คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : No.9 - หอมแก้ม
นายเรืองฤทธิ์ ศิริพานิช...ที่สองเดอะสตาร์ 6 ดีกรีนักศึกษาแพทย์มข....
นอกจากนิสัยกลัวผี ขี้อ้อน นอนดิ้น จอมนอยด์ ขี้น้อยใจแล้ว...
ยังมีนิสัยอีกอย่างหนึ่งที่แก้ยังไงก็แก้ไม่ตก และเป็นเหตุที่ทำให้เขาต้องนั่งกลุ้มกับมันอยู่ ณ วินาทีนี้
นั่นคือ....
ไม่ชอบทานผัก!
จริงๆกะจะไม่ยุ่งเรื่องนี้กับมันหรอก แต่เพราะไอ้ตัวเล็กนี่มันไม่ยอมทานผักมานานจนตอนนี้ท้องผูก เข้าห้องน้ำนานเป็นชั่วโมงก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะออกมา เหตุเพราะว่าสิ่งปฏิกูลสีเหลืองทองยังไม่โผล่แม้สักมิล และเป็นผมนี่แหละที่ต้องมานั่งดูแลมันยังกับลูกในตอนนี้
“ออกยังวะริท” ผมถามมันเป็นรอบที่ร้อยได้ตั้งแต่มันก้าวเข้าห้องน้ำไป ไม่รู้ทำไมผมถึงรู้สึกยังกับว่าตัวเองกำลังดูแลน้องชายวัยประถมก็ไม่ปาน
“ไม่อ่ะ... เบ่งยังไงก็ไม่ออก นั่งจนปวดตูดไปหมดแล้ว” เอากับมันครับ...
“พี่บอกแล้วว่าให้กินผัก เป็นไง ท้องผูกเลยเห็นมั้ย”
“บอกตอนนี้แล้วมันได้อะไรล่ะพี่โตโน่ เอาเวลามานั่งคิดว่าทำยังไงริทถึงจะขี้ออกไม่ดีกว่าเหรอ” สังคมไทยครับ...เห็นตัวอย่างไอ้ตัวเล็กนี่แล้วคุณเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อคนเรียนหมอขึ้นบ้างมั้ยครับ ?
โชคร้ายของประเทศที่ตอนนี้สถานการณ์บ้านเมืองไม่ค่อยสู้ดีครับ เลยกลายเป็นโชคดีของริทในวันนี้ที่มันนั่งท้องผูกอยู่ในห้องน้ำนานเท่าไหร่ก็ได้ เพราะไม่ต้องไปทำงาน และกลายเป็นโชคร้ายของผมอีกต่อ เพราะไม่ต้องไปทำงานเหมือนกัน เลยต้องมาดูแลไอ้ตัวเล็กนี่แม้แต่ในเวลานั่งขี้ เอาเหอะ...ดูกันมาตั้งแต่ในบ้านแล้ว ดูต่อก็คงไม่เป็นไรหรอก
“โหยยยยย พี่ ไอ้ริทแมร่งยังไม่ออกมาจากห้องน้ำอีกเหรอ” เสียงไอ้เซนเริ่มโวยวายครับ มันผุดลุกผุดนั่งจากเก้าอี้บ่อยพอๆกับที่ผมถามริทว่าเมื่อไหร่จะเสร็จ อันที่จริงแล้วเซนเองก็อยากเข้าห้องน้ำเหมือนกันครับ แต่มันก็ยังไม่ได้เข้าเพราะใครบางคนจองห้องไว้นานจนจะเป็นชั่วโมง
“มึงก็ไปยืมห้องข้างๆสิว้า ไม่ก็ออกไปใช้ห้องน้ำข้างนอก” ไอ้กันเอาบ้างครับ
“ข้างนอกเป็นยังไงมึงก็รู้”
นอกจากฝนตก รถติด กรุงเทพฯตอนนี้ยังมีอะไรอีกมากที่ไม่น่าพึงประสงค์ครับ อย่างสถานการณ์บ้านเมืองข้างนอก...
