คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : No.15 - แฟนฟิคชั่น
เสียงดังกรอบแกรบของทั้งพลาสติกและกระดาษมากมาย ปนด้วยเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นในห้องชุดห้องหนึ่งของคอนโดหรูใจกลางเมือง เศษซากกระดาษและพลาสติกที่เหลือจากการแกะระเกะระกะไปทั่วพื้น แต่ทั้งผม ทั้งเซน ทั้งริท ต่างก็กำลังเพลิดเพลินจนไม่มีใครมีใจจะไปใยดี
กิจวัตรยามดึกหลังกลับมาจากทำงานของพวกผมหนีไม่พ้นการนั่งดูของที่แฟนคลับซื้อมาให้ ไม่วาจะทั้งที่ให้พวกผมรับเองกับมือ หรือที่ฝากพี่ทีมงานมาก็ตาม ซึ่งส่วนมากจะเป็นพวกของกิน ของที่ระลึก ต่างๆนานา และไม่ว่าจะของชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ยังไง ผมก็ดีใจที่ได้รับทุกชิ้น
“โหยยยยแม่งงงง ไอ้เซนได้ของกินล็อตใหญ่อีกแล้วเว้ย!” เสียงน้องชายตัวเล็กของผมเองครับ มันร้องทันทีที่เซนหยิบถุงพลาสติกสีขาวถุงใหญ่อ้วน ๆ แล้วหยิบของออกมาจากถุงนั้นทีละชิ้นสองชิ้น ผมเห็นแล้วโคตรอึ้งครับ ช็อกโกแลตนอกกองพะเนิน ส่วนมากจะเป็นจากเบลเยี่ยมและอิตาลี มากมายก่ายกองเต็มถุงจนผมนึกว่าเป็นช็อกโกแลตเหรียญทองชิ้นละบาทสองบาท ผมน่ะอึ้งในความแพงครับ แต่ละอย่างดูหรูจนชวนหวั่นถึงราคาทั้งนั้น ในขณะที่คนบ้าของหวานอย่างไอ้ริท...แค่ปรายตามองก็รู้ว่ามันอยากกิน
“เออๆ ไม่ต้องมาน้ำลายย้อย กูแบ่งให้มึงกินอยู่” ไอ้เซนตอบอย่างรู้ทัน หันมามองริทชั่วครู่ก่อนจะกลับไปสนใจของของตัวเองอีกครั้ง เจ้าน้องชายผมมันก็ได้แต่หัวเราะแหะๆ ก่อนบรรจงแกะกล่องของขวัญสีฟ้าลายสก็อตไซส์กลางที่วางอยู่บนตัก บรรจงที่ว่าคือบรรจงจริงๆครับ ตั้งแต่ใช้เล็บแกะสก็อตเทปให้หลุด แล้วค่อยๆลอกออกอย่างเชื่องช้าเบาๆ สายตาของมันจับจ้องอยู่ทุกย่างก้าวที่มันแกะออกมาแต่ละส่วน เหมือนกับเรียนผ่าตัดอยู่ยังไงยังงั้น แน่ครับ มันทำแบบนี้เพราะเก็บไปตั้งแต่ของยันเศษ เป็นเหตุให้ทั้งผมทั้งเซนต้องมาคอยเก็บกวาดอยู่บ่อยๆ
