ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ❖Ⓡoyaℓ Røsënէe Hiɠɦ Schøöℓ ● RP {เปิดรับสมัคร}

    ลำดับตอนที่ #1 : ◆◦ How to play

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 61


    How to Play
    Theme : เนื้อเรื่อง / Slow life / โรงเรียน / ชนชั้นสูง 
    / ยุคเรเนซองส์ Survival

    c0ssette:
“Portrait of Empress Maria Alexandrovna (detail) 1857. Franz Xaver Winterhalter .
”


    ชี้แจ้ง

    บรรดาศักดิ์ด้านล่างเพียงแต่คล้ายกับระบบบรรดาศักดิ์ของยุโรปเท่านั้น ในการเล่นโรลนี้ให้ยึดกฎด้านล่างเป็นสำคัญ

    1. ลำดับของเชื้อพระวงค์ให้เรียงลำดับจากสูงไปต่ำดังนี้

    Emperor > Empress > King/Queen > Prince/Princess

    2. ลำดับยศของขุนนางเรียงตามลำดับชั้นสูงไปต่ำดังนี้

    Duke (ภรรยาของดยุกจะเรียกว่า Duchess)
    Marquess (ภรรยาของมาควิสจะเรียกว่า Marchioness)
    Earl หรือ Count (ภรรยาของเอิร์ลหรือเคาท์จะเรียกว่า Countess)
    Viscount (ภรรยาของไวส์เคาท์จะเรียกว่า Viscountess)
    Baron (ภรรยาของบารอนจะเรียกว่า Baroness) 

         ซึ่งลำดับยศของขุนนางจะต่ำกว่าลำดับของเชื้อพระวงค์ บรรดาศักดิ์เหล่านี้จะถูกแต่งตั้งโดยจักรพรรดิหรือพระราชาของประเทศนั้นๆ ตามความดีความชอบที่ได้ทำมา นอกจากขุนนางทั้งห้าตำแหน่งแล้วยังมีตำแหน่งอื่นๆ ที่ไม่มีบทบาทในสภาลอร์ดอีก เช่น Baronet อัศวิน (ชาย) เดมส์ (หญิง) เป็นต้น

    3. ขุนนางทั้งห้ามักจะถูกเรียกว่า "ลอร์ด" หรือ "เลดี้" แล้วตามด้วยชื่อตำแหน่ง ในขณะที่ขุนนางที่ต่ำกว่านั้นจะเรียกลำลองว่า "เซอร์"

    4. โดยปกติแล้วบุตรชายหรือบุตรสาวของขุนนางชั้นสูงก็มักจะถูกเรียกคำนำหน้าชื่อว่า "ลอร์ด" หรือ "เลดี้" เช่นเดียวกัน แต่ตามด้วยชื่อหรือนามสกุล 

    5. ชื่อตำแหน่งของบิดาหรือมารดา อาจจะเป็นชื่อสถานที่หรือนามสกุลก็ได้

    6. โดยปกติตำแหน่งขุนนางเหล่านี้จะถูกส่งต่อไปยังบุตร เมื่อบุพการีได้สิ้นชีวิตลง แต่ในกรณีที่บุพการีมีตำแหน่งหลายตำแหน่ง สามารถยกตำแหน่งที่ต่ำกว่าให้กับบุตรได้ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่

    7. การส่งต่อตำแหน่งไปยังบุตรสามารถเลือกให้บุตรคนใดก็ได้ เหมือนกับการเขียนพินัยกรรม แต่ในกรณีที่ไม่ได้เลือกไว้แต่บุพการีได้เสียชีวิตลงเสียก่อน ตำแหน่งจะตกเป็นของบุตรชายหรือบุตรสาวคนโต

    8. จะมีการใส่ชื่อลำดับที่ของตำแหน่ง โดยนับจากการแต่งตั้ง

    9. ในการกรอกใบสมัคร หากท่านไม่ได้มียศหรือตำแหน่งทางการเมืองใดๆ แต่มีบุพการีเป็นขุนนาง ให้กรอกในส่วนของยศหรือตำแหน่งว่าเป็น บุตรชาย/บุตรสาวแห่ง (ชื่อตระกูล) แต่หากท่านมียศเป็นเชื้อพระวงค์กรุณาตรวจสอบก่อนว่ามียศซ้ำหรือไม่ที่นี่


