คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter2
กริ๊งงงงง
เสียงนาฬิกาปลุกดังลั่นไปทั่วห้องนอน เจ้าของนาฬิกาปลุกบ่นครวญครางอยู่ใต้ผ้าห่มในขณะที่มือเรียวข้างหนึ่งควานหานาฬิกาเพื่อกดปิด เด็กสาวเรือนผมสีแดงทับทิมลุกขึ้นจากเตียงนอนแล้วจัดการทำกิจวัตรประจำวันอย่างเสร็จสรรพก่อนจะเดินออกไปยังห้องนอนของเพื่อนแต่ละคน
ห้องแรกที่เข้าไปเป็นห้องของเด็กสาวผมสีเหลืองอ่อนที่ห้องอยู่ใกล้เธอมากที่สุด เมื่อเปิดเข้าไปก็พบว่านากินั้นตื่นและแต่งตัวเรียบร้อยแล้วทั้งยังมีรีอานั่งอยู่ข้างๆด้วย
“ตื่นเร็วจังนะนากิ รีอา”
“เมื่อวานนอนไม่ค่อยหลับ วันนี้เลยตื่นเช้า”นากิตอบกลับก่อนที่จะมองสภาพของเพื่อนตัวเองซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่รีอาพูดขึ้นมา “พึ่งตื่นล่ะสิท่าเรย์”
“อืม เดี๋ยวไปปลุกไอ้นานะกับไอ้ริวก่อนแล้วกัน”
คนที่อยู่ในห้องทั้งคู่พยักหน้าเป็นเชิงตอบรับก่อนที่ผู้เข้ามาใหม่จะเดินออกไปและไปยังห้องที่อยู่ถัดจากห้องของเด็กสาวผมสีเหลืองอ่อนและเด็กสาวผมสีฟ้าอ่อน เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าเจ้าของห้องยังหลับอยู่ความคิดพิเรนจึงเกิดขึ้น เรย์ยื่นมือไปข้างหน้าข้างหนึ่งซึ่งอยู่เหนือร่างที่ยังคงไม่ตื่นจากเตียงนอน
“นามแห่งเรย์ ผู้ใช้วารีธาตุ บอลน้ำจงปรากฏ”บนมือเรียวปรากฏบางอย่างที่มีลักษณะคล้ายบอลซึ่งในมือนั้นเป็นน้ำอย่างเดียวที่ไม่มีภาชนะบรรจุ
เด็กสาวผมสีแดงทับทิมนับถอยหลังในใจอย่างช้าๆสาม...สอง...หนึ่ง เมื่อสิ้นสุดเลขสุดท้ายเธอคว่ำมือลงส่งผลให้บอลน้ำในมือตกลงเข้าใส่ร่างที่หลับใหลอยู่
ซ่า
กระแสน้ำเย็นเฉียบเปียกไปทั่วร่างของเด็กสาวผมสีชมพู คนโดนแกล้งเด้งตัวขึ้นมาจากเตียงนอนแล้วจ้องหน้าคนแกล้งเขม็ง
“ไอ้บ้าเรย์! จะปลุกกันทั้งทีปลุกให้ดีหน่อยได้มั้ย!”นานะตวาดลั่น
“ฮ่า ฮ่า ถ้าทำได้ก็จะทำนะ ไปอาบน้ำแต่งตัวให้ไวหน่อยแล้วกัน”เรย์เอ่ยก่อนจะออกจากห้องไปยังห้องถัดไป
ภายในห้องก็ตกแต่งเหมือนห้องที่ผ่านๆมาแต่กลับดูมืดกว่าห้องอื่นเป็นเท่าตัวคงเป็นเพราะห้องนี้เป็นด้านที่ไม่ได้รับแสงจากดวงอาทิตย์เท่าที่ควร เด็กสาวผมสีแดงทับทิมควานหาสวิทช์ไฟเมื่อเจอจึงกดเปิดทันที จากห้องที่มืดสนิทตอนนี้กลับสว่างจ้าจนทำให้เจ้าของห้องตื่นขึ้นมาทันที