“พี่โตโน่ได้อะไรแล้วบ้างอ่ะ” เป็นไอ้เซนที่ละจากกองของขวัญตรงหน้ามาถามผม ซึ่งตัวผมก็ได้แต่ยักคิ้วแล้วผายมือไปทางของที่ระลึกต่างนานาตรงหน้า ตั้งแต่พวงกุญแจ เข็มกลัด ตุ๊กตา จดหมาย กระดาษข้อความเยอะแยะสารพัด แล้วก็ถุงของกินที่ผมแยกไว้อีกด้าน เซนพยักหน้าหงึกหงัก พวกเราง่วนอยู่กับการดูของและการอ่านข้อความอยู่ซักระยะ จนเมื่อไอ้ตัวเล็กทนง่วงไม่ไหวอยากไปนอนสักที จึงจัดแจงของตัวเองให้เข้าที่แล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป เมื่อมีผู้นำก็ต้องมีผู้ตามครับ เซนเป็นคนที่สองที่เก็บข้าวของตัวเอง เพียงแต่กระโจนขึ้นเตียงไปนอนโดยไม่อาบน้ำ ด้วยเหตุผลที่ว่ามันอาบมาแล้วทุกวัน และวันนี้ก็ไม่ได้ทำอะไรหนักเหงื่อมาก อีกทั้งมันยังนอนเตียงเดี่ยว ไม่ต้องห่วงใครเหม็น ผมก็ขี้เกียจฟังมันครับ ปล่อยมันนอนๆไปแหละดี
“ยังไม่เลิกดูอีกเหรอพี่โตโน่ พรุ่งนี้ทำงานแต่เช้าเลยนะ?” เจ้าน้องชายคนดีของผมเตือนหลังจากออกมาจากห้องน้ำด้วยน้ำเสียงงัวเงีย(และหาวหวอดกว้างๆอีกหนึ่งจอก) ผมมองหน้ามันก็รู้ได้เลยว่าถึงผมจะตอบว่าเลิกหรือไม่เลิกมันก็ชิงไปนอนต่อที่เตียงคู่ของผมและมันอยู่ดี
“เขาอุตส่าห์เขียนมาให้ อยากอ่านต่อให้หมด” ผมว่ายิ้มๆแล้วหันกลับมาที่จดหมายสีขาวเขียนด้วยลายมือเรียบสวย ริทพยักหน้าหงึกหงัก เดินตรงไปล้มตัวลงบนเตียงตามคาด
ทุกตัวอักษรและข้อความที่บ่งบอกถึงความหวังดีและความห่วงใย ยิ่งทำให้ผมใจชื้น ดีใจที่ยังมีคนชอบ และเพราะเหตุนี้ถึงเป็นแรงใจสำคัญให้ผมพยายามมากขึ้น
แต่แล้วสายตาของผมก็สะดุดเข้ากับหนังสือเล่มหนึ่งที่อยู่ในถุงของจากแฟนคลับ
เป็นหนังสือไม่หนาไม่บาง ข้างในเป็นกระดาษถนอมสายตา ส่วนข้างหน้าเป็นกระดาษสีน้ำตาลอ่อน และไม่มีแม้แต่ชื่อเรื่อง
ผมไม่รอช้าที่จะเปิดอ่านมัน
‘ภาคิณอดไม่ได้ที่จะหัวเราะกับเรื่องตลกตรงหน้า’
อ่านคราวๆในหน้านี้แล้วผมก็พอจะจับได้ว่าเป็นเรื่องราวของพวกผมและน้องๆอีก 6 คนในบ้านเดอะสตาร์ แต่งออกมาคล้ายๆนิยายที่มีพวกผมเป็นตัวละคร เนื้อเรื่องก็มีเค้าเรื่องจริงอยู่ ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ผมก็ตัดสินใจอ่านมันต่อไป
ผมเปิดไปอีกหน้าที่อยู่ห่างจากหน้าเมื่อกี้คนละฝั่งอย่างคยต้องการสำรวจหนังสือไว้ล่วงหน้า หนาขนาดนี้ผมคงต้องเก็บไว้อ่านหลายๆวัน แต่ข้อความที่ปรากฏสู่สายตาชักทำให้ผมรู้สึกว่าต้องกลับไปคิดใหม่
‘ภาคิณมองคนตัวเล็กตรงหน้าด้วยอารมณ์หลากหลาย อดไม่ได้ที่จะเคลื่อนกายเข้าไปใกล้ มือแกร่งทั้งสองโอบกอดเอวบางไว้อย่างทะนุถนอม จมูกโด่งไล้วนอยู่ที่แก้มขาวเนียนอย่างหลงใหล’
เฮ่ย... กูไปทำแบบนั้นเมื่อไหร่กับใครวะ?