    เพื่อความเข้าใจมากยิ่งขึ้นจะยกตัวอย่างตระกูลบาร์ตัน

    วิลเลี่ยม บาร์ตัน เป็นหัวหน้าตระกูลบาร์ตันในขณะนั้นเขามีภรรยาชื่อ "แคทเธอรีน บาร์ตัน" ทั้งคู่มีบุตรชายและบุตรสาวด้วยกันอย่างละคน พี่ชายมีชื่อว่า "จอห์น บาร์ตัน" ส่วนน้องสาวมีชื่อว่า "แมรี่ บาร์ตัน" ต่อมาวิลเลี่ยมได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเอิร์ลแห่งเรมมอนต์ที่สิบ ทำให้แคทเธอรีน บาร์ตันกลายเป็นเคาท์เตสแห่งเรมมอนต์ไปด้วย ส่วนลูกชายและลูกสาวก็ได้รับคำนำหน้าชื่อเป็นลอร์ดจอห์น/ลอร์ดบาร์ตัน หรือ เลดี้แมรี่/เลดี้บาร์ตันไปด้วย โดยคำที่ใช้เรียกจอห์นและแมรี่ไม่ใช่ตำแหน่งทางการเมือง

    ในกรณีนี้ “เรมมอนต์” หมายถึงชื่อตำแหน่งของวิลเลี่ยม โดยเขาได้รับตำแหน่งนี้เป็นคนที่สิบจึงมีชื่อว่าเอิร์ลแห่งเรมมอนต์ที่สิบนั่นเอง โดยสามารถเรียกวิลเลี่ยมว่าลอร์ดเรมมอนต์ได้ ส่วนลูกชายและลูกสาวไม่ได้มีตำแหน่งเหมือนกับวิลเลี่ยม แต่ใช้คำว่าลอร์ดและเลดี้เป็นการให้เกียรติ แทนที่จะเรียกชื่อตรงๆ

    แต่สมมติว่าวิลเลี่ยมไม่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเอิร์ลแห่งเรมมอนต์ที่สิบ แต่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเอิร์ลแห่งบาร์ตันที่หนึ่ง (หมายถึงวิลเลี่ยมได้รับตำแหน่งนี้เป็นคนแรก และชื่อตำแหน่งก็คือชื่อของนามสกุลของเขา) เราก็จะเรียกวิลเลี่ยมว่าลอร์ดแห่งบาร์ตันได้เฉกเช่นเดียวกับเรียกภรรยาของวิลเลี่ยมว่าเลดี้แห่งบาร์ตัน รวมถึงลูกชายและลูกสาวที่จะกลายเป็นลอร์ดจอห์น/ลอร์ดบาร์ตัน หรือ เลดี้แมรี่/แมรี่บาร์ตัน แม้ว่าการเรียกชื่อของวิลเลี่ยมและจอห์นจะเหมือนกัน แต่จริงๆ แล้วบาร์ตันที่พ่วงท้ายชื่อของวิลเลี่ยมเป็นชื่อตำแหน่ง ในขณะที่ชื่อบาร์ตันของจอห์นเป็นชื่อนามสกุลของเขาเอง

    ต่อมาในอนาคต หากวิลเลี่ยมเสียชีวิตลงหรือวิลเลี่ยมได้รับตำแหน่งใหม่ทางการเมือง เขาสามารถยกตำแหน่งเอิร์ลแห่งเรมมอนต์ที่สิบ (หรือเอิร์ลแห่งบาร์ตันที่หนึ่ง) ให้กับลูกได้ หากวิลเลี่ยมไม่ได้ระบุว่าจะยกตำแหน่งให้ใครจอห์นผู้ซึ่งเป็นพี่ชายจะได้รับตำแหน่งไปโดยอัตโนมัติ แต่หากวิลเลี่ยมระบุว่าต้องการยกให้ลูกสาวคนเล็ก ตำแหน่งเอิร์ลแห่งเรมมอนต์ (หรือเอิร์ลแห่งบาร์ตัน) ก็จะตกไปเป็นของแมรี่บาร์ตันทันที หากวิลเลี่ยมยกตำแหน่งให้กับจอห์น จอห์นจะกลายเป็นเอิร์ลแห่งเรมมอนต์ที่สิบเอ็ด (หรือเอิร์ลแห่งบาร์ตันที่สอง) ทันที


    หมายเหตุ : ระบบนี้จะมีผลใช้เฉพาะกับขุนนางทั้ง 5 ขั้นเท่านั้น ไม่สามารถใช้กับเชื้อพระวงค์หรือขุนนางที่มีลำดับต่ำกว่านี้ สำหรับขุนนางที่ลำดับต่ำกว่านี้จะไม่สามารถใช้คำว่าลอร์ดหรือเลดี้ได้ มีชื่อเรียกทั่วไปเหมือนบุคคลธรรมดาเท่านั้น




