คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : จอมโจรรัตติกาล : เปิดตัวจอมโจร
จอมโจรรัตติกาล : เปิดตัวจอมโจร
สายลมพัดผ่านมาอย่างเบาบางราวกับว่ามันเอาท่วงทำนองของสิ่งต่างๆพัดมาด้วย ถ้าคุณลองฟังดูดีๆคุณอาจจะได้ยินเสียงเพลงของโลกใบนี้ก็เป็นได้
ผู้คนหลากหลายเดินเข้าโรงเรียนกันอย่างขวักไขว่ บรรยากาศรอบด้านดูครึกครื้นมากกว่าปกติเพราะวันนี้มีงานเลี้ยงฉลองวันคริสต์มาสของโรงเรียน เสียงเพลงเบาๆคลอมากับสายลมต้อนรับบรรยากาศเป็นอย่างดี และสถานที่แห่งนี้ก็อบอวลไปด้วยสีแดง ขาว และเขียวตามสีประจำของเทศกาลคริสต์มาส
“พัช ทำไมไม่ไปเตรียมตัวสักทีล่ะ อีก 20 นาทีงานจะเริ่มแล้วนะ”เสียงของเพื่อนสาวดังขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้องเรียนที่ตอนนี้มีเพียงเด็กสาวสองคน เนื่องจากเพื่อนคนอื่นๆ ลงไปเตรียมซุ้มของห้องข้างล่าง
“ฉันมีอะไรต้องทำนิดหน่อยน่ะ”คนถูกถามกำลังหันหน้ามองลงไปข้างล่างผ่านทางหน้าต่างตอบคำถามโดยที่ไม่ได้หันมามอง “ริน ดูผู้ชายคนนั้นสิ”เธอชวนด้วยสีหน้ากับน้ำเสียงเรียบเฉย
คนที่ถูกชวนขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อยแล้วเดินไปข้างๆอีกคน มองลงไปข้างล่าง “ทำไมเหรอ? สนใจหรือไง?”ถามเสร็จก็ยิ้ม “ชื่อ กฤษฎากรณ์ อยู่ห้อง C สาวๆกริ๊ดกันตรึม ว่าแต่เธอมีอะไรกับเขาเหรอ?” ร่างสูงเพรียวยังคงทอดสายตาลงไปด้านล่างอย่างนิ่งเฉย ดวงตาคู่นั้นไม่มีอะไรให้อ่านได้
“วันนี้เขาจะต้องขึ้นเวทีกับฉัน ก่อนที่เขาจะขึ้นเวที เธอช่วยจับตาหมอนั่นให้ฉันหน่อยสิ”
คนถูกไว้วานหันลงไปมองเป้าหมายอีกครั้งแล้วหันมาถาม“นายนั่นไปก่อเรื่องอะไรไว้อีกล่ะนี่”
“มันงานของฉัน เธอช่วยได้ไหมล่ะ?”พูดเสร็จก็เผยยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างรู้คำตอบอยู่แล้ว“ฝากด้วยนะ” หันหลังเดินออกไปจากห้องพร้อมโบกมือเรียวนั้นมาบอกลาโดยที่ไม่หันมามอง ทิ้งให้เพื่อนรักต้องยิ้มอย่างเอือมระอากับนิสัยเอาแต่ใจของเพื่อนตนเอง
“เวลามีอะไรก็ฉันทุกทีสิน่า เอาแต่ใจตัวเองชะมัด ยัยพัชณาภรณ์”
