ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ลำดับตอนที่ 4
บทที่ 2 พระราชาแห่งอาสลัน-เจ้าหญิงรองแห่งเนลซายด์
พระราชวังหลวงแคว้นเนลซายด์
เขตพระราชฐานฝ่ายใน...พระตำหนักองค์หญิงรอง
มืดค่ำแล้ว และวันนี้ก็มีงานสำคัญ แต่เจ้าหญิงของพระตำหนักเพิ่งเสด็จกลับมาจากข้างนอก นางพระกำนัลกราบทูลว่า ‘เจ้าหญิงเซซีเลีย’ พระขนิษฐาแท้ๆ ของพระองค์เสด็จมารออยู่นานแล้ว
ทันทีที่พระองค์เสด็จเข้าไปในห้องบรรทมชั้นนอก เจ้าหญิงเซซีเลียซึ่งทรงอยู่ในฉลองพระองค์สีฟ้าสดใส ประดับมุกเลื่อมพรายทั้งตัวก็ทรงยืนขึ้น อ้าโอษฐ์จะกราบทูลอะไร หากก็ไม่ทันนางพระกำนัลคนสนิทของพระพี่นางที่กราบทูลขึ้นก่อนว่า
“ทำไมเพิ่งเสด็จกลับมาเพคะ งานใกล้เริ่มแล้ว หม่อมฉันอาจจะแต่งพระองค์ถวายไม่ทันก็ได้”
“ไม่ทันก็ไม่ไป ไม่ยากนี่...ริริส” ผู้เป็นเจ้าหญิงรับสั่งง่ายดาย ขณะทรงถอดพระมาลาเหล็กออกจากพระเศียร พระเกศายาวสีดำสนิทซึ่งถูกรวบไว้สูงตกลงมาและแกว่งไกวน้อยๆ นางพระกำนัลนางหนึ่งรับพระมาลาไปเก็บ
“ข้าอาบน้ำแต่งตัวไม่ช้าหรอก เจ้าก็อย่าขัดถูตัวข้านาน แล้วก็อย่าจับข้าใส่โน่นนี่ให้พะรุงพะรังมากนักก็พอ”
“ไม่สรงนานได้ที่ไหนล่ะเพคะ ทรงงานมาทั้งวัน พระเสโทเต็มพระวรกายออกอย่างนี้”
“ข้าเป็นทหารม้านะริริส ไม่ได้นั่งเย็บปักถักร้อยไปวันๆ” หันไปทอดพระเนตรเห็นพระน้องนางแล้ว องค์หญิงรองแห่งเนลซายด์ก็รับสั่งแก้ “ไม่ได้ว่าเจ้าหรอกนะเซซีเลีย”
“ข้าทราบค่ะ” เจ้าหญิงองค์ที่สามแห่งเนลซายด์ตรัสตอบอ่อนหวาน
“ไม่มีองค์หญิงที่ไหนเป็นทหารม้าอย่างฝ่าบาทหรอกเพคะ”
“เจ้าพูดประโยคนี้มาสักร้อยรอบได้แล้ว ตกลงว่าจะเถียงกับข้าหรือจะช่วยข้าอาบน้ำ หือ...ริริส”
“ช่วยฝ่าบาทสรงสิเพคะ แต่หม่อมฉันก็ไม่ได้บังอาจเถียงเสียหน่อย ยังไม่อยากหัวขาดหรอกเพคะ” นางพระกำนัลวัยต้นยี่สิบยังบ่นอุบอิบ ก่อนเร่งรีบตามเสด็จนายหญิงไปยังห้องสรงที่มีนางพระกำนัลอีกสองนางผสมน้ำที่มีกลิ่นสมุนไพรหอมอ่อนไว้รออยู่ก่อนแล้ว
ฉลองพระองค์ขององค์หญิงรองแห่งเนลซายด์เป็นสีเหลืองนวล ติดกันตลอดเป็นชุดเดียว ไม่มีการประดับตกแต่งอะไรมากนักนอกจากปักเลื่อมเงินเป็นลายเครือเถาตรงชายกระโปรงและบริเวณพระอุระ ช่วงคอปาดกว้างและเปลือยต้นพระพาหาสีน้ำตาลอ่อนสวย ลักษณะชุดคล้ายใช้ผ้าย่นพันทบสลับไปมาอย่างมีศิลปะ สีเหลืองอ่อนช่วยขับพระฉวีให้ดูสว่างลออตาขึ้น และเข้ากับสร้อยบุษราคัมห้อยจี้เพชรรูปหยดน้ำบนพระศอ
