คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Chepter8
“สรุปแล้วพวกเราก็ต้องไปเป็นคนใช้ไอ้พวกสภานักเรียนใช่มะ”เรย์เอ่ยพลางถอนหายใจอย่างไม่สบอารมณ์
“ช่วยไม่ได้อ่านะ ก็ริวมันพลาดท่าให้ไอ้ขี้เก๊กนั่นนี่”นากิเอ่ยพลางขมวดคิ้วแทบจะเป็นโบว์
“แต่คนที่ดูจะสบายสุดน่าจะเป็นแกนั่นแหละ นานะ”รีอาเอ่ยก่อนจะชายตามองเพื่อนที่อยู่ข้างๆกายจนเธอนั้นยิ้มหวานตอบกลับ
“แหม สบายอะไรกัน เราก็เหมือนพวกแกนั่นแหละน่า”นานะตอบ
“ไม่เหมือนซักนิด!”คนที่เหลือทั้งสามเอ่ยเป็นเสียงเดียว
ตลอดเส้นทางพวกเธอต่างถกปัญหากันอย่างไม่สบอารมณ์ ยกเว้นก็แต่เด็กสาวผมสีชมพูคนเดียวที่ยิ้มหน้าบาน พวกเธอหยุดยืนหน้าห้องสภานักเรียนก่อนจะเคาะประตูอย่างเป็นมารยาทแล้วเปิดเข้าไป
“หวัดดีครับนานะ”ยุนโฮเอ่ยทักแฟนสาวเป็นคนแรก ในขณะที่คนอื่นเพียงแค่ชายตามองคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่
“ยัยพิลึกหายไปไหนล่ะ”ซาสึเกะเอ่ยปากถามในขณะที่สายตายังจดจ้องตัวอักษรในจดหมายจากทางบ้าน
“โห~ ไม่ค่อย ถามถึงริวคนแรกเลย คิดไรป่าวเนี่ย”ทั้งสี่เอ่ยถามเป็นเสียงเดียวก่อนจะมองหน้าเด็กหนุ่มผมสีนิล ทำเอาคนถูกมองสะดุ้งนิดๆ
“ฉันถามเพื่อที่จะให้ยัยพิลึกมาเป็นคนใช้ฉันต่างหาก”
“นายคงไม่ได้ริวเป็นคนใช้หรอกเพราะจนป่านนี้ริวยังไม่ฟื้นเลย”
“ยังไม่ฟื้น?”
“ใช่”
“นายต้องรับผิดชอบที่ทำกับเพื่อนฉันไว้ด้วย”เด็กสาวผมสีแดงทับทิมเอ่ย
“เลิกพูดมากซะทีเถอะน่า เธอมาเป็นคนใช้ฉัน”ซึงรีเอ่ยขัดขึ้นก่อนจะชี้ไปทางเรย์
“ทำไมต้องเป็นฉัน!”