เด็กสาวในชุดเครื่องแบบเสื้อสูตรสีแดงเข้มสวมทับเสื้อเชิ้ตสีขาว ผูกโบว์ลายสก๊อตสลับเขียวแดงสีเดียวกับกระโปรง สวมใส่รองเท้านักเรียนและถุงเท้าสีดำสนิท ก้าวสม่ำเสมอผ่านชั้นอาคารเรียนอย่างไม่ได้รีบร้อนอะไรนักราวกับว่าเวลาจะหยุดเดินได้เพื่อเธอในยามที่ต้องเร่งรีบเช่นนี้ ผมสีดำตรงยาวจนถึงเอวไหวพลิ้วไปตามจังหวะการเดิน ดวงตาสีนิลก็ยังคงเรียบเฉยเหมือนเดิม แล้วฝีเท้าก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าห้องที่มีป้ายว่า‘แต่งตัวนักเรียนหญิง’ ซึ่งเป็นห้องที่ใช้สำหรับแต่งตัวอยู่แล้วเพื่อใช้ในยามที่นักเรียนต้องการจะเปลี่ยนเสื้อผ้าหรืออาบน้ำและเมื่อเธอเปิดประตูเข้าไป
“พัช ทำไมถึงได้มาช้าขนาดนี้นะ ใส่ชุดนี้ซะ”อาจารย์สาวสวยที่ดูสวยผิดหูผิดตามากกว่าวันอื่นบ่นสองสามคำแล้วรีบส่งเสื้อผ้าให้ เธอรู้ว่าเด็กตรงหน้าชอบทำตามอำเภอใจแบบนี้เสมอแต่ก็ไม่เคย late จนต้องว่าปรามมากมาย
พัชรับชุดนั้นมาแล้วเดินไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างนิ่มๆ แต่คล่องแคล่ว ไม่ช้าก็ออกมาพร้อมชุดเมื่อกี้นั้น เธอสวมใส่ชุดซานต้าคลอสหญิงเรียบร้อย เสื้อแขนยาวและกระโปรงสีแดงมีขนสีขาวนุ่มนิ่มน่าจับอยู่ตามขอบ คาดด้วยเข็มขัดสีดำตรงช่วงเอว ผิวสีขาวสะอาดตายิ่งขับให้เจ้าตัวน่ารักยิ่งขึ้นไปอีก แต่มันก็ไม่ใช่สไตล์การแต่งตัวของเธอเอาเสียเลย ถ้าเปลี่ยนชุดเป็นสีดำและเจ้าขนนุ่มนิ่มนี่เป็นสีแดงคงจะดีไม่น้อย เธอคิด ทุกคนในห้องมองเธอเหมือนถูกมนต์สะกด อาจารย์สาวทอดสายตาด้วยอย่างพึงพอใจ การที่ต้องถูกมองด้วยสายตาแบบนี้มันทำให้พัชหน้าแดงขึ้นมาเล็กๆ
“น่ารักดีนะจ๊ะ มาใส่นี่ซะสิ”ครูสาวหยิบหมวกและรองเท้ามาให้ก่อนจะพาเธอไปแต่งหน้าตามจริงก็ไม่ได้ตกแต่งอะไรมากมาย เพียงแค่ปัดแก้มและทาลิปกลอสสีชมพูดเท่านั้น
“เฮ้อ... เด็กๆนี่ผิวเนียนเป็นบ้า ทำไมฉันไม่มีผิวอย่างนี้มั่งน้า”อาจารย์จันทิมาบ่นพึมพำพร้อมเอามือนุ่มมาแตะเช็คสภาพผิวตนเองด้วยสีหน้าท้อใจ พัชณาภรณ์ยิ้มอย่างขบขันก่อนจะกล่าวขอบคุณและขอตัวออกไปข้างนอก
“หนูขอตัวก่อนนนะคะ”
“อีก 5 นาทีงานจะเริ่มนะ เธอควรจะไปที่หลังเวทีได้แล้ว”ครูสาวทักท้วง
“ค่ะ อาจารย์ แต่หนูมีธุระจริงๆ”ว่าแล้วก็ยกมือไว้แสดงความเคารพ “แล้วอีก 5 นาทีเจอกันที่หลังเวทีค่ะ” แล้วเจ้าตัวก็เดินไปในที่ลับตาคน
“ไง ทางนั้นเป็นไงบ้าง” เด็กสาวในชุดซานต้าครอสยกโทรศัพท์แนบหูก่อนจะกรอกเสียงเบาลงไปในนั้น
