ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 : เด็กหนุ่มผู้ไร้ซึ่งความทรงจำ
. . . . .
. . .
  เสียงนกร้องดังขึ้นอย่างนุ่มนวล แสงแดดยามเช้าที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่างปลุกให้เด็กหนุ่มผมยาวสีน้ำตาลทองตื่นขึ้นมา ดวงตาสีครามดูสดใส เย็นชา และเศร้าสร้อยไปด้วยกัน เด็กหนุ่มกุมศีรษะเพราะความรู้สึกปวดแปลบที่ศีรษะราวกับสมองจะระเบิด เขาสังเกตว่ามีผ้าพันแผลอยู่บนศีรษะ ทว่าตอนนี้ คำถามแรกของเขาคือ..
‘ที่นี่.. ที่ไหนกันน่ะ..’ เด็กหนุ่มมองไปรอบๆห้องด้วยดวงตาที่เหมือนเหม่อลอย ห้องนี้มีสีขาว.. มีเตียงอยู่หลายเตียง.. มีผ้าม่านกั้นแต่ละเตียงด้วย..
“ไง ฟื้นแล้วเหรอ?” เสียงที่ฟังดูสดใสดังขึ้นจากด้านหลังเด็กหนุ่ม เขาหันไปมองเด็กสาวผมยาวสีน้ำตาลแดงที่ดูอายุมากกว่าเขานิดหน่อยซึ่งกำลังจ้องมองเขาตอบเช่นกันด้วยดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่ดูอบอุ่นและเป็นมิตร
“..ใคร?..” เด็กหนุ่มถามทั้งๆที่ยังคงมึนงงอยู่ เขายังคงลุกไม่ขึ้น
“นาย ไม่ รู้ จัก หรอก” เด็กสาวตอบหน้าตายก่อนจะกลับไปง่วนกับการปอกเปลือกแอปเปิ้ลต่อ ทำเอาเด็กหนุ่มได้แต่งง “ที่นี่คือห้องพยาบาลของสถาบันเวทมนต์ขาวไลท์ครอสน่ะ” เด็กสาวชิงตอบก่อนที่เด็กหนุ่มผมยาวจะทันได้อ้าปากถามราวกับล่วงรู้ความคิดของเขาพร้อมกับยื่นจานที่เต็มไปด้วยแอปเปิ้ลให้ “เอ้า ทานซะนะ”
“ฮื่อ..อ..” เด็กหนุ่มทำเสียงคำรามเบาๆในลำคอ เขาจ้องแอปเปิ้ลในมือเด็กสาวเขม็งพร้อมกับพยุงตัวลุกขึ้นมานั่งอย่างลำบากแล้วเขยิบหนีเธออย่างไม่ไว้ใจราวกับมียาพิษอยู่ในแอปเปิ้ล
“อ๋า อย่าเพิ่งลุกเซ่” เด็กสาวเอ็ดพร้อมกับยื่นมือออกไปจะคว้าตัวเด็กหนุ่มไว้
“ฮึ่ย..” เด็กหนุ่มปัดมือเด็กสาวออกไปก่อนจะตั้งท่าเตรียมวิ่งออกไปนอกห้อง
“หนอยย.. เจ้าเด็กบ้านี่ จะนอนดีๆหรือจะนอนทั้งน้ำตาหา---!!?” เด็กสาวโกรธจัด เธอล็อกคอเด็กหนุ่มผมยาวไว้ก่อนจะลากเขากลับไปนอนพักที่เตียง
“อูย..” เด็กหนุ่มร้องเบาๆพร้อมกับเอามือลูบคอตัวเองด้วยความเจ็บ
“ (>,<) สมน้ำหน้า “ เด็กสาวแลบลิ้นใส่ เด็กหนุ่มถอนหายใจแรงๆอย่างหงุดหงิดก่อนจะยอมนอนพักแต่โดยดีก่อนจะโดนสาว(เหลือ)น้อยคนนี้บีบคอตายก่อนวัยอันควร เขาทำหน้าเบ้น้อยๆ
. . .
  เงียบไปพักหนึ่ง เด็กหนุ่มยังคงนอนหันหน้าไปทางตรงข้ามกับเด็กสาวผมสีน้ำตาลแดงที่มองเขาด้วยดวงตาสีน้ำตาลอ่อนอย่างห่วงใยทั้งๆที่ยังไม่รู้จักกัน ‘พิลึกคน..’ เด็กหนุ่มคิด
“..ผมมาอยู่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่? ..” เด็กหนุ่มผมยาวเอ่ยปากถามในที่สุด เด็กสาวขมวดคิ้วน้อยๆ
“นี่นายจำไม่ได้จริงๆเหรอว่าเกิดไรขึ้น?” เธอเลิกคิ้วขึ้น
“. . .” เด็กหนุ่มส่ายหน้าช้าๆ เขายังคงหันหน้าไปทางอื่น
“อืม~.. จะว่าไงดีล่ะ” เด็กสาวทำท่าเหมือนกับเรียบเรียงคำพูดมาอธิบายให้เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลทองฟัง เธอเอานิ้วชี้ทั้งสองมาประกบกันที่ดั้งจมูก “อาวล่ะ~ นึกออกแล้น คือยั่งงี้นะ ที่นี่คือสถาบันเวทมนต์ขาวไลท์ครอส ตั้งอยู่ที่ทวีปฮิลส์ ขณะที่พวกเรานักเรียนของที่นี่ไปหาสมุนไพรแถวๆช่องเขา ชั้นก็เผอิ๊ญเผอิญไปเห็นซาก..เอ๊ย เห็นคนนอนสลบอยู่ก้อเลยลากบรรดาลูกสมุนของชั้นไปดูซาก.. อ่า ไปดูว่าใครสลบอยู่ ซึ่งคนที่นอนสลบอยู่คนนั้นก้อคือนาย” เธอชี้นิ้วมาที่เด็กหนุ่มผมยาวก่อนจะแอบจิ๊กเอาแอปเปิ้ลไปกินซะชิ้นนึง
“แล้วทำไมผมถึงไปอยู่ที่นั่น..?”
“บอกตรงๆเลยนะ” เด็กสาวเอ่ยก่อนจะพูดชัดถ้อยชัดคำ “ชั้น ไม่ รู้”
“. . .” เด็กหนุ่มนิ่งเงียบ
“เอาน่าๆ! เรื่องนั้นไว้คิดทีหลังก้อยังได้นะน้องชาย รอดตายมาได้ก้อพอละนี่นา เนอะ” เด็กสาวกล่าวก่อนจะยิ้มกว้างราวกับคนที่ไม่เคยมีเรื่องทุกข์ร้อน “ว่าแต่ นายชื่ออะไรอ่ะ?”
“. . .” เด็กหนุ่มที่ทำท่าจะเริ่มยิ้มออกก็ได้ฤกษ์นั่งนิ่งอีกครั้ง เขาส่ายหน้า
“ไม่รู้เหรอ!?..” เสียงของเด็กสาวดูประหลาดใจ ซึ่งหากฟังดีๆจะรับรู้ถึงความสงสารที่ปนอยู่ในน้ำเสียงของเธอด้วย ‘พิลึกอีกแล้ว’ เด็กหนุ่มนึกในใจ
“..จำไม่ได้..” เด็กหนุ่มกุมศีรษะ เขาไม่มีความรู้สึกที่เรียกว่าความหวังเลยแม้แต่น้อย เขาชื่ออะไร?.. เขาเป็นใคร?.. เขาเกี่ยวข้องอะไรกับใคร?.. เกิดอะไรขึ้นกับเขา?.. ใครคือครอบครัวและเพื่อนของเขา?... เขา.. ไม่รู้..อะไรเลย..
  มันเป็นความรู้สึกที่แย่มากเลย ถ้าคุณเกิดจำอะไรไม่ได้ซักอย่างแถมยังต้องมาอยู่ในที่แปลกๆที่ไม่รู้จักกับคนแปลกหน้าที่ไม่คุ้นเคย ถึงเขาจะท่าทางเป็นมิตรก็เถอะ
  มันเหมือนกับว่า.. อยู่กลางห้วงอวกาศที่มืดมิดไร้แสงดาว.. เคล้งคว้างไปอย่างไร้จุดหมาย เหงาและหนาวเหน็บ.. เด็กหนุ่มเผลอกอดอกโดยไม่รู้ตัว
“อืม~..” เด็กสาวก็ดูหนักใจไม่ใช่น้อย แต่ในที่สุดเธอก็ยิ้มก่อนจะยื่นมือให้เด็กหนุ่ม “เถอะ แนะนำตัวก่อนนะ ชั้นชื่อวิเวียนเป็นนักเรียนดีเด่น(มั้ง)ของที่นี่ มีอะไรปรึกษาชั้นได้นะจ้ะ”
“. . .?!” เด็กหนุ่มหันกลับมามองเธอด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“น่า อย่ามัวแต่ซึม+นั่งเอ๋อซี่” เด็กสาวว่า
“อ่ะ..” เด็กหนุ่มดูเหมือนจะประหลาดใจและยังมึนงงอยู่เล็กน้อยกับเด็กสาวแปลกหน้าคนนี้
“เอ้า เอามือมาจิ” วิเวียนเอ่ยพร้อมส่งยิ้มที่ดูสดใสให้ก่อนจะดึงมือเด็กหนุ่มมาจับกับมือเธอพร้อมบีบมือเขาอย่างหนักแน่นราวกับจะให้ความอบอุ่นและกำลังใจแก่เขา
“. . .” เด็กหนุ่มมองมือของเขาและเด็กสาวที่จับมือกันอยู่อย่างเงียบๆ
“จากนี้ก้อฝากเนื้อฝากตัวไว้ด้วยนะจ๊ะ (^^) “
“..ขอบคุณ..ครับ..” ดวงตาสีครามดูอ่อนโยนขึ้น เด็กหนุ่มค่อยๆยิ้มน้อยๆ ถึงเขาจะยังจำอะไรไม่ได้และยังไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกะสถาบันเวทมนต์ขาวนี่ แต่อย่างน้อยๆ เขาก็ได้เพื่อนมาคนนึงล่ะนะ.. ตอนนี้.. เขาอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก.. บอกไม่ถูกเลยจริงๆ...
