ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภูตพราวรัก

    ลำดับตอนที่ #6 : -ลิฟต์ผีสิง2-

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ย. 63


    ภายในรถตู้กู้ภัยฉุกเฉินคันนี้ใหม่เอี่ยม ทันสมัย มีพร้อมทั้งเครื่องมือและชุดอุปกรณ์ทางการแพทย์ซึ่งได้มาตรฐาน พร้อมกับการให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยจากอุบัติเหตุและเหตุฉุกเฉินต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่เลือกเวลาสถานที่ 

    ความจริงรถตู้คันก่อนที่ทีมกู้ภัยของกลุ่มมัชฌิมาใช้ไม่ทันสมัยอย่างนี้ มันออกจะเก่าแก่กว่ารถทุกคันในมูลนิธิเกื้อกูลประชาด้วยซ้ำ แอร์เสีย เกียร์ไม่ดี สีถลอกลอกเป็นแผ่น ๆ จนเห็นรอยสนิมกิน พูดง่าย ๆ คือมันเก่ามาก เก่าจนมัชฌิมาเรียกว่า ‘ลุงเต่า’ 

    ลุงเต่าแสนชราเป็นรถตู้กู้ชีพหลังคาต่ำสีขาว ซึ่งถูกใช้งานจนคุ้มเกินราคามาเกือบสามสิบปี เครื่องยนต์ของลุงเต่าเลยไม่ฟิตเหมือนรถคันอื่น เร่งเครื่องแรงมากก็ไม่ค่อยได้ เพราะลุงเต่าหมดแรงง่ายเลยพาลกระตุกแล้วดับอยู่เสมอ ถึงจะพาไปยกเครื่องใหม่หลายรอบก็ช่วยอะไรลุงเต่าไม่ได้มาก พาไปซ่อมจนช่างพากันส่ายหัว เพราะไม่อาจทำให้ลุงเต่าหนุ่มแน่นอีกครั้งขึ้นมาได้ ช่างแนะนำว่าเก็บเงินค่าซ่อมรถลุงเต่าครั้งละหลายพันนี้ทบ ๆ กันไว้ไปเปลี่ยนรถคันใหม่จะง่ายกว่า

    แต่เมื่อประมาณต้นปีที่แล้วทางมูลนิธิเกื้อกูลประชาได้เงินอุดหนุนมาก้อนใหญ่ อีกทั้งยังได้รถตู้กู้ชีพฉุกเฉินคันใหม่มาถึงสามคันจากสมาคมกู้ชีพ-กู้ภัย เจ้าหน้าที่ก็เลยปฏิบัติงานได้โดยไม่ต้องกังวลอีกว่ารถจะดับกลางถนนหรือไม่ และอุปกรณ์บวกกับเครื่องมือการแพทย์ที่มีอยู่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้เต็มที่หรือเปล่า

    ส่วนลุงเต่า ก็ปลดประจำการ ถูกจอดอยู่ข้างที่ทำการมูลนิธิ แต่ลุงเต่าก็ยังถูกพาออกไปขับบ้าง คนที่ยังขับลุงเต่าอยู่นั้นก็ไม่ใช่ใคร มัชฌิมานั่นเอง หญิงสาวรักลุงเต่าเลยไม่อยากให้ลุงเต่าจอดตายอยู่เฉย ๆ มัชฌิมามักพาลุงเต่าออกไปขับชมวิวตอนกลางคืนในกรุงเทพฯเล่นบ้างในเวลาที่ว่างเว้นจากเวรงานที่มูลนิธิเกื้อกูลประชา

    มัชฌิมาอยากพาลุงเต่ากลับไปไว้ที่บ้านเพราะลุงเต่ายังใช้การได้ถึงจะใช้ได้ไม่ดีนักก็ตาม ธรรมบูชาก็มีฝีมือในการซ่อมรถอยู่มาก น่าจะพอซ่อมถูไถลุงเต่าไปได้ แถมหัวหน้าใหญ่ก็อนุญาตแล้วด้วยเพราะเห็นว่าจอดลุงเต่าไว้เฉย ๆ ไม่มีใครใช้ก็น่าเสียดาย เอาไปขายก็ไม่มีใครกล้าซื้อพอรู้ว่าลุงเต่าเป็นรถเก็บศพมาก่อน

