ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Baramos - หัวขโมยแห่งบารามอส [( เรื่องราวที่เปลี่ยนแปลง )]

    ลำดับตอนที่ #6 : โร เซวาเรส

    • อัปเดตล่าสุด 27 เม.ย. 49


                                  

    ขอบคุณสำหรับทุกคนที่อ่านฟิคเน่าๆของรุ่งอรุณน่ะค๊า ปลื้มจัยจังเรยอ่า

    ----------------------------------------------------------------------------------------

                                               ประตูใหญ่ของโรงเรียนเอดินเบิร์กเปิดกว่างในเช้าวันนี้ แสงอาทิตย์สอดส่องไปทั่วทุกหย่อมหญ้า เสียงนกร้องแช่แชงกันราวกับเสียงดนตรี สนามหญ้าเขียวขจีหน้าโรงเรียนยังคงเต็มไปด้วยหยดน้ำค้าง ทั้งรถทั้งคนยังเต็มไปทั้งถนนด้านหน้า แต่น้อยกว่าวันก่อนๆหลายเท่าตัว ธงสีม่วง มีลายมงกุฎ ดาบ คทา แหวนสีทอง อยู่ตรงกลางซี่งเป็นธงประจำโรงเรียนพระราชากำลังปลิวไสวเรียงรายอยู่บนกำแพงใหญ่และประตูที่เปิดกว้าง


                                               วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดภาคการศึกษา นักศึกษาใหม่ต้องเข้าคิวรอการรายงานตัว ซึ่งดูเหมือนแถวจะมอดเหยียดออกไปเรื่อยๆบางคนรีบมาจองคิวตั้งแต่เช้าเพราะอยากได้หมายเลขนักศึกษาเป็นลำดับต้นๆ และบางกรณียังอาจมีสิทธิ์เลือกหอพักได้อีกด้วย ส่วนนักศึกษาเก่าสามารถเข้าโรงเรียนได้เลยโดยไม่ต้องรอคิว


                                               ตอนนี้ทุกคนล้วนอยู่ในชุดนักเรียนแห่งโรงเรียนพระราชา เว้นแต่พวกรุ่นพี่ที่มีความแตกต่างกันเล็กน้อยตรงผ้าคลุมยาวที่มีสีแถบต่างกันบ้างก็เป็นสีขาว บ้างก็เป็นสีดำ บ้างก็เป็นสีแดง บ้างก็เป็นสำน้ำเงิน เวลาเดินเข้ามาพร้อมกัน ช่างละลานตาชวนดูราวกับขบวนเสด็จของพระราชา


                                               " ลูกเจ้าไปเข้าแถวได้แล้ว " เสียงของอลิเซียดังขึ้นด้านหลังของเฟริน จำใจให้เฟรินหันกลับไป


                                               " ท่านแม่ขอข้ากอดท่านหน่อยได้มั้ย " เฟรินพูดจบรีบโผตัวเข้ากอดคนเป็นแม่ของตนโดยไม่ฟังคำตอบจากอีกฝ่ายเลย


                                                " เป็นอะไรไป " เสียงนุ่มนวลของอลิเซียเอ่ยขึ้น


                                                " ข้าคงต้องคิดถึง ท่านแม่ และ ท่านพ่อมากแน่ๆ " เสียงใสๆของเฟลิโอน่าตอบกลับไป


                                                " โถ่เอ๊ยลูก เรื่องแค่นี้เอง เจ้าโตแล้วนะ " อลิเซียพูดปลอบประโลมลูกสาวของตน ในร่างผู้ชาย " หากโรงเรียนปิดเทอมเจ้าก็กลับไปเดมอสสิ "


                                                " อืม ท่านแม่ " เฟรินพูดจบก็คลายอ้อมกอดของตน " งั้น ท่านแม่ข้าไปก่อนน่ะ " พูดจบก็หยิบ ดาบ คทา และกระเป๋าของตนไปต่อแถว ส่วนอลิเซียก็เดินนำม้าของเฟรินไปฝาก




