ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : จูบครั้งแรกหัวใจก็สั่นไหว 100%
นับว่าเป็นครั้งแรกที่จีมินมีโอกาสดูเขาทำงานอย่างเอาจริงเอาจรังและใกล้ชิดขนาดนี้ ดวงตากลมโตฉายแววชื่นชมผู้ชายตรงหน้าอยู่ลึกๆ ถือว่าเขาประสบความสำเร็จเต็มตัวแล้วสำหรับอาชีพนี้
"แล้วช่วงนี้มีใครในหัวใจบ้างรึยังคะ" พิธีกรสัมภาษณ์ได้ตรงประเด็นแบบไม่อ้อมค้อม และแน่นอนว่าคำถามนี้หลายๆคนก็คงลุ้นกันอยู่รวมถึงเธอด้วยที่นั่งฟังอยู่ห่างๆเช่นกัน
"ยังครับ ผมขอโฟกัสแค่เรื่องงานก่อน เรื่องความรักผมยังไม่คิด ไว้เป็นเรื่องของอนาคต"
"แฟนคลับได้ยินแบบนี้ก็คงจะโล่งอกกันเป็นแถบๆเนอะ" พิธีกรสาวหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจก่อนจะเริ่มปฏิบัติตามหน้าที่ของตนต่อ
"คราวหลังไม่ต้องรับงานแบบนี้อีกนะ เบื่อ" เขาบอกพร้อมกับโยนเสื้อหนังมาให้หลังจากที่เดินออกมาจากสตูถ่ายทำ ซึ่งจีมินก็รับได้อย่างคล่องแคล่ว
"ทำไมล่ะคะ"
"ก็พิธีกรถามแต่คำถามเดิมวกวนไปมา ฉันไม่รู้จะหาคำไหนมาตอบแล้ว"
"เรื่องความรักน่ะเหรอคะ"
"เออ!" ตอบอย่างไร้อารมณ์
"ก็มันเป็นรายการเกี่ยวกับความรัก คอนเซ็ปรายการเขาก็บอกอยู่ ถ้าไม่ถามคำถามพวกนี้จะให้ถามอะไรล่ะคะ"
"ก็ถึงบอกไง ว่าอย่ารับงานแบบนี้อีก"
"แต่ก่อนที่ฉันจะตกลงรับงานนี้ ฉันถามคุณก่อนนะคะ แต่คุณไม่สนใจฉันเอง มัวแต่เล่นเกมอย่างเดียวเลย" อันนี้เรื่องจริงทั้งนั้น ก่อนจะรับงานอะไรเธอจะถามเขาก่อนทุกครั้งไม่ว่าจะงานเล็กหรืองานใหญ่ เพราะการตัดสินใจของเขาถือเป็นด่านสุดท้าย เขาจะมาด่าว่าเป็นความผิดเธอไม่ได้เพราะเขาต่างหากที่เป็นคนผิด
"เลิกต่อปากต่อคำกับฉันได้มั้ยห๊ะ นับวันเธอยิ่งปีกกล้าขาแข็งขึ้นเรื่อยๆ ฉันมีอำนาจมากกว่าเธอ เข้าใจมั้ย?"
"ฉันเข้าใจค่ะ" รับคำพร้อมโค้งหัวเล็กน้อย
"ฉันจะคอยดู และถ้าเมื่อไหร่ที่เธอทำตัวมีอำนาจมากกว่าฉัน ฉันจะฉีกเธอเป็นชิ้นๆ!" คำเตือน? ไม่! มันคือคำสั่งต่างหาก!
10.30น.
หลังจากจบจากการสัมภาษณ์ เขาก็มีถ่ายแบบต่อ ซึ่งสถานที่ถ่ายก็คงหนีไม่พ้นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของเกาหลีอย่างเกาะเชจู และ
ตอนนี้กำลังเดินทางไปที่ท่าอากาศยานเพื่อเดินทางไปที่เชจูโดยไปทางเครื่องบินจะสะดวกและรวดเร็วกว่า
ติ๊งงงง!~
เสียงสัญญานโทรศัพท์ของจีมินดังขึ้นขณะอยู่ในรถ เธอล้วงขึ้นมาอ่านข้อความจากใครคนหนึ่งที่ส่งมาผ่านแอพลิเคชั่นKakaoTalk
[[[อ้วน ว่างวันไหนอ่ะ อยากชวนไปกินติม]]] ข้อความบนหน้าจอส่งผลให้คนอ่านอย่างเธอยิ้มกว้าง ก่อนจะตอบกลับข้อความไป
[[[ยังหาวันว่างไม่ได้เลย แต่ถ้าว่างเมื่อไหร่ฉันจะบอกอีกทีนะ]]]
ติ๊งงงง!~
[[[เร็วๆล่ะ เพราะไม่เช่นนั้นฉันจะหาแฟนก่อนและเธอก็จะกลายเป็นหมาหัวเน่า]]]
[[[ย่ะ!]]]
