ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตำแหน่งที่ไม่มีใครทำแทนได้ 100%
"เอาไป!" ยุนกิโยนแฟ้มเอกสารพร้อมแล็ปท็อปให้หญิงสาวโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะรับได้หรือไม่ ก่อนเขาจะก้าวขาขึ้นไปนั่งบนรถตามด้วยจีมินเข้ามาติดๆ
"ไอ้แจบอมคงจะสอนงานให้เธอแล้ว"
"ค่ะ เขาบอกฉันผ่านSNSแล้ว"
"ก็ดี"
"ตอนเช้าคุณมีงานที่ห้างFนะคะ ส่วนตอนบ่ายที่ยงซาน"
"อืม" ชายหนุ่มรับคำสั้นๆ จากนั้นก็เอนกายพักหลังชั่วคราว
"แล้วก็ตอนเย็น...."
"แล้วค่อยบอก ฉันจะนอน"
"โอเคค่ะ" หญิงสาวเป็นอันต้องยอมอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะถ้าเกิดเธอขัดก็คงถูกตอกกลับมาแหงๆ
"พอถึงห้างเธอช่วยกันแฟนคลับออกจากฉันด้วย" เขาพูดในขณะที่เปลือกตาทั้งสองข้างยังปิดสนิท
"หน้าที่นี้เป็นหน้าที่ของการ์ดไม่ใช่เหรอคะ"
"ก็ใช่ แต่ฉันอยากให้เธอทำ" เขาลุกขึ้นพร้อมกับจ้องมองเธออย่างเอาเรื่อง
"แต่ว่าฉันต้องคอยดูแลคุณอยู่ใกล้ๆ เวลาที่คุณต้องการอะไรจะได้บอกฉันโดยตรง"
"เธอเพิ่งจะมาทำงานวันแรกเธอจะไปรู้ดีได้ยังไง หน้าที่ของเมเนฯน่ะต้องคอยดูแลความปลอดภัยของศิลปินอยู่ห่างๆ"
"แต่จากที่ฉันตามโอปป้าไปงานต่างๆก็เห็นแต่การ์ดกันทั้งนั้นนะคะ ส่วนเมเนฯก็คอยดูแลอยู่ใกล้ๆ" จีมินยังยืนยันคำเดิมจากสิ่งที่เธอเห็นมา นั่นสร้างความหงุดหงิดให้เขาอีกละรอก ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจเข้าออกเรียกสติให้ตัวเองใจเย็นๆก่อนที่เขาจะทนไม่ไหวโยนเธอลงจากรถสะก่อน
"เธอจะเถียงให้ได้เลยใช่มั้ย"
"ใช่ค่ะ" ตอบหน้าตาย
"นี่เธอ!!"
"ฉันรับปากกับคุณแจบอมไว้แล้วว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด"
"ไอ้แจบอมมันเป็นพ่อเธอรึไง ถึงจะเชื่อมันขนาดนั้น"
"ถามตัวเองดีกว่าค่ะ โอ๊ะ ขอโทษค่ะ" หญิงสาวรีบโค้งหัวขอโทษอย่างรวดเร็วเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเผลอพูดอะไรออกไป ยุนกิหันขวับมามองคนข้างๆด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร นี่ขนาดวันแรกเธอยังต่อปากต่อคำกับเขาขนาดนี้ มีหวังวันต่อๆไปเขาจะไม่มีอำนาจอะไรเหลือเลย!
"ไม่มีทาง!"
"อะไรนะคะ"
"เผือก!"