                                                " อ่ะหือ ท่านแม่บอกว่ามี สี่หอพักงั้นสิ มีอ่ะไรบ้างน้า " เฟรินพึมพำกับตัวเองคนเดียวหลังจากเดินมาต่อแถวยาวเหยียดแถวเดิม แต่เสียงพึมพำของเขากลับมีคนได้ยินซะนี่


                                                " มีปราสาทขุนนาง ปราการปราชญ์ ป้อมอัศวิน แผ่นดินประชาชน " เสียงตอบดังขึ้นมาจากข้างหลังของเฟริน ทำให้เฟรินต้องรีบหันขยับไปดู ก่อนที่เสียงเดิมจะเอ่ยต่อว่า " และมีฉายาว่า ปราสาทผลาญทรัพย์ ปราการลับสมอง ป้อมผจญภัย แผ่นดินแรงงาน "


                                               " เอ่ย นายเป็นใครน่ะ " เสียงของเฟรินดังขึ้นหลังจากหันไปมองหน้าคำที่ตอบคำถามให้เธอ โดยเธอไม่ได้ขอ ' ชาเบรียนรึป่าวน้า '


                                               " ฉันหรอ โร เซวาเรส เดอะเบ็กการ์ ออฟทริสทอร์ " ชาหนุ่มคนเดิมตอบ เข้าคนนี้ไว้ผมหน้ามาสีชา และ นัยน์ตาสีเขียวมรกตเหมือนเพื่อนเก่าของเธอเหลือเกิน


                                               ' ทริสทอร์ งั้นคงไม่ใช่ชาเบรียน ' เฟรินคิดหลังจากจบการแนะนำตัวของชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนเอ่ยบ้าง " ยินดีที่ได้รู้จักฉันเฟริน เดอเบอโรว์ เดอะทีฟ ออฟบารามอส "


                                               " ยินดีที่ได้รู้จัก " เสียงของโรตอบกลับมาบ้าง


                                               " เอ่อ โร นายจะเลือกไปอยู่ที่ไหนหรอ " เฟรินยิงคำถามต่อไปอีกรอบ


                                              " ไม่รู้จะได้เลือกรึเปล่า มันไม่ใช่ทุกคนจะมีสิทธิ์เลือก มันขึ้นกับผลการทดสอบพลัง "


                                             " ทดสอบพลัง " เฟรินทวนคำ ขณะกำลังเดินไปต่อหลังเด็กหนุ่มอีกคนหนึ่ง


                                             " ใช่ มงกุฎ ดาบ คทา และก็แหวน "


                                             " งั้นนาย? "


                                             " ฉันคงได้อยู่แผ่นดินประชาชนละมั้ง น่าจะเหมาะกับขอทานอย่างฉัน "


                                            แล้วบทสนทนาของทั้งคู่ก็ต้องหยุดลง เพราะบรรยากาศรอบตัวเปลี่ยนไป เหลือบมองไปทางแถวด้านหลัง ตอนนี้ยาวเหยียดจนมองแทบไม่เห็นปลายแถว ส่วนผู้คนรอบด้านเริ่มเบาบาง เรื่มมีรุ่นพี่ในชุดนักเรียนคลุมตัวผ้าคลุม แถบสีขาว สีแดง สีน้ำเงิน สีดำ สองสามคนเดินมาเชิญเหล่าผู้ไม่เกี่ยวข้องออกไปนอกเชือกแดงกั้นบริเวณ พร้อมกับโบกมือเร่งเหล่านักศึกษารุ่นพี่ที่มาถึงช้าให้รีบเข้าไปในโรงเรียน


                                            จากนั้นไม่นานเสียงระฆังก้ดังเหง่งหง่างขึ้น เฟรินเงยหน้าดูเห็นนาฬิกาเรือนโตที่สุดเท่าที่เคยเห็นประดับอยู่เหนือประตูกำลังตีบอกเวลคล้องไปกับระฆังที่ดังระงม