. . .
“หืม~ นายน่ะเหรอนักเรียนใหม่?” เด็กหนุ่มผมยาวระต้นคอสีน้ำเงินเข้มคนหนึ่งเอ่ยทักขณะที่เขาเปิดประตูเดินก้าวเข้ามาในห้องพยาบาล ดวงตาสีฟ้าใสมองเด็กหนุ่มผมยาวสีน้ำตาลทองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“. . .” เด็กหนุ่มผมยาวพยักหน้าน้อยๆ
“อ้าวไงอาโนลด์” ฟอลล์หันกลับไปทักทายเพื่อนอย่างเป็นกันเอง
“หวัดดีวีวี่” อาโนลด์ยิ้มยิงฟันก่อนจะโดนวิเวียนขว้างหมอนใส่เต็มๆหน้า
“บอกว่าวิเวียนเฉยๆไม่ต้องมาวีวี่ไง”
“คร้าบๆ” อาโนลด์อุดหู ก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้างๆเด็กหนุ่มผมยาว “นายชื่อไรน่ะ?”
“ไม่รู้..” เด็กหนุ่มส่ายหน้า
“ซะงั้นอ่ะ” อาโนลด์ยักไหล่ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงข้างๆ
“อาโนลด์!” วิเวียนเอ็ด
“อะไร?”
“นายนี่มัน..ตัวไร้สมองและความรู้สึก&สามัญสำนึก..” วิเวียนบ่นพึมพำเป็นชุดเมื่อเห็นเด็กหนุ่มผมยาวดูซึมๆหนักเข้าไปอีก
“อืม~ เดาเอานะ นายคงเป็นคนตระกูลเลโอฮาร์ทละมั้ง ชื่อแปลกดีนะ ไม่ยักกะเคยได้ยิน” อาโนลด์เอ่ยขึ้น เด็กหนุ่มผมยาวเงยหน้าขึ้นมาฟังทันทีด้วยความสนใจ
“..ทำไม?” เด็กหนุ่มถาม
“ดาบที่เราเจอข้างๆตัวนายน่ะสิ” อาโนลด์ตอบพร้อมกับชี้ไปที่ดาบสองคมเล่มใหญ่สีเงินวาววับซึ่งได้สลักลวดลายไว้อย่างสวยงาม มันถูกวางพิงกับพนังห้องข้างๆโต๊ะอาจารย์ประจำห้องพยาบาลซึ่งตอนนี้ไม่อยู่ “ที่ตัวดาบมีการสลักชื่อเป็นชื่อใครซักคน มันเลือนไปน่ะ แต่อย่างน้อยๆก็ยังพอเห็นนามสกุลที่เขียนว่าเลโอฮาร์ท ..ถ้าอ่านไม่ผิดอ่ะนะ” อาโนลด์รีบเสริม
“ไหงนายไม่บอกชั้นก่อนอ่ะ?!” วิเวียนดูเหมือนจะเพิ่งรู้เรื่องชื่อที่สลักบนดาบ
“ก้อไม่เห็นต้องบอกเธอทุกเรื่องในโลกนี่วีวี่” อาโนลด์แลบลิ้นใส่วิเวียนก่อนเด็กสาวจะปาหมอนใส่เขาอีกสองใบซ้อน ทำเอาหนุ่มผมสีน้ำเงินหน้าหงาย
“..เลโอฮาร์ท..” เด็กหนุ่มผมยาวพึมพำก่อนจะรู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าแล่นเข้าสู่สมอง “อุ๊บ..!”
“เฮ้!” อาโนลด์รีบลุกจากเตียงไปดูอาการเด็กหนุ่มผมยาวทันที
“เป็นอะไรไปน่ะ!?” วิเวียนปราดเข้าไปนั่งข้างๆเด็กหนุ่ม
“เหมือนจะ..มีอะไรซักอย่างเกี่ยวกับ..คำสาป..”
“คำสาป?” วิเวียนและอาโนลด์เอ่ยทวนอย่างงงๆ
“. . .” เด็กหนุ่มสกุลเลโอฮาร์ทพยักหน้าเบาๆ
“เถอะ ปัญหาตอนนี้คือ จะเรียกนายว่าไรดีล่ะ?” อาโนลด์เอ่ยขัดก่อนจะจ้องหน้าเด็กหนุ่มผมยาว
“ก็จริงอ่ะนะ จะให้เรียกว่า ‘นาย’ ไปตลอดก้อเป็นไปไม่ได้หรอก” วิเวียนนั่งคิดชื่อให้เด็กหนุ่มผมยาว
“เอาที่ความหมายดูเป็นผู้เป็นคนหน่อยนะเจ๊” อาโนลด์ว่า
“อะไรยะ จะหาเรื่องกันรึไงตาบ้า” วิเวียนหันขวับ
“อ้าว ก้อคราวก่อนใครล่ะที่ไปตั้งชื่อกระต่ายป่าว่ามัด(mud = โคลน)ละฮะ!?”
“อ่ะ..นั่นมาน..” วิเวียนเถียงไม่ออก ขณะที่อาโนลด์ยิ้มอย่างผู้มีชัย “ก้อยังดีกว่าคนที่ตั้งชื่อเวทใหม่ละกันน่ะ จากอีลีเมนทัลฮีลดันไปเรียกเป็นอีหลีเมนทอสเฉยเลยจนโดนอาจารย์เฉ่งอ่ะ คนไหนน่ะๆ”
“ง่ะ.. #!@^$#&” อาโนลด์เถียงไม่ขึ้นได้แต่ไปหลบมุมนั่งพึมพำอยู่คนเดียว
“. . .” เด็กหนุ่มผมยาวเหงื่อตก
“เอาชื่อไรดีน้า~” วิเวียนทำท่าคิดหนัก “อ๊ะ รู้แย้ว”
“ชื่ออะไรเหรอ..?” เด็กหนุ่มถาม
“เรย์มอนด์” วิเวียนเอ่ยยิ้มๆ “แปลว่าการปกป้องด้วยความชาญฉลาด เป็นไงเจ๋งป่าวๆ จะเรียกกันย่อๆก้อได้ว่าเรย์ แปลว่าแสงสว่างจากดวงตะวัน”
“ผมว่าผมชอบ เรย์ เฉยๆมากกว่า” เด็กหนุ่มยิ้มที่มุมปากนิดๆ “แต่เรย์มอนด์ก็โอเค”
“ช่ายแล้น” วิเวียนยิ้มแป้น
“เรย์มอนด์ เลโอฮาร์ท” อาโนลด์ยิ้ม “ตั้งชื่อคนดีๆก็เป็นนี่นาวีวี่”
“วิเวียนตังหากละยะ” วิเวียนว่าก่อนจะทำท่าว่าจะเขวี้ยงหมอนใส่อาโนลด์อีก
“คุณวิเวียน” เด็กหนุ่มผมยาว หรือที่จะรู้จักกันในชื่อเรย์มอนด์เอ่ยขึ้น
“จ๋า? เรียกพี่วิเวียนเฉยๆก้อได้นะ”
“เรียกป้าวีวี่สิ.. แอ๊ก!” อาโนลด์กระซิบกับเรย์แต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นหูนรกของวิเวียนไปได้ โดนลูกถีบสั่งตายสะท้านแผ่นดินของคุณเธอเข้าให้ถึงกับลงไปนอนกองกับพื้นแน่นิ่งลมหายใจรวยริน..
“คือ..” เรย์เกาแก้มนิดๆ “ขอบคุณ.. สำหรับชื่อใหม่..นะ”
“ม.ม.ป.ห.จ้า” วิเวียนยิ้มกว้าง
“ม.ม.ป.ห.?” เรย์เลิกคิ้ว
“ไม่มีปัญหาไง ศัพท์วัยรุ่น(แง้มฝาโลง)น่ะนะ โฮะๆๆ” วิเวียนเฉลยก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินข้ามซากอาโนลด์ไป “งั้น พี่ไปก่อนนะ เดี๋ยวให้อีตานี่อธิบายกฎระเบียบของที่นี่ให้ละกันจ้ะ ไปนะจ๊ะเรย์” เด็กสาวกล่าวลาก่อนจะโบกมืออย่างร่าเริงแล้วเดินหายไป
“อ่ะ..ครับ” เรย์พยักหน้า ก่อนจะมองซากของอาโนลด์ที่เริ่มจะขึ้นอืดนิดๆ(!?)อย่างสงสัย ‘ยั่งงี้ยังจะรอดด้วยเหรอ?’
. . .
“เข้าใจนะ? ต่อไปนี้นายต้องนอนที่หอพักชาย ห้ามไปเดินโต๋เต๋ที่หอพักหญิงด้วย เออแล้วก้อ.. เอ้า เอานี่ไป” เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินเข้มสาธยายเสียยืดยาวขณะเดินไปยังหอพักชาย ก่อนจะยื่นคีย์การ์ดให้ใบนึง เด็กหนุ่มผมยาวมองมันอย่างงงๆ
“นี่คือ..?”