“ไม่จำเป็นต้องตอบ”เด็กหนุ่มผมสีนิลออกตั้งๆเอ่ยก่อนจะเดินออกไปพร้อมคว้าคนใช้ใหม่ไปด้วย
“เธอไปหาหนังสือในห้องสมุดกับฉันไป”ยูชอนเอ่ยก่อนจะคว้ารีอาไปอีกคนซึ่งจุนซูก็ลุกขึ้นแล้วคว้านากิออกไปด้วยเช่นกัน
“แต่ละคน...ทำตัวไม่มีมารยาทกับผู้หญิงเลย”เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลทองมองไปยังประตูที่เพื่อนๆของเขาพึ่งออกไปก่อนจะส่ายหน้าอย่างเอือมระอาแล้วหันไปหาเด็กสาวสายเลือดภูติ “นานะออกไปเดินเล่นกันดีกว่าครับ”
“ยุนไม่ใช่ให้ฉันทำงานเหรอ”เธอถามซึ่งได้รอยยิ้มหวานเยิ้มของแฟนหนุ่มตอบกลับ
“ใครจะใช้แฟนตัวเองได้ลงคอล่ะครับ”ประธานสภานักเรียนเอ่ยก่อนจะจับมือเด็กสาวแล้วจูงเธอเดินออกจากห้อง
ตลอดเส้นทางเดินของทั้งสองทุกสายตาได้มองกันเป็นตาเดียวแต่คนทั้งสองกลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเหมือนว่าโลกนี้มีแค่พวกเขาสองคนเท่านั้น ทั้งสองหยุดยืนอยู่ที่สวนดอกไม้ข้างโรงเรียน ถึงแม้มันจะเป็นเพียงสวนดอกไม้เล็กๆแต่กลับมีพฤกษานานาชนิด กลิ่นหอมหวานของดอกไม้กระจายไปทั่วบริเวณ
“ไม่เห็นรู้เลยว่าที่โรงเรียนมีสวนดอกไม้ที่สวยขนาดนี้อยู่ด้วย”
“แต่มันก็สวยไม่ได้ครึ่งของนานะหรอกนะ”
ใบหน้าหวานแดงระเรื่ออย่างเขินอายกับคำพูดของยุนโฮ นานะตีแขนแฟนหนุ่มอย่างเขินอายเบาๆซึ่งได้รับเสียงหัวเราะเบาๆอย่างขบขันกลับมา มือแกร่งเด็ดดอกทิวลิปสีแดงก่อนจะยื่นให้คนตรงหน้า
“รู้มั้ย...ดอกทิวลิปสีแดงนี่มีความหมายที่ดีมากเลยนะ”
“ความหมายคืออะไรงั้นเหรอ”เธอเอ่ยถามก่อนจะรับดอกไม้ในมือแกร่งนั่นมา
“อยากให้โลกรู้ว่า...”น้ำเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยก่อนจะหยุดลงแล้วโน้มลงกระซิบข้างหูของเด็กสาว “ผมรักคุณ”
คำพูดของเด็กหนุ่มทำให้ใบหน้าที่แดงระเรื่ออยู่แล้วกลับแดงมากขึ้นกว่าเก่า เด็กสาวก้มหน้างุดหลบสายตาที่แสดงความรักอย่างเต็มเปี่ยมนั่น เขามองแฟนสาวก็อดหัวเราะเสียไม่ได้
“นานะ ผมขออย่างนึงได้มั้ย”
“อะ...อื้อ จะอะไรก็ได้ทั้งนั้น”
ประธานสภานักเรียนยิ้มร่าอย่างดีใจก่อนจะโน้มตัวลงจูบบนริมฝีปากอวบอิ่ม ถึงมันไม่ใช่จูบที่เร่าร้อนแต่มันเป็นจูบที่อ่อนโยนมาก เด็กสาวสายเลือดภูติรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้าก่อนที่สติที่เหลืออยู่จะหลุดลอยไป
เธอดันเป็นลมซะนี่...
