คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Chepter9
“หยุดลากฉันซักทีจะได้มั้ย!”นากิเอ่ยเสียงดังลั่นเมื่อมองกี่ทีจุนซูก็ไม่มีท่าทีจะหยุดลากเธอให้เดินตามเขาไปด้วยเลย
“ถ้าฉันบอกว่าไม่ล่ะ”เด็กหนุ่มเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ
“หยุดลากฉันได้แล้ว!หยุดซักทีสิ!บอกให้หยุดไงไอ้บ้านี่!!!”
“เงียบปากได้รึยังน่ารำคาญ!”
“นายก็หยุดลากฉันซักทีเซ่!”
“คุณหนูครับ”น้ำเสียงทุ้มต่ำดังขึ้นในขณะที่คนทั้งสองกำลังมีปากเสียงกันอยู่ก่อนที่การทะเลาะจะยุติลงแล้วทั้งสองหันไปมองผู้มาใหม่พร้อมกัน
“นายเองเหรอโรเจอร์”เลขาแห่งสภานักเรียนเอ่ยกับชายร่างกำยำที่อยู่ในชุดสูทสีดำสนิทพร้อมทั้งสวมแว่นสีเดียวกับชุด
“นายท่านให้ผมมาตามคุณหนูไปที่ห้องรับแขกของโรงเรียนน่ะครับ”
“อืมๆเข้าใจแล้วเธอไปกับฉันด้วยนากิ”
พูดจบจุนซูก็เดินลากนากิไปด้วยอย่างไม่รอคำตอบ เขาตรงดิ่งไปยังห้องรับแขกของเซเวเนียอย่างไม่รีบไม่ร้อน มือหนาเอื้อมเปิดประตูซึ่งเรียนให้คนที่อยู่ข้างในห้องหันมาสนใจ
“เรียกหาผมมีอะไรรึป่าวครับพ่อ”น้ำเสียงที่เขาใช้เอ่ยกล่าวแตกต่างกับที่พูดกับเธอโดยสิ้นเชิง
“พ่อเรียกหาลูกเพราะพ่อจะให้ลูกหมั้นกับลูกสาวของเพื่อนพ่อน่ะ”
“หา!ผมไม่เอาด้วยหรอกครับพ่อ”
“แกจะต้องหมั้น!นี่คือคำสั่งของพ่อ!”เมื่อคำที่ขัดใจถูกเอ่ยออกมาผู้เป็นพ่อจึงขึ้นเสียงทันที
“ก็ผมบอกว่าผมจะไม่หมั้นกับใครทั้งนั้น”
“แกหาแฟนเป็นตัวเป็นตนให้ได้ก่อนเถอะแล้วค่อยปฏิเสธ!!!”
“ใครบอกว่าผมหาไม่ได้!”
“ไหนล่ะแฟนแก!”
เด็กหนุ่มเริ่มอึกอักกับคำพูดของผู้เป็นพ่อก่อนที่สายตาจะหันไปสบกับสายตาคนข้างๆ เขาโอบเข้าที่ไหล่ของเด็กสาวทันที
“นี่ไงแฟนผม”
“ห๊ะ! ใครเป็นแฟนนายจะบ้าเหรอ!”
“โธ่ๆที่รัก ถึงเราจะพึ่งทะเลาะกันมาก็ไม่ควรจะบอกพ่อว่าเราไม่ใช่แฟนกันนี่”
“นี่เหรอแฟนแก”
“ครับ”
“พ่อไม่เชื่อ”
“งั้นผมจะพิสูจน์”พูดจบเลขาสภานักเรียนก็รวบตัวคนตรงหน้าเข้ากอดก่อนจะก้มลงซึ่งใบหน้าเขาห่างกับเด็กสาวสายเลือดพันธมิตรแห่งสายลมไม่ถึงคืบจนรับรู้ถึงลมหายใจของกันและกัน จุนซูใช้วิธีหันหลังให้พ่อของตนแล้วทำท่าทางเหมือนว่าตนนั้นจูบนากิ
“ก็ได้...ในเมื่อแกมีแฟนแล้วพ่อจะยกเลิกเรื่องหมั้นไว้ก่อนแต่เมื่อใดที่พ่อรู้ว่านี่เป็นแค่ละครตบตาหรือแกเลิกกับนังหนูนี่ล่ะก็พ่อจะให้แกหมั้นกับลูกสาวของเพื่อนพ่อทันที!”ชายวัยกลางคนเอ่ยก่อนจะเดินกระฟัดกระเฟียดออกจากห้องไป
“นี่นายทำบ้าอะไรของนาย!”
