ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จะรักได้ไหมถ้าหัวใจตรงกัน

    ลำดับตอนที่ #4 : บท 3 เสือสองตัว

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.พ. 50


    บท 3 เสือสองตัว

     

    เมื่อเสือจากแดนโสมโคจรมาพบกับเสือตัวเมียแห่งแดนสยาม  สิ่งไม่คาดคิดมักจะเกิดขึ้น  การก่อตัวของสงครามประสาทระหว่างสองประเทศซึ่งก่อตัวขึ้นตั้งแต่เมื่อแรกเจอ    ไม่รู้ว่าสองคนนี้เคยโกรธเคืองกันมาชาติปางค์ใดจึงห่ำหันเชือดเฉือนอารมย์ถึงพริกถึงขิงตั้งตาวันแกรที่พบกัน

     

    เธอชิงลงมือกับนายแยงกี้ก่อนถือว่าได้เปรียบเพราะคู่ต่อสู้ยังไม่ทันตั้งตัว  ชิงลงมือก่อนย่อมมีสิทธิ์ชนะ  เธอรัวหมัดเข้าใส่ที่ไหล่และลำตัวเขาราวนักชกมืออาชีพขยันออกหมัด  เพื่อสั่งสอนความปากดีของเขา 

     

    โอ้ย....ๆๆ ...ป้าผมเจ็บนะ...ทำร้ายผมทำไมเนี่ย....

    นี่แนะ...ว่าฉันดีนัก  คำก็ป้า สองคำก็แว่น  สามคำก็ผีดิบ

    แล้วมันจริงไม๊ล่ะยอมรับตัวเองซะป้าเป็นอย่างที่ผมพูดจริงๆ

    คิมอินวอน  ปัดป้องตัวเองจากกำปั้นเรียวเล็กนั้นพลางวิ่งหนีเอาตัวรอดไปรอบห้องรับแขกเล็กๆ ภายในบ้าน  เมื่อเขาสบโอกาสที่จะหนีจากเงื้อมือมัจจราชหน้าซี๊ด  เขาตบมาด้านหลังเธอทันที  เขาใช้สองมือใหญ่รวบข้อมือเล็กทั้งสองเธอแล้วผลักแผ่นหลังเธอให้เดินไปส่องกระจกเงาบานใหญ่เพื่อดูสาระรูปซี๊ดเซียวไร้สีสันความสดใสแห่งวัยสาว  

     

    ร้ายไปกว่านั้นเขายังรวบใบหน้าซี๊ดเผือดเธอไว้ในมือหนาของเขาให้เธอดูหน้าเธอเองชัดๆ  เธอจะได้รู้และสำนึกว่าตัวเองไม่ต่างอะไรกับผีดิบตายซาก  เธอพยายามดิ้นดุกดิกให้พ้นมือใหญ่นั้นแต่ไม่เป็นผลเขาแข็งแรงราวนักกล้าม หรือนักกีฬา  การดิ้นรนของเธอจึงไม่เป็นผล 

     

    นี่ดูซะ  ดูป้าสิสภาพเหมือนอะไร  ใช่อย่างที่ผมบอกไม๊  จะหาว่าผมโกหก ดูซิผมยังกะรังนก  แว่นอันนี้ให้ประทานให้มามันช่างทำให้คุณขี้เหร่ได้ดีจริงๆ แล้วนี่อีกใบหน้ามอมแมม  เคยดูแลมั่งไม๊เนี่ย  หรือวันๆ เอาแต่หมกตัวหน้าคอมพิวเตอร์และหนังสือร้อยๆเล่ม   ผ่อนคลายมั่งเธอป้า  ชีวิตมีอะไรให้คิดมากกว่านั่งเจ่าไร้สติแบบนี้

     

    รติ  มองเห็นตัวเองในกระจกเงา  เธอยอมรับว่ามันเป็นจริงอย่างที่เขาบอก  แต่จะให้ยอมรับง่ายๆ เสียศักดิ์ศรีตาย  ก็เธออกหักนี่นา  มันก็หมดแรงหมดกำลังจะกลับมาดูแลตัวเองให้สวยสิ 

    ความพยายามจะดิ้นให้หลุดจากมือยักษ์นั้นเริ่มเป็นผลเมื่อเขาเริ่มคลายมือให้หลวมและยอมปล่อยเธอให้หบุดจากการเกาะกุม 

     