“เปิดไฟทำไมเรย์ คนจะหลับจะนอน”
“ยังจะนอนอีกเหรอ นี่มันหกโมงครึ่งแล้วนะ โรงเรียนเข้าตอนแปดโมงแกไม่รู้หรือไงริว”
ริวพยักหน้ารับนิดก่อนจะบิดกายคลายความเมื่อยล้าแล้วลุกขึ้นจากเตียง เมื่อเพื่อนของเธอตื่นเรียบร้อยเรย์จึงเดินออกมายังห้องโถงนั่งรอคนที่พึ่งตื่นทั้งสองพร้อมรีอากับนากิ
“เราว่าไม่ต้องรอนานะกับริวหรอก เดี๋ยวให้สองคนนี้ตามไปห้องเรียนที่หลังจะดีกว่า”เด็กสาวผมสีฟ้าเอ่ยซึ่งได้รับการพยักหน้าเป็นเชิงเห็นด้วยจากเพื่อนๆก่อนจะตะโกนหาคนพึ่งตื่น “นานะ ริว พวกเราไปก่อนนะ เจอกันที่ห้องเรียนล่ะ”
ทั้งสามเดินออกมาจากห้องซึ่งแน่นอนคนอย่างรีอาไม่มีทางที่จะลืมล็อคประตู จุดหมายที่พวกเธอเลือกที่จะไปที่แรกก่อนไปห้องเรียนคือ ‘โรงอาหาร’ ระหว่างทางที่เดินไปก็คุยไปพลางโดยที่ไม่สังเกตทางข้างหน้าทั้งสามจึงเผลอชนกับอะไรบางอย่าง
“เดินหัดระวังหน่อยสิ”เสียงหนึ่งดังขึ้นซึ่งจากที่ฟังแล้วมันเป็นการพูดอย่างพร้อมเพียงกันเสียมากกว่า
ทั้งสามเงยหน้าขึ้นมองทางต้นเสียงก็พบกับเด็กหนุ่มสามคนที่อยู่ในเครื่องแบบของโรงเรียนเหมือนนักเรียนคนอื่นๆแต่มีที่แปลกกว่านักเรียนชายคนอื่นก็คือเข็มกลัดสีทองที่ติดอยู่บริเวณปกเสื้อนอก
เด็กหนุ่มคนแรกเจ้าของเส้นผมสีนิลระต้นคอบริเวณกลางศีรษะจัดทรงให้ตั้งๆขึ้นเล็กน้อยเพื่อไม่ให้มันดูน่าเกลียดจนเกินไป ดวงตาคมกริบสีเดียวกับเส้นผมแฝงไปด้วยความขี้เล่น
เด็กหนุ่มคนที่สองเจ้าของเส้นผมสีน้ำตาลเข้มเกือบดำซอยระต้นคอซึ่งจัดทรงเอาไว้ให้ดูออกยุ่งๆเซอร์ๆซึ่งดูดีไปอีกแบบ ดวงตาคมกริบสีนิลมองเด็กสาวทั้งสามด้วยสายตาที่เป็นมิตรแต่ก็แสดงถึงความไม่สบอารมณ์ด้วยเช่นกัน
เด็กหนุ่มคนสุดท้ายเจ้าของเส้นผมสีน้ำตาลแดงซอยระต้นคอจัดทรงให้มันปัดไปข้างๆเพียงบริเวณส่วนด้านหน้า ดวงตาคมกริบสีนิลแฝงแววขี้เล่นไว้ภายใต้ความเดือดดาลที่แสดงให้เห็นอยู่เบื้องหน้า
“ชนคนอื่นแล้วไม่ขอโทษไม่มีมารยาทเอาซะเลย”เด็กหนุ่มคนแรกเอ่ย
“ก็พวกนายเกะกะขวางทางเองนี่”เรย์เอ่ยขึ้นอย่างปากกล้าและไม่มีท่าทีจะเกรงกลัวคนตรงหน้าแม้แต่น้อย
