ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ☁ #สภาวะลืมรัก (end)

    ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 08 | อัปครบ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.8K
      1.75K
      17 ธ.ค. 63

    **คำเตือน**
    นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหา คำพูด การกระทำ และฉากที่ไม่เหมาะสม
    ไม่ควรลอกเลียนแบบ ตรรกะความคิดของตัวละครผิดเพี้ยนไปตามคาแรคเตอร์
    ผู้อ่านควรมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
    และผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ



    | บทที่ 08 |




    นะโม : วหง = หวง

    นะโม : แต่พิมพ์ตรง ๆ ไม่ได้เพราะไม่มีสิทธิ์หวง

    นะโม : ห่าเอ๊ย

    นะโม : *unsent a message.

    นะโมไม่เคยหยาบคายใส่ผม แต่ครั้งนี้มีหลุดมา ทว่าเขาก็ยกเลิกข้อความไปแล้ว

    แต่ก็นะ ผมอ่านทัน

    Me : ต้องตอบว่าไร

    นะโม : ไม่ต้องตอบอะไรก็ได้

    นะโม : เธออึดอัดมั้ย

    นะโม : พี่ขอโทษนะ

    ตัวหนังสือไม่มีเสียง ทว่าผมกลับรู้สึกได้ว่าข้อความนั้นมันหม่นใจแค่ไหน

    ผมไม่ได้อึดอัดที่เขาบอกว่าหวง

    แม้จะไม่ได้อยากให้เขามาชอบหรือสนใจ แต่ผมก็ไม่ได้อึดอัดที่เขารู้สึกแบบนั้นด้วย มันแปลกดีที่พอเป็นนะโมผมกลับไม่ได้รู้สึกแบบเดียวเหมือนที่รู้สึกกับไอ้เจต

    Me : ช่างเถอะ

    ผมเลือกตอบปัด

    นะโมอ่าน

    แต่เขาไม่ได้ตอบกลับมาในทันที

    และแม้จะผ่านไปหลายนาทีแล้วเขาก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะตอบ เขาไม่เคยเป็นแบบนี้ ทุกทีการสนทนาของเราจะสิ้นสุดที่ข้อความของเขาเสมอ

    หวังว่าคงไม่ได้นั่งหงอยอยู่หรอกนะ

    มึง กูง่วงแล้วอะ

    ไอ้เดย์ที่เพิ่งเดินกลับมายังโต๊ะพูดเสียงอ่อย เปลือกตาบางค่อย ๆ ปรือลงช้า ๆ

    ท่าทางมันคงไม่ไหวแล้วแหละ

    ผมเก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋ากางเกงแล้วหยัดตัวลุกขึ้นยืน

    ง่วงก็กลับ

    “…” ไอ้เดย์พยักหน้ารับง่าย ๆ

    ให้กูไปส่งมั้ยเจ้าของวันเกิดที่นั่งอยู่เสนอตัว กูไม่ได้ดื่มเยอะ

    “…”

    ไม่ต้องมองแบบนั้น กูดื่มน้อยกว่ามึงมาก ๆ ไม่เมาเลย

    เมื่อเห็นว่าผมมองอย่างไม่ไว้ใจไอ้เจตเลยออกตัวแบบนั้น

    ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูเรียกแท็กซี่

    กูไปส่งได้จริง ๆ

    พวกกูกลับเองได้

    แต่…”

    กูจะกลับเองผมบอกอย่างหนักแน่น

    เจตมองผมตาไม่กะพริบ เพียงแค่ชั่วครู่มันก็ยอมจำนน

    งั้น กลับดี ๆ แล้วกัน

    อือ

    เจอกันวันจันทร์นะ

    ผมไม่ได้ตอบรับอะไร แต่ดันหลังให้ไอ้เดย์เดินนำออกไปนอกร้าน

    โชคดีที่เพื่อนเมาแต่ก็ยังไม่ถึงกับเหมือนหมา สติสตังยังอยู่ดี พอพูดคุยกันรู้เรื่องอยู่บ้าง แต่ก็ทรงตัวให้เดินตรง ๆ ไม่ได้แหละ