    ปล่อยฉัน...อย่ามายุ่งกับฉัน  ไอ้เด็กปากสุนัข   หนอยแนะ....นายน่ะมันก็แค่เด็กตัวแสบไม่มีรังนอนยังจะซ่าไม่รู้ที่รู้ทางอีก  ยังมีหน้าปากดีกับเจ้าของบ้านอีก....ฟังนะฉันจะเป็นยังไงมันเรื่องของฉัน  นายน่ะทำตัวให้ดีๆ ละกันปากดีๆ  แบบนี้เดี๋ยวฉันจะเรียกตัวผู้ปกครองมาจับตัวกลับไปซะหรอก  รติ  หอบแฮกเมื่อด่าเขาจบ

     

    พูดแบบนี้แสดงว่าไม่ยอมรับละสิ...ยัยป้าผีดิบ  เขาลอยหน้าลอยตายั่วยุเธอเข้าไปอีก

    ฉันจะเป็นยังไงมันเรื่องของฉัน  หนักส่วนใหญ่ของนายฉันไปใส่แว่นนั่งบนบ่านายหรือไง

    หนักลูกกะตา  เขาว่าพลางชี้ไปที่ตาของเขา

    ถ้านายไม่หยุดฉันจะไล่นายออกไปนอนนอกบ้าเดี๋ยวนี้แหละ  เธอไม่พูดเปล่าเดินไปหยิบกระเป๋าเขาเตรียมโยนออกจากบ้าน

    นี่ๆ คุณจะทำอะไรอยาแตะต้องของๆ ผม  วางที่เดิมเดี๋ยวนี้เจ้าป้าผีดิบ

    ก็จะโยนออกนอกบ้านน่ะสิ....เก็บไว้ก็รกบ้านแล้วเดี๋ยวจะไล่เจ้าของกระเป๋าออกไปด้วย

    จะฆ่าผมให้ตาย....ผมก็ยังยืนยันว่าคุณคือป้าผีดิบและอีกอย่างผมจะอยู่ที่ไม่ไปไหน  เขาคว้าประเป๋าเป้จากมือเธอทำให้ตัวเธอเซถลาเข้ามาเกือบแนบชิดกับอกกว้างเขา

    ว๊าย...  ระติร้องเสียงหลงเมื่อตัวเธอเกือบปะกับเขา 

    ต่างคนต่างจ้องตาตะลึงตกอยู่ในความเงียบชั่วครู่ แต่คนที่สติกลับมาก่อนคือนายคิมอินวอน 

    ยัยป้าถอยไปเลยนะ...อย่าเข้ามาใกล้ผม  ผมกลัว  เขารีบผละตัวให้ห่างจากเธอ

    นี่ฉันอยากเข้าใกล้นายตายเลย

    ผมกลัวผีดิบหลอก  อย่าเข้ามานะ..ผมกลัวแล้ว  เขาแกล้งทำท่าหวาดกลัวและแกล้งทำตัวสั่นงันงก

    หยุดนะ....พอซะทีกับไอ้ท่าที่ทุเรศๆนั้น  นายมันกวนประสาทฉันไม่หยุดหย่อน ทำไมนะชีวิตฉันมันก็สงบเงียบแท้ๆ พอนายเข้ามาทำไมมันยุ่งยากวุ่นวาย  ไม่มีเวลาต่อล้อต่เถียงกับนาย

    ไม่กล้ายอมรับความจริงล่ะสิ  เขายังยั่วยุไม่เลิก

    ผมจะบอกอะไรให้เอาไม๊ยัยป้าผีดิบ    

    บอกอะไร   น้ำลายอย่างนายฉันไม่จำเป็นต้องฟัง

    นักเขียนหรือนักประพันที่ดีไม่จำเลยที่จะต้องอ่านหนังสือกองโต  แต่งตัวโทรมซี๊ด    มันมีอะไรที่จรรโลงเพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างงานเขียนมีคุณภาพขึ้นมาได้

    ช่างฉัน  สไตล์ใครของใครก็ของมันเลียนกันได้ที่ไหน  ที่นานว่าปาวๆ อยู่นี่มันก็คือตัวฉัน  ไม่หนักหัวใครจำไว้  เลิกยุ่งกับฉันเราต่างคนต่างอยู่

     

    ยัยป้าลองศึกษานักเขียนคนอื่นเขาบ้างนะ  มันจะดีกว่าทำตัวแห้งแล้งไร้ชีวิตชีวาแบบนี้

    หยุดๆ  หยุดพล่ามถ้าไม่อยากโดนอีก  เธอโปกมือห้ามทัพสงครามน้ำลาย

    เก็บคำพูดของซึ่งอาจจะอ่อนวัยกว่านิดหน่อยกลับไปทบทวนเผื่อจะทำให้คุณสำนึกบ้าง.... ดูตัวอย่างพี่แพมสิ....สวยใส  โฉบเฉี่ยมแถมมาดมั้นอีกต่างหาก  มองทีไรสดชื่นทุกครั้ง

