ลำดับตอนที่ #6
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ว่าที่ลูกสะใภ้ตระกูลมิน 100%
@บนรถ
ทันทีที่เขานั่งแมะไม่ถึงสองนาที แม่คุณก็โวยวายกันยกใหญ่เรื่องที่เขากันเธอออกจากเพื่อนๆของเขา ทั้งๆที่เธอวาดฝันเอาไว้สะดิบดีว่าถ้าหากมีโอกาสได้เจอโอปป้า เธอจะขอถ่ายรูปและขอลายเซนต์ แต่เขากลับพังมันลงต่อหน้าต่อตา!
ทันทีที่เขานั่งแมะไม่ถึงสองนาที แม่คุณก็โวยวายกันยกใหญ่เรื่องที่เขากันเธอออกจากเพื่อนๆของเขา ทั้งๆที่เธอวาดฝันเอาไว้สะดิบดีว่าถ้าหากมีโอกาสได้เจอโอปป้า เธอจะขอถ่ายรูปและขอลายเซนต์ แต่เขากลับพังมันลงต่อหน้าต่อตา!
"เธอจะอาลัยอาวรณ์อะไรนักหนาเนี่ย รำคาญ!"
"เพราะคุณนั่นแหละ!"
"อ่อนี่ฉันผิดเหรอ"
"ใช่คุณผิด! ผิดเต็มๆเลยด้วย!"
"เออยอมรับก็ได้ พอใจยัง เงียบๆด้วยฉันจะนอน!" เขาตัดบท
"คุณยังนอนไม่ได้! คุณต้องรับผิดชอบก่อน"
"รับผิดชอบอะไร?" เขามองใบหน้าหวานที่เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนเขาจะร้องอ๋อเมื่อรู้ว่าเธอต้องการให้เขารับผิดชอบยังไง แล้วคิดเหรอว่าเขาจะตามใจเธอน่ะ
"ฉันไม่พาเธอไปหรอก ถ้าเธออยากถ่ายนักก็ถ่ายกับฉันนี่ไง ถือสะว่าฉันเป็นตัวแทนเมมเบอร์คนอื่นๆก็แล้วกัน"
"มันเหมือนกันสะที่ไหนล่ะคะ"
"เหมือน! ทำไมจะไม่เหมือน"
"ไม่เห็นเหมือนเลย"
"บอกว่าเหมือนก็เหมือนสิ! เธอนี่มันยังไง!" เมื่อถูกชายหนุ่มตะคอกใส่ จีมินก็ย่นจมูกใส่อย่างงอนๆ ก่อนจะแกล้งเสหน้ามองทางอื่น เธอก็อยากให้เขารู้เหมือนกันว่าเธอก็งอนเป็น!
"เดี๋ยววันหลังพาไปก็ได้ พอใจรึยัง" จู่ๆเขาก็โพล่งขึ้นมาดื้อๆ แอบมองปฏิกิริยาว่าอีกฝ่ายจะเป็นยังไง และเมื่อเห็นว่าเธอยิ้มกว้างเขาก็เผลอยิ้มตามโดยไม่รู้ตัว
"จริงเหรอคะ!?"
"เธอเห็นฉันพูดเล่นรึไง"
"ก็คุณเพิ่งบอกฉันไปเอง ว่าสัจจะไม่มีอยู่ในกลุ่มผู้ชายหน้าตาดี"
"เธอย้อนฉันเหรอห๊ะ!?"
"หรือไม่จริงล่ะคะ?"
"ฉันไม่เถียงกับเธอแล้ว! เธอมันร้าย"
"ใครกันที่ร้าย" พูดเบาๆแต่หารู้ไม่ว่าเขาได้ยินเต็มสองรูหู
"ถ้าเธอยังไม่หุบปาก ฉันจะปิดปากเธอด้วยปากของฉัน โอเค้?" เมื่อเขาขู่ด้วยวิธีนี้ จีมินก็หุบปากอย่างรวดเร็ว พอเขาวกมาเรื่องจูบทีไรใจก็สั่นทุกทีแถมอุณหภูมิในร่างกายก็สูงขึ้นจนปรอทแทบแตก
"ขอบคุณที่มาส่งนะคะ เจอกันวันพรุ่งนี้ค่ะ" หญิงสาวลงจากรถก่อนจะกล่าวลาชายหนุ่ม เขาบอกคนขับรถมาส่งเธอที่บ้านเพราะช่วงบ่ายว่างรวมถึงเขาด้วยเช่นกัน
"อือ"
"บ๊ายบายค่ะ" จีมินยกมือทำท่าบ๊ายบายเหมือนเด็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มหวานที่ใครๆมองเป็นอันต้องมนต์สะกด อยู่ๆหัวใจเขาก็เต้นตุบๆอย่างบ้าระห่ำโดยไม่มีสาเหตุ เขาเป็นอะไรไป!?
