ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หนุ่มขี้แพ้ กับสาวนักท่องเวลา

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 20
      0
      2 ก.ค. 67

    3 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

    ไนท์ตกงาน คนรักที่อยู่กินกันมา 3 ปีก็เพิ่งเก็บข้าวของออกไป เขามองอดีตคนรักร่างอวบเดินขึ้นรถเก๋งแม่ของเธอจากไปผ่านหน้าต่างบานเกร็ดด้วยใบหน้าเรียบเฉย

    ตกเย็น เขากดเงิน 100 บาทสุดท้ายจากตู้ ATM ก่อนจะไปตลาดนัดที่จะมีทุกเย็นวันศุกร์ที่วัดประจำตำบล เขาอดทนต่อความยั่วยวนของอาหารดีๆ เพื่อจะซื้อแค่ปลาประป๋อง 2 กระป๋อง, เครื่องต้มยำ, ข้าวสวย ตามที่เขาวางแผนไว้ แล้วรีบบึ่งออกจากตลาดไปยังรถมอเตอร์ไซค์คันเก่าทรุดโทรมที่จอดใกล้กับศาลา

    เขาเผอิญสบตากับเด็กสาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่ง ผมยาวประบ่า ผิวขาวเหลือง ร่างผอมบางอยู่ในเสื้อยืดหลวมซอมซ่อ นั่งอยู่ในศาลาใกล้ๆ

    “พี่รุ่ง?” เขารำพึง

    เด็กสาวคนนั้นเหมือนจะได้ยินชื่อที่เขาพูด เธอดูแปลกใจ พยายามเดิมเข้ามาถามอะไรบางอย่าง แต่ไนท์รีบออกรถหนีไปก่อน

    'งี่เง่าน่ะ' เขาด่าตัวเองที่อายุเข้าเลข 3 แล้ว แต่ยังไม่เลิกมองเด็กๆ สาวๆ แถมยังไปเพ้อถึงชื่อผู้หญิงที่เคยแอบชอบสมัยเรียนต่อหน้าเธออีกต่างหาก

    รุ่ง เป็นรุ่นพี่ที่ไนท์แอบชอบสมัย ม. ต้น เธอแก่กว่าเขา 2 ปี หลังจากเธอมีแฟน ไนท์ก็ไม่ได้อยากรู้อะไรเกี่ยวกับเธออีก มีข่าวลือว่าเธอท้องและเรียนไม่จบ ม. 6 บางทีเด็กคนนั้นที่ตลาดอาจจะเป็นลูกสาวของเธอก็ได้

    เมื่อถึงห้องพัก ไนท์ทำยำปลากระป๋อง เมนูเอาตัวรอดที่ทำให้การกินปลาแมคคาเรลในซอสมะเขือเทศไม่รันทดเกินไป

    เขาส่อง Facebook เพื่อนเก่าสมัยมัธยมที่เขาเลิกคบมานานเพราะไม่มีหน้าไปงานเลี้ยงรุ่น ในขณะที่เพื่อนมีรถยนต์ ปลูกบ้านหลังใหม่ แต่งงาน มีลูกกันไปแล้ว เขายังคงเป็นไอ้กระจอกที่อายุเข้าเลข 3 อยู่แล้วแต่ก็ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

    หลังจากกินเสร็จ เขาซ้อนถ้วมชามไว้แบบนั้น เพราะคนที่จู้จี้เรื่องเก็บจานชามไม่อยู่แล้ว จากนั้นนอนบนฟูกสปริงมือลูบไปบนที่ว่างข้างๆ

    ว่ากันว่าเมื่อเลิกกันมใหม่ๆ ผู้ชายจะร่าเริง และหลังจากนั้นหลายวันถึงจะเริ่มเศร้า

    สำหรับไนท์ความเศร้าใช้เวลาไม่นาน น้ำตาของเขาเริ่มไหลออกมาเมื่อตระหนักได้ว่าคนอย่างเขาคงไม่มีคุณค่าพอจะให้ใครมารักอีก วาอาจจะเป็นผู้หญิงคนเดียวในโลกที่เปิดใจให้เขาก็ได้ ผู้ชายหัวเดียวกระเทียมลีบ ไม่มีงาน ไม่มีการศึกษา ไม่มีรถ ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง มีเงินเหลืออยู่แค่ 30 บาท จะมีหน้าไปรักใคร?


