คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Round 4 - ป่วย (100%)
Round 4 –
หลังจากเคาะประตูไปแล้ว เขาทำได้เพียงยืนกลั้นหายใจรอเจ้าของห้อง เขาต้องเช็ดเหงื่อจากฝามือกับกางเกง จะไม่ประหม่าขนาดนี้เลยถ้ามาเคาะห้องเพื่อจะหาเรื่องต่อยตี แต่นี่….มาขอเป็นน้องเทค ไอ้แทนจะทำหน้ายังไง เขาก็ลุ้นอยู่เหมือนกัน
ทำไมช้าจังวะ….
“เชี่ย!” มังกรสถบเบาๆ ลืมไปเลยว่านี่มันเลยเที่ยงคืนแล้ว ไอ้แทนคงจะนอนหลับปุ๋ยฝันว่าได้บีบคอเขาให้หายแค้นแล้วมั้ง แล้วยิ่ง…ถ้ามันตื่นมาเพราะเขามารบกวนเวลานอนละก็…เกิดศึกแน่!
ผ่านไปไม่กี่อึดใจมังกรก็ได้ยินเสียงคนเคลื่อนไหวหลังบานประตู มังกรเริ่มกระสับกระส่าย เขาหวั่นวิตกแล้วจริงๆ ถ้าจะแลกหมัดกันตอนนี้เขาไม่ใช่แค่เละนะ…จัดว่าศพไม่สวยแน่ๆ สภาพเขาตอนนี้ทั้งเหนื่อย ทั้งล้า ทำท่าจะไม่สบายอยู่รอมร่อ งานนี้คงต้องนอนเป็นกระสอบทราย
ทันทีที่ประตูเปิดออก เผยร่างเจ้าของห้องที่ตอนนี้มีแค่ผ้าขนหนูลายโดราเอมอนพันรอบเอว มือหนึ่งจับลูกบิด อีกมือเอาผ้าเช็ดหัวยีหัวที่เปียกชื้น แทนไม่ได้ดูตาแมวด้วยซ้ำเพราะรีบจัด ตัวก็ยังไม่เช็ดเลย พอแทนเงยหน้ามาเจอผู้มาเยือนเท่านั้นแหละ
“ไอ้มังกร!!” แทนพูดเสียงกราดเกรี้ยว อารมณ์ดีๆเพราะได้แช่น้ำหายวับ
“มึง! ฟังกูก่อน” มังกรยกมือขึ้นสองข้างเพื่อจะบอก ‘ผมมาอย่างสันติ’ แต่เจ้าของห้องไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น ทิ้งผ้าเช็ดหัวลงพื้น ผมยังเปียกน้ำยังหยดติ๋งๆ แต่แทนก็ไม่สนใจอีกแล้ว เขาคว้าหมับที่ข้อมือทั้งสองข้างของมังกรแล้วฉุดเข้ามาในห้อง
ปัง!!
แทนใช้เท้าถีบประตูให้ปิด ถ้ายกเท้าไปกดล็อคประตูได้คงทำไปแล้ว
“เฮ้ยยยย ไอ้เชี่ยแทน มึงปล่อยกูก่อน!!” เหมือนฉากในละครไม่มีผิด ตัวร้ายกำลังจะข่มขืนนางเอก เอ้ย! มันควรจะเป็นคนร้ายกับพระเอกสู้กันไม่ใช่หรอ! มังกรเริ่มสติหลุด
“กูจะปล่อยให้มึงมาต่อยกูฟรีอีกหรอ ฝันไปเถอะ คืนนี้ถ้ากูไม่ได้เอาเลือดออกจากปากมึงนะ มึงไม่ต้องกลับห้อง!” มังกรอยากจะกรี๊ด อยากให้ชะนีมาสิงร่างเขาตอนนี้เลย ดวงจิตไม่อยากรับรู้อะไรแล้ว ยิ่งเหลือบไปเห็น six packs ไอ้แทนแล้วใจแป้ว นอกจากเขาจะไม่มีกล้ามหน้าท้องแน่นๆแบบนั้นแล้ว ร่างกายยังพังอีก ไม่เคยแพ้แบบลูกหมาขนาดนี้มาก่อน
เป็นคนขอโทษก่อนมันไม่ได้หมายความว่าจะเป็นผู้แพ้นะ
“ไอ้แทนกูขอ…” โทษ…..
ผัวะ!!!!
ยังไม่ทันจะพูดจบ แทนก็สวนหมัดมาเต็มเบ้าหน้า มังกรมึนไปหลายวินาที แทนใช้มือซ้ายรวมข้อมือทั้งสองข้างเขาไว้ อีกข้างไว้ต่อยล้วนๆ
มังกรไม่ได้อยู่เฉย เขาพยายามสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุม แต่ไม่เป็นผล พลังกำลังของเขาลดลงไปมากเพราะซ้อมหนักและร่างกายก็อ่อนแอ
นี่ยังต้องมาเสียโฉมอีก….
เรื่องอะไรจะยอมเป็นฝ่ายถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวล่ะ
มังกรใช้ขายันหน้าแข้งอีกฝ่ายหวังจะให้แทนเข่าอ่อน แต่ไม่เป็นผล ไม่รู้เพราะเขาออกแรงน้อยไปหรือแทนแข็งแรงเกินไปกันแน่ แต่อีกฝ่ายก็เสียสมาธิทำให้มังกรสะบัดข้อมือหลุดจนได้ แต่ตัวเองดันเซจนเกือบล้ม ได้แทนช่วยคว้าคอเสื้อไว้ แทนออกแรงกระชาก จนเขาจนถลาไปตามแรง ใบหน้าทั้งคู่อยู่ใกล้กันไม่ถึงเซนติเมตร จนสังเกตเห็นรอยที่เขาฝากไว้ที่มุมปาก มังกรหายใจหอบหายใจหนัก เลือดกบปาก
“มีแรงแค่นี้หรือไง ไอ้อ่อน!”
ผัวะ!!!
ยังไม่สาแก่ใจ แทนซัดไปอีกหมัด แทนปล่อยคอเสื้อเขาเป็นอิสระ แต่มังกรไม่มีเรี่ยวแรงจะยืนอีกต่อไปแล้ว เขาล้มลงไปกองกับพื้น สติสัมปชัญญะเริ่มเลือนราง เขาค่อยๆเงยหน้ามองคู่อริ ที่ยืนมองเขาด้วยแววตาสมเพช
“ไอ้แทน…คือกู…” เขาพยายามจะเปล่งเสียงแต่เจ็บริมฝีปากเหลือเกิน มังกรพยายามจะยันตัวเองให้ลุกขึ้นแต่ไม่เป็นผล เขาหมดสภาพแล้วจริงๆ เป็นครั้งแรกในชีวิตจริงๆที่เขาอยากจะร้องไห้ออกมา แม้จะอยู่ต่อหน้าคนที่เขา ‘เกลียด’ มากที่สุดก็ตาม
“กูต่อยมึงคืนสองหมัดแล้ว ถือว่าหายกัน กลับห้องไปได้แล้ว อย่าให้เลือดมึงเปื้อนพื้นห้องกูนะ!!” แทนตวาดก่อนจะใช้เท้าเตะเข้าที่หน้าท้องอีกฝ่ายเต็มแรง จนอีกฝ่ายจุกแทบกระอัก เขางอตังอย่างเจ็บปวดก่อนจะนอนคว่ำ เอาหน้าแนบพื้นไม้ปาเก้เย็นๆ ไม่อยากให้คนที่ยืนอยู่เห็นหน้าเขาตอนที่อ่อนแอ…
และคำขอโทษที่อยากจะเอ่ยก็ถูกกลืนลงคอไปหมด….
“เอ้า! ยังไม่ลุกอีก อยากโดนกูกระทืบหรือไง” แทนเย้ย
น่าสมเพชชะมัด คิดว่าจะแน่…. แทนยิ้มเหยียดอย่างผู้ชนะ แต่คนที่นอนอยู่บนพื้นกลับนิ่งไม่ไหวติ่ง
“ไอ้มังกร!! ลุกขึ้นได้แล้ว!!” แทนตะโกนเรียก พลางใช้เท้าเขี่ยต้นขาอีกฝ่าย
มังกรยังคงนอนนิ่ง
“เห้ย! ไอ้มังกร ไม่ตลกนะเว้ย” แทนเริ่มใจไม่ดี เขารีบวิ่งไปใส่ชุดนอนให้เรียบร้อย ผมก็ยังไม่แห้งแต่ไม่มีกะจิตกะใจจะมาเป่าแห้งตอนนี้ ก่อนจะรีบมาดูอาการคู่อริ
เขาจับมังกรพลิกหงาย พบว่าอีกฝ่ายสลบไปแล้ว!
