ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จะรักได้ไหมถ้าหัวใจตรงกัน

    ลำดับตอนที่ #6 : บท 5 วุ่นจนได้

    • อัปเดตล่าสุด 16 ก.พ. 50


    บท 5 วุ่นจนได้

     

    นายคิมอินวอน

    รติส่งเสียงเรียกชายหนุ่มน้อยผู้อาศัย  คิมอินวอนหันมาตามเสียงเรียกของรติ  ด้วยสายตาไม่แยแสนัก

     

    ว่าไงป้าเรียกซะ...

    ฉันน่ะอยากคุยกับนายดีๆ นะแต่พอได้ยินประโยค...ป้า  ทีไรมันพลอยจะทำให้เท้าฉันจะลอยขึ้นทุกทีเลยล่ะ

    เท้าลอย ?”

    คิมอินวอนทำหน้างง  กับประโยคของสาวไทยหน้าซี๊ด 

    ก็แค่ฉันอยากเตะนาย  เธออธิบายสั้นแต่ได้ใจความ

    อยากเตะผม  โถคิดไกลเกินตัวจริงแม่คุณ

    นายมาเมืองไทยสักพักแล้วอยากออกไปเที่ยวไหนไม๊

    อยาก....แต่ต้องระวัง.

    ระวัง.....  เธอสงสัย

    แม่ผมคงไม่อยูนิ่งๆ  หากรู้ว่าผมหายไป  ป่านนี้คงตามหาผมทั่วโซลแล้วมั๊ง

    แม่นายท่าทางจะร้ายนะ

    ความร้ายของแม่น่าจะมาจากความเป็นห่วง  แต่ห่วงแบบนี้ผมไม่เอาด้วย   มันบีบคั้น

    นายก็ยอมเขาซะบ้างสิ   ยังไงเขาก็เป็นแม่นะ

    บางเรื่องก็ยอมได้นะ  บางเรื่องมันก็ไม่ได้

    แล้วเรื่องอะไรที่ไม่ได้

    เรื่องความรัก

    นายแต่งงานโดยไม่มีความรักไม่ได้เหรอ

    ช่าย   ผมไม่สามารถแต่งงานกับใครหากผมไม่มีหัวใจรักให้เธอคนนั้น

    อือ...ฉันมองว่านายน่ะมันตัวร้าย  ท่าทางเจ้าชู้

    เอาอะไรมาตัดสินว่าผมต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้

    รูปลักษณ์ภายนอก

    เห็นผมกวนๆ  เซี้ยวซ่า แบบนี้ถ้าพูดเรื่องความรักผมอ่อนไหวนะ

    เฮ้อ...ไม่น่าเชื่อ  สุ้มเสียงเธอไม่มีทางเชื่อในสิ่งที่เขาพูดแน่นอน

    ป้าพาผมเที่ยวกรุงเทพ หรือเที่ยวเมืองไทยได้ไม๊  มีสถานที่ตรงไหนที่ป้าชอบ

    อือ....ได้...ไว้ว่างๆ จะพาไปแต่ตอนนี้ฉันต้องออกไปข้างนอก

    จะออกไปไหน...ทิ้งผมไว้คนเดียวอีกแล้วนะ

    ปากอย่างนายไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หรอก

    เอ๋ ?”  เขาทำหน้างงเมื่อโดนแขวะ

    อยู่คนเดียวสักพักได้ไม๊ไปไม่นานเดี๋ยวกลับ  ไปส่งต้นฉบับและแวะซื้อของกินนิดหน่อย

    งั้นผมรอนะ  อย่าทิ้งผมไปนานนะป้า  เขาอ้อนคนที่เขาเรียกทุกคำว่าป้าด้วยสายตาแบบนี้ได้อย่างไร

    นายคิดว่าไอ้สายตาแบบนี้จะทำให้ฉันลืมความแค้นลงได้หรือไง  นายแยงกี้ตัวแสบ รติ แอบต่อว่าเขาในใจ

    ไปนะจ๊ะพ่อหนุ่มแยงกี้  เธอแหย่ปมเขาอีกครั้ง

    ทำไมชอบเรียกผมแยงกี้  รู้ไม๊ที่เกาหลีมันคือพวกนักเลงหัวไม้นะ 

    นั่นแหละที่ฉันต้องการว่านาย  อยู่บ้านดีๆ นะถ้าจะออกไปข้างนอก ล็อคบ้านปิดประตูให้ดีนะ

