คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : กีฬาคือยาวิเศษ
วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545
ไนท์ฟิตร่างกายตลอด 4 เดือน ทั้งกับชมรมเวทเทรนนิ่ง กับวิชาสุขศึกษาที่มีการวิ่งเก็บระยะ
สมรรถภาพทางร่างกายคือสิ่งแรกที่เขาตั้งใจจะพัฒนาตั้งแต่ย้อนเวลามา เพราะการออกกำลังกายไม่เคยทรยศเราเหมือนกับโชคชะตา หรือความรัก มันอยู่ที่วินัยของตัวเองล้วน ๆ
กีฬาสีเขาอยู่สีฟ้า เช่นเดียวกับรุ่งและวานิลลา เขาเลือกลงวิ่งผลัด 4 x 400 แล้วรีบออกจากประชุมสีไปออกกำลังกายในชมรมเลย เพราะเบื่อขี้หน้าเอกที่เป็นประธานสี อีกอย่างเขารู้สึกเจ็บปวดที่เห็นเอกคุยกับรุ่งได้ปกติ ต่างจากเขาที่ถูกเกลียด
ถ้าเป็นเส้นเวลาเดิมเขาคงไม่แข่งอะไรเลย ได้แต่นั่งบนอัฒจันทร์ซ่อนตัวอยู่กับพวกกองเชียร์ แต่ในเมื่อเขาได้รับโอกาสในการใช้ชีวิตอีกครั้ง เขาจะต้องโดดเด่น อะไรที่เอกไม่มีเขาจะต้องมีให้ได้ อย่างเช่นเรื่องกีฬา
“ไนท์อยู่สีอะไรเหรอ ?”
แอนถามขณะกำลังเก็บสัมภาระหลังเลิกชมรม
“สีฟ้าครับ พวกพี่ล่ะ ?”
“พี่กับพี่ภัทร์อยู่สีแดง”
“เสียดาย ผมอยากอยู่สีเดียวกับพวกพี่จัง”
“อย่าเลยเดี๋ยวสีเราจะไร้เทียมทานเกินไป”
ภัทร์เสริมพร้อมหัวเราะเบา ๆ
“อยู่สีฟ้าน่ะดีแล้ว จะได้ดูแลสาว ๆ ด้วย”
แอนแซว ทำให้ภัทร์เกิดความสงสัย
“สาว ๆ ไหนเหรอ ?”
“น้องวานิลลา กับ น้องรุ่ง ที่อยู่ ม. 4 ไงพี่ ที่สวย ๆ อ่ะ”
“อ้อ ดาวคู่แฝดอ่ะเหรอ ?”
“พี่ติดตามเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ ?”
“ไอ้คนทำชาร์ตมันก็พวกเพื่อน ๆ พี่นั่นแหละ พวกไอ้เบ๊นอ่ะ”
“พวกที่ชอบจับกลุ่มกินไอติมอยู่หน้าโรงเรียนนั่นน่ะเหรอ?”
“ใช่ ๆ นั่นเขากำลังทำงานกันอยู่นะ”
“งานบ้าอะไร เห็นส่องหญิง แซวหญิงไปวัน ๆ”
กลายเป็นภัทร์กับแอนคุยกันอยู่สองคน ไนท์มองทั้งคู่อย่างเซ็ง ๆ
“แล้วมาชอบไนท์ทั้งสองคนเลยเหรอ?”
“ไนท์พยายามจีบน้องรุ่ง แต่รุ่งยังไม่ชอบ ส่วนน้องวานิลลาชอบไนท์แต่ปากแข็งอยู่”
“พ่อหนุ่มนักรัก”
ภัทรพูดพร้อมกับกระทุ้งสีข้างไนท์ด้วยศอก
“วานิลลาเขาไม่มีทางชอบผมหรอกครับ อีกอย่างเราเป็นเหมือนเพื่อนกันมากกว่า”
“เชื่อสายตาผู้หญิงด้วยกันเถอะ”
แอนพูด พร้อมกับทำหน้าเจ้าเล่ห์
ไนท์นึกขำในใจ ถ้าหากเธอรู้อายุที่แท้จริงของเขา ว่าห่างกับวานิลลาแค่ไหน เธอจะยังมั่นใจในสายตาผู้หญิงของเธออยู่ไหม
“แล้วนี่จะไปซ้อมวิ่งต่อไหม ?”