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ฟื้นซะทีสิครับ ท่านริว”ชายหนุ่มเรือนผมสีดำขลับเอ่ย ดวงตาคมกริบจ้องผู้เป็นนายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“ท่านพี่ไคโดใจเย็นลงหน่อยสิ โอนิก็บอกแล้วไงว่าเดี๋ยวท่านริวก็ฟื้น”ชายหนุ่มที่รูปลักษณ์เหมือนกับชายหนุ่มคนแรกเอ่ยพลางตบหลังคนที่ตัวเองเรียกว่าพี่เบาๆ
“ใช่ๆ นายไม่เชื่อฝีมือฉันรึไง”หญิงสาวเรือนผมสีน้ำตาลยาวสลวยถึงเอวเอ่ย
“ฉันได้ยินเธอบอกเดี๋ยวมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ”
“นึกว่านายเป็นห่วงท่านริวคนเดียวรึไง พวกเราก็เป็นห่วงนะ”หญิงสาวผมสีเงินสองคนเอ่ยอย่างพร้อมเพียง ทั้งสองมีใบหน้าที่เหมือนกันแต่จะต่างกันก็เพียงแค่สีตาเท่านั้น
“ท่านริวตายยากจะตายไปไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า ถ้าตายมันก็แปลกเกินไปแล้ว”ชายหนุ่มผมสีแดงฉานที่นั่งบังคับลูกไฟในมือเล่นราวกับมันเป็นบอลลูกหนึ่งอย่างเพลิดเพลินเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ
“อัสนีบาต/หินถล่ม/ลูกเห็บ/น้ำป่าไหลหลาก/คมดาบวายุ”สมุนทั้งห้าเอ่ยใช้เวทย์ไปทางคนที่เอ่ยเมื่อครู่กันอย่างพร้อมเพียง
อัสนีบาตฟาดลงก่อนจะตามด้วยหินที่ถล่มลงทับร่างของคนปากเสีย เมื่อหินเหล่านั้นหายไปลูกเห็บจำนวนหนึ่งได้ตกลงบริเวณที่คนโดนกระทำยืนอยู่ก่อนที่มันจะละลายเป็นสายน้ำเข้าโจมตีแล้วปิดท้ายด้วยคมดาบที่มองไม่เห็นได้ฟาดฟันจนเลือดซึมตามรอยแผล
“ฉันเจ็บนะ!พวกแกทำไรกัน ห๊ะ! พี่น้องโคคุ! โอนิ! พี่น้องกิน!”
“นายอยากปากเสียเองนี่เซ”ทั้งห้าเอ่ยเป็นเสียงเดียว
“ก็มันจริงนี่! ท่านริวถึกอย่างกับอะไรดีเจอแค่นี้ไม่ตายง่ายๆหรอกน่า”
“ถ้าไม่หยุดพูดฉันจะเลาะฟันนายออกซะให้หมดปากเลย”ไคโดเอ่ยพลางจ้องเซตาเขม็งอย่างกินเลือดกินเนื้อแล้วแยกเขี้ยวอย่างข่มขู่
แอ๊ด
บานประตูห้องของริวถูกเปิดออก คนทั้งห้าหันขวับไปมองผู้มาใหม่ซึ่งคนๆนั้นก็คือคนที่ทำให้ผู้เป็นนายของพวกเขายังไม่ได้สติ
“ว่างมากนักรึไงถึงมาที่นี่น่ะ”นิชิเอ่ยพลางจ้องผู้มาใหม่ตาเขม็งประมาณว่า...ช่างกล้ามากที่เสนอหน้าเข้ามาที่นี่!
“เรื่องของฉันไม่เกี่ยวกับสมุนอย่างพวกนาย”ซาสึเกะเอ่ยตอบพลางยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
“พ่อหนุ่มน้อย นายทำให้ท่านริวไม่ได้สติพวกเราไม่เอาความก็ดีเท่าไหร่แล้วนะ จะโผล่หน้ามาที่นี่ทำไมมิทราบจ๊ะ”โอนิเอ่ยยิ้มๆ ในขณะที่มือข้างหนึ่งของเธอลูบเส้นผมของคนตรงหน้าผ่านๆไปครั้งหนึ่ง
“ก็โผล่มาช่วยท่านริวของพวกนายไงหรือจะไม่ให้ช่วย”
“ช่วยสิ นายรีบช่วยท่านริวเดี๋ยวนี้เลย”มิยะเอ่ยพลางเขย่าตัวของเด็กหนุ่มไปมา
“อย่ามัวแต่ยืนเก๊กเลยน่ารีบช่วยท่านริวเร็วๆเข้า”ทามะเอ่ยก่อนจะลากเลขาแห่งสภานักเรียนไปที่เตียงของผู้เป็นนาย
ซาสึเกะยืนมองริวด้วยสายตาที่ยังเต็มไปด้วยความสงสัยเหมือนเดิมก่อนที่นิ้วชี้และนิ้วกลางจะวางลงบนหน้าผากของเด็กสาว
“คลาย”สิ้นเสียงของเด็กหนุ่ม เปลือกตาบางของเด็กสาวสายเลือดแวร์วูฟล์นั้นก็กระพริบถี่ๆเพื่อปรับม่านตาให้เข้ากับแสงก่อนที่จะลืมตาขึ้น
“ท่านริว!ท่านริวฟื้นแล้ว!”สมุนทั้งหกเอ่ยเป็นเสียงเดียวก่อนจะกรูกันเข้าหาผู้เป็นนาย
“นาย!ไอ้ขี้เก๊ก!!!”คนที่พึ่งได้สติลุกยืนขึ้นจากเตียงแล้วยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับคนที่ช่วยเหลือ หูสุนัขที่อยู่บนศีรษะตั้งขึ้นมาพร้อมๆกับหางสุนัขที่ชี้เด่สภาพเธอตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับสุนัขที่กำลังพยายามขู่เข็ญอีกฝ่าย
“หูกับหางนั่น...”