    ไอ้เดย์ขับไปรับผมจากบ้าน

    แต่ตอนนี้เราคงขับรถกลับไม่ได้เพราะไอ้เดย์มันเมา และผมเองก็ดื่ม

    ดื่มแอลกอฮอล์ก็ไม่ควรขับนั่นแหละถูกต้องแล้ว เรื่องง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ควรรู้

    มันอันตราย

    และกฎหมายเมาแล้วขับก็มี

    ผมกับไอ้เดย์โบกแท็กซี่กลับหอพัก เป็นหอพักไอ้เดย์ มันพักอยู่หอเดียวกับเจ้าเอย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากไนต์คลับมากนัก ระหว่างนั่งรถกลับผมก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนทวิตเตอร์ฆ่าเวลา

    ไม่มีข้อความจากนะโมส่งเข้ามาเลยตั้งแต่ตอนนั้น

    คำว่า ช่างเถอะมันเป็นคำตอบที่น้อยไปสำหรับคำถามนั้นเหรอ

     

    ☁☁☁

     

    @หอพัก D

    ครืด! ครืด!

    เสียงแจ้งเตือนปลุกให้ผมตื่นจากห้วงนิทราแล้วเอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์ที่วางอยู่โต๊ะหัวเตียงมาดู ตาปรือ ๆ ที่ยังไม่ตื่นดีหรี่ลงอีกเมื่อโดนแสงจากหน้าจอสาดใส่

    แต่ในที่สุดผมก็ต้องตื่นเต็มตาเพราะเห็นว่าเป็นนะโมที่ส่งข้อความมาหา

    นะโม : ตื่นยัง

    นะโม : เช้าแล้วนะ

    เมื่อคืนหลังจากเหวี่ยงไอ้เดย์ลงเตียงได้ผมก็นอนมองหน้าจออยู่สักพักเพราะเห็นว่านะโมยังไม่ตอบกลับมา ปกติเขาเป็นข้อความสุดท้าย

    พอเขาไม่ตอบกลับมาแบบนั้นมันก็ไม่ชิน

    แต่สุดท้ายผมก็หลับไปทั้ง ๆ ที่เขายังไม่ตอบกลับมาอยู่ดี มันง่วงน่ะ

    Me : เช้าแล้วทำไมอะ

    Me : ให้ตื่นมาสังเคราะห์แสงเหรอ

    นะโม : ตลกนะ

    นะโม : ตื่นนานยัง

    Me : เพิ่งตื่น

    ผมควรตอบกลับไปแค่นั้น แต่ความว้าวุ่นในใจมันกลับสั่งให้พิมพ์อีกประโยคตามไปด้วย

    Me : ที่ถามเมื่อคืน

    Me : ไม่ได้อึดอัดนะ

    ผมคิดมาทั้งคืนว่าคำตอบตอนนั้นน้อยไปหรือเปล่า

    ครืดดดด! ครืดดดด!

    โทรศัพท์ในมือสั่นครืด ๆ และบนหน้าจอโชว์ว่ามีสายเข้าจากนะโม แม้จะแปลกใจแต่ผมก็กดรับแล้วแนบโทรศัพท์ลงกับหู

    [อยากได้ยินจากปาก]

    ได้ยินอะไร

    [ที่พิมพ์มาเมื่อกี้]

    “…”

    [การที่พี่หวง มันทำให้เธออึดอัดมั้ย]

    แค่พิมพ์ไปมันไม่พอหรือไงนะ

    ช่างเถอะ

    ในเมื่อเขาอยากได้ยิน ผมก็แค่ตอบไปตามความรู้สึกเท่านั้นแหละ

    ไม่

    [แบบนี้แปลว่าหวงได้ใช่มั้ย]

    เรื่องความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้หรอก

    อือ หวงได้

    […]

    แต่ก็ก้าวก่ายไม่ได้อยู่ดีนะโมไม่มีสิทธิ์ตรงนั้น เขาเองก็น่าจะรู้ตัวดี

    [อือพี่ไม่มีสิทธิ์นี่เนอะ]

    อือ

    […] นะโมเงียบไปเลย

    ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

    โทรมาแค่นี้เหรอ

    [ก็คงแค่นี้แหละ] เสียงของเขาแผ่วเบามาก

    กินข้าวยังและเมื่อเราเริ่มจะเดธแอร์ใส่กันก็เป็นผมที่ถามเปลี่ยนประเด็น

    [ยังครับ เธอล่ะ กินอะไรยัง]

    ยัง

    [พี่อยากไปกินข้าวกับเธอนะ แต่โดนปฏิเสธจนไม่กล้าชวนแล้ว]

    ทั้ง ๆ ที่ควรดีใจที่ความพยายามของนะโมกำลังจะหมด ทว่ามันกลับไม่เป็นแบบนั้นเลย

    ลองก่อนสิ

    [หื้ม?]

