ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หนุ่มขี้แพ้กับสาวนักท่องเวลา

    ลำดับตอนที่ #6 : แคนดิเดตขี้แย

    • อัปเดตล่าสุด 31 ส.ค. 67


    วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2545

    เปิดเทอมมาได้ 1 เดือนแล้ว การเลือกตั้งคณะกรรมการนักเรียนกำลังจะเกิดขึ้นในเดือนหน้า โรงเรียนนี้จะมีพรรคแข่งขันกันแค่ 2 พรรค พรรคฝ่ายขวาจะเป็นเด็กปั้นของพวกครู ฝ่ายซ้ายมักจะถูกฟอร์มด้วยนักเรียนกันเอง

    ปีที่แล้วฝ่ายซ้ายที่นำโดยภัทร์ หรือก็คือประธานชมรมเวทเทรนนิ่ง ชนะเพราะนโยบายทวงคืนกิจกรรมชมรม แต่โดยปกติพรรคฝ่ายขวาจะได้เปรียบเพราะผู้สมัครพูดเก่งกว่า หน้าตาดีกว่า โปสเตอร์สวยกว่า และป้ายเยอะกว่า

    ในปีนี้แอนซึ่งเคยช่วยงานกรรมการนักเรียนรุ่นก่อน ถูกเลือกให้เป็นแคนดิเดตประธานนักเรียนในปีนี้ แม้จะถูกคัดค้านจากฝ่ายซ้ายด้วยกัน แต่ทั้งหมดก็ไม่อาจเถียงได้ว่าแอนที่เคยติดโผดาวโรงเรียน ถือเป็นผู้หญิง ม. 5 ที่มีภาพลักษณ์และบารมีดีที่สุด และยิ่งแคนดิเดตอีกฝ่ายคือเอก ผู้ชายที่อาจจะฮอตที่สุดในโรงเรียนตอนนี้

    “น...ไนท์ เดี๋ยว..เลิกชมรมแล้ว ช่วยพี่สักแป๊บนะ”

    แอนกระซิบกับไนท์ระหว่างทำท่าแพลงกิ้ง เพราะกำลังเกร็งหน้าท้องทำให้เสียงของเธอเซ็กซี่จนไนท์ขนลุก

    ร่างเล็กของแอนสั่น เริ่มส่งเสียงครางสลับกับเสียงฮึดสู้ ปลายผมหางม้าแบบไซด์โพนีเทลหลุดคล้อยตามแรงโน้มถ่วงเผยให้เห็นต้นคอที่เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ ไนท์รู้สึกเสียดายแทนฮอลล์ที่จะไม่มีวันได้ตั๋วที่นั่งแถวหน้าเพื่อมาดูวิวแบบนี้อย่างเขา

    “ไม่ไหวแล้ว !”

    เธอร้องเสียงสูง จนเด็ก ม.1 ที่สนใจใคร่รู้กลุ่มหนึ่งมองลอดช่องลมเข้ามาในยิมแล้วหัวเราะกันคิกคัก

    “อะไรกันแอน ยังไม่ถึง 30 วินาทีเลย ดูไนท์สิ เขายังไม่สั่นเลย”

    ภัทร์พูด พร้อมตบแผ่นหลังแอนเบา ๆ เพื่อกระตุ้น

    “แหม ก็ไนท์เป็นเด็กผู้ชายนี่ หนูออกจะตัวเล็กบอบบางจะเอาไปเทียบได้ไง”

    “เอาเถอะ ช่วงนี้เธอคงใจลอยเรื่องอื่น ใจเลยไม่สู้เรื่องนี้ พี่เข้าใจ”

    เมื่อภัทร์เดินไปที่อื่น แอนก็ลุกขึ้นนั่ง ดึงคอเสื้อและยกแขนดมเพื่อสำรวจกลิ่นตัวของตัวเอง เธอหน้าแดง รำพึงกับตัวเอง

    “ใครสั่งใครสอนให้มาแตะต้องผู้หญิงตอนมีเหงื่อ คนบ้า”

    ไนท์รู้อยู่แล้วว่าแอนชอบภัทร์ แต่น่าแปลกที่เธอไม่เคยแสดงอาการเขินอายให้ภัทร์เห็นตรง ๆ แต่กลับยอมให้ไนท์เห็น เหมือนต้องการพยานรัก หรือลึกๆ แล้วเธอแค่ต้องการให้ใครสักคนรู้ว่าเธอชอบภัทร์ เพราะการเก็บซ่อนความรู้สึกจากทุกคนอาจจะทรมานเกินไป

