ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หนุ่มขี้แพ้กับสาวนักท่องเวลา

    ลำดับตอนที่ #11 : กีฬาคือยาวิเศษ

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ย. 67


    วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545

    ไนท์ฟิตร่างกายตลอด 4 เดือน ทั้งกับชมรมเวทเทรนนิ่ง กับวิชาสุขศึกษาที่มีการวิ่งเก็บระยะ

    สมรรถภาพทางร่างกายคือสิ่งแรกที่เขาตั้งใจจะพัฒนาตั้งแต่ย้อนเวลามา เพราะการออกกำลังกายไม่เคยทรยศเราเหมือนกับโชคชะตา หรือความรัก มันอยู่ที่วินัยของตัวเองล้วน ๆ

    กีฬาสีเขาอยู่สีฟ้า เช่นเดียวกับรุ่งและวานิลลา เขาเลือกลงวิ่งผลัด 4 x 400 แล้วรีบออกจากประชุมสีไปออกกำลังกายในชมรมเลย เพราะเบื่อขี้หน้าเอกที่เป็นประธานสี อีกอย่างเขารู้สึกเจ็บปวดที่เห็นเอกคุยกับรุ่งได้ปกติ ต่างจากเขาที่ถูกเกลียด

    ถ้าเป็นเส้นเวลาเดิมเขาคงไม่แข่งอะไรเลย ได้แต่นั่งบนอัฒจันทร์ซ่อนตัวอยู่กับพวกกองเชียร์ แต่ในเมื่อเขาได้รับโอกาสในการใช้ชีวิตอีกครั้ง เขาจะต้องโดดเด่น อะไรที่เอกไม่มีเขาจะต้องมีให้ได้ อย่างเช่นเรื่องกีฬา

    “ไนท์อยู่สีอะไรเหรอ ?”

    แอนถามขณะกำลังเก็บสัมภาระหลังเลิกชมรม

    “สีฟ้าครับ พวกพี่ล่ะ ?”

    “พี่กับพี่ภัทร์อยู่สีแดง”

    “เสียดาย ผมอยากอยู่สีเดียวกับพวกพี่จัง”

    “อย่าเลยเดี๋ยวสีเราจะไร้เทียมทานเกินไป”

    ภัทร์เสริมพร้อมหัวเราะเบา ๆ

    “อยู่สีฟ้าน่ะดีแล้ว จะได้ดูแลสาว ๆ ด้วย”

    แอนแซว ทำให้ภัทร์เกิดความสงสัย

    “สาว ๆ ไหนเหรอ ?”

    “น้องวานิลลา กับ น้องรุ่ง ที่อยู่ ม. 4 ไงพี่ ที่สวย ๆ อ่ะ”

    “อ้อ ดาวคู่แฝดอ่ะเหรอ ?”

    “พี่ติดตามเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ ?”

    “ไอ้คนทำชาร์ตมันก็พวกเพื่อน ๆ พี่นั่นแหละ พวกไอ้เบ๊นอ่ะ”

    “พวกที่ชอบจับกลุ่มกินไอติมอยู่หน้าโรงเรียนนั่นน่ะเหรอ?”

    “ใช่ ๆ นั่นเขากำลังทำงานกันอยู่นะ”

    “งานบ้าอะไร เห็นส่องหญิง แซวหญิงไปวัน ๆ”

    กลายเป็นภัทร์กับแอนคุยกันอยู่สองคน ไนท์มองทั้งคู่อย่างเซ็ง ๆ

    “แล้วมาชอบไนท์ทั้งสองคนเลยเหรอ?”

    “ไนท์พยายามจีบน้องรุ่ง แต่รุ่งยังไม่ชอบ ส่วนน้องวานิลลาชอบไนท์แต่ปากแข็งอยู่”

    “พ่อหนุ่มนักรัก”

    ภัทรพูดพร้อมกับกระทุ้งสีข้างไนท์ด้วยศอก

    “วานิลลาเขาไม่มีทางชอบผมหรอกครับ อีกอย่างเราเป็นเหมือนเพื่อนกันมากกว่า”

    “เชื่อสายตาผู้หญิงด้วยกันเถอะ”

    แอนพูด พร้อมกับทำหน้าเจ้าเล่ห์

    ไนท์นึกขำในใจ ถ้าหากเธอรู้อายุที่แท้จริงของเขา ว่าห่างกับวานิลลาแค่ไหน เธอจะยังมั่นใจในสายตาผู้หญิงของเธออยู่ไหม

    “แล้วนี่จะไปซ้อมวิ่งต่อไหม ?”