พูดถึงสถานการณ์บ้านเมืองแล้วผมเครียดนิดๆครับ เป็นห่วงในหลวงว่าท่านจะเป็นยังไง บ้านเมืองท่านก็ปกครองมากับมือ มาวันนี้คนไทยทำร้ายกันเอง เวลาผมเห็นน้องทะเลาะกันผมว่าแย่แล้ว ที่ถ้าพ่อมาเห็นคนในบ้านทะเลาะกันเอง ยิงกันเอง ฆ่าฟันกันเอง มันจะยิ่งขนาดไหน
“เฮ้อ...พี่โตโน่ ทำยังไงก็ไม่ออกอ่ะ” เสียงคุ้นเคยดังฟังชัดข้างๆหู ทำให้ผมละจากการคิดเรื่องเครียดๆเมื่อครู่เปลี่ยนไปมองไอ้ตัวเล็กที่เดินมานั่งข้างๆด้วยใบหน้ามุ่ยทุ่ยแทน มันคงหงุดหงิดมากครับ บ่นว่าขี้ไม่ออกมาหลายวันแล้ว จะไม่ให้เป็นแบบนี้ได้ยังไงในเมื่อขนาดข้าวผัดที่มีผักแค่แตงกวามันยังเขี่ยมาให้ผมกิน ผลไม้ก็ไม่ค่อยแตะ ข้าวที่ควรจะกินให้ครบทุกมื้อมันก็กินบ้างขาดบ้าง (กลับคอนโดทีไรมันหาเรื่องเล่นคอมพิวเตอร์ เล่นโน่นเล่นนี่จนไม่ยอมทานครับ) สงสัยจริงๆว่าโตมาได้ยังไงขนาดนี้ ผมล่ะกลุ้มแทนพ่อแม่มันจริงๆ
“ไง ออกมาได้แล้วเหรอเรา” ไม่ต้องถามถึงเจ้าเซนครับ มันวิ่งเข้าห้องน้ำไปแล้ว
“เมื่อยตูด ขี้เกียจแล้ว” มันยังทำหน้ามุ่ยทุ่ย “ทำไงดีพี่ ริทขี้ไม่ออกมาเป็นสัปดาห์แล้ว”
“พี่คิดไว้แล้วริท” ผมบอกเสียงเรียบ ไอ้ตัวเล็กที่นั่งข้างๆเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
“วันนี้ยังไงๆริทก็ต้องกินผัก” ไม่ทันขาดคำเสียงโอดครวญเพื่อประท้วงก็ดังมาจากไอ้คนขี้ไม่ออกเมื่อกี้ครับ
“โหยยยย พี่โตโน่ พี่ก็รู้ว่าริทเหม็นเขียว”
“แล้วจะเอาไงล่ะหืม? ไปให้หมอผ่าตัดเอาขี้ออกเลยมั้ย?” ได้ผลครับ คนตัวเล็กที่ทำท้วงเมื่อกี้เบิกตากว้างก่อนก้มหน้างุด ผมได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆของไอ้กันประกอบ
“ยาถ่ายล่ะ...” มันเสนอ
“ไม่เอา ไม่ให้ใช้”
“พี่โตโน่...”
“เอ้า แต่งตัว เดี๋ยวจะพาออกไปซื้อผักกิน” พูดทิ้งไว้แค่นั้นผมก็ลุกออกจากที่เพื่อเตรียมตัวออกไปข้างนอกครับ ทิ้งไว้ให้น้องริทคนโก้ทำหน้าอึ้งๆก่อนทำตามคำสั่งแต่โดยดี กันหัวเราะใหม่อีกรอบ
สนุกว่ะ!
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ยังไม่ได้จะออกไปไหนครับ ยังไม่ได้แม้แต่จะเปิดประตูด้วย
ตอนนี้ห้องของพวกเราก็เต็มไปด้วยสารพัดของกินครับ!
ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อกี้มีเสียงออดหน้าห้องครับ กันมันก็อาสาออกไปเปิดประตู แล้วเสียงมันก็เงียบไปจนผมสงสัย จนผมได้ออกมาดูเอง
สิ่งที่ผมเห็นหน้าประตูไม่ใช่ผี ไม่ใช่สัตว์ประหลาด ไม่ใช่วิญญาณ แต่เป็นบุคคลที่ผมเห็นแล้วสุดจะเซอร์ไพรซ์!
ตายครับ! ทั้งสิงโต(ที่มาพร้อมกับคุณแม่) ทั้งดิว ทั้งแก้ม! ยืนหอบถุงที่บรรจุไปด้วยอาหารกันพะรุงพะรัง
ตอนนั้นแหละครับผมถึงได้สะกิดไอ้กันให้หายอึ้ง แล้วช่วยน้องๆเขาขนของเข้าบ้าน จากตอนแรกที่ผมว่าจะออกไปซื้อผักกับไอ้ตัวเล็กคงต้องเปลี่ยนแผนครับ เพราะตอนนี้เรามีทั้งผักบุ้ง ผักกาด ผักคะน้า และสารพัดผัก!
“พี่โตโน่ ใครมาอ่ะ..เฮ้ย!” พอริทมันเห็นว่าใครมาก็ร้องดังลั่นเลยครับ ดูจากสีหน้าแล้วมันคงตื่นเต้นมาก ไม่รอให้ผมต้องบอกมันก็ลุกมาช่วยผมกับคนอื่นๆถือถุงอาหารเข้ามาครับ มันดูตื่นเต้นปนประหม่า เช่นเดียวกับไอ้เซนที่พอออกจากห้องน้ำมาปุ๊บ เห็นอะไรๆปั๊บ ก็ตามมาด้วยอาการเดียวกัน
“คือวันนี้แม่คุยกับน้องๆว่าอยากมาเยี่ยม ก็เลยตกลงว่าจะทำสุกี้กินกัน” แม่ของน้องสิงโตแจกแจง ในขณะที่จัดผักจัดเนื้อออกจากถุงอย่างคล่องแคล่ว
“สิงโตโทรมาชวน พี่เลยมาด้วย พอดีเจอแก้มตอนกำลังซื้อของกัน ก็เลยชวนมาอีกคน” พี่ดิวที่ตอนนี้กำลังช่วยคุณแม่น้องสิงโตเอาของออกจากถุงอยู่พูดบ้าง พลางพูดถึงแก้มที่จัดการล้างผักอยู่ในห้องครัว
“ผมเห็นตอนแรกแล้วตกใจ” ไอ้กันว่าอย่างคนยังประหม่า จริงๆแล้วก็คือพวกผมทุกคนตอนนี้ก็ยังประหม่าอยู่ แหงล่ะครับ! เจอศิลปินรุ่นพี่ (ที่ถึงแม้เขาจะอายุน้อยกว่า) เป็นใครก็ต้องตื่นเต้น พวกเราช่วยกันจัดแจงโต๊ะและอาหารสำหรับสุกี้ในมื้อเย็นนี้ครับ ไม่นานมันก็เสร็จ ตอนนี้เราก็กำลังเอาของใส่หม้อต้มกันอยู่ นอกจากสุกี้แล้ว บนโต๊ะก็ยังมีบะหมี่ เป็ดย่าง และสารพัดของทอดเพื่อทานเล่น เป็ดย่างเนี่ยแม่สิงโตเขาทำเองครับ รับประกันความอร่อย ผมว่าก็อร่อยจริงๆน่ะแหละ ชิมมาแล้ว
“โหยยย ผมเห็นตอนพี่กันร้องเพลงกับพี่แก้มแล้วขนลุก” สิงโตเริ่มเปิดบทสนทนาทันทีที่คุณแม่เอาฝาหม้อปิดลงไปครับ ได้ยินเสียงปุดๆของน้ำที่กำลังเดือดพล่าน
“พี่แก้มเขาเก่งครับ พี่ร้องคู่กับเขายังขนลุกเองเลย”