“แต่พวกเธอเป็นคนชน”เด็กหนุ่มที่สามเอ่ย
“ก็อย่างที่เพื่อนฉันพูด ถ้านายไม่เกะกะพวกเราจะชนมั้ยล่ะ”นากิเอ่ยอย่างเห็นด้วยกับคำพูดของเพื่อนสาวที่พูดไปก่อนหน้านั้น
“ยังไงก็ชน ก็ในเมื่อพวกเธอเล่นหลับหูหลับตาเดินคุยไม่มองคนอื่นอย่างนี้”เด็กหนุ่มคนที่สองเอ่ย
“ยังไงพวกเราก็ไม่ชนถ้าพวกนายไม่ได้มายืนเกะกะขวางทางอย่างนี้”รีอาเอ่ยกลับอย่างยอกย้อน
“ปากดีกันจังเลยนะพวกเธอน่ะ! ไม่รู้รึไงว่ากำลังต่อปากต่อคำกับใครอยู่!”เด็กหนุ่มที่เอ่ยก่อนหน้าเด็กสาวผมสีฟ้าอ่อนเอ่ยอย่างเดือดดาล
“จะไปรู้ได้ยังไงพวกฉันไม่ใช่พ่อใช่แม่พวกนายนี่”เด็กสาวผมสีแดงทับทิมเอ่ยสวนกลับอย่างไม่มีทางยอมลดราวาศอกไปง่ายๆ
“ฉันยูชอนรองประธานสภานักเรียน!”เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเข้มเกือบดำเอ่ย
“ฉันซึงรี รองประธานสภานักเรียนคนที่สอง!”เด็กหนุ่มผมสีนิลเอ่ย
“ฉันจุนซู เลขานุการสภานักเรียน!”เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลแดงเอ่ย
เด็กสาวทั้งสามถึงกับนิ่งงันไปเลยทีเดียวไม่ได้เป็นเพราะตำแหน่งของคู่กรณีแต่มันกลับเป็นเพราะพวกเธอไม่อยากเชื่อว่าน้ำหน้าอย่างสามคนนี้จะมีตำแหน่งอยู่ในสภานักเรียน
“แล้วทำไมล่ะ ถึงพวกนายจะเป็นคนของสภานักเรียนแต่ก็อย่ามาทำกร่างแถวนี้เข้าใจมะ ไปเหอะ รีอา นากิ”เรย์ตวาดใส่หน้าซึงรีก่อนจะเดินออกไปให้พ้นๆจากคู่กรณีพร้อมทั้งลากเพื่อนทั้งสองไปด้วย
“ท่าทางอวดเก่งชะมัด”ยูชอนบ่นออกมาอย่างอดไม่ได้
“ไม่อยากเชื่อว่าโรงเรียนเราจะรับผู้หญิงแบบนั้นเข้ามา ว่ามั้ยซึงรี”จุนซูเอ่ยก่อนจะขอความเห็นจากรองประธานคนที่สองซึ่งเขานั้นก็ไม่ได้รับการตอบกลับจากเพื่อนสนิท “เฮ้ ซึงรีเป็นไรไป”
“ห๊ะ!”ซึงรีที่เหมือนพึ่งตื่นจากภวังค์มีท่าทีเลิกลักก่อนจะมองเลขาของสภานักเรียนแล้วเอ่ยถาม “มีอะไรจุนซู”
“เหม่ออะไรของนาย”
“ป่าวๆ ไม่มีอะไร แค่คิดอะไรเพลินๆเท่านั้น”ปากก็ตอบกลับคำถามที่ถามมาแต่ในสมองนั้นก็ยังคิดถึงภาพของเด็กสาวผมสีแดงทับทิม มีเธอเป็นคนแรกนี่แหละที่กล้าตวาดใส่หน้าเขา...อากัปกิริยาอย่างนั้นช่างน่าสนใจเสียทีเดียว
