คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Chepter7
เสียงเฮฮาของเหล่านักเรียนแห่งเซเวเนียดังสนั่นไปทั่วทิศเพราะวันนี้คือวันประลองรอบสุดท้าย พื้นที่บริเวณด้านหลังโรงเรียนมีเวทีลานประลองขนาดใหญ่
“เฮ้ย!นั่นไงมากันแล้ว”เสียงนักเรียนชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมาเรียกสายตาของนักเรียนคนอื่นๆให้หันไปสนใจผู้มาใหม่
“อะไรกัน ไหงวันนี้คนเยอะแยะงี้ล่ะ”ริวเอ่ยออกมาอย่างไม่ชอบนัก
“ก็เพราะว่าวันนี้เป็นวันตัดสินไง นี่แกไม่รู้เลยรึไงริว”เรย์เอ่ย
“ชนะให้ได้นะเพื่อน ตูไม่อยากจะไปเป็นคนใช้พวกมัน”นากิเอ่ยซึ่งได้การพยักหน้าอย่างเห็นด้วยจากเพื่อนๆคนอื่นๆ
“ห๊ะ! งั้นตูต้องแบกรับชะตากรรมเอาไว้เลยอ่าดิ”
“ถูกต้อง กติการอบนี้เราได้ไปถามยุนมาแล้ว ยุนบอกว่าเป็นการประลองฝีมือซึ่งต้องทำให้อีกฝ่ายตกจากเวทีให้ได้ถึงจะเป็นฝ่ายชนะ”นานะเอ่ย
“แหม ไม่ค่อยเลยนะเพื่อน แกกับยุนไปถึงขั้นไหนแล้วล่ะ”รีอาเอ่ยถามพลางใช้สายตาคาดคั้นเอาคำตอบ
“คิดเอาเองแล้วกัน เราไม่พูดแล้วแกรีบขึ้นไปเดี๋ยวนี้เลยไป!”เด็กสาวผมสีชมพูที่เขินอายกับคำถามของเพื่อนเจ้าของผมสีฟ้าอ่อนเริ่มพาลใส่เด็กสาวผมสีน้ำตาล เธอดันเพื่อนสาวขึ้นไปบนเวที
“เอาล่ะ ทั้งสองฝ่ายนั้นอาจรู้กติกาไปแล้ว ฉันจะทวนกติกาให้พวกเธอฟังกันอีกที
”อาจารย์ประจำวิชาศาสตร์มืดเอ่ย
“มาเร็วกว่าที่คิดซะอีกนะ”ซาสึเกะเอ่ยแทรกในขณะที่เทอร์เรซบอกกติกาอยู่ ซึ่งได้รับสายตาที่กวนประสาทและรอยยิ้มเจ้าเล่ห์กลับมาก่อนที่เจ้าของรอยยิ้มจะเอ่ยปาก
“พูดมากระหว่างโดนพรากจิ้นไปล่ะ”
“เอาล่ะเริ่มการประลองได้!”
“เวทย์อัคคี ลูกบอลเพลิง!”เด็กหนุ่มร่ายคาถาก่อนจะพ่นลูกบอลเพลิงออกจากปาก ลูกบอลเพลิงนั้นพุ่งตรงไปทางริว
“กงจักรไฟ”เด็กสาวชูมือขึ้นปรากฏเปลวเพลิงที่มีลักษณะคล้ายกงจักร เธอขว้างกงจักรนั่นจนกระทบเข้ากับเวทย์ของอีกฝ่าย
ตูม!
การปะทะของเวทย์จากทั้งสองฝ่ายทำให้เกิดกลุ่มควันลอยฟุ้งไปทั่วบริเวณ
“ริวโว้ย~! แปลงร่างไปเลยสิวะ!ชักช้าหาพระแสงอะไร!”เหล่าเพื่อนๆตะโกนกันดังลั่น
ริวที่เห็นโอกาสดีในขณะนี้จึงถอดหมวกไหมพรมสีน้ำตาลที่สวมใส่เป็นประจำออกแล้วโยนทิ้งไว้ข้างๆกาย
“สายเลือดแวร์วูฟล์ในตัวข้า จงแสดงพลังนั้นออกมา ประสาทสัมผัสทั้งห้าที่แข็งกล้า จงแสดงพลังขึ้นเดี๋ยวนี้!”
