ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ภูตพราวรัก

    ลำดับตอนที่ #13 : -ชาตะ มรณะ!-

    • อัปเดตล่าสุด 6 ธ.ค. 63


    -ชาตะ มรณะ!-

     

    “เพชร...พี่มาถึงแล้วนะ เพชรอยู่ตรงไหน”

    พอเสียงปลายสายบอกว่าอยู่ข้างหลัง พลอยบุณย์ก็หันขวับกลับไปทันที ชายตัวสูงล่ำสันในชุดกางเกงยีนสีน้ำเงินกับแจ็กเก็ตยีนสีฟ้าซีดยืนอยู่บนสะพาน ผลึกเพชรสวมหมวกแก๊ปสีดำและใส่แว่นตาดำอำพรางใบหน้า 

    หญิงสาวรู้สึกคอหอยตีบตัน อยากจะร้องไห้ออกมาอีกครั้งหนักหนาหลังจากที่เพิ่งหยุดร้องไห้เมื่อเดินทางมาถึงสถานที่นัดหมายแห่งนี้ได้ไม่นาน  

    กว่าพลอยบุณย์จะเดินทางมาถึงชาญเมืองได้ต้องฝ่ารถติดกินเวลาเกือบสองชั่วโมง จากแสงแดดกล้า ตอนนี้กลายมาเป็นช่วงเวลาผีตากผ้าอ้อม

    พลอยบุณย์สูดหายใจลึก ๆ เดินแกมวิ่งขึ้นไปหาน้องชายบนกลางสะพานคอนกรีต ผิวน้ำในลำคลองกว้างเบื้องล่างกระเพื่อมไหวขึ้น ๆ ลง ๆ เมื่อลมพัดกรรโชกแรงขึ้น ท้องฟ้าที่ปลอดโปรงเมื่อหลายนาทีก่อนกลับมืดมัวด้วยพยับฝน ดั่งฟ้าจงใจตอกย้ำความรู้สึกย่ำแย่ขุ่นมัวในจิตใจของหล่อนเวลานี้

    สิ่งที่พลอยบุณย์ได้ไปเผชิญมาไม่กี่ชั่วโมงก่อนจะมาพบผลึกเพชรตามนัดที่นี่ คำพูดไม่กี่คำของบุคคลที่หล่อนรัก ทำให้ความรู้สึกทั้งหมดในใจมืดมัวยิ่งกว่าท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยพยับฝน ไม่ได้หลับตา แต่ก็เหมือนหลับตาเดิน เคว้งคว้างไม่รู้จะไปทางไหนต่อ ไม่รู้จะเอายังไงกับชีวิตวันต่อไป ในเมื่อหัวใจหล่อนหมดแรงสู้เสียแล้ว

    “พี่พลอยเป็นไงบ้าง” ผลึกเพชรถามรัวเร็ว

    “เพชรต่างหาก เป็นยังไง” พลอยบุณย์สูดหายใจแรง สะกดกลั้นน้ำตา จับมือน้องชายบีบแน่น “หายไปอยู่ไหนมา พี่กับพ่อเป็นห่วงแทบแย่ ติดต่อไปก็ปิดมือถือตลอด”

    “ผมใช้เบอร์เดิมไม่ได้...คือผม...”

    “เอาล่ะ พี่จะไม่อ้อมค้อมนะ ตอบมาตรง ๆ ตามความจริง...เพชรทำหรือเปล่า เพชรฆ่าเสี่ยวิทูรหรือเปล่า”

    “ผมยอมรับ ว่าตั้งใจไปฆ่าเขา” ผลึกเพชรกัดกรามกรอด “เพราะผม...”

    “เพชร!” เป็นครั้งแรกในชีวิตที่พลอยบุณย์ตบหน้าน้องชาย “เพชรรู้ความจริงทุกอย่างหรือยัง คืนนั้นเสี่ยวิทูรไม่ได้ทำอะไรพี่ พี่เข้าใจผิดไปเอง!”

    “ผมรู้ เขาบอกผมแล้ว”

    “รู้แล้วเพชรก็ยังจะฆ่าเขางั้นหรือ มันบาปมากนะ...และตอนนี้เพชรก็คงรู้แล้วใช่ไหม ว่ามันบาปเพราะอะไรมากที่สุด!”

    “ผมไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น!” ผลึกเพชรตอบตะคอก ถลึงตาด้วยความโกรธ “เขาก็แค่กุเรื่องขึ้นมา เรื่องบ้า ๆ ที่ไม่มีวันเป็นความจริง พี่พลอยเชื่อเข้าไปได้ยังไง!”

    “ยอมรับความจริงเถอะเพชร!”