“กุญแจห้องพักของนายนับแต่นี้ต่อไป” อาโนลด์ตอบก่อนจะเดินนำเรย์ไปยังหอพักสีขาวสูงหลายร้อยชั้นของสถาบันมนต์ขาวไลท์ครอส เรย์มั่นใจว่านักเรียนของที่นี่ต้องเยอะ’มากๆ’ แน่นอน “ห้องพักส่วนตัวของนายคือห้องหมายเลข 830 นะ”
“มีถึง 830 เลยเหรอ?” เรย์ดูประหลาดใจนิดๆ
“แน่น๊อน” อาโนลด์เอ่ยก่อนจะหยุดที่หน้าห้องๆหนึ่งซึ่งอยู่ในสุดของชั้นที่ 83 หลังพวกเขาใช้ลิฟต์แก้วขึ้นมาถึงชั้นบนนี้ “มีเป็นพันห้องเลยมั้งน่ะที่จริง”
“. . .” เรย์ดูเหนื่อยใจนิดๆ
“เป็นไรไปไอ้น้อง ไม่ชอบอยู่กับคนเยอะๆงั้นสิ?”
“. . .” เรย์พยักหน้านิดๆ
“ฮ่าๆๆ งั้นต้องทำใจแล้วล่ะ เถอะ เอ้า ลองเข้าไปดูห้องใหม่ของนายสิ” อาโนลด์ชวน เรย์เดินเข้าไปรูดการ์ดที่ผนังข้างๆประตู พริบตานั้นเอง ประตูห้องที่เป็นกระจกแบบที่มองไม่เห็นข้างในก็เริ่มมีรอยแยกตรงกลางก่อนจะค่อยๆแยกออกไปเป็นส่วนๆ เผยให้เห็นภายในห้องที่ดูหรูหราไร้ที่ติ เรย์แทบจะอ้าปากค้างให้ได้ ขณะที่อาโนลด์ยืนอมยิ้มก่อนจะคะยั้นคะยอให้เรย์เข้าไปดูข้างใน
“คิดซะว่าเป็นบ้านตัวเองละกันนะไอ้น้อง ฮ่าๆๆ”
“บ้าน..ของชั้นเหรอ?..” เรย์พึมพำขณะกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง
  ห้องสีขาวอมฟ้าอ่อนๆดูกว้างใหญ่ ข้างในมีโทรทัศน์เครื่องใหญ่ แบบว่าเรียกกันง่ายๆว่าทีวีสีจอแบนไซส์ยักษ์ว่างั้น คอมพิวเตอร์จอแบนสีขาวที่มุมตกแต่งด้วยพลาสติกใสสีฟ้า อ่างน้ำวนขนาดใหญ่ที่ลงไปแช่เล่นกันได้หลายคน เตียงนุ่มๆผ้าห่มอุ่นๆหมอนหอมๆ น่านอนมากอยากบอก
“สุดยอด” เรย์ยิ้มกว้างก่อนจะเดินไปที่หน้าต่าง จากชั้นนี้เห็นเมฆได้ชัดเจนราวกับจะคว้ามาอยู่ในมือได้ แสงอาทิตย์ทอแสงสวยงาม ทำเอาเรย์ยืนเหม่อมองดูภาพตรงหน้านานมากจนไม่ทันสังเกตว่ามีคนมายืนข้างหลัง
“ไงจ๊า? ชอบห้องใหม่มั้ยเรย์?” เด็กสาวผมยาวสีน้ำตาลแดงเอ่ยทัก ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนดูสดใสไม่ต่างไปจากตอนที่เรย์ได้เห็นตาคู่นี้เป็นครั้งแรกที่ห้องพยาบาล
“พี่วิเวียน?!” เรย์ดูประหลาดใจ
“จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไปๆ ถึงจะเป็นสารวัตรนักเรียนที่เข้าไปได้ทั้งหอพักชายหญิงแต่ก้อไม่ได้แปลว่าพี่จะเข้ามาในห้องของนักเรียนชายได้หรอกนะ~” วิเวียนเอานิ้วชี้แตะปากเป็นสัญญาณให้เบาเสียงลง
“. . .” เรย์เหงื่อตกอีกครั้ง ในใจได้แต่นึกว่า ‘คนๆนี้แปลกจริงๆ’
“ไหนดูซิ อยู่ไหนน้า..” วิเวียนพึมพำก่อนจะค้นหาอะไรซักอย่างในกระเป๋าเป้ที่เธอเอามาด้วย
“แล้ว รุ่นพี่อาโนลด์ละครับ?”
“ช่างheadตานั่นเหอะ” วิเวียนโบกมือก่อนจะก้มหน้าก้มตาหาของต่อจนศีรษะจะไปอยู่ข้างในกระเป๋าแล้ว “อ้า.. เจอซักที ฟู่ว..” เด็กสาวถอนหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อนหลังค้นกระเป๋ามาเกือบสิบนาที ไม่รู้มันรกอะไรนักหนา เธอยื่นกระดาษสองแผ่นให้เรย์
“???” เรย์เลิกคิ้ว
“อันนี้นะ เป็นใบสำหรับไปรับอุปกรณ์การเรียนของนาย” เธอชี้ไปที่กระดาษสีฟ้า
“หา?” เรย์ดูงงๆ “ตกลงผมต้องเข้าเรียนที่นี่จริงๆอ่ะ..?”
“ปิ๊งป่อง จนกว่านายจะจำอะไรๆได้มากกว่านี้”
“ฮ่ะๆๆ..” เด็กหนุ่มหัวเราะแห้งๆ ‘มัดมือชกของแท้..’
“อีกใบนี่นะ เป็นตารางเรียน เราจะเรียนกันแค่วันจันทร์ พุธ ศุกร์ เตรียมตัวเรื่องห้องเรียนด้วยล่ะ ลงได้หลงขึ้นมาละก้ออดเรียนทั้งชั่วโมงแน่เพราะนายจะหาห้องเรียนไม่เจอชัวร์”
“..ผมมั่นใจว่าเป็นเช่นนั้นแน่..” เรย์ทำหน้าแปลกๆเหมือนจะหน้าเบ้ชอบกล “วันนี้วันอะไรครับ?”
“วันอาทิตย์จ้า” วิเวียนตอบก่อนจะเดินออกไปนอกห้อง “เอาล่ะ พี่ไปนะเรย์ เจอกานพรุ่งนี้นะ”
“. . .” เรย์พยักหน้าก่อนจะเริ่มมองหาอาโนลด์ที่หายจ้อยไปเลย ก่อนจะพบกันสภาพศพหรือซากอะไรซักอย่างที่นอนกองแน่นิ่งอยู่กับพื้น ‘พี่วิเวียนนี่โหดจริงๆให้ดิ้นตาย..’
. . .
. . . . .
กริ๊งง..ง...งง...ง...!
  เสียงนาฬิกาปลุกดังลั่นสนั่นห้องนอนสีขาวอมฟ้าอ่อน เด็กหนุ่มผมยาวสีน้ำตาลทองที่นอนจมกองผ้าห่มที่หนานุ่มค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาอย่างยากลำบากก่อนจะปิดเสียงที่ดังลั่นจากนาฬิกาปลุกสีทอง เรย์เกาศีรษะขณะลุกไปล้างหน้าและอาบน้ำ
ซ่าา..า...
“ฮ๊าว~” เด็กหนุ่มหาวเสียงดังก่อนจะขยี้ตา เขาดูภาพตัวเองในกระจกหลังแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว
  หลังจากที่เขาถูกพามารักษาตัวที่สถาบันมนต์ขาวนี่ก็ปาไปสัปดาห์กว่าๆแล้ว จนป่านนี้เขาก็ยังไม่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขาเพิ่มเติมเลยแม้แต่อย่างเดียว มีเพียงงานที่อาจารย์สั่งมาให้ทำๆๆจนเล่นเอาบางครั้งเขาดูเหมือนหมีแพนด้าไปซะอย่างงั้น แถมยังมีปัญหากับการคบเพื่อนด้วย ตั้งแต่เขาเข้ามาเรียนที่นี่ เขายังไม่มีเพื่อนใหม่ซักคนยกเว้นวิเวียน อาโนลด์ และเด็กหนุ่มฝาแฝดอีกสองคน.. ซึ่งทุกคนก็อยู่คนละห้องกับเขาเสียด้วยสิ..
  คุณจะรู้ว่าเป็นความรู้สึกที่ไม่ดีเอาซะเลยถ้าหากทุกวันเมื่อคุณก้าวเข้าไปในห้องเรียนทุกคนจะหยุดพูดคุยกันแล้วหันมามองคุณก่อนจะหันกลับไปคุยกันด้วยเสียงที่เบากว่าเดิม.. เมื่อมีการจับคู่ซ้อมคุณมักจะเป็นคนสุดท้ายที่มีคนเลือกซ้อมด้วย.. หากวันไหนคนมาไม่ครบคุณจะเป็นคนที่ไม่มีคู่ซ้อม.. เวลาพักคุณไม่มีใครไปพักด้วยทั้งๆที่คนอื่นไปกันเป็นกลุ่ม.. สุดท้ายคุณต้องไปนั่งอยู่ที่มุมห้องเงียบๆเพียงคนเดียว... มัน..ไม่ใช่..ความรู้สึกที่ดีเลย...
ปิ๊งป่อง..ง..
