หัวขโมย แห่ง บารามอส กับ สงครามแห่งโรงเรียนพระราชา

ลำดับตอนที่ #3 : ข่าวใหญ่อันน่าตกใจ

“เฟริน…ตื่นเดี๋ยวนี้น้ะ”เสียงตะโกนด้วยความโกรธที่ไม่น่าจะหลุดมาจากปากของเจ้าชายคาโล วาเนบลี ก้อนน้ำแข็งเดินได้ ก็ดังขึ้นลั่นป้อมอัศวิน ช่วยปลุกให้ทุกคนในป้อมตื่น  เมื่อเจ้าชายน้ำแข็งตื่นมาพบว่าอาณาเขตที่มันอุตส่าห์เรียงไว้อย่างดี ตกลงไปกองอยู่บนพื้นหมดแล้ว แล้วบุคคลที่กำลังนอนกอดเจ้าคนที่ตะโกนโวยวายก็คือ เจ้าหญิง เฟลิโอน่า เกรเดเวล

“อะไรหรอ คาโล”น้ำเสียงงัวเงียจากเจ้าตัวปัญหาดังขึ้น

“ทำไมหมอนมันถึงตกลงไปอยู่ที่พื้นได้ล่ะ “ น้ำเสียงดุดังขึ้นนัยน์ตาสีฟ้าบ่งบอกถึงความโกรธอย่างหน้ากลัว แต่ดูขัดกับใบหน้าที่มีสีแดงระเรื่อ

“ก็มันอึดอัดนี่ เตียงก็เล็ก นอนกันตั้งสองคนจะพอได้งัย ฉันก็เลยลุกขึ้นมาโยนหมอนลงไป ตอนกลางคืนมันหนาวมากผ้าห่มผืนเล็กเท่านั้นมันห่มแล้วไม่อุ่น ฉันก็เลยกอดนายงัยล่ะ ถามทำไมนี่ ไปอาบน้ำดีกว่า ฮ้าว...”พูดเสร็จเฟรินก็ลุกจากเตียงแล้วลุกขึ้นจะเดินไปที่ห้องน้ำ

“นี่ เฟริน นายจะไปไหน มานี่ ทีหลังถ้าหนาวก็บอกสิ ฉันจะได้เอาผ้าห่มให้”คาโลพูด

“ไม่เอาหรอก ถ้านายเป็นหวัดไป เดี๋ยวเค้าจะหาว่า เจ้าหญิงแห่ง เดมอสและบารามอส แกล้งเจ้าชายแห่งคาโนวาล เดี๋ยวก็เกิดสงครามแบบปีที่แล้วอีกไม่เอาด้วยหรอก”เฟรินพูดพร้อมกับทำท่าจะเดินไปห้องน้ำอีกครั้ง

“แต่...”ก้อนน้ำแข็งเดินได้กำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ถูก เสียงของเพื่อนร่วมห้องอีกคนหนึ่งดังขึ้น

“โอ๊ย...คาโล แกจะไปเอาอะไรมากว่ะ เดี๋ยวพอแต่งงานกันก็อย่างที่ไอ้ครี้ดมันบอกนั่นแหละ ได้เจอหน้ากันทุกนาทีและก็นอนเตียงเดียวกัน ไม่เห็นเห็นรัยเลย อย่างน้อยแกก็ไม่ได้มีอะไรกันหล่ะว่ะ”

“ไอ้คิล”แทนที่คนพูดจะเป็นคาโล แต่กลับกลายเป็นเฟริน เดอเบอโรว์พูดพร้อมกับกระโจนไปต่อยเจ้าคนปากดี ส่วนคาโลก็กำลังร่ายมนต์อะไรก็ไม่รู้อยู่ ทันใดนั้นอากาศในห้องก็หนาวขึ้นมาจับใจ

                “คาโลแกหยุดเสกหิมะอะไรของนายเลยน่ะ มันหนาว”หญิงสาวที่บัดนี้ผมยุ่งเหยิงตะโกนขึ้นมา แต่ยังไม่ทันที่คาโลจะพูดหรือร่ายมนต์อะไร ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นมา

“เฟริน อาจารย์ชามัลเรียกนายไปพบน่ะ”เสียงของผู้ยุติสงครามดังขึ้น และคนนั้นไม่ใช่ใครนอกเสียจากโร ซาวาเรส

หลังจากที่เฟรินจัดการกับตนเองเสร็จ ก็ไปพบอาจารย์ชามัล

“สวัสดีฮะ เอ๊ย ค่ะ อาจราย์ชามัลอาจารย์เรียกผมมีธุระอะไรหรอฮะ”เฟรินพูดด้วยสำเนียงหญิงปนชาย

“นี่เฟลิโอน่า หลานไปทำอะไรมาน่ะ ผมของหลานดูยุ่งเหลือเกิน”

“เอ่อ...ไม่มีอะไรฮะ”เฟรินตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก

“ถ้าอย่างนั้นก็ช่างมัน ที่ตาเรียกหลานมาวันนี้เพื่อจะบอกว่าตาคิดว่าหลานควรจะหมั้นได้แล้ว พอหลานเรียนจบหลานจะได้ขึ้นปกครองบารามอสได้” น้ำเสียงของตาของตนเองช่างหนักแน่นยิ่งหนัก มันช่วยตอกย้ำให้รู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แต่งงาน ...แต่งงาน... คำๆนี้กังวานอยู่ในใจของเธอ

“ตาตกลงกับบาโรแล้วว่าจะให้หลานหมั้นกันไปก่อน พอเรียนจบแล้วค่อยแต่งงานกัน”

“ทำไมต้องเป็นไอ้คาโล เอ๊ย เจ้าชายคาโลด้วยล่ะฮะ “ เฟรินพูดอย่างตกใจ

“เพราะถ้าคาโนวาลได้รวมกันกับบารามอสและเดมอส มันจะช่วยให้ประเทศของเราแข็งแกร่งขึ้น และอีกอย่างหลานก็รักเจ้าชายคาโลอยู่แล้วไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”

“แต่ท่านตาฮะไว้เรียนจบค่อยหมั้นไม่ได้หรอฮะ จากนั้นอีกปีนึงค่อยแต่งก็ได้ ผมว่าหมั้นตอนนี้แล้วแต่งตอนเรียนจบมันเร็วไป”

“ตานึกแล้วว่าหลานต้องพูดอย่างนี้ งั้นตามีข้อเสนอว่า ปีนี้ตาจะจัดการแข่งขันประลองเวทย์ของโรงเรียนพระราชาเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นข้อตัดสินว่าหลานต้องแต่งงานกับเจ้าชายคาโลหรือป่าว ตาจะเรียกมันว่า สงครามแห่งโรงเรียนพระราชา ถ้าป้อมอัศวินของหลานชนะได้ ตาจะทำตามที่หลานขอร้อง”

                แต่งงาน...นี้เค้าต้องแต่งงานกับคาโลหรอ ถ้าเค้าไม่สามารถทำให้ป้อมอัศวินชนะการแข่งครั้งนี้ที่เรียกว่าสงครามแห่งโรงเรียนพระราชาได้เค้าต้องถูกจับแต่งงานกับคาโลหรอ ถึงแม้คาโลจะอยู่ทุกลมหายใจเข้าออกของเค้าแต่เค้าก็ไม่อาจตัดสินใจในเรื่องนี้ได้