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ฮ้าว~ ง่วงเว้ย ง่วงสุดๆเกิดมาไม่เคยง่วงขนาดนี้เลย!”เด็กสาวผมสีน้ำตาลอ่อนอ้าปากหาวก่อนที่จะบ่นออกมาอย่างเหลืออด เพราะเหตุการณ์เมื่อคืนแท้ๆทำเอาเธอต้องเดินอยู่นานสองนานกว่าจะได้กลับห้องไปนอน
“หาวซะทุเรศเลย อายเขาบ้างมั้ยน่ะ”เด็กสาวผมสีชมพูเอ่ยถามพลางถอนหายใจออกอย่างเหนื่อยใจ
“จะอายไปทำไมเราก็แค่หาวเท่านั้นนี่”ริวเอ่ยก่อนที่สายตาจะสะดุดเข้ากับเด็กสาวที่เป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนเดียวกันซึ่งเด็กสาวนั้นมองมาที่เธอ เธอเลยยิ้มกลับส่งผลให้เด็กสาวคนนั้นหน้าแดงไปเลยทีเดียว “เดี๋ยวมานะ แกเดินไปห้องเรียนก่อนเลยก็ได้”
เมื่อกล่าวจบก็เดินไปทันทีโดยไม่รอให้คนอื่นได้พูดพล่ามอะไร นานะมองตามเพื่อนสาวที่ทำท่าทางไม่ต่างอะไรกับผู้ชายที่ตอนนี้กำลังจีบเด็กสาวคนหนึ่งอยู่
“อรุณสวัสดิ์ครับนานะ”น้ำเสียงที่เธอพึ่งเคยได้ยินเป็นรอบสองแต่เธอกลับรู้สึกคุ้นเคยดังขึ้น ไม่รอช้าเด็กสาวรีบหันไปทางต้นเสียงทันทีก็พบกับเด็กหนุ่มที่มีดีกรีเป็นถึงประธานนักเรียนยิ้มหวานให้
“เช่นกันค่ะรุ่นพี่ยุนโฮ”
“ผมบอกแล้วไงว่าเรียกผมว่ายุนก็ได้”
นานะพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจแทนคำตอบ เธอก้มหน้างุดไม่สบตากับคนตรงหน้าแม้แต่นิดซึ่งท่าทางอย่างนี้มันกระตุ้นต่อมความอยากแกล้งของยุนโฮขึ้นมาทันที
จุ๊บ
เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลทองหอมแก้มเด็กสาวตรงหน้าอย่างไม่เกรงต่อสายตาคนรอบข้างซึ่งทำเอาเด็กสาวหลายๆคนที่คลั่งไคล้ในตัวเขากรีดร้องลั่นไปทั่วทั้งโรงเรียน ใบหน้าหวานน่ารักแดงระเรื่อราวกับคนเป็นไข้ ในใจของเธอตอนนี้ดีใจสุดๆอย่างกับปลาได้น้ำ
“ทะ ทำไมจู่ๆถึงมาหอมแก้มล่ะคะ คนอื่นเขาเห็นกันหมด”
“ไม่เห็นจะเป็นอะไรนี่ครับ คนอื่นเห็นก็ดีแล้วจะได้รู้ว่าเราเป็นแฟนกัน”
‘จริงสินะ...เมื่อวานเราขอคบเขานี่นา’นานะคิด
หมับ
ริวที่ย่างสามขุมเข้ามาคว้าตัวเพื่อนสาวให้ไปอยู่ด้านหลังก่อนจะยืนจ้องหน้ายุนโฮตาเขม็งพลางกำมัดข้างหนึ่งไว้แน่น
“นายมายุ่งอะไรกับเพื่อนฉัน!”น้ำเสียงห้าวตวาดลั่นซึ่งนั่นก็เรียกสายตาจากคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี
“ทำไมผมจะยุ่งไม่ได้ล่ะ ก็ในเมื่อนานะเป็นแฟนผม”
คำพูดของเด็กหนุ่มทำให้เด็กสาวผมสีน้ำตาลอ่อนมองคนที่อยู่เบื้องหลังก่อนจะปล่อยมือ ใบหน้าที่ติดไปทางหล่อเผยรอยยิ้มออกมา
“ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง พึ่งเข้ามาที่นี่ได้ไม่กี่วันเพื่อนเราก็มีแฟนซะแล้ว ถ้างั้นฉันไม่กวนล่ะ เชิญสวีทหวานกันตามสบายแต่ฉันขอเตือนไว้ก่อนนะยุนโฮ นานะน่ะเป็นเพื่อนของฉัน ถ้านายทำให้เธอต้องร้องไห้”ริวเอ่ยยาวเหยียดอย่างไม่เว้นช่วงให้คนอื่นได้พูดแทรกแล้วหยุดลงครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “นายตายแน่”
ถึงสีหน้าของผู้เอ่ยมานั้นจะยิ้มอย่างเป็นมิตร แต่ผู้ฟังกับรู้สึกถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านออกมา
“ครับ ยังไงซะผมก็ไม่ทำให้นานะต้องร้องไห้หรอก”
“หึ ให้มันจริงอย่างปากว่าเถอะ”
“อีกไม่นานก็เข้าเรียนแล้ว นานะไปกับเพื่อนเถอะนะ”
“อะ อืม”
เด็กสาวทั้งสองเดินไปยังห้องเรียนอย่างไม่รีบไม่ร้อน ถึงโรงเรียนมันจะใหญ่ขนาดไหนก็เถอะนะแต่ว่าห้องเรียนปีสองนั้นหาง่ายเพราะมันอยู่ชั้นหนึ่งพอดิบพอดี ไม่นานทั้งสองก็ถึงหน้าห้องเรียนของตน พวกเธอเดินเข้าไปนั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนๆซึ่งขณะที่เดินไปนั้นดวงตากลมโตสีเปลือกไม้ก็มองไปเห็นคนๆหนึ่ง
“นาย!ไอ้เลขาขี้เก๊ก!”ริวแทบร้องเสียงหลงก็ในเมื่อห้องเรียนปีสองมีตั้งสามห้องทำไมเธอต้องมาซวยได้เรียนห้องเดียวกับไอ้คนๆนี้ด้วย
“ยัยผู้หญิงพิลึก!”ท่าทางของซาสึเกะนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่ว่าเขาขี้เก๊กซักเท่าไหร่
“รู้จักหมอนี่งั้นเหรอ”นากิเอ่ยถาม
“ก็รู้จัก ซึ่งเราไม่อยากรู้จักซักนิด”
“ฉันก็ไม่อยากรู้จักเธอเหมือนกันนั่นแหละ ยัยพิลึก”
“ว่าใครพิลึกกัน ห๊ะ!ไอ้ขี้เก๊ก”
“มันคิดจะห้ามริวมันหน่อยเหรอ”นานะเอ่ยถามซึ่งเพื่อนๆนั้นก็ตอบเป็นเสียงเดียวว่า ‘ไม่’
“ปล่อยให้ทะเลาะกันไปอย่างนี้แหละเดี๋ยวก็หยุดเอง”เรย์เอ่ย
“แล้วมันจะหยุดเมื่อไหร่กันล่ะ”รีอาเอ่ยในขณะที่สายตายังคงจดจ้องกับหนังสือนิยายในมือ
“เมื่อครูมานั่นแหละ”เด็กสาวทั้งสามคนที่เหลือเอ่ยเป็นเสียงเดียวกัน
ความคิดเห็น