  เสียงกริ่งประตูห้องดังขึ้น เรย์ปิดก๊อกน้ำก่อนจะหยิบผ้าขนหนูเช็ดผมไปด้วยระหว่างเดินไปหน้าห้องเพื่อดูว่าใครที่มาหาเขาแต่เช้า
“โอ๊เล่~ เปนไงมั่งจ๊าน้องพี่” เด็กสาวผมยาวสีน้ำตาลแดงร้องทักทายด้วยน้ำเสียงสดใส วิเวียนหรือคนที่ตั้งตนเป็นพี่สาวของเรย์ไปโดยปริยายยืนยิ้มแป้นอยู่หน้าประตู
“ชิวชิวครับ” เรย์ยิ้มนิดๆ แต่ยิ้มของเขาดูแปลกๆชอบกล
“โฮะๆ ไม่ออกเสียงเป็นชิ่วๆไปเลยล่ะหึ” วิเวียนแซว เธอดูเหมือนจะสังเกตความผิดปกติของเขาได้
“มีธุระไรเหรอครับ?” เรย์รีบตัดบท
“เออใช่ พี่ลืมไปเลยนะเนี่ย ถ้าเรย์ไม่เตือนพี่คงลืมไปเลยล่ะ กว่าจะจำได้คงตอนเย็น โฮะๆๆ” เด็กสาวหัวเราะก่อนจะเอ่ยชวน “บ่ายเสาร์นี้เรย์ว่างมั้ย?”
“ทำไมเหรอครับ?”
“เรย์ยังไม่ค่อยมีเพื่อนใช่มั้ยล่ะ?”
“ฉึก!” ประดุจดังมีมีดอีโต้พุ่งหลาวลงมาด้วยความเร็วร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมงมาเฉาะกลางศีรษะเรย์ก็ไม่ปาน
“โฮะๆ สงสัยจาแทงใจดำ” วิเวียนแซวก่อนจะบรรจงยื่นกระดาษโน้ตให้เด็กหนุ่ม “เอ้านี่ ไปที่นี่ตามนัดด้วยนะ เพื่อนๆพี่หลายคนอยากเจอเรย์น่ะ ไปโม้ให้ฟังไว้เยอะ โฮะๆๆๆ”
“. . .” เรย์ทำหน้าประมาณว่า.. (= =”)
“เอ้อแล้วก้อนะ เตือนไว้อย่าง เพื่อนพี่มีพวกโลลิค่อนเยอะนะจะบอกให้ ระวังตัวไว้ก็ดีนะจ๊ะเรย์ ยิ่งถ้าไปให้พวกนั้นเห็นทั้งแบบนี้ได้โดนลากไปแน่เรย์เอ๋ย โฮะๆๆ” วิเวียนพูดไปหัวเราะไป
“อ่า. . .” เรย์ซึ่งอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวบางๆที่เปียกชุ่มแนบเนื้อผมเปียกลู่ลงมาดูเหมือนจะขนลุกขึ้นมาอย่างประหลาดโดยเจ้าตัวยังไม่แน่ใจในสาเหตุ
“งั้นพี่ไปละนะเรย์ อย่าลืมนะต้องไปนะเรย์ไม่งั้น..” พริบตานั้นใบหน้าที่ยิ้มแย้มปานนางฟ้าก็เริ่มมีจิตสังหารและรังสีอำมหิตแผ่พุ่งออกมาจนขนแขนแสตนอัพ เรย์ผงกหัวหงึกๆ “ต้องไปให้ได้นะเรย์”
“ครับๆ” เรย์เหงื่อแตกซิก ในใจได้แต่นึกว่า ‘น่ากลัว..พวกผู้หญิงนี่น่ากลัวชะมัด..’
  เรย์ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับเกาศีรษะก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้อง โดยไม่รู้เลยว่าวิเวียนกำลังยืนพิงผนังพร้อมกับอมยิ้มอยู่ข้างหลัง
‘ดีจังน้า เรย์เริ่มร่าเริงขึ้นมามั่งแล้ว หึๆ~’ วิเวียนคิดก่อนจะหัวเราะคิก เธอออกเดินไปตามทางอย่างร่าเริงราวกับเดินแบบกึ่งวิ่งกึ่งกระโดดแบบเด็กๆ
. . .
แซ่ดๆๆ..
  เสียงผู้คนสนทนากันดังสนั่น ‘ครอสเซ็นเตอร์’ สถานที่ที่มีทั้งร้านค้าต่างๆมากมาย สวนสาธารณะ น้ำพุ ฯลฯ ดูไปดูมาก็เหมือนกับสยามเซ็นเตอร์ของไทยเราชอบกล ต่างแค่เพียงวัสดุส่วนใหญ่ที่ใช้สร้างร้านทำมาจากคริสตัลสีสดใสหลากสีเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีผลึกแก้วสีสวยใสขนาดเล็กๆลอยไปมา มันเรืองแสงออกมาได้ด้วย ยามค่ำคืนคงดูสวยมิใช่น้อย ที่นี่อยู่ห่างออกไปนอกตัวสถาบันเล็กน้อยโดยคั่นกลางระหว่างสถาบันไลท์ครอสกับเมืองแอสซิสเทม ทำให้พบได้ทั้งนักเรียนจากสถาบันและบรรดาชาวเมือง
  ท่ามกลางฝูงชนที่เดินกันขวักไขว่บริเวณลานน้ำพุรูปกางเขนที่ใจกลางครอสเซ็นเตอร์ เด็กหนุ่มผมยาวสีน้ำตาลทองคนหนึ่งกำลังยืนพิงที่เท้าแขนม้านั่งสีเขียวสด ดวงตาสีครามเหม่อมองไปเรื่อยๆ มือก็ถักผมที่ยาวเลยบ่าให้เป็นเปียเดี่ยวเล็กๆไม่ให้เกะกะ
“เรย์~! ขอโทษที่ช้าจ้า~” เสียงใสจากเด็กสาวผมยาวสีน้ำตาลแดงที่เดินอย่างรวดเร็วมาหาเขา ตามหลังมาด้วยเด็กสาวที่ล้วนท่าทางอายุเท่าๆกับวิเวียนคือมากกว่าเด็กหนุ่มเล็กน้อยสองสามคน
“พี่วิเวียน..” เรย์ยิ้มนิดๆ ก่อนจะลุกขึ้นมายืนตามปกติ
“รอนานมั้ยเรย์?” วิเวียนหัวเราะแหะๆ
“ไม่เป็นไรครับ พี่วิเวียนชวนทั้งที” เรย์ยิ้ม ก่อนเสียงกรี๊ดจะดังมาจากกลุ่มสาวๆข้างหลังวิเวียน
“อ๊ายยย!! วิเวียน น้องเธอน่ารักจังเลยอ่ะ~! o(>_<)o”
“ใช่ม้า~” วิเวียนยืดอกภูมิใจเต็มที่ ขณะที่เรย์ดูงงๆกะสาวๆพวกนี้เต็มประดา
“สวัสดีครับ เพื่อนของพี่วิเวียนใช่ไหมครับ?” เด็กหนุ่มเอ่ยทักก่อนจะโค้งให้สาวๆนิดๆ ทำเอาเสียงกรี๊ดวี้ดว้ายยิ่งดังนักกว่าเดิม
“ใช่แล้วจ้า~” เด็กสาวผมยาวสีทองยิ้มหวานรับ “พี่ชื่อเจนนะจ๊ะ (^^) ”
“เมเกนจ้า” เด็กสาวผมสีแดงเข้มโผล่มาเบียดเด็กสาวผมทองตกขอบก่อนจะยื่นมือให้เรย์
“อ่ะ..ครับ” เรย์ยังงงไม่หายแต่ก็ยื่นมือไปจับแต่โดยดี
“พี่ชื่อไอรีนนะจ๊ะ” เด็กสาวผมสีม่วงโผล่มากดเมเกนตกขอบไปอีกคนก่อนจะยื่นมือให้เรย์มั่ง
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ.. (‘^^) ”
“เรย์ มานี่แป๊บดิ๊” วิเวียนเอ่ยก่อนจะล็อกคอเรย์ลากไปคุยด้วย
“แง้ว” เรย์เริ่มหายใจไม่ออก พอดีกับที่วิเวียนปล่อยมือ เด็กหนุ่มยืนพักหายใจเหมือนขาดอากาศ
“นี่ๆ พี่เตือนแล้วนะระวังพวกเจนหน่อย เผลอไม่ได้ระวังโดนลากไปนะ” วิเวียนกระซิบพลางมองพวกเจนเป็นระยะ
“ง่า. . .” เรย์เหงื่อตก ‘พวกผู้หญิงนี่..น่ากลัวชะมัดเลย..’
  และแล้วก็เป็นไปตามที่วิเวียนคาดไว้ คลาดสายตาตอนไปซื้อไอศกรีมแปบเดียว เรย์ก็โดนสามสาวลากไปไหนแล้วไม่รู้
“เง้อ บังอาจมากยัยบ้าเจน ยั่งงี้ต้อง..” วิเวียนรีบกดมือถือโทรไปตามตัวคนๆหนึ่งมาอย่างด่วน
“มาแล้ววววว!” นาทีต่อมาอาโนลด์ก็รีบวิ่งหน้าตั้งมาทันที
“ช้าไป! (- -+) “
“อย่าโกรธเลยนะวี่ นะๆๆๆ แอ๊ฟ!!!” อาโนลด์อ้อนก่อนจะถูกหมัดหิมะโปรยของวิเวียนจนกระเด็น
“บอกว่าวิเวียนยังจะมาว่งวี่อะไรอีกยะ” เด็กสาวบ่นขณะลากอาโนลด์ไปตามพื้น
“โอ๊ย! เจ็บๆๆ! ไม่เรียกแล้วๆๆ! ปล่อยก่อนได้ม้ายยย!?”
“ก้อเห็นบอกงี้ทั้งปีอ่ะ ไม่ปล่อยเด็ดขาด ลากไปตามเรย์ทั้งยั่งงี้นี่แหละ!”
“ว๊ากกกก..ก...”
. . .
. . .