“มีเวลาน้อยอย่างนี้หม่อมฉันเลยทำทรงอื่นที่งามกว่านี้ถวายไม่ทัน” ริริสออกตัวกึ่งบ่น ขณะถักพระเกศาเป็นเปียเล็กสองข้าง แล้วรวบรวมกันไว้ด้านหลัง ยึดไว้ด้วยกุหลาบสีอำพันช่องาม พระเกศาสีดำขลับส่วนที่เหลือปล่อยยาวสยายลงถึงกลางพระขนอง
“นี่ก็ ‘งาม’ เกินไปแล้ว เจ้าอยากให้ข้าถูกราชาแก่ๆ เลือกไปเป็นเมียน้อยหรือยังไง”
“เจ้าพี่ฮาลัสยังไม่ทรงแก่เลยนะคะ พระชนม์แค่สามสิบ มองพระพักตร์แล้วข้ายังคิดว่าแค่ยี่สิบต้นๆ ด้วยซ้ำ” ผู้รับสั่งคือเจ้าหญิงเซซีเลียซึ่งประทับอยู่ในห้องแต่งพระองค์ด้วย
“เจ้าเรียกใครว่าเจ้าพี่”
“ก็...องค์ราชาของอาสลันน่ะค่ะ ทรงพระนามว่า ฮาลัส แล้วก็รับสั่งให้ข้าทูลเรียกท่านว่า เจ้าพี่”
“เจ้าอยากถูกเลือกเป็นสนมของเขาหรือ เซซีเลีย” ผู้ทรงเป็นพระภคินีตรัสถามด้วยพระสุรเสียงเรียบอย่างไม่สบพระทัย
“ไม่ใช่นะคะท่านพี่” พระทัยของพระองค์ไม่ว่างแล้ว คงทรงรักใครไม่ได้อีก ทรงรักเพียงคนคนนั้น แม้เขาจะเป็น ‘บุคคลต้องห้าม’ ก็ตาม
“งั้นเจ้าไปเรียกเขาอย่างสนิทสนมทำไม” คราวนี้รับสั่งถามค่อยคลายกระแสตึงเครียดลงบ้าง
“ท่านทรงเป็นแขกเมือง แล้วก็ทรงดีมา ข้าก็ต้องดีตอบเป็นธรรมดา เท่านั้นเองค่ะ”
ผู้ทรงเป็นพระพี่นางทรงผ่อนพระปัสสาสะเบาๆ
“ถ้าแค่นั้นจริงก็ดีแล้ว พี่ไม่อยากให้เจ้าไม่มีความสุขเพราะต้องไปกินน้ำใต้ศอกใคร อยู่ตัวคนเดียว ต่างบ้านต่างเมือง เจ้าไม่มีวันมีความสุขเหมือนอยู่ที่นี่หรอก ถ้าวันไหนราชาเฒ่านั่น” ยังทรงเรียกเช่นนั้นแม้ทรงทราบแล้วว่าอีกฝ่ายทรงมีพระชนม์แค่สามสิบพรรษา “มีราชินีหรือมีสนมอื่นแล้วเจ้าถูกพวกนางรังแก คนสู้ใครไม่เป็นอย่างเจ้าจะต้องทุกข์ไปตลอดชีวิต แต่ถึงเจ้าไม่ได้ชอบเขา เขาอาจเลือกเจ้าก็ได้”
เจ้าหญิงเซซีเลียทรงมีพระสิริโฉมงดงามที่สุดในบรรดาพี่น้อง ทั้งพระจริยวัตรยังงดงามเป็นที่สุด
“บางทีอาจจะทรงเลือกพี่หญิงใหญ่ หรือน้องเล็กก็ได้นะคะ พี่หญิงใหญ่เสด็จไปหาเจ้าพี่ฮาลัสแทบทุกวัน แล้วยังให้คนครัวทำเครื่องว่างไปถวายที่ตำหนักรับรองบ่อยๆ ด้วย ส่วนน้องเล็กก็น่ารักสดใสแบบเด็กๆ”
“ถ้าเลือกซินเธียก็คงน่าเกลียดเกินไปหน่อยล่ะ อายุสามสิบกับอายุสิบห้า ห่างกันตั้งครึ่ง”
“ข้าก็อายุแค่สิบหก” เจ้าหญิงเซซีเลียทรงแย้งในความหมายว่า ราชาอาสลันอาจไม่ทรงเลือกพระองค์เช่นกัน
