ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มรสุมคนเถื่อน (YoongiBTS & Jimin15&)

    ลำดับตอนที่ #12 : ที่ๆมีแค่เราสองคน 100% NC นิดๆหน่อยๆ

    • อัปเดตล่าสุด 27 ส.ค. 60



    แดกู.... 02.30น.



    ชายหนุ่มเลี้ยวรถเข้ามาในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง เนื่องจากมันดึกมากแล้วเขาจึงคิดว่าควรพักผ่อนและรอให้ถึงเช้าจะดีกว่า 



    "ฝันดีนะ"



    "ค่ะ" เธอพยักหน้าแล้วยิ้มเล็กฤๆให้เขา ก่อนจะเดินเข้าห้องพักของตัวเองไป แน่นอนอยู่แล้วว่าเขาและเธอไม่ได้นอนห้องเดียวกัน





       
           ผ่านไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงท้องฟ้าก็เริ่มสว่าง บรรยากาศที่นี่ดีกว่าอยู่ในเมือง ภูเขาล้อมรอบและแม่น้ำลำธารมันทำให้คนที่กำลังเป็นกังวลอย่างเธอผ่อนคลายได้มากเลยทีเดียว



    "ตื่นเช้าจัง" ยุนกิทักทายก่อนจะมายืนข้างๆพร้อมกับยื่นแก้วกาแฟให้



    "คุณก็เหมือนกันนะคะ" 



    "วันนี้เราจะไม่กลับโซลนะ....."



    "ทำไมล่ะคะ?"



    "ฉันอยากอยู่ที่นี่.....กับเธอ"



    "......." จีมินเบือนหน้าหนีเพื่อหลบแก้มที่กำลังแดงระเรื่อ



    "ไปกันเถอะ!"



    "คะ?!" อยู่ๆชายหนุ่มก็รีบคว้าแขนเธอไปขึ้นรถ ระหว่างทางเธอก็ถามมาตลอดว่าจะพาไปไหนแต่ผลที่ได้กลับมาคือรอยยิ้มแต่กลับเป็นรอยยิ้มที่ดูมีความสุขเสียมากกว่า



    "ถึงแล้ว" เขาบอกพร้อมกับดึงตัวเธอให้ออกมา แต่เมื่อเห็นสถานที่ตรงหน้า ดวงตากลมโตก็เบิกกว้างขึ้นทันที มันคือสถานที่ๆเธอวาดฝันเอาไว้ตั้งแต่เด็กว่าอยากมาที่นี่สักครั้งในชีวิต......



    "ชอบมั้ย?"



    "คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันอยากมาที่นี่"



    "ไม่บอกหรอก เอาเป็นว่าฉันรู้ก็แล้วกัน" มือหนาจับไหล่มนให้หันไปมองภาพเบื้องหน้าเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเอาแต่มองหน้าเขา ทั้งสองยืนมองวิวทิวทัศน์อยู่นานพอสมควรก่อนที่จีมินจะเป็นฝ่ายทำลายความเงียบ



    "ฉันไม่คิดว่าคุณจะทำแบบนี้กับฉัน"



    "หมายถึง?"



    "หมายถึงทำดีกับฉันน่ะค่ะ ปกติแล้วคุณไม่ชอบมาสถานที่แบบนี้ด้วยซ้ำ"



    "ฉันพาเธอมาไง"



    "แค่นี้?"



    "ใช่ แค่นี้" 



    "..........." 



    "เลิกทำหน้างงแล้วมาขนของช่วยฉัน" ชายหนุ่มเคาะหน้าผากมนเบาๆเพื่อเรียกสติ จากนั้นร่างสูงก็เดินไปยกของลงจากหลังรถ เขาตื่นแต่ไก่ยังไม่ขันเพื่อมาเตรียมของปิคนิก ด้วยตนเอง แต่สิ่งหนึ่งที่เขาทำไม่เป็นเลยคืออาหาร เพราะฉะนั้นเขาจึงซื้อที่เป็นแบบสำเร็จรูปและไม่สำเร็จรูปมาพร้อมกัน



    "ปิคนิก?"



