พูดออกมาให้จบสิคะ”
“ออกไป” บราลีชี้ไปทางประตูทางออก…
ความคิดเห็น