    ภัทร์ถาม

    “ซ้อมวิ่งของสีจริง ๆ เริ่มวันศุกร์ครับ ผมมีวิ่งเก็บระยะวิชาสุขศึกษา วันนี้น่าจะวิ่งสัก 4 รอบ”

    “ดีแล้ว ๆ จริง ๆ ชมรมเราก็ควรจะวิ่งด้วยนะ ร่างกายจะได้อึดขึ้นด้วย”

    แอนหน้าเหวอ

    “พอเลยพี่ แค่นี้หนูก็จะตายอยู่แล้ว ยังต้องปวดหัวกับประชุมสภาอีก”

    หลังจากเลิกชมรม ไนท์วิ่งจ๊อกกิ้งบนลู่วิ่งรอบสนามฟุตบอลโรงเรียน กับเพื่อน ม. 2 อื่น ๆ

    สนามบอลและลุ่วิ่งกินพื้นที่กว่าครึ่งของโรงเรียน ทำให้ตอนวิ่ง ไนท์สามารถเห็นกิจกรรมของนักเรียนคนอื่นตั้งแต่อาคาร 3 ไปจนถึงหน้าทางเข้า

    วานิลลาเริ่มซ้อมเชียร์ลีดเดอร์แล้ว เธอกำลังซ้อมเต้นอยู่ใต้อาคาร 3 ได้ยินว่าช่วงนี้เธอขนเสื้อผ้ามาพักอยู่บ้านรุ่ง เลยไม่ต้องกังวลเรื่องไม่มีรถเมล์กลับบ้าน ตลกดีที่ตอนปี 63 เธอพยายามหนีบ้านหลังนั้นแทบตาย แต่พอมาเส้นเวลานี้กลับกระตือรือร้นที่จะอยู่บ้านหลังนั้น

    เมื่อวิ่งถึงหน้าทางเข้า เขาเห็นรุ่งเดินอยู่กับเอก รอยยิ้มละไมของเธอยังคงสวยงามเสมอ รอยยิ้มที่เขาไม่เคยมีโอกาสได้ ได้แต่ลอบมองเมื่อเธอส่งยิ้มให้คนอื่น โดยเฉพาะในเส้นเวลานี้ที่กลายเป็นถูกเกลียด หรือจริง ๆ แล้ว การที่เขาไม่ไปเกี่ยวข้องกับเธอตั้งแต่ต้นจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว?

     

    .....

     

    เมื่อวิ่งเสร็จ ระหว่างกำลังจะกลับ ไนท์เดินผ่านโรงยิมอีกครั้ง ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายผสมกับเสียงตุบตับของเบาะนวม

    ชมรมยูโดเป็นอีกชมรมที่มีคนแค่ 3 คน และออกจะลึกลับ พวกเขารวมตัวกันแค่วันศุกร์, เสาร์ และ อาทิตย์ ได้ยินว่าพวกเขาเป็นสาขาย่อยของทั้งจังหวัด โรงเรียนอื่น ๆ ก็มีชมรมนี้ ทั้งหมดเชื่อมโยงกันด้วยเครือข่ายที่แข็งแกร่ง และกำลังจะจัดแสดงโชว์ในพิธีเปิดวันแข่งกรีฑา

    ไนท์เกาะรั้วดูพวกเขาฝึกอย่างสนใจ จนพวกเขาคนหนึ่งเห็นเข้า

    “น้องคนนั้นน่ะ สนใจเข้ามาดูข้างในเลยไหม”

    เด็กหนุ่ม ผิวขาวเหลือง ตาเรียว หลังและคอของเขาตรงทุกอิริยาบถ ทำให้บุคลิกโดดเด่นจนแผ่ออร่าความเป็นผู้นำออกมา ไม่มีใครบอกก็รู้ว่าเขาคือประธานชมรมนี้

    ไนท์พยักหน้าอย่างกระตือรือร้นแล้ววิ่งเข้าไป หาที่นั่งมุมหนึ่งแล้วกะจะดูเงียบ ๆ

    “ใส่เสื้อฝึกซะ”

    เด็กสาว หน้านิ่งคนหนึ่ง เดินเอาเสื้อฝึกยูโดมาโยนให้อย่างเย็นชา

    “ใส่เป็นไหม?”