    "อาห้ะ!" เขาตอบพร้อมกับยิ้มหวาน ก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งบนผืนเสื่อที่ถูกปูเมื่อครู่



    "คุณคิดยังไงถึงอยากมาปิคนิก"



    "ก็คิดว่าอยากมานั่งกินลมชมวิวกับเธออยู่ที่ไหนสักแห่ง แล้วสุดท้ายฉันก็เลือกที่นี่เพราะว่าเธอชอบ"  



    "แล้วของที่ซื้อมาเยอะแยะนี่?"



    "ฉันไม่รู้ว่าเขาเตรียมอะไรกันบ้าง รู้แค่ขนมน้ำ ผลไม้และที่ขาดไม่ได้ คิมบับ"



    "ทำไมคุณไม่ซื้อแบบที่สำเร็จรูปมาล่ะคะ"



    "ฉันอยากให้เธอทำ ฉันอยากลองกินฝีมือเธอบ้าง" เขาประจบสอพลออย่างน่าหมั่นไส้ โดยเฉพาะสีหน้านั้นที่ยิ้มกว้างจนปากจะฉีกถึงหูอยู่รอมร่อ



    "........."



    "รอช้าอยู่ไยแม่นาง รีบกระทำการได้แล้ว" เธอถึงกับหลุดขำอย่างอดไม่ได้เมื่อชายหนุ่มทำท่าพูดจาลิเกหยอกล้อ มันอาจจะแปลกแต่เธอกลับชอบมันมากๆ น้ำเสียงที่แฝงความขี้เล่นส่งผลให้เธอคลายกังวลลงจากตอนแรก



    "ฝีมือฉันอาจไม่ดีพอแต่ก็พอกินได้" หญิงสาวบอกก่อนจะเลื่อนจานคิมบับที่เพิ่งทำเสร็จสดๆร้อนๆ ซึ่งชายหนุ่มก็จับเคี้ยวเข้าปากตุ่ยๆไม่ได้ติติงอาหารของหญิงข้างกายแม้แต่คำเดียว



    "ฉันอยากได้เธอมาเป็นแม่ศรีเรือน สนใจมะ?" ชายหนุ่มเอ่ยถามทีเล่นทีจริง ก่อนจะขยับกายหนุนหัวลงไปบนตักนุ่มของจีมิน ตอนแรกเธอแสดงกิริยาขัดขืนแต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายอ้อน เธอจึงยอม



    ".........."



    "ก้มลงมามองฉันหน่อยสิ" 



    "มีอะไรคะ" เธอก้มลงไปมองเขาแค่แว็บหนึ่งจากนั้นก็เงยหน้าขึ้น ส่งผลให้มือหนาประคองใบหน้าหวานให้กระทำตามเขา ทั้งคู่สบตากันอยู่นานโดยปล่อยให้ความเงียบเป็นตัวนำ ดวงตากลมโตเริ่มหลบตาเขาจึงเป็นฝ่ายคว้าคอเธอลงมาจูบ.....
             จูบอย่างที่ใจต้องการ สัมผัสจากริมฝีปาก อุ่นๆนั้นมันทำให้เธอแทบหลอมเหลว ก่อนที่เขาจะถอนริมฝีปากออก และจัดแจงท่านั่งใหม่โดยยกตัวเธอขึ้นมาไว้บนตักแกร่งแทน



    "อยู่นิ่งๆอีกสักพักนึงสิ ฉันอยากกอดเธอ" 



    "แต่คุณจะหนัก....."



    "ไม่....." เขาพูดเสียงอู้อี้อยู่บนแผ่นหลังของเธอ



    "ฉันขอถามอะไรอย่างหนึ่งจากคุณได้มั้ยคะ"



    "อื้ม" 



    "คุณรู้สึกอย่างไรกับฉันกันแน่"



    "........." เขาเงียบไปนานมากจนนึกว่าเขาหลับ แต่เปล่าเลย หากแต่เขาจงใจไม่ตอบ ผู้หญิงทุกคนล้วนแล้วอยากได้ยินสิ่งที่ชัด เจนจากผู้ชาย แม้คำตอบที่ออกมาจะเป็นแบบไหนก็ตาม 



    "อย่าถามอะไรแบบนี้เลยนะ...."