"จะแชทกับแฟนปิดเสียงเตือนบ้างก็ได้ ฉันรำคาญ!" อยู่ๆคนที่เอนกายพักสายตาโดยมีหมวกคลุมหน้าไว้ก็โพล่งขึ้นมาเสียดื้อๆ ถึงจะไม่เห็นสีหน้าแววตาเขาเธอก็พอจะเดาออกจากน้ำเสียงนั้นได้เป็นอย่างดี
"ไม่ใช่แฟนค่ะ"
"ใครถามไม่ทราบ" จีมินถึงกับอ้าปากเหวอกับประโยคสวนกลับของอีกฝ่าย ก่อนจะส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอเบาๆประชดประชันคนข้างกาย
"เธออย่าคิดว่าฉันจะไม่เห็นนะ"
"เห็นอะไรคะ" แกล้งถามกลับด้วยน้ำเสียงและสีหน้าไร้เดียงสา
"เห็นว่าเธอกำลังล้อเลียนฉันอยู่ หยุด! ก่อนที่ฉันจะโยนเธอลงจากรถ" พอเถียงไม่สู้วิธีการเดียวที่เขาจะทำก็คือการขู่ และถ้าขู่ไม่สำเร็จก็อาจจะเอากำลังเข้าสู้ คนอย่างเขาเธอเห็นมานักต่อนักแล้ว ผู้ชายปากจัดแบบเขามีทางเดียวที่จะเอาชนะได้คือการเถียง เถียงให้สุดเท่าที่จะทำได้แต่ถ้าเขาใช้กำลังขึ้นมาจริงๆ อันนี้เธอก็ไม่รู้เหมือนกัน(?)!!!
@เกาะเชจู
ใช้เวลาเดินทางจากโซลมาที่นี่เพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น จีมินลงจากรถก่อนใครเพื่อนตามมาด้วยร่างสูงของยุนกิ เธอกางแขนรับอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดเฮือกใหญ่ ยกโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกรูปไว้เป็นความทรงจำ เพราะนานมากแล้วที่เธอไม่ได้มาที่นี่
"ฉันไม่ได้พาเธอมาเที่ยวนะ รีบเอาของไปเก็บเร็วเข้า" ยังไม่ทันที่จะได้กดชัตเตอร์เสียงทุ้มนุ่มนั้นก็ขัดขึ้นมาได้จังหวะแบบพอดิบพอดี หญิงสาวเลยละสนใจจากทัศนยภาพตรงหน้าไปอย่างน่าเสียดาย
"บ่ายโมงตรงให้คุณยุนกิลงมาแต่งหน้าทำผมนะคะ เราจะเริ่มถ่ายเซ็ตแรกตอนบ่ายสอง" จีมินรับคำสั่งจากกอง ก่อนจะนำไปบอกชายหนุ่ม ซึ่งเขาก็พยักรับรู้แบบลวกๆทั้งที่ตาทั้งสองข้างยังคงจดจ้องมือถือตรงหน้า
"คุณฟังฉันอยู่มั้ยคะ"
"เออ ฟังอยู่"
"งั้นเมื่อกี้ฉันพูดว่าอะไร"
"อย่ามากวนได้ป่ะ คนกำลังใช้สมาธิ" สมาธิ? สมาธิกับการเล่นเกมส์น่ะเหรอ โคตรไร้สาระเลย
"ก็ได้ค่ะ ถ้าคุณต้องการอะไรโทรเรียกฉันได้ตลอดนะคะ" ร่างอวบโค้งหัวให้ก่อนจะเดินออกมาจากห้องพักของเขา เธอตัดสินใจมารับลมที่ชายหาดเพื่อฆ่าเวลา ทางกองถ่ายเริ่มจัดเตรียมฉากกันแล้ว การทำงานมืออาชีพแบบนี้ไม่ได้หาดูกันง่ายๆ ถือว่าโอกาสครั้งนี้คุ้มมากจริงๆ