แทนเบิกตาโพล่ง รีบวัดชีพจรที่ข้อมือ ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอกเพราะมังกรยังไม่ตาย
แต่สภาพเบ้าหน้านี่ ไม่ไหวจะเคลียร์ ปากก็ซีดเหมือนขึ้นอืดไปแล้ว
แทนลองให้หลังมือทาบบนหน้าผากอีกฝ่าย พบว่าตัวรุมๆเหมือนจะเป็นไข้ ความรู้สึกผิดกระแทกเข้าหน้าเต็มๆ
นี่เขาทำร้ายร่างกายคนป่วยหรอ?
“ไอ้งั่งเอ๊ย ทำไมไม่บอกว่าป่วยอยู่วะ….เออ ลืมไป กูไม่ฟังเอง ขอ…” แทนชะงัก
เขากำลังจะพูดว่า ‘ขอโทษ’ งั้นหรอ ?
แทนกัดริมฝีปากอย่างหงุดหงิด
“กูขอโทษ กูน่าจะฟังมึงพูดก่อน” เขาตัดสินใจพูดออกไป เสียงอ่อนลงมาก เขาคงไม่เสียหน้าเท่าไหร่หรอกมั้ง เพราะอีกฝ่ายไม่มีสติ
แทนค่อยๆพยุงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น
“อื้อ” มังกรขมวดคิ้ว สงสัยหงุดหงิดที่ถูกรบกวนการนอน แต่ก็ยังไม่ลืมตาอยู่ดี
“มึงสลบหรือหลับตายกันแน่วะ” แทนบ่นอุบ เขายึดเอวอีกฝ่ายไว้และเอาแขนอีกฝ่ายขวามาพาดไหล่ พยุงพาไปที่เตียง มังกรไม่ขยับตัวแม้แต่น้อย หัวห้อยโตงเตง ตัวอ่อนเปลี้ย แทนต้องก้าวยาวๆทีละก้าว เสียงผิวหนังที่เท้าเสียดสีกับพื้นไม้ดึง ปื้ด ปื้ด
“ตัวหนักชิบ ตื่นมาเดินก่อนแล้วค่อยนอนต่อไม่ได้หรือไง”
คนป่วยไม่ตอบสนองอะไรทั้งสิ้น ไอร้อนของพิษไข้ของมังกรส่งผ่านถึงแทน ความรู้สึกผิดยิ่งท้วมท้น
พอวางคนป่วยลงบนเตียงได้ แทนถึงกับถอนหายใจยาว มองคนที่นอนไม่ได้สติด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
ทั้งรู้สึกผิด ทั้งสงสาร ทั้งสมเพช ทั้งสะใจในคราวเดียวกัน แต่ไอ้ความรู้สึกหลังมันค่อยๆหายไปเสียแล้ว เขาจำได้ว่าเจ้าตัวมาเคาะห้องแล้วกำลังจะพูดอะไรซักอย่าง แต่เขาไม่ฟังซักนิด สวนหมัดไปลูกเดียว
“เฮ้อ…” แทนเกาหัวอย่างหงุดหงิด คืนนี้คงต้องให้มังกรนอนที่นี่ แทนตัดสินใจ ก่อนจะเดินไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลที่ซื้อมาเมื่อวันศุกร์
ทันทีที่ผิวหนังโดนแอลกอฮอลล์ ความเจ็บแสบแล่นปราดถึงสมอง มังกรถึงกับสะดุ้งตื่น
“โอ้ย!!” เขาโผงกหัวขึ้นมา แทนสะดุ้งเฮือก บทจะตื่นก็ตื่นเนอะ
“อยู่นิ่งๆดิ” แทนกดไหล่ให้เขานอนลงอย่างเดิม แต่คนป่วยปัดมืออกอย่างรวดเร็ว
“ไม่ต้อง กูจะกลับห้อง” มังกรว่า พลางพยายามยันตัวให้ลุกขึ้น แต่ก็ลุกไม่ไหว ปวดระบมไปทั้งหน้าทั้งหน้าท้อง แถมยังรู้สึกตื้อไปหมดเหมือนจะเป็นไข้
“ทำแผลก่อน” แทนพูดเรียบๆ ก่อนจะเอาสำลีชุบแอลกอฮอลล์แตะไปที่แผลอีกฝ่ายอีกรอบ แต่ก็ถูกปัดออกจนสำลีหล่นพื้น
“กูบอกว่าไม่ต้อง!!!” มังกรขึ้นเสียงอย่างโมโห แต่เสียงที่เปล่งนั้นอ่อนแอเหลือเกิน จนแทนทั้งสงสารทั้งหมั่นไส้ พูดจาไม่ดูสังขารตัวเองเลย ถ้าไม่ติดว่าเขาต้องรับผิดชอบนะ เขาได้ต่อยอีกฝ่ายอีกรอบแน่ กวนโมโหได้ตลอดจริงๆ
“ถ้ามึงยังไม่ให้ความร่วมมือ กูจะเสยคางมึงให้สลบอีกรอบ คราวนี้ให้หลับยันเช้าเลยเอามั้ย?!!”
ได้ผล….. คนป่วยนิ่งไปหลายวิ กรอกตาไปมา ก่อนจะตอบโต้
“ก็เอาสิ ต่อยกูให้สลบแล้วจับโยนลงระเบียงไปเลยสูงขนาดนี้ คงตายสมใจอยากมึงแน่”
แทนสูดหายใจลึกๆก่อนจะพ่นลมออกมาเพื่อสะกดอารมณ์ตัวเอง ก่อนจะทำแบบที่อีกฝ่ายว่าจริงๆ
“อย่าดื้อ…ความอดทนกูต่ำ” แทนพูดเสียงเย็น ก่อนจะบีบไหล่มังกรจนต้องสูดปาก
“ไอ้…!!” คำพูดขาดห้วงไปทันทีเพราะแทนบีบแรงยิ่งขึ้น จนเขาเจ็บ
“อยู่”
“นิ่งๆ”
แทนพูดช้าๆ ชัดๆ จ้องตามังกรเขม็งเป็นเชิงขู่ จนมังกรต้องเป็นฝ่ายหลบตา
เขาไม่ชอบสายตาคู่นี้เลย…มันทำให้เขารู้สึกเหมือนจมอยู่ใต้มหาสมุทรหาทางขึ้นสู่ผิวน้ำไม่ได้ เดาไม่ได้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่ ยกเว้นตอนอีกฝ่ายโมโห แววตาจะดุดันชัดเจน
“ดีมาก” แทนยิ้มเหยียดอย่างผู้ชนะ แต่น้ำเสียงกลับขบขัน ก่อนจะเอาสำลีก้อนใหม่ชุบแอลกอฮอลล์ไปแตะแผลมังกรอีกครั้ง มังกรสูดปากอย่างเจ็บแสบ น้ำตาแทบไหล แทนพยายามแตะให้เบาที่สุด
“สรุป มึงมีอะไรจะพูดกับกู” แทนพูดทำลายความเงียบ
“เปล่า” มังกรตอบทันที จ้างให้เขาก็ไม่พูดเรื่องนั้นแน่ๆ โกรธ!
“อ้าว ไอนี่ แล้วมึงจะมาห้องกูหาลำแสงอะไรไม่ทราบ”
มังกรอึกอัก หาข้ออ้างไม่ได้ เพราะปกติก็ไม่คิดจะปฎิสัมพันธ์อะไรกันอยู่แล้ว
“ว่าไง ตกลงมาทำไม อย่าบอกว่ามาให้กูต่อย” แทนคาดคั้น แทนชักหงุดหงิดที่อีกฝ่ายอึกอักอยู่นาน
“เออ…มึงเชื่อแบบนั้นก็ได้ เจ๊ากัน”
“เอาดีๆ มึงมาทำไม”
มังกรจิ๊ปากอย่างขัดใจ จะคั้นอะไรนักหนา แทนเห็นท่าทีคนตรงหน้าแล้วชักรำคาญ
“ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก เดี๋ยวกินยาแล้วเช็ดตัวนะ”
“เห้ย ไม่เอา!!” มังกรร้องเสียงหลง
“ไอ้นู่นก็ไม่เอา ไอ้นี่ก็ไม่เอา มึงจะเอายังไง” แทนเริ่มมีน้ำโห เรื่องมากไม่ดูสารรูปตัวเองเลย
“เดี๋ยวกู….กินยาแล้วกลับห้องเลยดีกว่า ไม่อยากรบกวนมึง” มังกรพูดเสียงแผ่ว
“หึ” แทนแค่นหัวเราะก่อนจะพูดต่อ
“ถ้ามึงกลัวจะต้องเป็นหนี้บุญคุณกูนะ…บอกเลยว่าครั้งนี้กูไม่ถือว่ามึงติดหนี้อะไรกูทั้งนั้น” แทนเกลี้ยกล่อม
“อีกอย่าง…กูวู่วามเองด้วย แทนที่จะฟังมึงพูดก่อน….ขอโทษนะ”
มังกรเบิกตาโพล่ง อยากจะแคะขี้หูแล้วขอฟังอีกรอบ !!