                                            แล้วเสียงแตรยาวก็ดังลั่นไปทั่วบริเวณ เป็นสัญญาณบอกถึงการเริ่มรายงานตัว


                                           " เอฟีน่า กริซโดริส เดอะปรินเซส ออฟเอเธนส์ ปราสาทขุนนาง " เสียงประกาศดังลั่นให้ได้ยินกันทั่ว ธงหน้ากำแพงก็แปรจากสีม่วงเป็นสำน้ำเงินแล้วตราประจำธงก็ฉายเป็นลายมงกุฎ แล้วเสียงเฮก็ดังลั่นไปทั่ว


                                          เสียงประกาศดังต่อไปเรื่อยๆ แถวก็ยิ่งหดสั้นลง จนกระทั่งเกือบถึงคิวของเฟริน


                                          " เฟริน เดอเบอโรว์ เดอะทีฟ ออฟบารามอส " เฟรินก้าวเท้าออกไปยืนข้างหน้า ยืนอยู่เบื้องหน้าเลโมธีที่ยิ้มต้อนรับเขาเช่นเดียวกับคนอื่นๆ


                                          " เฟริน...อืม...ที่อยู่ของเธอคือ ป้อมอัศวิน "


                                          เสียงของเลโมธีตามมาด้วยการประกาศเสียงดังจากชายร่างยักษ์อีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ สิ้นเสียงธงข้างประตูใหญ่ก็แปรเปลี่ยนเป็นธงสีแดงลายดาบ เสียงโห่ร้องต้อนรับก็ดังขึ้นจากกองทัพมังกรมันดังกึกก้องกว่าการโห่ร้องครั้งใดๆ ที่อยู่ในกองทัพอื่นๆ ได้ยินแล้วชวนให้อบอุ่นฮึกเหิมเสียเหลือเกินในความรู้สึกของเฟริน


                                           " ยินดีต้อนรับ เฟริน เดอเบอโรว์ เดอะไนท์ ออฟ เอดินเบิร์ก " เสียงชวนฟังจากชายหนุ่มชุดนักศึกษาแห่งเอดินเบิร์ก ผ้าคลุมแถบสีแดงบอกให้รู้ว่า เขาต้องเป็นรุ่นพี่ในป้อมอัศวินและต้องเป็นบุคคลสำคัญในป้อมเพราะแต่งกายเต็มยศกว่าปกติที่เคยเห็น ดิ้นทองคำเดินเป็นเนื้อผ้าวาววับ อกเสื้อมีมงกุฎหนึ่งมงกุฎและดาวสามดวงติดอยู่ ส่วนคทาและดาบยาวสะพายแนบลำตัวข้างซ้ายทั้งยังมีปลอกแขนสีแดงติดอยู่ที่แขนเสื้อข้างขวา ใบหน้าของชายหนุ่มยามยิ้มยิ่งชวนมอง ทั้งสง่าราศี ความองอาจและความรอบรู้ฉายชัดในเวลาเดียวกัน การพบกันครั้งแรกสร้างความประทับใจให้กับเฟรินอย่างยิ่ง โดยเฉพาะนัยน์ตาสีน้ำเงินที่ฉายประกายความเป็นกันเองและอ่อนโยนคู่นั่น ก่อนที่จะยื่นเสื้อคลุมแถบสีแดงมาให้


                                            " ขอบคุณครับ " เฟรินเอ่ยพร้อมเอื้อมมือรับเสื้อคลุมแล้วหันไปคำนับมหาปราชญ์เลโมธีอีกครั้ง ก่อนจะเดินตามรุ่นพี่ในชุดผ้าคลุมสีแดงอีกคนหนึ่งไป แต่ก่อนจะปความรู้สึกวูบบางอย่างมันก็ทำให้เฟรินอดที่จะหันไปกวาดสายตามองคนอีกสามคนที่ยืนอยู่ข้างนักปราชญ์เลโมธีไม่ได้