"มายืนทำอะไรตรงนี้ครับ ไม่ร้อนเหรอ" ชายคนแปลกหน้าเดินเข้ามาทักทายหญิงสาวอย่างมีมารยาท เขาจัดว่าเป็นคนหน้าตาดีในระดับนึงนะแต่อายุน่าจะมากกว่าเธอหน่อยนึง
"ไม่ค่ะ บรรยากาศที่นี่ดีจะตาย" ว่าพร้อมฉีกยิ้มหวานที่อาจทำให้หัวใจใครบางคนเต้นไม่เป็นปกติได้
"ผมยูซูฮยอนน่ะครับ เป็นเจ้าของรีสอร์ทแถวๆนี้"
"ฉันปาร์ค จีมินค่ะ"
"ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ" มือหนายื่นออกมาทักทาย ถ้าจะปฏิเสธก็คงจะดูไร้มารยาทเกินไป เธอจึงไม่ลำบากที่จะยื่นมือไปทักทายตอบ
"คุณจีมิน...มีแฟนรึยังครับ ฮ่าๆ มันอาจจะดูไม่มีมารยาทที่ผมถามตรงๆแบบนี้ ยังไงก็ขอโทษด้วยนะครับ" ชายหนุ่มโค้งหัวเล็กน้อยเพื่อขอโทษล่วงหน้า ผู้ชายอ่อนหวานแบบนี้สเป็คเธอเลยล่ะ ถ้าใครอีกคนเป็นแบบนี้ก็คงจะดีต่อหัวใจเธอไม่น้อย
"เอ่อ...."
"มีแล้วครับ! ที่สำคัญแฟนหวงมาก!" ยังไม่ทันที่จีมินจะได้ตอบอีกฝ่ายไป เสียงที่คุ้นหูเป็นอย่างดีก็ดังขึ้นพร้อมกับแขนแกร่งที่ยกขึ้นมาโอบรัดไหล่มนเอาไว้ใกล้ๆตัว
"คุณมินยุนกิ" หญิงสาวเรียกชื่อเขาเบาๆ
"คุณเป็นใครครับ"
"อย่าบอกนะว่าคุณไม่รู้จักผมน่ะ"
"ผมรู้จักครับ คุณออกจะดัง แต่ที่ผมถามหมายถึง คุณเป็นอะไรกับคุณจีมิน"
"เอ่อ....ฉันว่า...."
"หุบปากนะครับที่รัก เรามีเรื่องต้องคุยกันอีกยาว" นิ้วแกร่งแตะที่ริมฝีปากของหญิงสาวเป็นเชิงห้ามเมื่อเห็นว่าเธอจะขัด แต่สายตาไม่ได้สัมพันธ์กันกับคำว่า 'ที่รัก' เลยสักนิด
"ว่ายังไงครับ" ซูฮยอนถามซ้ำอีกรอบ
"คุณยังดูไม่ออกอีกเหรอ ผมออกจะชัดเจนขนาดนี้ หรือต้องให้ผมพิสูจน์ให้ดู"
"คุณยุนกิคุณจะทำอะ.....อื้อ!~" คำพูดของจีมินถูกอีกฝ่ายกลืนหายลงคอไปทันทีที่ริมฝีปากอุ่นร้อนนั้นทาบลงมาโดยไม่ทันตั้งตัว ชายหนุ่มจาบจ้วงเอาความหวานจากริมฝีปากเล็กอย่างคนโลภมาก ในขณะที่หญิงสาวส่งเสียงค้านในลำคอเป็นระยะๆ แต่ไม่มีทีท่าว่าคนเห็นแก่ตัวจะยอมผละออกไปง่ายๆ ซ้ำแต่จะทวีคูณความหนักหน่วงขึ้นเป็นสองเท่าตัว