"O.O" จีมินถึงกับอ้าปากเหวอทันทีที่ถูกอีกฝ่ายตอกกลับ คำพูดและท่าทางของเขาเล่นเอาเธอไปไม่เป็นเลยล่ะ
ห้างF
ทันทีที่รถจอดสนิท ยุนกิก็รีบสาวเท้าเข้าไปในห้างโดยไม่รอเธอเลยสักนิด เอาแต่มุ่งหน้าอย่างเดียวจนเธอต้องรีบวิ่งไปเดินอยู่ข้างหลังเขา
"มันดีอย่างนี้นี่เอง" หญิงสาวหัวเราะคิกๆอย่างพออกพอใจ จากที่แต่ก่อนได้แต่วิ่งไล่ตามศิลปินแถมยังต้องฝ่าฝูงชนนับร้อยนับพันเพื่อหวังถ่ายรูปหรือเข้าใกล้ แต่ก็ถือว่าไกลอยู่ดีเพราะแค่เสี้ยวหน้าก็ยังเห็นไม่ค่อยชัด แต่วันนี้เธอได้มีโอกาสยืนตัวติดเขา ได้มองเห็นหน้าเขาได้แบบเต็มๆ บอกเลยว่ายิ่งกว่าความฝันเสียอีก
กรี๊ด!~~ กรี๊ด!~~ กรี๊ด!~~
เสียงกรีดร้องของแฟนเกิร์ลและแฟนบอยยังคงดังต่อเนื่องและดังขึ้นเรื่อยๆเมื่อร่างสูงเดินผ่าน เขาขยับแว่นตากันแดดลงเล็กน้อยก่อนจะโบกมือทักทายพอเป็นพิธี
"มัวแต่ยืนทำอะไรตรงนั้น มาเดินข้างๆฉันนี่!" ยุนกิหยุดเดินแล้วหันไปกระซิบสั่งจีมินที่ยังเดินตามหลังเขาต้อยๆ
"ค่ะ"
"ถ้าเกิดแฟนคลับเข้าถึงตัวฉันได้ รับรองเธอศพไม่สวยแน่" เขาก็แค่ขู่ไปงั้นๆแหละ เพราะไม่มีใครเข้าถึงตัวเขาได้ขนาดนั้นหรอก ก็แหง การ์ดมีเป็นสิบๆฝ่ามาได้ก็กราบแล้วล่ะ ที่เรียกเธอมายืนข้างๆก็แค่....หาอะไรสนุกๆทำก็เท่านั้น
"เก็บของให้ฉันหน่อย ไม่รู้อะไรตก" ชายหนุ่มว่าพลางทำท่ามองหาของทั้งๆที่ความเป็นจริงเขาไม่ได้ทำมันตก แต่จงใจทำตกต่างหาก
"ตรงไหนเหรอคะ"
"แถวที่ฉันยืนนี่แหละ" จีมินพยักหน้าก่อนจะก้มลงหาของดังกล่าว แต่ทันทีที่นั่งยองๆเธอก็ล้มพับลงไปกับพื้นด้วยขาของใครคนหนึ่งที่ชนเข้าจังๆ แถมยังตามมาด้วยเท้าอีกหลายชีวิตที่วิ่งเหยียบโดยไม่เห็นว่าเธอนั่งอยู่ตรงนี้ มือเจ้าเนื้อเกิดรอยแดงเป็นปื้นๆเนื่องจากถูกเหยียบ แต่ถึงกระนั้นเธอก็ไม่ได้สนใจ พยุงตัวเองให้ลุกขึ้นจากพื้น เก็บพวงกุญแจที่คาดว่าเขาน่าจะทำตกไว้ใส่ในกระเป๋าเสื้อ ก่อนจะรีบวิ่งตามยุนกิเข้าไปในห้องพักที่ทางห้างได้จัดเตรียมไว้ให้
ทางด้านของชายหนุ่ม เขายังคงนั่งจิบกาแฟอย่างสบายใจเฉิบ นอกนั้นก็แค่รอดูสภาพของผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่ที่ตอนนี้ไม่รู้กำลังตกระกำลำบากอยู่ที่ไหน
"นี่ใช่ของคุณมั้ยคะ" ใบหน้าหล่อเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของเสียงเหนื่อยหอบตรงหน้า ก่อนจะพบว่าร่างอวบของจีมินยืนหายใจถี่ๆยื่นพวงกุญแจที่เขาจงใจทำตกมาให้