แสงสีดำทมิฬปรากฏขึ้นรอบกายของเธอก่อนจะหายไปพร้อมๆกับกลุ่มควันเมื่อครู่ ทุกสายตาหันไปจับจ้อง ณ ที่ๆแสงนั้นปรากฏ
“มองอะไรกัน อายเป็นเหมือนกันนะ”เด็กสาวเอ่ยพลางเอามือลูบหัวแล้วยิ้มเจื่อนๆ ในขณะนี้บนศีรษะของเธอมีหูที่เหมือนหับหูสุนัขแทรกออกมาจากเส้นผมสีน้ำตาลนั่น ดวงตากลมโตสีเปลือกไม้กลับเป็นสีทองอร่ามนัยน์ตารีเล็กคล้ายแมว เขี้ยวสีขาวออกเงินนั้นงอกยาวขึ้นจนเห็นได้ชัด อีกทั้งยังมีหางสุนัขที่งอกออกมาอีกต่างหาก
“เธอมันพิลึกของแท้เลย”ซาสึเกะเอ่ยพลางไล่มองคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ฮ่า ฮ่า นี่แหละฉัน เอาล่ะมาต่อกันดีกว่า”เด็กสาวสายเลือดแวร์วูฟล์ตั้งท่าเตรียมต่อสู้ก่อนจะวิ่งตรงเข้าหาคู่ประลอง
เธอปล่อยหมัดโจมตีใส่เด็กหนุ่มอย่างหลากหลายซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่มีทางอยู่เฉยๆเป็นเป้านิ่งเด็ดขาด เลขาสภานักเรียนนั้นโต้กลับพร้อมทั้งเอี้ยวตัวหลบ
“พันปักษาหลั่งไหล!”ประกายไฟฟ้าหลั่งไหลออกจากทั่วร่างของเด็กหนุ่มตระกูลอุจิวะซึ่งเพียงแค่เด็กสาวปล่อยหมัดเฉียดผิวกายคู่ประลองเพียงนิดเดียวก็ถูกช็อตเข้าให้
“เหล่าสุนัขใต้บัญชาของข้าจงรับคำสั่ง ปรากฏตัว ณ ที่แห่งนี้ซะ!”ร่างสีดำทมิฬปรากฏต่อหน้าริวอยู่ประมาณหกร่าง ซึ่งขนาดตัวนั้นมีทั้งเท่ากันและไม่เท่ากัน
“ไคโด โอนิ นิชิ มิยะ ทามะ เซ ตั้งค่ายกล!”สิ้นคำสั่งผู้เป็นนายเหล่าสุนัขทั้งหกต่างวิ่งไปอยู่ในตำแหน่งต่างกันไปก่อนที่มันจะเริ่มยืนขึ้นสองขาแล้วกับกลายร่างเป็นมนุษย์ซึ่งอยู่ในชุดที่ไม่ต่างอะไรกับจอมยุทธ์ในหนังแม้แต่นิด ในมือของเหล่าสุนัข( ? )มีกระบี่อยู่คนละเล่ม หลังจากที่เธอได้ป้อนคำสั่งสมุนทั้งหลายก็เดินมายังตรงกลางวงล้อม
“ค่ายกลเจ็ดดาวเหนือรุก!”เด็กสาวสายเลือดแวร์วูฟล์สั่งเสียงดังลั่นก่อนที่ค่ายกลนั้นจะกระจายตัวออกไป เหล่าสมุนได้พุ่งตัวเข้าหาซาสึเกะอย่างไม่รอช้าถึงการกระทำนี้จะดูวุ่นวายแต่ลวดลายนั้นกลับแพรวพรายและไร้ที่ติ
เด็กพยายามเอี้ยวตัวหลบแต่มันกลับไม่พ้นการโจมตีของอีกฝ่าย เขาหลับตาลงชั่วครู่ก่อนจะลืมตาโพลงขึ้นมาดวงตาที่สีดำสนิทเฉกเช่นรัตติกาลตอนนี้กลับแดงฉานราวกับเลือด
“ค่ายกลกระจอกสิ้นดี”เด็กหนุ่มแห่งตระกูลอุจิวะเอ่ยก่อนจะเอี้ยวตัวหลบการโจมตีนั้นครั้งแล้วครั้งเล่าซึ่งจากที่หลบไม่พ้นนั้นกลับพ้นเสียทุกครั้ง
“ปากหมา!”
