คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ขอบคุณ
ปกฉัตรกำลังตรวจสอบชุดที่กำลังจะนำไปใช้จัดโชว์ในงานแฟชั่นโชว์ที่จะมีขึ้นในอีกสองเดือนข้างหน้า แต่เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้
“เจนจิราวันนี้ส่งดอกไม้ไปที่โรงพยาบาลรึยัง?”
“ไม่ได้ส่งไปหลายวันแล้วค่ะ เพราะคนเจ็บออกจากโรงพยาบาลไปแล้วค่ะคุณแป้ง”
“อ้าวเหรอ!!?” หล่อนก็มัวแต่ยุ่งเรื่องโปรเจ็กค์เตรียมงานแฟชั่นฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง ทำให้ลืมเรื่องสำคัญไปเลย ว่าจะหาเวลาไปเยี่ยม และขอบคุณหญิงสาวคนนั้นด้วยตัวเอง แต่จนแล้วจนรอด หล่อนก็ออกจากโรงพยาบาลไปซะก่อน
“ช่วยติดต่อทางโรงพยาบาลให้ด้วย หาที่อยู่ของผู้หญิงคนนั้นมาให้ฉัน ฉันจะไปหาหล่อนที่บ้านเอง”
“ได้ค่ะ”
เลขาสาวออกไปแล้ว ปกฉัตรก็รีบเคลียร์งานที่คั่งค้างอย่างเร่งด่วน หลายวันมานี้ ชีวิตหล่อนยุ่งเหยิง จนไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง คงต้องหาอะไรทำเพื่อเป็นการผ่อนคลายแก่ชีวิตบ้าง แล้วหล่อนก็เลือกที่จะไปช้อปปิ้งเพื่อแก้เซ็ง ไปเดินเล่นหาอะไรดูแปลกตาบ้าง เผื่อได้ไอเดียอะไรใหม่ๆ มาใช้กับงานของตัวเอง
รถยนต์ที่มีนายชอบเป็นคนขับพาหล่อนผ่านย่านธุรกิจที่เต็มไปด้วยร้านค้ามากมายเปิดกระจายตัวอยู่ตลอดสองฝั่งถนน เวลาหัวค่ำเช่นนี้มีคนมากมายออกมาหาอะไรกินกันนอกบ้าน หล่อนมองไปตามสองข้างทางก็ไปสะดุดตาเข้ากับร้านหนึ่งเข้า
“จอดข้างหน้าก่อนนายชอบ”
มีหญิงสาวหน้าตาสวยใส ท่าทางคล่องแคล่ว หล่อนกำลังช่วยทำหน้าที่รับออเดอร์ เสริ์ฟ เช็ดโต๊ะ ทำทุกอย่างที่มีงานให้ทำภายในร้าน ท่าทางขยันเชียว ปกฉัตรแอบมองหญิงสาวคนนั้นทำงานอยู่ชั่วครู่ก็บอกให้นายชอบออกรถ และขับกลับไปยังคฤหาสถ์หรูที่ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจสำคัญ
เวธิกากำลังตั้งโต๊ะรับประทานอาหารคำ่ โดยมีป๊าของหล่อนที่นั่งดื่มเหล้ารออยู่ วันนี้ป๊าไม่ออกไปไหน คงไม่มีเงินจะไปเข้าบ่อนแล้ว ถึงได้ซื้อเหล้าขาวมาดื่มแก้เซ็งอยู่คนเดียวตั้งแต่บ่ายที่หล่อนมาถึง กับข้าวง่ายๆ ถูกวางอยู่บนโต๊ะ เวธิกาตักข้าวให้ผู้สูงวัย ก่อนจะตักให้ตัวเอง และกลับมานั่งลงตรงเก้าอี้ตรงข้าม ก่อนจะกินข้าวในจานไปอย่างเงียบๆ
“อั๊วไม่กิน ลื้อจะกินก็กินไปคนเดียว” ชายสูงวัยผลักจานข้าวที่มีข้าวสวยร้อนๆอยู่ในจานมาข้างหน้าด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว หญิงสาวมองข้าวในจานที่หกกระจายออกมานอกจาน ก่อนจะทำเฉย และกินข้าวในจานของตัวเองต่อไป
“ทำไมลื้อถึงดื้อด้าน? ไม่เชื่อฟังอั๊วบ้าง คุณธนาอีไม่ดีตรงไหน? รูปก็หล่อ พ่อก็รวย เป็นถึงลูกเสี่ยธนงค์ มีธุรกิจเยอะแยะมากมายเต็มไปหมด ถ้าลื้อแต่งไปจะได้กินข้าวที่มีแต่ผักแบบนี้เหรอ ลื้ออยากจะได้อะไร? คุณธนาอีก็ต้องหามาให้ลื้อ ไม่ต้องมาทนลำบากอยู่ในบ้านเก่าๆ ผุๆพังๆแบบนี้!”
