คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ลำดับตอนที่ 7
เดินทางหลายวัน พักแรมเรื่อยทางมาจนล่วงเข้าวันที่ห้า ขบวนเดินทางของไรน์ก็มาถึงทางเข้าป่ามายา บรรดานายทหารทั้งหลายที่ล้วนเคยได้ยินกิตติศัพท์ความน่ากลัวของป่าดงดิบแห่งนี้ต่างรู้สึกกลัวเกรงอยู่บ้างในส่วนลึกที่สุดของซอกหัวใจ หากแต่เพราะผู้นำซึ่งได้แก่คุณชายหนุ่มซึ่งแทบจะไม่มีฝีมือด้านอาวุธเลยขี่ม้านำเข้าไปก่อนด้วยท่าทีสบายๆ ไม่ต่างจากการขี่ม้าชมสวนพวกเขาจึงรู้สึกว่าควรจะทำใจให้กล้าหาญฮึกเหิมขึ้นมา โดยเฉพาะเมื่อชายหนุ่มหันกลับมาบอกด้วยน้ำเสียงทุ้มๆ สบายๆ เช่นปกติว่า
“เราเข้ามาในป่าที่ได้ชื่อว่าน่ากลัวที่สุดแล้ว ขอให้พวกท่านทุกคนมีสติพร้อมรับเหตุการณ์ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอให้ดี พวกท่านทุกคนเป็นผู้มีความสามารถ ข้าเชื่อว่าขอเพียงตั้งสติให้มั่น เราทุกคนจะผ่านพ้นอันตรายทั้งหลายไปด้วยกัน”
รอยยิ้มนุ่มนวลของไรน์ที่มีให้นายทหารทุกคนเรียกกำลังใจจากพวกเขาได้อย่างประหลาด แม้ว่าเจ้าตัวจะมีฝีมือดาบเพียงน้อยนิดเท่านั้น...รีวาร์มองเสี้ยงหน้าของคุณชายหนุ่มด้วยประกายตาอ่อนโยนระคนชื่นชม
การเดินทางในป่าดงดิบเต็มไปด้วยความยากลำบาก หากแต่ทหารกล้าทุกคนก็ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ทุกคนผลัดกันทำหน้าที่แผ้วถางทางเดินหน้าเข้าไปในป่าลึกขึ้นเรื่อยๆ อย่างมีสติ โดยมีภูตสาวตัวน้อยเป็นผู้บอกทาง
“ข้างหน้าจะมีต้นฮุมไบใหญ่อยู่หลายต้น ถ้าต้องการให้เดินทางถึงไวก็ต้องผ่านมันไป แต่ถ้าไม่ต้องการเสี่ยงกับไอพิษก็คงต้องอ้อม”
รีวาร์บอกเช่นนั้น และไรน์ก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจว่า
“เราจะผ่านมันไป ถ้ามีต้นยาที่ใช้ต้านไอพิษได้มากพอสำหรับทุกคน” จากนั้นจึงสั่งให้แพทย์ทหารทั้งสองนายคุมทหารจำนวนหนึ่งไปสำรวจดูว่าบริเวณนี้มีต้นยากลิ่นฉุนสำหรับต้านไอพิษชั่วคราวอยู่มากน้อยเพียงใด ครั้นแพทย์หนุ่มทั้งสองกลับมารายงานว่ามีจำนวนมาก ชายหนุ่มจึงสั่งให้ไปเก็บมาให้ทุกคนขยี้สมุนไพรนั้นให้แหลกแล้วทาบริเวณใต้จมูกให้หนาเพียงพอ
“พวกท่านช่วยตรวจดูทุกคนด้วยว่าทาหนาใช้ได้หรือยัง” ไรน์สำทับสั่งแพทย์ทั้งสองนาย ขณะที่ตัวเขาเองขยี้ใบยาทาใต้จมูกเช่นกัน ภูตสาวมอง ‘หนวด’ สีเขียวคล้ำของคุณชายหนุ่มแล้วก็ยิ้มอย่างรู้สึกขบขัน
“เจ้าเองก็ไม่ต่างจากข้านักหรอก” ไรน์ว่ายิ้มๆ เมื่อเห็น ‘หนวด’ ใต้จมูกขาวผ่อง โด่งเชิดแต่พองามของนาง ขณะที่ฟินเรย์ซึ่งอยู่ข้างๆ กันก็บอกเจ้าชายหนุ่มว่า