    เฮ้อ....ยังไม่ยอมหยุด...ถ้านายไม่หยุดฉันขอเป็นฝ่ายหยุดเองละกัน  เธอไม่สามารถห้ามทับได้จำเป็นต้องหยุดซะเองโดยการเดินหนี

    หรือว่า....ป้ามีความหลังอะไรเลยไม่กล้าทำสวย  เขายังตามมาละลานเธออีกไม่ลดละ

    รติ  นิ่งเงียบชั่วครู่....ก่อนจะหันกลับมาปะทะคารมย์อีกระรอก

    ความหลัง...ทำไมฉันต้องมีความหลัง  ถึงแม้ว่าฉันมี....จำเป็นด้วยรึ  ที่ฉันจะมาสาทยายบอกนายไอ้เด็กเมื่อวานซืน

    เด็กเมื่อวานซืน  ช่วยแปลให้ผมฟังได้ไหม

    รติ  เริ่มยิ้มเยาะกับการไม่รู้คำแสลงของไทยของนายแยงกี้  ดี # ไม่รู้ความหมายซะบ้างจะได้ด่าให้สนุกปาก

     

    ไม่มีความหมาย

    ไม่เป็นไรไม่อยากบอกผมก็ไม่เห็นอยากรู้  ไม่ใช่เรื่องของผม  ว่างเมื่อไหร่อยากเล่าอยากบอกผมพร้อมทุกเมื่อ

    ดี...อยู่เฉยๆ ซะบ้างจะได้ดูมีเสน่ห์

    ผมน่ะมีเสน่ห์  หล่อ   เท่  เหลือร้ายอยู่แล้ว  เขาวางท่าโชว์ความหล่อ  ซึ่งเขาก็หล่อจริงๆ นั่นแหละหล่อจนไม่อาจปฏิเสธได้....แต่จะให้เธอยอมรับต่อหน้านายนี่คงไม่มีทาง

     

    แหวะ  หล่อตายเลย   หลงตัวเองหน้าด้านๆ

    แน่นอนอยู่แล้ว  เขายิ่งโชว์เพาเวอร์ความหล่อเข้าไปอีกโดยเก๊กเชซ์ซะเลย

    ฉันขอให้นายหยุดพล่าม....แต่ไม่เห็นจะกยุดซะทีฉันเดินหนีมาถึงตรงนี้  ก็ดันตามมาอีก  เธอพยายามพูดดีกับเขา  แต่ตอนนี้เขากลับตีหน้าแปลกประหลาดใส่หน้าเธอ  แล้วเขาก็พูดประโยคหักมุมขึ้น 

    ผมอยากอาบน้ำ  ที่นี่ร้อนอบอ้าวมาก  ผมกลัวจะตายเพราะเหงือไหล่หมดตัว

    โน่นห้องน้ำ  เชิญอาบให้สบายอาจจะเป็นวิธีทำให้นายหายบ้าลงบ้าง

    เธอชี้ไปยังห้องน้ำซึ่งมีห้องเดียวภายในบ้านหลังเล็กนี้

    เมืองไทยนี่มันร้อนเป็นบ้าเลย...

    เชอะ....อยู่เมืองไทยตั้งหลายปีทำเป็นไม่ชินกับอากาศเมืองไทย

    ใครล่ะ....จะทนอยู่ในห้องอุดอู้แบบนี้ได้  อยู่เข้าไปได้ไม่ยอมออกไปไหน

    หยุด !!! เรียกฉันป้าได้แล้ว ....ถ้าไม่อยากตาย

    จะทำอะไรผม...ตัวเท่าลูกหมาเขายียวนเธออีก

    โอ้ย....ฉันจะบ้าตาย...นี่ฉันหาเรื่องใส่ตัวจริงเลย  โลกจะแตกเป็นเสี่ยงๆ  ฉันคิดงานอะไรไม่ออกแล้วเนี่ย   หยุดนิ่งแล้วไปอาบน้ำได้แล้ว  ต่อปากต่อคำอยู่นั่นแหละ

    คร๊าบ....อาจุมม่า

     

    รติ  หยุดต่อล้อต่อเถียง  ชีวิตที่ผ่านมาของเธอมันมีความสุขสงบในโลกส่วนตัวแห่งนี้  เธออยู่กับเหล่าบรรดาหนังสือร้อยพันเล่มมันคือเพื่อนคลายเหงา   แต่แล้วความสงบสุขสำหรับเธอมันสิ้นสุดตั้งแต่นายกิมจิคนนี้เข้ามา  เขาสร้างปัญหาตั้งแต่วันแรกที่โผล่หน้ามา  แล้วต่อไปมันจะรอดไม๊เนี่ย   เธอไม่อยากคิดถึงวันอื่นๆ เลย  

