ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มรสุมคนเถื่อน (YoongiBTS & Jimin15&)

    ลำดับตอนที่ #6 : ว่าที่ลูกสะใภ้ตระกูลมิน 100%

    • อัปเดตล่าสุด 5 ส.ค. 60



    @บนรถ


        ทันทีที่เขานั่งแมะไม่ถึงสองนาที แม่คุณก็โวยวายกันยกใหญ่เรื่องที่เขากันเธอออกจากเพื่อนๆของเขา ทั้งๆที่เธอวาดฝันเอาไว้สะดิบดีว่าถ้าหากมีโอกาสได้เจอโอปป้า เธอจะขอถ่ายรูปและขอลายเซนต์ แต่เขากลับพังมันลงต่อหน้าต่อตา!



    "เธอจะอาลัยอาวรณ์อะไรนักหนาเนี่ย รำคาญ!" 



    "เพราะคุณนั่นแหละ!"



    "อ่อนี่ฉันผิดเหรอ" 



    "ใช่คุณผิด! ผิดเต็มๆเลยด้วย!" 



    "เออยอมรับก็ได้ พอใจยัง เงียบๆด้วยฉันจะนอน!" เขาตัดบท



    "คุณยังนอนไม่ได้! คุณต้องรับผิดชอบก่อน" 



    "รับผิดชอบอะไร?"  เขามองใบหน้าหวานที่เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนเขาจะร้องอ๋อเมื่อรู้ว่าเธอต้องการให้เขารับผิดชอบยังไง แล้วคิดเหรอว่าเขาจะตามใจเธอน่ะ



    "ฉันไม่พาเธอไปหรอก ถ้าเธออยากถ่ายนักก็ถ่ายกับฉันนี่ไง ถือสะว่าฉันเป็นตัวแทนเมมเบอร์คนอื่นๆก็แล้วกัน" 



    "มันเหมือนกันสะที่ไหนล่ะคะ"



    "เหมือน! ทำไมจะไม่เหมือน" 



    "ไม่เห็นเหมือนเลย" 



    "บอกว่าเหมือนก็เหมือนสิ! เธอนี่มันยังไง!" เมื่อถูกชายหนุ่มตะคอกใส่ จีมินก็ย่นจมูกใส่อย่างงอนๆ ก่อนจะแกล้งเสหน้ามองทางอื่น เธอก็อยากให้เขารู้เหมือนกันว่าเธอก็งอนเป็น! 



    "เดี๋ยววันหลังพาไปก็ได้ พอใจรึยัง" จู่ๆเขาก็โพล่งขึ้นมาดื้อๆ แอบมองปฏิกิริยาว่าอีกฝ่ายจะเป็นยังไง และเมื่อเห็นว่าเธอยิ้มกว้างเขาก็เผลอยิ้มตามโดยไม่รู้ตัว



    "จริงเหรอคะ!?"



    "เธอเห็นฉันพูดเล่นรึไง"



    "ก็คุณเพิ่งบอกฉันไปเอง ว่าสัจจะไม่มีอยู่ในกลุ่มผู้ชายหน้าตาดี"



    "เธอย้อนฉันเหรอห๊ะ!?"



    "หรือไม่จริงล่ะคะ?" 



    "ฉันไม่เถียงกับเธอแล้ว! เธอมันร้าย" 



    "ใครกันที่ร้าย" พูดเบาๆแต่หารู้ไม่ว่าเขาได้ยินเต็มสองรูหู



    "ถ้าเธอยังไม่หุบปาก ฉันจะปิดปากเธอด้วยปากของฉัน โอเค้?" เมื่อเขาขู่ด้วยวิธีนี้ จีมินก็หุบปากอย่างรวดเร็ว พอเขาวกมาเรื่องจูบทีไรใจก็สั่นทุกทีแถมอุณหภูมิในร่างกายก็สูงขึ้นจนปรอทแทบแตก 
















    "ขอบคุณที่มาส่งนะคะ เจอกันวันพรุ่งนี้ค่ะ"  หญิงสาวลงจากรถก่อนจะกล่าวลาชายหนุ่ม เขาบอกคนขับรถมาส่งเธอที่บ้านเพราะช่วงบ่ายว่างรวมถึงเขาด้วยเช่นกัน



    "อือ" 



    "บ๊ายบายค่ะ"  จีมินยกมือทำท่าบ๊ายบายเหมือนเด็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มหวานที่ใครๆมองเป็นอันต้องมนต์สะกด อยู่ๆหัวใจเขาก็เต้นตุบๆอย่างบ้าระห่ำโดยไม่มีสาเหตุ เขาเป็นอะไรไป!?



