ตอนที่ 3 : ไม่ขอให้เชื่อแต่จะทำให้เห็น
ไม่ขอให้เชื่อแต่จะทำให้เห็น
ทุกครั้งที่ก้าวเท้าเข้ามาในมหาวิทยาลัยมีอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งคุณรู้ไหมว่ามันคืออะไร………………..
"น้องจินยองวันนี้ก็ยังน่ารักเหมือนเดิมเลยนะคะ" ใบหน้าสวยส่งยิ้มหวานมาให้จินยองเหมือนทุกครั้งที่เจอกันแต่กลับดูขัดตาผมทุกครั้งที่ได้เห็น
"ก็เห็นพี่พูดแบบนี้ทุกวันแล้วเมื่อไหร่จะรักผมสักทีละครับ พี่จีซู" ผมหยิบเจ้าเครื่องมือสื่อสารขึ้นมากดเขาแอพโน่นออกแอพนี้อย่างเบื่อหน่ายกับบทสนทนาของคนทั้งคู่ที่ได้ฟังอยู่ทุกวัน
"อย่ามาล้อเล่นนะถ้าพี่คิดจริงขึ้นมาถึงอยากจะถอยกลับพี่ก็จะไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆหรอกนะ"
"แล้วถ้าผมสนใจนี้ผมจะได้คิวที่เท่าไหร่ครับ" เย็นไว้มาร์คไอ้จินยองมันไม่ชอบคนใจร้อนมึงต้องใจเย็นไว้
"สำหรับจินยองไม่ต้องรอคิวหรอก"
"ถ้าผสนใจพี่ผมจะได้เป็นที่หนึ่งของพี่จริงๆหรอครับ" คิ้วผมขมวดเข้าหากันทันทีที่ได้ยินบทสนทนาที่มันเริ่มจะลึกซึ้งมากขึ้นกว่าทุกวัน
"สนใจรับข้อเสนอพี่ไปพิจารณาไหมละ"
"พี่พูดจริงป่ะเนี้ย อย่ามาล้อผมเล่นนะ"
"พี่ต้องไปเรียนแล้วละ พี่ไปนะจินยอง มาร์ค" ผมทำเพียงยักไหล่ไปให้อีกคนโดยไม่แม้แต่เงยหน้ามองด้วยซ้ำ
"เดี๋ยวครับพี่จีซู"
"อืม ว่าไง"
"ผมขอไลน์พี่หน่อยได้ไหมครับ ไว้เผื่อมีอะไรผมจะได้ทักไปคุยได้" ผมชักสีหน้ามองอีกคนโดยที่เจ้าตัวไม่แม้แต่จะชายตามองผมด้วยซ้ำ
"พี่จะรอนะ ไปละ" ร่างบางเดินจากไปแล้วแต่ความไม่พอใจยังคงฝังอยู่ภายในใจของผม
"ชอบเขามากขนาดนั้นเลยหรือไง" ผมถามอีกคนออกไปโดยพยายามใช้โทนเสียงที่ปกติที่สุด
"พี่จีซูสวยขนาดนี้ใครๆก็ต้องชอบเป็นธรรมดาปะ ทำไมหวงพี่เขาหรือไง" เออหวง แต่หวงมึงนั้นแหละไอ้หน้าแมว
"คนโง่ๆแบบมึงตามเขาไม่ทันหรอกนะจินยอง ตัดใจเถอะ"
"มึงแม่งด่ากูตลอด หวงก้างก็บอกมาเถอะมึงอะ"
"แล้วถ้ากูบอกว่าใช่มึงจะเลิกยุ่งกับจีซู?"
