ลำดับตอนที่ #9
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 9
ตอนที่ 9
ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ พวกเขากำลังถูกทำให้มีสภาพเป็นเหมือนบอทใน Godtamahring โดยไม่อาจขัดขืนได้ง่ายดายนัก ...เกิดขึ้นมาและดำรงอยู่เพียงเพื่อเป้าหมายของผู้เป็นนายซึ่งถูกเรียกอย่างสวยหรูว่าเป็น "หน้าที่" ทำงานรวบรวมทรัพยากรทั้งวันทั้งคืนตามที่ระบบต้องการ และพัฒนาความสามารถของตนเองไปตามรูปแบบไม่กี่รูปแบบ ไม่กี่สายอาชีพที่จำเป็นต้องใช้ในระบบ แต่งตัวสวมอุปกรณ์ เพิ่ม status และ skill ต่างๆ ตามตำราแล้วก็ได้รับการยกย่องว่า"ดี เก่ง" คิดเบี่ยงเบนออกไปจากนั้นแล้วก็จะถูกเรียกเป็น"พวกนอกคอก ขยะ" ...ไม่ได้ต่างกับคำว่า "เทพ" และ "อ่อน" ในเกม Godtamahring สักเท่าไรนักเลย
...ความหมายของชีวิตของผู้คนในสายตาของระบบมีเท่านี้เอง ความละเอียดอ่อนซับซ้อนทางรูปแบบและพฤติกรรมทั้งหมดถูกลดรูปลงไปเหลือเพียงตัวเลข แผนภาพ และข้อมูลตัวอักษรในรายงานเพื่อการวัดเทียบและตัดสินค่า ไม่มาก ไม่น้อยไปกว่านั้น...
ชายหนุ่มเจ้าของชื่อในเน็ต FreedomTide ยังไม่นอน เขากำลังพิมพ์ส่ง e-mail ฉบับหนึ่งไปให้เพื่อนสาวที่อยู่ห่างกันคนละซีกโลก
ผู้ส่ง: FreedomTide
ผู้รับ: Midtty
หัวข้อ: เรื่องด่วน
"ที่รัก~ ฉันมีเรื่องให้ช่วยหน่อย"
...ตามด้วยการบรรยายถึงที่มาที่ไปและมาตรการใหม่ที่กำลังจะออกมาบีบเหล่าเกมเมอร์ในประเทศของเขา แถมการแปลข้อความในคอลัมน์หนังสือพิมพ์นั้นเป็นภาษาอังกฤษให้เธออ่านด้วย
"เธอรู้จักพรรคพวกในวงการอินเตอร์เน็ตใต้ดินเยอะนี่นา ช่วยคิดหน่อยว่าจะเอาไงกันดี"
ผู้ส่ง: Midtty
ผู้รับ: FreedomTide
หัวข้อ: Re: เรื่องด่วน
"ได้เลยค่า เดี๋ยว Midtty จัดให้!!!"
เธอเพียงแต่ส่งข่าวบอกเล่าเรื่องทั้งหมดให้กับเหล่านักรบแห่งไซเบอร์สเปซ ผู้พิทักษ์เสรีภาพแห่งมนุษย์ ว่ามีรัฐบาลของประเทศแห่งหนึ่ง ได้ก้าวข้ามเส้นของการปิดกั้นการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ตของประชาชนมาเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นมันก็ได้ถูกเผยแพร่ต่อๆ กันไปเป็นลูกโซ่ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง จนเมื่อข่าวนั้นได้รับการยืนยันข้อเท็จจริงแล้ว พวกเขาก็มารวมตัวกันจากคนหลากหลายชนชาติทั่วทุกมุมโลก ทั้งแฮ็กเกอร์และไม่เชิงแฮ็กเกอร์กลุ่มต่างๆเข้ามาประสานกันเป็นการเฉพาะกิจ มีแนวร่วมเป็นองค์กรเอกชนอีกหลายกลุ่ม ก่อเกิดเครือข่ายมหึมาที่ยามปกติแฝงเร้นอยู่ประดุจมังกรร้ายที่หลับไหล แต่พร้อมจะตื่นขึ้นมาสำแดงความพิโรธได้ทุกเมื่อหากถูกรุกราน
และในวันนั้นเอง เว็บไซต์ของกระทรวงที่เกี่ยวข้องก็ได้ถูกมือดีลักลอบเจาะเข้ามาเปลี่ยนแปลงเนื้อหาหน้าแรกอย่างอุกอาจ ส่วนระบบเครือข่ายและข้อมูลอื่นๆของหน่วยงานรัฐในประเทศนี้ที่พวกเขาสามารถเข้าถึงได้ ก็ถูกถล่มจนเละเทะเกือบหมด ยกเว้นบางอย่างที่ถูกกำหนดไว้เป็นเขตปลอดภัยตามจรรยาบรรณ เช่น ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสาธารณสุข สังคมสงเคราะห์ หรือการบรรเทาสาธารณภัย เป็นต้น