“พอแล้วป๊า ถ้าป๊าไม่กิน เดี๋ยวหนูจะเอาไปให้ไอ้โฮมส์มันกินแทนแล้วกัน” หล่อนลุกขึ้นไปเก็บกวาดข้าวที่หกรดเกลื่อนอยู่บนโต๊ะใส่กลับไปในจาน ก่อนจะตักกับข้าวบางส่วนแล้วเดินออกไปด้านนอกบ้าน ก่อนจะเอาไปเทให้เจ้าหมาใหญ่ตัวสีน้ำตาลแดง ที่เมื่อมันเห็นหล่อนเท่านั้น ก็รีบกระดิกหางมาหาด้วยความดีใจ
เวธิกานั่งลงตรงนั้น ก่อนที่น้ำตาเป็นสายจะไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย หล่อนกอดเจ้าหมาอารมณ์ดีตัวนั้นไว้แน่น และร้องไห้ออกมาไม่หยุด
ภาพของหญิงสาวที่กำลังร้องไห้กอดคอเจ้าหมาสีน้ำตาลตัวใหญ่ ตกอยู่ในสายตาของหญิงสาวคนหนึ่ง หล่อนมาถึงที่นี่ได้สักพักแล้ว จอดรถรออยู่ด้านนอกถนน มองเข้าไปเห็นเหตุการณ์ที่อยู่ภายในบ้านหลังนั้นตั้งแต่ต้น ก็พอจะเดาเรื่องราวได้เล็กน้อย ดูเหมือนหล่อนจะมีชีวิตที่ยากลำบากอยู่เหมือนกัน
“สวัสดีค่ะ” เสียงทักทายดังขึ้น เวธิกาเงยหน้ามองผู้หญิงสวย แต่งตัวดีตรงหน้า หล่อนเช็ดน้ำตาลวกๆ รู้สึกอายเล็กน้อยที่อีกฝ่ายดันมาเห็นหล่อนในสภาพนี้
“จำฉันได้รึเปล่าคะ? คนที่คุณช่วยเอากระเป๋ามาคืนให้ จากเจ้าหัวขโมยในวันนั้น”
“คุณนั่นเอง!” หล่อนนึกได้แล้ว ผู้หญิงสวยโดดเด่น แต่งตัวดีอย่างคนตรงหน้า แค่เห็นครั้งเดียวหล่อนก็จำได้ แต่หล่อนเพิ่งได้เห็นหน้าอีกฝ่ายชัดๆวันนี้ ว่าหล่อนสวย และดูดีขนาดไหน
“ฉันมาขอบคุณคุณที่ช่วยเหลือในวันนั้น เราไปหาที่เงียบๆคุยกันหน่อยได้ไหมคะ?” เวธิกาหันซ้ายหันขวา ก่อนจะเดินนำไปยังสวนสาธารณะที่อยู่ห่างจากบ้านไปไม่เท่าไหร่ ทั้งสองนั่งลงตรงเก้าอี้ไม้ที่วางอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ริมทาง ตรงนี้มีไฟส่องสว่าง ดูแล้วปลอดภัยดี
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่ไม่ได้มาขอบคุณตั้งแต่วันนั้น พอดีฉันติดธุระมากมาย วันนี้ก็เลยมาช้าไป หวังว่าคุณคงไม่ว่าอะไรนะคะ” หล่อนออกตัวก่อน เพราะหล่อนก็รู้สึกผิดที่ปล่อยให้เวลาผ่านมาตั้งหลายวันเพิ่งจะหาโอกาสมาหาอีกฝ่ายได้