    คุณมีอะไรให้พวกขโมยมันขโมยบ้างล่ะ   เขาแกล้งว่าเธอไม่มีสมบัติมีค่าในบ้าน

    ถ้าผมหิวล่ะ  เขาห่วงปากท้องตัวเองอีกแล้วสงสัยจะติดใจอาหารไทย

    กับข้าวในตู้เย็น   อุ่นทานได้ถ้าหิว  อย่าทำตัวราวกับเป็นเด็ก  ฉันไม่เคยมีลูกอย่าทำตัวเหมือนกำลังจะเป็นลูกฉัน

    ป้าไม่ใช่แม่ผมแต่เป็น....  เขาพูดไม่จบแต่ตีหน้ายั่วยวนเพื่อกวนอารมย์เธอให้ขุ่น  เขาพิศมัยการต่อปากต่อคำกับเธอตั้งแต่เมื่อไหร่นะ

     

    เธอหายลับไปนานแล้วเขาได้แต่เหลือบมองรั่วหน้าบ้านบ่อยๆ  ระหว่างนั้นก็หาอะไรทำแก้เซ็งในบ้านหลังเล็กนี้จะมีอะไรพอให้เขาแก้เซ๊งได้บ้าง  นอกซะจากหนังสือหลายร้อยเล่มบนเชลท์  ซึ่งเมื่อเขามาแรกๆ  เจ้าหนังสือเหล่านี้จะถูกทิ้งกองไว้บนพื้นตามมุมต่างๆ ของบ้านไม่ว่าจะบนโต๊ะทำงานของเธอ  บางเล่มก็ไปวางแหมะยังห้องน้ำ  และอีกหลายต่อหลายที่  เธอทั้งขาดการดูแลตัวเองและขาดการดูแลบ้าน  ถ้าการเป็นนักเขียนซึ่งมีงานซุก  แล้วไม่สนใจดูแลแม้กระทั่งสิ่งแวดล้อมภายในบ้าน  รวมถึงตัวเองแล้วล่ะก้อ  อาชีพนี้คงไม่เหมาะกับเขา  

     

    เขารักความสะอาดความมีระเบียบ  หรือเป็นเพราะว่าเขาถูกทั้งแม่และยายซึ่งเป็นคนไทยสอนให้รู้จักความมีระเบียบ  เขายอมรับว่าไม่ค่อยชอบวิถีชีวิตแม่นักเขียนสาวนี่เท่าไหร่  แต่เมื่อได้สัมผัส  ได้อยู่ใกล้  มองเห็นชีวิตในแต่ละวันของเธอ  เธอคือผู้หญิงสู้ชีวิต  ไม่ว่าจะดูแลค่าใช้จ่ายในบ้าน  ค่าเล่าเรียนน้องซึ่งเธอพึ่งเล่าให้เขาฟังว่าเธอมีน้องสาวกำลังอยู่ในวัยเรียน  พ่อแม่อาศัยอยู่ต่างเมืองหรือที่นี่เขาเรียกต่างจังหวัด  มันทำให้เขารู้ว่าผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่งต้องต่อสู้อะไรบ้างกว่าจะมีวันนี้  ตัวเขาตัวโตซะเปล่า   ทำไมต้องดั้นด้นหนีแม่มาไกลซะถึงเมืองไทยแค่กลัวภาระที่แม่หยินยื่นให้ 

     

    แต่ยังไงอุดมการณ์ก็ต้องดำเนิน  เขามีความฝัน  และกำลังเดินตามความฝัน  แม่เขาหรือใครคงห้ามการเดินตามความฝันของเขาไม่ได้ 

     

    ติ๊งหน่อง ๆๆๆ

    เสียงออดหน้าบ้าน  ปลุกให้เขาหยุดลื้อหนังสือของเจ้าของบ้าน  และเปลี่ยนมาสนใจบุคคลที่กำลังออกหน้าบ้านแทน

    ใครคือแขกผู้มาเยือนหากเป็นเธอ  คงไม่กดออด  แต่นี่น่าจะไม่ใช่เธอ  เขาชะเง้อคอระหงษ์เพื่อมองลอดช่องกระจกหน้าต่าง 

     