“ยังไงก็มากกว่าซินเธีย แล้วเจ้าก็สวยกว่านาง”
พระราชาแห่งเนลซายด์ทรงมีราชินีฝ่ายซ้ายและฝ่ายขวา พระสนมเอก และพระสนมอื่นอีกหลายพระองค์ แต่บรรดาสนมอื่นไม่มีสิทธิ์มีลูก องค์ราชาจึงทรงมีพระราชธิดาเพียงสี่พระองค์ คือ
องค์หญิงใหญ่ไดแอนน์(องค์หญิงรัชทายาท)ซึ่งประสูติจากราชินีฝ่ายขวา
องค์หญิงรองอารีเซียและองค์หญิงสามเซซีเลีย ซึ่งประสูติจากราชินีฝ่ายซ้าย
และองค์หญิงห้าซินเธีย ซึ่งประสูติจากพระสนมเอก
“แต่ถ้าเขาเลือกไดแอนน์ก็สันนิษฐานไว้ได้เลยว่า เรื่องการเมือง”
องค์หญิงรองแห่งเนลซายด์รับสั่งเรียบๆ ถ้าราชาอาสลันทรงเลือกองค์หญิงใหญ่จริง พระองค์คงต้องทูลขอให้พระราชบิดาทรงถอดถอนตำแหน่งเจ้าหญิงรัชทายาทของไดแอนน์ออกเสียก่อน ขืนมีตำแหน่งเจ้าหญิงรัชทายาทติดไปด้วย ภายภาคหน้าเนลซายด์คงถูกเขมือบ ถึงแม้อาสลันจะเป็นเพียงแคว้นเล็กๆ ก็เถอะ
แคว้นเล็กๆ ที่ไม่เจียมตัว
ขอเจ้าหญิงแคว้นใหญ่ไปเป็นผู้หญิงของตัว ซ้ำยังขอไปเป็นแค่พระสนม
หยามศักดิ์ศรีกันชัดๆ! ไม่รู้ท่านพ่อทรงยอมได้ยังไง
เรื่องคราวนี้ยังมีปัญหาอีก
ถ้าไดแอนน์ถูกเลือก นางคงไม่ยอมให้ถอดตำแหน่งเจ้าหญิงรัชทายาทของนางง่ายๆ แน่
แต่ถึงแม้คนที่ถูกเลือกจะเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่ไดแอนน์ อย่างไรเสีย เนลซายด์ก็ถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ที่เริ่มร้าวฉานระหว่างอาสลันกับเซนทาเนียอยู่ดี
อาสลันต้องการเนลซายด์เป็นพวก เป็นเกราะกำบัง จึงตัดสินใจเชื่อมความสัมพันธ์กับเนลซายด์
แต่ที่ให้เพียงตำแหน่งพระสนม ก็เพื่อยืดเวลาแตกหักกับเซนทาเนียออกไป
อย่านึก...ว่าใครอื่นเขาจะไม่รู้เท่า เพียงแต่ ‘ราชาแห่งเนลซายด์’ ทรงตระบัดสัตย์ไม่ได้เท่านั้นเอง
อยากเห็นหน้านัก...พระราชาที่เห็นแก่ตัวและเอาแต่ได้พระองค์นี้
“ทำไมไม่ทรงคิดว่าองค์ราชาจะทรงเลือกฝ่าบาทบ้างล่ะเพคะ”
ริริสที่กำลังตรวจความเรียบร้อยของฉลองพระองค์เป็นครั้งสุดท้ายทูลถามบ้าง
“ไม่เห็นน่าถาม ก็เพราะข้าขี้เหร่ที่สุดในบรรดาพี่น้องน่ะสิ” รับสั่งตอบไม่มีกระแสความน้อยพระทัยหรือประชดประชัน ออกจะขำขันเสียด้วยซ้ำ “เขาเลือกสนมนะ ไม่ใช่ทหารม้า อีกอย่าง ถ้าเขาเห็นหน้าข้าครั้งแรกก็เลือกข้าเลย เขาก็คงบ้าไปแล้ว”