    "ไม่สบายรึเปล่าคะ หน้าแดงเชียว" หน้าแดงเหรอ? เขานี่นะ!? ไม่มีทางสะหรอก



    "........." เมื่อเห็นว่าเขาตะกุกตะกัก มือเล็กจึงถือวิสาสะยกขึ้นมาแตะหน้าผากของชายหนุ่มเพื่อวัดไข้ เอียงคออย่างสงสัยเมื่อตัวของเขาก็ไม่ได้ร้อนอย่างที่คิด



    หมับ! 



    มือหนาคว้าเข้าที่ฝ่ามือของฝ่ายหญิงทันทีที่เห็นว่าเธอจะปล่อยออกจากหน้าผากเขา นั่นสร้างความแปลกใจให้เธออยู่ไม่น้อย



    "มีอะไรรึเปล่าคะ?"  เธอมองหน้าเขาสลับกับมองมือตัวเองที่ยังถูกเขาจับไว้แน่น 



    "........." ดวงตาคู่โตมองเขาตาแป๋วอย่างต้องการคำตอบ จู่ๆ เขาก็รู้สึกอยากจูบเธอขึ้นมา ถ้าไม่ติดว่านี่หน้าบ้านเธอล่ะก็ เธอไม่รอดมือเขาหรอก! นี่เขากลายเป็นคนโรคจิตไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!? บ้าบอ!



    "กลับมาเร็วๆนะ" 



    "คะ?" จีมินเลิกคิ้วถามอีกครั้ง



    "หูหนวกรึไง!? ฉันไปละ" เขาปิดประตูดังปังโดยไม่สนใจสีหน้าสงสัยของอีกฝ่ายที่มองมาทางเขา ก่อนรถคันหรูจะแล่นออกไปทิ้งไว้เพียงฝุ่นควันขโมง.....








    "ปาป๊ามาม๊า~ กลับมาแล้วค่า คิดถึงจังเล้ยย~"  ร่างอวบถลาเข้ากอดบิดาและมารดาทันทีที่เห็นหน้า ตามมาด้วยขโมยหอมแก้มฟอดใหญ่จนผู้เป็นพ่อตำหนิด้วยสายตา



    "ไอ้อ้วน โตเป็นสาวแล้วไม่ใช่เด็กๆสักหน่อย"



    "แหมป๊า ทำมาเป็นหวงตัว ชอบก็บอกว่าชอบสิ เนอะม๊าเนอะ" หันไปขอความเห็นจากมารดา



    "ทำงานเป็นไงบ้างลูก เหนื่อยมากมั้ย"



    "มากกกกเลยค่ะ" เธอจงใจเน้นคำว่า 'มาก' พลันหน้าของเขาลอยเข้ามาในโสตประสาท



    "แล้วทำไมวันนี้ถึงได้กลับมาล่ะ"



    "ตอนบ่ายของวันนี้ว่างค่ะก็เลยกลับมาหาป๊ากับม๊าก่อน แต่อีกสักหน่อยว่าจะออกไปทำธุระกับเพื่อน" 



    "งั้นไปกินข้าวกินปลาก่อนไป" 



    "ค่าเสด็จป๊า~" 



    "เดี๋ยวเหอะไอ้อ้วน" บรรยาศเก่าๆเริ่มกลับมาก็ทำให้เขาอดคิดถึงและอดเป็นห่วงลูกสาวไม่ได้ ถึงแม้เขาจะปากจัดและปากแข็งไปหน่อยแต่เหตุผลเดียวที่ทำงานงกๆอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นเพราะลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนคนนี้นี่แหละ










    @บริษัทG



    "พวกท่านจะไม่ว่าอะไรเหรอคะที่เราไปรบกวน" จีมินเอ่ยถามแจบอมอย่างคนคิดหนัก ไหนๆก็ว่างแล้วเธอก็เลยถือโอกาสนี้ไปพูดคุยกับครอบครัวของเขาเรื่อง...นิสัยของคุณชายมินยุนกิ -.-



    "ฉันโทรไปขออนุญาตแล้วว่าฉันจะเข้าไปหาและพาเพื่อนไปด้วยหนึ่งคน พวกท่านบอกว่ายินดีมาก" 



    "พวกท่านใจดีมั้ยคะ?" จีมินลองหยั่งเชิงดู แต่กลับสร้างเสียงหัวเราะให้กับแจบอม



    "เธอต้องไปดูให้เห็นกับตา"



    "ทำไมพูดให้ฉันกังวลล่ะคะ" 



    "ฉันเปล่าสักหน่อย งั้นไปกันเลยดีกว่า" ชายหนุ่มตัดบท ก่อนจะคว้าเอากระเป๋าสตางค์และกุญแจรถ เดินนำจีมินไปที่รถยนต์คันหรู ก่อนจะมุ่งหน้าสู่จุดหมายปลายทาง.....