    ใครกันนะ  เขาคิดและถามตัวเองในที  แต่ก็เดินไปดูเจ้าของเสียงออดเมื่อครู่

    สาวน้อยวัย Teen กำลังจ้องมองมาที่เขาอย่างแปลกใจ  เพราะตัวเขาคงไม่ใช่จุดหมายที่เธอจะมาหา

    แขกผู้มาเยือนหน้าตาละหม้ายคล้ายใครที่เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ แต่ไม่แน่ใจเพราะลักษณะต่างกันลิบลับ  เธอดูหน้ารัก สดใส  ปราดเปรียว  ผิดกับคนที่เขากำลังนึกถึง

     

    ขะ....ขอโทษนะคะคงมาผิดบ้าน  เมื่อแขกผู้มาเยือนชักไม่แน่ใจว่ามาถูกบ้านเพราะเธอจำได้แม่นว่านี่คือบ้านเธอ  เธอเคยอาศัยอยู่กับพี่สาวและพ่อแม่  ก่อนที่จะย้ายไปอยู่อพาร์ทเม้นท์กับเพื่อนๆ  ส่วนพ่อแม่ย้ายออกไปอยู่ต่างจังหวัด

    คุณมาหาใครฮะ

    พูดไทยไม่ชัดแบบนี้ต้องไม่ใช่คนไทยแน่ๆ แต่ขอบอกหล่อ เท่  เป็นบ้าเลย  อย่างนี้ต้องทำความรู้จักถึงแม้จะมาผิดบ้านก็เถอะยัยนิแกจะเสียโอกาสไปไม่ได้เด็ดขาด 

    เธอหันกลับไปพูดคนเดียว  แล้วหันกลับมาปะทะใบหน้าหล่อเหลาของเขาอีกครั้ง

     

    ขะ...ขะ...ขอโทษนะคะคือหนูจำได้ว่าบ้านหลังนี้เคยเป็นบ้านพี่สาว  แต่ถ้ามาผิดบ้านต้องขอโทษด้วย  เธอโค้งคำนับเป็นการขอโทษ คิดว่ายังไงชายหนุ่มซึ่งอยู่ตรงหน้าคงจะอาวุโสกว่าเธอแน่นอน

    พี่สาว

    ใช่ค่ะพี่สาว  พี่สาวหนูเขาอยู่ที่บ้านหลังนี้

    เขาชื่อชื่ออะไรฮะ

    ชื่อรติค่ะ  เป็นนักเขียน

    รติ  เป็นนักเขียน  เขาทำท่าครุ่นคิดและร้องอ๋อออกมาในที่สุด

    อ๋อ....โป๊ะเชะรู้ฮะรู้  แหะๆๆ  เขาคือเจ้าของบ้านหลังนี้เองฮะ  เขาตีดนิ้วเสียงดังเปราะบอกให้รู้ว่าเขารู้จักเจ้าของบ้านที่เด็กสาวพูดถึง

     

    รู้จักหรือคะ  งั้นบอกหนูได้ไม๊เธอย้ายไปอยู่ที่ไหน   ?.

    เธอไม่ได้ย้ายไปไหนหรอก  ออกไปข้างนอก

    ออกไปข้างนอก  ก็แสดงว่าเธอยังอยู่ที่นี่บ้านหลังนี้

    อือฮึ  เขาพยักหน้าบอกเธอ

    ถ้า....นี่คือบ้านของพี่สาวหนูแล้ว...คุณ...คือใคร  นิธินันท์เริ่มไม่ไว้ใจคนหน้าหล่อซึ่งกำลังยืนคุยอยู่กับเธอซะแล้ว

    หรือว่า...คุณเป็นขโมยหรือ  เธอทำท่าจะร้องให้คนช่วย

    ชะ...ช่วยด้วย  ยังไม่ทันที่เธอจะร้องปากเธอก็โดนมือใหญ่ปิดสนิทเพื่อไม่ให้ส่งเสียงออกมา

    เดี๋ยว....หยุดๆๆ ผมไม่ใช่ขโมย  ผมเป็นเพื่อนพี่สาวคุณมาขออยู่ด้วยชั่วคราว

    อือๆ  อู้  อี้  เธอส่งเสียงอู้อี้เพราะถูกมือเขาปิดปากให้เงียบจากการส่งเสียงแสบแก้วหู