    รติ  กุมขมับเดินไปกลับยังโซฟาร์ตัวโปรด    อาจจะปลงตกกับเรื่องราวปวดหัวซึ่งรับปากกับเพื่อนรักเพื่อให้การช่วยเหลือเจ้าเด็กบ้าคนนี้   เธอไม่เพียงว่านายแยงกี้หน้าหล่อกระชากใจนี้จะต้องอยู่ฟรีกินฟรีด้วยหรือเปล่า  กำหนดการพักยาวนานแค่ไหนเธอก็ยังไม่รู้เลย  คิดๆ แล้วรติถึงกลับเครียด   ต่อไปนี้ไม่รู้เรื่องอะไรต่อมิอะไรจะตามมาเยือนเธอบ้าง

     

    คิมอินวอน  กำลังใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมซึ่งกำลังปียกน้ำ   เดินออกจากห้องน้ำเปลี่ยนชุดสบาย  ไม่รกรุงรังเหมือนชุดเมื่อกี้ส่วนบนยังไม่สวมใหส่อาภรณ์ใดๆ  สายตาของรติปะทะเข้ากับร่างกายกำลังของเขาเข้าโดยบังเอิญเพียงชั่วแว๊บหนึ่ง   เนื้อตัวเขายังเปียกปอนหยดนี่ยังเกาะตามร่างกายดูเซ็กซี่อย่างประหลาด   ชั่วครู่เมื่อเธอเรียกสติกลับมาก็ตอนที่เขากำลังเห็นเธอจ้องเขาตาเขม็ง

    ป้า...ป้าครับป้า...เป็นอะไรนิ่งเชียว  เห็นความหล่อผมแล้วตะลึงพูดอะไรไม่ออกเลยสิ

    เขาคือผู้เรียกสติเธอกลับมานั่นเอง  รติกลัวฟอร์มแตกเลยสบัดหน้าหนีกลัวเขาจับไต๋ได้ หากเขารู้ว่าเธอแอบมองเขาคงถูกหัวเราะเยาะตายแน่

    น.....นายน่ะ   อาบน้ำไวจัง

    ก็นานแล้วนะ...ยังบอกว่าไวอีกหรือ

    หิวไม๊

    เอ๋...?..

    ทำไม...นายหูตึงตั้งแต่เมื่อไหร่....

    เปล่า...แค่งง....ก็เมื่อกี้เจ้าป้ายังงอนผมอยู่เลย

    นี่.....ฉันไม่ใช่คนใจไม้ใส้ระกำขนาดที่ไม่ห่วงแขกปากหมาอย่างนายหรอกยะ

    ก็ยังดีที่เจ้าป้า....ห่วงใยคนพลัดถิ่นอย่างผม

    เปล่า...ฉันไม่ได้ห่วงนาย

    ผมถามจริงเถอะ

    ถามอะไร...ช่วยถามในสิ่งที่สร้างสรรหน่อยนะ  ฉันไม่มีเวลาจะเถียงกับนาย

    งั้นไม่ถามดีกว่าเดี๋ยวทะเลาะกับเจ้าป้า...จะหาว่าเด็กรังแกวัตถุโบราณ

     

    เย็นไว้ยัยรติ...คิดซะว่าทะเลาะกับเด็ก..มันไม่คุ้ม  รติบอกตัวเองให้หยุดต่อปากกับเด็กไม่รู้จักผู้ใหญ่

    ถ้านายไม่ถาม...ฉันจะถามนายบ้างในฐานะที่ฉันเป็นเจ้าบ้าน  จำเป็นที่ฉันต้องรู้เรื่องราวหรือภาษาไทยแท้ๆ  เรียกว่ารู้หัวนอนปลายเท้าของนาย

    เจ้าป้ามีสิทธิ์ถามแต่ผมก็มีสิทธิ์จะไม่บอก...ผมคิดว่าพี่แพมน่าจะเล่าทุกอย่างให้ป้าฟังแล้ว

    อีกอย่าง...ฉันขออะไรนายสักอย่างนะ

    ขออะไรผม

    หยุดเรียกฉันป้า

    ไม่ได้...