"ไม่โว้ย" ไม่ต้องทำหน้าเย้ยกูก็เจ็บจะตายแล้วจินยองมึงรู้ไหม
"ตามใจมึงเถอะ"
"แล้วนั้นมึงจะไปไหน"
"ห้องน้ำ"
"ไปด้วย"
"งั้นมึงไปก่อนเลยเดี๋ยวกูรออยู่ตรงนี้"
"กูไม่ได้ปวดกูแค่จะไปเป็นเพื่่อน"
"จะไปช่วยถือไง ถ้าไม่เข้าก็ขึ้นห้องไปไม่ต้องรอเดี๋ยวกูตามไปทีหลัง"ผมตอบโดยไม่หันไปมองหน้ามันด้วยซ้ำ ไม่อยากเห็นใบหน้าขึ้นสีน้อยๆด้วยความเขินอายนั้นไม่อยากเห็นเลยสักนิด
"ไอ้มาร์คทำไมมึงอยู่คนเดียว แล้วไอ้จินละ" ยองแจที่เดินสวนมาพอดีถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย
"โรงอาหาร"
"แล้วมึงจะรีบไปไหน"
"เรื่องกู" ผมบอกอย่างหัวเสียก่อนจะเร่งสาวเท้าให้เร็วมากขึ้นอีกจังหวะ
"สัสกูถามดีๆไหมว่ะ เหวี่ยงใส่กูเฉยเลย" ได้แต่ทำหน้าเอื้อมไล่หลังอีกคนไป
Jinyoung talk's
"จิน ไอ้มาร์คมันอารมณ์เสียอะไรของมันแต่เช้าอะ" ผมถามเพื่อนที่นั่งหน้าหมุ่ยไม่ต่างจากไอ้ตัวที่เหวี่ยงผมไปเมื่อกี้
"ไม่รู้กับแม่ง"
"พวกมึงทะเลาะกัน?"
"...………………." ผมนิ่งไม่ตอบอะไร
"ชัดเลยมึงงอนมัน?"
"เปล่า"
"โกรธ?"
"ก็เปล่า"
"แล้วพวกมึงเป็นเหี้ยอะไรกันว่ะ" เออ กูก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันเป็นเหี้ยอะไร
"ช่างแม่งเหอะไม่เห็นจะสนใจเลย ไปยองแจ"
"ไปไหน?"
"เรียน"ผมเดินไปโดยไม่รอฟังอีกฝ่ายด้วยซ้ำ
ผมไม่ได้โกรธแล้วก็ไม่ได้งอนไอ้มาร์คนะแต่ผมแค่ไม่เข้าใจมันทั้งๆที่คิดว่าเราสนิทกันมากแล้วแท้ๆแต่บางครั้งผมกลับรู้สึกว่ามันพยายามออกห่างจากผม อดใจหายไม่ได้เวลาที่เห็นมันทำหน้าเหมือนไม่พอใจอะไรผมแต่พอถามว่าเป็นอะไรก็ไม่ยอมตอบ หรือที่จริงมันมีแค่ผมที่คิดว่าเราเป็นเพื่อนรักที่สามารถคุยกันได้ทุกเรื่องกันนะ
Mark talk's
"มาแล้วหรอมึงกูนึกว่าตกส้วมไปแล้ว" เป็นไอ้แจที่เอ่ยถามโดยมีไอ้หน้าแมวนั่งมองหน้าผมนิ่งแต่ไม่ยอมปริปากพูดอะไร
"พอดีเจอไอยูระหว่างทางเลยคุยนานไปหน่อย"ผมตอบไปตามความจริง ไอยูเป็นเธอเป็นดาวคณะเราและผมเป็นเดือนทำให้พวกเราต้องร่วมงานกันบ่อยเลยค่อยข้างสนิทกันอยู่พอสมควร เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารักมาก ตรงสเปคผมทุกอย่างนี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงจีบเธอไปแล้ว
"หน้าม่อ" เสียงทุ้มติดไม่พอใจนิดๆดังขึ้นเรียกให้ผมหันไปมอง
"หล่อๆแบบกูไม่ต้องม่อให้เสียเวลาหรอก"
"คิดว่าหล่อมาก?"