    อ่อย...  เธอบอกให้เขาปล่อย

    หา...ว่าไรนะอ่อยๆ  เหรอ  เขาแกล้งฟังไม่รู้เรื่อง  แต่เขาก็ปล่อยเธอให้เป็นอิสระ

    ไม่เชื่อ  คนอย่างพี่สาวฉันจะมีเพื่อนผู้ชายหน้าตาแบบนี้มาอยู่ด้วยเขาไม่เห็นบอกหนูเลย   และอีกอย่างเจ้าหล่อนถือเรื่องเพศตรงจะตายมีหรือที่เจ้าหล่อนจะพาผู้ชายมาอยู่ร่วมชายคาเดียวกันขนาดแฟนเขายังไม่มีโอกาสเลย   คุณอย่าคิดว่าหน้าตาดี  พูดไทยไม่ชัด  ฉันจะเชื่อ

    ผมพูดความจริง  ถ้าเธอไม่เชื่อก็โทรถามพี่สาวเธอสิ

    โทรแน่  เธอหยิบโทรศัพท์มือถือโทรหาพี่สาวเพื่อยืนยันเรื่องที่นายสุดหล่อนี้บอกกล่าวกับเธอ

    เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ดรุณาฝากข้อความไว้แล้วจะโทรกลับไป  นั่นคือเสียงตอบจากโทรศัพท์มือถือของรติ

     

    ยัยพี่รติ  ทำไม่ปิดเครื่องซะล่ะ  นิธินันท์ติดต่อพี่สาวไม่ได้  เปลี่ยนแผนใหม่ ในเมื่อไม่สามารถติดต่อพี่สาวได้ก็เปลี่ยนมาสืบสวนนักโทษหน้าหล่อนี้แทนละกัน

    นาย...คือนาย  แบบว่านายน่ะเป็นใคร  เธอเริ่มติดอ่างขึ้นมาซะดื้อๆ

    ผมรึ.....?”  เขาชี้เข้าหาตัวเอง

    เรื่องมันยาว...รอให้เจ้าป้านักประพันกลับมาละกันเขาคงจะเล่าให้เธอฟังได้

    ว่าแต่ว่าเธอเป็นน้องสาวของยัยป้าผีดิบ  เฮ้ย คุณรติจริงๆ เหรอ

    ใช่...และก็แน่นอนที่สุด

    เธอดูไม่เหมือนหล่อนเลย

    ทำไมฉันสวยต่างกับเขามากหรือไง  ทำให้นายไม่เชื่อว่าฉันเป็นน้องสาวของเขา

    ก็ทำนองนั้น

     

    เฮ้ย...เขาบอกว่าเราสวย  ว๊าย  ยัยนิเอ้ย  มีชัยแล้ว  เธอกำหมัดแสดงความยินดีกับตัวเองอยู่เงียบขณะหันหลังให้เขา

     

    พี่สาวฉันดูแย่มากหรือ

    อือ...

    แล้วเคยว่าเขา  คำว่าผีดิบต่อหน้าเขาไม๊  เธอซักเขาต่อเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้มีจิตพิศวาสพี่สาวเธอ  หากพี่สาวเธอกลับมาจะสอบถามความจริงให้หมด  ถ้าเขาและพี่สาวเธอเป็นเพื่อนกันจริงๆ เธอก็จะลุกคาด

     

    พี่สาวฉันหายไปไหน

    บอกว่าจะออกไปทำธุระนี่ก็หายไปสัก 2 ชั่วโมงแล้วมั๊งป่านนี้ยังไม่กลับ

    แล้วนาย....ฉันหมายถึงว่านายชื่ออะไร   ในที่สุดเธอก็จู่โจมด้วยการถามชื่อก่อนตามรูปแบบสาวมั่นหัวสมัยใหม่ซึ่งไม่ยอมปล่อยโอกาสดีๆ ให้หลุดลอย  และดูเหมือนเธอจะปลื้มเขามากมาย

     

    ผมหรือฮะ

    อือฮึ...นายนั่นแหละ

    ผมคิมอินวอนฮะ

    หนูชื่อนิธินันท์นะ  หรือจะเรียกนิก็ได้  มันคือชื่อเล่นของหนูซึ่งคล้องจ้องกับรติ พี่สาวของหนู

     