    นักเรียนสามารถโรลเข้าเรียนเวลาไหนก็ได้ภายในระยะเวลาที่เปิดให้เข้าเรียน
    โดยเงื่อนไขการเรียนและการส่งงานจะเป็นไปตามที่อาจารย์ผู้สอนเป็นผู้กำหนด
    หากนักเรียนโรงเข้าเรียนไม่ทันตามระยะเวลาดังกล่าว โรงเรียนอนุญาตให้ดำเนินการขอเก็บคะแนนย้อนหลังได้
    แต่การเก็บคะแนนนี้ก็ขึ้นอยู่กับอาจารย์ผู้สอน ว่ามีเงื่อนไขหรือความเห็นอย่างไร
    ทั้งนี้หากผู้ปกครองไม่ว่างมาเรียนในช่วงเวลานั้น สามารถฝากผู้ปกครองคนอื่นบอทให้ได้
    โดยข้อตกลงในการบอทให้ปรึกษากันเป็นการส่วนตัวพร้อมแจ้งแก่ระบบคนใดคนหนึ่งด้วย


    Status

    * ในขั้นเริ่มต้น ทุกคนจะได้รับแต้มในการเริ่มต้นสเตตัสคนละ 5 pts.*

    STR = ค่าพละกำลัง จะนำมาคำนวณเป็นค่าโจมตี (ATK)
    DEF = ค่าป้องกัน จะนำมาคำนวณเป็นค่าป้องกัน (DEF)
    VIT = ค่าความแข็งแรง จะนำมาคำนวณเป็นพลังชีวิต (HP)
    AGI = ค่าความเร็ว ไม่นำมาคำนวณ
    แต่จะนำมาใช้ตรวจเทียบความเร็วในการโจมตี

    หมายเหตุ : เมื่อเหตุการณ์ปกติ ค่าสเตตัสเหล่านี้จะไม่ปรากฎ 
    แต่จะปรากฎขึ้นมาเฉพาะตอนที่เรียนเกี่ยวกับการต่อสู้ 
    ตอนที่กำลังฝึกฝนหรือตอนที่กำลังต่อสู้อยู่เท่านั้น

    ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ line png

    การคำนวณค่าโจมตี ป้องกัน และพลังชีวิต

    ATK = STR*5
    DEF = DEF*2
    HP = VIT*10
    AGI = ใช้ค่าเดิมในการตรวจเทียบ

    วิธีการเพิ่มค่าสเตตัส

    วิธีที่ 1 : ได้รับค่าสเตตัสจากการเข้าเรียนในรายวิชาที่มีการสอนให้ต่อสู้ โดยนักเรียนทุกคนจะได้รับค่าสเตตัสเพิ่มขึ้นเท่าๆ กัน

    วิธีที่ 2 : ได้รับค่าสเตตัสจากการออกล่าสัตว์ โดยจะได้รับค่าสเตตัสแบบสุ่มเพิ่มขึ้นตามชนิดของสัตว์ที่ล่าได้

    วิธีที่ 3 : ได้รับค่าสเตตัสจากการฝึกฝนด้วยตัวเองที่ลานฝึก เมื่อนักเรียนฝึกจบจะได้รับค่าสเตตัสแบบสุ่มเพิ่มขึ้นมา 1 pt.

    วิธีที่ 4 : ได้รับค่าสเตตัสจากการฝึกฝนกับพาร์ทเนอร์ที่ลานฝึก เมื่อฝึกจบจะได้รับค่าสเตตัสแบบสุ่มเพิ่มขึ้นมา 2 pts./คน

    วิธีที่ 5 : ได้รับค่าสเตตัสจากการ "ท้าดวล" โดยระบบท้าดวลสามารถท้าได้เฉพาะอาจารย์ที่สอนเกี่ยวกับการต่อสู้ รุ่นพี่และเพื่อนรุ่นเดียวกัน เมื่อการดวลจบลงจะได้รับสเตตัสแบบสุ่ม โดยมีจำนวนแต้มที่จะได้รับแบ่งตามนี้ 
         - ท้าดวลอาจารย์แล้วชนะ : ได้รับค่าสเตตัส +5 pts.
         - ท้าดวลรุ่นพี่แล้วชนะ : ได้รับค่าสเตตัส +4 pts.
         - ท้าดวลเพื่อนแล้วชนะ : ได้รับค่าสเตตัส +3 pts.
         - แพ้การท้าดวลจากทุกคน : ได้รับค่าสเตตัส +1 pt.