"ไม่สบายรึเปล่าคะ หน้าแดงเชียว" หน้าแดงเหรอ? เขานี่นะ!? ไม่มีทางสะหรอก
"........." เมื่อเห็นว่าเขาตะกุกตะกัก มือเล็กจึงถือวิสาสะยกขึ้นมาแตะหน้าผากของชายหนุ่มเพื่อวัดไข้ เอียงคออย่างสงสัยเมื่อตัวของเขาก็ไม่ได้ร้อนอย่างที่คิด
หมับ!
มือหนาคว้าเข้าที่ฝ่ามือของฝ่ายหญิงทันทีที่เห็นว่าเธอจะปล่อยออกจากหน้าผากเขา นั่นสร้างความแปลกใจให้เธออยู่ไม่น้อย
"มีอะไรรึเปล่าคะ?" เธอมองหน้าเขาสลับกับมองมือตัวเองที่ยังถูกเขาจับไว้แน่น
"........." ดวงตาคู่โตมองเขาตาแป๋วอย่างต้องการคำตอบ จู่ๆ เขาก็รู้สึกอยากจูบเธอขึ้นมา ถ้าไม่ติดว่านี่หน้าบ้านเธอล่ะก็ เธอไม่รอดมือเขาหรอก! นี่เขากลายเป็นคนโรคจิตไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!? บ้าบอ!
"กลับมาเร็วๆนะ"
"คะ?" จีมินเลิกคิ้วถามอีกครั้ง
"หูหนวกรึไง!? ฉันไปละ" เขาปิดประตูดังปังโดยไม่สนใจสีหน้าสงสัยของอีกฝ่ายที่มองมาทางเขา ก่อนรถคันหรูจะแล่นออกไปทิ้งไว้เพียงฝุ่นควันขโมง.....
"ปาป๊ามาม๊า~ กลับมาแล้วค่า คิดถึงจังเล้ยย~" ร่างอวบถลาเข้ากอดบิดาและมารดาทันทีที่เห็นหน้า ตามมาด้วยขโมยหอมแก้มฟอดใหญ่จนผู้เป็นพ่อตำหนิด้วยสายตา
"ไอ้อ้วน โตเป็นสาวแล้วไม่ใช่เด็กๆสักหน่อย"
"แหมป๊า ทำมาเป็นหวงตัว ชอบก็บอกว่าชอบสิ เนอะม๊าเนอะ" หันไปขอความเห็นจากมารดา
"ทำงานเป็นไงบ้างลูก เหนื่อยมากมั้ย"
"มากกกกเลยค่ะ" เธอจงใจเน้นคำว่า 'มาก' พลันหน้าของเขาลอยเข้ามาในโสตประสาท
"แล้วทำไมวันนี้ถึงได้กลับมาล่ะ"
"ตอนบ่ายของวันนี้ว่างค่ะก็เลยกลับมาหาป๊ากับม๊าก่อน แต่อีกสักหน่อยว่าจะออกไปทำธุระกับเพื่อน"
"งั้นไปกินข้าวกินปลาก่อนไป"
"ค่าเสด็จป๊า~"
"เดี๋ยวเหอะไอ้อ้วน" บรรยาศเก่าๆเริ่มกลับมาก็ทำให้เขาอดคิดถึงและอดเป็นห่วงลูกสาวไม่ได้ ถึงแม้เขาจะปากจัดและปากแข็งไปหน่อยแต่เหตุผลเดียวที่ทำงานงกๆอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นเพราะลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนคนนี้นี่แหละ
@บริษัทG
"พวกท่านจะไม่ว่าอะไรเหรอคะที่เราไปรบกวน" จีมินเอ่ยถามแจบอมอย่างคนคิดหนัก ไหนๆก็ว่างแล้วเธอก็เลยถือโอกาสนี้ไปพูดคุยกับครอบครัวของเขาเรื่อง...นิสัยของคุณชายมินยุนกิ -.-
"ฉันโทรไปขออนุญาตแล้วว่าฉันจะเข้าไปหาและพาเพื่อนไปด้วยหนึ่งคน พวกท่านบอกว่ายินดีมาก"
"พวกท่านใจดีมั้ยคะ?" จีมินลองหยั่งเชิงดู แต่กลับสร้างเสียงหัวเราะให้กับแจบอม
"เธอต้องไปดูให้เห็นกับตา"
"ทำไมพูดให้ฉันกังวลล่ะคะ"
"ฉันเปล่าสักหน่อย งั้นไปกันเลยดีกว่า" ชายหนุ่มตัดบท ก่อนจะคว้าเอากระเป๋าสตางค์และกุญแจรถ เดินนำจีมินไปที่รถยนต์คันหรู ก่อนจะมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทาง.....