                                             คนแรกในชุดเสื้อคลุมแถบดำ เป็นบุรุษร่างสูงสง่า ผมสีทองหยักศกเป็นประกายยาวจนถึงกลางหลัง นัยน์ตาที่ทอดมองสบตาด้วยบ่งบอกถึงความดีใจดีและเป็นมิตร


                                             ถัดมาคือสตรีสวยสง่าในผ้าคลุมแถบขวา ผมสีทองของเธอรวบเป็นมวยบนศีรษะอย่างเรียบร้อย ผิลของเธอขาวราวเกล็ดหิมะ ดวงหน้าบอกความสงบเยือกเย็นอย่างยากแก่การคาดเดาอารมณ์ความรู้สึกใดๆ


                                            ส่วนบุรุษคนสุดท้าย ดองหน้าคมเข้ม ผมสีดำหยักศกระต้นคอโครงหน้าเข้ม คิ้วเข้ม จมูกโด่งนั่นมีปลายงุ้มนิดๆราวกับปากนกอินทรี


                                             แล้วเฟรินก็เผลอไปสบนัยน์ตาสีดำคมกริบฉลากเฉลียวคู่นั้นมันฉายแววดูถูดพุ่งมาราวกับประเมินสินค้า แล้วริมฝีปากบางนั่นก้เหยียดออกนิดๆชวนให้ขนลุก แทบจะเรียกว่าแสยะปากเยาะมากเสียกว่ารอยยิ้ม 


                                            " ปรินซ์อาเธอร์ หวังว่าท่านคงไม่คิดจะเริ่มสงครามกับคนของป้อมอัศวินตั้งแต่วันแรกของการเปิดภาคเรียนหรอกนะ หรือท่านว่าไง " เสียงเรียกที่มำให้บุรุษที่ถูกพาดพิงเบือนหน้าไปทางต้นเสียง


                                           " สงครามระหว่างเรามันไม่เคยหยุดอยู่แล้ว จำไม่ได้หรือปรินซ์โรเวน "

    -*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
    บทนี้ตัวหนังสือมันแปลกๆ ด้วยเหตุว่ามันแฮงค์ไปหลายรอบ - - คงไม่ว่ากันน่ะค่ะ

    ขอบคุณสำหรับทุกคนที่อ่านฟิคเน่าๆของรุ่งอรุณน่ะค๊า ปลื้มจัยจังเรยอ่า

    ----------------------------------------------------------------------------------------

                                               ประตูใหญ่ของโรงเรียนเอดินเบิร์กเปิดกว่างในเช้าวันนี้ แสงอาทิตย์สอดส่องไปทั่วทุกหย่อมหญ้า เสียงนกร้องแช่แชงกันราวกับเสียงดนตรี สนามหญ้าเขียวขจีหน้าโรงเรียนยังคงเต็มไปด้วยหยดน้ำค้าง ทั้งรถทั้งคนยังเต็มไปทั้งถนนด้านหน้า แต่น้อยกว่าวันก่อนๆหลายเท่าตัว ธงสีม่วง มีลายมงกุฎ ดาบ คทา แหวนสีทอง อยู่ตรงกลางซี่งเป็นธงประจำโรงเรียนพระราชากำลังปลิวไสวเรียงรายอยู่บนกำแพงใหญ่และประตูที่เปิดกว้าง


                                               วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดภาคการศึกษา นักศึกษาใหม่ต้องเข้าคิวรอการรายงานตัว ซึ่งดูเหมือนแถวจะมอดเหยียดออกไปเรื่อยๆบางคนรีบมาจองคิวตั้งแต่เช้าเพราะอยากได้หมายเลขนักศึกษาเป็นลำดับต้นๆ และบางกรณียังอาจมีสิทธิ์เลือกหอพักได้อีกด้วย ส่วนนักศึกษาเก่าสามารถเข้าโรงเรียนได้เลยโดยไม่ต้องรอคิว