    "ทำไม?"



    "ฉันไม่อยากตอบเธอตอนนี้"



    "เข้าใจแล้วค่ะ" แค่เขาพูดออกมา ป่านนี้เรื่องทุกอย่างคงจะลงล็อกมากกว่าที่เป็นอยู่ เธอไม่รู้ว่าสถานะกับเขามันคือสถานะอะไรกันแน่...







    แดกู เวลา21.32น.



         เขารู้ว่าสักวันเธอจะต้องถามเขาแบบนี้ ซึ่งเขาเองก็ตอบไม่ได้ว่ารู้สึกต่อเธออย่างไร รอให้ทุกอย่างมันชัดเจนกว่านี้อีกนิดเขาจะเป็นคนบอกเธอเอง ขึ้นอยู่กับเธอจะรอเขาได้หรือไม่....



    "หมั่นเขี้ยว!" ชายหนุ่มนั่งลงบนเตียงเบาๆพร้อมกับเอื้อมมือหนามาบีบจมูกรั้นของอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู แอบเข้ามา? จะว่าอย่างนั้นก็ใช่ เขาก็แค่อยากรู้ความเคลื่อนไหวของเธอเท่านั้นเอง




    "อื้อ~" อีกฝ่ายปัดรำคาญโดยครางเสียงไม่พอใจในลำคอก่อนจะขยับเปลี่ยนท่านอน พลันลืมตาขึ้นมาพบชายหนุ่มผู้บุกรุกเข้าพอดี



    "คุณ!! เข้ามาได้ยังไง"



    "เข้ามาทางระเบียงไง" เขายิ้มเจ้าเล่ห์



    "อย่ามายิ้มแบบนั้นนะ!" ยิ่งเธอขยับถอยห่างเขาก็ยิ่งเข้าใกล้ จนกระทั่งอีกฝ่ายจนมุม เขาจึงหาทางแกล้งต่อโดยการซุกหน้าลงบนซอกคอขาวพร้อมกับสูดกลิ่นกายสาวเข้าปอดเฮือกใหญ่



    "คุณนี่มัน....เหลือเกินจริงๆ!"



    "ไม่มีสิทธิ์ด่านะ ไม่งั้นจับกด"



    "แล้วมันจริงมั้ยคะ? แค่นิดๆหน่อยๆคุณก็หาเศษหาเลยจากฉันจนได้ -.-"



    "ก็เธออยากยั่วอารมณ์ฉันก่อน"




    "ตรงไหน?"



    "ตรงนี้ แล้วก็ตรงนั้นด้วย" ไม่ว่าเปล่า ซ้ำยังชี้ให้ดูภาพประกอบ ซึ่งตรงนั้นมันคือเนินอกขาวอวบที่โผล่พ้นชุดนอนออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้! และหว่างขาเรียวที่เผลอนั่งชันเข่าโชว์ขาเรียวอ่อนซะนี่! 



    "กรี๊ด! โรคจิต!" ด้วยความเคยชิน สองเท้านั้นก็ยกขึ้นถีบหน้าท้องของชายหนุ่มเข้าอย่างจังจนร่างสูงลงไปนอนขดตัวด้วยความเจ็บปวด



    "แสบนักนะเรา!" เขาเขม่นตาใส่อย่างคาดโทษ ทันทีที่สิ้นเสียง ร่างสูงก็กระโจนขึ้นมาคร่อมร่างของหญิงสาว รวบมือบางทั้งสองข้างไว้เหนือหัว ซุกใบหน้าที่เริ่มมีหนวดขึ้นรำไรลงบนซอกคอแต่ละข้าง 



    "ฮ่าๆๆ จักจี้ กรี๊ด พอแล้ว ฮ่าๆๆ" ทั้งห้ามทั้งหัวเราะจนเหนื่อยหอบ เมื่อแกล้งจนพอใจแล้ว ชายหนุ่มจึงหยุดมองจีมินที่หายใจจนหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหาย ใจ ให้ตาย! เธอยั่วอารมณ์เขา! จากตอนแรกว่าจะแกล้งเล่นๆแต่ตอนนี้กลับรู้สึกจริงขึ้นมาเสียอย่างนั้น!