"ขอบใจ" ชายหนุ่มกล่าวสั้นๆ พลันสายตาเหลือบไปเห็นมือเจ้าเนื้อแดงเถือกจนเขาก็ยังแอบตกใจแต่ก็ตีหน้านิ่งไม่แสดงอาการใดๆออกมา
"มือไปโดนอะไรมา" แกล้งถามทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าสาเหตุเกิดมาจากอะไร
"เอ่อ....ระหว่างทางมาฉันหกล้มน่ะค่ะ"
"อือ" เขาพยักหน้ารับรู้ในขณะที่สายตาก็ยังเลิกมองมือของเธอไม่ได้ จนอีกฝ่ายต้องเอามือไปไขว้หลังเพื่อปิดบังเอาไว้
"งั้นฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำแปบนะคะ เดี๋ยวมา คุณต้องการอะไรเพิ่มมั้ยคะ"
"ไม่ล่ะ เธอไปเถอะ"
"ค่ะ" จีมินโค้งหัวเล็กน้อยก่อนจะรีบปลีกตัวออกมาจากตรงนั้น เหตุก็เพราะเธอเจ็บข้อมือแปลบๆแถมมันยังเริ่มบวมและแดงขึ้นอีกต่างหาก แต่อย่าคิดว่าบาดแผลแค่นี้จะทำให้เธอถอดใจได้ เพราะต่อให้เขาทำมากกว่านี้เธอก็ยังทนได้อยู่ดี
ภายในรถมีแต่ความเงียบสงัด หลังจากจบงานจากห้างมา เขาก็เอาแต่เงียบทั้งๆที่ไม่ค่อยพูดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว รอบนี้ยิ่งไม่พูดอะไรเลย มันทำให้เธอเป็นห่วงเขาขึ้นมา
"เป็นอะไรไปเหรอคะ หรือไม่สบาย"
"........."
"ให้ฉันลงไปซื้อยาให้มั้ย" ยุนกิหันมามองคนข้างกาย แววตาและน้ำเสียงของอีกฝ่ายบ่งบอกว่าเป็นห่วงเขามาก มากกว่าตัวเองที่เป็นมากกว่าเขาด้วยซ้ำ
"หุบปากไปเลยไป ฉันกำลังใช้สมาธิ"
"ขอโทษค่ะ" ประโยคนี้เป็นประโยคสุดท้ายของบทสนทนา ก่อนสถานการณ์จะกลับมาเงียบอีกครั้ง จนกระทั่งรถหยุดที่ลานจอดรถในภัตตาคาร เพราะตอนนี้ก็เลยเวลาทานข้าวมาเกือบยี่สิบนาทีแล้ว
"ไป........"
"ฉันจะยืนรอคุณอยู่ในบริเวณใกล้ๆ ทานข้าวให้อร่อยนะคะ" ประโยคคำชวนของเขาเมื่อสักครู่กลืนหายลงคอไปอย่างอัตโน มัติเมื่อถูกอีกฝ่ายพูดดักขึ้นก่อน เขาจึงแกล้งเออออไปตามสถานการณ์
เวลาล่วงเลยไปเกือบสองชั่วโมง แต่ก็ไม่มีทีท่าว่ายุนกิจะเดินออกมา ปกติแล้วคนเราใช้เวลากินข้าวแค่ชั่วโมงครึ่งหรือหนึ่งชั่วโมงโดยเฉลี่ย สงสัยเขาจะพิเศษกว่าคนอื่น เพราะกว่าจะเคี้ยวข้าวได้แต่ละคำก็คงกินเวลาไปประมาณห้านาที! -.-
"คุณยุนกิ ตอนบ่ายคุณมีงานต่อนะคะ คุณจะมาเอ้อระเหยลอยชายแบบนี้ไม่ได้" เมื่อทนรอเขาไม่ไหว จีมินจึงตัดสินใจเดินเข้ามาตามเขาด้านใน แต่กลับพบว่าอีกฝ่ายยังคงนั่งจิบน้ำชาเล่นโทรศัพท์โดยไม่รู้จักเวล่ำเวลา
"ก็มันเป็นสิทธิ์ของฉันนี่"
"ฉันเข้าใจค่ะว่ามันเป็นสิทธิ์ของคุณ คุณจะทำอะไรก็ได้ แต่คุณต้องแยกแยะเวลางานกับเวลาส่วนตัว อันไหนคือพักอันไหนคือทำ"
"แล้วไง?"