                                               ตอนนี้ทุกคนล้วนอยู่ในชุดนักเรียนแห่งโรงเรียนพระราชา เว้นแต่พวกรุ่นพี่ที่มีความแตกต่างกันเล็กน้อยตรงผ้าคลุมยาวที่มีสีแถบต่างกันบ้างก็เป็นสีขาว บ้างก็เป็นสีดำ บ้างก็เป็นสีแดง บ้างก็เป็นสำน้ำเงิน เวลาเดินเข้ามาพร้อมกัน ช่างละลานตาชวนดูราวกับขบวนเสด็จของพระราชา


                                               " ลูกเจ้าไปเข้าแถวได้แล้ว " เสียงของอลิเซียดังขึ้นด้านหลังของเฟริน จำใจให้เฟรินหันกลับไป


                                               " ท่านแม่ขอข้ากอดท่านหน่อยได้มั้ย " เฟรินพูดจบรีบโผตัวเข้ากอดคนเป็นแม่ของตนโดยไม่ฟังคำตอบจากอีกฝ่ายเลย


                                                " เป็นอะไรไป " เสียงนุ่มนวลของอลิเซียเอ่ยขึ้น


                                                " ข้าคงต้องคิดถึง ท่านแม่ และ ท่านพ่อมากแน่ๆ " เสียงใสๆของเฟลิโอน่าตอบกลับไป


                                                " โถ่เอ๊ยลูก เรื่องแค่นี้เอง เจ้าโตแล้วนะ " อลิเซียพูดปลอบประโลมลูกสาวของตน ในร่างผู้ชาย " หากโรงเรียนปิดเทอมเจ้าก็กลับไปเดมอสสิ "


                                                " อืม ท่านแม่ " เฟรินพูดจบก็คลายอ้อมกอดของตน " งั้น ท่านแม่ข้าไปก่อนน่ะ " พูดจบก็หยิบ ดาบ คทา และกระเป๋าของตนไปต่อแถว ส่วนอลิเซียก็เดินนำม้าของเฟรินไปฝาก




                                                " อ่ะหือ ท่านแม่บอกว่ามี สี่หอพักงั้นสิ มีอ่ะไรบ้างน้า " เฟรินพึมพำกับตัวเองคนเดียวหลังจากเดินมาต่อแถวยาวเหยียดแถวเดิม แต่เสียงพึมพำของเขากลับมีคนได้ยินซะนี่


                                                " มีปราสาทขุนนาง ปราการปราชญ์ ป้อมอัศวิน แผ่นดินประชาชน " เสียงตอบดังขึ้นมาจากข้างหลังของเฟริน ทำให้เฟรินต้องรีบหันขยับไปดู ก่อนที่เสียงเดิมจะเอ่ยต่อว่า " และมีฉายาว่า ปราสาทผลาญทรัพย์ ปราการลับสมอง ป้อมผจญภัย แผ่นดินแรงงาน "


                                               " เอ่ย นายเป็นใครน่ะ " เสียงของเฟรินดังขึ้นหลังจากหันไปมองหน้าคำที่ตอบคำถามให้เธอ โดยเธอไม่ได้ขอ ' ชาเบรียนรึป่าวน้า '


                                               " ฉันหรอ โร เซวาเรส เดอะเบ็กการ์ ออฟทริสทอร์ " ชาหนุ่มคนเดิมตอบ เข้าคนนี้ไว้ผมหน้ามาสีชา และ นัยน์ตาสีเขียวมรกตเหมือนเพื่อนเก่าของเธอเหลือเกิน


                                               ' ทริสทอร์ งั้นคงไม่ใช่ชาเบรียน ' เฟรินคิดหลังจากจบการแนะนำตัวของชายหนุ่มตรงหน้า ก่อนเอ่ยบ้าง " ยินดีที่ได้รู้จักฉันเฟริน เดอเบอโรว์ เดอะทีฟ ออฟบารามอส "


                                               " ยินดีที่ได้รู้จัก " เสียงของโรตอบกลับมาบ้าง


                                               " เอ่อ โร นายจะเลือกไปอยู่ที่ไหนหรอ " เฟรินยิงคำถามต่อไปอีกรอบ


                                              " ไม่รู้จะได้เลือกรึเปล่า มันไม่ใช่ทุกคนจะมีสิทธิ์เลือก มันขึ้นกับผลการทดสอบพลัง "