  เสียงนกร้องดังขึ้นอย่างนุ่มนวล แสงแดดยามเช้าที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่างปลุกให้เด็กหนุ่มผมยาวสีน้ำตาลทองตื่นขึ้นมา ดวงตาสีครามดูสดใส เย็นชา และเศร้าสร้อยไปด้วยกัน เด็กหนุ่มกุมศีรษะเพราะความรู้สึกปวดแปลบที่ศีรษะราวกับสมองจะระเบิด เขาสังเกตว่ามีผ้าพันแผลอยู่บนศีรษะ ทว่าตอนนี้ คำถามแรกของเขาคือ..
‘ที่นี่.. ที่ไหนกันน่ะ..’ เด็กหนุ่มมองไปรอบๆห้องด้วยดวงตาที่เหมือนเหม่อลอย ห้องนี้มีสีขาว.. มีเตียงอยู่หลายเตียง.. มีผ้าม่านกั้นแต่ละเตียงด้วย..
“ไง ฟื้นแล้วเหรอ?” เสียงที่ฟังดูสดใสดังขึ้นจากด้านหลังเด็กหนุ่ม เขาหันไปมองเด็กสาวผมยาวสีน้ำตาลแดงที่ดูอายุมากกว่าเขานิดหน่อยซึ่งกำลังจ้องมองเขาตอบเช่นกันด้วยดวงตาสีน้ำตาลอ่อนที่ดูอบอุ่นและเป็นมิตร
“..ใคร?..” เด็กหนุ่มถามทั้งๆที่ยังคงมึนงงอยู่ เขายังคงลุกไม่ขึ้น
“นาย ไม่ รู้ จัก หรอก” เด็กสาวตอบหน้าตายก่อนจะกลับไปง่วนกับการปอกเปลือกแอปเปิ้ลต่อ ทำเอาเด็กหนุ่มได้แต่งง “ที่นี่คือห้องพยาบาลของสถาบันเวทมนต์ขาวไลท์ครอสน่ะ” เด็กสาวชิงตอบก่อนที่เด็กหนุ่มผมยาวจะทันได้อ้าปากถามราวกับล่วงรู้ความคิดของเขาพร้อมกับยื่นจานที่เต็มไปด้วยแอปเปิ้ลให้ “เอ้า ทานซะนะ”
“ฮื่อ..อ..” เด็กหนุ่มทำเสียงคำรามเบาๆในลำคอ เขาจ้องแอปเปิ้ลในมือเด็กสาวเขม็งพร้อมกับพยุงตัวลุกขึ้นมานั่งอย่างลำบากแล้วเขยิบหนีเธออย่างไม่ไว้ใจราวกับมียาพิษอยู่ในแอปเปิ้ล
“อ๋า อย่าเพิ่งลุกเซ่” เด็กสาวเอ็ดพร้อมกับยื่นมือออกไปจะคว้าตัวเด็กหนุ่มไว้
“ฮึ่ย..” เด็กหนุ่มปัดมือเด็กสาวออกไปก่อนจะตั้งท่าเตรียมวิ่งออกไปนอกห้อง
“หนอยย.. เจ้าเด็กบ้านี่ จะนอนดีๆหรือจะนอนทั้งน้ำตาหา---!!?” เด็กสาวโกรธจัด เธอล็อกคอเด็กหนุ่มผมยาวไว้ก่อนจะลากเขากลับไปนอนพักที่เตียง
“อูย..” เด็กหนุ่มร้องเบาๆพร้อมกับเอามือลูบคอตัวเองด้วยความเจ็บ
“ (>,<) สมน้ำหน้า “ เด็กสาวแลบลิ้นใส่ เด็กหนุ่มถอนหายใจแรงๆอย่างหงุดหงิดก่อนจะยอมนอนพักแต่โดยดีก่อนจะโดนสาว(เหลือ)น้อยคนนี้บีบคอตายก่อนวัยอันควร เขาทำหน้าเบ้น้อยๆ
. . .
  เงียบไปพักหนึ่ง เด็กหนุ่มยังคงนอนหันหน้าไปทางตรงข้ามกับเด็กสาวผมสีน้ำตาลแดงที่มองเขาด้วยดวงตาสีน้ำตาลอ่อนอย่างห่วงใยทั้งๆที่ยังไม่รู้จักกัน ‘พิลึกคน..’ เด็กหนุ่มคิด
“..ผมมาอยู่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่? ..” เด็กหนุ่มผมยาวเอ่ยปากถามในที่สุด เด็กสาวขมวดคิ้วน้อยๆ
“นี่นายจำไม่ได้จริงๆเหรอว่าเกิดไรขึ้น?” เธอเลิกคิ้วขึ้น
“. . .” เด็กหนุ่มส่ายหน้าช้าๆ เขายังคงหันหน้าไปทางอื่น
“อืม~.. จะว่าไงดีล่ะ” เด็กสาวทำท่าเหมือนกับเรียบเรียงคำพูดมาอธิบายให้เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลทองฟัง เธอเอานิ้วชี้ทั้งสองมาประกบกันที่ดั้งจมูก “อาวล่ะ~ นึกออกแล้น คือยั่งงี้นะ ที่นี่คือสถาบันเวทมนต์ขาวไลท์ครอส ตั้งอยู่ที่ทวีปฮิลส์ ขณะที่พวกเรานักเรียนของที่นี่ไปหาสมุนไพรแถวๆช่องเขา ชั้นก็เผอิ๊ญเผอิญไปเห็นซาก..เอ๊ย เห็นคนนอนสลบอยู่ก้อเลยลากบรรดาลูกสมุนของชั้นไปดูซาก.. อ่า ไปดูว่าใครสลบอยู่ ซึ่งคนที่นอนสลบอยู่คนนั้นก้อคือนาย” เธอชี้นิ้วมาที่เด็กหนุ่มผมยาวก่อนจะแอบจิ๊กเอาแอปเปิ้ลไปกินซะชิ้นนึง
“แล้วทำไมผมถึงไปอยู่ที่นั่น..?”
“บอกตรงๆเลยนะ” เด็กสาวเอ่ยก่อนจะพูดชัดถ้อยชัดคำ “ชั้น ไม่ รู้”
“. . .” เด็กหนุ่มนิ่งเงียบ
“เอาน่าๆ! เรื่องนั้นไว้คิดทีหลังก้อยังได้นะน้องชาย รอดตายมาได้ก้อพอละนี่นา เนอะ” เด็กสาวกล่าวก่อนจะยิ้มกว้างราวกับคนที่ไม่เคยมีเรื่องทุกข์ร้อน “ว่าแต่ นายชื่ออะไรอ่ะ?”
“. . .” เด็กหนุ่มที่ทำท่าจะเริ่มยิ้มออกก็ได้ฤกษ์นั่งนิ่งอีกครั้ง เขาส่ายหน้า
“ไม่รู้เหรอ!?..” เสียงของเด็กสาวดูประหลาดใจ ซึ่งหากฟังดีๆจะรับรู้ถึงความสงสารที่ปนอยู่ในน้ำเสียงของเธอด้วย ‘พิลึกอีกแล้ว’ เด็กหนุ่มนึกในใจ
“..จำไม่ได้..” เด็กหนุ่มกุมศีรษะ เขาไม่มีความรู้สึกที่เรียกว่าความหวังเลยแม้แต่น้อย เขาชื่ออะไร?.. เขาเป็นใคร?.. เขาเกี่ยวข้องอะไรกับใคร?.. เกิดอะไรขึ้นกับเขา?.. ใครคือครอบครัวและเพื่อนของเขา?... เขา.. ไม่รู้..อะไรเลย..
  มันเป็นความรู้สึกที่แย่มากเลย ถ้าคุณเกิดจำอะไรไม่ได้ซักอย่างแถมยังต้องมาอยู่ในที่แปลกๆที่ไม่รู้จักกับคนแปลกหน้าที่ไม่คุ้นเคย ถึงเขาจะท่าทางเป็นมิตรก็เถอะ
  มันเหมือนกับว่า.. อยู่กลางห้วงอวกาศที่มืดมิดไร้แสงดาว.. เคล้งคว้างไปอย่างไร้จุดหมาย เหงาและหนาวเหน็บ.. เด็กหนุ่มเผลอกอดอกโดยไม่รู้ตัว
“อืม~..” เด็กสาวก็ดูหนักใจไม่ใช่น้อย แต่ในที่สุดเธอก็ยิ้มก่อนจะยื่นมือให้เด็กหนุ่ม “เถอะ แนะนำตัวก่อนนะ ชั้นชื่อวิเวียนเป็นนักเรียนดีเด่น(มั้ง)ของที่นี่ มีอะไรปรึกษาชั้นได้นะจ้ะ”
“. . .?!” เด็กหนุ่มหันกลับมามองเธอด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“น่า อย่ามัวแต่ซึม+นั่งเอ๋อซี่” เด็กสาวว่า
“อ่ะ..” เด็กหนุ่มดูเหมือนจะประหลาดใจและยังมึนงงอยู่เล็กน้อยกับเด็กสาวแปลกหน้าคนนี้
“เอ้า เอามือมาจิ” วิเวียนเอ่ยพร้อมส่งยิ้มที่ดูสดใสให้ก่อนจะดึงมือเด็กหนุ่มมาจับกับมือเธอพร้อมบีบมือเขาอย่างหนักแน่นราวกับจะให้ความอบอุ่นและกำลังใจแก่เขา
“. . .” เด็กหนุ่มมองมือของเขาและเด็กสาวที่จับมือกันอยู่อย่างเงียบๆ
“จากนี้ก้อฝากเนื้อฝากตัวไว้ด้วยนะจ๊ะ (^^) “
“..ขอบคุณ..ครับ..” ดวงตาสีครามดูอ่อนโยนขึ้น เด็กหนุ่มค่อยๆยิ้มน้อยๆ ถึงเขาจะยังจำอะไรไม่ได้และยังไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกะสถาบันเวทมนต์ขาวนี่ แต่อย่างน้อยๆ เขาก็ได้เพื่อนมาคนนึงล่ะนะ.. ตอนนี้.. เขาอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก.. บอกไม่ถูกเลยจริงๆ...