    ชื่อเพราะจังเลย  เธอทำหน้าชวนฝันเมื่อทราบชื่อเขา  แต่จริงๆ แล้วเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าความหมายของชื่อเขาคืออะไร  รู้แต่ว่าตอนนี้วัยรุ่นไทยคลั่งไคล้หนุ่มเกาหลีเอามากๆ  ถือว่าเธอโชคดีที่ได้เจอหนุ่มเกาหลีอย่างชิดใกล้แบบนี้  ถึงแม้เขาจะไม่ใช่ดาราดังมาจากไหน  แต่หน้าตาอย่างเขายิ่งกว่าดาราที่เธอเคยดูในซีรี่เกาหลีซะอีก

     

    ยัยพี่สาวสุดแสบเอ้ย  ไม่คิดจะบอกกันสักนิดว่ามีเพชรอยู่ในบ้าน  รู้อย่างนี้มาตั้งนานแล้ว กลับมาจะซักให้เข็ด  เธอคิดในใจเงียบๆ คนเดียว

     

    รติ    กลับมาเมื่อเวลาล่วงไปราวๆ 4 ชั่วโมงเศษ   หลังจากหายออกไปทิ้งให้เขาอยู่คนเดียวในบ้าน  เป็นห่วงอยู่บ้างเล็กน้อย  แต่ก็วางใจ  เธอได้ยินเสียงคนคุยกันในบ้าน  ทั้งๆ ที่ก่อนออกไปเขาอยู่คนเดียว  รติเดินเข้าไปใกล้เสียงสนทนานั้น  ประตูบ้านถูกเปิดไว้เมื่อเข้าไปฟังใกล้ๆ  ได้รู้ว่า   เสียงที่เธอได้ยินแจ๋นๆ   เริงร่านั้นคือเสียงน้องสาววายร้าย 

     

    ยัยนิ  ใช่ยัยนิไม๊

    นิธินันท์  หันไปตามเสียงเรียกนั้น  เธอลุกพรวดจากโซฟา  ปรี่เข้าหาพ่สาวทันควัน  เพื่อเคลียร์เรื่องสำคัญตรงหน้า  เธอลากพี่สาวออกมายังสวนย่อมเล็กๆ หน้าบ้าน  ผลักให้นั่งลงตรงม้านั่งไม้

    มานี่เลยพี่สาวตัวดี  พาใครมากักขังไว้ในบ้าน

    กักขังอะไร  พูดบ้าๆ

    ไม่บ้าล่ะ

    ทำไมในเมื่อแกคุยกับเขาซะหัวเราะร่วนแบบนั้นน่าจะรู้เรื่องหมดแล้วนะ

    ยังเลย  เราคุยกันเรื่องไร้สาระเฉยๆ ไอ้สาระน่ะยังไม่ได้คุยสักนิด

    บอกมาเขาเป็นใครมาจากไหน  มาทำอะไรที่นี่  ถ้าไม่บอกจะฟ้องพ่อกับแม่

    ฟ้อง...ฟ้องเรื่องอะไร

    ก็ฟ้องเรื่องที่พี่พาผู้ชายมาอยู่ด้วย

    ทำไมฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเขา  และก็ไม่มีอะไรกันด้วย

    ก็...ก็นั่นแหละเขาเป็นผู้ชาย  หล่อซะด้วย...  หน้าตาชวนฝันของเธอบอกให้รู้ว่าจริงๆ ไม่แค้นเคืองอะไรพี่สาวเลยซักนิด

    อ๋อ....ฉันรู้แล้วที่ต่อว่าฉันปาวๆ เนี่ย  แค่อยากรู้ว่าเขาเป็นใคร  และเกี่ยวข้องอะไรกับฉันว่างั้น  รติ รู้ทันน้องสาวจอมเจ้าชู้  เพราะเจ้าหล่อนเห็นผู้ชายหน้าตาดีไม่ได้โรคเจ้าชู้กำเริบ

    ทำนองนั้นแหละ  บอกมาสิพี่ฉันอยากรู้   หล่อๆ อย่างนี้หลุดมือไปให้คนอื่นเสียดายตายเลย

    นี่ยัยนิ  แกน่ะยังเรียนไม่จบ  ยังเด็กเกินกว่าจะมาคิดเรื่องไล่จับผู้ชาย  ไอ้ที่ควงๆ อยู่บริหารให้ดีเถอะ ระวังรถไฟจะชนกัน  ประชาชนจะบาดเจ็บล้มตาย