"อื้อ!" หญิงสาวออกแรงทุบครั้งสุดท้ายด้วยแรงทั้งหมดที่มี ทั้งที่ปกติแล้วเธอสามารถผลักผู้ชายอกสามศอกออกห่างได้สบายๆ แต่ครั้งนี้เหมือนกับว่าเขาสูบแรงจากเธอไปจนหมดสิ้น เหลือไว้เพียงร่างที่อ่อนระทวยอยู่ในอ้อมแขนของเขาเพียงเท่านั้น หัวใจดวงน้อยเริ่มเต้นไม่เป็นจังหวะขึ้นทุกทีที่สัมผัสนั้นยังคงร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในท้องรู้สึกโหวงๆเหมือนมีมวลผีเสื้อบินอยู่ข้างใน เธอจะรู้สึกดีกับมันมากกว่านี้ ถ้าเกิดว่าจูบครั้งนี้ไม่ใช่การประชดประชันอีกฝ่าย
"อ๊ะ!" จีมินร้องเสียงหลงทันทีที่ถูกยุนกิกัดที่ริมฝีปากล่างจนรู้สึกเจ็บ ก่อนเขาจะเน้นจูบหนักๆหนึ่งทีจึงยอมปล่อยให้เธอได้รับอากาศหายใจ
"ชัดเจนพอแล้วนะครับ" ยุนกิหันมาสบตากับซูฮยอนอย่างเอาเรื่องจนทำให้อีกฝ่ายต้องเดินหนีไปก่อน จากนั้นก็ผลักให้ร่างอวบในอ้อมแขนออกห่างเมื่อเห็นว่าซูฮยอนเดินไปไกลพอสมควร
"คุณทำอะไรลงไป!"
"ทำอะไร?" เขาถามกลับด้วยสีหน้านิ่ง
"ก็เมื่อกี้คุณ..."
"จูบน่ะเหรอ? คิดว่าฉันอยากจูบเธอนักรึไง"
"แล้วคุณทำทำไมล่ะคะ" ใบหน้าหวานจ้องชายหนุ่มอย่างต้องการคำตอบ ข่มเสียงที่สั่นเครือไว้ให้ถึงที่สุด แค่จูบกับเขาก็ทำให้เธออายมากพออยู่แล้วแต่เขาเล่นจูบเธอโชว์ต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ อายจนจะเอาปิ๊บมาคลุมหัวอยู่แล้ว
"ฉันช่วยเธอออกมาจากสถานการณ์กระอักกระอ่วนนั่นไง เธอต้องขอบคุณฉันด้วยซ้ำนะ"
"ฉันยังไม่ขอให้คุณช่วยเลยนะคะ แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่าฉันกำลังตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก คุณไม่คิดเหรอว่าฉันจะดีใจที่มีคนมาจีบ" แน่นอนว่าเธอย่อมดีใจอยู่แล้วที่มีคนเข้ามาทำความรู้จัก แต่ก็ใช่ว่าเธอจะปุ๊บปั๊บตอบตกลงเป็นแฟนกับเขาสักหน่อย ของแบบนี้มันต้องศึกษากันไปนานๆ
"เธอจะเอาอะไรนักหนา ก็มันทำไปแล้ว เธอแก้ไขมันได้มั้ยล่ะ" สีหน้าของเขาบ่งบอกว่ารำคาญขั้นสุด ไม่ได้มีความสำนึกผิดใดๆเลย
".........."
"ฉันหวังว่าเธอจะไม่ยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดซ้ำนะ" ทิ้งไว้เพียงประโยคสุดท้ายก่อนที่ร่างสูงจะเดินเลี่ยงออกไปทางอื่น การกระทำของเขาไม่ต่างอะไรไปกับดูถูกศักดิ์ศรีของเธอ เขาทำเหมือนกับว่า 'แค่จูบ' มันไม่สำคัญอะไร ทั้งๆที่ความเป็นจริงแล้ว มันมีอิทธิพลต่อความรู้สึกของคนๆนึงได้มากมายเหลือเกิน
14.00 น.