ภัทร์ถาม
“ซ้อมวิ่งของสีจริง ๆ เริ่มวันศุกร์ครับ ผมมีวิ่งเก็บระยะวิชาสุขศึกษา วันนี้น่าจะวิ่งสัก 4 รอบ”
“ดีแล้ว ๆ จริง ๆ ชมรมเราก็ควรจะวิ่งด้วยนะ ร่างกายจะได้อึดขึ้นด้วย”
แอนหน้าเหวอ
“พอเลยพี่ แค่นี้หนูก็จะตายอยู่แล้ว ยังต้องปวดหัวกับประชุมสภาอีก”
หลังจากเลิกชมรม ไนท์วิ่งจ๊อกกิ้งบนลู่วิ่งรอบสนามฟุตบอลโรงเรียน กับเพื่อน ม. 2 อื่น ๆ
สนามบอลและลุ่วิ่งกินพื้นที่กว่าครึ่งของโรงเรียน ทำให้ตอนวิ่ง ไนท์สามารถเห็นกิจกรรมของนักเรียนคนอื่นตั้งแต่อาคาร 3 ไปจนถึงหน้าทางเข้า
วานิลลาเริ่มซ้อมเชียร์ลีดเดอร์แล้ว เธอกำลังซ้อมเต้นอยู่ใต้อาคาร 3 ได้ยินว่าช่วงนี้เธอขนเสื้อผ้ามาพักอยู่บ้านรุ่ง เลยไม่ต้องกังวลเรื่องไม่มีรถเมล์กลับบ้าน ตลกดีที่ตอนปี 63 เธอพยายามหนีบ้านหลังนั้นแทบตาย แต่พอมาเส้นเวลานี้กลับกระตือรือร้นที่จะอยู่บ้านหลังนั้น
เมื่อวิ่งถึงหน้าทางเข้า เขาเห็นรุ่งเดินอยู่กับเอก รอยยิ้มละไมของเธอยังคงสวยงามเสมอ รอยยิ้มที่เขาไม่เคยมีโอกาสได้ ได้แต่ลอบมองเมื่อเธอส่งยิ้มให้คนอื่น โดยเฉพาะในเส้นเวลานี้ที่กลายเป็นถูกเกลียด หรือจริง ๆ แล้ว การที่เขาไม่ไปเกี่ยวข้องกับเธอตั้งแต่ต้นจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว?
.....
เมื่อวิ่งเสร็จ ระหว่างกำลังจะกลับ ไนท์เดินผ่านโรงยิมอีกครั้ง ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายผสมกับเสียงตุบตับของเบาะนวม
ชมรมยูโดเป็นอีกชมรมที่มีคนแค่ 3 คน และออกจะลึกลับ พวกเขารวมตัวกันแค่วันศุกร์, เสาร์ และ อาทิตย์ ได้ยินว่าพวกเขาเป็นสาขาย่อยของทั้งจังหวัด โรงเรียนอื่น ๆ ก็มีชมรมนี้ ทั้งหมดเชื่อมโยงกันด้วยเครือข่ายที่แข็งแกร่ง และกำลังจะจัดแสดงโชว์ในพิธีเปิดวันแข่งกรีฑา
ไนท์เกาะรั้วดูพวกเขาฝึกอย่างสนใจ จนพวกเขาคนหนึ่งเห็นเข้า
“น้องคนนั้นน่ะ สนใจเข้ามาดูข้างในเลยไหม”
เด็กหนุ่ม ผิวขาวเหลือง ตาเรียว หลังและคอของเขาตรงทุกอิริยาบถ ทำให้บุคลิกโดดเด่นจนแผ่ออร่าความเป็นผู้นำออกมา ไม่มีใครบอกก็รู้ว่าเขาคือประธานชมรมนี้
ไนท์พยักหน้าอย่างกระตือรือร้นแล้ววิ่งเข้าไป หาที่นั่งมุมหนึ่งแล้วกะจะดูเงียบ ๆ
“ใส่เสื้อฝึกซะ”
เด็กสาว หน้านิ่งคนหนึ่ง เดินเอาเสื้อฝึกยูโดมาโยนให้อย่างเย็นชา
“ใส่เป็นไหม?”