    "อื้อ!" คนใต้ร่างครางกระฮึ่มในลำคอเมื่อริมฝีปากหนาบดขยี้ลงมาอย่างแนบแน่น สัมผัสนั้นหวาบหวามเสียวซ่านอย่างไร้ที่ติ ในขณะที่มือหนาทั้งสองข้างพยายามปลดกระดุมเสื้อของตนเอง จนกระทั่งพันธนาการด้านบนไร้อาภรณ์ใดๆ



    "อื้ม~" เป็นเขาบ้างที่ครางรับเมื่ออยู่ๆหญิงสาวก็ตอบรับเขาอย่างงุนงง จูบไร้เดียงสาของเธอยิ่งทำให้อารมณ์ร้อนภายในอกเขาปะทุขึ้นอีกครั้ง สองมือหนาเลื่อนมาปลดกระดุมของฝ่ายหญิงบ้าง จนกระทั่งเหลือเพียงบราเซียตัวจิ๋วที่ปกปิดช่อปทุมถันเอาไว้



         โลมไล้อยู่หลายนาที ก้มมองดูเรือนร่างอีกทีหนึ่งก็ไร้อาภรณ์ใดๆปกปิด มือบางจึงยกมือขึ้นมาปิดหน้าตัวเองไว้ด้วยความเขินอาย ไม่ทันที่จะได้เตรียมตัวเตรียมใจ แก่นกายแกร่งนั้นก็ปะทะเข้ามาจนรู้สึกเจ็บปวดตรงหว่างขาลามมาถึงท้องน้อย ชายหนุ่มจึงปลอบประโลมโดยการจูบที่ปากบางอย่างแผ่วเบา....



          เธอโง่อีกแล้ว....โง่ยอมให้เขาทำลายศักดิ์ศรีอีกครั้งทั้งที่ตัวเองไม่ได้ผลประโยชน์อะไรสักอย่างกลับคืนมา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขารู้สึกยังไงกับเธอกันแน่



    "ถ้าฉันพร้อมฉันจะบอกว่าฉันรู้สึกยังไงกับเธอ ตอนนี้ฉันยังไม่มั่นใจ เธอรอฉันได้ใช่มั้ย?" เสียงทุ้มนุ่มกระซิบเบาๆข้างๆหูพร้อมกับนิ้วแกร่งที่ลากเลื้อยไปตามไหล่มน



    "..........."



    "แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกดีกับเธอนะ อยู่กับเธอแล้วฉันสบายใจ" ไม่รู้ว่าผู้ชายปากหวานเฉพาะตอนอยู่บนเตียงหรือเปล่า แต่ถึงอย่างนั้นใจดวงน้อยก็พองโตขึ้นอย่างห้ามไม่ได้.....







    วันต่อมา.....



      ยุนกิตัดสินใจลางานอีกหนึ่งวันเพื่อพักผ่อนอยู่ที่นี่กับจีมิน เขาพาเธอออกมาขับรถเล่นเพื่อรับลมและชมทัศนียภาพที่หาชมได้ยากที่กรุงโซล เขากระชับมือบางแน่นในขณะที่เดินช็อปปิ้งในถนนคนเดินที่คล้ายกับงานวัดบ้านเรา



    "ฉันว่าปล่อยมือเถอะค่ะ อาจจะมีคนที่จำคุณได้" 



    "จำได้เแล้วไง?"



    "แต่ว่า....."