“มึง…พูดว่า…” มังกรทำหน้าไม่เชื่อ แทนถอนหายใจเซ็งๆ ก่อนจะย้ำอีกครั้ง
“กูขอโทษ”
เขาเองก็ควรขอโทษอีกฝ่ายเหมือนกัน… แต่แทนพูดขัดขึ้นมาเสียก่อน
“กูขอโทษเพราะกูยอมรับว่ากูผิดจริงและกูก็จะรับผิดชอบด้วย ไม่ได้หมายความว่ากูจะให้อภัยมึง หรือเลิกเกลียดมึงนะ อย่าเข้าใจผิด”
“อืม รู้” มังกรตอบรับสั้นๆ หน้าชาไปนิดหนึ่ง
นั่นสินะ…นี่เขากำลังคาดหวังอะไรอยู่ ที่แทนพูดมันก็ถูกแล้ว
“เดี๋ยวกูไปเอายาแก้ไข้มาให้นะ” แทนว่าพลางลุกขึ้นเดินปร๋อไปข้างนอกห้องนอน ซักพักก็เดินกลับเข้ามาพร้อมกับกะละมังที่มีน้ำอุ่นอยู่และผ้าขนหนูผืนเล็ก แทนวางกะละมังไว้ที่พื้นก่อนจะเดินไปหยิบยาในลิ้นชักใต้ทีวี เดินไปเอาน้ำเปล่า มังกรมองคนที่ทำร้ายร่างกายตัวเองเดินวนไปมารอบห้อง ช่างให้ความรู้สึกที่หลากหลายดีแท้ เมื่อกี้จะฆ่าเขาอยู่เลย ตอนนี้มาเป็นพยาบาลให้ซะงั้น ความรู้สึกที่มีในตอนนี้ตีกันไปหมด
ใช่…เขาโกรธมากที่แทนไม่ยอมรับฟังอะไรเลย ไม่สิ…แทนไม่เคยฟังเขาเลยต่างหาก
แต่ที่อุตส่าห์เอ่ยปากขอโทษก่อน ก็ทำให้กำแพงที่ทั้งสูงทั้งหนาเริ่มร้าวเหมือนกัน
แต่ก็นั่นแหละ เพราะแทนเป็นคนมีความรับผิดชอบสูง ทำไมเขาจะไม่รู้ อะไรที่เขาทำผิด เขาก็ยอมรับว่าตัวเองผิดและพยายามแก้ไข
มันไม่ได้มาจากใจหรอก….
คิดได้อย่างนั้น มังกรก็ต้องนั่งเป็นคนป่วยต่อไป ในเมื่อเจ้าตัวบอกว่าไม่ถือเป็นบุญคุณ เขาก็ขี้คร้านจะเถียงต่อ มังกรถือโอกาสสำรวจห้อง สังเกตว่ามันสะอาดผิดปกติ เหมือนเพิ่งมีแม่บ้านมาทำความสะอาด ผนังห้องนอนเต็มไปด้วยโปสเตอร์นักร้องต่างประเทศ ที่เด่นสะดุดตาผิดแปลกไปจากกลุ่มคือโปสเตอร์นักร้องบอยแบนด์ขวัญใจสาวๆ
ไอ้แทนชอบแนวนี้ด้วยหรอ?
“อะ…กินยาซะ แล้วเดี๋ยวนอนราบเลยนะ จะเช็ดตัวให้”
“เห้ย ไม่ต้อง เดี๋ยวกูเช็ดเอง”
“มีแรงเรอะ”
“มะ…มีดิ” มังกรชักไม่แน่ใจ
“หน้าซีดปากซีดอย่างกับศพขึ้นอืดขนาดนี้ ยังจะฝืนอีก ก็กูบอกแล้วไงว่าไม่ถือว่าเป็นบุญคุณ”
ได้ทีแล้วแขวะกูใหญ่เลยนะ ไอ้เวร! มังกรด่าในใจ ขืนเปล่งคำพูดออกมามีหวังโดนเสยคางสลบอย่างที่โดนขู่ไว้จริงๆ
“หรือมึงเขินกู?”
“ไม่ใช่เว้ย ตามใจมึงแล้วกัน อยากทำอะไรก็ทำ” มังกรยอมแพ้ ขืนเล่นสงครามน้ำลายต่อมีแต่เขานี่แหละจะเสียเปรียบ
“งั้นก็ถอดเสื้อ” แทนสั่ง มังกรทำตามอย่างว่าง่าย เขาค่อยๆปลดกระดุมทีละเม็ดอย่างช้าๆเพราะไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง ดูเหมือนเจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าตัวเองช้า แทนนั่งดูแล้วขัดใจ เลยย้ายไปนั่งบนเตียงด้วย
“มานี่ กูถอดให้ ชักช้าจริงมึงนี่” ยังไม่ทันที่มังกรจะอนุญาต แทนก็ดึงข้อมึงเขาออกแล้วจัดการปลดเอง
“เห้ย” มังกรพยายามจะต่อต้าน แต่ถูกอีกฝ่ายดุด้วยสายตา เขาจึงยอมอยู่นิ่งๆ ไม่กล้าพูดอะไรอีก
ไม่รู้ทำไมถึงต้องเกร็งขนาดนี้…
แทนปลดกระดุมทุกเม็ดอย่างรวดเร็ว ติดจะลนๆด้วยซ้ำ เขาแอบกลืนน้ำลายดังเอื๊อกอย่างไม่มีเหตุผล เขาคิดว่าอาจเพราะตั้งแต่เกิดมา นี่ครั้งแรกที่มาถอดเสื้อให้ผู้ชาย ปกติถอดแต่เสื้อผู้หญิง…
แต่ถอดให้ผู้ชายด้วยกันมันควรจะไม่ตื่นเต้นไม่ใช่หรือไง!!
พอปลดกระดุมครบทุกเม็ด แทนก็ต้องเหงื่อผุดอีกครั้ง มันต้องถอดกางเกงด้วยนี่หว่า!
“เอ่อ…มึงมีแรงพอจะถอดกางเกงเองใช่มั้ย” แทนถาม
“อือ” มังกรพยักหน้า ก่อนจะปลดเข็มขัด และค่อยๆรูดซิปกางเกง เผยให้เห็นบ็อกเซอรสีสด
แทนช่วยดึงกางเกงออกให้ เพราะไม่อยากให้มังกรขยับร่างกายมากนัก ยิ่งรูดกางเกงลง มังกรยิ่งหน้าแดง
ก็วันนี้เขาดันใส่บ็อกเซอร์ลายหมีพูห์มาน่ะสิ!!