“ก็แค่หาทางเอาตัวรอด ยังไงซะเธอช่วยเล่นเป็นแฟนของฉันหน่อยได้มั้ย”
“เล่นไปแล้วฉันได้อะไร”
“ฉันทำให้เธอได้ทุกอย่างนั่นแหละ”
“ก็ได้...งั้นนายต้องเป็นคนใช้ของฉันตลอดไป”
“โห เกินไปแล้ว”
“งั้นฉันไม่เล่น”
“เออ! เอางั้นก็ได้!”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“อืม...เล่มนี้ก็ดี เอาเล่มนี้ด้วย เฮ้ย ถือดีๆหน่อยสิ”ยูชอนเอ่ยพลางหยิบหนังสือจากชั้นวางหนังสือภายในห้องสมุดแล้วยื่นให้รีอาถือ
“นายจะหยิบอะไรเยอะแยะ ฉันหนักนะ”เด็กสาวเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์พลางมองหนังสือที่เธอถืออยู่ มันเยอะมากจนสูงเหนือหัวขึ้นไป
“งั้นฉันเอาแค่นี้ก็ได้ เธอไปยืมหนังสือพวกนี้แล้วเอามาให้ฉันที่ชั้นหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์แล้วกัน”กล่าวจบก็เดินไปยังชั้นหนังสือที่บอกทันทีโดยไม่รับฟังคำพูดของอีกฝ่าย
ดวงตาคมกริบไล่มองหนังสือบนชั้นอย่างใจเย็นก่อนที่มือแกร่งจะหยิบหนังสือเกี่ยวกับประวัติของสิ่งของต้องมนตร์ต่างๆออกมา
ตุบ เคร้ง
สิ่งของบางอย่างตกลงที่ศีรษะของเขาเข้าอย่างจังก่อนที่มันจะตกลงบนพื้นพรมสีแดงสด รองประธานสภานักเรียนใช้มือลูบหัวเบาๆแล้วมองสิ่งของที่ล่วงลงมา
“กระจกงั้นเหรอ”เอ่ยพลางหยิบของสิ่งนั้นขึ้นมาพินิจ มันเป็นกระจกเงาสีทองอร่ามรอบๆตัวบานกระจกเป็นลวดลายที่แกะสลักออกมาอย่างสวยงาม ด้านบนเหนือกระจกขึ้นไปนั้นเป็นสลักเป็นรูปมังกรที่นอนนิ่งสงบอยู่ “ถ้าเอาไปขายคงได้ราคาดี”
“เอ้านี่ หนังสือของนาย”เด็กสาวสายเลือดนักปราชญ์เอ่ยก่อนจะวางกองหนังสือไว้ข้างๆ “มีอะไรจะใช้ฉันอีกมั้ย ไอ้คุณชาย”
“ตอนนี้ยังไม่มี แต่ฉันก็ไม่ให้เธอไปไหนเธอต้องอยู่นี่”เขาเอ่ยก่อนจะวางกระจกเงาลงที่พื้น
“ฉันจะไปทำอะไรไม่ได้เลยใช่มั้ย!”
“คงงั้นแหละ ก็ในเมื่อเธอต้องใช้ชีวิตอยู่กับฉันในฐานะคนใช้ก่อน”
“โธ่! ฉันอยากสลับร่างกับนายได้จริงๆ จะได้ไม่ต้องมาเป็นคนใช้อยู่อย่างนี้”
ในขณะที่บทสนทนาของทั้งสองยังคงดำเนินอยู่นั้น ภายในกระจกเงาก็สะท้อนภาพของทั้งสองก่อนจะเกิดแสงสว่างวาบ ยูชอนและรีอารีบเอามือขึ้นมาป้องแสงนั่นโดยสัญชาติญาณก่อนที่มันจะจางหายไป สีหน้าตกตะลึงปรากฏบนหน้าของทั้งสองฝ่ายก่อนที่ต่างฝ่ายต่างชี้หน้ากันและกัน
“เธอ! / นาย!”ทั้งสองเอ่ยพร้อมกันแล้วเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่า “ทำไมนายถึงอยู่ในร่างฉัน! / ทำไมเธอถึงอยู่ในร่างฉัน!”