    เมื่อเริ่มเปิดเทอม นักเรียนทุกคนจะได้รับสัตว์เลี้ยงเป็นของตัวเองคนละ 1 ตัว
    นักเรียนจะต้องเลี้ยงสัตว์เลี้ยงตัวนั้นไปตลอดจนกว่าจะสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียน
    โดยจะต้องเลี้ยงประหนึ่งเป็นเพื่อนของเรา เพราะในอนาคตนักเรียนจะต้องได้พึ่งพากันอีกมาก
    ทั้งนี้ ค่าสเตตัสของสัตว์เลี้ยงจะใกล้เคียงกับสเตตัสของนักเรียนเอง
    มีเพียงบางค่าที่แตกต่างไป

    ค่าสเตตัสสัตว์เลี้ยง

    ค่าความเชื่อง = มีค่าเต็มที่ 100
    STR = ค่าพละกำลัง จะนำไปคำนวณเป็นค่าโจมตี (ATK)
    DEF = ค่าป้องกัน จะนำมาคำนวณเป็นค่าป้องกัน (DEF)
    VIT = ค่าความแข็งแรง จะนำมาคำนวณเป็นพลังชีวิต (HP)
    AGI = ค่าความเร็ว ไม่นำมาคำนวณ แต่จะนำมาใช้ในการตรวจเทียบความเร็วในการโจมตี

    โดยการคำนวณให้เป็นค่าโจมตี ค่าป้องกันและพลังชีวิต
    จะเหมือนกันกับการคำนวณของนักเรียนเอง

    หมายเหตุ : ค่าความเชื่องจะเริ่มจาก 0 และสามารถเพิ่มค่านี้ได้
    จากการไปฝึกฝนสัตว์เลี้ยงบ่อยๆ ที่ลานฝึกสัตว์เลี้ยง
    โดยการเพิ่มค่านี้จะขึ้นอยู่กับความพอใจของสัตว์เลี้ยง
    (ระบบจะทำการสุ่มให้)


    ผู้เล่นสามารถเดินทางไปตกปลาได้
    ที่ทะเลสาบในป่าทิศเหนือ
    โดยผู้ที่จะสามารถทำการตกปลาได้
    จะต้องมีทักษะในการตกปลาก่อน
    หากท่านไม่มีทักษะในการตกปลา
    สามารถไปเรียนรู้ได้กับอาจารย์สอนวิชาทักษะแห่งชีวิต
    สำหรับผู้ที่มีความถนัดด้านการตกปลาอยู่แล้ว
    ระบบจะถือว่าท่านมีทักษะในการตกปลาแล้ว
    ไม่จำเป็นต้องไปเรียนรู้ทักษะใหม่
    ปลาที่ตกมาได้สามารถนำไปประกอบอาหารได้

    เพื่อความเป็นระเบียบในการโรล
    (แต่ยุ่งยากในการพิมพ์โรล)
    การคอมเมนท์เพื่อโรล ระบบมีข้อกำหนดใน 1 เมนท์ ดังนี้

    - รูปแทนตัวขนาด 150*150
    - ชื่อ
    - ชั้นปี
    - หอพัก
    - สถานที่โรล
    - โรลกับใคร
    - เวลาและวันที่* (กรณีไม่ใช้เวลาสากล**ให้ระบุเวลาด้วย)
    - สเตตัสต่อสู้ (กรณีกำลังต่อสู้อยู่)
    - เนื้อหาการโรล
    - มีการโรลเข้าหรือโรลออกจากสถานที่นั้นๆ 
    (เฉพาะกรณีที่มาจากที่อื่นหรือต้องการไปยังที่อื่น
    กรณีโรลออกจากสถานที่ต้องระบบการเดินทางให้ชัดเจน)

    หากเป็นการโรลเดินทางไปยังอีกสถานที่หนึ่ง
    ระบบจะมีการกำหนดระยะเวลาที่เดินทางไปถึงจุดหมายปลายทาง
    ในระหว่างที่ยังไม่ถึงกำหนดเวลาผู้เล่นจะไม่สามารถโรลไปยังที่อื่นได้
    (แต่สามารถโรลพูดคุยกับคนข้างๆ หรือทำกิจกรรมได้ในระหว่างที่กำลังเดินทางอยู่)