“มึงห้ามหัวเราะนะ” มังกรขู่ เพราะแทนกำลังกลั้นขำ
“ทำไมหมีมันแปะอยู่ตรงกลางเป้ามึงพอดีเลยวะ” แทนถาม พยายามกลั้นหัวเราะสุดชีวิต
“ไปถามคนผลิตสิ” มังกรตอบเสียงห้วน แทนได้แต่อมยิ้ม ไม่พูดอะไรต่อ
ในที่สุดร่างเขาก็เหลือแต่บ็อกเซอร์ลายหมีพูห์ ตัวนี้มันเป็นของขวัญวันเกิดจากพี่ชายบังเกิดเกล้าของเขาเอง ที่ไม่รู้จะซื้ออะไรให้ก็เลยคว้าๆบ็อกเซอร์ในตลาดมาสิบกว่าตัว แต่ละตัวก็ลายประหลาดๆแบบนี้แหละ
แทนถือวิสาสะสำรวจเรือนร่างศัตรู แม้มังกรจะเพรียวบางกว่าเขาเล็กน้อย แต่ก็ยังมีมัดกล้าม คงออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ไม่ได้ออกหนักหน่วงเหมือนพวกเล่นกล้าม ผิวมังกรก็ไม่ได้ขาวซีด แต่เป็นขาวอมชมพูเหมือนผิวเด็กมากกว่า แม้ตรงแขนจะกร้านแดดไปนิด
“นอนเฉยๆ เดี๋ยวกูทำให้”
มังกรตาโตกับคำพูดสองแง่สองง่ามของแทน แต่คนพูดกลับไม่รู้สึกอะไร ก้มไปยกกะละมังมาวางบนเตียง เอาผ้าชุบน้ำหน้าตาเฉย
พิษไข้นี่มันอันตรายกว่าที่คิดจริงๆ มังกรสรุป
แทนเขยิบมาใกล้กว่าเดิม แล้วยกแขนขวาของมังกรขึ้นมา ก่อนจะลูบไปทั่วแขน
มังกรเหนื่อยล้าเต็มที พอได้น้ำอุ่นๆมาโดนตัวทำให้ผ่อนคลาย ซักพักก็เผลอหลับไปโดยที่ไม่รู้ตัว
“สบายเลยนะมึง” แทนแซวอย่างหมั่นไส้ แต่คนที่นอนอยู่ไม่รับรู้อะไรแล้ว แถมยังมีเสียงกรนเบาๆอีก
“ตอนมึงหลับนี่น่าคบกว่าตอนตื่นเยอะ”
เห็นสีหน้าอิดโรยของศัตรูก็อดสงสารไม่ได้ พอได้ต่อยจนสาแก่ใจแล้วก็พึ่งมาคิดได้ ว่าตัวเขาเองก็วู่วามเกินไป ปากกับหมัดชอบไปไวกว่าสมอง เขาเลยไม่รู้เลยว่าเจ้าตัวมาหาเขาเพราะอะไร เขาเดาว่ามันต้องสำคัญแน่ เพราะไม่อย่างนั้น จ้างให้คนตรงหน้าก็ไม่มีวันมาเคาะประตูแน่ๆ
แทนกลืนน้ำลายอีกรอบตอนที่ต้องเช็ดบริเวณต้นขา ไม่รู้ทำไมต้องตื่นเต้นด้วย ก็แค่ขาขาวๆของผู้ชาย
“ใจร่มๆดิไอ้แทน มึงเป็นบ้าอะไรเนี่ย” แทนพึมพำกับตัวเอง
กว่าจะเช็ดตัวให้มังกรเสร็จเล่นเอาเหงื่อออก
ตอนเช็ดตัวให้อาม่าไม่เห็นตื่นเต้นแบบนี้เลย!!
แทนเดินไปหยิบชุดนอนมาใส่ให้มังกร ท่าทางจะหลับลึกจริงๆ ขนาดเขาจับยกตัวขึ้นยังไม่รู้สึกตัว อย่าถามว่าทำไมชำนาญ เพราะอาม่าเขาเคยไม่สบายหนัก ไม่มีเรี่ยวแรง เขานี่แหละที่คอยดูแลปรนนิบัติท่านไม่เคยขาด กะอีแค่ผู้ชายคนเดียว สบายมาก
แทนจัดการเร่งแอร์ให้ร้อนขึ้น ห่มผ้าให้มังกร ปิดไฟห้องนอน ส่วนเขาก็ไปนอนโซฟาข้างนอก เรื่องอะไรจะไปนอนเตียงเดียวกันละ เดี๋ยวก็ติดไข้กันพอดี
08.00 น.
มังกรลืมตาตื่นขึ้นเพราะเสียงก๊องแก๊งในครัว ผสมกับเสียงเพลงวง One direction ดังสนั่นห้อง ไข้ของเขาลดลงมากจนตอนนี้รู้สึกสบายตัวสุด ๆ แม้จะปวดหัวตุบๆนิดหน่อย แต่ถือว่าดีกว่าเมื่อคืน ตอนแรกยังงงๆว่าเขามานอนทำอะไรตรงนี้ ก่อนจะนึกขึ้นได้
เมื่อคืนเขานอนห้องแทนนี่หว่า
มังกรไม่แน่ใจว่าเพลงที่เล่นอยู่คือเพลงอะไร แต่เขาเคยฟังตามวิทยุหรือพวก MTV แน่ๆ
รสนิยมไม่เข้ากับใบหน้าเลยจริงๆ!
มังกรตามกลิ่นหอมๆไปถึงในครัวเล็กๆ เห็นแทนกำลังต้มข้าวต้มอยู่ ร้องคลอตามเพลงไปด้วย ท่าทางอารมณ์ดีสุดๆ ซึ่งตั้งแต่เกิดมามังกรก็เพิ่งเคยเห็นแทนในโหมดนี้
“อ้าวตื่นแล้วหรอ กินข้าวต้มก่อนดิ เรียนกี่โมงวะ”
“กูเรียนบ่ายว่ะวันนี้” มังกรตอบเสียงง่วงๆ สติยังมาไม่เต็มร้อย
“เออดีละๆ”
“ปกติมึงตื่นตั้งแต่ไก่โห่มาทำอาหารเช้าทุกวันเลยหรอวะ” มังกรถาม
“เอ่อ…ใช่ๆ กูขาดมื้อเช้าไม่ได้ว่ะ เล่นกีฬาบ่อยก็ต้องดูแลตัวเอง” ใช่ที่ไหนละ…
ในที่สุด ข้าวต้มหมูสับก็มาเสิร์ฟถึงโต๊ะกินข้าว มังกรตัดสินใจจะพูดเรื่องพี่เทค แต่ส่วนที่ยากคือ…
เขาเอาเหตุผลอะไรมาอ้างดี
“เอ่อ มึง…” มังกรตัดสินใจแล้ว ยังไงเขาก็ต้องขอ ชะตากรรมของทั้งรุ่นอยู่ในมือเขา
“หือ?”
“ที่กูมาหามึงเมื่อคืนอะ…” มังกรเกริ่น แทนตั้งใจฟังทันที ในที่สุดก็ยอมบอกแล้วสินะ
“กูจะมาขอโทษมึงเรื่องที่กูต่อยมึง…”
“อ๋อ” แทนพยักหน้าเข้าใจ
“กูขอโทษนะ กูไม่น่าใจร้อนเลย”
“เออ ถือว่าเจ๊ากันแล้วไง” แทนพูดกลบเกลื่อน ในใจเขากระตุกวูบพอได้ยินคำขอโทษจากอีกฝ่าย สรุปคนที่ยอมลดทิฐิก่อนก็คือมังกร แต่เขาดันไม่ฟังแต่แรก
“เออแล้วอีกเรื่อง…” มังกรเว้นจังหวะ เพราะลังเลว่าจะพูดดีมั้ย จนแทนพนักหน้าให้พูดต่อเร็วๆ เขาจึงตัดสินใจพูดออกไป
“กูจะมาขอเป็นน้องเทคมึง”
“แค่กๆๆๆ!! มึงว่าอะไรนะ แค่กๆ” แทนถึงกับสำลักข้าวต้มหมู
“มึงเป็นพี่เทคกูได้ปะ” มังกรทวนคำถามซ้ำ ท้องไส้เริ่มปั่นป่วน เพราะสีหน้าแทนเริ่มเปลี่ยน กลับมานิ่งเหมือนก่อนหน้านี้
“มึงล้อกูเล่นใช่มั้ย”
“กูเปล่า กูพูดจริงๆ”
แทนทุบโต๊ะดังปัง! แล้วลุกขึ้นยืน
“แล้วไอ้ที่มาหากูเมื่อคืน มึงรู้อยู่แล้วใช่มั้ยว่ากูต้องต่อยมึงกลับ มึงไม่สบายแต่มึงก็ยอมให้กูทำร้ายมึง มึงจะได้ขอกูเป็นพี่เทคโดยที่กูปฎิเสธมึงไม่ลง อย่างนี้ใช่มั้ย!!!”
มังกรอ้าปากค้าง ไอ้แทนคิดอะไรได้เป็นเรื่องเป็นราวจนเขาอึ้ง คิดได้ไงฟร่ะ!
“ไปกันใหญ่แล้วไอ้แทน เมื่อคืนที่กูมาหามึง….” มังกรพยายามใจเย็นที่สุดแต่แทนเดือดแล้ว
“มึงทำแบบนี้ทำไมวะ กูไม่น่าช่วยมึงเลย!”