"คุณยังไม่เข้าใจสิ่งที่ฉันพูดอีกเหรอคะ"
"ฉันเข้าใจ! แต่ฉันแค่ไม่อยากทำ"
"แล้วคิวงานที่เหลือล่ะคะ"
"เธอก็โทรไปยกเลิกเขาสิ แค่นี้เรื่องก็จบ" ชายหนุ่มยืนเต็มความสูงร้อยแปดสิบเซนติเมตรกระชับเสื้อยีนส์ของตัวเองให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะเดินกระแทกไหล่หญิงสาวออกไป
"เราทำอย่างนั้นไม่ได้ค่ะ!" จีมินวิ่งตามร่างสูงออกมาและเห็นว่าเขาไม่หยุดเดินเธอจึงถือวิสาสะคว้าเข้าที่แขนของเขา และมันก็เป็นผลเพราะชายหนุ่มหยุดเดินและหันกลับมามองเธออีกครั้ง
"ทำไมจะทำไม่ได้! เอาเบอร์มาสิเดี๋ยวฉันจะโทรไปยกเลิกเอง"
"คุณเป็นอะไรไป เมื่อเช้ายังดีๆอยู่เลย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายฉันตามอารมณ์คุณไม่ทัน"
"นี่แหละนิสัยฉัน ถ้าเธอทนไม่ได้ก็ลาออกไปสิ"
"ทำไมคุณถึงพูดแต่เรื่องลาออกล่ะคะ"
"ช่างเถอะ! แล้วเรื่องงานวันนี้ยกเลิกทั้งหมด หรือไม่เช่นนั้นเธอก็ทำแทนฉันก็แล้วกัน" ว่าก่อนจะกระโดดขึ้นไปนั่งบนเบาะ เตรียมจะปิดประตูรถแต่ทว่าจีมินกลับยื่นมือไปยื้อไว้ได้ทันก่อนที่ประตูจะปิดลง เขาตวัดสายตามองร่างบางอย่างเคืองๆ อีกทั้งยังใช้สายตาขู่ว่าถ้าหากเธอไม่ปล่อยเขาจะไม่ทนอีกต่อไป
"ไม่มีใครทำแทนคุณได้หรอกค่ะ ไม่ว่าจะเป็นฉันหรือเทวดาหน้าไหนก็ไม่มีใครแทนคุณได้ เพราะมันคือหน้าที่และตำ แหน่งของคุณ ฉันอยากให้คุณลองไปคิดดูอีกทีนะคะ"
"จะปล่อยหรือไม่ปล่อย!" หญิงสาวจำต้องปล่อยมือออกอย่างไม่มีทางเลือกเพราะขืนยังฉุดเขาต่อไปตัวเองอาจไม่ปลอดภัย
"เอาแต่ใจตัวเองชะมัด" จีมินพ่นลมหายใจออกทางจมูกอย่างเอือมๆพลางมองตามรถตู้คันสีดำที่แล่นออกไปจนลับสายตา อย่างที่แจบอมบอกไว้จริงๆว่าเขามันโคตรเอาแต่ใจและไม่ยอมฟังใครหน้าไหนทั้งนั้นแม้กระทั่งแม่ตัวเอง และเธอพอจะรู้แล้วว่าจะแก้ปัญหาตรงนี้ได้ยังไง
20.50 น.