    ซึ่งเขาเข้าใจความรู้สึกนี้ดี เวลาที่แอบชอบใคร คนเราจะบอกเพื่อนสนิทไว้สักคนเสมอ เพื่อจะมีคนไว้ให้ระบาย

    เมื่อเลิกชมรม ไนท์เปลี่ยนชุดกลับไปเป็นเครื่องแบบนักเรียน ส่วนแอนเปลี่ยนไปใส่ชุดพละสีเหลืองของโรงเรียน เพราะระยะหลังๆ เธอคิดได้ว่าการเปลี่ยนชุดไปมาทุกเย็น ชุดนักเรียนหญิง ม. ปลาย ที่ต้องใส่หลายขั้นตอน ทั้งรัดเข็มขัด และหนีบกิ๊บที่ข้างหลัง มันช่างไม่สะดวกเอาเสียเลย เธอจึงใส่ชุดพละมาโรงเรียนทุกวัน

    แอนพาไนท์มาที่ห้องเรียนประจำของเธอ แล้วหยิบโปสเตอร์หาเสียงขนาด A4 ของเธอกับกาวลาเท็กส์ออกมา

    “ไนท์ช่วยพี่ติดโปสเตอร์หน่อยนะ  วันนี้ที่วัดฝั่งตรงข้ามมีตลาดนัดด้วย เดี๋ยวเสร็จแล้วพี่เลี้ยงของกิน”

    โปสเตอร์เป็นแบบถ่ายเอกสาร มีรูปถ่ายหน้าตรงของแอน  ตัวหนังสือมีแค่ ‘โปรดเลือกเบอร์ 2 นางสาว อนัญญา วิชญาณี เป็นประธานนักเรียน’ บางแผ่นก็ดูจาง บางแผ่นก็ดูเลอะ จากการถ่ายเอกสารซ้ำ ๆ

    เธอตระเวนติดโปสเตอร์ตามบอร์ดประกาศหน้าห้องเรียนตั้งแต่พักเที่ยงแล้ว จะเหลือก็แต่ตามเสา โรงอาหาร และศาลาพักผ่อนหย่อนใจที่ต้องใช้กาวติด บางที่ก็มีโปสเตอร์ของคู่แข่งติดอยู่ก่อน ทำให้อดเปรียบเทียบไม่ได้

    โปสเตอร์คู่แข่งพิมพ์สีทุกใบ ภาพของแคนดิเดตฝ่ายนั้นน่าจะถูกถ่ายโดยตากล้องอาชีพ เป็นภาพผู้ชาย ม. 5 หน้าตาหล่อเหลายืนหันเอียงข้างยกมือซ้ายกำมือเหมือนคว้าสิ่งที่ต้องการมาได้แล้วอย่างมั่นใจ มองไปยังขอบบนซ้ายของภาพที่เปิดองค์ประกอบเอาไว้ให้เหมือนว่าแบบกำลังมองสิ่งที่อยู่ข้างหน้าที่สูงกว่า ที่ว่างที่เปิดด้านซ้ายเปิดไว้ให้ใส่ตัวอักษร ‘โปรดเลือกเบอร์ 1 นาย เอกชัย ทรัพย์ไพศาล เป็นประธานนักเรียน’ และยังมีสโลแกนเน้นตัวหนาอีกด้วยว่า ‘ยึดมั่นประเพณี สานต่อความสำเร็จ’

    “จะเอาอะไรไปสู้ล่ะ”

    แอนรำพึงขณะยืนมองโปสเตอร์ฝ่ายตรงข้ามตาละห้อย

    กว่าจะติดโปสเตอร์เสร็จก็เย็นมากแล้ว ไนท์กับแอนข้ามฝั่งไปตลาดนัดเย็นวันศุกร์ นอกจากถามเรื่องของกินแล้ว เธอก็ไม่ค่อยพูดอะไรอีก หลังจากได้ลูกชิ้นคนละ 4 ไม้ เธอก็ชวนไนท์ไปนั่งกินที่ศาลาตรงท้ายตลาด

    เมื่อนั่งกินกันไปได้สักพักในมุมที่ไม่มีคนเห็น แอนก็เริ่มร้องไห้ทั้งที่ลูกชิ้นยังอยู่ในปาก

    “พี่จะทำยังไงดี ทุกสิ่งที่พวกพี่ภัทร์สร้างมันกำลังจะจบเพราะความไม่เอาไหนของพี่ เพราะพี่ไม่มีเพื่อนรุ่นเดียวกัน ไม่มีหัวคะแนนอะไรเลย”

