ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นคุณหนูในต่างโลกไปซะแล้ว

    ลำดับตอนที่ #5 : ไม่สนิทอย่าพูดคำว่าเตี้ย!

    • อัปเดตล่าสุด 12 พ.ค. 64


    แสงแดดยามบ่ายสาดส่องลงมายัง จัตุรัสกลางเมืองแอนนอทรีย์ ท่ามกลางผู้คนคับคังเดินกันไปมา จับจ่ายซื้อของกันอยู่นั้น ณ ร้านค่าเฟ่ใกล้ๆ เด็กสาวสองคนกำลังนั่งพูดคุยกันอย่างเพลิดเพลินใจ อยู่ตรงหน้าร้านคาเฟ่

    ฉันต้องขอโทษเรื่องเมื่อตอนยังเด็กด้วยนะลูซ พอมาคิดดูแล้วฉันไม่ควรแกล้งนายไปแบบนั้นจริงๆ” สการ์เลทเอ่ยขอโทษอย่างใจจริงพลางก้มหัวน้อยๆ ให้กับลูซที่นั่งอยู่ข้างควีนไม่ห่าง

    ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้าท่านสการ์เลทขอโทษผมอย่างใจจริงแล้วล่ะก็” ลูซส่งยิ้มและตอบกลับสการ์เลทที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเขาด้วยท่าทีที่ดูคลายกังวลมากขึ้น พอควีนเห็นลูซที่กลับมายิ้มแบบนั้นเธอก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา

    งั้นเรียกฉันว่าสการ์เลทเถอะ เรียกท่านสการ์เลทมันดูห่างเหินนะ” ลูซที่ได้ยินสการ์เลทพูดแบบนั้นเขาก็ผงกหัวเข้าใจ

    เขาคงจะเกร็งมากเลยสินะ ถึงจะดูผ่อนคลายนิดหน่อยแล้วก็เถอะ แต่ก็คงไม่น่าห่วงเท่าไหร่แล้วล่ะ ควีนคิดแบบนั้นก็ยกยิ้มนิดๆ

    เอาล่ะ! ในเมื่อทั้งคู่ปรับความเข้าใจกันได้แล้ว ทั้งสองคนก็มาสนิทกันไว้นะ” ควีนพูดออกมาด้วยสีหน้าที่ดูร่าเริงก่อนจะจับมือทั้งสองคนมาไว้ตรงหน้าเธอแล้วให้ทั้งสองคนจับมือกันเพื่อเป็นการปรองดอง ทำความรู้จักกันมากขึ้น

    พี่ครับ...เจ้าหญิงมีฐานะที่สูงศักดิ์กว่าเรามากนะครับ การที่เรามาทำแบบนี้มัน” ลูซหันไปเตือนพี่สาวตัวเอง ก่อนที่ควีนจะทำมือปัดๆ ส่วนสการ์เลทเองก็มองมีที่ลูซด้วยท่าท่าทางที่ดูใจดี ต่างจากเมื่อก่อนที่เขาเคยเจอเธอ

    ไม่เป็นไรหรอกน่า สการ์เลทเองก็เป็นกันเองกับพวกเราสุดๆ”

    ใช่แล้วๆ นายไม่ต้องกังวลหรอก” ทั้งสองสาวพยักหน้าให้กันและกันเป็นการรับประกันความมั่นใจให้กับลูซที่ดูท่าท่างจะยังเกร็งๆ อยู่ไม่น้อยเลยกับการกระทำที่ดูปุปปัปของพี่สาว

    ถ้าทั้งสองคนพูดแบบนั้นล่ะก็ ผมจะพยายามแล้วกันนะครับ”

    อ๊ะ! จริงสิ ลูซช่วยไปสั่งเค้กเพิ่มหน่อยสิ” ควีนที่จู่ๆ ก็นึกได้ จึงหันไปขอร้องน้องชายที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอ ลูซจึงขมวดคิ้วด้วยท่าทางที่ดูงุนงงกับคำขอร้องของพี่สาวก็เลื่อนสายตาไปบนโต๊ะ

    มะ...หมดตอนไหนกันครับเนี่ย?” ลูซตาโตเมื่อเค้กตรงหน้าที่พนักงานเพิ่งเอามาวางไว้บนโต๊ะไม่นานก็หมดเกลี้ยง ทำเอาลูซถึงกับตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นจนไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง

    ท่าทางเจ้าหญิงสการ์เลทเองก็ดูเหมือนจะทานได้มากเท่าพี่สาวของเขาไม่สิ ทานเยอะกว่าพี่สาวของเขาซะอีก แถมนิสัยที่ดูเข้ากันได้บ้างไม่ได้บ้างแบบนี้ดูสนิทสนมกับเธอมากกว่าเขาที่อยู่บ้านหลังเดียวกันเสียอีก คิดแล้วก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมาจังเลยนะ

    งะ...งั้น เอาแบบเดิมสินะครับ” ลูซเอ่ยถามทั้งสองคนด้วยท่าทีที่ยังดูตกใจกับจานเค้กตรงหน้าที่ไม่มีเค้กอยู่สักชิ้น

    ค่า.... ขอเค้กดาร์กช็อกเพิ่มอีกสองชิ้นนะ” สการ์เลทยกมือขึ้นพลางชูสองนิ้วไปตรงหน้าลูซ ทำเอาลูซผงะเล็กน้อยก่อนที่จะลุกออกเจ้าเก้าอี้แล้วหันหลังเดินออกจากโต๊ะตรงเข้าไปยังข้างในร้านคาเฟ่ ควีนจึงหันมามองสการ์เลทก่อนที่มือเล็กจะหยิบแก้วน้ำชาแล้วยกจิบเพื่อลิ้มรสชาติของชาหอมกรุ่นในยามบ่าย ที่อากาศดีแบบนี้

    เธอรู้หรือเปล่าว่าตัวเองมาที่โลกนี้ได้ยังไง” สการ์เลทเอ่ยถามควีนที่นั่งจิบชาอยู่ด้วยสีหน้าที่ดูเรียบนิ่ง บรรยากาศที่ดูสดใสอย่างเมื่อครู่นั้นหายไปในทันทีที่ลูซก้าวเดินออกไป