((นายกฤษณ์เพิ่งออกมาจากห้องแต่งตัวน่ะ และฉันก็รู้สาเหตุที่เธอต้องตามหมอนั่นแล้วด้วย)) เสียงเพื่อนสาวดังออกมาจาปลายสาย เธอกำลังทำตัวเป็นสายลับแอบมองชายหนุ่มอยู่หลังกำแพงหน้าห้อง
“งั้น...เหรอ?” พัชเอ่ยเสียงลากสูง “ไหนลองบอกมาซิ”
((หมอนั่นมันเป็นคนที่ขโมยแหวนทองวงละ 10000 ของยัยโอลีฟว์ไปล่ะสิ ฉันเห็นมันเอาออกมาดูด้วยหน้าตายิ้มแย้มแบบที่คิดว่าไม่มีใครจับได้แล้วไงล่ะ))
“ ”ไม่มีเสียงของเพื่อนสาวดังออกมา แต่รินลณีก็รู้ทันทีว่าคนที่ถือโทรศัพท์อีกคนกำลังยิ้มอยู่
((ไงล่ะ มันไม่ใช่ธุระของเธอซักหน่อย ยัยโอลีฟว์มันขอให้เธอหาแหวนให้หรือไง))
“เปล่า มันบอกว่าฉันเอาไปต่างหาก หาว่าอีกตัวตนของฉันเอาไปไงล่ะ แล้วหมอนั่นเอาแหวนไว้ที่ไหน”
((กระเป๋ากางเกงยีนส์ วันนี้หมอนั่นแต่งตัวหล่อบาดใจเลยว่ะแก >_< แหม...แต่น่าเสียดาย ไม่น่าเป็นขโมยเล้ย)) รินทำเสียงเสียดายอย่างสุดซึ้ง
“เหอะ เทพบุตรของเธอกำลังเดินมาแล้วล่ะ ฉันคงต้องไปฉกแหวนมาจากมันแล้ว”
((ขอให้สำเร็จนะจ๊ะ จอมโจรรัตติกาล))
โจรสาวยิ้มอย่างไม่น่าไว้ใจแล้วตัดสายทิ้ง ร่างบางแทรกตัวอยู่หลังกำแพงในเงามืด เมื่อชายหนุ่มผู้เป็นเป้าหมายเดินผ่านไปเธอจึงเดินออกมาจากกำแพงนั้น เสียงของพิธีกรสาวเริ่มดำเนินงานบนเวทีดังขึ้นแล้ว พัชณาภรณ์เดินผละไปเข้าซอกๆหนึ่ง แล้วเดินออกมาจากอีกทางซึ่งเป็นทางลัดก่อนหน้าหน้าชายหนุ่ม เธอเดินเร็วๆแต่ดูไม่มีพิรุธมาถึงทางสามแยกที่จะมีทางต่อไปทางเดียวคือเวทีซึ่งเป็นเป้าหมายของชายหนุ่มเช่นกัน หญิงสาวเดินออกมาอย่างนิ่งเรียบแล้วเมื่อเป้าหมายเดินมาถึงทางแยกเธอก็เข้าไปชนเขาอย่างแยบยล
ในวินาทีนั้นสองนิ้วเรียวของเธอก็ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของชายหนุ่มคว้าแหวนสีทองวาววับออกมาแล้วทำเป็นตั้งหลักไม่ได้ล้มทับร่างสูงนั้นเพื่อเบนความสนใจจากสัมผัสที่กระเป๋ากางเกง (ผู้เขียน: ลงทุนจริงๆ) และเมื่อสายตาจ้องประสาน เธอก็รีบลุกขึ้นทำทีเป็นขอโทษแล้ววิ่งไปยังเวทีต่อไป ปล่อยให้กฤษฎาภรณ์ยืนค้างอยู่เบื้องหลังเพียงผู้เดียว
ฮ่ะๆ You win! จอมโจรรัตติกาล แล้วโจรสาวก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ไปพร้อมกับสายลม
ความคิดเห็น