    ไนท์ทำตัวไม่ถูก ไม่ว่าจะคิดในฐานะเด็ก ม. 2 หรือชายวัย 31 ที่ย้อนมาอยู่ในร่างเด็ก เขาก็ไม่รู้จะปลอบผู้หญิงยังไง จะแตะต้องตัวก็ไม่กล้า

    “พี่ทำได้ดีที่สุดตามหน้าที่ก็พอแล้วมั้งครับ ผมว่านะ พวกพี่ภัทร์ไม่ว่าอะไรหรอกต่อให้พี่แพ้”

    “พี่ทำอย่างนั้นไม่ได้ไนท์ พี่เห็นพวกพี่เขาลำบากมาตั้งแต่ต้น พวกเขาต้องเถียงกับครู ต่อสู้เพื่อให้พวกเราได้มีอิสระ ได้ตั้งชมรมที่พวกเราชอบ ได้เกาะกลุ่มกับคนที่สนใจแบบเดียวกัน อิสระที่คนบางคนใช้กันไม่เป็นด้วยซ้ำ !”

    เธอป้อนลูกชิ้นอีกลูกเข้าปาก ราวกับว่ามันจะย้อมใจเธอได้แบบแอลกอฮอล์ แล้วเริ่มสงบสติอารมณ์ได้อีกครั้ง

    “ขอโทษที่ต้องให้มาเห็นตอนพี่แย่แบบนี้นะ พี่แค่อยากระบายให้ใครสักคนฟังน่ะ”

    “ไม่เป็นไรพี่ พี่ถือว่าผมเป็นเพื่อนคนหนึ่งก็ได้ ยังไงเราก็อยู่ชมรมเดียวกันนี่”

    แอนลูบหัวไนท์ด้วยความเอ็นดู

    “ทำไมไนท์เป็นคนน่ารักขนาดนี้”

    “ผมขอถามอะไรหน่อยสิ?”

    “อื้อ ว่ามาสิ”

    “ทำไมพี่ไม่ขอให้พี่ภัทรช่วยล่ะ”

    “พี่อยากให้เขาโฟกัสกับหน้าที่ตอนนี้ กับเรื่องเรียนต่อมากกว่า เขาจะจบปีนี้แล้ว”

    “แล้วเมื่อไหร่พี่จะบอกชอบเขาล่ะครับ”

    แอนสะดุ้ง หน้าแดง ยกมือขึ้นมาเล่นปอยผม กลับเข้าโหมดสาวน้อยอีกครั้ง

    “ร...เรื่องแบบนี้ ถ้าผู้หญิงทำ มันจะดูไม่ดีรึเปล่า?”

    “ไม่นะ ผมคิดว่าบางทีผู้หญิงก็ต้องบอกความรู้สึกตัวเองบ้างนะครับ ในธรรมชาติสัตว์ตัวเมียยังเป็นฝ่ายเลือกตัวผู้เลย ผมว่าแค่ผู้หญิงบอกว่าชอบ หรือเป็นฝ่ายขอคบมันก็เป็นสิ่งที่ควรทำนะครับ”

    “เรื่องแบบนี้ผู้ชายต้องเป็นฝ่ายทำไม่ใช่เหรอ?”

    “ผมคิดว่าผู้ชายเป็นฝ่ายเริ่มก็ต่อเมื่อเป็นคนแปลกหน้ากัน อันนั้นผู้ชายควรเป็นฝ่ายมาทำความรู้จัก แต่พี่กับพี่ภัทร์ผ่านจุดนั้นมาแล้ว พี่รู้จักกันมา 5 ปีแล้วไม่ใช่เหรอ? ถ้าพี่แน่ใจความรู้สึกตัวเองแล้ว ไม่มีเหตุผลที่พี่จะต้องเก็บไว้ กลับกัน ถ้าพี่ภัทร์เขาคิดว่าพี่ไม่น่าจะคิดอะไรกับเขา แล้วเขาไม่กล้ามาชอบพี่ มันก็จะคลาดกันนะ”

    “แล้วถ้าจริงๆ แล้วเขาไม่ชอบพี่เลยล่ะ เราจะคบกันต่อไปแบบไหน?”