แน่นอนว่าเหล่าผู้ก่อการได้จัดการพังระบบไม่ให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงนั้นๆ เข้ามาแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลกลับได้ จำต้องปล่อยให้หน้าเว็บที่ถูกเปลี่ยนแปลงนั้นอยู่ต่อไปอีกพักใหญ่ๆ
หน้าเว็บใหม่เริ่มต้นขึ้นด้วยข้อความที่ดูดุเดือดและท้าทายกันซึ่งๆหน้า
"...ด้วยฉันทามติแห่งนักสู้เสรีภาพจำนวน 121 กลุ่มจากทั่วโลก ที่มารวมตัวกันเพื่อแสดงการประณามต่อรัฐบาลของประเทศนี้!!!"
ต่อจากนั้นลงมา มีข้อความแถลงการณ์พิมพ์และแปลเป็นภาษาต่างๆกว่า 20 ภาษา เนื้อหาเป็นดังหัวข้อคือประณามมาตรการใหม่ที่จะออกมาว่าเป็นการปิดหูปิดตาประชาชน และเตือนให้ระวังให้ดีเพราะแม้แต่คนต่างชาติอย่างพวกเขายังได้รู้เรื่องความบ้าอำนาจของรัฐบาลนี้มาพอสมควร แล้วคนในประเทศนั้นจะไม่รู้เลยเชียวหรือ? พวกเขาเพียงแต่ยังเก็บกดความรู้สึกไว้เท่านั้นเพราะไม่มีทางเลือก แต่ถ้าหากพวกเขาทนไม่ไหวและลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่...รัฐบาลชุดนี้ก็คงอยู่ไม่ได้อีก
...การโจมตีครั้งนี้เป็นเพียงแค่เตือน! ถ้อยคำนั้นย้ำให้ตระหนักถึงความน่าสะพรึงกลัวของพลังมวลชนที่มีเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสารและคอมพิวเตอร์อยู่ในมือ และทำให้อีกฝ่ายต้องคอยหวาดระแวงต่อการโจมตีครั้งต่อไป ที่จะยังไม่สิ้นสุดลงง่ายๆ เป็นแน่
"เมื่อครั้งที่พวกเขาออกกฎหมายเคอร์ฟิว ข้าพเจ้าไม่ได้คัดค้าน เพราะข้าพเจ้าอายุเกินกำหนดแล้ว
เมื่อครั้งที่พวกเขาออกกฎหมายจัดระเบียบการพิมพ์ ข้าพเจ้าไม่ได้คัดค้าน เพราะข้าพเจ้าไม่ได้ทำวารสารหรือ นสพ. เผยแพร่
เมื่อครั้งที่พวกเขาออกกฎหมายจัดระเบียบเว็บไซต์ ข้าพเจ้าไม่ได้คัดค้าน เพราะข้าพเจ้าเช่าโฮสติ้งมืออาชีพ ที่มีเนื้อที่และกำลังเครื่องพอให้ทำตามข้อกำหนดได้
เมื่อครั้งที่พวกเขาออกกฎหมายขึ้นทะเบียนเว็บมาสเตอร์ ข้าพเจ้าไม่ได้คัดค้าน เพราะเว็บของข้าพเจ้าไม่มีอะไรที่เป็นปัญหา
เมื่อครั้งที่พวกเขาออกกฎหมายแบนเกมออนไลน์ ข้าพเจ้าไม่ได้คัดค้าน เพราะข้าพเจ้าไม่เล่นเกมออนไลน์
เมื่อครั้งที่พวกเขาสั่งปิดเว็บบอร์ดดัง ข้าพเจ้าไม่ได้คัดค้าน เพราะข้าพเจ้าไม่ได้เป็นสมาชิกเว็บบอร์ดนั้น
เมื่อครั้งที่พวกเขาสั่งปิดร้านเกม-เน็ตคาเฟ่ ข้าพเจ้าไม่ได้คัดค้าน เพราะข้าพเจ้ามีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้าน
จนถึงวันนี้ พวกเขาสั่งห้ามข้าพเจ้าใช้อินเตอร์เน็ต
...แต่ไม่มีใครเหลืออยู่ช่วยคัดค้านแทนข้าพเจ้าอีกแล้ว"
ด้านล่างก่อนท้ายสุดของหน้านั้น เป็นภาพวาดการ์ตูนล้อเลียนรัฐมนตรีในท่าทางชวนขบขัน มีการเติมช่องคำพูดเสริมเข้าไป:
"ใครมิยอมค้อมหัวให้ตูข้า ต้องพิฆาตเข่นฆ่าให้อาสัญ
ใครคิดต่างมองเห็นไม่เหมือนกัน มันผู้นั้นเป็นพวกหนักแผ่นดิน!!!"