    ทำไม

    จนกว่าป้าจะทำตัวให้สมวัย

    ฉันไม่จำเป็นต้องทำตามที่นายบอก  เพราะฉันไม่มีธุระจำเป็นออกไปพบใคร  หรือแม้กระทั่งเฉิดฉายตามงานปาร์ตี้ฉันก็ไม่ปรารถนา

    มันไม่สำคัญหรอกว่าเราจะต้องออกไปพบใครหรือเปล่า

    แล้วทำไมต้องให้ฉันเลิกในสิ่งที่ฉันชิน

    เพื่อตัวป้าเอง  และเพื่อคนมอง..ป้าไม่สงสารตัวเองก็สงสารคนที่เขาเสียสละสายตามองป้าสักหน่อยเถอะ

    ใคร...วันๆ ฉันก็ไม่มีโอกาสออกไปพบใคร   แต่งตัวให้กองหนังสือ  ให้คอมพิวเตอร์ดูงั้นรึ

    ไม่ช่าย....ผมหมายถึง...โอ้ย

    เขาบรรยายความต้องการที่จะเปลี่ยนเธอไม่ได้  เพราะคนที่อยู่ในโลกของตัวเองย่อมคิดว่าโลกของเขาเหมาะกับเขาแล้ว

    พอๆ  เลิกคิดที่จะเปลี่ยนฉันได้แล้ว  ว่าแต่นายเถอะหนีมาเมืองไทยทำไม

    ผมเบื่อแม่

    เป็นลูกเบื่อแม่ได้ไง  เขาเลี้ยงดูนายมานะ

    นั่นแหละ....คือสาเหตุที่แม่ต้องการมีอำนาจเหนือลูกๆ ทุกคน

    มันร้ายแรงขนาดที่นายรับไม่ได้ต้องหนีมาลำบากยังเมืองไทย

    ป้าไม่ใช่ผม...ป้าจะไม่มีทางเข้าใจหรอก

    ถ้าอยากให้ฉันเข้าใจ  นายก็เล่าให้ฉันฟังสิ

    เล่าแล้วป้าจะช่วยอะไรผมได้

    ช่วยไม่ได้  ก็ยินดีรับฟัง  ว่าไงนายแยงกี้ปากมอม

    นี่ๆ  ซักถามแบบนี้จะเอาไปเขียนนิยายเปล่านี่

    ว๊าย !!  เรื่องของนายน่ะคิดว่าจะขายได้รึ

    โถ...หล่ออย่างผม....แค่เดินออกไปปากซอยสาวก็กรี๊ดสลบแล้ว

    หลงตัวเองชะมัด

    สาวๆ  ต้องแห่มาขอถ่ายรูปผม  จนผมหนีไม่ทันซะอีก

    โห...ขนาดนั้นเชียว...นายน่ะก็หล่อดี....เสียอย่างเดียว...

    อะไรอย่างผมมีข้อเสียด้วยเหรอ

    หึ....ก็ปากหมาน่ะสิ

    โห...ป้า..จำไว้เลยนะว่าผมแบบนี้...ป้าอย่ามารักคนอย่างผมแล้วกัน

    รักนาย...โถ...ยังอุตส่ากล้าพูดอีกนะ...แสบซ่า....บ้าบิ่น...แถมอายุน้อยกว่าฉันนี่นะ

    แสบซ่าน่ะ  ยอมรับ  แต่เรื่องอายุเนี่ย  มันก็แค่สองปีเอง

    นั่นแหละประเด็นสำคัญเพราะฉันไม่ชอบผู้ชายเด็กกว่า  ฉันขี้เกียจดูแล...เด็กน่าเบื่อ..การจะมีแฟนคนๆนั้นต้องดูแลให้ความคุ้มครองฉันได้

    ป้าคงหาไม่ได้หรอกผู้ชายแบบนั้น

    ทำไม

    ก็...ทำตัวราวป้าห้าพันปีแบบนี้  ส่องกระจกดูบ้างหรือเปล่า...ฝันลมๆ แล้งๆ  อยู่ในบ้านโกโลโกโสแบบนี้  สามชาติไม่รู้จะหาได้หรือเปล่า

    โถ....นายจะดูถูกฉันมากไปแล้วนะ

    ไม่ได้ดูถูก...ความจริงที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้าล้วนๆ ....มีอารมย์เซ็กยังเสื่อมเมื่อเจอป้าเข้า

    นาย...นายคิมอินวอน  วอนซะแล้ว

    ยอมรับเถอะป้า...ผมน่ะดู  และเลือกผู้หญิงเก่งที่สุดแล้ว

    ฉันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ

    อือ

    พอๆ  ฉันถามเกี่ยวกับตัวนายอยู่นะเมื่อครู่  นายยังไม่ตอบ

    เหรอถามเรื่องผมเหรอ  ไม่ยักรู้นึกว่าสมัภาษณ์ดาราเหาหลี.....อือ...จะพูดยังไงดีล่ะเรื่องมันยาว

