ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : จูบซ้ำสองและซ้ำสอง 100%
ตอนนี้บรรยากาศภายในโต๊ะอาหารค่อนข้างจะครื้นเครงสะส่วนใหญ่ ยุนกิและจีมินถูกเชิญให้มาร่วมรับประทานอาหารร่วมกับกองถ่าย แต่น่าแปลกที่คราวนี้เขายอมลงมาง่ายๆทั้งที่ปกติแล้วเขาไม่ชอบงานเลี้ยงอะไรแบบนี้อยู่แล้ว
จีมินและยุนกิไม่ได้นั่งข้างกันอย่างที่คิด เขาปลีกตัวออกไปนั่งกับราเอลเป็นการส่วนตัวที่โต๊ะถัดไป แต่เขานั่งหันหน้ามาทางเธอพอดี ทำให้เธอเห็นปฏิกิริยาเขาหมดทุกอย่าง
"พี่ยุนกิคะ เป็นอะไรไปเหรอคะ" ราเอลเอ่ยถามเสียงใสเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มตรงหน้าเอาแต่นั่งเหม่อลอย
"เปล่าครับ ขอโทษนะ" มือหนาวางลงบนหัวอีกฝ่ายพร้อมออกแรงขยี้เล็กน้อย
"เห็นมั้ยผมยุ่งหมดเลย พี่ยุนกิเล่นอะไรก็ไม่รู้" แกล้งตำหนิแต่ในใจจริงชอบที่ให้เขาทำแบบนี้ โดยเจ้าตัวไม่รู้เลยว่าถูกเขาใช้เป็นเครื่องมือประชดใครอีกคนอยู่ เขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเธอจะทนได้สักกี่น้ำ ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเธอรู้สึกยังไงกับเขา และที่เขาทำ ก็เป็นอีกวิธีนึงที่ต้องการให้เธอลาออก
"ขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ" ชายหนุ่มบอกราเอลก่อนจะรีบเดินตามจีมินที่ลุกออกไปเมื่อสักครู่ ก่อนจะพบว่าเธอกำลังเดินเล่นตามชายหาด
"ทนไม่ได้ขนาดนั้นเลยเหรอ?"
"คุณพูดเรื่องอะไรคะ"
"ฉันว่าเธอก็น่าจะรู้ดี" แน่นอน เธอรู้ และเพราะเธอทนไม่ได้ไง ถึงต้องขอตัวออกมาแต่เขาก็ยังตามออกมาหาเรื่องอีกจนได้
"ขอร้องล่ะค่ะ อย่ามาชวนฉันทะเลาะอีกเลย เรายังต้องทำงานร่วมกันไปอีกนาน"
"เธอคิดว่าจะทำได้นานแค่ไหนกันเชียว"
"ก็จนกว่าฉันจะเปิดภาคเรียน...ช่วยๆทนอีกนิดนะคะ เพราะไม่อีกกี่เดือนคุณก็จะเป็นอิสระ จะได้ทำอะไรที่อยากทำ"
"มันจะไม่ถึงตอนนั้นเพราะฉันจะทำให้เธอต้องยอมลาออกไปก่อน"
"คุณจะทำอะไรก็ทำไปเถอะค่ะ จะแกล้งประชดหรือหาเรื่องให้ฉันรับผิดชอบ ก็เชิญคุณทำไปสะให้พอ"
".........."
"ถึงฉันจะเบื่อและเกลียดนิสัยเอาแต่ใจคุณมากขนาดไหนแต่ก็ใช่ว่าเหตุผลแค่นี้ฉันจะต้องยอมลาออก การที่คุณเอานิสัยแบบนี้มาปะปนกับงานจนทำให้มันเสีย มันไม่ใช่เรื่องดีเลยสักนิด ไม่แน่มันอาจจะทำให้คุณเสื่อมเสียชื่อเสียงก็ได้"
"เธอคิดว่าเธอเป็นใครถึงมาสั่งสอนฉันได้!" น้ำเสียงและแววตาของเขาแสดงความโกรธได้เป็นอย่างดี ไหนจะอารมณ์ที่ส่งผ่านมือหนาที่กำลังบีบข้อมือเล็กจนเกือบจะหักคามือ แต่กลับไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆผ่านใบหน้าหวานเลยสักนิด
"คุณจะมองฉันในฐานะแฟนคลับคนนึงที่หวังดีต่อศิลปินก็ได้นะคะ"
"........."