“เจ้าต้องระวังตัวมากกว่าคนอื่น ไม่อย่างนั้นอาการจะทรุดลงเร็วกว่าเดิม”
“รู้แล้วน่า...ท่านพ่อ” เจ้าชายหนุ่มรับสั่งยานคางด้วยพระสุรเสียงคล้ายเบื่อ ทว่าพระพักตร์มีรอยแย้มพระสรวล และดวงพระเนตรก็มีแววขอบคุณ
“ทุกคนเอาต้นยาติดตัวไปคนละสองต้นเผื่อระยะทางไกลว่าที่คิดจะได้ไม่เป็นอันตราย” ไรน์สั่งเป็นคำสั่งสุดท้ายก่อนมุ่งหน้าออกเดินทางอีกครั้ง และทุกคนก็ปฏิบัติตาม
ไอพิษจากต้นฮุมไบสูงใหญ่นั้นเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น แต่แผ่ออกมาจากทุกส่วนของต้นและมีรัศมีค่อนข้างกว้าง เมื่อน่าจะเข้าเขตรัศมีของมัน รีวาร์ซึ่งเป็นภูตและสัมผัสถึงไอพิษนั้นได้ดีกว่ามนุษย์ธรรมดาจึงบอกให้ไรน์เตือนทุกคน บางคนต้องใช้ต้นยาที่นำติดตัวมาทาจมูกเพิ่มเติมเมื่อรู้สึกเวียนศีรษะ หากแต่ทุกคนก็พ้นเขตไอพิษมาได้โดยปลอดภัย ไรน์สั่งให้แพทย์ทหารตรวจดูอาการของทุกคนอีกครั้ง ทหารส่วนใหญ่ปลอดภัยดี มีบางคนรู้สึกวิงเวียนผิดปกติ แพทย์หนุ่มก็จะจัดยาสมุนไพรที่นำติดตัวมาด้วยให้กิน
อากาศในป่าดงดิบค่อนข้างหนาวจัด โดยเฉพาะเวลากลางคืน และในป่าก็ไม่ใช่ที่คุ้นเคยของมนุษย์ จึงทำให้มีทหารบางคนป่วยเป็นไข้ป่า หากแต่ยาที่แพทย์ทหารทั้งสองคนนำมาก็เป็นยาที่เยี่ยมที่สุด จึงช่วยรักษาให้หายได้
“โรคภัยในป่ามีอยู่รอบตัว ขอให้ทุกคนป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด สวมเสื้อผ้าหลายๆ ชั้นและทายาที่ท่านหมอให้ติดตัวไว้เสมอ เพราะการป้องกันทำง่ายกว่าการรักษา” ไรน์เตือนนายทหารทุกคนเช่นนี้เป็นประจำ ตัวเขาเองก็ทายาตามแขนขาร่างกายอยู่เสมอเช่นกัน เพื่อป้องกันพืชและสัตว์มีพิษตัวเล็กๆ ที่อาจทำให้คันหรือแพ้ได้
ป่าดงดิบยามกลางคืนยิ่งน่ากลัวกว่ายามกลางวันหลายเท่า แต่เพราะขบวนเดินทางมีกันหลายคนจึงพอจะทำให้รู้สึกอุ่นใจอยู่บ้าง กลางคืนมีการก่อกองไฟใหญ่และจัดเวรยามผลัดเปลี่ยนกันตลอดคืน ไรน์เองก็ร่วมอยู่เวรกับพวกทหารด้วยแม้ว่าเขาจะเป็นหัวหน้า ชายหนุ่มพูดคุยกับทหารทุกคนอย่างสนิทใจและเป็นกันเอง นั่นทำให้ฟินเรย์ซึ่งร่วมอยู่เวรด้วยยิ่งตระหนักว่าสมควรแล้ว ที่ชายหนุ่มจะเป็นที่รักของคนทุกผู้
เจ้าชายออเรียสเองก็จะทรงร่วมผลัดเวรด้วย ทว่าฟินเรย์ห้ามด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ประกอบกับพิษในพระวรกายทำให้ทรงพระอาเจียนจนพระพักตร์ซีดเซียวบ่อยครั้ง พระองค์จึง%B
ความคิดเห็น