ทันทีที่รถจอดสนิท หญิงสาวก็รู้สึกคิดหนักขึ้นมาเสียอย่างนั้น มือไม้เย็นเฉียบราวกับถูกแช่แข็ง จนทำให้แจบอมอดเป็นห่วงไม่ได้
"ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นหรอกน่า ถ้าเธอทำความรู้จักกับพวกเขาเธอจะสบายใจ เชื่อฉัน"
"ค่ะ ฉันจะพยายามไม่กังวล" เธอพยักหน้ารับ สูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อเรียกความมั่นใจ ก่อนจะเดินตามร่างสูงของแจ
บอมเข้าไปในตัวบ้าน
ภายในบ้านออกแบบสไตล์ตะวันตกผสมอินเดีย เฟอร์นิเจอร์ล้วนแล้วแต่เป็นของนำเข้าจากต่างประเทศ แน่นอนว่าราคาเหยียบหลักหกหรือไม่ก็หลักเจ็ด (ยอมในความรวย -_-)
"สวัสดีครับคุณน้า ไม่ได้เจอกันนาน สบายดีนะครับ" ชายหนุ่มโค้งหัวเพื่อเป็นการทักทายหญิงวัยกลางคนซึ่งเป็นแม่ของเพื่อนสนิทเขาอย่างมินยุนกิ
"น้าสบายดีจ้ะ....แล้วจะไม่แนะนำเพื่อนให้น้ารู้จักเหรอจ๊ะ?" หล่อนชะเง้อไปมองจีมินที่ยืนอยู่ด้านหลังของชายหนุ่ม เขาจึงส่งสัญญาณว่าให้เธอเลิกกลัวได้แล้ว
"สวัสดีค่ะ....." หญิงสาวโค้งหัวอย่างมีมารยาท
"สวัสดีจ้ะ ชื่ออะไรล่ะเรา" หล่อนถามยิ้มๆ
"ปาร์ค จีมินค่ะ" น้ำเสียงของหล่อนทำให้เธอคลายกังวลลงได้มากพอสมควร ใบหน้าที่ฉาบด้วยรอยยิ้มกว้าง บ่งบอกว่าเธอเป็นคนที่ใจดี
"ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะหนู แล้ว...ที่มาหาน้าเห็นบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย เรื่องอะไรเหรอจ๊ะ?"
"เอ่อ...คุณน้าครับ ที่จริงแล้วจีมินเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนปัจจุบันของยุนกิครับ"
"ผู้จัดการ? จริงหรือ?"
"ครับ" แจบอมยืนยันคำพูด นั่นสร้างความแปลกใจให้หล่อนอยู่ไม่ใช่น้อย ทำไมเธอจะไม่รู้จักนิสัยใจคอลูกชายตัวเอง คนอย่างยุนกิอารมณ์ร้อนและเอาแต่ใจตัวเองเป็นที่หนึ่ง ไม่แปลกที่ผู้จัดการคนก่อนๆจะลาออกทีละคนสองคนเพราะทนนิสัยเขาไม่ได้
"หนูทำงานมานานแค่ไหนแล้วจ๊ะ?"
"ประมาณ4-5วันค่ะ"
"มีอีกอย่างนึงครับคุณน้า ความจริงแล้วจีมินเข้ามาทำงานให้ยุนกิเพื่อทดแทนความผิดครับ" แจบอมตัดสินใจเล่าเหตุการณ์วันนั้นให้หล่อนฟังอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ก่อนใบหน้าหวานที่มีรอยเหี่ยวย่นตามวัยจะดูเป็นกังวลขึ้นมาทันที
"น้าขอโทษแทนยุนกิด้วยนะหนู"
"ไม่เป็นไรเลยค่ะ ที่จริงหนูก็เป็นคนผิด"
"แล้วในระยะเวลาสองเดือนหนูจะเปลี่ยนทัศนคติและนิสัยยุนกิยังไง ขนาดน้าเองเขายังไม่คิดจะฟังเลย" เมื่อนึกถึงเหตุผล หล่อนก็หนักใจขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ หลังจากที่เขาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เขาก็ไม่เคยกลับมาเยี่ยมบ้านอีกเลยแม้แต่ติดต่อทางโทรศัพท์ก็ยังไม่มี
".........."