. . .
“หืม~ นายน่ะเหรอนักเรียนใหม่?” เด็กหนุ่มผมยาวระต้นคอสีน้ำเงินเข้มคนหนึ่งเอ่ยทักขณะที่เขาเปิดประตูเดินก้าวเข้ามาในห้องพยาบาล ดวงตาสีฟ้าใสมองเด็กหนุ่มผมยาวสีน้ำตาลทองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
“. . .” เด็กหนุ่มผมยาวพยักหน้าน้อยๆ
“อ้าวไงอาโนลด์” ฟอลล์หันกลับไปทักทายเพื่อนอย่างเป็นกันเอง
“หวัดดีวีวี่” อาโนลด์ยิ้มยิงฟันก่อนจะโดนวิเวียนขว้างหมอนใส่เต็มๆหน้า
“บอกว่าวิเวียนเฉยๆไม่ต้องมาวีวี่ไง”
“คร้าบๆ” อาโนลด์อุดหู ก่อนจะเดินเข้ามานั่งข้างๆเด็กหนุ่มผมยาว “นายชื่อไรน่ะ?”
“ไม่รู้..” เด็กหนุ่มส่ายหน้า
“ซะงั้นอ่ะ” อาโนลด์ยักไหล่ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงข้างๆ
“อาโนลด์!” วิเวียนเอ็ด
“อะไร?”
“นายนี่มัน..ตัวไร้สมองและความรู้สึก&สามัญสำนึก..” วิเวียนบ่นพึมพำเป็นชุดเมื่อเห็นเด็กหนุ่มผมยาวดูซึมๆหนักเข้าไปอีก
“อืม~ เดาเอานะ นายคงเป็นคนตระกูลเลโอฮาร์ทละมั้ง ชื่อแปลกดีนะ ไม่ยักกะเคยได้ยิน” อาโนลด์เอ่ยขึ้น เด็กหนุ่มผมยาวเงยหน้าขึ้นมาฟังทันทีด้วยความสนใจ
“..ทำไม?” เด็กหนุ่มถาม
“ดาบที่เราเจอข้างๆตัวนายน่ะสิ” อาโนลด์ตอบพร้อมกับชี้ไปที่ดาบสองคมเล่มใหญ่สีเงินวาววับซึ่งได้สลักลวดลายไว้อย่างสวยงาม มันถูกวางพิงกับพนังห้องข้างๆโต๊ะอาจารย์ประจำห้องพยาบาลซึ่งตอนนี้ไม่อยู่ “ที่ตัวดาบมีการสลักชื่อเป็นชื่อใครซักคน มันเลือนไปน่ะ แต่อย่างน้อยๆก็ยังพอเห็นนามสกุลที่เขียนว่าเลโอฮาร์ท ..ถ้าอ่านไม่ผิดอ่ะนะ” อาโนลด์รีบเสริม
“ไหงนายไม่บอกชั้นก่อนอ่ะ?!” วิเวียนดูเหมือนจะเพิ่งรู้เรื่องชื่อที่สลักบนดาบ
“ก้อไม่เห็นต้องบอกเธอทุกเรื่องในโลกนี่วีวี่” อาโนลด์แลบลิ้นใส่วิเวียนก่อนเด็กสาวจะปาหมอนใส่เขาอีกสองใบซ้อน ทำเอาหนุ่มผมสีน้ำเงินหน้าหงาย
“..เลโอฮาร์ท..” เด็กหนุ่มผมยาวพึมพำก่อนจะรู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าแล่นเข้าสู่สมอง “อุ๊บ..!”
“เฮ้!” อาโนลด์รีบลุกจากเตียงไปดูอาการเด็กหนุ่มผมยาวทันที
“เป็นอะไรไปน่ะ!?” วิเวียนปราดเข้าไปนั่งข้างๆเด็กหนุ่ม
“เหมือนจะ..มีอะไรซักอย่างเกี่ยวกับ..คำสาป..”
“คำสาป?” วิเวียนและอาโนลด์เอ่ยทวนอย่างงงๆ
“. . .” เด็กหนุ่มสกุลเลโอฮาร์ทพยักหน้าเบาๆ
“เถอะ ปัญหาตอนนี้คือ จะเรียกนายว่าไรดีล่ะ?” อาโนลด์เอ่ยขัดก่อนจะจ้องหน้าเด็กหนุ่มผมยาว
“ก็จริงอ่ะนะ จะให้เรียกว่า ‘นาย’ ไปตลอดก้อเป็นไปไม่ได้หรอก” วิเวียนนั่งคิดชื่อให้เด็กหนุ่มผมยาว
“เอาที่ความหมายดูเป็นผู้เป็นคนหน่อยนะเจ๊” อาโนลด์ว่า
“อะไรยะ จะหาเรื่องกันรึไงตาบ้า” วิเวียนหันขวับ
“อ้าว ก้อคราวก่อนใครล่ะที่ไปตั้งชื่อกระต่ายป่าว่ามัด(mud = โคลน)ละฮะ!?”
“อ่ะ..นั่นมาน..” วิเวียนเถียงไม่ออก ขณะที่อาโนลด์ยิ้มอย่างผู้มีชัย “ก้อยังดีกว่าคนที่ตั้งชื่อเวทใหม่ละกันน่ะ จากอีลีเมนทัลฮีลดันไปเรียกเป็นอีหลีเมนทอสเฉยเลยจนโดนอาจารย์เฉ่งอ่ะ คนไหนน่ะๆ”
“ง่ะ.. #!@^$#&” อาโนลด์เถียงไม่ขึ้นได้แต่ไปหลบมุมนั่งพึมพำอยู่คนเดียว
“. . .” เด็กหนุ่มผมยาวเหงื่อตก
“เอาชื่อไรดีน้า~” วิเวียนทำท่าคิดหนัก “อ๊ะ รู้แย้ว”
“ชื่ออะไรเหรอ..?” เด็กหนุ่มถาม
“เรย์มอนด์” วิเวียนเอ่ยยิ้มๆ “แปลว่าการปกป้องด้วยความชาญฉลาด เป็นไงเจ๋งป่าวๆ จะเรียกกันย่อๆก้อได้ว่าเรย์ แปลว่าแสงสว่างจากดวงตะวัน”
“ผมว่าผมชอบ เรย์ เฉยๆมากกว่า” เด็กหนุ่มยิ้มที่มุมปากนิดๆ “แต่เรย์มอนด์ก็โอเค”
“ช่ายแล้น” วิเวียนยิ้มแป้น
“เรย์มอนด์ เลโอฮาร์ท” อาโนลด์ยิ้ม “ตั้งชื่อคนดีๆก็เป็นนี่นาวีวี่”
“วิเวียนตังหากละยะ” วิเวียนว่าก่อนจะทำท่าว่าจะเขวี้ยงหมอนใส่อาโนลด์อีก
“คุณวิเวียน” เด็กหนุ่มผมยาว หรือที่จะรู้จักกันในชื่อเรย์มอนด์เอ่ยขึ้น
“จ๋า? เรียกพี่วิเวียนเฉยๆก้อได้นะ”
“เรียกป้าวีวี่สิ.. แอ๊ก!” อาโนลด์กระซิบกับเรย์แต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นหูนรกของวิเวียนไปได้ โดนลูกถีบสั่งตายสะท้านแผ่นดินของคุณเธอเข้าให้ถึงกับลงไปนอนกองกับพื้นแน่นิ่งลมหายใจรวยริน..
“คือ..” เรย์เกาแก้มนิดๆ “ขอบคุณ.. สำหรับชื่อใหม่..นะ”
“ม.ม.ป.ห.จ้า” วิเวียนยิ้มกว้าง
“ม.ม.ป.ห.?” เรย์เลิกคิ้ว
“ไม่มีปัญหาไง ศัพท์วัยรุ่น(แง้มฝาโลง)น่ะนะ โฮะๆๆ” วิเวียนเฉลยก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินข้ามซากอาโนลด์ไป “งั้น พี่ไปก่อนนะ เดี๋ยวให้อีตานี่อธิบายกฎระเบียบของที่นี่ให้ละกันจ้ะ ไปนะจ๊ะเรย์” เด็กสาวกล่าวลาก่อนจะโบกมืออย่างร่าเริงแล้วเดินหายไป
“อ่ะ..ครับ” เรย์พยักหน้า ก่อนจะมองซากของอาโนลด์ที่เริ่มจะขึ้นอืดนิดๆ(!?)อย่างสงสัย ‘ยั่งงี้ยังจะรอดด้วยเหรอ?’
. . .
“เข้าใจนะ? ต่อไปนี้นายต้องนอนที่หอพักชาย ห้ามไปเดินโต๋เต๋ที่หอพักหญิงด้วย เออแล้วก้อ.. เอ้า เอานี่ไป” เด็กหนุ่มผมสีน้ำเงินเข้มสาธยายเสียยืดยาวขณะเดินไปยังหอพักชาย ก่อนจะยื่นคีย์การ์ดให้ใบนึง เด็กหนุ่มผมยาวมองมันอย่างงงๆ
“นี่คือ..?”