    เมื่อสองเดือนก่อนน่ะ เธอจำวันที่ฉันลืมกระเป๋าตังค์ได้หรือเปล่า?” ควีนเงยหน้าขึ้นมาจากการจิบน้ำชาสายตานั้นมองไปยังใบหน้าของเพื่อนสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเธอ

    อืม...จำได้แหละมั้งมันก็นานสำหรับฉันแล้วด้วยสิ” สการ์เลทใช้ความคิดสักพักก่อนจะเอ่ยตอบควีนออกไป

    ในตอนนั้นฉันเกิดอุบัติเหตุน่ะ หัวโขกประตูตรงห้องเปลี่ยนชุดใกล้ๆ สระว่ายน้ำหลังจากนั้นก็กลายมาเป็นคุณหนูควีนอย่างที่เห็นนี่แหละ” ควีนพูดพลางวางแก้วชาไว้ที่จานรองน้ำชาบนโต๊ะ แล้วหันไปมองสการ์เลทที่ขมวดคิ้วท่าท่างและสีหน้าเธอดูเครียดหน่อยๆ

    แปลกจัง...”

    หื้ม??”

    ฉันที่รอเธออยู่หน้าโรงเรียนจู่ๆ ก็มีรถสิบล้อพุ่งเข้ามาน่ะ...แล้วก็ตื่นมาในร่างของสการ์เลทตอนที่เธออายุได้แค่สิบขวบ”

    เอ๋!? นี่เธออยู่ที่นี่มาห้าปีงั้นเหรอ?” ควีนตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่สการ์เลทพูดออกมา ก่อนที่เธอจะพยักหน้ารับโดยที่ไม่พูดอะไรต่อแล้วยื่นมือขึ้นไปเหนือหัวตัวเองเล็กน้อย

    อืม...แต่ไม่มีข้อมูลอะไรเลย ยิ่งเป็นแค่เด็กสิบขวบเลยทำอะไรยากมากเลยล่ะ” นกตัวน้อยขนสีขาวบินมาจับที่ปลายนิ้วของสการ์เลท ก่อนที่เธอจะเลื่อนแขนข้างนั้นมาตรงหน้าแล้วสนใจนกน้อยที่อยู่ตรงหน้าของเธอแทน

    พอพูดเรื่องโลกก่อนให้คนอื่นได้ยิน พวกเขาก็หาว่าเจ้าหญิงพลัดตกน้ำแล้วกลายเป็นคนเสียสติ แถมยังไม่มีใครเชื่อฉันเลยสักคน”

    ไม่แปลกหรอกที่โดนหาว่าเป็นคนบ้า เป็นฉันเองคงไม่อยากจะเชื่อถ้าไม่ได้มาโลกเวทมนตร์นี่ด้วยตัวเอง” ควีนพูดพลางเก็บจานสีขาวที่วางอยู่บนโต๊ะเล็กๆ จัดวางซ้อนกันให้เป็นระเบียบตามนิสัยปกติของเธอ

    มันคือโชคชะตาหรืออะไรกันแน่นะ...เธอเริ่มไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้เลย สการ์เลทเอง...ไม่สิ...แอนเองก็อยู่โลกนี้มาตั้งห้าปีแต่ไม่มีเรื่องราวอะไรคืบหน้าเลยสักนิด ส่วนเราเองเทพอะไรนั่นก็บอกอย่าได้สงสัยในโชคชะตานี่อีกของแบบนี้มันจะไม่ให้สงสัยได้ยังไงกันล่ะ!

    ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจอะไรเลยแห๊ะ” จานสีขาวถูกวางซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบเสร็จ ควีนยกมือเรียวเล็กขึ้นมาลูบคางพลางครุ่นคิด

    มันถึงได้แปลกยังไงล่ะ เราตายในเวลาที่ใกล้เคียงกันแต่กลับมาตื่นในโลกนี้ในเวลาที่ไม่ใกล้เคียงกันเลย” ควีนกุมขมับตนเองพลางถอนหายใจกับสิ่งที่ได้ยินจากปากของสการ์เลท เรื่องนี้มันทำเอาเธอปวดหัวจนสมองไม่แล่นคิดอะไรไม่ออกเลยซะจริง

    ว่าแต่เบล...ไม่สิควีนเองมีเบาะแสอะไรหรือเปล่าล่ะ?” สการ์เลทเลื่อนสายตาจากนกตรงหน้ามองไปที่ควีน โดยที่มือเล็กๆ ยังคงลูบหัวเจ้านกน้อยอยู่

    ฉันไปวิหารเทพแห่งแสงมาน่ะสิ เทพอลูลาบอกให้ฉันอย่าได้สงสัยในเรื่องที่มาที่นี่ได้ยังไง เพราะมันคือโชคชะตา”

    เทพอลูลา? ยอดเลยนี่เธอได้คุยกับเทพด้วยเหรอ?”

    อืมใช่...แต่คุยผ่านร่างทรงน่ะ”

    เห? เหลือเชื่ออย่างกับฟังคนบ้าเล่าเรื่องเลย แล้วท่านเทพว่ายังไงบ้างเหรอ?” สการ์เลทพูดด้วยสีหน้านิ่งเรียบ แต่นั่นมันกับทำให้ควีนหางคิ้วกระตุกเพราะท่าทางที่ดูน่าหมั่นไส้กับคำพูดกวนๆ ของเธอ สการ์เลทที่เห็นสีหน้าควีนเป็นแบบนั้นก็ขำเล็กๆ

    ยัยนี่ทำเรื่องจริงจังให้เป็นเรื่องเล่นได้ตลอดโดยที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยสินะ

    อย่าสงสัยว่ามาโลกนี้ได้ยังไง ให้หาชายมีเขาแล้วชีวิตจะปลอดภัย...พอถามเรื่องเวทมนตร์ประจำตัวก็หายเข้าไปในกลีบเมฆติดต่อไม่ได้อีกเลย”

    ฉันลืมเรื่องนี้ไปเลยแห๊ะ...สรุปเธอก็ยังไม่รู้เรื่องเวทมนตร์ประจำตัวสินะ” ควีนที่ได้ยินคำถามจากเพื่อนสาวเธอก็ได้แต่ส่ายหน้าก่อนจะเอนกายพิงพนักเก้าอี้อย่างเหนื่อยใจ