"ใครๆเขาก็พูดแบบนั้นกันทั้งนั้นหรือมึงไม่คิด" ผมถามออกไปเรียบๆแต่ภายในใจตอนนี้กลับเอาแต่จดจ่ออยู่กับคำตอบของอีกฝ่าย
"เว้นกูคนหนึ่งไอ้หน้าม่อ"
"สำหรับมึงคงเห็นกูเป็นแค่ไอ้หน้าม่อสินะ " ผมพูดราวกับกระซิบบอกตัวเอง
"มึงว่าไงนะ" มันเอียงหน้าแมวๆนั้นเล็กน้อย
"...………………..." ผมแกล้งทำเป็นสนใจบทเรียนตรงหน้าเพื่อไม่ให้อีกคนเลิกเซ้าซี้และดูเหมือนจะได้ผล
เมื่อก่อนผมมันก็เสือผู้หญิงดีๆนี่เองไม่แปลกที่มันจะบอกว่าผมหน้าม่อ แต่ตอนนี้ผมไม่ได้คุยกับใครในเชิงชู้สาวแล้วจะมีบ้างที่สาวๆทั้งคนเก่าคนใหม่ทักมาหามากมายแต่ผมก็ไม่ได้จะใส่ใจอะไรมากมาย ถ้าถามว่าผมทำไปทำไหมผมตอบอย่างไม่อายเลยว่าทำเพื่อมันจะได้มองผมในแง่ดีบ้างแต่ก็นั้นแหละโง่ๆแบบมันไม่เคยจะเข้าใจอะไรสักอย่าง
"มาร์คเลิกเรียนไปกินติมหน้ามอกันไหม ยองแจด้วย" จินยองเอ่ยขึ้นทันทีที่คาบเรียนจบลง
"กูต้องรีบกลับอ่ะนัดกินข้าวเย็นกับแม่ มึงไปกับไอ้มาร์ค 2 คนละกัน"อยงแจบอกพรางหยิบโน่นนี้ใส่กระเป๋า
"กูก็มีนัดแล้ว"ผมตอบเสียงเรียบ
"ไปไหน?"
"นัด"
"สาว?"
"เออ ไปนะ"ผมกำลังจะเดินออกไปแต่ก็ต้องชะงัก
"มาร์คพรุ่งนี้เรานัดกันไปดูหนังนะ บอกไว้เผื่อมึงลืมอีก" มันบอกด้วยน้ำเสียงที่ยากจะเข้าใจอารมณ์ก่อนจะเดินผ่านหน้าผมออกไปโดยไม่หันกลับมามองผมเลยด้วยซ้ำ
"จินรอกูด้วย ไปปนะมาร์คขอให้สนุกกับสาวๆของมึงนะ"ยองแจว่าก่อนจะสาวเท้าตามอีกคนไปทิ้งผมให้ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมด้วยความรู้สึกที่ตีรวนกันไปหมด
"กูจะไม่ขอให้มึงเชื่อแต่กูจะทำให้มึงเห็นเองว่ากูจะไม่มีทางลืมนัดของเราแน่จินยอง " ผมบอกตัวเองเบาๆแต่หนักแน่น
2 เดือนที่แล้ว
ใบหน้าที่ผมคุ้นเคยตอนนี้นิ่งสนิทไร้ซึ่งคำใดๆหลุดออกมาจากปากอิ่มนั้นตั้งแต่หนึ่งชั่วโมงก่อนหน้าจนกระทั่งตอนนี้ที่รถเคลื่อนตัวมาถึงหน้าบ้านอีกคนก็ยังคงนิ่งเงียบเหมือนเดิมแถมไม่แม้แต่จะมองหน้าผมเลยด้วยซ้ำ
"จินยองมึงพูดอะไรหน่อยเถอะจะด่ากูก็ได้แต่อย่านิ่งแบบนี้เลยนะ" ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าพูดคำนี้มากี่รอบแล้วแต่ในทุกรอบก็ได้รับเพียงความเงียบกลับมาแต่ผมก็ยังอยากที่จะพูดมัน
"เรานัดกันกี่โมง"มันตอบเสียงนิ่งจนผมใจหาย
"2 ทุ่ม"
"แล้วมึงมากี่โมง"
"...………………….."ราวกับมีก้อนบางอย่างจุกอยู่ที่คอจนไม่อาจเปล่งเสียงใดๆออกมาได้
"กูตอบเองก็ได้ 5 ทุ่ม 3 ชั่วโมง มาร์ค"
"...………………….."