    ลองชวนก่อน

    [งั้น … ไปกินข้าวด้วยกันมั้ย]

    ผมผละโทรศัพท์ออกจากหู กดส่งโลเคชั่นไปให้นะโมในไลน์แล้วตอบเขาด้วยน้ำเสียงปกติ

    มารับ

    [จริงเหรอ]

    “…”

    [เธอจะไปกับพี่จริงเหรอ]

    โกหก

    [ไม่ได้ พูดแล้วต้องเป็นพูดสิ]

    แล้วจะมาถามย้ำทำไมล่ะ รีบมารับสิ

    [ครับ ๆ จะไปเดี๋ยวนี้แหละ]

    อือ

    เมื่อตกลงกันได้ผมก็กดตัดสายแล้วหยัดตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงเพื่อพิจารณาว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่มันถูกหรือเปล่า การที่ยอมไปกับเขาแบบนั้นมันคือการให้ความหวังชัด ๆ

    แต่ก็ไม่ชอบเลย

    ไม่ชอบที่เขาดูหม่นลงอย่างเห็นได้ชัดแบบนั้น

    ใครโทรมาอะไอ้เดย์ที่นอนอยู่ข้าง ๆ ปรือตาขึ้นมาถามเสียงเนือย

    คนไม่คุย

    เดย์มันเคยถามไปแล้วว่าผมแชตกับใครบ่อย ๆ มันยัดเยียดนะโมให้เป็น คนคุยของผม ทว่าผมก็ตอบกลับไปแล้วว่าเขาคือ คนไม่คุย

    ไม่ได้อยากคุย

    แต่ก็คุยน่ะ

    จะไปไหนกัน

    กินข้าว

    อีกหน่อยคนไม่คุยก็พัฒนาเป็น คนไม่ชอบและ คนไม่รักแหละกูว่า

    จะว่าไปเพื่อนผมก็ประชดประชันเก่งเหมือนกันนะ

    แล้วมึงจะทำไมผมเลิกคิ้วถามอย่างหาเรื่อง

    เปล๊า

    “…”

    แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมมึงต้องปฏิเสธว่าเขาไม่ใช่คนคุย

    ก็กูไม่ได้อยากคุย

    แต่ก็คุย

    “…”

    ทำไมอะ แพ้ทางเขาเหรอ

    เปล่า

    แม้จะไม่แน่ใจว่าแท้จริงแล้วผมแพ้ทางนะโมหรือเปล่าแต่ก็ปฏิเสธไปก่อน

    แล้วคุยด้วยทำไมถ้าไม่อยากคุย

    “…”

    กับไอ้เจตกูก็เห็นมึงมีท่าทีปฏิเสธแม่งแบบชัดเจนตลอด

    ไอ้เจต?ผมเลิกคิ้วสูงใส่เพื่อน

    แม้จะคิดว่าไอ้เจตชอบ แต่ผมไม่เคยบอกไอ้เดย์เลยสักครั้ง

    ขอร้องเหอะเพื่อนทำหน้าเหยเกใส่ผม กูรู้ว่ามึงรู้

    “…”

    ขนาดกูยังมองออกเลยว่าแม่งชอบมึง งานสายตาแม่งชัดขนาดนั้น

    แล้วไอ้เจตเกี่ยวไร

    ก็มันชอบมึง แต่มึงไม่ชอบมึงก็มีท่าทีปฏิเสธชัดเจนไอ้เดย์อธิบายง่าย ๆ สลับกับหาววอด ๆ แต่กับคนไม่คุยมึงเนี่ย ปากบอกไม่อยากคุยแต่ก็ตอบเขา นี่ยังจะไปกินข้าวกันอีก

    “…”

    ไม่เห็นชัดเจนเหมือนที่ปฏิบัติกับไอ้เจตเลย

    “…”

