คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chepter6
“ไอ้ริวมันหายหัวไปไหนแล้วเนี่ย”นานะเอ่ยพลางมองซ้ายมองขวา
“โดนเด็กผู้หญิงลากเข้าห้องไปแล้วมั้ง”เรย์เอ่ยขำๆ
“เพื่อนของพวกเธอเป็นด่านต่อไปต่างหากล่ะ”ยูชอนซึ่งโผล่หน้ามาจากไหนไม่รู้เอ่ยขึ้น
“หมายความว่าไง”
“ก็อย่างที่พูดนั่นแหละ การประลองด่านนี้พวกเธอต้องไปตามคำใบ้ปริศนาเพื่อหาตัวเพื่อนเธอให้พบซึ่งแข่งกับฝ่ายฉันว่าใครจะถึงก่อน”
“ฝ่ายนายเป็นคนคิดก็ต้องรู้ดิ”นากิเอ่ยแย้งออกมาทันที ถ้าสภานักเรียนเป็นคนพาเพื่อนเธอไปซ่อนแล้วยังให้ประลองงี้มันก็ไม่เป็นธรรมเอาซะเลย!
“No no ฉันให้อาจารย์คิดต่างหาก”
“เดี๋ยวก่อนนะ...ที่นายบอกว่าเอาเพื่อนฉันไปซ่อนเนี่ย นายเอาตัวริวไปใช่มั้ย”รีอาเอ่ยถาม
“ปิ๊งป่อง~ เยสเซอร์ถูกต้องที่สุด”
“เลิกพูดจาน่ารำคาญอย่างนั้นซักทีเถอะน่าแล้วก็บอกคำใบ้มา”
“อาจารย์อแมนด้าบอกคำใบ้มาเลยครับ”ยุนโฮเอ่ย
“ไม่ใกล้และไม่ไกลจากเซเวเนีย ยามตะวันฉายมืดสนิทเฉกเช่นรัตติกาล สี่ย่างก้าวของกริฟฟิน ทางทิศบูรพาดวงอาทิตย์ประจักษ์แสง คำใบ้ต่อไปอยู่ ณ ที่แห่งนั้น”อแมนด้าเอ่ย
ผู้เข้าประลองทั้งสองฝ่ายต่างจดคำใบ้จากอาจารย์ประจำวิชาพฤกษาศาสตร์ทันที เด็กสาวผมสีชมพูมองกระดาษในมือเพื่อนแล้วบ่นออกมาอย่างเหลืออด
“อะไรกันเนี่ย!งงชิบเลย”
ในขณะที่นานะยังบ่นอยู่นั้นรีอาก็นั่งคิดไปโดยไม่สนอากัปกิริยาของเพื่อนตัวเอง ซึ่งในเวลาไม่นานนั้นฝ่ายยุนโฮกับยูชอนก็ได้คำตอบ
“อะไรกัน!ทำไมได้คำตอบเร็วงี้เนี่ย รีอาได้คำตอบยัง”
“เราได้คำตอบแล้วล่ะ”
“เจงอ่ะ”
“อือ มันจะยาวไปสักหน่อยนะแต่ระหว่างที่เราพูดแกก็เดินตามเราไปเลยแล้วกัน”เด็กสาวผมสีฟ้าอ่อนเอ่ยก่อนจะเริ่มเดินไปบอกข้อมูลไป
“อย่างแรกไม่ใกล้ไม่ไกลจากเซเวเนีย ยามตะวันฉายมืดสนิทเฉกเช่นรัตติกาลนั่นก็คือป่าหลังโรงเรียนนี่ไง อย่างที่สองสี่ย่างก้าวของกริฟฟินเท่ากับสองฝ่าเท้าของคนเราแสดงว่าเราต้องเดินไปในป่าก่อนจะก้าวเข้าไปแปดก้าวด้วยกัน ทางทิศบูรพาดวงอาทิตย์ประจักษ์แสงคือเมื่อเราเดินจนครบทั้งแปดก้าวให้หันไปทางทิศตะวันออกซึ่งคำใบ้ต่อไปก็อยู่ที่
”
เธอหันหน้าไปทางทิศตะวันออกตามคำใบ้ขณะที่มือนั้นก็ชี้อยู่ ณ เบื้องหน้า
“ต้นไม้นี่”
“ต้นไม้?แกวิเคราะห์คำใบ้ออกมาถูกรึป่าวถามจริง”
“แกไม่ช่วยอย่ามาพูดมากเลย รีบใช้คาถาประจำสายเลือด‘ภูติ’ของแกซะก็สิ้นเรื่อง”
“เออว่ะ ทำไมเรานึกไม่ถึง”