และปิดท้ายด้วย 2 ประโยคเด็ด:
"ความรู้ คือ พลังอำนาจ"
"แฮ็คเกอร์แห่งโลกนี้ จงรวมเป็นหนึ่งเถิด!!!"
ในยามนี้ผู้รับผิดชอบคงต้องพากันกุมขมับอย่างจนแต้ม เพราะการติดตามเอาผิดกับแฮ็คเกอร์คนหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่งคงไม่ใช่เรื่องยากถ้าจะทำจริงๆ แต่การจะต่อกรกับแฮ็คเกอร์ "ทั่วโลก" ย่อมเป็นคนละเรื่องกัน และนี่เป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จึงไม่เคยมีใครคาดคิดหาวิธีรับมือเอาไว้เลย
สื่อหนังสือพิมพ์พยายามลงข้อเขียนประณามการกระทำของเหล่าแฮ็กเกอร์ในครั้งนี้ว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายใน พร้อมกับประณามคนในประเทศที่มีส่วนรู้เห็นว่ากระทำการชักศึกเข้าบ้านและเป็นพวก"ขายชาติ" ขณะเดียวกันก็พยายามชักจูงให้คนเชื่อจากเหตุการณ์นี้ ว่าอินเตอร์เน็ตทำให้คนมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงและเอนเอียงไปทางต่อต้านกฎเกณฑ์ได้ง่าย และเรียกร้องให้มีการออกกฎหมายควบคุมอินเตอร์เน็ตฉบับใหม่ออกมาโดยเร็วที่สุด
ระหว่างนั้น FreedomTide ก็เริ่มปรากฎตัวขึ้นในเว็บวิหารแห่งบอทและเว็บบอร์ดเกมเถื่อนๆ อีกแห่งที่ว่า และออกเคลื่อนไหวอย่างจริงจัง เพื่อเป็นตัวเชื่อมระหว่างเหล่านักสู้เสรีภาพกับพวกคนทำเว็บเกมในประเทศ จนสุดท้ายพวกเขาก็ได้แผนการที่เหมาะเจาะสำหรับเตรียมรับมือคลื่นยักษ์ที่จะมาถึง ด้วยหลังจากเรื่องยุ่งๆผ่านไปได้ รัฐบาลก็ยังคงดันทุรังจะเอามาตรการนั้นออกมาบังคับใช้อยู่ดีโดยไม่สนใจสายตาของประชาคมโลกแต่อย่างใด
วิหารแห่งบอทต้องประกาศปิดตัวลง แต่แท้จริงแล้วเป็นที่รู้กันว่าคือการปิดปรับปรุงชั่วคราวเพื่อเตรียมกลับมาใหม่ ประจวบกับขณะนี้ได้มีการอัพเดทแพทช์ใหม่ในเซิฟเวอร์ ทำให้บอทเข้าไม่ได้ชั่วขณะ ชาวบอทจำต้องรอทีมพัฒนาของ UniKroveN ต่อไปก่อน แล้ววันนี้เพื่อนๆ ของเด็กชายซึ่งคงจะเปิดบอทไม่ได้เช่นเดียวกัน ก็โทร.มาชวนเขาออกไปเล่นเกม SharkBite Overstrikes ภาคใหม่ล่าสุดกันที่ร้านเกมแถวๆ บ้านแทน
ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ พวกเขากำลังถูกทำให้มีสภาพเป็นเหมือนบอทใน Godtamahring โดยไม่อาจขัดขืนได้ง่ายดายนัก ...เกิดขึ้นมาและดำรงอยู่เพียงเพื่อเป้าหมายของผู้เป็นนายซึ่งถูกเรียกอย่างสวยหรูว่าเป็น "หน้าที่" ทำงานรวบรวมทรัพยากรทั้งวันทั้งคืนตามที่ระบบต้องการ และพัฒนาความสามารถของตนเองไปตามรูปแบบไม่กี่รูปแบบ ไม่กี่สายอาชีพที่จำเป็นต้องใช้ในระบบ แต่งตัวสวมอุปกรณ์ เพิ่ม status และ skill ต่างๆ ตามตำราแล้วก็ได้รับการยกย่องว่า"ดี เก่ง" คิดเบี่ยงเบนออกไปจากนั้นแล้วก็จะถูกเรียกเป็น"พวกนอกคอก ขยะ" ...ไม่ได้ต่างกับคำว่า "เทพ" และ "อ่อน" ในเกม Godtamahring สักเท่าไรนักเลย