    มึงเวลาปกติน่ะนะ ไม่อยากคุยคือไม่คุยไม่ใช่เหรอ แต่นี่มันย้อนแย้งอะ

    จี้จุดเกินไปแล้ว

    ก็จริง

    ผมเห็นด้วย แต่ก็ไม่ได้อธิบายอะไรต่อ ซึ่งดูเหมือนว่าไอ้เดย์จะรอฟังอยู่

    โหไอ้สัส กูพูดยาวเป็นกิโลมึงตอบได้แค่ ก็จริงเหรอ

    “…”

    ดอกพิกุลล่วงจากปากมั้ย ห่า

    จะไปอาบน้ำแล้ว

    ผมตัดบทดื้อ ๆ เพราะไม่อยากให้เพื่อนตื๊อถามมากกว่านี้

    ไม่มีคำตอบดี ๆ ให้มันหรอก

    เพราะหลาย ๆ อย่างผมก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกัน

    เอ๋า

    “…”

    เอ๋า ๆ ๆ

    ผมยันตัวลุกขึ้นจากเตียง เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วหนีเข้าห้องน้ำโดยไม่ได้แยแสเสียงบ่นแง้ว ๆ ของไอ้เดย์ที่ไล่หลังมาเลยแม้แต่น้อย

     

    ☁☁☁

     

    เธอมาทำอะไรที่หอน้องเอย

    หลังจากขึ้นรถยนต์คันงามของนะโมมาแล้วคนเป็นพี่ก็ยิงคำถามใส่ทันที

    หอเพื่อน

    เพื่อนคนไหน เพื่อนสาขาคนนั้นเหรอดวงตาคมสวยผินมามองผมครู่หนึ่งก่อนจะกลับไปจับจ้องเส้นทางข้างหน้าอย่างเดิม

    ถ้าใช่แล้วจะทำไม

    “…” นะโมไม่ได้ตอบ

    แต่สีหน้าเขาบอกชัดเจนว่าไม่พอใจ

    อาการกระฟัดกระเฟียดนั่นตลกชะมัด

    หอไอ้เดย์

    เพราะนะโมเอาแต่เงียบผมเลยต้องเฉลยให้ฟัง

    เล่นกับใจคนมันไม่เจริญนะ

    แต่มันสนุก

    ใจร้ายอะ

    “…”

    รู้ทั้งรู้ว่าพี่หวง

    “…” เป็นผมบ้างที่เงียบไป

    ถ้าพี่หน้ามืดไปต่อยมันทำไง

    พี่ไม่ทำหรอก

    อย่างนะโมน่ะ ยังไงก็ไม่กล้า อยู่ต่อหน้าคนอื่นเขาไม่ค่อยแสดงความรู้สึกตัวเองเท่าไหร่ ไม่มีใครมองออกว่าเขาเป็นคนยังไง

    ก็ใช่

    “…”

    แต่เพื่อนพี่ทำนะ

    ก็อย่าเหี้ยขนาดนั้นเลยนะโม

    หึคนเป็นพี่ยิ้มขำใส่ก่อนจะพาเปลี่ยนประเด็นไปดื้อ ๆ กินข้าวเสร็จเราไปดูหนังกันต่อได้มั้ย

    “…” ผมรู้ว่าในหัวเขาคิดอะไร

    นะโมเคยพูดว่าอยากให้เราไปเดตกันจริงจัง

    และตอนนี้เขากำลังปูทางให้เป็นแบบนั้น

    วันนี้ เธออยู่กับพี่ทั้งวันเลยได้มั้ย

    ทันทีที่รถจอดติดไฟแดงใบหน้าหล่อก็หันมาทำสายตาออเซาะใส่ นั่นทำให้ผมต้องเบือนหน้าหนีไปมองทางอื่น

    อยู่ ๆ คำถามจากไอ้เดย์ผุดขึ้นมาในหัว

    แพ้ทางเขาเหรอ

    แม้จะแย้งอยู่ในใจแต่มันก็อดคิดไม่ได้ว่าจริง ๆ แล้วผมแพ้ทางนะโม

    แบบนี้ไม่ดีแน่

    ไม่ได้หรอก

    ผมปฏิเสธโดยไม่ได้หันไปมองหน้าคนเป็นพี่เลย

    ทำไมครับ

    “…”