    พอกลับมาคิดเรื่องชายมีเขากับเวทประจำตัวแล้วเธอยิ่งปวดหัวไม่ต่างจากการเรื่องที่มาโลกนี้ได้ยังไงเลย แถมการที่จะให้เธอเข้าใกล้คนที่เป็นเจ้าชายได้แบบนั้น มันจะไปทำได้ยังไงกันล่ะ เธอเป็นแค่คุณหนูที่ไม่มียศถาบรรดาศักดิ์มากมายขนาดนั้นที่จะเข้าใกล้เจ้าชายได้เลย

    ตระกูลโรสฮาร์ทเป็นตระกูลที่ทำงานควบคุมเรื่องต่างๆ ในการใช้เวทมนตร์ ทั้งการออกกฎหมาย สินค้าต่างๆ แต่ถึงอย่างนั้นตระกูลโรสฮาร์ทก็ไม่ใช่ตระกูลพวกขุนนางของกษัตริย์ เราเองจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะได้ไปงานเต้นรำเฉพาะพวกขุนนางเท่าไหร่ เว้นแต่เราจะมีเพื่อนที่มีคุณพ่อ คุณแม่เป็นขุนนาง หรือกษัตริย์นั้นรับเชิญพวกเราด้วยตนเอง ไม่ก็เจ้าชายจะรับเชิญเรา...

    แล้วมันเป็นแบบนั้นได้ยังไงกันล่ะ!” ควีนที่จู่ๆ ก็เผลอหลุดปากพูดออกมาเสียงดังอย่างลืมตัว เธอจึงรีบเด้งตัวนั่งหลังตรงอย่างกุลสตรีพึงมีเพื่อกลบเกลื่อนสิ่งที่ตนพูดเสียงดังดูไม่มีมารยาททันทีทันใด

    พึ่งเคยเห็นควีนทำตัวแบบนี้เลยแห๊ะ ตลกจัง” สการ์เลทพูดล้อเธอโดยที่ไม่ได้จริงจังมากนักพลางหัวเราะกับท่าทีแปลกๆ ของควีน

    อะแฮ่ม แล้วเธอจะเอายังไงต่อล่ะ ยังอยากรู้เรื่องที่เรามาโลกนี้ได้ยังไงอยู่หรือเปล่า?” เด็กสาวกระแอมกลบเกลื่อนเรื่องหน้าอายเมื่อครูแล้วเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ และมองไปที่ใบหน้าของสการ์เลท ก่อนที่จะเอนกายพิงพนักเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไรต่อ

    ห้าปีเป็นเวลาที่นานมากแต่เธอกลับไม่รู้อะไรเลยถ้าเป็นฉันเองคงยอมแพ้แล้วจำใจอยู่ในร่างนี้ไปแล้วล่ะ แถมแอนดูต่างไปจากเมื่อก่อนเธอนั้นรู้สึกได้ เพราะเธอมาที่โลกนี้ก่อนหรือเปล่านะ ดูเหมือนเธอจะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมานิดหน่อยคงผ่านเรื่องเลวร้ายมาเยอะ รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกแอนเองคงจะพึ่งพาและยืนด้วยตัวเองได้แล้ว ในโลกที่เราจากมายัยนี่ทำให้เธอเป็นห่วงแทบแย่

    ไม่แล้วล่ะ” สการ์เลทปล่อยเจ้านกน้อยขนปุยให้บินขึ้นสู่ท้องนภาแล้วส่ายหัวเล็กๆ พลางยิ้มอ่อน

    ฉันอยากจะช่วยประชาชนในอาณาจักรน่ะ เลยต้องแต่งงานกับอีกอาณาจักรเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย” ควีนเด้งตัวจากการพิงเก้าอี้ด้วยความตกใจกับสิ่งที่สการ์เลทเอ่ยออกมา

    หา!? ตะ...แต่งงาน!?”

    ตอนนี้เป็นแค่คู่หมั้นน่ะ...ยังไม่ถึงกับแต่ง” พูดตามตรงนี่มันน่าตกใจกว่าการที่เจอเพื่อนสนิทในโลกนี้เสียอีก คุยเรื่องแต่งงานในร่างของเด็กอายุสิบห้าปี มันไม่แปลกไปหน่อยเหรอเนี่ย!? ถึงจะยังคู่หมั้นกันไว้ก่อนก็เถอะ

    ยอดเลย ว่าแล้วเชียวว่าเธอต้องแต่งก่อนฉัน”

    หื้ม? แต่งอะไรกันเหรอครับ” เสียงที่ดังแทรกบทสนทนานั้นทำให้ทั้งสองคนหันไปมองก็พบกับลูซที่เดินออกมาจากร้านคาเฟ่กลับมานั่งที่เดิม โดยมีพนักงานนำเค้กที่เขาสั่งนั้นเดินตามมาด้วย

    ยัยสการ์เลทจะแต่งงานน่ะ” ควีนหันไปตอบคำถามของลูซที่นั่งข้างๆ

    อ๋อ...กับท่านวิคเตอร์ใช่ไหมครับ? เจ้าชายจากอาณาจักรซิลวานัส อาณาจักรครึ่งคนครึ่งสัตว์” ควีนมองไปที่สการ์เลทกับลูซที่นั่งคุยกันอย่างเงียบๆ พลางยกแก้วชาขึ้นมาดื่มกวาดสายตามองไปรอบๆ อดคิดไม่ได้เลยว่าอากาศที่นี่มันดีจริงๆ

    พี่ครับ” จู่ๆ ช้อนเล็กๆ ที่มีเค้กพอดีคำนั้นก็มาจ่ออยู่ตรงปากของควีน ทำเอาสการ์เลท มองมายังพี่น้องด้วยสีหน้าที่ยิ้มกรุ้มกริ่ม พอหันไปมองลูซที่ตักเค้กมาจ่อไปที่ปากแบบนี้รู้สึกใจเต้นแปลกๆ ก่อนที่จะรีบงับเค้กเข้าปากแล้วรีบกลืนลงท้องทันที

    จู่ๆ ทำอะไรเนี่ย” ควีนรีบนั่งตัวตรงพลางมองลูซที่กำลังจะตักเค้กต่อ ก่อนที่มือของเธอจะจับไปที่แขนของเขาเพื่อให้หยุดการกระทำนั้นเสียก่อน