...ความหมายของชีวิตของผู้คนในสายตาของระบบมีเท่านี้เอง ความละเอียดอ่อนซับซ้อนทางรูปแบบและพฤติกรรมทั้งหมดถูกลดรูปลงไปเหลือเพียงตัวเลข แผนภาพ และข้อมูลตัวอักษรในรายงานเพื่อการวัดเทียบและตัดสินค่า ไม่มาก ไม่น้อยไปกว่านั้น...
ชายหนุ่มเจ้าของชื่อในเน็ต FreedomTide ยังไม่นอน เขากำลังพิมพ์ส่ง e-mail ฉบับหนึ่งไปให้เพื่อนสาวที่อยู่ห่างกันคนละซีกโลก
ผู้ส่ง: FreedomTide
ผู้รับ: Midtty
หัวข้อ: เรื่องด่วน
"ที่รัก~ ฉันมีเรื่องให้ช่วยหน่อย"
...ตามด้วยการบรรยายถึงที่มาที่ไปและมาตรการใหม่ที่กำลังจะออกมาบีบเหล่าเกมเมอร์ในประเทศของเขา แถมการแปลข้อความในคอลัมน์หนังสือพิมพ์นั้นเป็นภาษาอังกฤษให้เธออ่านด้วย
"เธอรู้จักพรรคพวกในวงการอินเตอร์เน็ตใต้ดินเยอะนี่นา ช่วยคิดหน่อยว่าจะเอาไงกันดี"
ผู้ส่ง: Midtty
ผู้รับ: FreedomTide
หัวข้อ: Re: เรื่องด่วน
"ได้เลยค่า เดี๋ยว Midtty จัดให้!!!"
เธอเพียงแต่ส่งข่าวบอกเล่าเรื่องทั้งหมดให้กับเหล่านักรบแห่งไซเบอร์สเปซ ผู้พิทักษ์เสรีภาพแห่งมนุษย์ ว่ามีรัฐบาลของประเทศแห่งหนึ่ง ได้ก้าวข้ามเส้นของการปิดกั้นการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ตของประชาชนมาเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นมันก็ได้ถูกเผยแพร่ต่อๆ กันไปเป็นลูกโซ่ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง จนเมื่อข่าวนั้นได้รับการยืนยันข้อเท็จจริงแล้ว พวกเขาก็มารวมตัวกันจากคนหลากหลายชนชาติทั่วทุกมุมโลก ทั้งแฮ็กเกอร์และไม่เชิงแฮ็กเกอร์กลุ่มต่างๆเข้ามาประสานกันเป็นการเฉพาะกิจ มีแนวร่วมเป็นองค์กรเอกชนอีกหลายกลุ่ม ก่อเกิดเครือข่ายมหึมาที่ยามปกติแฝงเร้นอยู่ประดุจมังกรร้ายที่หลับไหล แต่พร้อมจะตื่นขึ้นมาสำแดงความพิโรธได้ทุกเมื่อหากถูกรุกราน
และในวันนั้นเอง เว็บไซต์ของกระทรวงที่เกี่ยวข้องก็ได้ถูกมือดีลักลอบเจาะเข้ามาเปลี่ยนแปลงเนื้อหาหน้าแรกอย่างอุกอาจ ส่วนระบบเครือข่ายและข้อมูลอื่นๆของหน่วยงานรัฐในประเทศนี้ที่พวกเขาสามารถเข้าถึงได้ ก็ถูกถล่มจนเละเทะเกือบหมด ยกเว้นบางอย่างที่ถูกกำหนดไว้เป็นเขตปลอดภัยตามจรรยาบรรณ เช่น ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสาธารณสุข สังคมสงเคราะห์ หรือการบรรเทาสาธารณภัย เป็นต้น
แน่นอนว่าเหล่าผู้ก่อการได้จัดการพังระบบไม่ให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงนั้นๆ เข้ามาแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลกลับได้ จำต้องปล่อยให้หน้าเว็บที่ถูกเปลี่ยนแปลงนั้นอยู่ต่อไปอีกพักใหญ่ๆ