“กุญแจห้องพักของนายนับแต่นี้ต่อไป” อาโนลด์ตอบก่อนจะเดินนำเรย์ไปยังหอพักสีขาวสูงหลายร้อยชั้นของสถาบันมนต์ขาวไลท์ครอส เรย์มั่นใจว่านักเรียนของที่นี่ต้องเยอะ’มากๆ’ แน่นอน “ห้องพักส่วนตัวของนายคือห้องหมายเลข 830 นะ”
“มีถึง 830 เลยเหรอ?” เรย์ดูประหลาดใจนิดๆ
“แน่น๊อน” อาโนลด์เอ่ยก่อนจะหยุดที่หน้าห้องๆหนึ่งซึ่งอยู่ในสุดของชั้นที่ 83 หลังพวกเขาใช้ลิฟต์แก้วขึ้นมาถึงชั้นบนนี้ “มีเป็นพันห้องเลยมั้งน่ะที่จริง”
“. . .” เรย์ดูเหนื่อยใจนิดๆ
“เป็นไรไปไอ้น้อง ไม่ชอบอยู่กับคนเยอะๆงั้นสิ?”
“. . .” เรย์พยักหน้านิดๆ
“ฮ่าๆๆ งั้นต้องทำใจแล้วล่ะ เถอะ เอ้า ลองเข้าไปดูห้องใหม่ของนายสิ” อาโนลด์ชวน เรย์เดินเข้าไปรูดการ์ดที่ผนังข้างๆประตู พริบตานั้นเอง ประตูห้องที่เป็นกระจกแบบที่มองไม่เห็นข้างในก็เริ่มมีรอยแยกตรงกลางก่อนจะค่อยๆแยกออกไปเป็นส่วนๆ เผยให้เห็นภายในห้องที่ดูหรูหราไร้ที่ติ เรย์แทบจะอ้าปากค้างให้ได้ ขณะที่อาโนลด์ยืนอมยิ้มก่อนจะคะยั้นคะยอให้เรย์เข้าไปดูข้างใน
“คิดซะว่าเป็นบ้านตัวเองละกันนะไอ้น้อง ฮ่าๆๆ”
“บ้าน..ของชั้นเหรอ?..” เรย์พึมพำขณะกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง
  ห้องสีขาวอมฟ้าอ่อนๆดูกว้างใหญ่ ข้างในมีโทรทัศน์เครื่องใหญ่ แบบว่าเรียกกันง่ายๆว่าทีวีสีจอแบนไซส์ยักษ์ว่างั้น คอมพิวเตอร์จอแบนสีขาวที่มุมตกแต่งด้วยพลาสติกใสสีฟ้า อ่างน้ำวนขนาดใหญ่ที่ลงไปแช่เล่นกันได้หลายคน เตียงนุ่มๆผ้าห่มอุ่นๆหมอนหอมๆ น่านอนมากอยากบอก
“สุดยอด” เรย์ยิ้มกว้างก่อนจะเดินไปที่หน้าต่าง จากชั้นนี้เห็นเมฆได้ชัดเจนราวกับจะคว้ามาอยู่ในมือได้ แสงอาทิตย์ทอแสงสวยงาม ทำเอาเรย์ยืนเหม่อมองดูภาพตรงหน้านานมากจนไม่ทันสังเกตว่ามีคนมายืนข้างหลัง
“ไงจ๊า? ชอบห้องใหม่มั้ยเรย์?” เด็กสาวผมยาวสีน้ำตาลแดงเอ่ยทัก ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนดูสดใสไม่ต่างไปจากตอนที่เรย์ได้เห็นตาคู่นี้เป็นครั้งแรกที่ห้องพยาบาล
“พี่วิเวียน?!” เรย์ดูประหลาดใจ
“จุ๊ๆ อย่าเอ็ดไปๆ ถึงจะเป็นสารวัตรนักเรียนที่เข้าไปได้ทั้งหอพักชายหญิงแต่ก้อไม่ได้แปลว่าพี่จะเข้ามาในห้องของนักเรียนชายได้หรอกนะ~” วิเวียนเอานิ้วชี้แตะปากเป็นสัญญาณให้เบาเสียงลง
“. . .” เรย์เหงื่อตกอีกครั้ง ในใจได้แต่นึกว่า ‘คนๆนี้แปลกจริงๆ’
“ไหนดูซิ อยู่ไหนน้า..” วิเวียนพึมพำก่อนจะค้นหาอะไรซักอย่างในกระเป๋าเป้ที่เธอเอามาด้วย
“แล้ว รุ่นพี่อาโนลด์ละครับ?”
“ช่างheadตานั่นเหอะ” วิเวียนโบกมือก่อนจะก้มหน้าก้มตาหาของต่อจนศีรษะจะไปอยู่ข้างในกระเป๋าแล้ว “อ้า.. เจอซักที ฟู่ว..” เด็กสาวถอนหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อนหลังค้นกระเป๋ามาเกือบสิบนาที ไม่รู้มันรกอะไรนักหนา เธอยื่นกระดาษสองแผ่นให้เรย์
“???” เรย์เลิกคิ้ว
“อันนี้นะ เป็นใบสำหรับไปรับอุปกรณ์การเรียนของนาย” เธอชี้ไปที่กระดาษสีฟ้า
“หา?” เรย์ดูงงๆ “ตกลงผมต้องเข้าเรียนที่นี่จริงๆอ่ะ..?”
“ปิ๊งป่อง จนกว่านายจะจำอะไรๆได้มากกว่านี้”
“ฮ่ะๆๆ..” เด็กหนุ่มหัวเราะแห้งๆ ‘มัดมือชกของแท้..’
“อีกใบนี่นะ เป็นตารางเรียน เราจะเรียนกันแค่วันจันทร์ พุธ ศุกร์ เตรียมตัวเรื่องห้องเรียนด้วยล่ะ ลงได้หลงขึ้นมาละก้ออดเรียนทั้งชั่วโมงแน่เพราะนายจะหาห้องเรียนไม่เจอชัวร์”
“..ผมมั่นใจว่าเป็นเช่นนั้นแน่..” เรย์ทำหน้าแปลกๆเหมือนจะหน้าเบ้ชอบกล “วันนี้วันอะไรครับ?”
“วันอาทิตย์จ้า” วิเวียนตอบก่อนจะเดินออกไปนอกห้อง “เอาล่ะ พี่ไปนะเรย์ เจอกานพรุ่งนี้นะ”
“. . .” เรย์พยักหน้าก่อนจะเริ่มมองหาอาโนลด์ที่หายจ้อยไปเลย ก่อนจะพบกันสภาพศพหรือซากอะไรซักอย่างที่นอนกองแน่นิ่งอยู่กับพื้น ‘พี่วิเวียนนี่โหดจริงๆให้ดิ้นตาย..’
. . .
. . . . .
กริ๊งง..ง...งง...ง...!
  เสียงนาฬิกาปลุกดังลั่นสนั่นห้องนอนสีขาวอมฟ้าอ่อน เด็กหนุ่มผมยาวสีน้ำตาลทองที่นอนจมกองผ้าห่มที่หนานุ่มค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาอย่างยากลำบากก่อนจะปิดเสียงที่ดังลั่นจากนาฬิกาปลุกสีทอง เรย์เกาศีรษะขณะลุกไปล้างหน้าและอาบน้ำ
ซ่าา..า...
“ฮ๊าว~” เด็กหนุ่มหาวเสียงดังก่อนจะขยี้ตา เขาดูภาพตัวเองในกระจกหลังแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว
  หลังจากที่เขาถูกพามารักษาตัวที่สถาบันมนต์ขาวนี่ก็ปาไปสัปดาห์กว่าๆแล้ว จนป่านนี้เขาก็ยังไม่ได้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเขาเพิ่มเติมเลยแม้แต่อย่างเดียว มีเพียงงานที่อาจารย์สั่งมาให้ทำๆๆจนเล่นเอาบางครั้งเขาดูเหมือนหมีแพนด้าไปซะอย่างงั้น แถมยังมีปัญหากับการคบเพื่อนด้วย ตั้งแต่เขาเข้ามาเรียนที่นี่ เขายังไม่มีเพื่อนใหม่ซักคนยกเว้นวิเวียน อาโนลด์ และเด็กหนุ่มฝาแฝดอีกสองคน.. ซึ่งทุกคนก็อยู่คนละห้องกับเขาเสียด้วยสิ..
  คุณจะรู้ว่าเป็นความรู้สึกที่ไม่ดีเอาซะเลยถ้าหากทุกวันเมื่อคุณก้าวเข้าไปในห้องเรียนทุกคนจะหยุดพูดคุยกันแล้วหันมามองคุณก่อนจะหันกลับไปคุยกันด้วยเสียงที่เบากว่าเดิม.. เมื่อมีการจับคู่ซ้อมคุณมักจะเป็นคนสุดท้ายที่มีคนเลือกซ้อมด้วย.. หากวันไหนคนมาไม่ครบคุณจะเป็นคนที่ไม่มีคู่ซ้อม.. เวลาพักคุณไม่มีใครไปพักด้วยทั้งๆที่คนอื่นไปกันเป็นกลุ่ม.. สุดท้ายคุณต้องไปนั่งอยู่ที่มุมห้องเงียบๆเพียงคนเดียว... มัน..ไม่ใช่..ความรู้สึกที่ดีเลย...
ปิ๊งป่อง..ง..