                                             " ทดสอบพลัง " เฟรินทวนคำ ขณะกำลังเดินไปต่อหลังเด็กหนุ่มอีกคนหนึ่ง


                                             " ใช่ มงกุฎ ดาบ คทา และก็แหวน "


                                             " งั้นนาย? "


                                             " ฉันคงได้อยู่แผ่นดินประชาชนละมั้ง น่าจะเหมาะกับขอทานอย่างฉัน "


                                            แล้วบทสนทนาของทั้งคู่ก็ต้องหยุดลง เพราะบรรยากาศรอบตัวเปลี่ยนไป เหลือบมองไปทางแถวด้านหลัง ตอนนี้ยาวเหยียดจนมองแทบไม่เห็นปลายแถว ส่วนผู้คนรอบด้านเริ่มเบาบาง เรื่มมีรุ่นพี่ในชุดนักเรียนคลุมตัวผ้าคลุม แถบสีขาว สีแดง สีน้ำเงิน สีดำ สองสามคนเดินมาเชิญเหล่าผู้ไม่เกี่ยวข้องออกไปนอกเชือกแดงกั้นบริเวณ พร้อมกับโบกมือเร่งเหล่านักศึกษารุ่นพี่ที่มาถึงช้าให้รีบเข้าไปในโรงเรียน


                                            จากนั้นไม่นานเสียงระฆังก้ดังเหง่งหง่างขึ้น เฟรินเงยหน้าดูเห็นนาฬิกาเรือนโตที่สุดเท่าที่เคยเห็นประดับอยู่เหนือประตูกำลังตีบอกเวลคล้องไปกับระฆังที่ดังระงม


                                            แล้วเสียงแตรยาวก็ดังลั่นไปทั่วบริเวณ เป็นสัญญาณบอกถึงการเริ่มรายงานตัว


                                           " เอฟีน่า กริซโดริส เดอะปรินเซส ออฟเอเธนส์ ปราสาทขุนนาง " เสียงประกาศดังลั่นให้ได้ยินกันทั่ว ธงหน้ากำแพงก็แปรจากสีม่วงเป็นสำน้ำเงินแล้วตราประจำธงก็ฉายเป็นลายมงกุฎ แล้วเสียงเฮก็ดังลั่นไปทั่ว


                                          เสียงประกาศดังต่อไปเรื่อยๆ แถวก็ยิ่งหดสั้นลง จนกระทั่งเกือบถึงคิวของเฟริน


                                          " เฟริน เดอเบอโรว์ เดอะทีฟ ออฟบารามอส " เฟรินก้าวเท้าออกไปยืนข้างหน้า ยืนอยู่เบื้องหน้าเลโมธีที่ยิ้มต้อนรับเขาเช่นเดียวกับคนอื่นๆ


                                          " เฟริน...อืม...ที่อยู่ของเธอคือ ป้อมอัศวิน "


                                          เสียงของเลโมธีตามมาด้วยการประกาศเสียงดังจากชายร่างยักษ์อีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ สิ้นเสียงธงข้างประตูใหญ่ก็แปรเปลี่ยนเป็นธงสีแดงลายดาบ เสียงโห่ร้องต้อนรับก็ดังขึ้นจากกองทัพมังกรมันดังกึกก้องกว่าการโห่ร้องครั้งใดๆ ที่อยู่ในกองทัพอื่นๆ ได้ยินแล้วชวนให้อบอุ่นฮึกเหิมเสียเหลือเกินในความรู้สึกของเฟริน