    ร้ายไม่เบาเลยนี่...อาศัยความเป็นพี่น้องเข้าใกล้เหรอลูซ” สการ์เลทพูดเย้าแหย่ ก่อนที่ใบหน้าของลูซนั้นจะเกิดสีแดงระเรื่อขึ้น ทำเอาสการ์เลทนั้นขำออกมาทันที

    เปล่านะครับ! ก็มันมีคนมองมาที่พี่นิครับ...” ลูซตอบเสียงแข็งในประโยคแรก และเสียงนั้นค่อยๆ เบาลงมา สองสาวที่ฟังคำพูดของลูซไม่ชัดก็ถึงกับงงกับสิ่งที่คนตรงหน้าพูด

    เอาเถอะ พี่กินเองเถอะครับ” พูดจบน้องชายตัวแสบของเธอก็เลื่อนจานเค้กมาตรงหน้าของพี่สาวแล้วเบือนหน้าหนีทันที ควีนที่เห็นสีหน้าลูซที่แดงไปถึงใบหูก็เอ่ยท้วงขึ้น

    พี่ว่าเราไปหาหมอหน่อยไหม? นายหน้าแดงบ่อยนะลูซ” ควีนพูดด้วยสีหน้าไม่รู้ร้อนอะไรก่อนที่จะตักเค้กเข้าปาก สการ์เลทที่มองสองพี่น้องก็อดยิ้มไม่ได้

    ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อยครับ!” ลูซรีบหันขวับเผลอขึ้นเสียงกระแทกใส่พี่สาว ทำเอาควีนนั้นเกาหัวแกรกๆ ด้วยสีหน้าฉงนใจ นี่เธอทำอะไรผิดหรือเปล่านะ? ก็แค่เป็นห่วงแท้ๆ เลยอยากพาไปหาหมอเท่านั้นเองหรือว่าน้องชายของเขานั้นจะกลัวหมองั้นเหรอ?

    แอบหนีออกมาเที่ยวอีกแล้วสินะเจ้าหญิง?” เสียงปริศนาที่ดังขึ้น ทำให้สองพี่น้องนั้นหันไปมองยังต้นเสียงข้างหลัง สการ์เลทตาเบิกโพลงพลางยิ้มแห้งๆ ก่อนจะค่อยๆก้าวลุกออกจากเก้าอี้อย่างช้าๆ

    วะ...วิคเตอร์”

    ชายร่างสูงรูปร่างกำยำเดินเข้าที่โต๊ะของพวกเรา ด้วยท่าท่างสุขุมสีหน้าของเขาดูเรียบนิ่ง ใบหน้าที่ดูคมคายผมสีดำขลับถูกเซทมาอย่างดีกับหูที่เหมือนจะเป็นหูของสัตว์ ดวงตาดูเฉียบคมและดุร้ายดั่งหมาป่า เดี๋ยวสิ...มีหูงั้นเหรอ!? ปลายหูที่ตั้งแหลมกับหางที่ยกสูงขึ้นแถมใบหน้าที่ขมวดคิ้วเข้มๆ นั่นอีก อารมณ์ไม่ดีสุดๆ เลยไม่ใช่เรอะ!?

    เจ้าชายวิคเตอร์” ลูซเอ่ยออกมาด้วยความตะลึงงันเมื่อเห็นเจ้าชายตัวเป็นๆ อยู่ตรงหน้าเขา

    อีธานเจ้าคนทรยศ!” สการ์เลทที่สังเกตเห็นคนข้างหลังคู่หมั้นตัวเองเธอก็ได้แต่ชี้หน้าพ่อบ้านตัวดีของเธอ

    แม่เจ้า...นี่มันคู่หมั้นของสการ์เลทงั้นเหรอ หน้าตาดีถึงจะออกดุๆ ไปหน่อย...ไม่สิไม่หน่อยเลยสักนิด เธอควรจะโฟกัสหน้าตาหล่อๆ ของคู่หมั้นเพื่อเธอหรือหูกับหางฟูๆ นุ่มๆ นั่นก่อนดีนะ

    เราต้องกลับกันแล้ววันนี้มีงานเต้นรำใหญ่”

    แต่ฉันยังอยาก...” สการ์เลทที่ยังพูดจบก็โดนคู่หมั้นตัวเองพูดขัดคอเสียก่อน

    เธอต้องไปเตรียมตัว” มือหนาคว้าไปที่ข้อแขนของสการ์เลทด้วยท่าทางที่ดูอารมณ์ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ก่อนจะลากเธอออกไปจากตรงนั้นโดยที่พูดอะไร

    อ๊ะ! เดี๋ยวสิขอแค่ลาเพื่อน..”

    “...” วิคเตอร์เงียบไม่พูดอะไร ก่อนที่เขาจะหยุดเดินเพื่อให้คู่หมั้นของเขาได้หันไปโบกมือลาเพื่อนของเธอแทนคำพูด

    ขอโทษทีนะทั้งสองคน ไว้เจอกันใหม่นะ!” พอพูดจบ สการ์เลทที่โดนลากตัวออกไปนั้นก็ได้แต่โบกมือลาด้วยท่าทางหงอยๆ

    สองพี่น้องโรสฮาร์ทที่อยู่ในสถานการณ์นั้นก็ได้แต่มองและโบกมือลางอย่างเงียบๆ โดยที่ไม่สามารถเข้าไปยุ่งกับสถานการณ์ตรงหน้านั้นได้ก็ได้แต่มองทั้งสองเดินออกไปจนลับสุดสายตา ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก

    หน้าตาน่ากลัวสุดๆ ทำผมตกใจแทบแย่...” ลูซเอ่ยจบ เขาก็สังเกตเห็นพ่อบ้านอีธานที่ยังยืนอยู่ตรงหน้าทั้งสองคนด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง แต่สายตานั่นกลับดูเหยียดพวกเราอย่างเห็นได้ชัด

    คุณพ่อบ้านไม่ไปกับเขารึไง” ลูซที่ยังไม่ทันจะได้ถามอะไร พี่สาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ตัวเธอก็เอ่ยถามตัดหน้าเขาไปเสียแล้ว