องค์หญิงรองทรงเป็นเจ้าหญิงพระองค์เดียวที่กษัตริย์หนุ่มต่างแคว้นยังไม่ทรงเห็นพระพักตร์ เพราะวันแรกที่พระองค์เสด็จมาถึง เจ้าหญิงทรงยุ่งอยู่กับเรื่องวุ่นวายเล็กน้อยในกรม ส่วนวันต่อๆ มาก็ทรงหาทางเลี่ยง ไม่ทรงยอมพบ เพราะไม่พอพระทัยจุดประสงค์ที่พระราชาหนุ่มเสด็จมาเยือน
แต่วันนี้ทรงเลี่ยงไม่ได้แล้ว เพราะเป็นวันสุดท้ายที่กษัตริย์หนุ่มจะประทับอยู่ที่นี่ พระองค์จะทรงเลือกเจ้าหญิงเนลซายด์พระองค์ใดพระองค์หนึ่งเป็นพระสนมในงานพระราชทานเลี้ยงส่ง และจะเสด็จกลับแคว้นพร้อม ‘พระสนม’ ที่ทรงเลือกแล้วพรุ่งนี้เช้า
องค์หญิงรองทรงประณามการกระทำนี้อีกเช่นเคย ว่าช่างพระทัยร้ายนัก เลือก...แล้วก็จะทรงทำให้เขาพลัดพรากจากบ้านเมืองและครอบครัวโดยให้เวลาล่ำลาอาลัยเพียงแค่คืนเดียว
“ความสวยเป็นภัย ข้าว่าเจ้ามีสิทธิ์ถูกเลือกมากที่สุด” เจ้าหญิงทหารรับสั่งกับพระน้องนางขณะเสด็จออกมาจากห้องแต่งพระองค์พร้อมกัน “ไปเปลี่ยนชุดแล้วแต่งหน้าให้ดูแย่กว่านี้หน่อยดีไหม หรือไม่ก็ไม่ต้องไป ข้าจะบอกท่านพ่อให้ว่าเจ้าไม่สบาย”
คนถามรับสั่งจริงจัง ทว่าคนถูกถามกลับยิ้มอ่อนๆ อุทานว่า
“โธ่ ท่านพี่ พูดเป็นเล่นไปได้”
“ถ้าถูกเลือก เจ้าจะไปอยู่ต่างถิ่นกับคนแปลกหน้าจนตลอดชีวิตได้หรือ”
เจ้าหญิงเซซีเลียทรงใคร่ครวญครู่เดียว ก่อนตรัสตอบเนิบช้า
“เรื่องนี้ข้าเคยคิดแล้ว คิดว่าคงอยู่กับเจ้าพี่ฮาลัสได้ค่ะ ถึงพระองค์จะทรงมีใครอื่นอีก ข้าก็คิดว่าคงไม่ทรงปล่อยให้ข้าถูกรังแก ถ้าช่วยให้เจ้าพ่อทรงรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเจ้าพี่ฮาลัสได้ ถึงต้องทนทุกข์ข้าก็ยินดี”
แม้จะไม่ได้เห็นหน้าคนที่รักอีกก็ไม่เป็นไร เพราะตอนนี้ก็ทรงทุกข์ที่เขาไม่ได้รัก และคงไม่มีวันรักตอบมากพออยู่แล้ว
“ถ้าเจ้าคิดดีแล้วก็ตามใจ แต่ถ้าถูกเลือกและถูกรังแกจริงก็ใช้ให้คนมาบอกพี่ พี่จะไปพาเจ้ากลับมา น้องของพี่ เจ้าหญิงเนลซายด์ต้องอยู่อย่างมีเกียรติใครจะมาหยามศักดิ์ศรีไม่ได้ เป็นแค่พระราชาแคว้นเล็กนิดเดียว ได้เจ้าไปเป็นคู่ชีวิต ถ้าไม่รู้จักถนอมน้ำใจก็สมควรตาย”
เจ้าหญิงรองแห่งเนลซายด์รับสั่งพระสุรเสียงเรียบ ติดจะเหี้ยมเกรียมเฉียบขาด ขัดกับความงดงามอ่อนหวานของฉลองพระองค์อย่างสิ้นเชิง เจ้าหญิงเซซีเลียทรงแย้มพระโอษฐ์กว้าง รับสั่งว่า
“ขอบคุณค่ะ แต่เรากำลังจะไปงานเลี้ยงนะคะ ไม่ใช่กลับจากงานเลี้ยง ข้ายังไม่ถูกเลือกเสียหน่อย มีลางสังหรณ์ว่าเจ้าพี่ฮาลัสคงไม่ทรงเลือกข้าด้วย แว่วๆ ข่าวลือว่าอาจจะไม่ทรงเลือกใครในพวกเราเลย เพราะถูกพระทัยหญิงชาวบ้านที่ทรงพบข้างนอก”
