ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จอมโจรรัตติกาล

    ลำดับตอนที่ #3 : จอมโจรรัตติกาล : คำล่ำลือ

    • อัปเดตล่าสุด 25 มี.ค. 50


    จอมโจรรัตติกาล : คำล่ำลือ

     

                    เสียงผู้คนดังระงมไปทั่วบริเวณโรงเรียน ส่วนมากเป็นเหล่านักเรียนหญิงที่จับกลุ่มคุยกัน แต่ก็มีนักเรียนชายอีกหลายคนที่กล่าวถึงเรื่องเดียวกัน และเรื่องที่ผู้คนต่างก็แลกเปลี่ยนความเห็นกันนั้นก็คือเรื่องของบุรุษชุดดำที่มาปรากฏตัวต่อหน้ากลุ่มเด็กสาวเกินตัว... กลุ่มโอลีฟว์นั่นเอง

                    เขาน่ะนะ ทั้งเท่ห์ทั้งหล่อ เสียงก็ชวนฝัน ฉันล่ะเห็นกับตา รอยยิ้มนั่นอย่างกับเทวดาแน่ะ กริ๊ด >0<”เสียงแหลมๆอย่างออกจริตดังมาจากริมฝีปากของสาวนัยน์ตาสีม่วง เธอเล่าเรื่องเกี่ยวกับเขาไม่หยุดตั้งแต่ก้าวเข้ามาในโรงเรียน และก็มีเด็กสาวอีกมากมายที่อยากจะฟังเรื่องของเธอกับกลุ่มที่ได้เจอกับจอมโจรรัติกาลตัวต่อตัว

                    ถึงเรื่องราวของจอมโจรรัตติกาลจะดังไปทั่วจนหลายคนให้ความสนใจ แต่เจ้าตัวที่เป็นผู้ถูกกล่าวขานกลับหัวเราะเอาเป็นเอาตายเมื่อได้ยินเรื่องที่คนอื่นพูดอย่างผิดเพี้ยนไปจากความจริง บ้างก็ว่าเขามีปีกบินไปไหนมาไหนก็ได้ดั่งใจอยาก บ้างก็ว่าเขาเป็นจ้าววายุสั่งลมให้ทำตามได้เหมือนลูกน้อง ทั้งที่ความจริงมันไม่ใช่อย่างนั้นสักนิด

                    แต่มันก็น่าอยู่หรอกนะ เธอคิด

                    และรู้หรือเปล่าว่าเขามีเวทมนต์ที่สามารถทำให้ทุกคนหลงเสน่ห์ได้ด้วยล่ะสิ้นคำพูดด้วยท่าทางเพ้อฝันของโอลีฟว์ พัชก็ปล่อยก๊ากพรวดยาวออกมาจนโอลีฟว์ต้องหันมาค้อน

                    นี่เธอหัวเราะอะไรน่ะคิ้วเรียวของคนพูดขมวดเข้าหากัน

                    อ๋อ เปล่าๆ พอดีหนังสือเล่มนี้หน้าปกมันตลกดีน่ะแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ โอลีฟว์ก้มหน้าลงมามองหน้าปกหนังสือที่พัชถือแล้วก็ต้องขมวดคิ้วเข้าไปอีกเพราะหน้าปกมันเป็นหนังสือคณิตศาสตร์ที่มีเพียงสามเหลี่ยมและวงกลมซ้อนกันไปมา แต่เจ้าของหนังสือก็ยังยิ้มแป้นทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

                    ท่าจะบ้าโอลีฟว์พูด ก่อนจะหันไปเล่าเรื่องของจอมโจรรัตติกาลต่อ

                    เธอน่ะสิบ้า พัชต่อในใจด้วยใบหน้าขบขัน

     

                    ร่างสูงก้าวเข้ามาในโรงเรียนเหมือนอย่างวันอื่น แต่ปกติมันต้องมีคนดักรอเขาอยู่แล้วไม่ใช่หรือนี่? หรือวันนี้มันวันหยุดรัชกาลของพวกผู้หญิงนั่น

                    อิสระสักทีตู เขาคิด นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มฉายแววพึงพอใจ เดินตรงมุ่งหน้าไปที่ตึกเรียน