    กระผมต้องขอขอบคุณที่พวกคุณยังนั่งดื่มชาอยู่ที่คาเฟ่นี้ ไม่อย่างนั้นเราคงตามหาตัวท่านสการ์เลทได้ยาก นี่คือบัตรเชิญไปงานเลี้ยงขอรับ” อีธานยื่นใบบางอย่างให้ทั้งสองคนก่อนที่เขาจะโค้งตัวให้แล้วรีบเดินออกไปทันทีที่ควีนรับมันมาไว้ในมือ

    พวกตระกูลสูงศักดิ์มีท่าทางเย่อหยิ่งกันแบบนี้ทุกคนเลยหรือไงนะ...” พูดจบเธอก็ก้มไปอ่านมัน

    กล้าดียังมาสนิทสนมกับท่านสการ์เลท พวกคุณน่ะไม่คู่ควรถอยห่างออกไปซะ...โห ไอ้บ้านี่!” ควีนลุกพรวดรีบคว้ารองเท้าที่ตนเองใส่มาไว้ในมือแล้วรีบง้างแขนทันที ลูซไม่รีรอรีบหยุดการกระทำของพี่สาวตัวเองในทันที

    อ๊าก พี่ครับอย่านะ! รองเท้ามันไม่ควรโยนแบบนั้น”

    ลูซก็ดูไอ้พ่อบ้านคนนี้สิ! หงุดหงิดซะจริง!” ควีนค่อยๆ พยายามทำให้ตัวเองนั้นใจเย็นลงก่อนที่ลูซจะหยิบรองเท้าจากมือของพี่สาวออกมาไว้ในมือของเขาได้สำเร็จ

    ถึงอย่างนั้นก็เถอะครับ...”

    แต่ตอนนี้พี่ใส่รองเท้าก่อนนะ” พูดจบลูซก็ยื่นรองเท้าให้พี่สาวตัวเอง ก่อนที่เธอจะรับมันมาใส่อย่างว่าง่าย

    ตระกูลราชวงศ์แบบนี้คงไม่อยากให้ลูกตัวเองมาคลุกคลีกับตระกูลที่ไม่มียศถาบรรดาศักดิ์แบบพวกเราก็ได้ล่ะมั้ง เราเองก็ไม่ได้สนใจกับเรื่องนี้สักเท่าไหร่ จนมาเจอยัยสการ์เลทเข้า... ขนาดครอบครัวของเอเกิลเองดูไม่ค่อยจะต้อนรับเราสักเท่าไหร่เลยแปลกจัง ทั้งๆ ที่ทุกคนในอาณาจักรก็ใช้เครื่องมือเวทมนตร์ที่มาจากตระกูลโรสฮาร์ททั้งนั้นแท้ๆ ก็จะมีแต่กับชาวบ้านธรรมดาๆ ไม่ใช่พวกขุนนางแหละมั้งที่รักเรา ทำดีกับเราด้วยความจริงใจจริงๆ

    เห้อ...กลับกันเถอะ พี่ไม่มีอารมณ์เที่ยวต่อแล้วสิ” ควีนหันไปพูดกับลูซที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอ ก่อนที่จะก้าวเดินออกไปจากหน้าร้านคาเฟ่โดยที่มีลูซเดินตามมาติดๆ โดยที่ไม่ได้พูดอะไร

     

    สองพี่น้องเดินกลับมาตรงที่จอดไม้กวาดโดยเจ้าโคไม้กวาดวิญญาณสุนัขก็พุ่งตรงมาหาลูซด้วยความใจดี แต่ถึงอย่างนั้นควีนก็ยังไม่ค่อยชินกับมันเสียที...ถ้ามีลิ้นละก็คงเลียหน้าลูซด้วยความดีใจไปแล้วล่ะมั้งนั่น พอละสายตาจากฉากเลิฟซีนของลูซกับเจ้าโค หางตาควีนก็สังเกตเห็นหญิงสาวลูกขุนนางดูเหมือนร้อนรนวิ่งไปที่ไหนสักแห่ง แถมยังไม่ใช่เดินไปทางเดียวกับเป็นกะตั้ก

    ลูซ...พวกนั้นกำลังไปไหนกันน่ะ” ควีนหันไปมองยังทางที่พวกเขานั้นกำลังเดินไปก่อนที่ลูซจะหันไปมองตามมือเล็กๆ ของพี่สาวที่ชี้ไป

    ไม่รู้สิครับ” เขาส่ายหัวน้อยๆ พลางยักไหล่ ก่อนที่ควีนจะฉีกยิ้มร่าแววตานั้นเต็มด้วยความอยากรู้อยากเห็น

    งั้นเราไปดูกันหน่อยมั้ย” ลูซที่ได้ยินคำพูดของพี่สาวเขาก็ทำท่าทางครุ่นคิดสักพักก่อนที่จะพยักหน้าตอบตกลง

    ก็ได้ครับจริงๆ ตอนนี้ก็ยังไม่ถึงเวลากลับ”

    เยส! งั้นไปกันเถอะ” ควีนกระโดดปรบมือด้วยท่าทางดีใจ แล้วเดินโลดเต้นอย่างอารมณ์ดีตามคนพวกนั้นไปโดยมีลูซที่เดินตามมาพร้อมกับเจ้าโคที่ลอยตามจากข้างหลัง

    พวกเขากำลังมุงอะไรกันน่ะ!”

    ถ้าแม่มาเห็นกิริยาแบบนี้เข้า มีหวังได้เรียนมารยาทเพิ่มแน่ๆ” ลูซส่ายหัวอย่างระอาเมื่อเห็นพี่สาวของเขาทำกิริยาไม่สำรวมเท่าไหร่นัก

    แต่พอมาคิดดูแล้วเขาคงคิดผิดนิดหน่อยที่ว่าในอาณาจักรนี้คงมีแต่พี่สาวเขาที่ทำกิริยาไม่สำรวม จะว่าไปเจ้าหญิงสการ์เลทเองก็ดูเหมือนจะแตกต่างไปจากเมื่อก่อนเหมือนกัน กระโดดโลดเต้นกรี๊ดกร๊าดใหญ่โตกับพี่สาวของเขาจนอีธานเองก็คงเหนื่อยใจไม่น้อยแน่ๆ ... แล้วเจ้าหญิงไปสนิทกับพี่สาวของเขาตอนไหนกันเขากันนะ