“กูหาพี่รหัสไม่เจอ เห็นคนอื่นมีพี่เทคกูก็อยากมีบ้าง” มังกรโกหก เขาแค่ยังไม่รู้ว่าพี่รหัสเขาคนไหน
“แล้วทำไมต้องเป็นกูด้วย มึงมีแผนอะไรอีก”
“กูไม่ได้มีแผนอะไรทั้งนั้น!! กูแค่อยากขอโทษมึง แล้วกูก็อยากผูกมิตรกับมึง…” เป็นเหตุผลที่โง่ที่สุดในโลก มังกรคิด แทนคงเชื่ออยู่หรอก แต่เขาหาเหตุผลอื่นมาไม่ได้แล้วจริงๆ
“โกหก! หน้าอย่างมึงเนี่ยนะอยากผูกมิตรกับกู เหอะ! แต่ต่อให้มึงอยากจริง กูก็ไม่สน เพราะกูไม่ได้อยากผูกมิตรกับมึงเลยซักนิด กูขอย้ำอีกรอบนะ เรื่องเมื่อคืน กูก็แค่รับผิดชอบการกระทำของกู กรุณาอย่าสำคัญตัวผิด มึงออกไปจากห้องกูเดี๋ยวนี้”
มังกรหน้าชาและโมโหจนอยากจะต่อยคนตรงหน้าอีกรอบ แต่เขาเหนื่อย เหนื่อยกับการต่อสู้บ้าๆนี่เต็มทน
มันคงเป็นเวรกรรมของเขา….
เขาเคยทำให้แทนเจ็บเพราะไปแย่งบลู
พอตอนที่เขาลดทิฐิลงได้ อยากจะแก้ไข เบื้องบนกลับไม่ให้โอกาส
มังกรคิดว่าเขาน่าชดใช้กรรมไปหมดแล้วก่อนจะซิ่ว แต่ที่ไหนได้ กรรมมันยังไม่หมดและคราวนี้เขาก็ไม่คิดจะหนีอีกต่อไป
“เสื้อผ้ากับกระเป๋ามึงอยู่บนโซฟา เก็บข้าวของแล้วไสหัวไปได้แล้ว”
มังกรเดินไปเก็บเสื้อผ้าและกระเป๋า ก่อนจะเดินออกจากห้อง เขาพูดทิ้งท้าย
“เรื่องบลูน่ะ ไม่ได้มีมึงคนเดียวหรอกนะที่เสียใจ”
“เหอะ!!” แทนนั่งกุมขมับ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน แล้วที่มังกรพูดมันหมายความว่ายังไง เขาอยากจะเดินออกไปกระชากตัวอีกฝ่ายมาถาม แต่ในเมื่อออกปากไล่ซะขนาดนั้น เขาก็คงไม่มีหน้าไปเจออีกแล้ว
แทนทั้งโกรธทั้งเสียความรู้สึก ด้วยความที่มองอีกฝ่ายในแง่ร้ายมาตลอด ทำให้เขาสรุปได้ทันทีว่าอีกฝ่ายต้องเล่นไม่ซื่อ เรื่องเมื่อคืนคือแผนการที่วางไว้
แต่จุดประสงค์คืออะไร?
(40%)ต่อ
วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆ จนถึงวันนี้ คืนวันศุกร์ Deadline ของมังกร ใกล้เข้ามาทุกที
และเป็นโชคดีของมังกรเหลือเกินที่เขาไม่ได้เจอหน้าแทนเลย ทั้งที่คณะและที่คอนโด วันนี้แทนรับปากกับพี่อ๋องว่าจะไปช่วยร้องเพลง
เพราะที่ร้านขาดคนจริงๆ ก็ดีเหมือนกัน….ได้นั่งร้องเพลงสบายๆคลายเครียด
โชคดีอีกคือวันนี้งดซ้อมเพราะพี่ๆเห็นว่าเขาซ้อมหนักมาหลายวันแล้ว
งานก็คืบหน้าไปมาก
“เห้ย มึงอยู่ไหนเนี่ย กูจะขึ้นร้องแล้วนะ” มังกรโทรหาแก๊กที่สัญญาว่าจะมาให้กำลังใจ
“ใจเย็นๆ พวกกูอยู่หน้าร้านแล้วเนี่ย จองโต๊ะหน้าให้แล้วใช่ปะ”
ปลายเสียงตะโกนแข่งกับเสียงเพลงที่เปิดในร้าน แสดงว่าถึงแล้วจริงๆ
คุยไปคุยมา มังกรก็เจอเพื่อนๆของเขาเดินกันเข้ามา มังกรโบกมือเรียก
แม้แสงไฟในร้านจะสลัวๆแต่มังกรสังเกตว่าแก๊กยิ้มเจื่อนๆมาแต่ไกล
พอลองมองเพ่งไปข้างหน้าก็เข้าใจ!
กลุ่มไอ้แทนเดินตามหลังเพื่อนเขามา!
มังกรอยากจะกัดลิ้นตัวเองตายเสียตรงนี้ ไม่เจอมาเกือบทั้งสัปดาห์ ดันมาเจอวันนี้
ทำงานวันแรกเสียด้วย ดูเหมือนแทนจะรับรู้แล้วว่าต้องเจอกับเขาแน่ๆ
เพราะแทนทำท่าทางเกลี้ยกล่อมเพื่อนๆให้ไปหาที่ไกลๆ แต่ไม่เป็นผล
ทุกคนพร้อมใจกันนั่งโต๊ะใกล้ๆเวที ทำเลดีอีกโต๊ะหนึ่งใกล้ๆโต๊ะที่เขาจองให้เพื่อนๆ
มังกรกรอกตาอย่างหงุดหงิด กะจะมาร้องเพลงให้สบายใจซักหน่อย!
“เห้ยมึง อย่าเครียดเลย ทำเต็มที่โว้ย”
แก๊กเห็นมังกรยืนน่าเคร่งเครียดก็ตบบ่าให้กำลังใจ
พอจะดูออกว่าคงเซ็งเพราะเจอกลุ่มพี่แทนแน่ๆ
ส่วนพี่แทนก็ทำหน้าเหมือนอมขี้ตลอดเวลาตั้งแต่เจอหน้าเพื่อนเขา
“ขอบใจเว้ย” มังกรตอบยิ้มๆ
แปลกจริง…ปกติจะมีหรือไม่มีแทนเขาก็ไม่เคยตื่นเต้นเวลาจะร้องเพลงต่อหน้าฝูงชน
แต่คืนนี้เขารู้สึกประหม่า…เพราะแทน
“อะไรของกูวะเนี่ย” มังกรพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะขอตัวไปเตรียมตัวและ…เตรียมใจด้วย
มังกรเดินวนไปวนมาอยู่ข้างๆเวทีเพราะกังวลมาก จนเขาทนไม่ไหว
ตัดสินใจโทรหาพี่ชายบังเกิดเกล้าเพื่อเรียกความมั่นใจ
กดเบอร์ ‘เฮียเสือ’ ซักพัก ปลายสายก็รับ
เสียงหงุดหงิดเล็กน้อย
‘ว่าไง โทรมากวนดึกๆดื่นๆหวังว่าจะมีอะไรสำคัญจริงๆนะไอ้กะละมัง’
ชิบละ…ลืมไปเลยว่านี่มันห้าทุ่มกว่าแล้ว
“เฮีย คือกรกำลังจะขึ้นไปร้องเพลง ตื่นเต้นอะ ขอกำลังใจหน่อยดิ”
มังกรทำเสียงออดอ้อนที่คิดว่าน่าเอ็นดูที่สุดแล้ว
‘โว้ย ไอ้เด็กคนนี้ ร้องเพลงมาทั้งชีวิตจะตื่นเต้นอะไรอีก’
“ไม่รู้อะเฮีย อยู่ดีๆก็รู้สึกประหม่า กลัวคนไม่ประทับใจ”
‘เดี๋ยว…แกเล่นในผับเรอะ!!