“ข่าวลือของฝ่ายในคงเชื่อได้หรอก” รับสั่งประชดแล้วก็ทรงต่อ “แต่ถ้าจริงก็คงดี”
*********************
งานพระราชทานเลี้ยงส่งคืนนี้จัดขึ้นที่พระตำหนักใหญ่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก นอกจากพระราชวงศ์แล้ว บุตรชายและบุตรีของข้าราชบริพารระดับต่างๆ ก็มีสิทธิมาร่วมงานได้
เมื่อองค์หญิงรองและองค์หญิงสามเสด็จถึงงานเลี้ยง ก็ทรงพบว่าภายในพระตำหนักคลาคล่ำไปด้วยผู้คนจำนวนมากพอสมควรแล้ว เจ้าหญิงทุกพระองค์เสด็จมาครบ สตรีทุกนางแต่งกายด้วยพัสตราภรณ์อันงามวิจิตร
“มีคนอยากเป็นสนมของราชาแก่ๆ แคว้นเล็กๆ มากขนาดนี้เลยหรือ”
เป็นรับสั่งเปรยๆ ขององค์หญิงรองที่ทำให้พระน้องนางถวายค้อนให้นิดๆ พองามและทูลแย้ง
“เจ้าพี่ฮาลัสทรงดูหนุ่มมากนะคะ ยังไม่แก่สักนิด”
“ถ้าเทียบกับผู้หญิงอายุสิบห้าหลายคนในนี้ก็แก่นั่นแหละน่า” อีกฝ่ายทรงแย้งกลับ แล้วก็ทรงบ่นอย่างขัดพระทัยต่อว่า
“ผู้หญิงแคว้นเรานี่ก็แปลก เสนอตัวมาให้เขาเลือกทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้าตาสักหน่อย ราชาอาสลันอาจเป็นผู้ชายหน้าตาอัปลักษณ์ก็ได้”
“เจ้าพี่ฮาลัสทรงงามมากค่ะ” ผู้ทรงเคยทอดพระเนตรเห็นพระพักตร์ ‘ราชาอาสลัน’ มาหลายคราทรงแย้งได้ทันที “พระพักตร์งาม พระอุปนิสัยก็งาม พระเนตรเป็นสีเขียว อืม...ข้าคิดว่าอย่างนั้นนะคะ สวยเหมือนกัน บางทีก็ดูอ่อนโยน แต่บางทีก็ดูไม่ค่อยออกว่าทรงรู้สึกอย่างไรอยู่”
ไม่มีรับสั่งใดจากองค์หญิงรองอีก เนื่องเพราะกำลังทรงครุ่นคิด ตาสีเขียวงั้นหรือ ฟังจากคำบรรยาย คล้ายว่าอาจเหมือนใครสักคนที่พระองค์ทรงรู้จัก ใครคนนั้น...ใครกันนะ
ไม่นานนัก เพลงสรรเสริญพระบารมีก็ดังขึ้น องค์พระประมุขแห่งเนลซายด์เสด็จมาถึงพร้อมพระราชอาคันตุกะ สองพระองค์เสด็จพระราชดำเนินเคียงกันบนลาดพระบาท ทุกคนในงานยอบกายและค้อมตัวถวายความเคารพแด่กษัตริย์ทั้งสองอย่างพร้อมเพรียง ยกเว้น...
องค์หญิงรอง
ที่นอกจากจะทรงยืนวรองค์ตรงอย่างสง่าแล้ว พระพักตร์ยังบ่งบอกความอึ้งตะลึงงัน ดวงพระเนตรปรากฏแววงุนงง ก่อนจะค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาแข็งกระด้างทั้งพระเนตรและพระพักตร์ ผิดกับผู้ถูกมองอย่างสิ้นเชิง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น