"น้าน่ะ....เหนื่อยจนท้อแล้วล่ะ ไม่ว่าจะทำดีแค่ไหนจะพูดยังไงเขาก็ไม่สนใจ แต่ยังดีที่เขายังคุยและติดต่อกับพ่อของเขา"
"แสดงว่าเขาเชื่อฟังแค่พ่อของเขาเหรอคะ?"
"ไม่ทุกอย่างหรอกจ๊ะ เป็นบางเรื่องเท่านั้นที่เขาจะยอมฟังและปฏิบัติตาม"
"........" จีมินเงียบก่อนจะหันไปหาแจบอมเพื่อถามความเห็น แต่เขาก็พยักเพยิดให้เธอถามต่อไป เพราะนี่ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้ว
"ถ้าหนูจะถามอะไรบางอย่าง คุณน้าอย่าโกรธหนูนะคะ"
"หนูจะถามว่า เพราะอะไรยุนกิถึงไม่เชื่อฟังน้าใช่มั้ยจ๊ะ"
"ชะ...ใช่ค่ะ" จีมินตอบเสียงสั่น แอบกลัวอยู่เหมือนกันเพราะนี่มันเป็นเรื่องของครอบ ครัวและมันน่าจะกระทบจิตใจของหล่อนอยู่ไม่มากก็น้อย
"ยุนกิ....คิดว่าน้าเล่นชู้ลับหลังพ่อของเขา"
"อะไรนะคะ!? O.o" บอกเลยว่าตกใจมาก มากถึงมากที่สุด! แต่แจบอมกลับไม่รู้สึกตกใจหรืออะไรเลย แน่นอนว่าเขาต้องรู้เรื่องนี้ แค่เขาไม่ยอมบอกเธอ
"หนูคงคิดว่าน้าไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่นอนใช่มั้ยจ๊ะ"
"ไม่แน่นอนค่ะ"
"เปล่าจ้ะ... น้าทำ น้าแอบเล่นชู้ลับหลังสามี" พีค! พีคมาก! ให้ตายเถอะ! O.o จีมินอ้าปากค้างอย่างตกใจ หันไปหาแจบอมอีกครั้ง แต่เขาก็ยังบอกทางสีหน้าว่าให้เธอฟังต่อไป
"........"
"แต่พ่อของยุนกิ เขาเข้าใจและรู้ว่าน้าจะไม่ทำซ้ำเป็นครั้งที่สอง เขาเชื่อใจและไว้ใจ แต่...ยุนกิ เขาคิดว่าน้าจะหักหลังพ่อเขาอีก เขาเลยตั้งปฏิภาณกับตัวเองว่า ห้ามไว้ใจและเชื่อฟังผู้หญิงหลายผัวคนนี้" หล่อนยิ้มแต่กลับเป็นรอยยิ้มที่เจ็บปวด
"........"
"เขาเลยแกล้งน้าด้วยการทำตัวเป็นเด็กมีปัญหา เอาแต่ใจตัวเอง อารมณ์ร้อนและชอบใช้กำลัง จนมันติดเป็นนิสัยและฝังลึกลงเป็นสันดาน แก้ยังไงก็แก้ไม่หาย น้าถึงบอกไงว่าน้าท้อและเหนื่อยกับเขามามากพอแล้ว"
"แต่หนูคิดว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด....คุณยุนกิต้องเข้าใจคุณน้าผิดแน่ๆ"
"อันนี้น้าก็ไม่รู้ด้วยนะ" หล่อนบอกยิ้มๆ
"?"