         ทันทีที่รถจอดสนิท หญิงสาวก็รู้สึกคิดหนักขึ้นมาเสียอย่างนั้น มือไม้เย็นเฉียบราวกับถูกแช่แข็ง จนทำให้แจบอมอดเป็นห่วงไม่ได้



    "ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นหรอกน่า ถ้าเธอทำความรู้จักกับพวกเขาเธอจะสบายใจ เชื่อฉัน" 


     
    "ค่ะ ฉันจะพยายามไม่กังวล" เธอพยักหน้ารับ สูดอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อเรียกความมั่นใจ ก่อนจะเดินตามร่างสูงของแจ
    บอมเข้าไปในตัวบ้าน  

            ภายในบ้านออกแบบสไตล์ตะวันตกผสมอินเดีย เฟอร์นิเจอร์ล้วนแล้วแต่เป็นของนำเข้าจากต่างประเทศ แน่นอนว่าราคาเหยียบหลักหกหรือไม่ก็หลักเจ็ด (ยอมในความรวย -_-)



    "สวัสดีครับคุณน้า ไม่ได้เจอกันนาน สบายดีนะครับ" ชายหนุ่มโค้งหัวเพื่อเป็นการทักทายหญิงวัยกลางคนซึ่งเป็นแม่ของเพื่อนสนิทเขาอย่างมินยุนกิ



    "น้าสบายดีจ้ะ....แล้วจะไม่แนะนำเพื่อนให้น้ารู้จักเหรอจ๊ะ?" หล่อนชะเง้อไปมองจีมินที่ยืนอยู่ด้านหลังของชายหนุ่ม เขาจึงส่งสัญญาณว่าให้เธอเลิกกลัวได้แล้ว



    "สวัสดีค่ะ....." หญิงสาวโค้งหัวอย่างมีมารยาท



    "สวัสดีจ้ะ ชื่ออะไรล่ะเรา" หล่อนถามยิ้มๆ



    "ปาร์ค จีมินค่ะ" น้ำเสียงของหล่อนทำให้เธอคลายกังวลลงได้มากพอสมควร ใบหน้าที่ฉาบด้วยรอยยิ้มกว้าง บ่งบอกว่าเธอเป็นคนที่ใจดี



    "ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะหนู แล้ว...ที่มาหาน้าเห็นบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย เรื่องอะไรเหรอจ๊ะ?" 



    "เอ่อ...คุณน้าครับ ที่จริงแล้วจีมินเป็นผู้จัดการส่วนตัวคนปัจจุบันของยุนกิครับ" 



    "ผู้จัดการ? จริงหรือ?" 



    "ครับ" แจบอมยืนยันคำพูด นั่นสร้างความแปลกใจให้หล่อนอยู่ไม่ใช่น้อย ทำไมเธอจะไม่รู้จักนิสัยใจคอลูกชายตัวเอง คนอย่างยุนกิอารมณ์ร้อนและเอาแต่ใจตัวเองเป็นที่หนึ่ง ไม่แปลกที่ผู้จัดการคนก่อนๆจะลาออกทีละคนสองคนเพราะทนนิสัยเขาไม่ได้



    "หนูทำงานมานานแค่ไหนแล้วจ๊ะ?" 



    "ประมาณ4-5วันค่ะ" 



    "มีอีกอย่างนึงครับคุณน้า ความจริงแล้วจีมินเข้ามาทำงานให้ยุนกิเพื่อทดแทนความผิดครับ" แจบอมตัดสินใจเล่าเหตุการณ์วันนั้นให้หล่อนฟังอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ก่อนใบหน้าหวานที่มีรอยเหี่ยวย่นตามวัยจะดูเป็นกังวลขึ้นมาทันที



    "น้าขอโทษแทนยุนกิด้วยนะหนู"



    "ไม่เป็นไรเลยค่ะ ที่จริงหนูก็เป็นคนผิด"



    "แล้วในระยะเวลาสองเดือนหนูจะเปลี่ยนทัศนคติและนิสัยยุนกิยังไง ขนาดน้าเองเขายังไม่คิดจะฟังเลย" เมื่อนึกถึงเหตุผล หล่อนก็หนักใจขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ หลังจากที่เขาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เขาก็ไม่เคยกลับมาเยี่ยมบ้านอีกเลยแม้แต่ติดต่อทางโทรศัพท์ก็ยังไม่มี



    ".........."