    5 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

    ไนท์พยายามหางานใหม่แข่งกับเวลาก่อนที่เขาจะอดตาย ที่ห้องยังเหลือปลากระป๋อง กับน้ำอยู่ครึ่งขวด

    ในช่วงนี้หน้าบ้านของคนรวยจะมีตู้อาหารเอื้ออาทรให้คนยากจนมาหยิบได้ฟรีๆ เขาคิดว่าถ้าโชคดีก็น่าจะได้มาม่าสักห่อ

    เขาตรงไปที่ตู้นั้น เห็นน้ำส้มขวดเล็กอยู่ขวดหนึ่งจึงรีบฉวยเอาไว้ แต่ก็ชะงักเมื่อเจอเด็กสาว ผมยาวประบ่า ตัวผอมบางในเสื้อยืดหลวมๆ ตัวเดิมกับที่เห็นครั้งล่าสุดที่ตลาดนัดเมื่อสามวันก่อน ปากเธอแห้งจนแตกลอก เขาจึงจำใจยกน้ำส้มขวดนั้นให้เธอ

    “หนูชื่ออะไร?”

    “ชื่อลาค่ะ... จริงๆ ชื่อวานิลลา แต่ไม่มีใครเรียกหนูเต็มๆ หรอก”

    เธอตอบทั้งที่ยังง่วนอยู่กับการพยายามแทงหลอดใส่ฝาน้ำส้มจนหลอดหักแล้วหักอีก ไนท์เลยช่วยเอาน้ำส้มมาเจาะด้วยนิ้วโป้ง ยื่นให้เธออีกครั้ง

    “แล้วพ่อแม่ล่ะ?”

    เธอชะงักอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบ

    “พวกเขาทิ้งหนูไปแล้วค่ะ”

    พูดจบเธอก็ดื่มน้ำส้มด้วยความกระหาย พยายามดูดจนริมฝีปากถูกดูดเข้าไปในขวดแทน น้ำส้มหมดลงอย่างรวดเร็ว

    “ยายก็เกลียดหนู ไม่มีใครต้องการหนูเลยสักคน”

    เธอตอบ ก่อนจะปล่อยโฮร้องลั่นเหมือนเด็กๆ

    ที่ห้องเช่าของไนท์ เขานั่งมองวานิลลากินยำปลากระป๋อง กระป๋องสุดท้าย สิ้นเสียงขอดซอส เด็กสาวก็มองขวดน้ำขวดใหญ่ที่อยู่ในห้อง

    “กินน้ำได้นะ”

    เขาเสนอ ก่อนยื่นน้ำให้เด็กสาว เธอดื่มอึกใหญ่ ก่อนเริ่มถาม

    “ลุงรู้จักแม่หนูเหรอคะ?”

    เขาทำทีเป็นไม่เข้าใจ เธอจึงกล่าวเสริม

    “หนูเคยเห็นลุงที่ตลาดนัดมาก่อน เห็นลุงเรียกหนูว่ารุ่ง”

    “หนูหน้าคล้ายรุ่นพี่ลุงสมัย ม. ต้นน่ะ แต่พอนึกได้ว่าถ้าเป็นพี่รุ่งก็ต้องอายุสามสิบกว่าๆ แล้ว ลุงเลยอายที่ทักแบบนั้น แม่หนูชื่อรุ่งเหรอ?”

    “ค่ะ แต่หนูก็ไม่ได้เจอหน้าแม่ตั้งแต่เด็กแล้ว ก็มีคนทักว่าหน้าเหมือนแม่อยู่บ่อยๆ...”

    เธอหยุดกลางคัน ไนท์รับรู้ว่ามีสิ่งที่เธอไม่อยากพูดถึง

    “ไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร... อาบน้ำพักผ่อนที่นี่ตามสบายนะ ผ้าเช็ดตัวผืนใหม่อยู่ทางนั้น เดี๋ยวลุงไปทำธุระก่อน”

    เขาพูดก่อนออกจากห้องไป

    ไนท์โทรหาตำรวจแจ้งเรื่องเด็กหนีออกจากบ้าน การปล่อยให้เด็กหน้าตาสะสวยกลายเป็นเด็กเร่ร่อนโหดร้ายเกินไปการที่เขาไม่พาเธอไปที่สถานีตำรวจตั้งแต่แรกก็เพราะกลัวว่าเธอจะขัดขืน เพราะรู้ว่าตำรวจจะพาตัวเธอกลับไปให้ยาย ซึ่งเธอกับยายน่าจะมีปัญหากัน