    คิมอินวอน  เอามือเรียวยาวลูบคางตัวเองไปมาพลางนึกเรื่องของที่ทำให้ต้องมาที่นี่

    เอาสั้นๆ....กระชับ ได้ใจความไม่ต้องเยิ่นเย้อ...มันน่าเบื่อ

    คือ....แม่ผมท่านเป็นคนเจ้าระเบียบ  บ้าอำนาจ ลูกๆ ทุกคนต้องเชื่อฟังในบัญชาของแม่  ไม่ว่าแม่จะสั่งให้ทำอะไรขึ้นชื่อว่าลูกหรือใครก็ตามจะต้องไม่ขัด...แม้กระทั่งพ่อเองก็ด้วย

    อือ...ขนาดนั้นเชียว  รติ   พนักหน้ากึกๆ รับฟัง

    ช่าย...อีกอย่างสิ่งที่ผมและพี่ชายทนไม่ได้คือจับเราให้แต่งงานกับผู้หญิงที่เราไม่รัก  ตามความต้งอการของแม่เหตุผลเพียงแค่ต้องการรวบกิจการ  พี่สาวคนโตถูกจับให้แต่งงานกับเศรษฐี   แบบสายฟ้าแลบทั้งที่พี่สาวผมน่ะเขามีคนรักที่กันมากแต่จำเป็นเลิกรากันเพราะความต้องการของแม่เพียงคนเดียว 

    พ่อนายไม่ช่วยอะไรพี่สาวนายเลยหรือ

    ไม่....ไม่มีใครขัดแม่ได้  แม่เป็นคนที่ถือทิฐิเรื่องหน้าตาวงสังคม

    ท่าทางแม่นายร้ายไม่เบาพูดแค่นี้  รติ ออกความคิดเห็นด้วยเพราะเคยมีประสบการณ์เรื่องนี้โดยตรง

    แล้วพี่ชายนายเป็นยังไงบ้าง

    สนใจพี่ชายผมเหรอ  เขาแกล้งแหย่

    บ้า....จะสนใจได้ไงในเมื่อยังไม่รู้จักกันเลย  เธอแล้งทำหน้าเพ้อฝัน

    พี่ชายผมหล่อนะ

    อือ...หล่อแล้วไงถ้าปากเหมือนนายฉันก็รับประทานไม่ลง

    ไม่หรอกพี่ชายผมน่ารักทุกอย่างแหละ   แต่เขาถูกอิทธิพลเถื่อนของแม่เล่นงานไม่แพ้พี่สาวหรอกภายหลังจากเรียนจบพี่ต้องไปช่วยแม่ดูแลกิจการทั้งที่พี่ไม่ชอบ  เขาอยากมีกิจการที่เขารักเอง   แต่ก็ต้องพังความฝันของตัวเองเพื่อทำตามแม่สั่ง  ที่ร้ายไปกว่านั้นเมื่อไม่นานมานี้  แม่บังคับให้พี่ชายหมั้นหมายกับลูกสาวเจ้าของธุรกิจน้ำมันทั้งที่ไม่เคยเห็นหน้า

    ไม่เคยเห็นหน้ากันเลยเนี่ยนะเรื่องแบบนี้ยังมีอยู่ในโลกเหรอ

    มีสิ  ก็ที่เกาหลีไง  

    เมืองไทยเขาเลิกทาสแล้วนะการคุมถุงชนก็หมดยุคตามไปด้วย

    แต่ที่เกาหลีก็ยังมีในยุคเผด็จการของแม่ผม  เขาเคยเจอกันไม่กี่ครั้ง  ครั้งแรกแม่จัดงานดูตัวให้เขาสองคนได้พบกัน

    อือ...แล้วผู้หญิงคนนั้นหน้าตาดูได้ไม๊

    เธอก็ดูดีนะ....ติดอยู่แค่...เขาทั้งสองไม่รักกันก็เท่านั้น...

    แล้วพี่เธอ...มีคนรักไม๊

    มี...แต่เธอฐานะไม่ดี...แม่ไม่ชอบ...ถูกจ้างให้เลิกกัน...แต่พี่ไม่รู้หรอกว่าแม่ใช้เงินฟาดหัวเขาเพื่อให้เลิกกับพี่...