  เสียงกริ่งประตูห้องดังขึ้น เรย์ปิดก๊อกน้ำก่อนจะหยิบผ้าขนหนูเช็ดผมไปด้วยระหว่างเดินไปหน้าห้องเพื่อดูว่าใครที่มาหาเขาแต่เช้า
“โอ๊เล่~ เปนไงมั่งจ๊าน้องพี่” เด็กสาวผมยาวสีน้ำตาลแดงร้องทักทายด้วยน้ำเสียงสดใส วิเวียนหรือคนที่ตั้งตนเป็นพี่สาวของเรย์ไปโดยปริยายยืนยิ้มแป้นอยู่หน้าประตู
“ชิวชิวครับ” เรย์ยิ้มนิดๆ แต่ยิ้มของเขาดูแปลกๆชอบกล
“โฮะๆ ไม่ออกเสียงเป็นชิ่วๆไปเลยล่ะหึ” วิเวียนแซว เธอดูเหมือนจะสังเกตความผิดปกติของเขาได้
“มีธุระไรเหรอครับ?” เรย์รีบตัดบท
“เออใช่ พี่ลืมไปเลยนะเนี่ย ถ้าเรย์ไม่เตือนพี่คงลืมไปเลยล่ะ กว่าจะจำได้คงตอนเย็น โฮะๆๆ” เด็กสาวหัวเราะก่อนจะเอ่ยชวน “บ่ายเสาร์นี้เรย์ว่างมั้ย?”
“ทำไมเหรอครับ?”
“เรย์ยังไม่ค่อยมีเพื่อนใช่มั้ยล่ะ?”
“ฉึก!” ประดุจดังมีมีดอีโต้พุ่งหลาวลงมาด้วยความเร็วร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมงมาเฉาะกลางศีรษะเรย์ก็ไม่ปาน
“โฮะๆ สงสัยจาแทงใจดำ” วิเวียนแซวก่อนจะบรรจงยื่นกระดาษโน้ตให้เด็กหนุ่ม “เอ้านี่ ไปที่นี่ตามนัดด้วยนะ เพื่อนๆพี่หลายคนอยากเจอเรย์น่ะ ไปโม้ให้ฟังไว้เยอะ โฮะๆๆๆ”
“. . .” เรย์ทำหน้าประมาณว่า.. (= =”)
“เอ้อแล้วก้อนะ เตือนไว้อย่าง เพื่อนพี่มีพวกโลลิค่อนเยอะนะจะบอกให้ ระวังตัวไว้ก็ดีนะจ๊ะเรย์ ยิ่งถ้าไปให้พวกนั้นเห็นทั้งแบบนี้ได้โดนลากไปแน่เรย์เอ๋ย โฮะๆๆ” วิเวียนพูดไปหัวเราะไป
“อ่า. . .” เรย์ซึ่งอยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวบางๆที่เปียกชุ่มแนบเนื้อผมเปียกลู่ลงมาดูเหมือนจะขนลุกขึ้นมาอย่างประหลาดโดยเจ้าตัวยังไม่แน่ใจในสาเหตุ
“งั้นพี่ไปละนะเรย์ อย่าลืมนะต้องไปนะเรย์ไม่งั้น..” พริบตานั้นใบหน้าที่ยิ้มแย้มปานนางฟ้าก็เริ่มมีจิตสังหารและรังสีอำมหิตแผ่พุ่งออกมาจนขนแขนแสตนอัพ เรย์ผงกหัวหงึกๆ “ต้องไปให้ได้นะเรย์”
“ครับๆ” เรย์เหงื่อแตกซิก ในใจได้แต่นึกว่า ‘น่ากลัว..พวกผู้หญิงนี่น่ากลัวชะมัด..’
  เรย์ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับเกาศีรษะก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้อง โดยไม่รู้เลยว่าวิเวียนกำลังยืนพิงผนังพร้อมกับอมยิ้มอยู่ข้างหลัง
‘ดีจังน้า เรย์เริ่มร่าเริงขึ้นมามั่งแล้ว หึๆ~’ วิเวียนคิดก่อนจะหัวเราะคิก เธอออกเดินไปตามทางอย่างร่าเริงราวกับเดินแบบกึ่งวิ่งกึ่งกระโดดแบบเด็กๆ
. . .
แซ่ดๆๆ..
  เสียงผู้คนสนทนากันดังสนั่น ‘ครอสเซ็นเตอร์’ สถานที่ที่มีทั้งร้านค้าต่างๆมากมาย สวนสาธารณะ น้ำพุ ฯลฯ ดูไปดูมาก็เหมือนกับสยามเซ็นเตอร์ของไทยเราชอบกล ต่างแค่เพียงวัสดุส่วนใหญ่ที่ใช้สร้างร้านทำมาจากคริสตัลสีสดใสหลากสีเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีผลึกแก้วสีสวยใสขนาดเล็กๆลอยไปมา มันเรืองแสงออกมาได้ด้วย ยามค่ำคืนคงดูสวยมิใช่น้อย ที่นี่อยู่ห่างออกไปนอกตัวสถาบันเล็กน้อยโดยคั่นกลางระหว่างสถาบันไลท์ครอสกับเมืองแอสซิสเทม ทำให้พบได้ทั้งนักเรียนจากสถาบันและบรรดาชาวเมือง
  ท่ามกลางฝูงชนที่เดินกันขวักไขว่บริเวณลานน้ำพุรูปกางเขนที่ใจกลางครอสเซ็นเตอร์ เด็กหนุ่มผมยาวสีน้ำตาลทองคนหนึ่งกำลังยืนพิงที่เท้าแขนม้านั่งสีเขียวสด ดวงตาสีครามเหม่อมองไปเรื่อยๆ มือก็ถักผมที่ยาวเลยบ่าให้เป็นเปียเดี่ยวเล็กๆไม่ให้เกะกะ
“เรย์~! ขอโทษที่ช้าจ้า~” เสียงใสจากเด็กสาวผมยาวสีน้ำตาลแดงที่เดินอย่างรวดเร็วมาหาเขา ตามหลังมาด้วยเด็กสาวที่ล้วนท่าทางอายุเท่าๆกับวิเวียนคือมากกว่าเด็กหนุ่มเล็กน้อยสองสามคน
“พี่วิเวียน..” เรย์ยิ้มนิดๆ ก่อนจะลุกขึ้นมายืนตามปกติ
“รอนานมั้ยเรย์?” วิเวียนหัวเราะแหะๆ
“ไม่เป็นไรครับ พี่วิเวียนชวนทั้งที” เรย์ยิ้ม ก่อนเสียงกรี๊ดจะดังมาจากกลุ่มสาวๆข้างหลังวิเวียน
“อ๊ายยย!! วิเวียน น้องเธอน่ารักจังเลยอ่ะ~! o(>_<)o”
“ใช่ม้า~” วิเวียนยืดอกภูมิใจเต็มที่ ขณะที่เรย์ดูงงๆกะสาวๆพวกนี้เต็มประดา
“สวัสดีครับ เพื่อนของพี่วิเวียนใช่ไหมครับ?” เด็กหนุ่มเอ่ยทักก่อนจะโค้งให้สาวๆนิดๆ ทำเอาเสียงกรี๊ดวี้ดว้ายยิ่งดังนักกว่าเดิม
“ใช่แล้วจ้า~” เด็กสาวผมยาวสีทองยิ้มหวานรับ “พี่ชื่อเจนนะจ๊ะ (^^) ”
“เมเกนจ้า” เด็กสาวผมสีแดงเข้มโผล่มาเบียดเด็กสาวผมทองตกขอบก่อนจะยื่นมือให้เรย์
“อ่ะ..ครับ” เรย์ยังงงไม่หายแต่ก็ยื่นมือไปจับแต่โดยดี
“พี่ชื่อไอรีนนะจ๊ะ” เด็กสาวผมสีม่วงโผล่มากดเมเกนตกขอบไปอีกคนก่อนจะยื่นมือให้เรย์มั่ง
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ.. (‘^^) ”
“เรย์ มานี่แป๊บดิ๊” วิเวียนเอ่ยก่อนจะล็อกคอเรย์ลากไปคุยด้วย
“แง้ว” เรย์เริ่มหายใจไม่ออก พอดีกับที่วิเวียนปล่อยมือ เด็กหนุ่มยืนพักหายใจเหมือนขาดอากาศ
“นี่ๆ พี่เตือนแล้วนะระวังพวกเจนหน่อย เผลอไม่ได้ระวังโดนลากไปนะ” วิเวียนกระซิบพลางมองพวกเจนเป็นระยะ
“ง่า. . .” เรย์เหงื่อตก ‘พวกผู้หญิงนี่..น่ากลัวชะมัดเลย..’
  และแล้วก็เป็นไปตามที่วิเวียนคาดไว้ คลาดสายตาตอนไปซื้อไอศกรีมแปบเดียว เรย์ก็โดนสามสาวลากไปไหนแล้วไม่รู้
“เง้อ บังอาจมากยัยบ้าเจน ยั่งงี้ต้อง..” วิเวียนรีบกดมือถือโทรไปตามตัวคนๆหนึ่งมาอย่างด่วน
“มาแล้ววววว!” นาทีต่อมาอาโนลด์ก็รีบวิ่งหน้าตั้งมาทันที
“ช้าไป! (- -+) “
“อย่าโกรธเลยนะวี่ นะๆๆๆ แอ๊ฟ!!!” อาโนลด์อ้อนก่อนจะถูกหมัดหิมะโปรยของวิเวียนจนกระเด็น
“บอกว่าวิเวียนยังจะมาว่งวี่อะไรอีกยะ” เด็กสาวบ่นขณะลากอาโนลด์ไปตามพื้น
“โอ๊ย! เจ็บๆๆ! ไม่เรียกแล้วๆๆ! ปล่อยก่อนได้ม้ายยย!?”
“ก้อเห็นบอกงี้ทั้งปีอ่ะ ไม่ปล่อยเด็ดขาด ลากไปตามเรย์ทั้งยั่งงี้นี่แหละ!”
“ว๊ากกกก..ก...”
. . .
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น