เสียงดังเชียว’
“ร้านเหล้าน่ะเฮีย ไม่ใช่ผับ”
‘งั้นคิดซะว่าร้องให้ตัวเองฟังแล้วกัน อย่าโฟกัสคนดูสิ แค่นี้ต้องให้บอก
ต่อมความหน้าด้านแกหายไปไหนหมดหรือเพราะ…’
“ขอบคุณเฮียมาก โทรมาแค่นี้แหละ บาย”
มังกรกลัวเฮียเสือจะวกเข้าเรื่องมหาวิทยาลัยเก่าอีกเลยรีบตัดบท
ประกอบกับผู้ช่วยพี่อ๋องเดินมาหาเขาพอดี
“ขึ้นร้องได้เลยนะมังกร” มังกรพยักหน้า ก่อนจะก้าวขึ้นไปบนเวทีเตี้ยๆ
เพลงแรกที่เลือกคือ ‘อย่าทำเหมือนรักของ ETC’ พี่อ๋องเป็นคนเลือกรายการเพลง
ในรายการมีทั้งเพลงฮิตตลอดกาล เพลงใหม่มาแรง เพลงสากลดังๆซึ้งๆ
ซึ่งเขาร้องได้หมดแต่บางเพลงก็ไม่ได้แกะคอร์ดมา
พอดนตรีเบาๆแนว Acoustic ดังขึ้น แทนก็เงยหน้าจากหน้าจอมือถือ
เขาเซ็งตั้งแต่เห็นมังกรในร้านแล้ว กะจะมานั่งชิวให้หายฟุ้งซ่านเสียหน่อย
ดันมาเจอตัวต้นเหตุซะอย่างนั้น…
“รู้ว่าฉันใจอ่อนหรือไง ถึงได้ทำแบบนี้…รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่ดี
จะแกล้งจะทำทำไม”
เสียงทุ้มมีเสน่ห์ทำให้คนในร้านที่กำลังเม้ามอยอย่างสนุกสนานต้องหันมาทางเวทีเพื่อดูหน้านักร้อง
พอเห็นว่าเป็นใครเท่านั้นแหละ ทุกคนก็จับจ้องมาที่เขาทันที รวมถึงแทนด้วย…
มังกรอดไม่ได้ที่จะหันไปทางแทน และพบว่าเขากำลังจ้องมาเหมือนกัน มังกรรีบหันไปทางอื่นทันที
เพราะกลัวจะประหม่าไปมากกว่านี้
แทนจ้องมองคนที่อยู่บนเวทีไม่ละสายตา
เขายอมรับว่าเวลามังกรร้องเพลงแล้วมีเสน่ห์มาก เสียงของมังกรสะกดเขาให้ต้องฟัง
“จ้องขนาดนี้ ขึ้นไปแดกหัวมันเลยมั้ย” เสียงโย่งเรียกสติเขา
แทนหันไปถลึงตาใส่เพื่อน ที่หัวเราะสะใจ
“ไอ้เดือนนี่ร้องเพลงอย่างกับมืออาชีพเนอะ” มาร์คชม
“นั่นดิ แต่เสียงมีเอกลักษณ์ดีนะ แต่กูฟังแล้วไม่ได้เคลิ้มขนาดนั้น”
โย่งวิจารณ์บ้าง แน่อยู่แล้ว ผู้ชายส่วนใหญ่ก็คิดแบบนี้
เสียงของมังกรจะเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆมากกว่า
“จริงหรอวะ…” แทนพึมพำ ทำไมเขาคิดต่างจากโย่ง
ความรู้สึกเวลาที่ฟังมัน….สะกดใจแปลกๆ ก็นึกว่าคนอื่นก็รู้สึกเหมือนกัน!
“อย่าทำเหมือนรักถ้าเธอไม่คิดจะรัก แม้ถ้าเธอไม่คิดอะไร
รักไม่จริงก็โปรดหยุดไว้ก็ยังไม่สาย…”
แทนพยายามเลี่ยงไม่มองไปบนเวทีอีก ฟังแต่เสียงเอาแล้วกัน
เขามองไปรอบๆร้านเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจตัวเอง
แม้โสตประสาทจะมีแต่เสียงร้องของมังกรก็ตาม
“กูจะมาขอเป็นน้องเทคมึง”
จู่ๆก็คิดถึงเรื่องเมื่อตอนเช้าวันอังคาร
ตอนนั้นเขาทั้งโกรธทั้งเสียความรู้สึก อุตส่าห์ลดทิฐิในใจไปนิดนึงแล้วแท้ๆแต่มังกรก็ทำพังภายในไม่ถึงวันด้วยซ้ำ
แต่ลึกๆเขากลับรู้สึกผิด รู้สึกว่าเรื่องนี้มีเบื้องลึกเบื้องหลัง แต่เพราะเป็น ‘มังกร’ เขาจึงเลือกไม่สนใจเสียงเล็กๆในใจที่ค้านเขาตลอดเวลา
มังกรร้องต่ออีก 2-3 เพลง ก่อนจะลงจากเวทีเพื่อไปพัก แทนเห็นมังกรเดินออกไปนอกร้าน
มังกรรู้สึกประหม่าจนอึดอัด จนต้องออกมาสูดอากาศข้างนอก
ตรงลานจอดรถเงียบสงบต่างจากในร้านโดยสิ้นเชิง
เขาสัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าคืนนี้จะไม่แตะของมึนเมา แต่พอเห็นหน้าแทนแล้วชักลังเล
เพราะไอ้คำสั่งตายจากรุ่นพี่ก็ยังไม่บรรลุผล แทนเองก็อาฆาตเขาหนักกว่าเดิมอีก
เครียดจนอยากเอาเหล้ากระแทกปากเสียจริง…
“เห้ย!” เสียงร้องเรียกปริศนาจากด้านหลังดึงสติมังกร
เขาหันไปตามเสียง เจอผู้ชายกลุ่มหนึ่ง มีกัน 5 คน
เขาเดาว่าน่าจะเป็นเด็กปีหนึ่งวิศวะเหมือนกันเพราะคุ้นหน้าคุ้นตา
“ว่าไงครับ” มังกรถามอย่างสุภาพแม้อีกฝ่ายท่าทางพร้อมจะหาเรื่องเต็มที่
“มึงชื่อมังกรใช่มั้ย”
ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงกลางเหมือนจะเป็นหัวโจกถามอย่างเอาเรื่อง
“ใช่ มีอะไร” ในเมื่ออีกฝ่ายหยาบมา เขาก็ไม่จำเป็นต้องรักษามารยาท
“มึงใช่มั้ย ที่ไปต่อยกับรุ่นพี่จนพวกกูซวยกันหมด” มังกรชะงัก
พวกมันรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร ? พอเห็นมังกรไม่ตอบพวกมันก็ยิ้มเย๊าะ
ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
“หึ ก็ดี! กูเหม็นขี้หน้ามึงมานานแล้ว คิดว่าหล่อมากหรือไง”
“เออ หล่อกว่ามึงละกัน” ปากไวกว่าสมอง มังกรอยากจะตบปากตัวเองแรงๆ
ลืมไปว่าอยู่คนเดียวไม่มีพวก
“ปากดีนักนะมึง ขอเอาเลือดออกจากปากมึงหน่อยละกันวะ! เห้ย! พวกมึง ไปล็อคมันไว้ กูขอเปิดคนแรก”
ไอ้หัวโจกสั่ง พวกลูกสมุนก็วิ่งกรูกันเข้ามาล็อคแขนมังกรไว้คนละข้าง
ไอ้คนสั่งเห็นมังกรไร้ทางสู้จึงเริ่มเปิดเกม
ผัวะ!!
มันต่อยหน้าท้องเขาจนจุกแทบกระอัก ภาพวันที่ไปท้องแทนสะท้อนเข้ามาในหัว
ไม่ใช่แค่ภาพวันนั้นแต่เป็นเรื่องราวตั้งแต่เริ่มต้น ทุกอย่างมันส่งผลถึงปัจจุบัน
เขาโกรธตัวเอง โกรธบลู โกรธแทน โกรธทุกคนบนโลกใบนี้ มังกรแทบไม่ตอบโต้ ไม่ดิ้นรนขัดขืน
เขาปล่อยให้พวกมันต่อย เตะ จนตัวเองล้มลงไปกองกับพื้น เจ็บปวดไปทั้งร่างเพราะแผลเก่าก็ยังไม่หายสนิท
แต่ในหัวขาวโพลนไปหมด เขาเหนื่อยล้าเหลือเกิน
ก็สมควรแล้วนี่….คนเลวๆอย่างเขามันต้องแบบนี้ใช่หรอ มังกรคิด
ถ้านี่เป็นการลงโทษจากเบื้องบน เขาก็พร้อมยอมรับ เขาไม่หนีอีกแล้ว…
“คิดว่าจะแน่ อ่อนวะ!นี่หรอ คนที่ทำตัวเปรี้ยวไปมีเรื่องกับรุ่นพี่ เหอะ! กระจอก” ไอ้หัวโจกว่าพลางถมน้ำลายลงพื้น มังกรพยายามจะลุกขึ้น
แต่ถูกหนึ่งในกลุ่มนั้นถีบหน้าอกจนหงายท้องลงไปกับพื้นอีกรอบ
ก่อนที่พวกมันจะรุมเตะเขา มังกรพยายามเอาแขนกำบังไว้แต่ก็ไม่ช่วยอะไร
“เห้ย!! หยุดเดี๋ยวนี้!!!”