    “น้อยๆ หน่อยพี่ พี่เคยเป็นถึงดาวโรงเรียนนะ ต่อให้ไม่เคยคิด ถ้าคนอย่างพี่ไปบอกชอบ ผู้ชายก็ต้องมีหวั่นไหวกันบ้างล่ะ”

    แอนยิ้มหน้าบานเมื่อถูกชม

    “ปากหวานจังเลยนะ ว่าแต่ไปเอาความคิดพวกนี้มาจากไหน ดูเป็นผู้ใหญ่จัง”

    ไนท์ลืมไปเสียสนิทว่าเขาต้องโรลเพลย์เป็นเด็ก 13

    “เอ่อ พอดีพ่อผมเก็บนิตยสารเก่าๆ ไว้เยอะ ผมว่างๆ เลยเอามาอ่านน่ะครับ”

    “ขอบคุณนะ ช่วยได้มากเลย”

    หลังจากนั้นพ่อก็มารับแอนกลับบ้าน เช่นเดียวกับพ่อของไนท์ที่ต้องมาตลาดนัดทุกอาทิตย์อยู่แล้ว

    .....

    ที่บ้าน ไนท์ครุ่นคิดว่าเขาจะช่วยแอนยังไง อย่างน้อยเขาก็มีความรู้ด้านการออกแบบอยู่บ้าง แต่นั่นก็ต้องใช้คอมพิวเตอร์ เขาจะใช้คอมร้านเกมก็ได้ แต่งานออกแบบกราฟิกเป็นงานที่นาน อีกอย่างการพิมพ์สีก็แพงมาก

    “พิมพ์สีงั้นเหรอ”

    เขารำพึงนอนก่ายหน้าผาก แต่ทันใดนั้นความคิดหนึ่งแว่บเข้ามาในหัว เขาดีดนิ้วด้วยความพอใจ

    “พิมพ์สีไม่ได้มีแค่พิมพ์ดิจิตอลนี่นา !”

    ว่าแล้วไนท์ก็ลุกพรวดไปถามพ่อที่ปกติจะมีคอนเน็คชั่นกับชาวบ้านระแวกนี้อยู่แล้ว

    “พ่อของหนูแอน ตาอาจอ่ะนะ น่าจะจดไว้ที่ไหนสักที่…”

    แม้ว่ามือถือสมัยนี้จะเมมเบอร์ในเครื่องได้แล้ว แต่พ่อก็ยังใช้วิธีดั้งเดิมคือการจดไว้ในสมุด

    “เจอแล้ว นี่ไง …จะจีบหนูแอนอีกคนเรอะ แล้วหนูวานิลลาล่ะ ?”

    “ธุระที่โรงเรียนน่ะพ่อ แล้วผมก็ไม่ได้คบกับวานิลลาสักหน่อย เราเป็นเพื่อนกัน”

    “เออ ๆ ยังไงก็ช่างเถอะ แต่ไม่ว่าเอ็งจะชอบใคร อย่าลืมทำตัวเองให้เหมาะสมกับเขาด้วย แล้วคนฐานะอย่างเราทำตัวเจ้าชู้ไม่ได้หรอก”

    “รู้แล้ว ๆ จริงจังไปได้”

    ไนท์ทวนเบอร์ให้แน่ใจอีกครั้งก่อนกดโทรออก

    “ฮัลโหลครับ… ผมไนท์ลูกตาแดง ขอคุยกับพี่แอนหน่อยครับ”

    ไนท์ได้ยินปลายสายเรียกแอน กับเสียงขานของเธอไกล ๆ ก่อนแอนจะรับสาย

    “ฮัลโหลว่าไงไนท์ ?”

    “ผมมีวิธีทำให้ป้ายหาเสียงพี่เด่นกว่าฝ่ายตรงข้ามแล้วครับ วันเสาร์ - อาทิตย์นี้ว่างไหมครับ ?”

    “ว่าง ๆ แต่งบพี่เหลือไม่มากแล้วนะ คงพิมพ์เพิ่มไม่ได้ พี่ต้องเหลือไว้แจกเป็นใบปลิวอีก”

    “ไม่เป็นไร พี่บอกวิสัยทัศน์ทั้งหมดตอนนี้เลยได้ไหมครับ เดี๋ยวผมรีบทำให้คืนนี้”

    หลังจากแอนบอกข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดแล้ว มีสัญญานเตือนว่าเงินใกล้หมดพอดี ไนท์จึงต้องรีบบอกลาและวางสายไป หลังจากนั้นเขาก็ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งเกีี่ยวกับงบประมาณ ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นได้ และโทรหาคนอีกคน

    “ฮัลโหล วานิลลา นี่ลุงไนท์นะ…”


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×