“น้องกันเองก็เก่งค่ะ”
พวกเราผลัดกันพูดผลัดกันฟังครับ ผมนึกถึงเมื่อตอนที่พวกเรายังอยู่ในบ้านกันอยู่ ทุกมื้ออาหารเราก็จะมานั่งทานกันไป คุยเล่นกันไปแบบนี้ บรรยากาศเหมือนคนในครอบครัวคุยกันครับ อบอุ่นดี
เวลาผ่านไปเท่าไหร่ผมไม่ได้สนใจ รู้แค่ว่าตอนนี้คุณแม่สิงโตเรียกให้พวกเราสนใจอาหารในหม้อสุกี้ ถึงตอนนี้ผมยังไม่ลืมความตั้งใจที่จะให้ไอ้ตัวเล็กมันกินผักครับ ทันทีที่รอให้คนอื่นๆตักอาหารไปสักพักแล้ว ผมก็บรรจงตักทั้งผักบุ้งผักกาดผักคะน้าใส่จานของริท ไอ้ตัวเล็กเริ่มโวยวาย
“โหยยยย พี่โตโน่ก็รู้ว่าริทไม่...” มันเงียบไปหลังจากที่ผมส่งสายตาปรามๆครับ เราคุยกันไว้แล้วว่าถ้าริทไม่กินผมจะพามันไปหาหมอผ่าตัดเอาขี้ออกแทน
“ริท มึงก็กินไปเหอะน่า จะได้ขี้ออกซักทีไง” เซนว่าขำๆ ก่อนละเลียดกินวุ้นเส้นในจาน
“แล้วเมื่อไหร่มึงจะกดน้ำล้างขี้ลงส้วมให้มันได้ซักทีล่ะเซน” สิ้นเสียงกัน เซนก็ถลึงตามอง
เอาเข้าไปครับ กินกันไป คุยเรื่องขี้เรื่องเยี่ยวกันไป ผมขักสงสารน้องๆกับคุณแม่ที่เขามาเยี่ยมเราแล้วสิ
“ริทอึไม่ออกเหรอลูก?”
“พี่เซนเข้าห้องน้ำแล้วกดชักโครกไม่ลงเหรอครับ”
“แล้วน้องกันก็เข้าไปเห็นในชักโครงของน้องเซนเหรอคะ?”
เอ่อ...
ท่ามกลางสายตาอึ้งๆของผม ดิวก็กำลังหัวเราะขำจะเป็นจะตาย บรรยากาศการกินข้าวแบบครอบครัวอันแสนอบอุ่นเมื่อครู่เหลือเพียงความเงียบครับ พอคิดได้ว่าเรื่องทั้งหมดจะไม่เกิดถ้าผมไม่ตักพักพอกบนจานไอ้ตัวเล็กเรื่องก็คงไม่เกิด ผมเลยคิดว่าต้องเป็นหน้าที่ของตัวเองที่ต้องอธิบาย
“คือริทมันท้องผูกครับ เมื่อเช้าเข้าห้องน้ำก็ยังอึไม่ออก ผมเลยบอกให้มันกินผักมากๆ”
“แล้วที่เซนราดไม่ลง?” ดิวที่นั่งหัวเราะตั้งแต่เมื่อกี้หันมาถามบ้างครับ คำตอบที่ได้คือเสียงหัวเราะแหบแห้งจากเจ้าเซน กับเสียงขำเบาๆของกัน พวกเรากลับมาสนใจอาหารในจานกันต่อครับ ริทยังคงทำหน้าปุเลี่ยนๆเมื่อเห็นกองผักต้มเล็กๆในจานตัวเอง
“กินเถอะน่า อร่อยนะเว้ย”
“มันทำใจยากจริงๆพี่โตโน่” มันพูดเหมือนตัวเองต้องออกไปสนามรบเพื่อสู้กับกองผักครับ เอาเข้าไปไอ้ตัวเล็ก