    ทำไมไม่ได้

    เพราะเราไม่ได้อยากไปดูหนัง

    งั้นทำอะไรก็ได้ เธออยากไปไหน พี่จะพาไป

    “…”

    ให้พี่ได้อยู่กับเธอเถอะนะ

    ทำยังไงดีล่ะ

    สมองกับหัวใจมันตีกันไม่หยุดเลย

     

    ☁☁☁

     

    เธอกินน้อยไปมั้ยเนี่ย

    คนเป็นพี่ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถามขึ้น สีหน้าเขาดูไม่ชอบใจเท่าไหร่ที่อาหารตรงหน้าผมพร่องไปแค่นิดเดียว

    อิ่มแล้ว

    กินน้อยแบบนี้ไงเธอถึงได้ผอมขนาดนี้

    แล้วมันมีปัญหาตรงไหนผมเลิกคิ้วถามอย่างหาเรื่อง

    จริงอยู่ที่ผมสูงมากเมื่อเทียบกับอี้ผิงหรือเจ้าเอย แต่ก็ไม่ได้ตัวใหญ่หรือสูงไปกว่านะโม ซ้ำผมยังผอมแห้งไม่ได้ตัวใหญ่ หนาแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อที่สวยงามเหมือนอย่างเขา

    ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรหรอกครับ พี่แค่ห่วง

    ห่วงตัวเองเหอะผมประชดอย่างไม่จริงจังก่อนจะยกแก้วน้ำส้มขึ้นดื่ม

    ตอนอยู่บนรถผมไม่ได้ตอบอะไรเลยเมื่อเจอลูกอ้อนของนะโมแบบนั้น

    ให้พี่ได้อยู่กับเธอเถอะนะ

    ในเมื่อตอบไม่ได้และปฏิเสธไม่ลงผมเลยเลือกที่จะเงียบ

    เงียบจนเรามาถึงร้านอาหารและนั่งทานมันด้วยกันจนอิ่มนั่นแหละ

    ถ้าพี่จะห่วงเธอ…” นะโมเลิกคิ้วสูงใส่ก่อนจะพูดเสริม แล้วมันมีปัญหาตรงไหน

    “…” หางคิ้วผมกระตุกทันทีที่โดนยอกย้อน

    หึคนเป็นพี่ยิ้มขำใส่ อย่าทำหน้าเหมือนอยากจะฆ่าพี่ให้ตายแบบนั้นสิ

    “…”

    ก็เขามันน่าหงุดหงิดนี่

    อ้าว พิง

    ก่อนที่ผมกับนะโมจะได้คุยอะไรกันต่อเสียงทักแสนคุ้นเคยก็เอ่ยเรียกความสนใจให้หันไปมอง

    ร่างสูงสมส่วนยืนยิ้มร่าให้ผมอยู่

    ว่าผมตอบไอ้เจตไปห้วน ๆ

    จะไม่ถามโง่ ๆ หรอกว่ามันมานี่ได้ยังไง คอนโดมันอยู่ใกล้ร้านอาหารนี้แค่สองช่วงตึกนี่เอง คงลงมาหาอะไรกินตามประสามันนั่นแหละ

    ผมเคยแวะมาทำงานกลุ่มที่ห้องมันหลายครั้งอยู่เหมือนกัน

    บางครั้งก็มีงานกลุ่มที่รวมคนค่อนข้างเยอะน่ะ ผมกับไอ้เดย์เลยต้องอาศัยชาวบ้านอยู่ด้วย

    มาทำไรอะ

    ทำฟันผมประชดประชันอย่างเห็นได้ชัด

    ก็นี่มันร้านอาหาร

    ไม่บอกก็ต้องรู้อยู่แล้วว่ามากินข้าว

    เหรอไอ้เจตถามยิ้ม ๆ แม้จะรู้ว่าผมประชด ทว่ามันก็ไม่ได้โกรธ แล้วทำเสร็จยัง

    เสร็จแล้ว

    “…” เจตพยักหน้ารับรู้

    แล้วมึงซื้อไปเลี้ยงคนทั้งคอนโดเลยมั้ยน่ะผมพยักพเยิดหน้าไปยังถุงอาหารที่มันถืออยู่