‘ริมฝีปากหยักก้มลงประทับจูบร่างเล็กอย่างบางเบา แต่แล้วสายตาหวานเชื่อม ริมฝีเผยอน้อยๆ กับแขนบางที่รั้งเขาไว้เหมือนไม่อยากให้ออกไปไหน กลับทำให้บางอย่างในใจลุกโชนขึ้นมาเสียดื้อๆ’
อะไรลุกโชน?
‘ “อืมมมม พี่โตโน่ ...อีก...อ๊ะ!” หนุ่มนักศึกษาแพทย์อดครางไม่ไหวเมื่อชายหุ่นนักกีฬาดูดเล็มยอดอกเขาอย่างกระหาย มือร้อนไล้วนไปทั่วสะโพก ก่อนลูบไล้ลงเคล้นคลึงบั้นท้ายอย่างเร่า...”
ถึงตอนนี้ชายหนุ่มถึงกับปิดหนังสือลงดังฉับแล้วโยนมันไปไว้ไกลๆ!
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
ใจเขาเต้นระรัว เหงื่อซึมชื้น ตกตะลึงกับเรื่องราวในหนังสือเมื่อครู่ รู้ทั้งรู้ว่าไม่ใช่เรื่องจริง แต่ไอ้ครั้นมาอ่านของติดเรทที่ตัวเองเป็นตัวเอก แถมมีไอ้ตัวเล็กที่เขาไม่เคยคิดอะไรเกินน้องชายมาร่วมแจมแบบนี้ ยังไงก็ตกใจ
หนุ่มนักศึกษาแพทย์...ริท
เขากับริท เขากับริท เขากับริท...เซ็กส์...
แม่งเอ๊ย! ไอ้คุณโตโน่ในนิยายมันนึกคึกอะไรถึงมาปล้ำน้องชายตัวเองได้หน้าตาเฉยวะ! แม่ง! แม่ง! แม่ง!
สงบจิตสงบใจก็จัดการเก็บหลักฐานหนังสือชวนใจหายเล่มนั้นเข้ากรุ เอาของอื่นๆยัดกลบทับ ซ้อนด้วยทั้งถุงกระดาษทั้งถุงพลาสติกหลายต่อหลายชั้น สงบต่ออีกขั้นด้วยการไปอาบน้ำและนอนเสีย
น้ำเย็นๆช่วยทำให้ใจเย็นลงได้โขอยู่ แต่พอจะมานอนก็รู้ว่าสุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
เพราะพอผมกลับมาจะนอนลงเตียงเดิม ก็เห็นร่างเล็กๆของใครบางคนซุกตัวอยู่กับหมอนและผ้าห่มอย่างไม่รู้เรื่องราว
ผมก้มลงไปมองหน้ามัน ตาสองชั้นปิดสนิท ปากเผยอนิดๆ หน้าตาดูไม่เป็นพิษภัย หลับได้ไร้เดียงสา ในขณะที่ผมคลั่งแทบตาย
เห็นหน้ามันทุกวันไม่เคยคิดอะไร...แต่...
ผมกับริท ผมกับริท ผมกับริท...เซ็กส์ (ในนิยาย)
แม่งเอ๊ย!! ใครจะไปนอนร่วมเตียงกับคนที่ถูกเอามาปู้ยี่ปู้ยำในนิยายติดเรทกับตัวเองลงวะ!
“อือ...พี่โตโน่...” เสียงครางบางเบาจากคนหลับอุตุยิ่งทำให้ผมคลั่ง
“อืม...” ครางไม่พอ ปากที่เมื่อกี้ยังเผยอ มาตอนนี้กลับขบฟันลงริมฝีปากล่างตัวเองเบาๆ ตอนแรกผมว่าคลั่งแล้ว ตอนต่อไปนี่เด็ดกว่า
“อือ... ไม่เอา...พี่โตโน่...อย่า...ริทบอกว่า...อืมมมมมมม” ก็รู้นะว่านอนดิ้น ก็รู้นะว่าชอบนอนละเมอ แต่...