    หัวหน้าใหญ่ประกาศขายลุงเต่าทางอินเทอร์เน็ตในราคาสองหมื่นบาทขาดตัว ล่าสุดเมื่อสองเดือนที่แล้วมีคนสนใจเป็นรายที่สี่ ครั้งนี้มัชฌิมาอาสาหัวหน้าใหญ่ขับลุงเต่าไปให้ลูกค้าซึ่งเป็นลุงกับป้าวัยห้าสิบปลายคู่หนึ่งดู แต่ถึงไม่อาสาก็ต้องเป็นมัชฌิมาอยู่ดีที่ต้องรับหน้าที่อันทรงเกียรตินี้ เพราะไม่มีใครกล้าขับลุงเต่าไปให้ลูกค้าดูอีกเลย หลังจากลูกค้าสามรายแรกโวยว่าลุงเต่าเป็นรถผีสิง

    ลุงกับป้าลูกค้ารายที่สี่ ทั้งคู่เป็นเจ้าของกิจการอู่ซ่อมรถแถวรังสิตคลองสอง ลุงดูพอใจกำลังจะเข้าไปหยิบเงินสดสองหมื่นบาทออกมาจ่าย แต่อยู่ ๆ ป้าซึ่งกำลังตรวจดูภายในรถก็โหกเหวกโวยวายกรี๊ดสนั่นจนอู่แทบแตก ว่าในรถมีผีหน้าเละ ร่างพุพองสามตัวมาออกหลอกหลอน

    ...แล้วลุงเต่าก็ต้องกลับมาจอดนิ่งอยู่ที่มูลนิธิเกื้อกูลประชาเหมือนเดิม

    มัชฌิมาเชื่อ ว่าป้าคนนั้นถูกผีหลอก เพราะในรถลุงเต่ามีผีอยู่จริง เป็นผีสามีภรรยาวัยสี่สิบกลาง ๆ และหลานสาวอายุสิบเก้าอีกหนึ่งตน ทั้งสามประสบอุบัติเหตุแก๊สติดรถยนต์ระเบิดเมื่อสี่เดือนก่อน ถูกย่างสดตายอย่างน่าอนาถในรถเก๋ง ทีมกู้ภัยกลุ่มของมัชฌิมาเป็นผู้ไปกู้ศพออกมาจากซากรถเก๋งคันนั้น

    และเพราะวิญญาณไม่มีที่ไป ทั้งสามเลยตามมัชฌิมากลับมา และถือวิสาสะอาศัยสิงอยู่ในลุงเต่า มัชฌิมาเคยเจรจาแล้วหลายครั้ง เอาของไปเซ่นก็หลายหน แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไรสามวิญญาณก็ไม่ใจอ่อน ยืนกรานไม่ยอมไปไหน มัชฌิมาเลยเสียเครื่องเซ่นไปฟรี ๆ ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วเลยปล่อยเลยตามเลย คิดอีกแง่ มัชฌิมาว่าก็ดีเหมือนกัน เวลาขับลุงเต่าออกไปเที่ยวจะได้มีเพื่อนนั่งรถ 

    ลุง ป้า หลาน ไม่ยอมให้รถลุงเต่าถูกขายเพราะจะกลายเป็นวิญญาณเร่ร่อน อยู่ในรถลุงเต่า อย่างน้อยมัชฌิมาก็ยังคอยทำบุญและหาเครื่องเซ่นมาให้กินเล่นบ่อย ๆ 

    พอรู้ว่ามีคนติดต่อซื้อรถ สามวิญญาณก็แท็กทีมหลอกหลอนเสียจนคนติดต่อขอซื้อรถวิ่งหนีตับแล่บไปทุกรายถึงแม้จะเป็นตอนกลางวันแสก ๆ และที่สำคัญ ทั้งสามก็ดูจะเข้ากับแม่ย่านางสุดสวยของรถลุงเต่าได้ดี เพราะมัชฌิมาเห็นว่าขึ้นไปนั่งไขว่ห้างเม้าธ์อยู่บนหลังคารถกันทุกคืน ขนาดหมาทั้งฝูงโก่งคอเห่าหอนจนคอแทบแตก ก็ยังไม่แคร์กันเลยสักนิด ชาวบ้านแถวนั้น ไม่มีใครกล้าเดินเฉียดเข้าใกล้มูลนิธิเกื้อกูลประชาสักคนยามค่ำคืน เพราะกลัวเจอดี 