“ดีกว่าเธอแล้วกันยัยลูกหมา”
“สามหาวมาก!”เธอกล่าวก่อนจะพุ่งตรงไปยังคนตรงหน้าซึ่งการกระทำนั้นผิดอย่างมหัน มันเป็นการกระทำที่ทำให้ค่ายกลนั้นแตกไปเลยทีเดียว
“เสียงกู่ร้องของเหล่าปักษา อัสนีบาตแห่งความพินาจ จงมารวมกันในมือข้า พันปักษา!”สิ้นเสียงเลขาสภานักเรียนภายในมือของเขานั้นปรากฏกระแสไฟฟ้าที่ส่งเสียงคล้ายกับเสียงนกที่ร้องกันระงมเลยทีเดียว
ในขณะที่ริวพุ่งตัวมาอย่างไม่ระวังซาสึเกะได้ใช้พันปักษาโดนบริเวณต้นแขนของเธอ หยดเลือดสีแดงสดไหลหยดลงที่พื้น
“ชั่วมาก! นายทำฉันเจ็บนายไม่ได้ตายดีแน่!”ดวงตาสีทองมองคู่ประลองอย่างอาฆาตแค้นก่อนที่เจ้าของดวงตาคู่นั้นจะชูมือขึ้นบนฟ้า “รัตติกาลแห่งความมืดมิด ความดำมืดที่มีทุกทั่วแห่งหนฟังคำข้า! จงแปรเปลี่ยนเป็นสายฝนแห่งการทำลายเดี๋ยวนี้!”
ท้องฟ้าปลอดโปร่งที่สว่างสดใสอยู่เมื่อครู่กลับแปรเปลี่ยนเป็นดำมืดสนิทราวกับว่าเกิดปรากฏการจันทรุปราคาอย่างไรอย่างงั้น ในไม่ช้าสายฝนนั้นก็กระหน่ำลงมาเฉพาะบนเวทีประลองแต่สายฝนนั้นกลับเป็นสีดำสนิท!
“ท่านริว! โปรดใจเย็นลงด้วย”สมุนสุนัขนามไคโดเอ่ย
“ตอนนี้พวกนายกลับไปได้แล้ว ฉันจะจัดการกับไอ้หมอนี่ให้มันตายๆไปซะ อยู่ไปมันก็รกโลก!”
เพียงสายฝนเฉียดผิวกลายเพียงนิดเดียวมันกลับเกิดรอยพองเหมือนโดนน้ำร้อนลวกเข้า เด็กหนุ่มที่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบหาทางหนีแต่กลับไม่ได้ผล สายฝนนั่นตกลงมาจนหาทางหนีไปไม่ได้
“เฮ้ย! ริวใจเย็นดิวะ!อย่าให้ถึงกับต้องฆ่าแกงกันเลย!”รีอาตะโกนลั่นพร้อมๆกับที่เรย์กำลังลุกลี้ลุกลนหาทางช่วยคู่ประลองของเพื่อนเธออยู่ ขืนปล่อยไว้อย่างนี้ได้ตายกันแน่
เลขาสภานักเรียนหนุ่มหันกลับจ้องมองดวงตาสีทองอย่างไม่หลีกหนีอีกต่อไป เขาตัดสินใจทำในสิ่งที่อาจทำให้คนตรงหน้าทรมานไปครู่หนึ่งเลยทีเดียว
“อ่านจันทรา!”
“อ๊ากกกกก!!!!!!!!”เสียงกรีดร้องดังสนั่นไปทั่วจนทำให้คนดูนั้นรับรู้ว่าต้องมีอะไรเกิดขึ้นกับเด็กสาวแน่
ภาพที่เธอเห็นนั้นเป็นภาพลวงตาอย่างหนึ่ง แต่มันเป็นภาพลวงตาที่ดึงความรู้สึกส่วนลึกภายในใจเธอออกมาซึ่งไม่แปลกที่ริวจะกรีดร้องออกมาแต่มันกลับน่าแปลกตรงที่ว่า...