“ก็แกมันโง่ไงถ้าชักช้าเราจะโค่นต้นไม้นี้ลงซะเลย”
“เออ รู้แล้วอย่าเร่งมากได้มั้ยน่ารำคาญ”นานะบ่นอย่างหัวเสียก่อนจะทาบมือลงบนต้นไม้ “ข้าแต่เหล่าดวงวิญญาณของพฤกษาทั้งหลาย สิ่งแปลกปลอมที่ฝังลึกอยู่ภายในจงปรากฏออกมาเถิด”
สิ้นเสียงเด็กสาวสายเลือดภูติแสงสว่างวาบก็ปรากฏขึ้นทันตาก่อนที่มันจะจางหายไปเหลือไว้เพียงกระดาษแผ่นหนึ่งในมือของเธอเท่านั้น ทั้งสองต่างอ่านข้อความภายในกระดาษนั่นอย่างไม่รอช้า
“เงียบสงบอยู่เป็นเนืองนิตย์ หลายชีวิตแปรผันดับสลาย เป็นเรื่องเล่ากล่าวขานทุกคราไป”เมื่อทั้งสองได้อ่านข้อความนั้นจบต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันอย่างรู้ความ ฝ่ายเด็กสาวผมชมพูนั่งลงรอเพื่อน ส่วนเด็กสาวผมสีฟ้านั้นนั่งวิเคราะห์คำใบ้
“หวังว่าเชื้อ‘นักปราชญ์’ในตัวแกจะช่วยได้นะ”นานะเอ่ย
“มันก็มีประโยชน์นั่นแหละ ถ้าไม่มีประโยชน์เราจะทำคะแนนได้ดีขนาดนี้มั้ย ยังไงซะตอนนี้ก็หุบปาก ไปซะ”รีอาร่ายยาวก่อนจะหันไปสนใจกระดาษในมือต่อ
ดวงตากลมโตสีอำพันไล่มองตัวอักษรข้อความในกระดาษอีกครั้งเพื่อทวนความแน่ใจให้มันนั้นเด่นชัดขึ้น
“ได้แล้ว!”
“ไหน!ว่ามาแล้วก็เดินนำไปเลย”
“โอเค”เด็กสาวผมสีฟ้าอ่อนลุกขึ้นยืนก่อนจะเริ่มร่ายต่อ “เงียบสงบอยู่เป็นเนืองนิตย์ หลายชีวิตแปรผันดับสลาย เป็นเรื่องเล่ากล่าวขานทุกคราไป คำใบ้ต่อไปอยู่ที่ห้องสมุด”
“หมายความว่าไงอยู่ที่ห้องสมุด”
“เงียบสงบอยู่เป็นเนืองนิตย์หมายถึงห้องสมุดที่มันเงียบตลอดเวลา หลายชีวิตแปรผันดับสลายหมายถึงชีวิตของต้นไม้ที่โดนโค่น เป็นเรื่องเล่ากล่าวขานทุกคราไปหมายถึงเรื่องต่างๆที่ตีพิมพ์ลงในหนังสือ”
“อ่อ เข้าใจแล้ว”
ทั้งสองรีบวิ่งไปห้องสมุดอย่างเต็มฝีเท้า พวกเธอหยุดยืนตรงหน้าบรรณารักษ์ประจำห้องสมุดของเซเวเนีย บรรณารักษ์ที่รู้ความหมายดีนั้นไม่รอให้พวกเธอได้พูดพล่ามทำเพลงอะไรก็ยื่นกระดาษที่มีคำใบ้มาให้ทันที
“สกุณาร้องก้องไปทั่วทิศ มืดสนิทไร้ผู้คนสัญจรมา มีเรื่องด่วนทุกข์ร้อนถึงจะไป มินางาวะ ริว อยู่ ณ ที่แห่งนั้น”
“สกุณาคืออะไร”นานะเอ่ยถามหลังจากอ่านคำใบ้ในกระดาษเรียบร้อยแล้ว
“สกุณาคือนกไงไอ้โง่ โอ้ ตูมีเพื่อนโง่! กลุ้มว่ะ”
“ที่ๆนกจะร้องดังขนาดนั้นคงมีแต่ดาดฟ้าห้องเก็บนกฮูกเท่านั้นแหละ”
“เป็นครั้งแรกที่เห็นแกฉลาดขนาดนี้ รีบไปเหอะ”
ทั้งสองจึงรีบมุ่งตรงไปที่ห้องเก็บนกฮูกทันทีซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ยุนโฮและยูชอนวิ่งไปทางเดียวกับพวกเธอพอดี