แต่แม่งทำไมต้องมาละเมอครางแบบนี้! ตรงนี้! ตอนนี้ด้วยวะ?!
อย่างนี้มันยิ่งตอกย้ำผมเลยว่า...
ผมกับริท ผมกับริท ผมกับริท...เซ็กส์ (ในนิยาย)!!!
โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!
สุดท้ายนายโตโน่ในโลกแห่งความจริงก็ได้แต่ไปนอนสงบจิตสงบใจบนโซฟาห้องรับแขก...
----------------------------------------------------------------------------
“พี่ว่าพี่โตโน่กินพาราของไอ้ริทจนป่วยไปแล้วแน่ๆเลยว่ะ” เก่งออกความเห็น
“โหยย ไม่ใช่น่า ตั้งแต่เฮียเป็นไข้คราวที่แล้วริทก็ไม่ได้เอายาอะไรไปให้เฮียกินสุ่มสี่สุ่มห้าเลยนะ
”
“พักผ่อนไม่พอรึเปล่า? ช่วงนี้พี่โตโน่ป็อปปูล่า” เกตว่าบ้าง
“ไม่น่า ไอซ์ว่าเฮียอ่ะเมนส์มาชัวร์”
“ผู้ชายที่ไหนมีเมนส์ล่ะไอซ์... เกรซว่าเฮียเมา...เมารักพี่ริท”
เงียบฉี่... ทั้งวงเงียบฉี่ไปชั่วขณะ
อันที่จริงจะไม่เกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นเลย ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเหล่าน้องๆเดอะสตาร์ 6 เห็นอาเฮียใหญ่ของบ้านใต้ตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า หน้าตาดูอิดโรย โคตรโทรมเหมือนคนทำงานหนักมาหลายคืนหลายวัน จนพี่ช่างแต่งหน้าต้องระดมกันปะนั่นทานี่บนใบหน้าเสริมดวงชะตาราศี เพื่อการถ่ายแบบอันแสนตรงใจของช่างภาพ
“แต่ก็แปลกๆตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วนา ปกติเฮียจะต้องตื่นมาไล่ไอ้ริทไปอาบน้ำ แต่คราวนี้ดันหลับอุตุอยู่บนโซฟา”
ทุกคนที่ว่างเริ่มตั้งประเด็น ในขณะที่บุคคลถูกพาดพิงและเดอะสตาร์คนที่ 6 กำลังถ่ายแบบอยู่อีกฟาก
ซึ่งหากมาถามเจ้าตัวเองแล้ว นับว่าการข่มตาหลับเมื่อคืนช่วยให้หายคิดเรื่องไม่เป็นเรื่องเมื่อคืนได้อยู่ อย่างน้อยตอนเจอหน้าริทก็ไม่ได้หลุดท่าทางแปลกๆอะไรออกไป จะมีก็แต่ใบหน้าที่โคตรโทรมกว่าปกติก็เท่านั้น อ้างๆไปว่าเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ กับเครียดๆเรื่องงานเพราะกลัวทำได้ไม่ดีก็พอฟังขึ้น
คิดได้แบบนี้ผมก็พอจะมีพลังขึ้นมา ฮึดถ่ายแบบได้จนจบ ถ่ายเสร็จก็มีพวกน้องๆมาถามว่าไปทำอะไรทำไมวันนี้โทรมๆบ้าง แต่ผมก็ตอบตามที่คิดไว้แต่แรกไป บวกกับสีหน้าผมที่ดูดีขึ้นแล้ว ก็เพียงพอที่จะทำให้ไม่มีใครถามอะไรต่ออีก จนพวกเราพักเที่ยง ข้าวปลาอาหารพร้อม ด้วยขนาดโต๊ะที่เล็กจึงต้องนั่งกระจายๆเอา ผมนั่งกับริท เซนแล้วก็กัน กินไปพลาง คุยไปพลาง จนในที่สุดผมก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