"3 ชั่วโมงที่กูนั่งรอมึง"
"...………………….."
"3 ชั่วโมงที่กูพยายามติดต่อมึงทุกทางแต่ก็ไร้การตอบรับ"
"...………………..."
"3 ชั่วโมงที่กูเอาแต่กังวลว่ามึงจะเป็นอะไรไปไหม"
"...…………………."
"3 ชั่วโมงที่มึงเอาความรู้สึกกูไปเหยียบเล่นโดยที่มึงกับมีความสุขกับการไปเที่ยวเล่นกับสาวๆของมึง"
"จินยองกูขอโทษ"
"มาร์คกูไม่เคยคิดจะว่าอะไรมึงเลยนะที่มึงเอาแต่เที่ยวม่อสาวไปวันๆ แต่ครั้งนี้กูรับไม่ได้จริงๆ ถ้ามึงจะไม่มามึงก็น่าจะโทรบอกกูก่อนกูจะได้ไม่ต้องมานั่งรอ นั่งกังวลอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้าแบบนี้ " น้ำเสียงเรียบนิ่งถูกเอ่ยออกมาอย่างต่อเนื่องทำให้คนฟังจุกจนพูดอะไรไม่ออกสักคำ
"...……………………."
"ถ้ามึงเป็นกูมึงจะรู้สึกยังไง มึงจะยิ้มอย่างร่าเริงแล้วบอกว่าไม่เป็นไรงั้นหรอ กูถามก็ตอบมาสิ" ผมตกใจเล็กน้อยที่จู่ๆอีกคนก็ขึ้นเสียงผมไม่เคยเห็นจินยองเป็นแบบนี้มาก่อนปกติจินยองเป็นคนใจเย็นมากพอเห็นมันโมโหแบบนี้เลยยิ่งหน้าเสียเข้าไปอีก
"กูขอโทษจินยอง กูจะไม่แก้ตัวอะไรทั้งนั้นเพราะสิ่งที่มึงพูดมามันเป็นความจริงทุกอย่่าง กูผิดเองที่ลืมแต่กูสัญญาว่าจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก มึงเชื่อใจกูได้จินยอง"
"ทำให้มันได้แล้วค่อยมาพูดเถอะมาร์ค กูขี้เกียจฟังคำสัญญาที่แม่งไม่รู้จริงหรือแค่พูดลอยๆของมึง"
"ยังไม่เชื่อตอนนี้ก็ไม่เป็นไรแต่กูจะทำให้มึงเห็นเองว่ากูพูดจริง" ผมพูดอย่างหนักแน่นเพื่อหวังให้อีกฝ่ายมั่นใจ
"กลับไปเถอะมาร์คกูจะเข้าบ้านแล้ว" มันพูดก่อนจะเปิดประตูรถเดินลงไปอย่างไม่สนใจผมที่ได้แต่มองตามอีกคนจนลับสายตาแต่ก็ยังนั่งอยากนั่งอยู่อย่างนั้นต่ออีกสักพัก
"กูจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกเป็นครั้งที่ 2 แน่จินยอง"
"มาร์ค มาร์ค" เสียงหญิงสาวตรงหน้าทำให้ผมหลุดออกจากพวังของตัวเอง
"ว่าไงนะ"
"ใจลอยคิดถึงสาวที่ไหนเนี้ย" เสียงน่ารักเอ่ยอย่างคนอารมณ์ดีก่อนจะพูดต่อ "เราบอกว่าพวกพี่คุณบอกว่าปีนี้จะให้พวกเราโชว์อะไรเล็กๆน้อยๆให้อำลาตำแหน่งหน่อยเราก็เลยถามมาร์คว่าอยากทำอะไร"
"แค่พูดอำลาเลยไม่ได้หรือไง"
"เราก็เคยบอกพี่คุณไปแล้วแหละแต่พี่เขาบอกว่ามันง่ายไป" เธอพูดด้วยท่าทีที่ดูจริงจังขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย "ทำไมชอบทำให้เรื่องมันยุ่งยากนักนะ" ผมอดที่จะหัวเสียขึ้นมาไม่ได้ "เอาน่างานสุดท้ายแล้ว" "แล้วเธอจะทำออะไร"