    "น้าน่ะ....เหนื่อยจนท้อแล้วล่ะ ไม่ว่าจะทำดีแค่ไหนจะพูดยังไงเขาก็ไม่สนใจ แต่ยังดีที่เขายังคุยและติดต่อกับพ่อของเขา"  



    "แสดงว่าเขาเชื่อฟังแค่พ่อของเขาเหรอคะ?"



    "ไม่ทุกอย่างหรอกจ๊ะ เป็นบางเรื่องเท่านั้นที่เขาจะยอมฟังและปฏิบัติตาม"



    "........" จีมินเงียบก่อนจะหันไปหาแจบอมเพื่อถามความเห็น แต่เขาก็พยักเพยิดให้เธอถามต่อไป เพราะนี่ถือเป็นโอกาสที่ดีที่สุดแล้ว



    "ถ้าหนูจะถามอะไรบางอย่าง คุณน้าอย่าโกรธหนูนะคะ" 



    "หนูจะถามว่า เพราะอะไรยุนกิถึงไม่เชื่อฟังน้าใช่มั้ยจ๊ะ"



    "ชะ...ใช่ค่ะ" จีมินตอบเสียงสั่น แอบกลัวอยู่เหมือนกันเพราะนี่มันเป็นเรื่องของครอบ ครัวและมันน่าจะกระทบจิตใจของหล่อนอยู่ไม่มากก็น้อย



    "ยุนกิ....คิดว่าน้าเล่นชู้ลับหลังพ่อของเขา"



    "อะไรนะคะ!? O.o" บอกเลยว่าตกใจมาก มากถึงมากที่สุด! แต่แจบอมกลับไม่รู้สึกตกใจหรืออะไรเลย แน่นอนว่าเขาต้องรู้เรื่องนี้ แค่เขาไม่ยอมบอกเธอ



    "หนูคงคิดว่าน้าไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่นอนใช่มั้ยจ๊ะ"



    "ไม่แน่นอนค่ะ" 



    "เปล่าจ้ะ... น้าทำ น้าแอบเล่นชู้ลับหลังสามี"  พีค! พีคมาก! ให้ตายเถอะ! O.o จีมินอ้าปากค้างอย่างตกใจ หันไปหาแจบอมอีกครั้ง แต่เขาก็ยังบอกทางสีหน้าว่าให้เธอฟังต่อไป



    "........"



    "แต่พ่อของยุนกิ เขาเข้าใจและรู้ว่าน้าจะไม่ทำซ้ำเป็นครั้งที่สอง เขาเชื่อใจและไว้ใจ แต่...ยุนกิ เขาคิดว่าน้าจะหักหลังพ่อเขาอีก เขาเลยตั้งปฏิภาณกับตัวเองว่า ห้ามไว้ใจและเชื่อฟังผู้หญิงหลายผัวคนนี้" หล่อนยิ้มแต่กลับเป็นรอยยิ้มที่เจ็บปวด



    "........" 



    "เขาเลยแกล้งน้าด้วยการทำตัวเป็นเด็กมีปัญหา เอาแต่ใจตัวเอง อารมณ์ร้อนและชอบใช้กำลัง จนมันติดเป็นนิสัยและฝังลึกลงเป็นสันดาน แก้ยังไงก็แก้ไม่หาย น้าถึงบอกไงว่าน้าท้อและเหนื่อยกับเขามามากพอแล้ว" 



    "แต่หนูคิดว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด....คุณยุนกิต้องเข้าใจคุณน้าผิดแน่ๆ"  



    "อันนี้น้าก็ไม่รู้ด้วยนะ" หล่อนบอกยิ้มๆ



    "?" 



    "ถ้าอยากรู้ก็ไปถามยุนกิเอาเองนะ น้าเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาเข้าใจว่ายังไง แล้วหลังจากนั้นค่อยมาหาน้า ดูซิว่ามุมมองของน้ากับยุนกิมันตรงกันมั้ย"  พูดจบ หล่อนก็เอื้อมมือมาลูบหัวหญิงสาว ปัดปอยผมที่ปรกหน้าออกอย่างเบามือ หล่อนรู้สึกถูกชะตาและเอ็นดูแม่หนูคนนี้มาก ยิ่งมองลึกลงไปในดวงตาคู่โตก็ยิ่งรู้สึกว่าเธอจะต้องเป็นนางฟ้าที่ช่วยดึงลูกชายของตัวเองออกมาจากทิฐิที่เขาตั้งมันขึ้นมา



    "น้าเชื่อมั่นในตัวหนูนะ....ว่าที่ลูกสะใภ้"