“เฮ้ย! ยุนโฮรีบวิ่งหน่อยดิยัยพวกบ้านั่นมาแล้วนะ”รองประธานสภานักเรียนเอ่ยกัดคู่ประลอง
“นายดิบ้า! นานะแกรีบวิ่งตามมาเร็วๆเดะ”เด็กสาวสายเลือดนักปราชญ์รีบเอ่ยเร่งคู่หูที่ชักช้าเป็นเต่าคลานอยู่อย่างงั้น
“โอ๊ยย “ในขณะที่เด็กสาวสายเลือดภูติเร่งฝีเท้าอย่างเต็มที่เธอก็สะดุดเข้ากับขั้นบันไดจนหน้าทิ่ม
“นานะ!!”ประธานสภานักเรียนเอ่ยมาด้วยความตกใจก่อนจะวิ่งปราดเข้าไปประคอง “เป็นอะไรรึป่าว”
“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ว้าย!”ในขณะที่เธอกำลังพูดอยู่นั้นแฟนหนุ่มก็ได้ช้อนร่างเล็กขึ้นจากพื้นด้วยท่าทางที่ไม่ต่างอะไรกับเจ้าบ่าวที่กำลังจะพาเจ้าสาวเข้าห้องหอ
เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มเกือบดำหันมองเพื่อนอย่างเหนื่อยใจก่อนจะวิ่งขึ้นไปต่อ
“เปลวเพลิงแห่งความกรุ่นโกรธเผามันซะ!”เด็กสาวผมสีฟ้าอ่อนที่รู้ตัวว่าวิ่งแข่งกับหมอนี่ขึ้นไปไม่มางชนะแน่จึงใช้เวทย์ขัดขวาง
“สายน้ำแห่งความเยือกเย็น ดับเปลวเพลิงซะ”ยูชอนหันกลับมาใช้เวทย์น้ำดับไฟก่อนจะวิ่งขึ้นไปต่อ
ปัง!
บานประตูไม้ถูกถีบออกจนทำให้คนที่อยู่ข้างในสะดุ้งด้วยความตกใจไปตามๆกัน ซาสึเกะที่กินเค้กยั่วริวที่โดนจับมัดอยู่นั้นวางของในมือลงก่อนจะลุกขึ้น
“ยินดีด้วยครับรุ่นพี่ยูชอน”
“เฮ้อ เหนื่อยเป็นบ้า”รองประธานสภาระบายลมหายใจออกก่อนจะนั่งลงที่พื้น
“พวกแกก็ชนะแล้ว ปล่อยฉักสักทีสิเว้ย! เอาเค้กนั่นมาด้วย!”เด็กสาวที่โดนจับมัดโวยลั่น
“โธ่! มาช้าไปนิดเดียวเอง”รีอาที่เดินเข้ามาด้วยความเหนื่อยอ่อนบ่นออกมาอย่างเสียดาย
“แล้วนานะล่ะ ด่านนี้แกคู่กับนานะไม่ใช่เหรอ”
“มันโดนยุนอุ้มเข้าห้องไปแล้วมั้ง มาเราแก้มัดให้”เธอเอ่ยก่อนจะเดินไปแก้มัดเพื่อนออก
เด็กสาวผมสีน้ำตาลที่โดนแก้มัดรีบวิ่งไปฉกเค้กบนโต๊ะในระหว่างที่เจ้าของเค้กเผลอ เธอรีบยัดมันเข้าปากทันที
“อื้อ~ อร่อยว่ะ ซัสนายมีเค้กอีกป่าว”
“ไปหาเอาในโรงอาหารไป พรุ่งนี้พวกเธอไปที่หลังโรงเรียนตอนสิบโมงด้วย มันเป็นการประลองรอบสุดท้าย”
“รอบสุดท้าย งั้นการประลองครั้งต่อไปก็คือนายกับริวสินะ”เด็กสาวสายเลือดนักปราชญ์เอ่ย
“ใช่ ถ้ามาสายล่ะก็ฉันจะถือว่าเธอยอมแพ้”
“ได้ พวกฉันจะมาทันทีเลยคอยดู ไปเถอะรีอา ไปหาเค้กกินกัน”ริวหันไปชูนิ้วกลางใส่อีกฝ่ายก่อนจะเดินลากเพื่อนไป
“ยัยผู้หญิงพิลึกเอ๊ย!”ซาสึเกะตะโกนไล่หลัง
ความคิดเห็น