    เมื่อมาถึงจุดหมายตรงหน้าก็พบกับเหล่าลูกขุนนางกำลังมุงดูอะไรสักอย่างอยู่ข้างใน ทำเอาควีนเองก็อดสงสัยมันไม่ได้ เธอพยายามเขย่งเท้าเพื่อมองเหตุการณ์ข้างในนั้นแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จแต่อย่างใด

    โถ่เอ๊ย ขนาดใส่รองเท้าสูงมาสองนิ้วแล้วนะ ไม่ช่วยอะไรเลย” เธอหันลงไปเอ็ดเจ้ารองเท้าส้นสูงของเท้า มือเล็กเท้าเอวเม้มปากมองไปยังฝูงชนตรงหน้าอย่างครุ่นคิด

    นั่นสินะ...ข้อดีของคนตัวเล็กคือมุดไปไหนมาไหนง่ายไงล่ะ!” เธอยิ้มร่าออกมาเมื่อคิดอะไรบางอย่างในหัวพลางดีดนิ้วดังเป๊าะ! ก่อนที่ร่างเล็กๆ จะกระโดดเข้าไปยังฝูงชนที่อัดแน่นขนัดที่มุงดูอะไรสักอย่างที่เธอนั้นอดสงสัยไม่ได้

    ขอเผือกหน่อยแล้วกันนะ ฮึ่บ!” ในที่สุดก็เกิดผลสำเร็จ ควีนมุดตัวออกมาจากฝูงชนมาอยู่แถวหน้าข้างในได้ในที่สุดก่อนที่เธอจะหันไปมองเหตุการณ์ตรงหน้าก่อนจะก้มหน้างุดคอตกทันที

    นึกว่าขนมชิมฟรีหรือของลดราคาซะอีก”

    ลุกขึ้นมาซะยัยหมูโสโครก” เสียงทุ้มต่ำของชายร่างสูงโปร่งทำให้ควีนหูผึ่งหันไปมากสถานการณ์ตรงหน้าอย่างตั้งใจในทันที เธอค่อยๆ ไล่สายตาจากรองเท้าหนังเงาวับไล่ไปถึงขายาวๆ มีกล้ามเนื้อแน่นๆใต้เสื้อเชิ้ตขาวบางๆ กับไหล่กว้างได้รูป ผิวขาวซีดกับดวงตาสีม่วงราวกับอัญมณีเปล่งประกายสีอเมทิสต์ ผมสีเงินเงางามที่ไม่ได้ถูกเซตทรงปล่อยปรกหน้าผากของเขาเอาไว้ เขาสีขาวเปล่งประกายใต้แสงแดดที่สาดส่องลงมา...

    นะ...นั่นมัน!” ควีนตกใจทันทีเมื่อเธอสังเกตเห็นสิ่งที่เขานั้นต่างจากคนธรรมดาทั่วไป เขา! เขาสีขาวโค้งยาวได้รูป กับเขาอีกข้างหนึ่งที่หัก ไม่ผิดแน่นอนเจ้าชายลูเซียนจอมเอาแต่ใจคนนั้น! บ้าจริงนี่เขาหน้าตาดีขนาดนี้เลยงั้นเหรอไม่อยากจะเชื่อสายตา แถมหุ่นล่ำๆ ขายาวๆ แม้เจ้า หุ่นดีสุดๆ!

    ท่านลูเซียน” ลูเซียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แววตามองมาที่เด็กสาวที่นั่งก้มหน้างุดไม่พูดอะไรด้วยสายตาที่ดูรังเกียจเธอเอาเสียมากๆ เธอมองไปที่สถานการณ์นั้นอย่างเงียบๆ พลางขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด

    เด็กสาวหน้าตาน่ารักแบบนี้ทำไมถึงต้องโดนรังแกตลอดเลยนะ! ไม่เข้าใจซะจริงๆ หรือเจ้าชายหงุดหงิดหน้าตาของเด็กสาวคนนี้เลยรังแกเธองั้นเหรอเพราะสวยกว่าสินะ! แต่เดี๋ยว เขาเป็นผู้ชายไม่ใช่รึไงมาอิจฉาหน้าตาอาจจะแปลกไปสักหน่อย...

    หยุดแสดงบทบาทน่ารำคาญแล้วลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้...” แววตาของเขาดูเย็นชาไร้อารมณ์ใดๆ เขาเอ่ยออกมาอีกครั้งราวกับว่านั่นคือคำสั่ง ควีนเองที่มองไปรอบๆ ก็ได้แต่รู้สึกหงุดหงิดอยู่ในใจไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยผู้หญิงคนนี้เลยสักคนงั้นเหรอ

    อึก...” เด็กสาวค่อยๆ ยันตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล ควีนกัดฟันพลางสูดหายใจลึกๆ อดทนไว้เธอจะหาเรื่องใส่ตัวไม่ได้เด็ดขาด

    ฟุบ

    จู่ๆ ไม้กวาดของลูซก็เลื่อนเข้ามาอยู่ในมือของเธออย่างไม่ทราบสาเหตุ เธอมองไปในมือของตัวเองด้วยความงุนงง

    โคมาตรงนี้ได้ไง ว๊าก!” ไม่ทันได้ถามอะไรออกไป จู่ๆ เจ้าไม้กวาดตัวดีก็ที่อยู่ในมือควีนก็ลากเธอออกไปสู่สายตาประชาชี ซวยแล้ว! เจ้านี่ทำอะไรลงไปเนี่ย! เจ้าไม้กวาดบ้านี่!

    โคนี่แกบ้าไปแล้วเรอะ” ควีนก้มไปด่าไม้กวาดที่อยู่ในมือด้วยท่าทีหงุดหงิด แต่เจ้าโคนั่นก็แกล้งทำเป็นไม้กวาดปกติไปเสียแล้ว พอรู้สึกตัวอีกทีเธอก็เสียวสันหลังวาบในทันที สายตาของคนอื่นๆ กำลังจดจ้องมองมาที่เธอ

    นะ..ไหนๆ ก็ออกมาแล้ว! ลองสู้กันสักตั้งก็แล้วกันนะควีนเอ๊ย! จะบอกว่าไม้กวาดในมือลากออกมาคนพวกนี้ได้ขำกันกระจายแน่ๆ

    ฮะ...เฮ้ย! นี่นายรังแกผู้หญิงงั้นเหรอคุณเจ้าชายสุดหล่อ...” เดี๋ยวสิ! เธอพลั้งปากพูดอะไรออกไปเนี่ย มันต้องเป็นนายรังแกผู้หญิงไม่ใช่รึไง! เธออยากจะตบปากตัวเองสักทีซะจริง ยัยโง่เอ๊ย!