    เคยมีวัยรุ่นติดยาสองคนมางัดมูลนิธิจะขโมยของ เข้าไปได้ แต่ขโมยอะไรออกไปไมได้สักอย่าง เพราะถูกสามวิญญาณลุง ป้า หลาน ในรถลุงเต่าสามัคคีชุมนุมหลอกหลอนจนแหกปากร้องลั่นวิ่งหนีกันขาขวิด...และนี่คืออีกเหตุผลหนึ่งรองจากมีเพื่อนนั่งรถเล่น ที่มัชฌิมาไม่คิดจะไล่ผีในรถลุงเต่าออกไป เลี้ยงผีนั้นใช้การได้ดีกว่าจ้างยาม...เพราะผีไม่หลับยาม

    ถึงหัวหน้าใหญ่จะอนุญาตให้มัชฌิมานำลุงเต่าไปใช้งานที่บ้านได้ แต่ยายมาลีไม่ยอมให้มัชฌิมาพาลุงเต่าเข้าบ้าน ยายมาลีนั้นพรั่นพรึงเหลือเกินกับสิ่งที่ตนมองไม่เห็น ซึ่งอาจแถมติดมากับรถตู้กู้ชีพและเก็บร่างคนตายอย่างรถลุงเต่า

    ลุงเต่าเปรียบเสมือนชายคนรักของมัชฌิมา ที่ยายมาลีรังเกียจรังงอนไม่ยอมรับเข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัว ผู้เป็นยายยืนกรานหนักแน่นยิ่งกว่าตอนให้สัญญากับมัชฌิมาว่าจะเลิกเล่นหวย ว่าไม่ให้มัชฌิมานำรถลุงเต่าเข้าเขตบ้านอย่างเด็ดขาด ถึงขั้นขู่จะตัดสิทธิ์ออกจากการเป็นหุ้นส่วนแฟรนไชส์ ‘ขนมไทยยายมาลี’ ซึ่งกิจการกำลังได้ดิบได้ดีเพิ่งขยายสาขาสามไปหมาด ๆ เมื่อวานนี้ที่ตลาดสดฟ้างาม ใกล้ ๆ ชุมชนฟ้างาม เหมือนดาวเพื่อนสนิทของหลานสาวเป็นธุระช่วยจัดการติดต่อกับเจ้าของตลาดให้เรื่องจะนำแฟรนไชส์ของยายมาลีไปลง

    “คุณคะ”

    มัชฌิมาก้าวฉับ ๆ จนเกือบจะถึงตัวคณาธิปอยู่แล้ว แต่เข้าไม่ถึง เหตุผลที่เข้าไปไม่ถึงคือวงล้อมของเหล่านักข่าวที่ห้อมล้อมตัวคณาธิปไว้เหมือนคณาธิปเอาของมาแจก แล้วมีผู้ประสบภัยกรูกันเข้ามารับของแจก...อย่างแตกแถว  

    มัชฌิมาถอนใจใหญ่ เพราะหล่อนถูกเบียดถอยหลังออกมา หญิงสาวรอจนหน่วยรักษาความปลอดภัยของโรงแรมเข้ามากันนักข่าวออกไปจนหมดก่อน จึงได้สืบเท้าเดินตามหลังคณาธิปไป

    “คุณ” คราวนี้มัชฌิมาเรียกเต็มเสียง ขณะที่ชายหนุ่มเดินไปหยุดอยู่หน้าลิฟต์ แต่ชายหนุ่มร่างสูงผู้ที่ถูกเรียกไม่ยอมหยุดเดิน “คุณคณาธิป”

    คณาธิปเพียงหยุดเดินแต่ยังไม่หันมา คนหันมาคือแม่ผู้จัดการโรงแรมซึ่งมัชฌิมาเพิ่งปะทะคารมด้วยเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×