"เผื่อว่าสักวันคุณจะฉุกคิดขึ้นมาได้ ว่านิสัยแบบคุณไม่มีทางอยู่รอดในวงการบันเทิง"
"ปาร์ค จีมิน! พูดเกินไปแล้วนะ!" ออกแรงบีบข้อมือเล็กเข้าไปอีก จนคราวนี้หญิงสาวถึงกับนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ พยายามสะบัดข้อมือของตนให้ออกจากพันธนาการของอีกฝ่าย จนกระทั่งหลุดพ้นออกมาได้ แล้วรีบเดินหนีไปทันที
ปังๆๆๆๆ!!!
เสียงเคาะประตูดังสนั่นโดยไม่เว้นจังหวะให้เจ้าของห้องได้ตอบโต้ และมันยังคงดังต่อเนื่องติดๆกันเมื่อเจ้าของห้องไม่มีทีท่าจะลุกไปเปิดแต่อย่างใด
ปังๆๆๆๆ!!!
"หยุดเคาะสักทีเถอะค่ะ มันรบกวนคนอื้อ!....." ยังตำหนิไม่ทันจบประโยค ก็ถูกคนตัวสูงจู่โจมอย่างรวดเร็ว มือหนาตวัดเข้ามาโอบเอวบางและดันมันเข้าหาตัวเอง ส่วนมืออีกข้างก็จับไหล่มนดันให้เดินถอยหลัง ก่อนจะใช้เท้าที่ยังว่างปิดประตู
"อ่อยอะ!" (ปล่อยนะ!) พูดเสียงอู้อี้ในลำคอในขณะที่มือทั้งสองข้างยังระดมทุบอกแกร่งเพื่อหวังให้อีกฝ่ายเจ็บและยอมผละออกไป แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สะทกสะท้านอะไรเลย
"คุณเป็นบ้าไปแล้วรึไง!" ทันทีที่เขายอมปล่อยให้เธอเป็นอิสระ จีมินก็ถามเขากลับด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง
"เออ! ฉันเป็นบ้า!"
"ถ้าคุณจะมาหาเรื่องฉันอีก คุณออกไปเถอะค่ะ!"
"เธอคิดว่าฉันเข้ามาหาเธอเพราะแค่จะหาเรื่องรึไง ไม่คิดเหรอว่าฉันจะเข้ามาเพราะจุดประสงค์อื่น" ชายหนุ่มสวนกลับด้วยน้ำเสียงมีเลศนัย อีกทั้งเลิกคิ้วถามความเห็นจากอีกฝ่าย ในขณะที่ขาทั้งสองข้างเริ่มต้อนอีกฝ่ายเข้ามุม ยกมือทาบกับผนังเพื่อกันไม่ให้เธอหนี
"คุณจะทำอะไร!?"
"คิดว่าฉันเข้ามาใกล้ขนาดนี้แล้วจะทำอะไรล่ะ หืม?"
"อย่าทำอะไรนะ ไม่เช่นนั้นฉันจะ....."
"จะอะไร"
"จะฟ้องคุณแจบอม!"
"ก็เอาสิ ถ้าเธอคิดว่าเธอมีโอกาสไปฟ้องมัน ก็เอาเลย!"
"ฉันมีแน่! และคุณก็จะ.....อื้อ!" ริมฝีปากหนาประกบเข้ากับปากบางของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว เป็นอีกรอบที่เขาจู่โจมอย่างนี้ แถมยังเลื่อนมือมากุมใบหน้าเธอไว้เพื่อกันเธอหันหน้าหนี พยายามจะสอดลิ้นหนาเข้าไปหยอกล้อกับลิ้นเล็ก แต่คนตรงหน้าไม่ยอมง่ายๆพยายามปิดปากแน่นให้ถึงที่สุด จนกระทั่งชายหนุ่มกัดริมฝีปากล่างของจีมิน ความเจ็บส่งผลให้เธอต้องเผยอปาก ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นทางที่เปิดรับลิ้นหนาของเขาเข้ามาอย่างง่ายดาย คนเอาแต่ได้กอบโกยเอาความหวานจากโพรงปากเล็กอย่างไม่รู้จักพอ ตวัดลิ้นหยอกเย้ากับลิ้นเล็กอย่างสนุกใจโดยลืมไปว่าถ้าเขายังโลภมากอยู่อย่างนี้จะทำให้เธอขาดอากาศหายใจไปเสียก่อน
ทันทีที่เขายอมผละริมฝีปากออก เธอก็กอบโกยเอาอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ก่อนจะตวัดสายตามองคนเห็นแก่ตัวตรงหน้า
"เจอแบบนี้แล้วยังจะปากดีอีกมั้ย"
"คุณมัน....."