    "อย่าสนใจคนอื่นเลย สนใจแค่ฉันก็พอ" แปลกที่ถ้อยคำเหล่านั้นออกมาจากปากคนอย่างเขา แถมเปลี่ยนจากจับมือเป็นขึ้นมาโอบไหล่มนของอีกฝ่ายพร้อมกับดึงเข้าหาตัวเอง ก่อนจะเดินฉับๆไปยังชิงช้าสวรรค์



    "ฉันอยากเล่น"



    "ไม่เอาค่ะ ฉันกลัวความสูง"

    "นะ....ขึ้นเป็นเพื่อนหน่อย"



    "ก็ได้ค่ะ" เธอทนสายตาและน้ำเสียงออดอ้อนนั้นไม่ไหวจริงๆ -,-



    "เธอรู้มั้ยถ้าเลือกได้ฉันไม่อยากเป็นศิลปินเลย"



    "ทำไมล่ะคะ? เป็นศิลปินดีจะตาย มีแต่คนรักมีแต่คนตามกรี๊ด น่าดีใจออก"



    "ก็จริงอยู่ แต่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องคอยระวังนักข่าว จะออกไปไหนก็ระแวงแฟนคลับรุม บางครั้งฉันก็อยากทำอะไรเหมือนคนอื่นเขาบ้าง" ร่างสูงผ่อนลมหายใจหนักๆหนึ่งทีก่อนจะเขยิบมานั่งข้างๆจีมิน จากนั้นก็เอนหัวลงบนตักนุ่มของหญิงสาว ทั้งที่พื้นที่มันแคบนิดเดียว แต่เขาก็สามารถขดตัวนอนได้ -.-



    "........" 



    "ฉันอิจฉาคนธรรมดาที่อยากทำอะไรก็ทำ อยากไปเที่ยวเล่นที่ไหนก็ได้ แต่สำหรับศิลปินอย่างพวกฉันมันไม่ง่ายเลยถ้าไม่มีเมเนฯคอยตาม" 



    "........"



    "ผู้ชายทุกคนก็ต้องอยากมีอิสระเป็นของตัวเองทั้งนั้น แต่จะให้ทำไงได้ในเมื่อฉันเลือกที่จะเดินมาทางนี้แล้ว เธอว่ามั้ย?" 



    "ก็จริงของคุณนะคะ" เขายิ้มเล็กๆก่อนจะเอื้อมมือหนาขึ้นปัดปอยผมที่ปรกหน้าหวานออกเบาๆ ส่งผลให้หญิงสาวขมวดคิ้วอย่างงุนงงกับการกระทำที่แปลกไปของชายหนุ่ม



    "เธออยากถามอะไรฉันมั้ย วันนี้ฉันให้สิทธิ์เธอถามเต็มที่" 



    "จริงเหรอคะ?" 



    "จริงสิ คิดว่าล้อเล่น?"



    "ปกติคุณจะโวยวายตลอดทุกครั้งที่ฉันถาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องน้อย"



    "เอาเถอะน่า! เดี๋ยวฉันเปลี่ยนใจนะ!"



    "โอเคค่ะๆ! แต่ถ้าฉันถาม คุณต้องห้ามโกรธฉันนะคะ"    



    "ไม่โกรธหรอก ถามมาดิ" 



    "ฉันอยากรู้เรื่อง....ครอบครัวของคุณ" กว่าจะพูดประโยคนี้ออกมาได้ก็ทำใจอยู่นานเหมือนกัน กลัวว่าเขาจะโกรธจนโยนเธอลงมาจากชิงช้าสวรรค์ -.-



    "........." 



    "ถ้าคุณไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไรนะคะ ฉันขอโทษด้วยที่ล้ำเส้น" 



    "ใครบอกว่าฉันไม่อยากตอบ"



    "หมายความว่า...."