    หืม...ยัยเตี้ยนี่ใครกัน องครักษ์ตระกูลควินท์งั้นเหรอ” ลูเซียนมองตรงมายังหญิงสาวตัวเล็กที่ยืนอยู่หลังเด็กสาวที่นั่งอยู่ด้วยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนที่จะกลับไปทำสีหน้าเรียบนิ่งเช่นเดิม

    เตี้ยงั้นเหรอ!?” ควีนจ้องมองไปที่ลูเซียนด้วยสายตาที่ฉายแววอยากจะตะบันหน้าหมอนี่สักทีหนึ่ง ก่อนที่มือเล็กจะกำไม้กวาดนั้นด้วยมือที่สั่นด้วยความโกรธ

    ตัวเล็กยังพอว่าแต่คนไม่รู้จักมาด่าเตี้ยแบบนี้ บังอาจ! คิดว่าสูงส่งแค่ไหนกันห๊ะ!” เธอเหวี่ยงด้ามไม้กวาดชี้ไปตรงหน้าเจ้าชายลูเซียนอย่างหงุดหงิด อารมณ์ของเธอแทบจะระเบิดเสียตอนนี้เลยจริงๆ

    โห กล้าต่อล้อต่อเถียงเช่นนี้ ช่างเป็นสตรีที่ไร้มารยาทเสียจริงๆ” ลูเซียนยกยิ้มมุมปากก่อนที่จะมองมาที่เด็กสาวอย่างไม่เกรงกลัว

    แล้วการที่นายรังแกเธอแบบนี้ในที่สาธารณะคิดว่ามันถูกหรือไง! นี่น่ะเหรอมารยาทของเจ้าชายที่ควรจะพึงมีน่ะ!”

    ยัยเตี้ยแบบเธอหุบปากไปซะถ้าไม่รู้...”

    ควีนกัดฟันด้วยความโกรธอย่างถึงที่สุดขีด ขาเล็กก้าวเดินตรงเข้าไปยังชายหนุ่มตรงหน้า พร้อมกับมือที่กำด้ามไม้กวาดเอาไว้แน่น ก่อนที่จะง้างมันออกแล้วฟาดมันออกไปตามแรงโกรธของเธอในทันที

    เพี้ยะ!

    เสียงที่ดังขึ้นท่ามกลางฝูงชน ทำเอาพวกเขาสั่นสะท้านไปทั้งตัวเมื่อเห็นการกระทำของเด็กสาว ผู้คนต่างอึ้งไปชั่วขณะกับการกระทำที่สุดแสนจะสุดโต่งจนพวกเขาพูดไม่ออก

    เตี้ยแล้วมันยังไง! ตบปากเอ็งถึงแล้วกันล่ะเว้ย! ดูถูกความสูงฉันไปแล้วคิดว่าจะตัวจะสูงส่งขึ้นรึไงห๊ะไอ้เปรต! แล้วการที่แกมารังแกผู้หญิงในที่สาธารณะแบบนี้น่ะ มันโคตรหน้าตัวเมียเลยเว้ย!” ควีนหายใจหอบเมื่อพูดสิ่งที่อยู่ในใจของตนเองออกมาจนหมด ก่อนที่เธอจะตั้งสติได้ในทันทีเมื่อคิดถึงสิ่งตนเองได้ทำลงไปก่อนหน้านี้

    ร่างของชายหนุ่มหันไปตามแรงตบที่ได้จากด้ามไม้กวาดไปเต็มๆ เลือดไหลซิบที่มุมปากของเขา ลูเซียนยกมือขึ้นมาเช็ดเลือดที่มุมปากก่อนจะถุยน้ำลายที่ปนไปด้วยเลือดลงพื้น ควีนที่เห็นสิ่งแปลกปลอมที่ปนอยู่กับเลือดนั้นเธอก็กลืนน้ำลายเหนียวลงคอที่แห้งผาก

    ฟันขาวจังเลยเนอะ” เธอมองไปที่ฟันซี่แหลมเล็กจมอยู่ในกองเลือดบนพื้น พลางหัวเราะแห้ง

    นี่เธอเผลอทำอะไรลงไปกันเนี่ย จู่ๆ ก็ไปตบเจ้าชายลูเซียนอย่างไม่ได้สติเพราะไอ่แค่เขาพูดว่าเตี้ยงั้นเหรอ!? ฉันทำอะไรลงกัน!? เพราะคำพูดล้อเหมือนที่เธอเคยโดนในสมัยก่อนงั้นเหรอถึงได้ฉุนขาด ตอนลูซพูดฉันไม่เห็นจะฉุนแบบนี้เลยยัยควีนเอ๊ย ซวยแล้ว โดนเนรเทศแน่ๆ เลย ชีวิตฉันต้องมาจบในเวลาแค่สองเดือนอย่างนั้นเหรอ แม่เจ้า

    หึๆ” ลูเซียนหัวเราะในลำคอก่อนจะหันมามองควีนอย่างช้าๆ ทำเอาควีนนั้นเสียวสันหลังวาบในทันทีที่ได้ยินเสียงหัวเราะอันแสนเย็นยะเยือกนั่น

    การกระทำสุดโต่งจังเลยน๊า...” ควีนเบิกตากว้างตกใจกับภาพตรงในทันที นี่เขากำลังหน้าแดงงั้นเหรอ!? อย่างกับสาวน้อยวัยแรกแย้มพบกับรักแรกซะอย่างนั้น! เดี๋ยวสิทำไมมันเป็นแบบนี้ล่ะเฮ้ย นี่เจ้าชายเป็นพวกชอบความรุนแรงงั้นเรอะ!?

