คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : -หลักฐานแห่งความลับ3-
“แล้วตำรวจเขาว่าไงบ้างพี่นนท์ เจออะไรเพิ่มเติมไหม รอยนิ้วมือ หรือภาพวงจรปิดอะไรประมาณนั้นน่ะ”
หญิงสาววกเข้าเรื่องที่ค่อนข้างอยากรู้ หล่อนอยากรู้ว่าตำรวจเจอหลักฐานอื่นอีกบ้างไหม อยากรู้เรื่องนี้จนลืมถามว่าธรรมบูชาพี่ชายของตัวเองกับกานต์ เด็กหนุ่มรุ่นน้องอีกคนในทีมกู้ภัยหายไปไหนทำไมถึงยังไม่กลับเข้ามา
“เจอ” ชนนพยักหน้า
“อะไร...” มัชฌิมาถามเบา ๆ พยายามซ้อนเร้นความตื่นเต้นในน้ำเสียงให้มิดที่สุด
“ลายนิ้วมือแฝงบนปืน ลูกบิดประตู แล้วก็ข้าวของบางอย่างในห้อง แต่เห็นตำรวจเขาว่ามีเหตุผลหลายอย่างทำให้ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าฆ่าตัวตายหรือฆาตกรรม ต้องรอผลชันสูตรพลิกศพจากนิติเวช ต้องรอดูการเปลี่ยนแปลงหลังการตาย ต้องผ่าพิสูจน์ศพ”
“กล้องวงจรปิดล่ะ” มัชฌิมากำลังควบคุมสติ ควบคุมเสียงให้ปกติที่สุด แต่หัวใจนั้นเต้นแรงอย่างกับกำลังตีกลอง
“เมื่อกี้ตำรวจไปเช็กแล้ว พี่ก็ไปกับเขาด้วยนะ ดูว่าใครมาหาเสี่ยวิทูรเป็นคนสุดท้าย”
“แล้ว...”
“รปภ.บอกว่าเมื่อช่วงประมาณเที่ยง ๆ ที่โรงแรมไฟฟ้าขัดข้อง ไฟดับไปราวห้านาที นั่นส่งผลกระทบไปถึงระบบของกล้องวงจรปิด กล้องวงจรปิดหลายจุดไม่มีภาพ รวมถึงจุดตรงห้องเสี่ยวิทูรนี่ด้วย”
“คือ...หมายความว่า กล้องไม่มีภาพตั้งแต่เวลาเที่ยงใช่ไหม” มัชฌิมาแทบกลั้นลมหายใจถามออกไป
กล้องไม่มีภาพตั้งแต่เวลาเที่ยง...มีคนพบศพเสี่ยวิทูรตอนบ่ายสี่...แพทย์ระบุว่าเสี่ยวิทูรเสียชีวิตไม่ต่ำกว่าสองชั่วโมง
ฉะนั้นถ้าบุคคลที่หล่อนคิดว่า ‘ใช่’ เข้ามาหลังเที่ยงเป็นต้นไป กล้องก็จะบันทึกภาพเขาไว้ไม่ได้ แล้วถ้าเขามาก่อนเที่ยงล่ะ!