    "วะ...ว่าที่ลูกสะใภ้เหรอคะ?" จีมินย้อนถามเสียงสั่น อยู่ๆใบหน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นมาเสียเฉยๆ และรู้สึกได้ว่าหน้าเธอต้องแดงมากแน่ๆ ใช่ เธอเขิน! เขินจนตัวจะแตกอยู่แล้ว



    "น้าเองก็ฝากความหวังไว้ที่หนูนะ ว่าที่ลูกสะใภ้" น้ำเสียงทุ้มดังขึ้นจากที่ไหนสักแห่งก่อนเจ้าตัวจะปรากฎขึ้น ชายวัยกลางคนรุ่นราวคราวเดียวกับแม่ของเขา การแต่งตัวที่ดูมีภูมิฐาน บอกได้ทันทีเลยว่าต้องเป็นพ่อของเขาแน่นอน 



    "คุณ มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ" หล่อนถามสามีอย่างแปลกใจที่อยู่ๆเขาก็พรวดพราดเข้ามาในวงสนทนา ความจริงแล้วเขาอยู่ในวงสนทนามาตั้งนานแล้วแค่ไม่แสดงตัวตนเฉยๆ



    "สวัสดีค่ะ" จีมินโค้งหัวอย่างนอบน้อม



    "นี่คุณอาแอบฟังพวกเราคุยกันเหรอครับ" แจบอมถามยิ้มๆ



    "เปล่า...แค่บังเอิญเดินมาได้ยินพอดี ก็เลยคิดว่ายืนฟังอีกสักหน่อยคงไม่เป็นไร" เขาตอบ ก่อนจะนั่งลงข้างๆกับภรรยา ยกมือขึ้นมาโอบไหล่พร้อมกับดันเข้ามาในอ้อมแขน ถึงไม่พูดก็ดูออกว่าเขารักและเชื่อใจภรรยามากขนาดไหน



    "หนูจะพยายามทำเต็มที่ค่ะ ไว้ใจหนูได้เลย" ยิ่งพวกเขาทั้งสองตั้งความหวังไว้ที่เธอมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งอยากช่วยพวกเขามากเท่านั้น ถึงแม้จะไม่มั่นใจในตัวเองว่าจะทำสำเร็จมั้ย แต่มั่นใจได้เลยว่าเธอจะไม่ปริ ปากและบ่นว่าท้ออีกแล้ว! นับจากนี้จะมีแต่เดินหน้าอย่างเดียวเท่านั้น!



    "ขอบใจนะจ๊ะหนู ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร แต่อย่าเพิ่งมีแฟนนะเดี๋ยวน้าจะยกขันหมากไปขอ ฮ่าๆ" ในน้ำเสียงนั้นอาจจะดูล้อเล่น แต่หารู้ไม่ว่าหล่อนพูดจริงและแสดงความจริงจังออกมาทางสายตาซึ่งมีคนเดียวที่รับรู้คือสามีของเธอเพียงเท่านั้นว่าภรรยาของเขาทีเล่นหรือทีจริง



    "แหะๆ ^.^ งั้นหนูขอตัวลานะคะ สวัสดีค่ะ" 



    "สวัสดีครับ" 



    "จ้า กลับดีๆล่ะ" จีมินและแจบอมกล่าวลาก่อนทั้งคู่จะเดินออกมาที่รถ โดยในขณะนั้นใบหน้าของเธอยังเปื้อนยิ้มอยู่ นั่นทำให้เขาอดแซวไม่ได้



    "พ่อแม่ไฟเขียวขนาดนี้แล้ว ว่าที่ลูกสะใภ้ว่ายังไงครับ" แจบอมว่าปนขำ พอเห็นเธอหน้าแดงเขาก็เผลอหน้าแดงไปด้วย



    "คุณแจบอม! พูดอะไรคะ" 



    "สู้ๆนะครับว่าที่ลูกสะใภ้ตระกูลมิน" เขาแกล้งโดยการบีบแก้มตุ้ยนุ้ยของอีกฝ่ายอย่างมันมือโดยไม่สนใจปฏิกิริยาของเธอเลยสักนิด เขาก็เป็นอีกคนนึงที่มั่นใจในตัวเธอว่าเธอจะเป็นคนที่ทำให้ยุนกิเปลี่ยน แปลงตัวเองได้ อาจจะใช้เวลานานหน่อยแต่ก็ถือว่าคุ้มไม่ใช่หรือไง?























    รอคอยลอยคอคอมเมนท์กำลังใจอยู่น้า
    ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ
    วันนี้มาข้านิดนึง
























    { Winter Dark Theme }
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×