หน้าเว็บใหม่เริ่มต้นขึ้นด้วยข้อความที่ดูดุเดือดและท้าทายกันซึ่งๆหน้า
"...ด้วยฉันทามติแห่งนักสู้เสรีภาพจำนวน 121 กลุ่มจากทั่วโลก ที่มารวมตัวกันเพื่อแสดงการประณามต่อรัฐบาลของประเทศนี้!!!"
ต่อจากนั้นลงมา มีข้อความแถลงการณ์พิมพ์และแปลเป็นภาษาต่างๆกว่า 20 ภาษา เนื้อหาเป็นดังหัวข้อคือประณามมาตรการใหม่ที่จะออกมาว่าเป็นการปิดหูปิดตาประชาชน และเตือนให้ระวังให้ดีเพราะแม้แต่คนต่างชาติอย่างพวกเขายังได้รู้เรื่องความบ้าอำนาจของรัฐบาลนี้มาพอสมควร แล้วคนในประเทศนั้นจะไม่รู้เลยเชียวหรือ? พวกเขาเพียงแต่ยังเก็บกดความรู้สึกไว้เท่านั้นเพราะไม่มีทางเลือก แต่ถ้าหากพวกเขาทนไม่ไหวและลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อไหร่...รัฐบาลชุดนี้ก็คงอยู่ไม่ได้อีก
...การโจมตีครั้งนี้เป็นเพียงแค่เตือน! ถ้อยคำนั้นย้ำให้ตระหนักถึงความน่าสะพรึงกลัวของพลังมวลชนที่มีเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสารและคอมพิวเตอร์อยู่ในมือ และทำให้อีกฝ่ายต้องคอยหวาดระแวงต่อการโจมตีครั้งต่อไป ที่จะยังไม่สิ้นสุดลงง่ายๆ เป็นแน่
"เมื่อครั้งที่พวกเขาออกกฎหมายเคอร์ฟิว ข้าพเจ้าไม่ได้คัดค้าน เพราะข้าพเจ้าอายุเกินกำหนดแล้ว
เมื่อครั้งที่พวกเขาออกกฎหมายจัดระเบียบการพิมพ์ ข้าพเจ้าไม่ได้คัดค้าน เพราะข้าพเจ้าไม่ได้ทำวารสารหรือ นสพ. เผยแพร่
เมื่อครั้งที่พวกเขาออกกฎหมายจัดระเบียบเว็บไซต์ ข้าพเจ้าไม่ได้คัดค้าน เพราะข้าพเจ้าเช่าโฮสติ้งมืออาชีพ ที่มีเนื้อที่และกำลังเครื่องพอให้ทำตามข้อกำหนดได้
เมื่อครั้งที่พวกเขาออกกฎหมายขึ้นทะเบียนเว็บมาสเตอร์ ข้าพเจ้าไม่ได้คัดค้าน เพราะเว็บของข้าพเจ้าไม่มีอะไรที่เป็นปัญหา
เมื่อครั้งที่พวกเขาออกกฎหมายแบนเกมออนไลน์ ข้าพเจ้าไม่ได้คัดค้าน เพราะข้าพเจ้าไม่เล่นเกมออนไลน์
เมื่อครั้งที่พวกเขาสั่งปิดเว็บบอร์ดดัง ข้าพเจ้าไม่ได้คัดค้าน เพราะข้าพเจ้าไม่ได้เป็นสมาชิกเว็บบอร์ดนั้น
เมื่อครั้งที่พวกเขาสั่งปิดร้านเกม-เน็ตคาเฟ่ ข้าพเจ้าไม่ได้คัดค้าน เพราะข้าพเจ้ามีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้าน
จนถึงวันนี้ พวกเขาสั่งห้ามข้าพเจ้าใช้อินเตอร์เน็ต
...แต่ไม่มีใครเหลืออยู่ช่วยคัดค้านแทนข้าพเจ้าอีกแล้ว"
ด้านล่างก่อนท้ายสุดของหน้านั้น เป็นภาพวาดการ์ตูนล้อเลียนรัฐมนตรีในท่าทางชวนขบขัน มีการเติมช่องคำพูดเสริมเข้าไป:
"ใครมิยอมค้อมหัวให้ตูข้า ต้องพิฆาตเข่นฆ่าให้อาสัญ
ใครคิดต่างมองเห็นไม่เหมือนกัน มันผู้นั้นเป็นพวกหนักแผ่นดิน!!!"