มัชฌิมากัดกรามไว้แน่น ไม่แน่ใจในตัวเองสักนิดเดียว ว่าอยากให้กล้องบันทึกภาพเขาไว้ได้หรือไม่ได้ ใจหนึ่งหล่อนก็อยากเห็นว่าจะใช่เขาไหม อีกใจก็ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งสิ้น
“ใช่ ช่างเพิ่งจัดการระบบไฟเรียบร้อย กล้องใช้งานได้ปกติทุกจุดเมื่อกี้นี้เอง”
“แล้วช่วงเวลาก่อนเที่ยงล่ะ กล้องจับภาพเห็น...ผู้ต้องสงสัยไหม พี่นนท์” ถามออกไปเสียงนุ่ม แต่ใจตุ๋ม ๆ ต่อม ๆ
“ไม่เลย” ชนนส่ายหน้าไปมา “น่าเสียดาย หลักฐานในห้องนี้ก็ไม่พบอะไร ทั้งที่ความจริงน่าจะพบบ้างนะ มัชว่าไหม”
มัชฌิมาเม้มปากด้วยความอึดอัด หล่อนกำลังรู้สึกผิดอยู่ที่เลือกเก็บงำหลักฐานชิ้นเดียวที่เจอเอาไว้ ทำยังไงได้ ก็ถ้ามันเป็นหลักฐานชิ้นอื่นหล่อนจะไม่ติดใจอะไร คงส่งมันให้ตำรวจนำไปพิสูจน์หลักฐานไปแล้ว...หรือว่าหล่อนควรคืนหลักฐานไปดี
มัชฌิมาพะว้าพะวังตัดสินใจไม่ขาด พะวงถึงอะไรอีกหลายสิ่ง...หยุดคิดอยู่ครู่ ที่สุดหญิงสาวก็เลือกจะปัดความคิดที่จะคืนหลักฐานทิ้งไป
“ป่านนี้ข่าวเสี่ยวิทูรตายคงผุดเต็มโซเชียลแล้วล่ะมั้ง ดังเสียขนาดนั้น” มัชฌิมาเลี่ยงคุยเรื่องหลักฐานไปเสีย
“เออใช่ เซียนพระคนนี้ ที่มัชตามเพจเฟซบุ๊กของเขานี่นา”
ชนนเพิ่งนึกได้ เสี่ยวิทูรคนนี้แหละ เซียนพระที่มัชฌิมามักชอบติดตามข่าวสาร และซื้อหนังสือสอนเกี่ยวกับการวิเคราะห์พระเครื่องที่เขามักเขียนลงนิตยสารแทบทุกเล่มตามวิสัยคนชอบสะสมพระ สะสมของเครื่องรางเก่าแก่
มัชฌิมาพยักหน้า เสี่ยวิทูรเป็นคนเก่ง เรื่องวิเคราะห์พระนี่เก่งแบบหาตัวจับยากมาก หล่อนนึกเสียดายความรู้ของเสี่ยวิทูร ยังเคยคิดจะไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์เสี่ยวิทูรเลยด้วยซ้ำ
“พี่นนท์ นี่ว่าแต่ เมื่อไหร่พี่ธรรมกับกานต์จะมา สองคนนั้นหายไปไหน จะรีบได้เอาศพไปส่งนิติเวช ยังไงกัน พี่นนท์มาพี่ธรรมหาย แล้วที่พี่นนท์กับกานต์ออกไปเมื่อกี้นี้ผู้จัดการโรงแรมเรียกไปคุยเรื่องอะไรหรือ”
พูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาชนนก็นิ่วหน้า...เขาตั้งใจจะมาบอกมัชฌิมานี่แหละว่ามันมีปัญหาเรื่องการขนย้ายศพ ตอนนี้ธรรมบูชากับกานต์กำลังเจรจากับผู้จัดการโรงแรมอยู่ไม่รู้จะได้ผลว่าอย่างไร