"เราว่าจะร้องเพลงอ่ะ มาร์คจะเอาด้วยไหม"
"งั้นเธอร้อง เดี๋ยวฉันเล่นกีต้าร์ให้เอง"
"ดีเลย งั้นเอาตามนี้เลยละกันนะเดี๋ยวเราจะทักไปบอกพี่คุณก่อน แปปนะ"เธอก้มหน้าก้มตาพิมพ์ข้อความลงบนจอสี่เหลี่ยมในมือ "มาร์คจะไปไหนต่อไหม" เธอเงยหน้าจากมือถือมามองผม "ก็คงกลับคอนโดเลย" "พอดีพวกพี่คุณอย่างให้เราเข้าไปคุยกับพี่แกหน่อยอ่ะ มาร์คจะไปไหม" "ฉันฝากเธอฟังมาเผื่อด้วยเลยละกัน" ผมพูดก่อนจะทำหน้าเอือมระอาเต็มทนส่งไปให้หญิงสาว "ตลอดแหละมาร์คอ่ะ งั้นแยกกันตรงนี้เลยไหม" "เดี๋ยวไปส่ง" "ว้าว วันนี้สาวคงได้อิจฉาเราเป็นแถวแน่" หญิงสาวแกล้งทำตาโตราวกับตื่นเต้นอย่างสุดตัว "งั้นรอแปปนะไปห้องน้ำก่อน" เธอลุกออกไปแล้วเหลือแค่ผมที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ผมได้แต่มองตามสาวน้อยขี้เล่นคนนั้นไปจนลับสายตาก่อนจะเข้าสู่ห้วงความคิดของตัวเองอีกครั้ง แต่ก็มีบางอย่างเรียกให้ผมต้องออกมา……..
"จินยองพี่ถึงร้านแล้วนะ เราอยู่ไหนแล้วเนี้ย" เสียงผู้หญิงที่แสนคุ้นหูดังขึ้นไม่ไกลมากนัก
"เข้ามาข้างในเลยพี่อยู่ข้างในกำลังโต๊ะนั่งอยู่ดีเหมือนกันจะได้มาช่วยกันเลือกโต๊ะ" ขออย่าให้เป็นมึงเลยนะ
กริ๊งงงงงงงงงงงงงง
ทันทีที่ประตูเปิดออกก็ปรากฏร่างที่ผมแสนจะหวงแหนขึ้น รอยยิ้มที่ผมชื่นชอบกำลังแย้มอย่างสดใสแต่มันไม่ได้เกิดขึ้นเพื่อผมแต่เพื่อหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ท่าทางที่คุยกันอย่างสนุกสนานทำให้ผมทำอะไรไม่ถูกโมโหจนอยากจะเดินไปกระชากอีกคนออกมา แต่อีกใจกลับกลัวสิ่งที่อาจจะตามมาจากผลของความใจร้อนของตัวเอง
พระเจ้าไม่เคยเข้าข้างคนบาป ผมเพิ่งเข้าใจแจ่มชัดก็วันนี้แหละ
"อ้าว มาร์คมาร้านนี้เหมือนกันหรอ" ผมไม่ตอบอะไรทำเพียงไหวไหล่นิดๆราวกับไม่ใส่ใจอะไร
"มากับสาวคนไหนกันนะ อยากรู้จัง"
"เรื่องของฉัน"
"งั้นขอนั่งด้วยคนได้ไหมโต๊ะมันเต็มหมดแล้วอะ"
"อย่าไปกวนมันเลยครับพี่จีซูเราไปร้านอื่นก็ได้" เสียงทุ้มที่ผมชอบเอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบมาตลอด
"แต่จินยองบอกว่าอยากกินร้านนี้ มาร์คก็เพื่อนจินยองขอนั่งด้วยแค่นี้คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้งเนอะมาร์ค" เธอพูดอย่างร่าเริงพร้อมกับส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจใครหลายคนแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน ยิ่งทำให้อารมณ์ที่เริ่มคุกรุ่นทวีขึ้นไปอีก