เสียงกราดเกรี้ยวดังขึ้น พวกมันหยุดชะงัก ฝาเท้าบางคนค้างอยู่กลางอากาศ
“พะ…พี่เคน!!!”
“เออ กูเอง ไอ้พวกเวร มึงทำอะไร” พี่เคนเดินกราดเข้ามาใกล้
พอเห็นร่างมังกรที่นอนอยู่บนพื้นเท่านั้น ใจหายวาบ รวมถึงไทยมุงที่วิ่งตามมาดูด้วย
“คะ…คือ” ไอ้หัวโจกถึงกับเสียงสั่น จังหวะนั้นเอง
มังกรพยายามลุกขึ้นยืนจนสำเร็จ พี่เคนรีบเดินไปประคองน้องสายรหัส
“ตอบมาสิวะ!!!”
“ก็มันทำให้พวกเราทั้งรุ่นซวยกันไปหมดครับพี่ พวกผมก็เมาๆด้วย
เห็นหน้ามะ…มัน เอ้ย มังกรแล้วโมโหครับ”
“แล้วพวกมึงรู้ได้ยังไง ว่าเป็นคนนี้ ใครบอกมึง พูดมาเดี๋ยวนี้” พี่เคนโกรธจนอยากหักกระดูกพวกมันให้แหลกแต่ควบคุมสติไว้
“คะ…คือ ผมเองก็จำไม่ได้ เขาพูดต่อมาอีกทีครับ”
“ไม่เชื่อ! พวกมึงบอกมาเดี๋ยวนี้ ก่อนที่กูจะหมดความอดทน!!” พี่เคนยื่นคำขาด พวกมันมองหน้าเลิกลัก แต่ยังไม่ทันจะตอบอะไร แทน โย่ง
มาร์ค และพวกแก๊กวิ่งมาเสียก่อน
“พี่เคน เกิดอะไรขึ้น…เห้ย!!”
แทนถึงกับร้องเสียงหลงพอเจอสภาพของมังกร แล้วหันไปมองพวกเด็กปีหนึ่งที่ยืนกัน 5
คน
หมาหมู่นี่หว่า…
“คืองี้แทน…” พี่เคนกำลังจะอธิบายเรื่องราวทั้งหมด
ทั้งเรื่องคำสั่งงี่เง่าที่เป็นแผนของกิ่งแก้วด้วย แต่มังกรร้องห้าม
“พี่เคนครับ” มังกรส่ายหน้า ไม่ต้องการให้พี่เคนพูดออกไป
พี่เคนรู้สึกลำบากใจ รู้สึกผิดด้วยที่เป็นต้นเหตุให้น้องเจ็บตัว อีกอย่าง
แทนต้องรับรู้เรื่องนี้
แต่พอเห็นสีหน้าจริงจังของมังกร เขาเลยต้องหุบปาก
แทนสังเกตอาการทั้งคู่ออก
“อะไร มีอะไรกันครับ พี่เคน” แทนคาดคั้น ตอนนี้เขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า
โกรธไอ้เด็กเวร 5 คนนั้น จนกำหมัดแน่น
พี่เคนตัดสินใจพูดความจริงเพียงบางส่วน
“คือ พวกมันเมา แล้วปกติก็ไม่ชอบขี้หน้าน้องมังกรอยู่แล้ว
ก็เลยมีเรื่องกัน” เคนตอบ 5 คนที่ว่าปิดปากเงียบเพราะเห็นว่ามังกรปฎิเสธที่จะพูดเรื่องคำสั่งของเฮดว้าก
อีกอย่าง ขืนพูดอะไรออกไปตอนนี้ พวกเขาเละกว่าเดิมแน่ๆ
แทนพยักหน้าเข้าใจ แต่ก็ยังสงสัยอยู่
ทำไมมังกรต้องห้ามพี่เคนไม่ให้พูดด้วย เหมือนปิดบังอะไรบางอย่าง
“พวกมึงจำไว้นะ ถ้าไม่มีรุ่นพี่ยืนอยู่ตรงนี้ พวกกูเล่นมึงกลับแน่
ลูกผู้ชายมากเลยนะมึง มารุมเพื่อนกู คอยดูนะ กูจะเอาเรื่องพวกมึงให้ถึงที่สุด”
แก๊กประกาศกร้าว พวกที่เหลือก็พร้อมจะเปิดศึกเหมือนกัน
“ช่างมันเถอะมึง ปล่อยแม่งไปเถอะ กูไม่เอาเรื่องหรอก”
มังกรพูดเสียงแผ่ว เพราะร่างกายพังยับเยิน
“เห้ย ไม่ได้นะ แบบนี้ต้องแจ้งความ!” แทนขึ้นเสียง
จะมาเล่นบทพ่อพระอะไรตอนนี้ โดนกระทืบจนปางตายขนาดนี้ ดูจากสภาพแล้ว
มังกรไม่ได้ตอบโต้พวกมันเลยแน่ๆ พวกมันหน้ายังใสกิ๊งอยู่เลย
“ทีมึงซ้อมกูตั้งหลายครั้ง กูยังไม่เคยแจ้งความเลยซักครั้ง”
มังกรตอบเสียงเย็นชา ก่อนจะผละออกจากพี่เคน
แทนเหมือนโดนมีดกรีด แค่ประโยคแสนธรรมดา แต่เขากลับรู้สึกชาไปทั้งร่าง
นั่นสินะ….มังกรไม่เคยเอาเรื่องเขาเลยซักครั้ง
“เดี๋ยวผมไปโรงพยาบาลก่อนนะพี่ ฝากขอโทษพี่อ๋องด้วยนะครับ ขอตัวครับ”
มังกรยกมือไหว้ตัวสั่น เคนพยักหน้า ก่อนจะรับไหว้ แก๊กรีบมาพยุง
เพื่อนๆที่เหลือก็รีบประกบหน้าประกบหลังกลัวจะเกิดเหตุร้ายกับเพื่อนอีก แทนได้แต่ยืนมองมังกรเดินกะเผลกๆขึ้นรถไปกับแก๊ก
คนอื่นๆก็ขับรถตามออกไป ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งโกรธแทนมังกร ทั้งรู้สึกผิด
คราวนี้เสียงเล็กๆในหัวเขามันดังก้องกว่าเดิมหลายล้านเท่า
ทั้งที่ครั้งนี้เขาไม่ใช่คนทำ แต่กลับรู้สึกผิดท่วมท้น จนจุกในอกไปหมด
“ส่วนพวกมึง…ในเมื่อเจ้าตัวเค้าไม่เอาเรื่อง กูก็คงทำอะไรไม่ได้
แต่พวกมึงก็ระวังไว้ให้ดีแล้วกัน ศาลเตี้ยมันเยอะ และกูจะบอกอะไรดีๆให้นะ…”
“ไอ้คนที่มึงกระทืบปางตายเมื่อกี้น่ะ เป็นหลานรหัสกูครับ”
ทุกคนอึ้งไปหลายวินาที แทนเองก็อึ้ง งั้นแสดงว่า…
กิ่งแก้วเป็นพี่รหัสของมังกรน่ะสิ
หลังจากที่เคลียร์กับพี่อ๋องเจ้าของร้านเรียบร้อย
พี่อ๋องก็ประกาศลงแฟนเพจของร้านว่าห้ามเด็กวิศวะ 5 คนนั้นเข้าร้านอีก แทน โย่ง
มาร์ค ช่วยกันหารค่าเหล้า ค่าของกินโต๊ะของพวกน้องแก๊ก
เพราะพวกนั้นรีบพามังกรไปโรงพยาบาลจนไม่ได้จ่ายเงิน
“เห้ย แทน คุยกันก่อนดิ” พี่เคนเรียกเขาไว้ ขณะที่แทน โย่ง มาร์ค
กำลังจะขึ้นรถ วันนี้แทนอาสาเอารถของตัวเองมา โย่งกับมาร์ครู้งาน
รีบเปิดประตูเพื่อไปรอในรถ ปล่อยให้พี่ว้ากคุยกับเพื่อนเขาไป
“ครับพี่”
“จริงๆเรื่องนี้พี่รับปากกับแก้วเค้าไว้ว่าจะไม่บอกแก
ไม่บอกใครทั้งสิ้น แต่พี่เห็นเรื่องมันเลยเถิดจนมีคนเจ็บตัวขนาดนี้
พี่คงปิดไว้ไม่ได้แล้ว”
“กิ่งแก้ว?” แทนเริ่มงง กิ่งแก้วมาเกี่ยวอะไร