    เขาเพิ่งคิดได้ว่าการให้เด็กผู้หญิงมาอยู่ด้วยอาจทำให้เรื่องราวบานปลาย หากผู้ปกครองเธอรู้เข้าเขาอาจโดนข้อหาพรากผู้เยาว์ ถ้าเขาไล่เธอไปทันทีเธอก็จะอ้อนขออยู่ด้วย เลวร้ายที่สุดคือเธออาจเสนอร่างกายของเธอเพื่อแลกกับการได้อยู่ด้วย ซึ่งเขาไม่กล้าเชื่อใจตัวเองว่าจะมีศีลธรรมสูงพอที่จะไม่ทำเรื่องอย่างว่า หากอยู่ด้วยกันกับเธอสองต่อสอง


    ไนท์ยังคงเดินไปเรื่อยๆ จนพลบค่ำเขามาหยุดอยู่หน้าบ้านของวาคนรักเก่า สองคืนมานี้เขาพบว่าไม่สามารถลืมเธอได้

    มีรถยนต์สีแดงคันหนึ่งจอดหน้าบ้านของเธอ สักพักประตูรั้วก็เปิดออก มีชายหนุ่มแต่งตัวดีคนหนึ่งออกมา โดยมีวาเดินออกมาส่ง พอรถคันนั้นแล่นออกไป ประตูรั้วก็ปิดลง

    ‘เร็วขนาดนั้นเชียว!’ เขาคิด และยังคิดต่อไปว่าหรือวาอาจจะคุยกับผู้ชายคนนั้นตั้งแต่ยังไม่เลิกกับเขา แต่ไม่มีประโยชน์ที่จะถือโทษโกรธเธอ ความจริงคือเขาดูแลใครไม่ได้ เขาไมันไม่มีค่าเอง

    เขาเดินเป็นเวลาหลายชั่วโมงเพื่อให้ลืมความหิว และความเจ็บปวด จนกลายเป็นว่าเขาไม่ยินดียินร้ายกับอะไรอีก เดินจากชานเมือง เข้าตัวเมือง เลียบถนนพระราม 2 จนมาหยุดที่ทางเท้ากลางสะพานขนาด 8 เลน ที่พาดผ่านแม่น้ำท่าจีน

    เขาถอดรองเท้าเหยียบพื้นคอนกรีตด้วยเท้าเปล่า รู้สึกถึงความอุ่นที่คอนกรีตกักเก็บไว้จากแดดของตอนกลางวัน แล้วคิดว่าสะพานยังมีค่ามากกว่าสิ่งมีชีวิตอย่างเขาเสียอีก  มันส่งคนข้ามแม่น้ำทั้งขาเข้าและออกจากกรุงเทพฯ เมืองแห่งความฝันที่หลากหลาย แม้มันจะตั้งอยู่ในจังหวัดที่คนไม่ค่อยฝันกัน

    ผืนน้ำเบื้องล่างน่าจะสูงไม่ต่ำกว่าสิบเมตร ขอแค่แม่น้ำลึกพอก็น่าจะใช้ได้ เพราะเขาว่ายน้ำไม่เป็น เขานั่งขาพาดออกไปด้านนอกราวสะพานคอนกรีต รถยังคงสัญจรไปมา

     ไนท์ยันตัวยกสะโพก ทิ้งตัวไปยังความว่างเปล่าเบื้องหน้า...

    “อ๊า !”

    เขาร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อรู้สึกว่ามีบางคนฉุดมือเขา ได้ยินเสียงกระดูกแขนลั่น เพราะตัวหมุนจากแรงกระชาก 

    เด็กสาวผมยาวประบ่า  ยื้อไนท์เอาไว้ด้วยสองมือ  ใบหน้าแดงก่ำ น้ำตาเริ่มใหลออกมา เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงมาโผล่ที่นี่ได้ สะพานนี่ห่างจากบ้านตั้ง 10 กิโล

    “ดึง.. ขึ้นมาเถอะ”

    วานิลลาพูดอย่างยากลำบาก ขณะที่ร่างของเธอเองก็หมิ่นเหม่ว่าจะร่วงตามลงไป แววตาของเขาเหมือนกับจะสื่อสารว่า ‘ปล่อยลุงไปเถอะ หนูไม่เกี่ยวอะไรสักหน่อย’

    “อย่านะ!!” เธอกรีดร้องลั่น  ร้องไห้และตื่นตระหนก พร้อมกับพยายามออกแรงดึงถี่ๆ อย่างไร้ความหวัง

    แต่แล้วในวินาทีสุดท้าย แววตาของเด็กสาวเปลี่ยนเป็นความโกรธเกรี้ยว สูดหายใจลึก เตรียมพร้อมทำบางอย่าง...

    เธอกระโจนโอบกอดร่างของเขา แล้วทั้งคู่ก็ตกจากสะพาน.....


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×