    เธอถาม ส่วนไนท์ส่ายหน้าตอบอย่างเขิน ๆ

    ไนท์ใส่แค่เสื้อฝึกและรัดโอบิสีขาว จากนั้นตั้งใจจะกลับไปนั่งอย่างงง ๆ

    “จะไปไหน มานี่!”

    เด็กสาวคนเดิมกำชับเสียงดัง

    เขาชี้ตัวเองเพื่อความแน่ใจ เมื่อเธอพยักหน้าตอบ เขาเลยเดินเข้าไปหาเธอ

    ทันใดนั้นเธอก็พุ่งมาคว้าแขนข้างหนึ่ง พลิกตัวหมุนสะโพกเข้ายันตัวเขา แล้วยกลอยไปบนอากาศ

    ผลั่ก!

    รู้สึกตัวอีกทีเขาก็นอนหงาย หน้าเหวออยู่บนเบาะนวม

    “พอดีคู่ซ้อมไม่ครบคู่น่ะ ช่วยเป็นคู่ซ้อมให้เขาหน่อยนะ”

    ประธานชมรมหันมาบอก ขณะกำลังซ้อมอยู่กับสมาชิกอีกคน

    ไนท์โดนทุ่มซ้ำไป – ซ้ำมาอยู่แบบนั้นตลอด 15 นาที จนประธานชมรมสั่งพัก

    “น้องชื่ออะไรครับ?”

    ประธานชมรมถาม

    “ไนท์ครับ”

    “พี่ชื่อเปอร์ นะ อยู่ ม. 6 ส่วนนี่เบส ม. 4 และสาวสวยสุดในชมรม ชื่อน้องนิ้ง อยู่ ม. 3”

    “สวยสุดเพราะมีผู้หญิงคนเดียว”

    เบสพูดกระแนะกระแหน ทำให้นิ้งถลึงตาใส่พร้อมกับยกหมัดทำท่าจะต่อย

    “แล้วไนท์อยู่ชมรมอะไรเหรอ?”

    เปอร์ถาม

    “ชมรมเวทเทรนนิ่งครับ”

    “อ๋อ ชมรมของภัทร์นี่เอง มิน่าหน่วยก้านใช้ได้เลย”

    “ก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับ เพิ่งฝึกได้ 4 เดือนเอง”

    ไนท์ตอบ เกาหัวอย่างเขิน ๆ

    “จริง ๆ พวกพี่ก็อยากสอนอยู่นะ แต่คนจะเรียนต้องไปสมัครที่ยิมใหญ่ในตัวเมืองน่ะ พวกเราเลยไม่ได้อยู่ในบูธเปิดรับสมัครชมรม พวกเราเป็นสมาชิกของชมรมยูโดประจำจังหวัดกันอยู่แล้ว แล้วมาจับกลุ่มกัน”

    “ถ้าผมอยากเรียนนี่คือต้องไปเรียนในตัวเมืองใช่ไหมครับ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชมรมในโรงเรียนก็ได้ ใช่ไหม?”

    “ใช่ ชมรมพวกเรามีไว้จับกลุ่มซ้อม และประชาสัมพันธ์เฉย ๆ น่ะ จริง ๆ ในโรงเรียนนี้ก็มีสมาชิกที่ไม่อยู่ในชมรมนี้ก็มี”

    เมื่อพวกเขาเลิกชมรม ไนท์จึงอาสาช่วยพวกเขาเก็บเบาะนวม ก่อนแยกย้ายกันกลับ

    ที่อยู่ดี ๆ ไนท์นึกสนใจวิชายูโดขึ้นมา เพราะนึกถึงตอนที่เขาพ่ายแพ้เอกเมื่อ 4 เดือนก่อน เขาไม่มีทางต่อยชนะเอกได้ พวกเขาอายุห่างกัน 3 ปี เอกตัวสูงใหญ่กว่า กล้ามเนื้อมากกว่า เรียกได้ว่า ‘กระดูกคนละเบอร์’ กันเลย

    แต่หากจะมีเทคนิคพลิกแพลงอะไรได้ ก็น่าจะเป็นยูโด ขนาดนิ้งซึ่งเป็นผู้หญิงที่ตัวเล็กกว่า ยังสามารถยกเขาจนตัวลอย การที่เขาจะจับเอกทุ่มก็น่าจะเป็นไปได้เช่นกัน

     

    .....