    “ผมยอมรับไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่ความจริง” ผลึกเพชรยิ้มเย็น แต่ลึกลงในแววตากลับร้อนดังมีไฟคุอยู่ในนั้น “ถ้าพี่พลอยรู้ว่าเขาทำอะไรกับครอบครัวเราไว้บ้าง พี่พลอยจะไม่ขอให้ผมยอมรับความจริงแบบนี้ พี่พลอยต้องรู้สึกเหมือนผม อย่าฆ่าเขาเหมือนผม!”

    “พี่ไม่เคยสอนเพชร ไม่เคยสอนว่าฆ่าคนคือทางออก!”

    “ผม...”

    ผลึกเพชรอ้าปากพูดได้เพียงแค่คำเดียวนี้ เพราะเสียงปืนซึ่งมองไม่เห็นมาแผดเปรี้ยงขึ้นหนึ่งนัดแทนที่จะเป็นเสียงของเขาซึ่งต้องพูดอธิบายเรื่องราว

    ฟ้าคำรามสลับกับเสียงปืน บางครั้งในจังหวะการวิ่งหนีเอาชีวิตรอดของสองพี่น้อง เสียงฟ้าผ่าเปรี้ยงคำรามคำรนก็ดังลั่นจนกลบเสียงหอบหายใจและปืนจนมิด ตะวันอับแสงลงพร้อมลมพายุซึ่งพัดกรรโชกรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ฟ้าแลบแปลบปลาบสว่างวาบหลายต่อหลายครั้งติดต่อกัน 

    ต้นหญ้าใบคม หนามจากต้นไม้บางชนิด ความมืด และกระแสลม คืออุปสรรค์สำคัญในการหนี ผลึกเพชรจับมือพลอยบุณย์ให้วิ่งตามอย่างไม่ลดละ...หนีการตามล่า ซึ่งไม่รู้ว่าใครคือผู้ไล่ล่า ชายหนุ่มรู้แต่ ผู้ล่า มีมากกว่าหนึ่ง อาจจะมีสอง หรือมากกว่าสองก็ได้!

    “ใครยิงเรา เพชร!” พลอยบุณย์ถามทั้งที่ขายังวิ่งจนเท้าแทบพลิกตามแรงดึงของผลึกเพชร “เรากำลังหนีใคร” 

    “ผมก็ไม่รู้เหมือนกันพี่พลอย!” ผลึกเพชรเพ่งสายตามองผ่าความมืด ยกมือข้างหนึ่งขึ้นบังหน้าเมื่อเม็ดฝนซึ่งเริ่มตกกระหน่ำไม่ลืมหูลืมตาปะทะหน้า ก่อนดึงแขนพลอยบุณย์ให้เข้าไปนั่งหลบในดงไม้สลับสร้าง อาจบังฝนไม่ได้นัก แต่ก็น่าจะพอใช้หลบซ่อนตัวชั่วคราวได้ “อาจเป็นพวกของเสี่ยวิทูร”

    “คิดบ้า ๆ”

    “พี่พลอยไม่รู้จักเขาดีพอ เขาไม่ใช่คนดีอย่างที่พี่พลอยคิดหรอก”

    “แล้วเพชรล่ะ รู้จักเสี่ยวิทูรดีแค่ไหน ถึงไปตัดสินว่าเขาเลวขนาดนั้น อีกอย่างเพชรก็รู้ดีว่า...ว่าเขาตายแล้ว จะส่งคนมาทำร้ายเพชรได้ยังไง”

    “วางแผนไว้ก่อนตายไงล่ะพี่พลอย จะตายยังไงดีให้ตัวเองมีความผิดน้อยที่สุด แล้วก็ทิ้งความรู้สึกผิดให้คนอื่นเขารู้สึก แต่เสียใจ ผมไม่รู้สึก”

    “เพชร เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว เธอยังกล้าพูดแบบนี้ออกมาอีกหรือ”

    “เอาเป็นว่าผมรู้จักตัวตนแสนเลวของเขามากกว่าที่พี่พลอยรู้ก็แล้วกัน!” 

    แสงฟ้าแลบซึ่งแปลบปลาบวูบวาบลงมา ทำให้พลอยบุณย์มองเห็นดวงตาขุ่นเขียวแข็งกร้าวของผู้เป็นน้องชาย ผลึกเพชรเหมือนปิศาจร้ายที่พร้อมจะทำลายล้าง แต่ตอนนี้ พลอยบุณย์รู้สึกว่ามีคนที่พร้อมทำลายล้างมากกว่าผลึกเพชรหลายสิบเท่า 

    เงาทะมึนราวอสูรกายของมันทั้งสอง ทอดยาวมาให้เห็นถนัดถนี่ในจังหวะที่ฟ้าส่องแสงสว่างวาบ พลอยบุณย์ตัวสั่นเทา เมื่อความหนาวกับความกลัวรุมโจมตีทั้งร่างกายและความรู้สึก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×