    แหม ## พี่ก็พูดเกินไปพวกนั้นก็เอาไว้ควงเล่นแก้เหงา

    ระวังไอ้ที่ว่าแก้เหงา  มันจะสลัดไม่หลุด

    พอ...เอาเรื่องนี้  เรื่องคนที่อยู่ในบ้านคนนี้ 

    ฉันไม่มีอะไรจะบอก  แกอยากรู้ไปถามเขาเอง  ฉันไม่ว่างกับเรื่องไร้สาระ

    งั้นเอางี้  ต่อไปนี้ฉันจะมาหาพี่บ่อยๆ

    มาหาฉัน  มีแผนล่ะสิ

    เปล่าแค่อยากมาดู....แล...พี่สาวผู้เดียวดาย  ไร้แฟน

    ไม่ต้องเอาฉันเข้าไปเอี่ยว  ระวังเจ้าคนที่กำลังควงกันอยู่มันจะเล่นเอา  ท่าทางนักเลงไม่เบานี่นา

    กำลังโล่ะ  ค้างหต๊อกนานไม่อร่อย

    พูดถึงผู้ชายยังกะของว่าง  หิวเมื่อไหร่ก็เอาออกมาทาน

     

    รติ  ต่างกับน้องสาวโดยสิ้นเชิง  น้องสาวเปรี้ยวบาดใจ  เซี้ยว  ซ่า สดใจสมวัย  หน้าตาดี  ชอบงานรื่นเริงสังสรร  เกลียดความเงียบ  รักความสนุก  บริหารเสน่ห์เป็นงานอดิเรก 

     

    เธอส่งสายตาเปี่ยมด้วยความหวังให้คิมอินวอน  เขายิ้มตอบ  เพราะไม่เข้าใจว่าสองพี่น้องกำลังคุยเรื่องอะไร  อาจจะพูดถึงเขา  แต่ไม่ใส่ใจว่าเรื่องดังกล่าวคือเรื่องอะไร 

     

    พี่รติ  ขออะไรได้เปล่า 

    นิธินันท์พยายามขออะไรบางอย่าจากเธอ    เมื่อรู้จากปากพี่สาวว่าระหว่างพี่สาวกับเขาไม่เกี่ยวข้องเป็นอะไรกัน  การยืนยันนี้ถือว่าเปิดทางให้เธอสานความต้องการของตัวเองได้

    ขออะไร

    ขอมาบ้านบ่อยๆ

    มาทำไม  รติรู้ทันน้องสาวตัวแสบ

    มาหาคิมอินวอนไง  ฉันหลงรักเขาแล้วล่ะ

    หา....แค่ไม่ข้ามนาทีแกพบกับเขานี่นะบอกว่าหลงรัก..  รติตีเสียงสูง

    เบาๆ  เดี๋ยวเขาได้ยิน  ไอ้พี่บ้า 

    ฉันล่ะเอือมกับอารมย์แกซะจริงๆ เลยนะ

    ถ้าไม่ยอมตามที่ฉันขอ  ฉันจะฟ้องพ่อกับแม่   นิธินันท์ ขู่พี่สาวเพราะเธอกำลังกุมความลับของนายคนนี้

    เชิญแกตามสบายจะมาวันไหนเวลาไหนก็เชิญ   ขออย่างเดียวอย่านำความเดือดมาให้ฉัน  ฉันไม่ได้กลัวว่าแกจะฟ้องพ่อกับแม่นะ

    แล้วกลัวอะไร

    กลัว....กลัว

    อะไร อ้ำอึ้งทำไม กลัวอะไรจ๊ะ

    กลัวแกจะเผลอใจให้เขาจนกู่ไม่กลับ  แกดูเขาสิท่าทางนักเลงจะตาย

    นั่นแหละสเปคฉันเลย  เธอตีหน้าเหมือนกำลังตกอยู่ในความฝัน

    แล้ววันน้แกจะค้างที่นี่หรือเปล่า 

    ค้างไม่ได้  พรุ่งนี้มีเรียน  อยากค้างใจจะขาด

    ดี...ที่ยังห่วงเรื่องเรียนมากกว่าเรื่องผู้ชาย

    แหม...แยกแยะออกน่า  รู้ว่าพี่สาวเหนื่อยกับการหาเงิน

    รู้บ้างก็ดี

    นี่ก็เย็นแล้ว...ฉันจะกลับล่ะ

    กลับดีๆล่ะ

    จ๊า  ที่สำคัญฝากดูแลดวงใจ  ดวงนี้ของฉันด้วยนะ  สมภารห้ามกินไก่วัดเด็ดขาด

    โอ้ย  ไก่เกาหลีเนี่ยฉันกินไม่ลงหรอกยะ  เชิญแกปลื้มของแกไปคนเดียวเถอะ ฉันไม่เอาด้วยหรอก