"มันอะไร ฉันมันอะไร"
"คุณมันป่าเถื่อน เห็นแก่ตัว เอาแต่ใจตัวเอง!"
"พูดแบบนี้แสดงว่าอยากเจออีกรอบ? แต่ฉันจะถือว่านั่นเป็นคำชมแล้วกันนะ" อีกอย่างนึง เขามันหน้าด้าน! เธอพูดขนาดนี้แล้วเขายังไม่สะทกสะท้านอะไรอีก
"ถ้าคุณพอใจแล้วก็ถอยออกไปสักที"
"ใครบอกว่าฉันพอใจแล้ว"
"คุณจะเอาอะไรจากฉันอีก!" เขาไม่ตอบ แต่กลับยกยิ้มมุมปากพลางมองปากอวบอิ่มที่แดงเจ่อจากฝีมือของเขาก่อนหน้า เห็นสายตาแบบนี้ของเขาเธอใจไม่ดีเอาเสียเลย คนอย่างเขามันร้ายลึก ไว้ใจอะไรไม่ได้
"จูบฉันก่อนฉันถึงจะปล่อยเธอ"
"อะไรนะ!" ไม่มีทาง! ไม่มีทางที่เธอจะทำแบบนั้น ถ้าทำก็เท่ากับว่าเสียศักดิ์ศรีลูกผู้หญิงน่ะสิ
"จะทำหรือไม่ทำ" เขาถามย้ำอีกรอบ
"ไม่!"
"หรือจะให้ฉันทำ? แต่ถ้าฉันทำคงไม่ใช่แค่จูบเฉยๆนะ ฉันให้โอกาสเธอเลือกแล้ว" ทำแบบนี้มันมัดมือชกกันชัดๆ เธอถึงได้บอกไงว่าคนอย่างเขามันไว้ใจไม่ได้!
".........."
"ฉันนับหนึ่งถึงสาม ถ้าเธอไม่จูบ ฉันจะเป็นฝ่ายจูบเอง และถ้าฉันจูบมันจะจบลงที่เตียง"
"หนึ่ง....."
"........."
"สอง......"
"........." เธอเงียบอย่างใช้ความคิด
"สะ......" จีมินตัดสินใจเขย่งขึ้นไปจูบปากเขาอย่างที่ชายหนุ่มต้องการ เธอยอมเสียศักดิ์ศรีโดยการทำสิ่งที่น่าอายด้วยการรุกผู้ชายก่อน บ้าจริง! เกิดมายังไม่เคยทำแบบนี้เลยสักครั้ง นี่เป็นครั้งแรก และเธอจะไม่มีทางที่จะให้มันเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองแน่นอน
แต่พอเธอจะผละออกก็ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอม ซ้ำยังโอบเธอไว้ในวงแขนแกร่ง ก่อนยุนกิจะยอมผละริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่งมองปากบวมเจ่อนั้นอย่างอาลัยอาวรณ์ แต่มันก็ไม่ใช่แค่นั้น เพราะเขายังเลื่อนริมฝีปากลงมาบริเวณซอกคอขาว จูบหนักๆสองสามที
"ไหนคุณบอกว่าแค่จูบไง!"
"........." ไร้เสียงตอบรับใดๆจากร่างแกร่ง เขายังลากเลื้อยริมฝีปากไปทั่วซอกคอจนหญิงสาวขนลุกซู่กับสัมผัสที่เขาบรรจงสร้างขึ้นมา
"ยะ...อย่าทำรอยไว้นะ" เคยได้ยินมั้ย? ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ พอเธอห้าม เขาก็ยิ่งอยากทำ ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะขบเม้มเข้าที่คอขาวระหงของอีกฝ่าย จากหนึ่งจุดเป็นสองจุดจากสองจุดเป็นสามและลามไปจนเกือบทั่วทั้งคอ
"พะ....พอแล้ว" หญิงสาวห้ามเสียงสั่น หัวใจเธอสั่นไหวจนแทบควบคุมไม่อยู่ ถ้าขืนเขายังแกล้งเธออยู่อย่างนี้ เธอต้องตายก่อนแน่ๆ
"อ๊ะ! เจ็บนะ!" จีมินเผลออุทานออกมาด้วยความเจ็บปวดที่อยู่ๆชายหนุ่มก็กัดเข้าที่คอหนักๆเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะยอมถอยออกมา พลันมองสิ่งที่ตัวเองทำขึ้นมาอย่างพออกพอใจโดยที่ใครอีกคนไม่ได้รู้สึกแบบนั้นด้วยเลย
"คนไม่รักษาคำพูด"
"โทษทีนะ พอดีฉันถือคติว่า สัจจะไม่มีอยู่ในกลุ่มผู้ชายหน้าตาดี" เขาก้มลงมากระซิบที่ข้างหูเธอเบาๆก่อนจะเดินออกไปจากห้อง จีมินยกยิ้มเยาะใส่ตัวเองอีกครั้ง พลางมองตัวเองในกระจก สะท้อนให้เห็นรอยแดงเป็นจ้ำๆอยู่ทั่วลำคอ หนักสุดก็ตรงลำคอด้านขวาใกล้ติ่งหูที่มันแดงและเริ่มช้ำและที่สำคัญมันอยู่สูง ยากที่จะปิดบังได้มิด
วันรุ่งเช้า...