ชายหนุ่มจับผมยาวบางส่วนไปทัดไว้หลังใบหู กำลังจะพูดบอกถึงเหตุผลที่ธรรมบูชากับกานต์ยังไม่กลับเข้ามา ให้มัชฌิมารับรู้ แต่มัชฌิมายกมือห้ามเสียก่อน หญิงสาวชี้มาที่ผมของเขา
“ยางรัดผมขาดอีกแล้วล่ะสิ” มัชฌิมาถามยิ้ม ๆ หล่อนบอกหลายรอบแล้วให้ชนนใช้ยางแบบผ้าที่เป็นยางยืดเพราะมันใช้ทนกว่าแบบยางวงพลาสติกเส้นเล็กบางที่เขาชอบใช้ “พี่นนท์มียางเส้นอื่นอีกไหม”
“ที่ขาดไป เส้นสุดท้ายพอดี”
“เฮ้อ ออกเหตุทีไรยางรัดผมขาดทุกที เอาของมัชไปใช้ละกัน มัชมีที่ใช้ประจำอยู่สองเส้น ให้เลยนะ ไม่ต้องคืน”
มัชฌิมาถอดถุงมือยางสีขาวขุ่นออก ก่อนจับแขนเสื้อถกขึ้น แล้วดึงยางรัดผมสีชมพูอ่อนอีกเส้นที่ข้อมือออกขวาออกมา
“สีชมพูหรือมัช”
ชนนย่นคิ้ว ชายหนุ่มคิดว่ายางรัดผมสีหวานขนาดนี้ดูไม่ค่อยเหมาะกับตนเองสักเท่าไหร่ ผู้ชายมีเครา คิ้วหนา หน้าเข้ม มันตรงข้ามกับหนังยางรัดผมสีชมพูลิบลับ เป็นสีทึบอย่างน้ำตาลหรือสีดำก็ว่าไปอย่าง
“มีสีดำอีกสี แต่มัดอยู่ที่ผมมัชนี่ไง” มัชฌิมาชี้ให้ชนนดูผมยาวเหยียดตรงสีดำขลับซึ่งถูกรวบขึ้นไปเป็นพวงหางม้า สีดำของยางมัดผมกลืนไปกับสีดำของผมจนแทบมองไม่เห็นยาง “ทำไมทำหน้าเหยเกอย่างนี้ล่ะ สีชมพูสวยจะตาย สะดุดตาสาวดี เผื่อจะมีสาวผู้โชคดีจีบพี่นนท์ไปเป็นสามีสักทีไง มาเดี๋ยวมัชมัดให้...หันหลังเร็วพี่นนท์ ย่อตัวลงนิดหนึ่งด้วย มัชมัดไม่ถนัด”
มัชฌิมายิ้มขัน ในขณะที่ชนนยิ้มเขิน ๆ แต่ชายหนุ่มก็ยอมหันหลังและย่อตัวลงเพื่อให้มัชฌิมาได้มัดผมให้แต่โดยดี ใช้เวลาไม่ถึงสองนาที ผมรุ่ยร่ายประบ่าของชนนก็ถูกรวบขึ้นไปเป็นพวงหางม้าเรียบร้อย ชนนผมสั้นกว่ามัชฌิมานิดหน่อย พอมัดออกมาจึงดูเป็นผมทรงเดียวกัน
ชนนยิ้มกับตัวเอง...เขาชักไม่อยากเกะหนังยางรัดผมสีหวานเส้นนี้ออกจากเส้นผมเสียแล้วสิ แล้วถ้ามีมัชฌิมาคอยมัดผมให้เขาแบบนี้ทุกวันก็คงดี
“ทีนี้บอกมัชมาได้ละ ว่าพี่ธรรมกับกานต์หายไปไหน และเมื่อกี้ที่พี่นนท์กับกานต์ออกไป ผู้จัดการโรงแรมเรียกไปคุยเรื่องอะไร”
“ผู้จัดการโรงแรม...เขาไม่ยอมให้เราใช้ลิฟต์ขนย้ายศพผู้เสียชีวิต ตอนนี้ไอ้ธรรมกับกานต์กำลังเจรจาอยู่”
มัชฌิมาย่นคิ้ว เม้มปากเป็นเส้นตรง มือข้างหนึ่งยกขึ้นเท้าสะเอว พิกล...แล้วจะให้พาศพเหาะลงไปหรือไง นี่ชั้นสามสิบหกนะ เออ ถ้าที่นี่เป็นตึกร้างไม่มีลิฟต์ก็ว่าไปอย่าง!
ความคิดเห็น