    แมวน้อยของผม...ได้โปรดบอกชื่อของเธอได้หรือไม่” ลูเซียนคุกเข่าลงข้างหนึ่งมือหนาเอื้อมมาจับมือเล็กก่อนที่จะจรดริมฝีปากลงไปที่หลังมือของเธอพลางขบเม้มหยอกล้อเบาๆ

    หยุดนะเฮ้ย!” ควีนรีบชักมือกับใบหน้าของเธอร้อนผ่าวไปหมด นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ยจู่ๆ เจ้าชายก็เปลี่ยนไปอย่างกับคนละคนจนเธอนั้นตกใจ ไม่สิ พวกคุณหนูที่มุงเราเองก็ตกใจไม่แพ้กัน

    แมวน้อยไม่อยากบอกชื่อกับผมงั้นเหรอ?” พอหันกลับไปมองใบหน้าเจ้าชายที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าก็เหมือนกับหมาน้อยขี้อ้อนซะอย่างนั้น ทำเอาควีนรู้สึกเคลิ้มกับใบหน้าหล่อราวเทพบุตรตรงหน้าไปไม่น้อยเลย ลูกอ้อนแบบนี้มันรุนแรงสำหรับเธอเกินไป

    คือฉัน ควีน ควีน โรสฮาร์ทแล้วช่วยหยุดเรียกแมวน้อยเถอะขอล่ะนะ” แววตาของลูเซียนดูเหมือนกับกำลังหลงใหลเด็กสาวตัวน้อยตรงหน้าในขณะที่เธอนั้นก็รู้สึกประหม่าเมื่อต้องมองลงมาที่เขา

    แมวน้อยของผมได้โปรดเป็นคู่เต้นรำให้กับผมในคืนนี้ได้หรือไม่...”

    ก็บอกให้หยุดเรียกแมวน้อยไงล่ะ” ควีนเกาหัวแกรกๆ ด้วยความรู้สึกที่เธอเองนั้นไม่รู้จะทำตัวยังไงในสถานการณ์ตรงหน้าดีนี่มันมากเกินสำหรับเธอแล้วนะ นี่เราโดนเจ้าชายที่ชอบความเจ็บปวดตกหลุมรักงั้นเหรอเนี่ย ที่ว่าให้ตามหาชายมีเขาแล้วจะปลอดภัยเนี่ย...มันใช่แบบนี้หรือเปล่าเนี่ย...

    ฉันว่านายลุกขึ้นเถอะนะ คือเราเป็นเพื่อนกันได้ใช่แล้วล่ะ ไม่ใช่แมวน้อยกับเอ่อ คุณเจ้าชายสายsmอะไรแบบนั้นน่ะ” ควีนส่งยิ้มแห้งๆ ไปให้ลูเซียนก่อนที่ควีนจะค่อยๆ แกะมือของลูเซียนออกแล้วก้าวขาเล็กถอยห่างในทันที

    แต่แมวน้อย...”

    เพื่อน! เพื่อนนะเจ้าชาย!” ควีนรีบพูดดักคอเจ้าชายลูเซียนแล้วรีบหมุนตัววิ่งพรวดหายเข้าไปในฝูงชนที่มุงดูในทันที

    ตอนนี้เธอนั้นอยากจะกลับบ้านเต็มทนไม่น่ามาเผือกเรื่องชาวบ้านเลยเสียจริงๆ! แถมเจ้าโคไม้กวาดตัวดีของลูซที่หาเรื่องซวยลากเธออีก! นี่เราควรโทษตัวเราก่อนหรืออะไรก่อนดีเนี่ย!

    ลูซที่เห็นพี่มุดตัวออกมาจากฝูงชนเขาก็รีบวิ่งแจ้นมาหาพี่สาวด้วยสีหน้าที่ดูเป็นห่วงพี่สาวตรงหน้า มือหนาจับไปที่ไหลของพี่สาวที่กำลังหอบเหนื่อย สายตาของเขาสำรวจร่างกายของพี่สาวว่าเธอนั้นได้รับบาดเจ็บหรือไม่

    “พี่ครับ เจ็บตรงนะ...”ลูซไม่ทันพูดจบก็ถูกควีนยกมือขึ้นมาตรงหน้าเขาเพื่อให้เขานั้นหยุดพูดเสียก่อน ก่อนที่ควีนจะยัดเจ้าไม้กวาดตัวดีใส่มือของลูซ

    “กลับกันเถอะ กลับบ้านแล้วพี่จะเล่าให้ฟัง” เธอพูดด้วยท่าทางหอบเหนื่อยก่อนที่จะลากลูซแยกออกมาจากฝูงชนตรงนั้นให้เร็วที่สุด

    ลูเซียนมองเด็กสาวที่หายเข้าไปในฝูงชนที่มุงดูเขาอยู่ก่อนที่จะชูมือขึ้นเหมือนเป็นการส่งสัญญาณอะไรบางอย่างๆ ก่อนที่องครักษ์ในชุดสูทสีดำสนิทจะเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับคุกเข่าตรงหน้าลูเซียน

    ยังไงคู่เต้นของฉันในคืนนี้จะต้องเป็นแมว...คุณหนูควีน โรสฮารท์นี่คือคำสั่งของฉัน” ลูเซียนออกคำสั่งด้วยสีหน้าที่กลับมาเรียบนิ่งดั่งเดิมก่อนที่จะหันไปมองหญิงสาวที่ก้มหน้างุดอยู่ข้างๆ เขา

    ส่วนเธอน่ะ ริต้า หยุดการกระทำอันน่าสมเพชนี้ซะ”

    “จะทำตัวอ่อนแอเพื่อให้ฉันช่วยต่อหน้าคนพวกนี้งั้นเหรอ ฉันไม่ได้โง่ที่จะติดกับดักเป็นเจ้าชายที่แสนดีหรอกนะ โง่เสียจริง” แววตากับคำพูดที่เอ่ยออกมานั้นเย็นเยียบจนริต้าถึงกับรู้สึกหน้าชาไปหมดกับคำพูดของเขา ก่อนที่ร่างสูงจะเดินออกไปโดยไม่แยแสพลางฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีเดินออกไป

    “คุณหนูริต้าเป็นอะไรมั้ยคะ!?” เสียงสาวใช้ที่ดังออกมาจากฝูงชนที่เริ่มทยอยซากันออกไปนั้นก็ได้วิ่งมาหาริต้าด้วยสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย

    “ไปสืบมาว่ายัยนั่นเป็นใคร กล้ามาแทนที่คู่เต้นรำในงานแทนฉันคนนี้งั้นเหรอ...หมั่นหน้าเสียจริงๆ...”

     

     

     

    -To be continued -

    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×