ยุนกิยกขาพาดโต๊ะในห้องรับแขกกลางบ้าน กระดิกเท้าไปมาอย่างคิดไม่ตกว่าตัวเองควรจะทำเช่นไรต่อไป เขากลับมาถึงบ้านนานพอสมควรและใช้เวลาหมดไปกับการเล่นเกมสะส่วนใหญ่
"แม่ง! แพ้อีกละ" เขาโยนโทรศัพท์ทิ้งอย่างหัวร้อนเมื่อแพ้เกมทั้งที่ไม่ควรแพ้ ก่อนจะยกเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์เข้าปากรวดเดียวหมด
ติ๊งงงง~ ต่องงงง~
เสียงกดกริ่งหน้าบ้านทำให้เขาละความสนใจจากมือถือตรงหน้ารีบชะเง้อดูแขกที่มาใหม่ และเมื่อเห็นว่าผู้มาเยือนเป็นใคร รอยยิ้มมุมปากก็กระตุกขึ้นทันที
"มีอะไร"
"ขอบคุณที่คุณยอมไปร่วมงานที่ยงซานนะคะ ทางนั้นโทรมาขอบคุณถึงแม้คุณจะไปช้าก็ตาม" ตอนแรกเธอก็คิดว่าเขาจะไม่มีความรับผิดชอบและทิ้งงานนั้นไป แต่เธอกลับคิดไม่ถึงว่าเขาจะยอมไปร่วมงานหลังจากที่ทิ้งเธอไว้ที่ภัตตาคารคนเดียว แต่ก็ใช่ว่าเขาจะไปตามตารางหมดเพราะช่วงเย็นที่ผ่านมาเขาขอปลีกตัวกลับบ้านก่อนทั้งๆที่ยังมีงานเหลืออยู่
"........."
"แต่คุณก็ไม่ได้ไปร่วมงานที่ปูซานเมื่อช่วงเย็น"
"มันไกลเธอก็รู้ อีกอย่างฉันเหนื่อย ไหนจะต้องเดินทางอีก เธอไม่เป็นฉันเธอไม่รู้หรอก"
"ฉันว่าคุณมีสปิริตมากพอนะคะ การเดินทางจากโซลไปปูซานไม่ถือเป็นเรื่องยากสำหรับคุณหรอก แต่คุณมีจุดประสงค์อื่นที่ตั้งใจหลีกเลี่ยงงาน"
"จุดประสงค์บ้าอะไรของเธอ" ชายหนุ่มขมวดคิ้วเข้าหากันจนเป็นปม พร้อมจ้องหน้าหวานของอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ เขาตั้งท่าเตรียมพร้อมกระโจนใส่ ถ้าหากว่าคนตรงหน้าไม่ยอมตอบ
"ก็จุดประสงค์ที่คุณพยายามหาเรื่องให้ฉันเพื่อหวังให้ฉันหลุดจากตำแหน่งผู้จัดการส่วนตัวของคุณ ฉันพูดถูกใช่มั้ยคะ" ใบหน้าหวานใสเชิดขึ้นอย่างท้าทายโดยไม่ได้เกรงกลัวอีกฝ่ายถึงแม้จะรู้สึกประหม่าเวลาสบตากับเขาก็เถอะ ยอมรับตรงๆเลยว่าเขารู้สึกทึ่งในตัวผู้หญิงคนนี้อยู่ไม่น้อย ไหนจะสีหน้าท่าทางที่เด็ดเดี่ยวและมุ่งมั่น โดยเฉพาะแววตาที่แสดงถึงความเข้มแข็งและเอาจริงเอาจังตลอดเวลา แต่ผู้หญิงก็คือผู้หญิง ยังไงก็ต้องแสดงความอ่อนแอออกมาให้เห็นอยู่วันยังค่ำแม้เปลือกนอกจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม และเขาก็เชื่อว่าเธอทนวาจาร้ายและคำพูดดูหมิ่นของเขาไม่ได้หรอก สักวันเธอจะต้องขอยอมแพ้และแสดงความอ่อนไหวออกมาให้เห็นเอง
"รู้เอาไว้ก็ดีแล้ว ต่อไปเธอก็เตรียมรับมือฉันให้ดีๆล่ะ เพราะนี่ถือว่าฉันเตือนเธอแล้ว"
".........."