"เริ่มถ่ายกันเลยนะคะ! นางแบบอยู่ไหนล่ะ ไปตามมาหน่อย" เสียงผู้จัดการกองถ่ายตะโกนสั่งพลางก้มมองแท็ปเล็ตตรงหน้าอย่างเคร่งเครียด เพราะเธอวางไว้ว่าจะต้องถ่ายให้จบก่อนพระอาทิตย์จะตกดิน
"ขอโทษนะคะ.... งานนี้มีนางแบบร่วมถ่ายด้วยเหรอคะ"
"อ้าว! คุณจีมินไม่รู้เหรอคะ งานนี้คุณเป็นคนรับนี่" เธอเป็นคนรับก็จริงคอนเซ็ปอะไรทุกอย่างเกี่ยวกับงานเธอจะต้องรู้หมด แต่แปลกที่ครั้งนี้เธอแทบไม่รู้อะไรเลย แล้วเขาล่ะ?
"ฉากเฉิกอะไรเตรียมให้พร้อม เราต้องถ่ายให้เสร็จก่อนค่ำ ถ้าไม่เสร็จต้องค้างคืนที่นี่นะ" เรื่องค้างคืนเธอก็ไม่รู้มาก่อนเหมือนกัน ตอนเธอรับงานนี้รู้แค่ว่าต้องมาถ่ายแบบที่เชจูไปถ่ายแล้วก็กลับ ไม่เห็นจะมีการค้างคืนในตารางงานเลย
"อ้าว ราเอล เร็วๆสิลูก เดี๋ยวไม่ทันนะ"
"ค่า~" เสียงหวานใสรับคำก่อนจะรีบตรงดิ่งไปเข้าฉากที่มียุนกิยืนรออยู่ก่อนแล้ว ตอนนี้ร่างบางอยู่ในชุดว่ายน้ำสีแดงสั้นจู๋ โชว์หน้าท้องแบนเรียบไร้ไขมันส่วนเกิน และแน่ นอนว่าฝ่ายชายต้องถอดเสื้อโชว์ซิกแพคเหมือนกัน เพราะเป็นคอนเซ็ปในช่วงซัมเมอร์
"ขอใกล้กันอีกนิดนะครับ ทำเหมือนเป็นคู่รักกัน อย่างนั้นแหละ!" ผู้กำกับสั่งเสียงเข้มงวดก่อนจะสั่งให้ช่างถ่ายภาพกดรัวชัตเตอร์เมื่อได้ฉากที่ตัวเองต้องการ มือหนาของชายหนุ่มโอบรัดเอวของฝ่ายหญิงพร้อมกับดึงเข้าหาตัวเอง โน้มใบหน้าลงไปใกล้กับซอกคอขาว เหลือไม่ถึงเซนต์ฯจมูกก็จะฝังลงไปอยู่รอมร่อ แต่การกระทำของเขาเหมือนต้องการให้มันเป็นอย่างนั้นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
17.00น.
"ไปเปลี่ยนชุดได้ เตรียมถ่ายฉากต่อไป!"
เวลาดำเนินมาถึงฉากสุดท้าย ใช้เวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่งหน้าทำผมไม่ถึงยี่สิบนาที นายแบบและนางแบบก็เตรียมพร้อมมายืนรอเซ็ตฉากและซ้อมโพสท่ากันอย่างสนิทสนม
"เซ็ตนี้ขอจูบจริงนะครับ!"
"เดี๋ยวนะคะผู้กำกับ! ในคอนเซ็ปไม่มีบอกว่าต้องจูบจริงนะคะ!" จีมินแย้ง
"อันนี้เราเพิ่งใส่เพิ่มลงไปเพื่อความสมจริงของคู่รักมากขึ้นครับ ขอโทษที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า"
"แต่ว่า......."
"ไม่เป็นไรครับ ถ่ายกันต่อเถอะ ผมไม่ซีเรียสอะไรอยู่แล้ว"
"แต่ว่าผู้จัดการของคุณ......"