    แล้วพี่เธอเป็นยังไงบ้าง

    พี่ก็เสียใจ...แต่ทำอะไรไม่ได้...หากพี่หือ...แม่จะทำลายครอบครัวของคนรักพี่ซะ  พี่ก็เลยต้องก้มหน้ายอมรับการหมั้นหมายนั้นอย่างเสียไม่ได้

    อ๋อ...ด้วยเหตุนี้เองพี่ชายนายจึงพยายามช่วยนายให้หนี

    คงอย่างนั้นมั๊งครับ

    แล้วนายล่ะเป็นไงบ้าง

    ผมเหรอ

    เรื่องของนายมันร้ายแรงเท่าพี่ไม๊ๆ

    ยิ่งกว่า...เริ่มตั้งแต่ผมเกิดแล้ว...

    ขนาดนั้นเชียว

    ก็ช่ายน่ะสิ...แม่จัดการให้ผมเรียนในโรงเรียนที่แม่หมายตาไว้...ให้เรียนตามที่แม่อยากให้เรียนและอยากให้เเป็น  ตอนเด็กๆ  ผมก็ทำตามนะ....แต่พอโตเรียน University  ความขัดแย้งก็แอบเกิดขึ้นในใจ

    ยังไง ?”

    ผมขอแม่มาเรียนที่เมืองไทย   คิดว่าจะพ้น   แรกๆแม่ไม่ยอมหใผมห่างตา...ผมอ้อนวอนและพยายามอธิบายจนแม่ยอม...แต่แม่ยังอุตส่ามีข้อแม้

    ข้อข้อแม้อะไร

    ต้องมาอยู่ที่บ้านคุณยาย...และญาติๆ ที่เมืองไทยเพื่อให้อยู่ในสายตาและการรับรู้ของแม่

    อือ....น่ากลัวจัง

    ถึงแม้ผมจะหนีมาถึงเมืองไทยแต่....ก็ไม่วายอยู่ในสายตาแม่...แต่สิ่งที่ผมทำได้คิดเองคือเลือกเรียนตามที่ตัวเองต้องการได้โดยที่แม่ไม่รู้ว่าผมเรียนอะไร

    แล้วนายเรียนเกี่ยวกับอะไรล่ะ

    วาดรูป

    หือ....สถาปัตย์

    ประมาณนั้น  มิน่าแม่นายโกรธ  เพราะบ้านนายทำธุรกิจทั้งบ้านอยู่ๆ นายเรียนแบบนี้มันยอกอกแม่นายน่ะสิ

    ผมถูกลากตัวกลับไปตั้งแต่เรียนจบวันแรก  แม่รู้ความเคลื่อนไหวของผมทุกฝีก้าว  หูตาแม่เยอะ

    อือ....น่าเห็นใจนายนะ

    ทำไมพี่นายต้องฝากนายไว้กับยัยแพม

    พี่แพม  เป็นเพื่อนพี่ซองยูคนเดียวมั๊ง....ที่แม่ไม่รู้จัก  แม่ไม่รู้คิดว่าพี่ซองยูจะมีเพื่อนที่เมือไงไทย  พี่ไม่เคยมาเรียนหรือมาอยู่อย่างผม

    เอ๊ะ !! พี่นายรู้จักยัยแพมได้ยังไง

    พี่แพมเขาเดินทางไปเรียนภาษีเกาหลีพี่ชายผมเป็นอาจารย์พิเศษสอนคลาสนั้นพอดี

    อ๋อ....ใช่ๆยัยแพมเคยชวนฉันไป...แต่ฉันไม่ว่าไปซะที

    แล้วเขาก็ติดต่อกันในฐานะเพื่อนมาตลอด  แต่จริงๆแล้วพี่ซองยูหวังจีบพี่แพม....แต่พี่ซองยูกินแห้วกระป๋องบิ๊ก  เมื่อรู้ว่าพี่แพมแพมมีแฟน

    ยัยแพมน่ะ.....เจ้าสเน่ห์หล่อนคือลูกสาวไฮโซชื่ออดังของเมืองไทย  ...อยากทำอะไรไปเที่ยวไหน  แค่ชี้นิ้ว  ทุกสิ่งก็จะมากองตรงหน้า...ต่างกับฉัน...ปากกัดตีนถีบทำงานเพื่อเลี้ยงตัวเองและครอบครัว....กว่าจะเป็นนักเขียนที่มีชื่อเสียง   เลือดตาแทบกระเด็น

    ตอนนี้ล่ะครับ

    ตอนนี้เหรอ....ดีขึ้นมีเงิน  มีชื่อเสียง  มีงานเข้ามาพอที่จะดูและครอบครัวได้

    ป้ามีพี่น้องกี่คน

    สองคน  ฉันคนโต  มีน้องสาวกำลังเรียนปี 2

    พ่อกับแม่ไปคุณอยู่ไหนซะล่ะ

    อยู่ต่างจังหวัด  หมายถึงอยู่นอกเมืองน่ะ  ที่เกาหลี...เขาเรียกเมืองแต่เมืองไทยเขาเรียกจังหวัด หรืออำเภอ  เล็กลงมาเรียกตำบล  และเล็กกว่านั้นเรียกหมู่บ้าน

    ยาวเชียว  ไม่ได้ถามซะหน่อย  ก็กลัวนายถาม  ไม่อยากบอกบ่อยๆ เลยบอกซะ

    คุณมีแฟนไม๊...