"ไม่เป็นไรหรอกรบกวนมันเปล่าๆ" กลัวกูเป็นก้างมึงหรือไง
"มาร์คมีปัญหาอะไรหรือเปล่า" คนที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำดูเหมือนจะงงเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าที่โต๊ะไม่ได้มีผมเพียงคนเดียว
"ก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็น้องไอยูนี่เอง"
"...………………." เธอดูเหมือนจะงงกับคำพูดของจีซูไม่น้อยจึงได้แต่ยิ้มบางส่งให้อีกฝ่าย
"เรื่องแบบนี้ไม่เห็นต้องปิดเลยน่ายินดีออกจะตาย"
"...………………."เธอส่งสายตาเหมือนต้องการคำอธิบายมาให้ผม
"เราไปเถอะไอยู เชิญนั่งกันตามสบาย" ผมออกแรงดึงมืออีกคนให้เดินตามออกมาโดยไม่สนใจเสียงประท้วงที่ลอยตามมาของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย ผมรู้แค่ว่าผมต้องรีบออกไปให้ไกลจากตรงนี้ก่อนที่อะไรๆมันจะแย่ลงไปเพราะตัวผมเอง
อึดอัด บรรยากาศตอนนี้มันน่าอึดอัดจนเหมือนจะหายใจไม่ออก ถึงแม้อีกคนจะไม่ได้พูดอะไรแต่สายตาที่ทอดมองอย่างนิ่งๆนั้นทำให้ผมคาดเดาอะไรไม่ออกว่ามันกำลังคิดอะไรอยู่
กลัว ผมกลัวว่าสักวันหนึ่งจินยองให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าผมและตอนนี้ผมก็กลัวความใจร้อนที่เคยคิดว่าอาจจะจางหายไปแล้วมันกลับมาอีกครั้ง เพราะถ้าผมเผลอทำอะไรลงไปผมกลัวว่าแม้แต่คำเพื่อนรักที่มันมอบให้ก็อาจไม่หลงเหลือให้คนเลวอย่างผม
ผมเคยบอกคุณหรือยังว่าผมไม่ใช่คนอ่อนแอหรือยอมแพ้อะไรง่ายๆ
แต่พอเป็นเรื่องของ จินยอง ผมกลับอ่อนแอจนนึกสมเพชตัวเอง
---------------------------------------------------------------------------------------------------
มาแล้วววววววว เข้ามาอ่านกันได้แล้วน้าา ตอนแรกไรท์คิดว่าการแต่งนิยายจะง่ายแต่พอได้ลองมาแต่งจริงๆไม่ง่ายอย่างที่คิดเลยนะ สับสนอยู่กับตัวเองตั้งนานว่าจะเริ่มเขียนแบบไหนสุดท้ายก็ออกมาแบบเบลอๆเขียนถูกเขียนผิดตีรวนกันไปหมด เฮ้อออออออออออ ถ้าไม่สนุกก็อย่าว่ากันนะไรท์พยายามสุดชีวิตแล้ว
ขอบคุณคอมเม้นท์ทุกคอมเม้นท์และขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านกันนะคะ แนะนะติชมกันได้เนอะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ฮรืออออ สงสารมาร์ค