แต่ตอนเดินผ่านโต๊ะที่ไอ้ไอซ์มันนั่งอยู่น่ะล่ะ บรรลัย
“เฮ้ยแม่ง... รูปนี้พี่ริทโคตรเด็ด...” คำคอมเมนท์แรกจากเด็กหนุ่มวัย 15
“ไหนๆ ดูมั่ง” จนเมื่อตากลมสวยของเกรซเลื่อนดูทุกอณูของภาพ “อืม...ไปทางนี้น่าจะรุ่งนะพี่ริท”
คำพูดต่างๆที่ลอยมาเข้าหูทำให้ภาคินเกิดอาการอยากรู้อยากเห็น ไม่รอช้าที่จะสาวเท้าเข้าไปดูใกล้ๆว่าที่ว่าเด็ดๆกันน่ะคืออะไร
“หือ? ดูอะไรกันอยู่วะ”
ไม่ต้องพูดอะไรให้มากมาย เกรซก็ยื่นหน้าหนังสือที่ดูอยู่ให้พี่ใหญ่แทนคำตอบ
ภาพที่เห็นคือ...
ภาพของเรืองฤทธิ์ที่นอนราบแผ่หลาไปกับพื้น เอียงคอน้อยๆในมุมชวนค้นหา ดวงตาปรือๆไปข้างหน้าเหมือนคนตื่นนอน ริทฝีปากอิ่มเค้าสีชมพูเผยอนิดๆ แขนสองลักษณะการวางเหมือนคนถูกตรึงแขนไว้ข้างบน (แค่เพียงไม่มีอะไรตรึงอยู่จริงๆก็เท่านั้น) สวมเสื้อยืดสีขาวธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา เพราะดันขับช่วงอกให้น่าวาดมือเข้าค้นหา ทั้งๆที่รู้ว่าก็มีแต่อกแบนๆ
ยั่ว...ยั่วมาก...
ยั่วจนทำให้นึกถึงเรื่องของเขากับริทและเซ็กส์ในนิยาย!!
นายโตโน่ในโลกแห่งความจริงได้แต่ถอนหายใจเบาๆ ก่อนส่งหนังสือคืนให้เกรซเหมือนไม่ได้คิดอะไร ทั้งที่หลายอย่างก็แสดงออกมาทางสีหน้า ทั้งแววตาตื่นๆ กับหน้าแดงน้อยๆ
ก่อนที่จะให้ใครจับได้ นายโตโน่ก็ฉวยโอกาสเดินเข้าห้องน้ำฉับๆ หัวใจเต้นระรัวกับเรื่องที่น่าจะทำใจได้และให้มันจบไปแล้วตั้งแต่เมื่อคืน
-------------------------------------------------------------------------------------
ลงท้ายแล้วทั้งวันผมก็ได้แต่ข่มใจไม่ให้คิดถึงเรื่องผมกับริทและเอ่อ...นั่นล่ะ
ดีหน่อยที่หลังจากช่วงออกห้องน้ำมาแล้ว ก็ไม่มีเหตุการณ์ไหนชวนให้ผมนึกถึงเรื่องนั้นอีก รู้สึกว่ามันค่อยๆแผ่วๆลง ยังไงผมก็น่าจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเรื่องนั้นมันก็แค่เรื่องในนิยาย ไม่ใช่เรื่องจริง อีกอย่างผมกับริทก็มีคนจับคู่ให้จนตั้งเป็นแฟนคลับมาตั้งนานแล้ว ใช่มั้ยนะ? ที่เขาเรียกว่าจิ้น? เหมือนจับคู่กันธรรมดา...