    เอ๋....อะไรของนาย

    ไม่บอกก็ไม่เป็นไรนะ  ไม่บังคับ  เขารู้ว่าการถามผู้หญิงเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้เขามักทำใจลำบากในการตอบ

    มีสิ....แต่แค่เคยมีนะ...

    พอคำถามยอกอกเสียดแทงตรงกล่องหัวใจ  ทำให้เธอหวนคิดถึงใครบางคนซึ่อันต้องเลิกลากันไปด้วยความไม่ลงตัวทางสังคม  เงินทอง  ฐานะ  ความพึงพอใจของผู้ใหญ่ก็เท่านั้น

    ที่ถามอยากรู้จริงๆ หรืออยากลองใจว่าหน้าอย่างฉันจะหาแฟนได้หรือเปล่าใช่ไม๊

    อือ  ปะ....เปล่าไม่ได้มีเจตนาแบบนั้ซะหน่อย

    ไม่ต้องพูดดี...ฉันรู้นายกำลังคิดแย่ๆ กับฉัน เจ้าเด็กเมื่อวานซืน

    โห....ผู้ใหญ่ตายเลย...ห่างกันแค่ปี สองปีเอง ทำตัวราวกับเป็นผู้ใหญ่ซะ  เขาเหน็บเธอซึ่งทำตัวเป็นผู้ใหญ่เลยไว

    อายุมากกว่านายก็ถือว่าเป็นผู้ใหญ่กว่าหรือนายจะปฏิเสธ 

    หาเรื่องทะเลาะกันอีกแระ  พึ่งดีกันสองสามนาที

    งั้นก็พอได้แล้วสิ.....เรื่องของฉันไม่มีอะไรให้นายต้องรู้  มันไม่น่าสนใจสักนิด

    เจ้าป้าเบี่ยงเบนประเด็นอย่างตลอดเชียว  ปิดบังเรื่องของตัวเองแต่อยากรู้เรื่องของคนอื่น

    ก็นายมาขออาศัยฉันนี่นา  เกิดฉันรับโจรกำลังหนีคดีมา  ฉันก็ต้องกลายเป็นคนให้ที่อยู่อาศัยกับโจนน่ะสิ  เธอว่าซะเสีย

    พอเถอะทำกับข้าวให้ผมทานเถอะ 

    หิวไม๊ล่ะ

    อือฮึ

    เดี๋ยวฉันทำกับข้าวให้นายทานละกัน  ถือโอกาสเลี้ยงข้าวแขกผู้มาเยือนปากมอมๆ....บอกไว้ก่อนนะอาหารเกาหลีฉันทำไม่เป็น  ทำได้แค่อาหารไทยง่ายๆ

    อาหารไทยนั่นแหละสิ่งที่ผมชอบ  ผมชอบทานอาหารไทย  ส่วนอาหารเกาหลีเดี๋ยวผมจะเป็นอาจารย์สอนให้...คุณยายผมทำให้ทานบ่อยๆตอนอยู่เมืองไทย  ขอบคุณสำหรับความใจบุญนะครับอาจุมม่า

     

    รติ  หายเข้าไปในครัวซึ่งมีเนื้อที่กระทัดรัดเบียดเสียดยัดเยียดไปด้วยข้าวของ  แต่ก็สามารถเป็นที่ฝากท้องเวลาหิวได้  ถึงแม้บ้านเธอจะเล็กแต่ก็มีสำหรับใช้งานสำหรับภารกิจหลักได้  ไม่รู้ด้วยความบังเอิญหรืออย่างไดรบ้านเธอดันมีสองห้องนอนพอดีเป๊ะ....แต่ก่อนอีกห้องหนึ่งคือห้องของพ่อกับแม่  ส่วนห้องที่เธอจับจองซุกหัวนอนทุกวันนี้เธอต้องใช้ร่วมกับน้องสาว  แต่เมื่อน้องสาวย้ายไปอยู่หอพักกับเพื่อนตั้งแต่เรียนระดับมหาวิทยาลัย  เธอถือโอกาสยึดอาณาเขตครอบครองคนเดียวซะเลย  ...ห้องของพ่อกับแม่เลยต้องยกให้นายกิมจินี้ชั่วคราว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×