"อีกอย่างนึง....." เขาเว้นวรรคพร้อมขยับกายเข้ามาใกล้ในระยะประชิด โน้มใบหน้าลงมาใกล้บริเวณใบหูจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่รดต้นคอ "อย่าคิดจะจับฉันด้วยวิธีนี้เพราะต่อให้เธอเอาตัวเข้าแลก ฉันก็ไม่สนใจเธออยู่ดี"
"ฉันไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคนี้ออกมาจากปากคุณ" ว่าพร้อมกับพยายามดันแผงอกของอีกฝ่ายให้ออกห่างจากตัวแต่คนตัวสูงยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
"ยังมีอะไรที่เธอยังไม่ได้ยินอีกเยอะเลย สนใจไปฟังต่อที่เตียงกับฉันมั้ยล่ะ"
"ถอยออกไปได้แล้วค่ะ!" ปากก็พูดมือก็ทุบแต่ดูเหมือนว่าแรงที่เธอส่งผ่านกำปั้นจะไม่กระทบกระเทือนถึงคนเอาเปรียบเลยแม้แต่นิดเดียว แถมเขายังถือวิสาสะคว้าเอวของเธอพร้อมกับดันเข้าหาตัวเอง ทำให้หน้าอกของเธอไปชนกับแผงอกเขาอย่างไม่ตั้งใจ
"คุณยุนกิอย่าทำแบบนี้นะ"
"ฉันคิดว่าเธอชอบมันสะอีก" ชายหนุ่มพูดเสียงหวานเพื่อตั้งใจแกล้งอีกฝ่ายเล่นๆ แต่เขาไม่รู้เลยว่าการกระทำของเขามันทำให้หัวใจคนบางคนแถวนี้เต้นแรงจนแทบจะระเบิดตู้มออกมาอยู่แล้ว
"ฉันเปล่าค่ะ! ปล่อยได้แล้วเดี๋ยวใครมาเห็นเข้า มันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่"
"เธอกลัวว่าจะเป็นข่าวกับฉันรึไง"
"........." ก็ใช่น่ะสิ! เธอพูดในใจ
"ผู้จัดการส่วนตัวแอบกิ๊กกั๊กกับมินยุนกิ นักร้องชื่อดัง ความสัมพันธ์ถึงขั้นเลยเถิดแล้ว" ชายหนุ่มยังคงสนุกที่ได้แกล้งคนในอ้อมแขนและเขายิ่งได้ใจเมื่อเห็นว่าจีมินทำหน้าไม่ชอบใจที่เขายกเอาเรื่องแบบนี้ขึ้นมาสมมติ
"ฉันไม่ตลกนะคะ! ถ้าเกิดมันเป็นข่าวขึ้นมาจริงๆคุณจะหัวเราะไม่ออก"
"ถ้าจริงแฟนคลับฉันคงเข้าใจ เพราะพวกเขารู้ดีว่าไม่มีทางที่ฉันจะตาต่ำไปทำอะไรผู้หญิงแบบเธอ"
"คุณมันปากร้ายที่สุด"
"เพิ่งรู้เหรอครับ หืม?" มือหนาเชยคางมนขึ้นมาเบาๆก่อนที่เขาจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระ ตามมาด้วยเสียงหัวเราะหึๆในลำคอ เธอเพิ่งทำงานให้เขาเป็นวันที่สองยังโดนเขาพูดจาใส่ขนาดนี้ ไม่รู้วันต่อๆไปเธอจะต้องรับมือกับอะไรที่จะตามมาอีกบ้าง คิดแล้วก็หนักใจ !-.-
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น