“จำได้มั้ยที่พวกปีสองที่ดูแลดาวเดือนบอกจะลงโทษมังกรเรื่องที่ไปต่อยแก”
“ครับ”
“กิ่งแก้วเค้าลงโทษแทนโดยให้พี่ไปสั่งมังกรว่าต้องไปขอโทษแทนแล้วขอแทนเป็นพี่เทคให้ได้
ไม่งั้นเด็กปีหนึ่งจะไม่ได้รุ่น”
แทนตาเบิกโพล่ง อ้าปากค้าง เหมือนหัวใจหยุดเต้น เขาถึงกับพูดไม่ออก
“เรื่องนี้พวกเราปิดเป็นความลับ
ไม่ให้คนอื่นรู้เด็ดขาดว่าคนที่ต่อยแกคือมังกร แต่ข่าวมันรั่วจากไหนไม่รู้
จนมังกรโดนพวกระยำรุมกระทืบแบบนี้แหละ พี่รู้สึกแย่จนจะเป็นบ้าแล้วเว้ยไอ้แทน ไม่น่าไปบ้าจี้ตามยัยแก้วเลย”
แทนสงสารพี่เคนจับใจ จริงๆพี่ว้ากคนนี้อ่อนโยนมาก ถึงหน้าจะค่อยไปทางเถื่อน
แต่นิสัยจริงๆเป็นคนใจดี ขี้สงสารมาก
“พี่เคนครับ อย่าโทษตัวเองเลย เรื่องทั้งหมด มันผิดที่ผมด้วยส่วนหนึ่ง
ผิดที่มังกรด้วยส่วนหนึ่ง มันควรจะเป็นเรื่องระหว่างผมกับมันครับพี่
มันไม่ควรมีคนเข้ามาเกี่ยวข้องเยอะขนาดนี้”
พี่เคนพยักหน้าก่อนจะพูดต่อ
“แล้วมันคุ้มมั้ยวะแทน แกถามใจตัวเองดูนะ ว่ามันคุ้มมั้ย
ที่แก้แค้นกันไปมาไม่จบสิ้น มันต้องให้ใครตายกันไปข้างหรือเปล่า
ถึงจะยอมหยุดทำร้ายกันอะ” เป็นครั้งแรกที่แทนยอมทบทวนตัวเอง
เขาถูกจี้ใจดำเข้าเต็มๆ
นั่นสิ มันคุ้มมั้ย?
“พี่พอจะรู้มาบ้างนะว่าพวกแกสองคนบาดหมางกันเรื่องอะไร….คนๆเดียวมันไม่มีสิทธ์ขนาดนะแทน
แกจะปล่อยให้เขามาทำร้ายแกอีกทำไม โอเค
แกอาจจะบอกว่าตอนนี้ไม่ได้รู้สึกอะไรกับคนนั้นแล้ว
แต่แกยังปล่อยให้เขามีอิทธิพลกับแกอยู่นะเว้ย”
แทนคิดตาม…
พอพี่เคนมาสะกิด ทุกอย่างก็กระจ่างทันที
จริงอยู่ที่มังกรผิดเต็มๆในตอนแรก ที่แย่งบลูไป แต่คนที่ทำให้เรื่องมันยืดเยื้อ จนเป็นศัตรูกันอย่างถาวรคือตัวเขาเอง
เขาเองที่ไม่ปล่อยวาง ไม่รับฟัง มุ่งแต่จะแก้แค้นอย่างเดียว พอมาถึงตอนนี้
เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับบลูแล้ว อีกอย่าง มังกรกับบลูก็เลิกกันแล้วด้วย
แต่เขากลับยังผูกใจเจ็บ ปากบอกว่าตัดได้ทุกอย่าง แต่สุดท้าย
เขาก็ยังโยนความแค้นไปที่มังกร โดนมังกรกวนประสาทนิดหน่อยก็โกรธอย่างไร้เหตุผลเพราะความอคติ
ทั้งที่เรื่องมันเล็กน้อยเหลือเกิน เขากลับทำให้มันใหญ่โต
พี่เคนเห็นแทนเงียบ จึงพูดต่อ
“พี่รู้นะว่าแทนต่อยมังกรคืนแล้ว มันหน้าช้ำมาซ้อม มันบอกตกเตียง
แต่ใครๆก็ดูออก กิ่งแก้วมันคิดว่าพอแทนต่อยคืนแล้วจะรับมันเป็นน้องเทค
แต่พอพวกพี่เห็นสีหน้ามันยังกังวล แทนเองก็ไม่เห็นพูดอะไร พวกพี่ก็เลยรู้
ว่าคงยังไม่เคลียร์กัน”
“จริงๆ มังกรเค้ามาขอให้ผมเป็นพี่เทคแล้วครับ
แต่ผมดันเข้าใจผิดไปอีกอย่าง ก็ทะเลาะกันอีกรอบ”
พี่เคนพยักหน้ารับรู้
“อีกอย่างนะแทน ยังไงพี่ขอร้องแทนได้มั้ย รับมังกรเป็นน้องเทคเถอะ
จริงๆคำสั่งนี้มันก็เป็นคำสั่งลอยลมอยู่แล้ว แต่เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย
แทนก็รับๆไปเถอะนะ พี่จะได้ไปบอกพวกปีหนึ่งเต็มปากหน่อยว่ามังกรทำสำเร็จ”
“ได้ครับพี่ ผมรับมังกรเป็นน้องเทคก็ได้” แทนรับปากอย่างไม่ลังเล
“เออ บอกพี่แล้วก็ไปบอกเจ้าตัวด้วย ดูท่าทางจะไม่อยากได้พี่เทคแล้วละ
ยังไงแกก็ใจเย็นๆกับมันหน่อยนะ”
“ครับพี่”
“วันจันทร์พี่ต้องเรียกเด็กปีหนึ่งประชุมอีก
ส่วนยัยแก้วพี่ต้องเคลียร์กันยาว แผนปรองดองบ้าบออะไรไม่รู้
กลายเป็นนองเลือดซะงั้น”
“แผนปรองดอง?”
“ก็ยัยแก้วอยากให้แทนกับมังกรเลิกทะเลาะกัน ก็เลยคิดแผนนี้ขึ้นมา
มังกรก็น้องรหัสมัน แทนก็เพื่อนมัน มันหวังดีนะ แต่ผิดวิธีไปหน่อย”
“โธ่” แทนพูดอะไรไม่ถูก ทุกคนวุ่นวายกันไปหมดเพราะเขาคนเดียว
“ยังไงพี่ฝากมังกรด้วยละกัน พี่ไปก่อน ขับรถกลับดีๆนะ” พี่เคนขอตัว
แทนพยักหน้าก่อนจะยกมือไหว้รุ่นพี่
แทนลอบถอนหายใจพอคิดว่าจะต้องไปเผชิญหน้ากับคนเจ็บ
ไอ้ตอนเค้ามาง้อก็ไปต่อยเค้าซะงั้น พอตอนนี้ต้องเป็นฝ่ายง้อ แทนก็หนักใจเหมือนกัน
ปกติเขาไม่ใช่พวกชอบง้อเสียด้วยสิ อีกอย่าง ดูจากสีหน้ามังกรเมื่อกี้แล้ว
งานนี้ยาก…
.......................................................................................................................................................
มาครบ 100 % แล้วเย่ๆๆ เรื่องราวจะเริ่มนำไปสู่ความมุ้งมิ้งแล้วนะคะ5555
ต่อจากนี้ (อาจจะ) ไม่มีการตบตีกันระหว่าง แทนกับมังกรอีกแล้ว
จริงๆอยากเขียนให้ดูแมนทั้งคู่นะ แต่ตอนนี้สนุกกับการเขียนให้มังกรดูแบ๊วยังไงไม่รู้ 555 ล้อเล่นค่ะ ไม่ได้แบ๊วขนาดนั้น
ตอนเขียนแรกๆยังลังเลอยู่เลยว่าจะให้ใคร เคะ ใคร เมะดี 555 ตอนนี้ทุกคนน่าจะรู้ว่าเนอะ ^^
ยังไงก็เม้นเป็นกำลังใจด้วยน้าาา แฮะๆ
ความคิดเห็น