                    ฉันน่ะได้ยินมาว่าจอมโจรรัตติกาลเอาแหวนทองวงละหมื่นไปคืนยายโอลีฟว์ด้วยล่ะ

                    กึก

                    ฝีเท้าหยุดชะงัก เมื่อได้ยินประโยคนั้นจากกลุ่มหญิงสาวที่ยืนคุยกันอยู่ พลันสมองก็นึกถึงแหวนสีทองวาววับในมือของตนเมื่อวานที่หลังจากกลับบ้านไปหวังจะหยิบขึ้นมาดูเสียหน่อยแต่เจอเพียงความว่างเปล่าในกระเป๋ากางเกงยีนส์ เขาตกใจแทบบ้าคิดแต่ว่ามันหายไปได้อย่างไร ที่แท้ไอ้โจรนั่นนี่เอง

                    ขโมยไปตอนไหนวะเนี่ย

                    แกได้ยินข่าวนั้นมั้ยไอ้กฤษฎ์เพื่อนคนหนึ่งวิ่งเค้ามาถามเขาด้วยสีหน้าร้อนรนเมื่อเขาวางกระเป๋าลงบนเก้าอี้แล้ว ผมสีแดงแสบทรวงยังสร้างความซ่าให้เจ้าของเสมอ

                    เต็มสองหูเลยว่ะ กฤษฎากรณ์เงยหน้าขึ้นมองเพื่อนพร้อมคำตอบ

                    ฉันว่าแกคงต้องไปเอาแหวนคืนจากโอลีฟว์ตรงๆแล้วล่ะเพื่อนอีกคนผมดำลองทรง ตาสีดำสวมแว่นเอ่ยแนะนำข้างตัว

                    แล้วถ้าโอลีฟว์ไม่คืนให้มันล่ะชายร่างสูงกว่าเพื่อน ผมสีน้ำตาลเป็นทรงตั้งขึ้นเพราะเยลเอ่ยถามคนสวมแว่น กฤษฎ์เพิ่งรู้ตัวว่าเขานั่งอยู่กลางเพื่อนทั้งสามตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

                   

                   

                    ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่โอลีฟว์จะคืนไม่คืนหรอก ไอ้กลองกฤษฎ์พูดฉันติดใจตรงที่จอมโจรนั่นมันขโมยแหวนฉันไปตอนไหนต่างหาก เพราะตั้งแต่งานเริ่มจนถึงงานเลิกและฉันกลับบ้านยังไม่ได้หยิบแหวนออกมาจากกระเป๋าเลยแม้แต่ครั้งเดียวสิ้นคำของเขา ทุกคนก็เงียบอย่างใช้ความคิด ไม่นานนักเพื่อนที่สวมแว่นก็เอ่ยแนะนำ

                    ฉันว่านายไปเอาแหวนของนายคืนมาจากโอลีฟว์ดีกว่านะ ไม่แน่โอลีฟว์อาจจะแต่งเรื่องจอมโจรก็ได้จริงๆแล้วเธออาจจะยังไม่ได้แหวนคืน แล้วนายก็ทำแหวนหายไปพอดีกฤษฎ์นิ่งไปอย่างครุ่นคิด

                    ฉันว่าที่ไอ้เปลี่ยนมันพูดก็เป็นไปได้นะชายผมแดงพูดสนับสนุน

                    ฉันเห็นด้วยกับไอ้กรมันชายร่างสูงที่ชื่อกลองพูดเสริมอีกคน

                    งั้นก็ได้ แต่ฉันไม่อยากจะใช้ไม้นั้นซ้ำสองสักเท่าไหร่เลยเขาตอบ

     

                    แสงแดดเริ่มจัดขึ้นในเวลาเที่ยงวัน นักเรียนชายหลายคนกำลังเล่นกีฬาอย่างสนุกสนานอยู่ในโรงยิมและสนามกลางแจ้ง มีเพียงบางส่วนเล็กๆที่เป็นนักเรียนหญิง ชายผมและนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มเดินผ่านทางเชื่อมตึกมุ่งหน้าไปยังห้องของเป้าหมาย เพื่อนสนิทสามคนยืนยันว่าจะมาด้วยแต่เขาก็ห้ามทัพเอาไว้เพราะเขาอยากมาเพียงคนเดียว

                    เมื่อมาถึงหน้าห้องเรียนที่มีป้ายเขียนไว้ว่า 5-2C เขาก็เลื่อนประตูออกด้วยสีหน้าจริงจัง