เธอแทบมองหน้าเขาไม่ติด และเมื่อนึกถึงสาเหตุใบหน้าหวานก็แดงซ่านขึ้นมาอย่างสุดจะห้าม จีมินมานั่งรออยู่บนรถก่อนแล้วในขณะที่ชายหนุ่มยังคงร่ำลาแม่นางแบบสาวไม่มาสักที
"ต่อไปฉันมีงานอะไรต่อ" เขาเอ่ยถามทั้งๆที่ก้นยังไม่สัมผัสกับเบาะนั่ง
"ช่วงเช้ามีเข้าไปบริษัทเรื่องการคัมแบ็ค ส่วนช่วงบ่ายน่าจะว่างค่ะ"
"อืม"
"........"
"ตอนบ่ายเธอจะกลับบ้านก็ได้ ฉันอนุญาต"
"อะไรนะคะ?" เมื่อกี้เขาว่าอะไรนะ หรือหูเธอผิดเพี้ยนไป
"ได้ยินว่ายังไงก็ตามนั้นแหละ อย่าถามมาก"
"ขอบคุณนะคะ" เป็นประโยคสุดท้ายระหว่างเธอกับเขา จนกระทั่งเดินทางมาถึงโซลในช่วงสายของวัน
@Bighit Ent.
"เธอรอฉันอยู่ร้านกาแฟใกล้ๆนั้นก็ได้ ไม่ต้องตามขึ้นไปหรอก" เขาว่าพลางชี้ไปยังร้านกาแฟเล็กๆตรงข้ามกับบริษัท ซึ่งเธอก็พยักหน้ารับก่อนจะเดินข้ามถนนไปรออย่างที่เขาบอก ก็ดีเหมือนกันที่ไม่ต้องไปเจอผู้ คนมากมายและคอยจับจ้องมาที่คอของเธอ ทั้งที่วันนี้ใส่เสื้อคอเต่ามาแล้วแท้ๆ แต่ก็ยังบังไอ้รอยนั้นไม่มิด
ทางด้านของชายหนุ่ม เขานั่งรอเมมเบอร์คนอื่นๆและประธานค่ายอยู่ที่ห้องประชุมก่อนใครเพื่อน นั่งเล่นโทรศัพท์รอเพื่อฆ่าเวลา
"ตายๆ วันนี้ต้องเกิดภัยพิบัติอย่างรุนแรงแน่ๆ คุณมินยุนกิมารอก่อนเพื่อนเลย" โฮซอกถลาเข้ามาเกาะแขนพร้อมกับทำหน้าไม่เชื่อว่าคือยุนกิตัวจริงเสียงจริง
"ฮยอง! คิดไงวันนี้ถึงมาก่อนอ่ะ"
"ก็ไม่มีไรทำ" เขาตอบจองกุกเสียงนิ่ง
"ไม่เชื่ออ่ะ คนอย่างฮยองมีอะไรให้ทำเยอะแยะจะตาย"
"อย่าจับผิดกันได้ป่ะวะ"
"ผมก็แค่แปลกใจ" จองกุกบอกเหตุผลก่อนยกน้ำขึ้นมาดื่ม
"ได้ยินว่าได้เมเนฯคนใหม่ เห็นข่าวแว่วๆว่าเธอทำงานได้ดี ไหนล่ะ ฉันชักอยากเห็นหน้าแล้วสิ" จินถามพลางมองซ้ายมองขวา
"รออยู่ข้างล่าง"
"อ้าว ทำไมไม่พาเธอขึ้นมาด้วยล่ะ" นัมจุนถามบ้าง
"ก็เป็นสะอย่างนี้ไง ใครจะพาเธอขึ้นมาให้พวกนายรุมถามล่ะ อีกอย่าง...เธอทำงานแค่ชั่วคราวเพื่อทดแทนความผิด"
"แต่พวกฉันก็ยังอยากเห็นเธออยู่ดี" เขายักไหล่โดยไม่ตอบเมมเบอร์คนอื่นๆก่อนจะลุกไปเข้าห้องน้ำเสียดื้อๆ สร้างความงงงวยให้เพื่อนกันเป็นแถบๆ
หลังจากที่คุยธุระกันเสร็จแล้ว ยุนกิก็รีบตรงดิ่งมาที่ร้านกาแฟอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพบเข้ากับจีมินที่กำลังนั่งตักเค้กเข้าปากอย่างสบายใจเฉิบ
"มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ"
"เมื่อกี้"
"จะกินอะไรมั้ย เดี๋ยวฉันสั่งเพิ่มให้"
"ขอกาแฟแก้วนึงก็พอ"
"รอสักครู่นะคะ" เธอว่า จากนั้นก็ลุกไปสั่งกาแฟที่หน้าเคาน์เตอร์ ไม่ถึงสิบนาทีเธอก็กลับเข้ามาพร้อมกาแฟร้อนในมือ
"ใช่เมเนฯของยุนกิมั้ยครับ"
"คะ? ค่ะ" จีมินตอบตะกุกตะกัก จะไม่ให้เธอตื่นเต้นได้อย่างไร ก็ในเมื่อโอปป้าทั้งหกคนรวมเขาด้วยเป็นเจ็ด ยืนอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้! ไม่สลบตายก็ถือว่าบุญโขแล้ว
"พวกนายตามฉันลงมาทำไม" ยุนกิถาม
"ก็นายไม่ให้พวกเรารู้จักกับเมเนฯของนายนี่ เราก็เลยใช้วิธีนี้"
"สวัสดีครับ ให้พวกเราแนะนำชื่อมั้ย" แทฮยองถาม
"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันรู้จักพวกคุณหมดแล้ว ฉันปาร์ค จีมินนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ"
"โอ๊ะ! เธอชื่อเหมือนผมด้วยอ่ะ นามสกุลก็เหมือน" จีมินอีกคนยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ
"ทำไมเมเนฯฮยองถึงน่ารักแบบนี้~"
"หยุดอยู่ตรงนั้นเลยจองกุก!" ร่างหนาที่กำลังจะกระโดดเข้าไปหาหญิงสาวเป็นอันต้องหยุดชะงักเมื่อน้ำเสียงน่าเกรงขามของรุ่นพี่ขัดไว้ ก่อนยุนกิจะมายืนบังเธอจนมิด
"คุณมายืนบังฉันทำไมคะ เสียมารยาท" จีมินกระซิบถามเบาๆ
"ฉันอยากยืนตรงนี้จะทำไม"
"แต่ว่าฉันมองไม่เห็นพวกเขา"
"ช่างเธอสิ!"
"ทำไมนายไปยืนบังเธอแบบนั้นล่ะ พวกเรากำลังคุยกับเธออยู่นะ"
จินขมวดคิ้ว
"เธอเป็นโรคส่วนตัวสูงน่ะ เข้ากับคนไม่ค่อยได้"
"ฉันไม่ได้เป็นแบบนั้นสักหน่อยนะคะ!"
"หุบปาก แล้วรีบไปรอฉันที่รถ ถ้าเธอไม่ไปฉันจะจูบเธอตรงนี้!" เขากระซิบกลับ ซึ่งแน่นอนว่าเธอขัดคำสั่งเขาไม่ได้ ขึ้นชื่อว่า มินยุนกิ พูดจริงทำจริง!
"ฉันขอตัวไปรอที่รถก่อนนะคะ ขอโทษที่ต้องเสียมารยาท" จีมินกล่าวลาพร้อมสายตาอาลัยอาวรณ์ เธอยังคุยกับโอปป้าของเธอไม่ถึงสิบคำเลยด้วยซ้ำ เพราะเขาคนเดียวเลย! ขัดขวางความสุขของเธอ ชิส์!
"ฉันขอตัวก่อนนะ พอดีมีธุระต่อ แล้วเจอกัน" ชายหนุ่มบอกกับเมมเบอร์ ก่อนจะเดินตามจีมินออกมาติดๆ ทิ้งให้หกคนที่เหลือมองหน้ากันไปมาอย่างคิดไม่ตก
"อาการของคนหวงชัดๆ"
อ่านแล้วเมนท์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะแจ๊ะ!
เจอกันพรุ่งนี้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น