    เช่น

    A ต้องการเดินทางจาก หอกุหลาบ ไปยังหอสมุดกลาง
    ระบบจะแจ้งว่ามีระยะเวลาเดินทางเท่าไหร่
    สมมติว่าใช้เวลา 10 นาที
    หากขณะที่โพสโรลเป็นเวลา 19.12 น.
    แปลว่า A จะถึงที่หอสมุดกลางในเวลา 19.22 น.
    ซึ่งในระหว่างนั้น หาก B ก็โดยสารรถม้าไปพร้อมกับ A
    A ยังสามารถโรลจิบชาหรือพูดคุยกับ B ได้

    เป็นต้น

    โดยปกติระบบจะเป็นผู้บอกเวลาในการเดินทาง
    แต่หากผู้เล่นรีบหรือระบบไม่ว่างสามารถโรลบอกเวลาในการเดินทางได้ด้วยตัวเอง

    หมายเหตุ : การโรลออกจากสถานที่จำเป็นจะต้องระบุว่าจะเดินทางไปที่ไหนต่อ
    โดยจะต้องระบุเส้นทางที่ใช้เดินทางมาให้ชัดเจน
    โดยสามารถดูแผนที่และคำนวณระยะเวลาในการเดินทางได้ที่หน้าหลัก
    ท่านใดที่ไม่ได้คำนวณการเดินทางก็ไม่เป็นไร
    เพราะการเดินทางทุกครั้ง ระบบจะบอกระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางให้อีกครั้ง
    (ยกเว้นในกรณีที่ระบบไม่อยู่ ผู้เล่นสามารถคำนวณระยะเวลาในการเดินทางได้เลยโดยไม่ต้องรอระบบ)

    ยกตัวอย่างเช่น

    A ต้องการเดินทางจากหอโดเวอเรียโน (หอพิราบ) ไปยังหอสมุดกลาง
    ในการโรลจะต้องระบุกว่าจะเดินทางไปตามถนนใดบ้าง
    ซึ่งสามารถไปได้หลากหลายทางขึ้นอยู่กับผู้เล่นเอง

    การโรลเดินทาง : เดินทางจากหอพิราบ > ถนนหลัก > เลี้ยวซ้ายไปยังถนนหอสมุด > หอสมุดกลาง

    เป็นต้น

    *วันที่ : ใช้บอกวันเพื่อไม่ให้สับสน
    โดยระบบจะเขียนวันที่และเวลาสากลไว้ที่หน้าหลัก
    แต่หากผู้เล่นโรลในเวลาส่วนตัวก็สามารถกำหนดได้เอง
    โดยเวลาที่โรลต้องไม่ล้ำหน้าวันที่และเวลาสากล
    วันที่ที่ใช้จะนับเป็นวัน ไม่มีการบอกเดือนหรือปี

    เช่น วันที่ 1 วันที่ 2 / Day 1 Day 2 เป็นต้น

    **เวลาสากล : คือเวลาที่ระบบจะบอกเอาไว้ในหน้าหลัก และทำการอัพเดตเปลี่ยนแปลงเป็นระยะๆ
    ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วระบบจะบอกการอัพเดตเวลาในแชทเพื่อให้เวลาเรียลไทม์มากที่สุด
    แต่หากผู้เล่นคนใดต้องการที่จะโรลในเวลาส่วนตัว (กำหนดเอง) ก็สามารถทำได้
    แต่จะต้องระบุเวลาให้ชัดเจน และไทม์ไลน์เวลาจะต้องไม่แปรปรวน
    มีการวนลูปอย่างที่ควรเป็น
    เมื่อผู้เล่นโรลเหตุการณ์นั้นเสร็จสิ้นภายในเวลาดังกล่าวแล้ว
    สามารถทำการสกิปเวลาได้ โดยต้องระบุในโรลที่จบจากเหตุการณ์นั้นๆ

    ห้าม! ย้อนเวลากลับไปกลับมา หากระบบตรวจสอบพบ
    ท่านจะถูกทำการตักเตือนและมีโอกาสถูกขึ้นบัญชีดำ หากทำบ่อยๆ



    ณ โรลเพลย์แห่งนี้มีกำหนดการเปิดปิดอย่างชัดเจน
    ซึ่งเราประมาณการการดำเนินโรลแห่งนี้อยู่ที่ 3 เดือน
    ทางระบบจะแจ้งไปยังผู้เล่นอีกครั้งเมื่อกำหนดวันเปิดเทอมได้
    หมายเหตุ : เมื่อท่านอ่านวิธีการเล่นจนจบถึงบรรทัดนี้แล้ว เมื่อกรอกใบสมัคร
    กรุณาเขียนสีที่ตัวละครของท่านชื่นชอบลงไปที่ท้ายชื่อตอนเซ็นต์ลงชื่อด้วย
    ★STAR
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×