ดวงตาคู่นั้นมันคลอไปด้วยน้ำตา
และหม่นหมองไปด้วยความเศร้า เสียใจ และ ผิดหวังก่อนที่มันจะถูกเปลือกตานั้นปิดไป
เพราะอะไร?
คำถามนี้มันวนเวียนภายในหัวเด็กหนุ่มด้วยความมึนงง เขาไม่ได้รับรู้เสียด้วยซ้ำว่าอาจารย์ได้ประกาศชื่อว่าเขาเป็นผู้ชนะ ไม่รับรู้เสียด้วยซ้ำว่าสายฝนนั่นได้หยุดลงไปแล้ว
“นายทำอะไรเพื่อนฉัน!”นานะที่วิ่งขึ้นมาคนแรกแผดเสียงใส่คู่ประลองของเพื่อนเธอดังลั่น
“ก็แค่...สร้างภาพลวงตา ดึงเรื่องที่อยู่ส่วนลึกในใจของยัยพิลึกนั่นออกมา”
“ชั่วที่สุด!นายรู้บ้างมั้ยว่าสิ่งที่นายทำมันชั่วมาก!”นากิตวาดด่า
“พวกเธอเว่อร์กันเกินไปรึป่าว”
“เว่อร์บ้านนายสิ นายรู้มั้ยว่านายน่ะทำให้ริวมันเจอกับสิ่งที่มันพยายามจะลืม นายทำงี้มันก็ยิ่งลืมไม่ลงเข้าไปใหญ่”เด็กสาวผมสีชมพูตวาดเสริม
“นานะ ใจเย็นก่อนนะครับ”ยุนโฮเอ่ยก่อนจะวางมือลงบนบ่าของแฟนสาว “ถ้ามีปัญหาก็มาคุยกับผมดีกว่า ยังไงซะผมก็เป็นประธานสภานักเรียน พูดผ่านผมไปก็ได้นะ”
“ยุนไม่ต้องออกรับหน้าแทนมันหรอก”
ประธานสภานักเรียนเห็นท่าว่าแฟนตัวเองคงไม่ยอมความแน่ๆจึงอุ้มร่างตรงหน้าขึ้นพาดบ่าก่อนจะเดินหายไป
“พวกเธอก็โอเว่อร์กันเกินไปหน่อยรึป่าว”จุนซูเอ่ยขึ้น
“ไม่เกินไปหรอก!”
“พวกนายดิเข้าข้างแต่พวกตัวเอง”
“ดีตายเลยพวกนายน่ะ”สามสาวที่เหลือบ่นออกมา
“ซึงรี จุนซู”ยูชอนเอ่ยก่อนจะมองหน้าเพื่อนทั้งสอง
“ฉันเข้าใจความหมายของนายดียูชอน”ซึงรีตอบรับก่อนจะกึ่งดึงกึ่งลากเรย์ไปที่อื่นซึ่งอีกสองคนที่เหลือนั้นก็ทำตามเช่นกัน
“หงิง...”เหล่าสุนัขที่กลับร่างเดิมรายล้อมรอบๆตัวริวก่อนจะครางออกมาด้วยความเป็นห่วง
เด็กหนุ่มที่เห็นดังนั้นจึงเริ่มรู้สึกผิดแล้วเดินเข้าไปใกล้หวังจะช่วยพาเจ้านายของพวกมันไปห้องพยาบาทแต่กลับได้เสียงขู่กรรโชกกลับมาแทน
“ฉันจะพาเจ้านายพวกแกไปห้องพยาบาล เจ้านายพวกแกจะได้ปลอดภัยไง”ซาสึเกะเอ่ยซึ่งเหล่าสุนัขนั้นก็หลีกทางให้แต่โดยดี
เลขาสภานักเรียนพยุงร่างไร้สตินั่นไปห้องพยาบาล ถึงในหัวจะคิดถึงเรื่องแววตานั่นแต่ตอนนี้กลับคิดเรื่องอื่นมาแทนที่
พวกรุ่นพี่ของเขาพายัยผู้หญิงพวกนั้นไปไหน?
จะต้มยำทำแกงหรือปลุกปล้ำพวกนั้นยังไงก็เชิญ
หวังแค่ว่า...คงไม่ทำอะไรมาเสื่อมถึงสภานักเรียนหรอกนะ
ความคิดเห็น