                    กึก

                    ใบหน้าจริงจังกลับกลายเป็นตะลึงงันเมื่อพบภาพเบื้องหน้า หญิงสาวผมยาวสลวยเจ้าของนัยน์ตาสีนิลราวราตรีกาลกำลังจ้องตากับเขาอย่างจัง การที่อยู่ห่างกันแค่คืบเดียวทำให้เขาหัวใจเต้นแรงจนกลัวว่าเธอจะได้ยิน แต่คนเบื้องหน้ากลับผงะเล็กน้อยเมื่อเปิดประตูมาเจอเขา แต่ใบหน้านั้นก็ยังคงเรียบเฉยกับทุกสถานการณ์

                    หลีกทางหน่อยค่ะน้ำเสียงของเธอปลุกให้เขาตื่นจากภวังค์ กฤษฎ์รีบหลีกทางให้พร้อมเอ่ยคำขอโทษอย่างร้อนรน สาวเจ้าเดินออกมาพร้อมกับเพื่อนสนิทผมสีทองที่ไปไหนด้วยกันประจำ กฤษฎ์มองเบื้องหลังของเธอไปจนลับสายตา เขายิ้มเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปในห้องเรียน

                   

                     ภายในห้องมีผู้หญิงเพียงสองสามคนซึ่งดูก็รู้ได้เลยว่าเป็นพรรคพวกของโอลีฟว์เพราะดูจากการแต่งหน้าและแต่งตัว

                    กฤษฎ์นี่นา มาหาโอลีฟว์ถึงนี่เลยหรือคะ? คิดถึงขนาดนั้นเชียว?ไม่ทันที่เขาจะเอ่ยปากพูดอะไรสายตาสีม่วงของหล่อนก็หันมาสบตาแล้วพูดจาชวนขนลุก เมื่อพูดจบเธอก็รีบเข้ามายืนอยู่ตรงส่งสายตาหวานเชื่อมทันที่

                    ฉันมาถามเรื่องแหวนจากคนที่ดูสุภาพกร้าวขึ้นมาทันที น้ำเสียงเย็นเยือกถูกส่งผ่านของมาจากริมฝีปาก

                    อย่าทำสายตาอย่างนั้นก็โอลีฟว์สิค้า เรื่องแหวนน่ะ ไม่เห็นต้องขโมยกันเลย

                    เธอรู้ได้ยังไง?” สีหน้ายังคงกร้าวดังเดิม ภายในดวงตาฉายแววสงสัย หญิงสาวช้อนตาคู่นั้นขึ้นมามองอย่างออดอ้อน

                    จอมโจรรัตติกาลโอลีฟว์มองท้าทายเขาด้วยสายตาของผู้มีชัย แล้วเธอก็เริ่มพูดต่อ ใครจะไปรู้ว่าในถุงสีดำกำมะหยีที่เขาเอามาโอลีฟว์จะมีจดหมายใส่ไว้ด้วยเธอเดินออกจากตัวเขาแล้วยิ้มอย่างถือดี กอดอก

                    “ ‘คนที่ขโมยไม่ใช่ผมลีฟว์ก็เลยคิดว่าคงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าของจะมาเอาของคืนทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบและเธอหวังว่าจะได้เห็นการเสียหน้าของผู้ชายที่ชื่อกฤษฎ์

                    รู้แล้วก็ดี ผมขอแหวนคืนแล้วนิ้วสองนิ้วก็คีบแหวนทองวาวขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกงพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่หาดูได้ยากจากเขา โอลีฟว์ตะลึงงันรีบหาแหวนในกระเป๋าแต่ที่พบคือเครื่องสำอางต่างๆของเธอเท่านั้น เธอมองเขาด้วยสายตาอาฆาตกัดฟันกรอด

                    ไอ้ขี้ขโมย

                    จะเป็นไรไปเล่าถ้าใช้การขโมยกับคนที่ขโมยแหวนของผมมาก่อนอย่างคุณ ของๆผม ผม-ขอ-คืน

                    แล้วเขาก็เดินออกไปจากห้อง...แวบหนึ่งเท่านั้นที่ทุกคนเห็นเขาเป็นหัวขโมยที่แตกต่างกับจอมโจรรัตติกาลโดยสิ้นเชิง...เป็นขโมยที่เจ้าเล่ห์กว่าเป็นไหนๆ



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×