“หูกับหาง??”คิ้วเรียวเลิกขึ้นอย่างงุนงงก่อนที่เธอจะส่องกระจกแล้วหันมองเบื้องหลังของตนเอง “ไหงฉันกลายเป็นงี้เนี่ย!”
“ฉันก็ถามเธออยู่นี่ไง”
“เรื่องนี้ตัดมันไปก่อน...ว่าแต่นายเข้ามาทำอะไรในห้องฉัน!”
“ท่านริว พ่อหนุ่มน้อยคนนี้เป็นคนช่วยท่านนะคะ”หญิงสาวเรือนผมสีน้ำตาลเอ่ยพลางเกาะไหล่ผู้เป็นนาย
“ถ้าเป็นงั้นจริงก็ขอบใจแล้วกัน ไคโดนายรู้มั้ยทำไมหูกับหางฉันถึงไม่หายไป”
“ก็ท่านริวคลายมนต์สะกดไปแล้วนี่ครับ ผมแนะนำให้ท่านริวฝึกวิชาเพิ่มอีกเท่านี้ก็สามารถซ่อนหูกับหางได้แต่ถ้าใช้พลังมันก็จะโผล่มาอีก”
“โอเคๆ ฉันเข้าใจๆ”
“เธอจะไปฝึกวิชาตามที่หมอนี่บอกใช่มั้ย”
“เออ”
“เธอยังไปไม่ได้”
“นายไม่มีสิทธิ์มาสั่งฉันหรอกไอ้ขี้เก๊ก”
“เธอแพ้การประลองต้องมาเป็นคนใช้ของฉันลืมไปแล้วรึไง”
“ไม่ ไม่ ไม่ และไม่!”
“เธอต้องทำ ทำ ทำ และ ทำ!”
“ไม่เอา ยังไงฉันก็ไม่ทำ!”
“นี่ ท่านริว อย่าทำตัวเป็นเด็กๆหน่อยเลยน่า”ชายหนุ่มผมสีแดงฉานเอ่ยขัดขึ้น
“นายพูดจาอย่างนี้อย่าเรียกฉันว่าท่านริวเลยดีกว่าเซ ไคโด นิชิ จัดการเลย”
“รับทราบครับ”สมุนฝาแฝดชายเอ่ยรับคำสั่งก่อนจะหักนิ้วดัง กร๊อบ แล้วลากเซไปอีกทางหนึ่งเพื่อจัดการตามคำสั่ง
“งั้นเอาอย่างนี้ ถ้าเธอไม่ยอมมาเป็นคนใช้ฉัน เธอต้องพาฉันไปด้วย”
“เออๆก็ได้ แต่ฉันจะไปเป็นสัปดาห์เลยนะ”
“ไม่มีปัญหา เดี๋ยวฉันทำเรื่องลาที่โรงเรียนก็เป็นอันจบ”
“แล้วลาเป็นสัปดาห์จะไม่โดนไล่ออกจากโรงเรียนใช่มะ”
“หึหึ พอดีว่าคนมันเส้นใหญ่ ลาแค่นี้ไม่โดนเด้งหรอกน่า”
ความคิดเห็น