    เปล่าหรอก กูซื้อไปให้พวกไอ้โจอะ เมื่อคืนมันค้างห้องกู กลัวพวกแม่งตื่นมาละโวยวายถามหาข้าว

    “…” ประเสริฐมาก

    ก็ปกติของมันแหละนะ

    แม้ผมจะไม่ชอบหน้าไอ้เจตเท่าไหร่แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันดูแลเพื่อนดีมาก มันเป็นคนที่ให้ใจกับเพื่อนเต็มร้อยน่ะ ไม่มีใครไปห้องมันแล้วอดตาย

    กับเพื่อนมันนิสัยดี

    เมื่อคืนมึงกับไอ้เดย์น่าจะไปต่อกับพวกกู โคตรสนุกเลย

    เคล้ง!

    เสียงช้อนกระทบจานดังขัดบทสนทนาของผมกับเจตทำให้เราทั้งคู่เบนสายตาไปมองคนอายุมากกว่าที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามผม

    นะโมปรับสีหน้าบึ้งตึงให้มีรอยยิ้มประดับประดาก่อนจะหันมาพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูปกติ

    พี่อิ่มแล้วล่ะ

    แม้หน้าเขาจะปั้นยิ้ม

    แต่สายตาเขาบอกชัดว่าไม่พอใจ

    ผมเบนสายตาไปมองไอ้เจต ซึ่งเพื่อนก็ทำสีหน้าเหมือนอยากถามว่านะโมมากับผมได้ยังไงเหมือนกัน ทว่ามันก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไร แค่บอกลาง่าย ๆ

    งั้น กูกลับล่ะนะ

    อือ

    เจอกัน

    “…” ผมพยักหน้าให้แกน ๆ แล้วมองตามแผ่นหลังไอ้เจตจนมันเดินออกไปนอกร้าน

    เธอมองออกใช่มั้ยว่าหมอนั่นชอบ

    ผมหันกลับมาสบตากับนะโมตรง ๆ อีกครั้งก่อนจะตอบอย่างตรงไปตรงมา

    อือ มองออก

    ก็นะ งานสายตาชัดขนาดนั้น

    “…”

    ก็แปลกดีที่นะโมเจอไอ้เจตแค่ครั้งเดียวก็มองออกแล้ว

    คนเป็นพี่เท้าคางพลางจับจ้องผมไม่ละสายตาไปไหน ใบหน้านะโมไม่ได้เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มเหมือนอย่างเคย สายตาที่เขาใช้มองมามันไม่ใช่สายตาแสนอ่อนโยน

    พี่หวงเธอว่ะ

    แม้คำพูดและสายตาแบบนั้นจะทำให้กลางอกรู้สึกวูบไหวทว่าผมก็รักษาท่าทีเอาไว้ได้ดี

    ไม่มีหลบตา

    ไม่มีอ้ำอึ้ง

    ผมเท้าคางมองนะโมกลับบ้าง ระยะห่างระหว่างโต๊ะที่ไม่ได้มากมายผลักให้ใบหน้าเราใกล้ชิดกันกว่าที่เคย

    ความรู้สึกตัวเอง ก็จัดการเองสิ

    เธอช่วยหน่อยได้มั้ย

    ช่วยอะไร

    ช่วยอย่าน่ารักกับคนอื่น

    หึผมหลุดขำออกมาง่าย ๆ เพียงเพราะคำว่า น่ารักจากนะโม

    พี่จริงจังนะพักพิง

    นะโมมองผมด้วยสายตาที่มีความหมายมาก ทว่า

    เราไม่เคยน่ารักกับใครอยู่แล้ว กับพี่ก็ไม่เคย

    ผมจำได้ว่าไม่เคยทำแบบนั้น

    เหรอนะโมถามเหมือนไม่อยากได้คำตอบ เขาจุดยิ้มมุมปากก่อนจะบอกเสริมด้วยน้ำเสียงธรรมดา ทว่าแฝงไปด้วยความพิสมัย แต่ในสายตาพี่เธอน่ารักตลอดเลยนะ



    tbc.
    #สภาวะลืมรัก

    เอาให้ตายกันไปข้างเลยพี่นะโม


    (ยังไม่ตรวจคำผิดนะคะ ถ้าเจอเม้นบอกได้)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×