เด็กหนุ่มเริ่มทำการสำรวจตัวเองมือเรียวบางเริ่มจับนู่นจับนี่ไปเรื่อยซึ่งเด็กสาวในร่างเด็กหนุ่มจับข้อมือคนที่จับนู่นจับนี่ไปเรื่อยไว้แน่น
“นายจับอะไรของนาย”
“ฉันก็สำรวจดูสิว่าร่างอ้อนแอ้นนี่มีอะไรดีบ้าง หน้าอกหน้าใจก็แทบไม่มี เตี้ยก็เตี้ย ไม่มีอะไรดีเลยซักนิด”
“ว่าใครไม่มีหน้าอกหน้าใจ!”เด็กสาวสายเลือดนักปราชญ์ในร่างของรองประธานสภาเงียบปากลงก่อนจะหยักยิ้มอย่างมีเลศนัย “จริงสินะ...ตอนนี้ฉันอยู่ในร่างนาย ฉันก็สามารถทำให้นายเสียชื่อเสียงก็ได้เหมือนกันนี่”
“เธอจะทำอะไร!”
“ก็คง...จีบสาว ฟันสาว ลักขโมย หาเรื่องต่อย แกล้งอาจารย์ อืม... พึ่งนึกได้เท่านี้แหละนะแต่มันคงมีอีกแน่นอน”
“ยัยบ้า!”
“เหอะ ฉันไม่ทำให้เสียศักดิ์ศรีหรอกถ้าไม่จำเป็น”รีอาเอ่ยก่อนที่จะมองหนังสือในมืออีกฝ่าย “แต่ว่านะในมือนายก็ถือหนังสือเกี่ยวกับเรื่องของต้องมนตร์ทำไมไม่ลองเปิดดูเผื่อมีไอ้กระจกบ้านี่”
“เออ เนอะ ทำไมฉันคิดไม่ได้”
“ก็นายมันโง่นี่”
ยูชอนมองคู่สนทนาตาขวางก่อนจะเปิดไล่หนังสือไปทีละหน้าอย่างรีบร้อน จนกระทั่งหยุดที่หน้าที่ปรากฏภาพและข้อมูลของกระจกสร้างปัญหา
“กระจกสลับร่าง ปกติไม่สร้างปัญหาให้คนอื่นแต่เมื่อกระจกนั้นปรากฏภาพของคนสองและหนึ่งในนั้นพูดคำว่า ‘สลับร่าง’ถึงจะปรากฏปฏิกิริยาการสลับร่างขึ้น”เด็กหนุ่มถึงกับลืมหายใจไปชั่วขณะเมื่อเห็นประโยคต่อมาก่อนที่จะเริ่มอ่านต่อ “วิธีการกลับร่างเดิมนั้น...ไม่ปรากฏแน่ชัด”
“งั้นก็แย่สิ ฉันไม่อยากอยู่ในร่างของนายนานนักนะ”
“ฉันก็ไม่อยากเหมือนกัน แล้วจะทำยังไงดีล่ะทีนี้”
“แค่นายมาอยู่กับฉันทุกฝีก้าวก็พอ ฉันจะได้รู้ว่านายไม่ทำอะไรไม่ดีและนายก็จะได้รู้ว่าฉันไม่ทำอะไรไม่ดีอย่างนั้นแน่นอน และเผื่อว่าซักวันฉันกับนายจะได้กลับร่างเดิม”
“ไม่นึกว่าคนอย่างเธอจะมีความคิดที่ดีอย่างนี้”
“ฉันไม่โง่เหมือนนายหรอกน่ะ”
“แล้วฉันต้องไปนอนที่ห้องของเธอกับพวกเพื่อนหรือว่าเธอจะมานอนห้องของฉัน”
“ฉันจะให้นายมานอนห้องของฉันกับพวกเพื่อน เพราะเพื่อนฉันจะได้จับตาดูนายได้ทุกฝีก้าว หากนายทำอะไรทะลึ่ง ลามก หรือทำให้ฉันเสื่อมเสียล่ะก็”เธอหยุดเอ่ยไปชั่วขณะแล้วจ้องอีกฝ่ายเขม็ง “เพื่อนฉันไม่เอานายไว้แน่”
ความคิดเห็น