     

    วันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2545

    ไนท์เข้าตัวเมือง แล้วมายืนงงอยู่หน้ายิมศิลปะการต่อสู้ในสมาคมกีฬาจังหวัด ยิมของพวกเขาเป็นห้องแอร์ แลดูเข้าถึงยาก เมื่อถามถึงเงื่อนไขการสมัครค่าคอร์สก็พบว่าต้องเสียค่าคอร์สเรียนด้วย นั่นทำให้เขายอมแพ้และออกมานั่งพักใกล้ ๆ ลานจอดรถบริเวณนั้น

    เขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังขนของขึ้นรถอย่างทุลักทุเล เธอน่าจะอายุสัก 40 กว่า สูงราว 170 หุ่นดีแบบพวกผู้หญิงที่อกกำลังกายเป็นประจำ เธออยู่ในเสื้อยืดกีฬา กางเกงขาสั้น ใส่หมวกแก๊ปกับแว่นกันแดด ทำให้เขาไม่รู้ว่าหน้าตาแท้จริงเป็นอย่างไร แต่จัดเป้นผู้หญิงที่สวยเลยทีเดียว ทรงดูคล้ายรุ่งอยู่เหมือนกัน

    “เอ่อ... มีอะไรให้ช่วยไหมครับ?”

    ไนท์ถามเพื่อเสนอตัว

    “อ๊ะ รบกวนด้วยค่ะ”

    เมื่อยกของจำนวนหนึ่งขึ้นหลังรถ ผู้หญิงคนนั้นวานช่วยยกของอีกล็อต ทำให้ต้องเดินเข้าไปและผ่านยิมของชมรมยูโดอีกครั้ง

    “อยากเรียนยูโดเหรอคะ?”

    สาวใหญ่ถามเมื่อสังเกตเห็นว่าไนท์มองพวกยูโดฝึกซ้อมตาละห้อย

    “ครับ แต่ผมคงไม่มีเงินมาสมัครค่าคอร์ส”

    เมื่อขนของจนหมดแล้ว ผู้หญิงคนนั่นพักบนม้านั่ง

    “ขอบคุณนะ ไม่ได้หนูน้าแย่แน่ ชื่ออะไร อยู่แถวไหนจ๊ะ?”

    “ชื่อไนท์ครับ อยู่ชานเมืองห่างจากนี่ 5 กิโล ใกล้ ๆ โรงเรียนราชพฤกษ์...”

    ผู้หญิงคนนั้นรีบถามตัดบท พร้อมกับลุกขึ้น

    “ชื่อจริงหนูชื่ออะไรเหรอ?”

    “เอ่อ... รัตติกร ครับ”

    เธอชะงักไปครู่หนึ่ง

    “เอ่อ...น้าต้องรีบไปแล้ว ยินดีที่รู้จักนะไนท์”

    “ครับ”

    จากนั้นเธอก็รีบขึ้นรถแล้วขับออกไป

    ...

    “ฮัลโหล ดิฉันมยุรีนะคะ”

    สาวใหญ่คุยโทรศัพท์หลังจากขับรถมาจอดที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง

    “ครับคุณหญิง มีอะไรให้รับใช้ครับ”

    ปลายสายตอบ

    “ยังมีเด็กผู้ชาย อยู่ตรงลานจอดรถรึเปล่า?”

    “สักครู่นะครับ... เด็ก ม. ต้น ใส่เสื้อยืดสีดำใช่ไหมครับ”

    “เขาชื่อรัตติกร รับเขาเข้าฝึกยูโดกับคุณได้ไหม ค่าใช้จ่ายมาเก็บที่ฉัน”

    “ได้เลยครับ จะคิดราคาพิเศษให้เลยครับ ขอบคุณมากครับ”

    “ค่ะ ขอบคุณเช่นกันค่ะ”

    เมื่อวางสาย เธอก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ในรถ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×