และปิดท้ายด้วย 2 ประโยคเด็ด:
"ความรู้ คือ พลังอำนาจ"
"แฮ็คเกอร์แห่งโลกนี้ จงรวมเป็นหนึ่งเถิด!!!"
ในยามนี้ผู้รับผิดชอบคงต้องพากันกุมขมับอย่างจนแต้ม เพราะการติดตามเอาผิดกับแฮ็คเกอร์คนหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่งคงไม่ใช่เรื่องยากถ้าจะทำจริงๆ แต่การจะต่อกรกับแฮ็คเกอร์ "ทั่วโลก" ย่อมเป็นคนละเรื่องกัน และนี่เป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จึงไม่เคยมีใครคาดคิดหาวิธีรับมือเอาไว้เลย
สื่อหนังสือพิมพ์พยายามลงข้อเขียนประณามการกระทำของเหล่าแฮ็กเกอร์ในครั้งนี้ว่าเป็นการแทรกแซงกิจการภายใน พร้อมกับประณามคนในประเทศที่มีส่วนรู้เห็นว่ากระทำการชักศึกเข้าบ้านและเป็นพวก"ขายชาติ" ขณะเดียวกันก็พยายามชักจูงให้คนเชื่อจากเหตุการณ์นี้ ว่าอินเตอร์เน็ตทำให้คนมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงและเอนเอียงไปทางต่อต้านกฎเกณฑ์ได้ง่าย และเรียกร้องให้มีการออกกฎหมายควบคุมอินเตอร์เน็ตฉบับใหม่ออกมาโดยเร็วที่สุด
ระหว่างนั้น FreedomTide ก็เริ่มปรากฎตัวขึ้นในเว็บวิหารแห่งบอทและเว็บบอร์ดเกมเถื่อนๆ อีกแห่งที่ว่า และออกเคลื่อนไหวอย่างจริงจัง เพื่อเป็นตัวเชื่อมระหว่างเหล่านักสู้เสรีภาพกับพวกคนทำเว็บเกมในประเทศ จนสุดท้ายพวกเขาก็ได้แผนการที่เหมาะเจาะสำหรับเตรียมรับมือคลื่นยักษ์ที่จะมาถึง ด้วยหลังจากเรื่องยุ่งๆผ่านไปได้ รัฐบาลก็ยังคงดันทุรังจะเอามาตรการนั้นออกมาบังคับใช้อยู่ดีโดยไม่สนใจสายตาของประชาคมโลกแต่อย่างใด
วิหารแห่งบอทต้องประกาศปิดตัวลง แต่แท้จริงแล้วเป็นที่รู้กันว่าคือการปิดปรับปรุงชั่วคราวเพื่อเตรียมกลับมาใหม่ ประจวบกับขณะนี้ได้มีการอัพเดทแพทช์ใหม่ในเซิฟเวอร์ ทำให้บอทเข้าไม่ได้ชั่วขณะ ชาวบอทจำต้องรอทีมพัฒนาของ UniKroveN ต่อไปก่อน แล้ววันนี้เพื่อนๆ ของเด็กชายซึ่งคงจะเปิดบอทไม่ได้เช่นเดียวกัน ก็โทร.มาชวนเขาออกไปเล่นเกม SharkBite Overstrikes ภาคใหม่ล่าสุดกันที่ร้านเกมแถวๆ บ้านแทน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น