"ถ้าอยากรู้ก็ไปถามยุนกิเอาเองนะ น้าเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาเข้าใจว่ายังไง แล้วหลังจากนั้นค่อยมาหาน้า ดูซิว่ามุมมองของน้ากับยุนกิมันตรงกันมั้ย" พูดจบ หล่อนก็เอื้อมมือมาลูบหัวหญิงสาว ปัดปอยผมที่ปรกหน้าออกอย่างเบามือ หล่อนรู้สึกถูกชะตาและเอ็นดูแม่หนูคนนี้มาก ยิ่งมองลึกลงไปในดวงตาคู่โตก็ยิ่งรู้สึกว่าเธอจะต้องเป็นนางฟ้าที่ช่วยดึงลูกชายของตัวเองออกมาจากทิฐิที่เขาตั้งมันขึ้นมา
"น้าเชื่อมั่นในตัวหนูนะ....ว่าที่ลูกสะใภ้"
"วะ...ว่าที่ลูกสะใภ้เหรอคะ?" จีมินย้อนถามเสียงสั่น อยู่ๆใบหน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นมาเสียเฉยๆ และรู้สึกได้ว่าหน้าเธอต้องแดงมากแน่ๆ ใช่ เธอเขิน! เขินจนตัวจะแตกอยู่แล้ว
"น้าเองก็ฝากความหวังไว้ที่หนูนะ ว่าที่ลูกสะใภ้" น้ำเสียงทุ้มดังขึ้นจากที่ไหนสักแห่งก่อนเจ้าตัวจะปรากฎขึ้น ชายวัยกลางคนรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ของเขา การแต่งตัวที่ดูมีภูมิฐาน บอกได้ทันทีเลยว่าต้องเป็นพ่อของเขาแน่นอน
"คุณ มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ" หล่อนถามสามีอย่างแปลกใจที่อยู่ๆเขาก็พรวดพราดเข้ามาในวงสนทนา ความจริงแล้วเขาอยู่ในวงสนทนามาตั้งนานแล้วแค่ไม่แสดงตัวตนเฉยๆ
"สวัสดีค่ะ" จีมินโค้งหัวอย่างนอบน้อม
"นี่คุณอาแอบฟังพวกเราคุยกันเหรอครับ" แจบอมถามยิ้มๆ
"เปล่า...แค่บังเอิญเดินมาได้ยินพอดี ก็เลยคิดว่ายืนฟังอีกสักหน่อยคงไม่เป็นไร" เขาตอบ ก่อนจะนั่งลงข้างๆกับภรรยา ยกมือขึ้นมาโอบไหล่พร้อมกับดันเข้ามาในอ้อมแขน ถึงไม่พูดก็ดูออกว่าเขารักและเชื่อใจภรรยามากขนาดไหน
"หนูจะพยายามทำเต็มที่ค่ะ ไว้ใจหนูได้เลย" ยิ่งพวกเขาทั้งสองตั้งความหวังไว้ที่เธอมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งอยากช่วยพวกเขามากเท่านั้น ถึงแม้จะไม่มั่นใจในตัวเองว่าจะทำสำเร็จมั้ย แต่มั่นใจได้เลยว่าเธอจะไม่ปริ ปากและบ่นว่าท้ออีกแล้ว! นับจากนี้จะมีแต่เดินหน้าอย่างเดียวเท่านั้น!
"ขอบใจนะจ๊ะหนู ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร แต่อย่าเพิ่งมีแฟนนะเดี๋ยวน้าจะยกขันหมากไปขอ ฮ่าๆ" ในน้ำเสียงนั้นอาจจะดูล้อเล่น แต่หารู้ไม่ว่าหล่อนพูดจริงและแสดงความจริงจังออกมาทางสายตาซึ่งมีคนเดียวที่รับรู้คือสามีของเธอเพียงเท่านั้นว่าภรรยาของเขาทีเล่นหรือทีจริง
"แหะๆ ^.^ งั้นหนูขอตัวลานะคะ สวัสดีค่ะ"
"สวัสดีครับ"
"จ้า กลับดีๆล่ะ" จีมินและแจบอมกล่าวลาก่อนทั้งคู่จะเดินออกมาที่รถ โดยในขณะนั้นใบหน้าของเธอยังเปื้อนยิ้มอยู่ นั่นทำให้เขาอดแซวไม่ได้
"พ่อแม่ไฟเขียวขนาดนี้แล้ว ว่าที่ลูกสะใภ้ว่ายังไงครับ" แจบอมว่าปนขำ พอเห็นเธอหน้าแดงเขาก็เผลอหน้าแดงไปด้วย
"คุณแจบอม! พูดอะไรคะ"
"สู้ๆนะครับว่าที่ลูกสะใภ้ตระกูลมิน" เขาแกล้งโดยการบีบแก้มตุ้ยนุ้ยของอีกฝ่ายอย่างมันมือโดยไม่สนใจปฏิกิริยาของเธอเลยสักนิด เขาก็เป็นอีกคนนึงที่มั่นใจในตัวเธอว่าเธอจะเป็นคนที่ทำให้ยุนกิเปลี่ยน แปลงตัวเองได้ อาจจะใช้เวลานานหน่อยแต่ก็ถือว่าคุ้มไม่ใช่หรือไง?
รอคอยลอยคอคอมเมนท์กำลังใจอยู่น้า
ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ
วันนี้มาข้านิดนึง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น