แน่นอนว่าเรื่องจับคู่ บางครั้งอาจมีจิ้น (เห็นว่าย่อมาจากจินตนาการ?) ไปถึงไหนต่อไหน โอเค ผมพยายามจะเข้าใจแฟนคลับกลุ่มนี้ อย่างน้อยพวกเขาก็เป็นคนอีกกลุ่มหนึ่งที่คอยช่วยเหลือผมมาตลอด แล้วอีกอย่างถ้าผมบริสุทธิ์ใจ ต่อให้คนจิ้นผมกับริทแค่ไหน แต่พวกเขาก็คงรู้คอนเซปต์แหละว่ายังไงพวกเราก็พี่น้อง ไม่มีอะไรเกินเลย
โอเคไอ้โน่ มึงคิดได้เจ๋งมาก จงคิดแบบนั้นต่อไป
“พี่โตโน่ มาช่วยริทขนไอ้นี่ขึ้นรถหน่อยดิ!” เสียงร้องเรียกจากไอ้น้องชายทำให้ผมหลุดจากอะไรๆให้มันเข้าที่เข้าทาง ตอนนี้เริ่มค่ำหน่อยๆแล้ว จำได้ว่าหลังจากนี้ก็มีคิวอยู่อีก ผมควรจะเลิกคิดเรื่องนี้แล้วตั้งใจทำงานเสียที
“เออ แป๊บๆๆ” ผมขานรับ เห็นริทที่ตัวเล็กๆแต่ถือห่ออะไรไม่รู้โคตรใหญ่แล้วขำ มือน้อยๆที่อุ้มห่อของไว้เริ่มสั่นอย่างคนถือไม่ไหว ผมเห็นท่าไม่ดีรีบวิ่งเข้าไปจะไปช่วย ทว่า...
พรืดดดดดดดดดดดดดดด
นั่นล่ะครับ เรียบร้อยละครไทย...ใครๆก็เดามุกออก
ไม่ต้องบอกหรอกว่าเมื่อกี้หวิดไปจะล้ม ไอ้ริทก็ตกใจจะเสียหลักล้มลงเหมือนกัน ผมเลยฉุดข้อมือมันมาทางตัวเอง ผลคือเราล้มทั้งคู่ ผมอยู่ล่าง ไอ้ริทอยู่บน ผมกอดเอวมันไว้หลวมๆกันหลุด
“เอ่อ...” ดวงตาแป๋วๆจ้องมองผมในระยะโคลสอัพ จมูกแทบชนกัน ริมฝีปากเม้มเหมือนสะกดกลั้นความตกใจเอาไว้ หน้าอกแบนๆทับตัวผม ในขณะที่ท่อนล่างทับ...ไอ้นั่น...
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
ลมหายใจอุ่นและความร้อนจากร่างกายเริ่มทำให้ผมเข้าใจ
.
.
.
ว่าทำไมนายโตโน่ในนิยายถึงนึกคึกปล้ำไอ้ตัวเล็กตรงหน้านี่...แบบนั้น...
ดีค่า
ฟิครั่วปนเรท ที่อยากให้เฮียออกแนวรั่วๆ(หลุดมากทีเดียว) อยากจะบอกว่า ฟิคนี้มีความสำคัญ 2 ประการ 1เป็นฟิค HBD พี่ริท 2. มันเป็นฟิคหื่นหมายเลข 1 ของเรา!!(ว่าแต่ทำไมฟิค HBD พี่ริทถึงเป็นฟิคหื่นกันนะ?) เอาเป็นว่าแต่งด้วยความคึกในวันนั้น มันอาจจะหื่นไม่ถึงใจ แต่ยังไงมันก็หื่นนะคะ (ทำไมย้ำนักวะเนี่ย?) เจอกันเอนทรี่หน้าค่า
ปล1. รูปพี่ริทที่ว่าคือรูปในตำนานในนิตยสารกุลสตรีฉบับโน่ริทกันเกรซ เป็นรูปที่พี่ริทนอนราบไปกับพื้นด้วยมุมกล้องเซ็กซี่ แอร๊ยยยยยย
ความคิดเห็น