    "อืม ฉันจะบอกเธอทุกอย่างแค่เธอถามมา"



    "........" จีมินกระพริบตาปริบๆอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง




    "เรื่องแม่ฉันใช่มั้ย.... วันนั้นแม่คงเล่าเรื่องฉันให้เธอฟังหมดแล้วสินะ ความจริงแต่ก่อนฉันไม่ได้มีนิสัยแบบนี้หรอก ออกจะใจเย็นเสียด้วยซ้ำ แต่พอแม่หักหลังพ่อฉันก็เริ่มประพฤติตัวไม่ดี เอาแต่ใจ พูดหยาบคาย หาเรื่องทะเลาะวิวาท แม้แต่เรื่องสิ่งเสพติดฉันก็ทำมาแล้วทั้งนั้น....." เขาเว้นวรรคหายใจพักหนึ่งก็เล่าต่อ  "ฉันเกลียดแม่ตั้งแต่ที่เห็นแม่ออกไปกับผู้ชายคนหนึ่งแล้วทำเรื่องทุเรศกันบนรถ ตอนนั้นคิดแค่ว่าโกรธแทนพ่อ ไม่อยากให้พ่อเห็นภาพบาดตาบาดใจพวกนั้น....."



    "ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด"



    "ตอนแรกฉันก็คิดแบบเธอนะแต่ฉันทำใจคิดแบบนั้นไม่ได้จริงๆ ฉันไม่ใช่คนมองโลกในแง่บวกที่จะต้องเห็นอะไรเป็นเรื่องเล็กๆ"



    "แล้วหลังจากนั้นคุณทำยังไงต่อไปคะ"



    "หลังจากนั้นเหรอ....ฉันก็ขอแยกตัวออกมาอยู่คอนโดคนเดียวแล้วก็ไม่ได้กลับบ้านอีกเลย กลับเฉพาะมีเรื่องสำคัญจริงๆเท่านั้น"



    "คุณใจร้ายมาก" 



    "หึ อาจจะจริงของเธอ แต่ฉันคิดว่าแม่ใจร้ายมากกว่า"



    "ทำไมคุณไม่ลองคุยกับท่านถึงเหตุการณ์วันนั้นล่ะคะ ถามว่าเรื่องมันเป็นมายังไง บางครั้งมันอาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันก็ได้"



    "เรื่องมันผ่านมันหลายปีแล้ว ฉันไม่คิดให้มันปวดสมองอีกหรอก"



    "แต่คนที่ปวดสมองกว่าคือแม่คุณนะคะ วันที่ฉันไปหาท่าน ท่านดูเศร้าทุกครั้งที่เอ่ยถึงคุณ ไม่ลองไปคุยกับท่านดีๆหน่อยเหรอ" 



    ".........." เขาเงียบ



    "หืม?"



    "เธออยากให้ฉันไปจริงๆเหรอ?"



    "จริงสิคะ"



    "ก็ได้ฉันจะไป.....แต่มีข้อแม้นะ" เธอแอบเตรียมใจมาแล้วว่าเขาต้องมาไม้นี้ ไม่มีทางที่คนอย่างเขาจะทำโดยไม่หวังผลตอบแทน คิดแล้วก็หมั่นไส้!



    "ข้อแม้อะไรอีกล่ะ"



    "จูบ....แลก....ลิ้น" 



    "คุณยุนกิ!!" 



    "ทำไมล่ะ? คืนนั้นเรายังทำกันได้เลย ทำอีกครั้งจะเป็นไรไป"



    "อย่าพูดถึงเรื่องคืนนั้นเลยนะคะ ฉันขอร้อง"



    "อายเหรอ?" เธอก้มหน้างุดหลบสายตาของเขา ใช่! เธออาย อายจนจะแทรกแผ่นดินหนีอยู่แล้ว แถมสายตาหื่นกามลามกนั่นก็ยิ่งทำให้เธอหน้าร้อนผ่าวเหมือนแก้มจะระเบิด ยุนกิหัวเราะออกมาฉาดใหญ่เมื่อเห็นว่าฝ่ายหญิงเขินจนไปไม่เป็น ก่อนจะแกล้งอีกครั้งโดยการกัดเข้าที่ติ่งหูเล็กเบาๆ



    "เขินบ่อยๆนะ มันน่ารักดี ฮ่าๆๆๆ"



    "!!!!"















    ขอโทษที่มาช้านะคะ ช่วงนี้การบ้านเยอะ ที่จริงปั่นไว้หลายตอนอยู่แต่แค่ไม่มีเวลามาอัพ ช่วยรอหน่อยเนอะ เมนท์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะ











     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×