                                           " ยินดีต้อนรับ เฟริน เดอเบอโรว์ เดอะไนท์ ออฟ เอดินเบิร์ก " เสียงชวนฟังจากชายหนุ่มชุดนักศึกษาแห่งเอดินเบิร์ก ผ้าคลุมแถบสีแดงบอกให้รู้ว่า เขาต้องเป็นรุ่นพี่ในป้อมอัศวินและต้องเป็นบุคคลสำคัญในป้อมเพราะแต่งกายเต็มยศกว่าปกติที่เคยเห็น ดิ้นทองคำเดินเป็นเนื้อผ้าวาววับ อกเสื้อมีมงกุฎหนึ่งมงกุฎและดาวสามดวงติดอยู่ ส่วนคทาและดาบยาวสะพายแนบลำตัวข้างซ้ายทั้งยังมีปลอกแขนสีแดงติดอยู่ที่แขนเสื้อข้างขวา ใบหน้าของชายหนุ่มยามยิ้มยิ่งชวนมอง ทั้งสง่าราศี ความองอาจและความรอบรู้ฉายชัดในเวลาเดียวกัน การพบกันครั้งแรกสร้างความประทับใจให้กับเฟรินอย่างยิ่ง โดยเฉพาะนัยน์ตาสีน้ำเงินที่ฉายประกายความเป็นกันเองและอ่อนโยนคู่นั่น ก่อนที่จะยื่นเสื้อคลุมแถบสีแดงมาให้


                                            " ขอบคุณครับ " เฟรินเอ่ยพร้อมเอื้อมมือรับเสื้อคลุมแล้วหันไปคำนับมหาปราชญ์เลโมธีอีกครั้ง ก่อนจะเดินตามรุ่นพี่ในชุดผ้าคลุมสีแดงอีกคนหนึ่งไป แต่ก่อนจะปความรู้สึกวูบบางอย่างมันก็ทำให้เฟรินอดที่จะหันไปกวาดสายตามองคนอีกสามคนที่ยืนอยู่ข้างนักปราชญ์เลโมธีไม่ได้


                                             คนแรกในชุดเสื้อคลุมแถบดำ เป็นบุรุษร่างสูงสง่า ผมสีทองหยักศกเป็นประกายยาวจนถึงกลางหลัง นัยน์ตาที่ทอดมองสบตาด้วยบ่งบอกถึงความดีใจดีและเป็นมิตร


                                             ถัดมาคือสตรีสวยสง่าในผ้าคลุมแถบขวา ผมสีทองของเธอรวบเป็นมวยบนศีรษะอย่างเรียบร้อย ผิลของเธอขาวราวเกล็ดหิมะ ดวงหน้าบอกความสงบเยือกเย็นอย่างยากแก่การคาดเดาอารมณ์ความรู้สึกใดๆ


                                            ส่วนบุรุษคนสุดท้าย ดองหน้าคมเข้ม ผมสีดำหยักศกระต้นคอโครงหน้าเข้ม คิ้วเข้ม จมูกโด่งนั่นมีปลายงุ้มนิดๆราวกับปากนกอินทรี


                                             แล้วเฟรินก็เผลอไปสบนัยน์ตาสีดำคมกริบฉลากเฉลียวคู่นั้นมันฉายแววดูถูดพุ่งมาราวกับประเมินสินค้า แล้วริมฝีปากบางนั่นก้เหยียดออกนิดๆชวนให้ขนลุก แทบจะเรียกว่าแสยะปากเยาะมากเสียกว่ารอยยิ้ม 


                                            " ปรินซ์อาเธอร์ หวังว่าท่านคงไม่คิดจะเริ่มสงครามกับคนของป้อมอัศวินตั้งแต่วันแรกของการเปิดภาคเรียนหรอกนะ หรือท่านว่าไง " เสียงเรียกที่มำให้บุรุษที่ถูกพาดพิงเบือนหน้าไปทางต้นเสียง


                                           " สงครามระหว่างเรามันไม่เคยหยุดอยู่แล้ว จำไม่ได้หรือปรินซ์โรเวน "

    -*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
    บทนี้ตัวหนังสือมันแปลกๆ ด้วยเหตุว่ามันแฮงค์ไปหลายรอบ - - คงไม่ว่ากันน่ะค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×