"ช่างเขาเถอะครับ เขาไม่ได้เป็นคนถ่าย" ถ้าตามหลักความเป็นจริงแล้วเขาไม่มีสิทธิ์พูดจาใส่ผู้จัดการส่วนตัวแบบนี้เสียด้วยซ้ำ สิ่งที่ตัวศิลปินต้องทำคือเชื่อฟังและยอมรับความคิดเห็นของอีกฝ่ายด้วย แต่นี่เขาตัดสินใจเองหมดเลยรวมถึงการรับงานที่ไม่บอกรายละเอียดให้เธอรู้ด้วย
"แบบนั้นแหละครับ!" ใบหน้าหวานเบือนหน้าหนีไปทางอื่นทันทีเมื่อถึงฉากจูบที่เธอแย้งไปเมื่อสักครู่ ขนาดเห็นแค่หางตาเธอยังรู้สึกเจ็บแปลบๆ คงคิดภาพกันออกนะว่าการที่ศิลปินที่ตัวเองรักจูบกับผู้หญิงคนอื่นทั้งๆที่มันเป็นแค่งาน แต่ความรู้สึกมันก็อดหวงไม่ได้ทั้งๆที่เราไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรทั้งนั้น
"คัท! ขอบคุณทุกคนมากที่ร่วมมือกันเป็นอย่างดี" สิ้นเสียงผู้กำกับทีมงานทุกคนต่างก็ปรบมือที่งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
"ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วค่ะ" จีมินผายมือไปทางห้องพัก ทั้งๆที่พยายามหลบสายตาเขาแต่ก็ยังเผลอสบตาเข้ากับชายหนุ่มอีก
จนได้ ก่อนหัวใจจะหล่นวูบเมื่อร่างสูงเดินผ่านหน้าเธอไปหาผู้หญิงอีกคน จีมินหลับตาลงเพื่อระงับอารมณ์ของตัวเองก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปหาทั้งคู่
"ถ้าคุยกันเสร็จแล้ว รบกวนคุณยุนกิกลับขึ้นห้องพักด้วยนะคะ เราต้องเตรียมตัวกลับโซล"
"อ้าว พี่ยุนกิไม่ได้บอกเธอเหรอคะว่าพี่ต้องพักค้างคืนที่นี่" ราเอลหันไปถามชายหนุ่มข้างกายอย่างไม่เข้าใจ
".........."
"ทำไมคุณไม่บอกฉันล่ะคะ หรือคุณมองว่าฉันไม่ใช่ผู้จัดการของคุณ"
"..........." เขาเงียบ
"รวมไปถึงถ่ายแบบคู่นั่นด้วย คุณต้องรอให้ฉันรู้เองหมดทุกอย่างเลยเหรอ"
"ก็ในเมื่อเธอไม่ถามแล้วทำไมฉันต้องบอก" เขาตอบกลับเสียงนิ่ง ไม่มีใครรู้เลยว่าภายใต้ใบหน้าอันหล่อเหลานั้นเขากำลังคิดหรือรู้สึกอะไรอยู่
"พี่ยุนกิ! รอราเอลด้วยค่ะ!"
"........" ยุนกิเดินกระแทกไหล่มนออกไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง ทิ้งให้คนข้างหลังอย่างเธอรับความน้อยใจไว้เพียงคนเดียว สิ่งที่อัดอั้นมาเกือบทั้งวันระบายออกมาเป็นน้ำตา เม้มริมฝีปากเพื่อสะกดกั้นเสียงสะอื้นแต่มันยากที่จะห้ามไหวเหลือเกิน แถมน้ำตาเจ้ากรรมก็ยังจะไหลออกมาตอกย้ำความรู้สึกของเธอตอนนี้อีก
"เจ็บจัง" หญิงสาวหัวเราะเยาะเย้ยตัวเองก่อนจะทนไม่ไหวจนต้องยกมือขึ้นมาปิดหน้าตัวเองไว้ตามมาด้วยเสียงสะอื้นเป็นพักๆ ถ้าเกิดเธอไม่ใช่คนเข้มแข็ง ป่านนี้เธอคงหนีเขาไปให้ไกลแล้วล่ะ แต่เผอิญว่าเธอไม่ใช่คนชอบหนีปัญหา ในเมื่อเกิดปัญหาก็ย่อมมีทางแก้ไขเสมอ และมันจะสำเร็จเมื่อถึงเวลาของมันเอง แต่ตอนนี้....เธอขอเป็นคนอ่อนแอหนึ่งวันก็แล้วกัน....
******เจอกันอีกทีวันที่4นะคะ พรุ่งนี้และวันมะรืนมีงาน ใครไม่ชอบแนวนี้ขอโทษด้วยนะคะ อ่านแล้วเม้นท์เป็นกำลังใจให้ด้วยเน้อ ขอบคุณค่าาา*****
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น