เธอถาม ส่วนไนท์ส่ายหน้าตอบอย่างเขิน ๆ
ไนท์ใส่แค่เสื้อฝึกและรัดโอบิสีขาว จากนั้นตั้งใจจะกลับไปนั่งอย่างงง ๆ
“จะไปไหน มานี่!”
เด็กสาวคนเดิมกำชับเสียงดัง
เขาชี้ตัวเองเพื่อความแน่ใจ เมื่อเธอพยักหน้าตอบ เขาเลยเดินเข้าไปหาเธอ
ทันใดนั้นเธอก็พุ่งมาคว้าแขนข้างหนึ่ง พลิกตัวหมุนสะโพกเข้ายันตัวเขา แล้วยกลอยไปบนอากาศ
ผลั่ก!
รู้สึกตัวอีกทีเขาก็นอนหงาย หน้าเหวออยู่บนเบาะนวม
“พอดีคู่ซ้อมไม่ครบคู่น่ะ ช่วยเป็นคู่ซ้อมให้เขาหน่อยนะ”
ประธานชมรมหันมาบอก ขณะกำลังซ้อมอยู่กับสมาชิกอีกคน
ไนท์โดนทุ่มซ้ำไป – ซ้ำมาอยู่แบบนั้นตลอด 15 นาที จนประธานชมรมสั่งพัก
“น้องชื่ออะไรครับ?”
ประธานชมรมถาม
“ไนท์ครับ”
“พี่ชื่อเปอร์ นะ อยู่ ม. 6 ส่วนนี่เบส ม. 4 และสาวสวยสุดในชมรม ชื่อน้องนิ้ง อยู่ ม. 3”
“สวยสุดเพราะมีผู้หญิงคนเดียว”
เบสพูดกระแนะกระแหน ทำให้นิ้งถลึงตาใส่พร้อมกับยกหมัดทำท่าจะต่อย
“แล้วไนท์อยู่ชมรมอะไรเหรอ?”
เปอร์ถาม
“ชมรมเวทเทรนนิ่งครับ”
“อ๋อ ชมรมของภัทร์นี่เอง มิน่าหน่วยก้านใช้ได้เลย”
“ก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับ เพิ่งฝึกได้ 4 เดือนเอง”
ไนท์ตอบ เกาหัวอย่างเขิน ๆ
“จริง ๆ พวกพี่ก็อยากสอนอยู่นะ แต่คนจะเรียนต้องไปสมัครที่ยิมใหญ่ในตัวเมืองน่ะ พวกเราเลยไม่ได้อยู่ในบูธเปิดรับสมัครชมรม พวกเราเป็นสมาชิกของชมรมยูโดประจำจังหวัดกันอยู่แล้ว แล้วมาจับกลุ่มกัน”
“ถ้าผมอยากเรียนนี่คือต้องไปเรียนในตัวเมืองใช่ไหมครับ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชมรมในโรงเรียนก็ได้ ใช่ไหม?”
“ใช่ ชมรมพวกเรามีไว้จับกลุ่มซ้อม และประชาสัมพันธ์เฉย ๆ น่ะ จริง ๆ ในโรงเรียนนี้ก็มีสมาชิกที่ไม่อยู่ในชมรมนี้ก็มี”
เมื่อพวกเขาเลิกชมรม ไนท์จึงอาสาช่วยพวกเขาเก็บเบาะนวม ก่อนแยกย้ายกันกลับ
ที่อยู่ดี ๆ ไนท์นึกสนใจวิชายูโดขึ้นมา เพราะนึกถึงตอนที่เขาพ่ายแพ้เอกเมื่อ 4 เดือนก่อน เขาไม่มีทางต่อยชนะเอกได้ พวกเขาอายุห่างกัน 3 ปี เอกตัวสูงใหญ่กว่า กล้ามเนื้อมากกว่า เรียกได้ว่า ‘กระดูกคนละเบอร์’ กันเลย
แต่หากจะมีเทคนิคพลิกแพลงอะไรได้ ก็น่าจะเป็นยูโด ขนาดนิ้งซึ่งเป็นผู้หญิงที่ตัวเล็กกว่า ยังสามารถยกเขาจนตัวลอย การที่เขาจะจับเอกทุ่มก็น่าจะเป็นไปได้เช่นกัน
.....
วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545
ไนท์เข้าตัวเมือง แล้วมายืนงงอยู่หน้ายิมศิลปะการต่อสู้ในสมาคมกีฬาจังหวัด ยิมของพวกเขาเป็นห้องแอร์ แลดูเข้าถึงยาก เมื่อถามถึงเงื่อนไขการสมัครค่าคอร์สก็พบว่าต้องเสียค่าคอร์สเรียนด้วย นั่นทำให้เขายอมแพ้และออกมานั่งพักใกล้ ๆ ลานจอดรถบริเวณนั้น
เขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังขนของขึ้นรถอย่างทุลักทุเล เธอน่าจะอายุสัก 40 กว่า สูงราว 170 หุ่นดีแบบพวกผู้หญิงที่อกกำลังกายเป็นประจำ เธออยู่ในเสื้อยืดกีฬา กางเกงขาสั้น ใส่หมวกแก๊ปกับแว่นกันแดด ทำให้เขาไม่รู้ว่าหน้าตาแท้จริงเป็นอย่างไร แต่จัดเป้นผู้หญิงที่สวยเลยทีเดียว ทรงดูคล้ายรุ่งอยู่เหมือนกัน
“เอ่อ... มีอะไรให้ช่วยไหมครับ?”
ไนท์ถามเพื่อเสนอตัว
“อ๊ะ รบกวนด้วยค่ะ”
เมื่อยกของจำนวนหนึ่งขึ้นหลังรถ ผู้หญิงคนนั้นวานช่วยยกของอีกล็อต ทำให้ต้องเดินเข้าไปและผ่านยิมของชมรมยูโดอีกครั้ง
“อยากเรียนยูโดเหรอคะ?”
สาวใหญ่ถามเมื่อสังเกตเห็นว่าไนท์มองพวกยูโดฝึกซ้อมตาละห้อย
“ครับ แต่ผมคงไม่มีเงินมาสมัครค่าคอร์ส”
เมื่อขนของจนหมดแล้ว ผู้หญิงคนนั่นพักบนม้านั่ง
“ขอบคุณนะ ไม่ได้หนูน้าแย่แน่ ชื่ออะไร อยู่แถวไหนจ๊ะ?”
“ชื่อไนท์ครับ อยู่ชานเมืองห่างจากนี่ 5 กิโล ใกล้ ๆ โรงเรียนราชพฤกษ์...”
ผู้หญิงคนนั้นรีบถามตัดบท พร้อมกับลุกขึ้น
“ชื่อจริงหนูชื่ออะไรเหรอ?”
“เอ่อ... รัตติกร ครับ”
เธอชะงักไปครู่หนึ่ง
“เอ่อ...น้าต้องรีบไปแล้ว ยินดีที่รู้จักนะไนท์”
“ครับ”
จากนั้นเธอก็รีบขึ้นรถแล้วขับออกไป
...
“ฮัลโหล ดิฉันมยุรีนะคะ”
สาวใหญ่คุยโทรศัพท์หลังจากขับรถมาจอดที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง
“ครับคุณหญิง มีอะไรให้รับใช้ครับ”
ปลายสายตอบ
“ยังมีเด็กผู้ชาย อยู่ตรงลานจอดรถรึเปล่า?”
“สักครู่นะครับ... เด็ก ม. ต้น ใส่เสื้อยืดสีดำใช่ไหมครับ”
“เขาชื่อรัตติกร รับเขาเข้าฝึกยูโดกับคุณได้ไหม ค่าใช้จ่ายมาเก็บที่ฉัน”
“ได้เลยครับ จะคิดราคาพิเศษให้เลยครับ ขอบคุณมากครับ”
“ค่ะ ขอบคุณเช่นกันค่ะ”
เมื่อวางสาย เธอก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ในรถ
ความคิดเห็น