“ไม่เป็นค่ะ ตอนนี้ฉันหายดีแล้ว ขอบคุณสำหรับค่ารักษาพยาบาลด้วย”
“เรื่องค่ารักษาเล็กน้อยเท่านั้นค่ะ คุณอุตส่าห์เสี่ยงชีวิตช่วยเหลือฉันขนาดนั้น ถ้ามีอะไรที่ฉันพอจะช่วยเหลือได้ อย่าเกรงใจนะคะ ติดต่อฉันมาตามนามบัตรที่ฉันเคยให้ไว้”
“นามบัตร?”
“ก็นามบัตรที่ฉันเคยให้เพื่อนของคุณไว้ อ้อ! สงสัยเธอคงลืมเอาให้คุณ ไม่เป็นค่ะ” แล้วหล่อนก็รื้อค้นเจอนามบัตรอีกใบจากกระเป๋าถือแสนแพงของหล่อนมายื่นส่งให้ แต่เพราะด้วยความรีบหรือเพราะหล่อนไม่ได้ตรวจสอบให้ดีเสียก่อน จึงไม่รู้ว่าได้ส่งนามบัตรผิดใบมาให้ เวธิการับมาถือไว้ หล่อนได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือของอีกฝ่ายดังขึ้น ก่อนเจ้าตัวจะขอตัวออกไปรับสาย
“ฉันคงต้องขอโทษด้วยนะคะ! วันนี้ฉันต้องไปก่อนอีกแล้ว! ถ้ามีอะไรให้ช่วยเหลืออย่าลืมติดต่อไปตามที่อยู่ในนามบัตรนั้นนะคะ” แล้วหล่อนก็รีบเดินจากไป เวธิกาได้แต่มองตาม
“ปกเกล้า เกียรติก้องธรานนท์” มีที่อยู่ในนามบัตรนั้นอย่างชัดเจน แต่ชื่อในนั้นเหมือนชื่อผู้ชายมากกว่า หรืออาจเป็นชื่อสามีของหล่อนก็ได้? เวธิกาเก็บนามบัตรใบนั้นไว้ในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะเดินกลับบ้าน
ท่าทางผู้หญิงสวยคนนั้นน่าจะเป็นคนรวยมาก ความจริงแล้วที่หล่อนช่วยก็ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน แต่ตอนนี้หล่อนก็กำลังลำบากต้องการใช้เงิน และหล่อนเองก็ต้องการความช่วยเหลืออยู่พอดี บางทีหล่อนอาจใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ก็ได้
ตัดสินใจอยู่นาน ในที่สุดคืนนั้นเวธิกาก็ลองกดโทรศัพท์ไปตามเบอร์ที่อยู่บนนามบัตรนั้น
สัญญาณติด หล่อนรอคนปลายสายมารับ แต่รออยู่พักใหญ่ ก็ไม่มีวี่แววว่าคนทางโน้นจะยอมรับสาย หล่อนจึงกดวางไป หล่อนคงไม่รู้หรอกว่า เจ้าของเบอร์ในเวลานี้กำลังยุ่งติดพันอยู่กับหญิงสาวคนหนึ่ง
ความคิดเห็น