    งั้นฉันขอไปจูบลา  เอ๊ย  ไปล่ำลาเขาก่อนนะ

    เออ...ตามสบายอย่าให้ถึงกับสำลักตายล่ะ

    นิธินันท์  ตรงไปยังคิมอินวอน ซึ่งนั่งดูทีวีอยู่ภายในห้องรับแขก

    คิมอินวอน  เธอกรีดเสียงออดอ้อนแบบเด็กวัยรุ่นวัยใส

    ฮะ  เขาเปลี่ยนอริยาบทละสายตาจากดูทีวี หันกลัมาคุยตอบรับกับนิธินันท์แทน

    นิ   กลับก่อนนะวันนี้ไม่ได้อยู่คุยกับคุณเลย  เสียดายมาก  อยากจะอยู่ด้วยทั้งคืนทั้งวันเลย

    ฮะ ฮะ  แล้วเจอกันนะฮะ  เสียงทุ้มนุ่มนวลกับเธอต่างจากเวลาคุยกับรติ 

    แล้วนิ   จะมาเยี่ยมบ่อยๆ นะคะ   หวังว่าคงจะคิดถึงนิบ้างนะ  ถ้าอยู่กับป้าผีดิบแล้วเบื่ออยากไปหานิบอกได้นะ  นิจะพาไปเที่ยวตามประสาวัยรุ่น

    ฮะ  คำตอบของเขายังคงมีแต่คำนี้เท่านั้น เพราะเขาไม่นึกว่าสองสาวพี่น้องจะต่างกันสุดขั่ว 

     

    หลังจากนิธินันท์  หายไปเมื่อนำพาความป่วนมาสู่บ้านซึ่งเปี่ยมไปด้วยความเงียบ  รติ หวาดกลัวอยู่อย่างเดียวเมื่อน้องสาวพบเจอเพื่อนๆ  ซึ่งเพื่อนของน้องสาวเธอกลุ่มนี้ค่อนข้างบ้าวัฒนธรรม  รวมทั้งหนุ่มเกากลี    สิ่งที่ร่วมกันปิดบังไว้เกี่ยวกับตัวเขาอาจจะถูกเปิดเผยโดยไม่ตั้งใจ 

     

    หากที่เขาบอกว่าแม่เขาหูตายังกับสัปรด  ไม่นานนักอาจจะล่วงรู้ได้ว่าลูกชายอยู่กับเธอ  เธอภาวนาขอให้น้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับตามที่เธอขอไว้

     

    ไงคะ  คุยกับน้องสาวฉันเพลินเลยสิ

    ฮะ น้องสาวป้าน่ารัก  คุยสนุก ผมอยู่ใกล้เธอใจยังสั่นไม่หาย

    ผู้ชายก็อย่างนี้แหละเห็นเด็กผู้หญิงเป็นไม่ได้

    คือ...มันดีกว่าเห็น...อะไรป้าๆ  แก่ๆ เดินวนไปเวียนมา  ทำให้อารมย์ทางเพศพาลจะเสื่อมให้ได้

    เอาอีกแล้วนะ  เปิดสงครามอีกแล้วนะ 

    สงครามระหว่างเรามันไม่มีทางยุติง่ายๆ หรอกคุณป้า

    ไม่รู้วันนี้...ฉันไม่มีอารมย์จะต้อล้อต่อเถียงกับนาย

    ผมปลุกอารมย์ให้เอาไม๊  ผมถนัดนะ

    ทะลึ่ง  !!!”   รติ  ดุเขาด้วยสายตาแล้วเดินหายเข้าไปในห้องนอนของตัวเองเพื่อหยิบผ้าเช็ดตัวแลเพื่อชำระร่างกาย