“เอาแบบนี้มั้ยคะ?” เสียงสวรรค์จากน้องแก้มทำให้ริทมองน้องเขาด้วยแววตามีความหวัง “น้องริท ลองเริ่มจากที่มันกินง่ายๆก่อนมั้ย อย่างนี่...” น้องแก้มใช้ส้อมจิ้มหัวหอมใหญ่ทอดมาให้เจ้าริทชิ้นหนึ่งครับ
“มันกรอบๆหวานๆนะคะ น้องเกตตอนแรกทานผักยากเหมือนกัน กินอันนี้ครั้งแรกก็ชอบ”
“เอ่อ...ครับ” โดนสาวบอกให้กินแบบนี้ ชายชาตรีอย่างน้องริทเป็นต้องยอมครับ ผมได้ที รับส้อมมาจากน้องแก้มแล้วเอามาจ่อตรงปากไอ้ริทมัน มันทำหน้าอย่างคนทำใจอยู่ประเดี๋ยว ก็อ้าปากแล้วงับเจ้าหัวหอมทอดไปทั้งชิ้น
จากคนหลับตาปี๋เมื่อกี้ ตอนนี้สีหน้าของมันกำลังบอกว่าอร่อยครับ มันเริ่มกินหอมทอดเยอะขึ้นเรื่อยๆ พวกเราก็ดีใจครับ เห็นไอ้ตัวเล็กยอมกินผัก เลยคะยั้นคะยอให้มันกินผักต้มที่กองอยู่ในจานสักที
แน่นอนว่ายังไงเสีย ริทก็ยังเป็นริทครับ
ถึงจะญาติดีกับหอมทอดแล้ว ก็ยังหวาดๆกับผักต้ม
“มันก็หวานๆเหมือนกันแหละริท กินเหอะ” กันเริ่ม
“อร่อยไม่แพ้หอมทอดพี่แก้มหรอกน่า” เซนต่อ
“ผักนี่แม่ผมเลือกเองกับมือ อร่อย” สิงโตผสมโรง ทุกคนกำลังเชียร์ให้ริทกินผักครับ เห็นสายตากดดันปนคาดหวังจากทุกสารทิศแบบนี้ ขนาดริทที่กินผักยากกว่าอะไรดียังมีหวั่นไหว ผมเองก็ชักสนุก เอาผักใส่ช้อนแล้วจ่อตรงปากคนตัวเล็กเหมือนเคย
ในขณะที่ริททนไม่ไหว กำลังเปิดปาดจะกินอยู่รอมร่อ...
อยู่ๆมันก็เอามือกุมท้องแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็วครับ!
ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้นเบิกตากว้างก่อนยิ้มให้กันอย่างปลิ้มปิติ นาทีนี้คือสิ่งที่ทุกคนรอคอย ไอ้ตัวเล็กจะถ่ายออกหรือไม่...
เสียงกดชักโครกกับสีหน้าโล่งๆของริทตอนที่ออกมาจากห้องน้ำเป็นสิ่งยืนยัน
งานนี้ต้องยกคุณงามความดีให้หอมทอดของน้องแก้มครับ!
ดีค่า ไม่ถึงสัปดาห์เจอกันอีกแล้ว (ฮา)
ฟิคนี้แต่งไว้นานแล้วตั้งแต่เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่จริงก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่แต่งไว้แล้วลงบ้านโน่ริทแฟมแต่ยังไม่ได้ลงที่นี่(บางเรื่องก็จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองแต่งด้วย 555+) วันดีคืนดีคงได้ลงให้อ่านกันเรื่อยๆนะคะ
ปล. อ่านฟิคนี้จบหวังว่าทุกคนคงได้รับความหวานนนนนนนนน หึ-หึ-หึ
ความคิดเห็น