    อาบน้ำฉีดน้ำหอมให้หอมๆ นะเผื่อผมจะมีอารมย์บ้าง

    รติ   เชิดใส่หน้าเขาพร้อมขยับแว่นหนา   คือสัญญาให้รู้ว่าเธอไม่ใส่ใจและไม่แยแสต่อสายตาเย้ายั่วและปากมอมๆ ของเขาเลยสักนิด  ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วบางครั้งเธออดจะไหวหวั่นไม่ได้เมื่อได้ยินคำยั่วยุแกมทะเล้นจากเขา  เพราะเมื่อก่อนเธอเคยเจอผู้ชายแบบนี้ซะที่ไหนกัน

     

    นิธินันท์กลับไปรายงานเพื่อนๆ  เพื่อสาทยายถึงใครคนหนึ่งที่พบมาจากบ้านพี่สาว  เธอทั้งชื่นชอบ  เพ้อฝันละเมอ  ถึงเขารอให้ถึงเช้าเพื่อจะอวด  และเล่าให้เพื่อนฟัง   เธอนัดเพื่อนหลังเลิกเรียนที่ร้านไอศครีมร้านเดิมเจ้าประจำมันคือแหล่งรวมวัยรุ่นของคนกรุง   ต่อไปนี้ความลับ  จะไม่เป็นความ  เมื่อสาวๆ  รับรู้เรื่องของเพศตรงข้ามอันหล่อเหลา  หน้าตาอินเทนด์  จากแดนกิมจิ 

     

    พวกแกฉันมีเรื่องสุดปลื้มมาเม้าส์  นิธินันท์เริ่มแฉกับเพื่อนๆ

    อะไรของแกยัยนิ  ดูแววตาแกสิมันฝันมากเลยนะยะ  เพื่อนสาวคนหนึ่งแสดงความคิดเห็นขึ้นมา

    แฉมาสิว่าแกไปเจออะไรตื่นเต้นมา  บ้านพี่สาวแกมีอะไรวะนอกจากหนังสือ  ต้นไม้เหี่ยวๆ  เพื่อนอีกคนหนึ่งเสริมต่อ

    ที่ผ่านมาอาจจะไม่มี  แต่เมื่อวานมันมี   เธอทิ้งเรื่องให้เพื่อนสงสัยหนัก

    อะไร....ก็รีบเล่าซะทีสิ  เพื่อนคนเดิมชักหงุดหงิดกับแววตาท่าทางเพ้อๆ ของเพื่อนสาว

    หนุ่มเก่าหลี....

    หา. !!! .หนุ่มเกาหลี  ##  พี่สาวนักเขียนของแกมีแฟนเป็หนุ่มเกาหลีเหรอ   เพื่อนสาวทั้งสี่ของนิธินันท์ร้องเสียงหลงผสมความตื่นเต้นเมื่อรู้ข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องชายหนุ่ม

    ไม่ใช่แฟน  พี่สาวฉันไม่ได้เป็นแฟนกับเขา  เธอว่าพร้อมยิ้มกว้าง

    อ้าว.....แล้วไม่เป็นแฟนกันอยู่บ้านเดียวกันได้ไง  เพื่อนคนหนึ่งเปรยขึ้น

    เอางี้เดี๋ยวฉันเหลาให้ฟัง  นิธินันท์เริ่มเล่าเหตุการณ์เมื่อวานซึ่งไปพบกับชายหนุ่มแดนโสมโดยบังเอิญพร้อมโชว์รูปถ่ายในมือถือซึ่งแอบถ่ายเขาไว้โดยที่เขาไม่รู้ตัว

    เฮ้ย !!!  ที่แกเล่ามาทั้งหมดมันเรื่องจริงเหรอวะ  เพื่อนสาวคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัยหลังจากฟังเรื่องจบพร้อมเสียงเพื่อนสาวคนอื่นเพื่อเป็นการสนับสนุนความคิดเพื่อนผู้เสนอ

     

    เรื่องราวที่สาวกลุ่มนี้กำลังให้ความสนใจกลับไปอยู่ในความสนใจของคนแปลกหน้าซึ่งนั่งอยู่อีกมุมหนึ่งระยะไม่ห่างกันนักจากโต๊ะก๊วนสาวกลุ่มเสียงแจ๋นๆ นั้น  ต่อไปนี้ความลับจะไม่เป็นความลับอีกต่อไป  เมื่อถูกเปิดเผยโดยไม่ตั้งใจของบรรดาสาวๆ คำสั่งรติ  ไม่มีความหมายเลยเมื่อกำชับน้องสาวจอมเฮี้ยวห้ามพูดกับใครเกี่ยวกับเรื่องนี้  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×