ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Free! FanFiction] Sensitive Adolescences [MakoHaru]

    ลำดับตอนที่ #3 : No.3 - Eyes

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ค. 57



    ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกก็สะดุดกับดวงตาคู่นั้นมาตลอด

    ดวงตากลมๆสีน้ำเงินสวยของฮารุที่ให้ความรู้สึกลึกล้ำราวกับท้องมหาสมุทร

    แต่ก็น่าเสียดาย

    ...ที่ดูเหมือนดวงตาคู่นั้นจะไม่เคยมองมาที่เขาเลยสักนิดเดียว...เดี๋ยวนะ...

     

                    "ฮารู้ววววววววววววว!!" นักเรียนหนุ่มม.ปลายร้องเสียงหลงเมื่อเห็นเพื่อนคนสนิทกำลังถอดเสื้อเตรียมจะกระโดดลงทะเลข้างทาง ช่วงขายาววิ่งสุดฝีเท้าก่อนที่จะเอาแขนแกร่งโอบรอบเอวเพรียวๆนั่น ทว่าคนในอ้อมแขนกลับออกแรงดิ้น บ่งบอกได้อย่างดีว่าเจ้าตัวคิดจะลงน้ำให้ได้

     

                    "ไม่ได้นะฮารุ! นี่เรากำลังจะไปโรงเรียนนะ เดี๋ยวก็สายหรอก!" แต่ไม่ได้ผล คนในอ้อมแขนยังคงดิ้นอย่างดื้อเงียบ ยื้อยุดกันอยู่ได้ไม่กี่วินาที เขาก็อาศัยที่ตัวเองแรงมากกว่าฉุดอีกฝ่ายให้ออกห่างมาจากทะเลเรื่อยๆจนในที่สุดก็มาถึงทางเดินไปโรงเรียนจนได้ และปฏิกิริยาของอีกฝ่ายก็เป็นดังคาด สายตาของฮารุเอาแต่มองไปที่ทะเลอย่างโหยหา พอเขาสะกิดให้เดิน เหมือนเจ้าตัวจะรู้ว่าขัดไม่ได้เลยเอาแต่เดินเหมือนประชด แถมยังหันหลังให้ ไม่พูดด้วยอีก (ถึงจริงๆจะไม่ค่อยพูดอะไรอยู่แล้วก็เถอะ)

     

                    "อย่าโกรธไปเลยน่า ก็มีเรียนจริงๆนี่นา" เขาพยายามง้อ "แล้วก็นะ ถึงอากาศจะอุ่นขึ้นแล้วแต่นี่ก็ยังหนาวอยู่ดี เดี๋ยวจะเป็นหวัดเอานะฮารุ"

     

                    อีกฝ่ายยังคงเงียบ เพราะฮารุเดินนำหน้าไปอยู่นั่นแหละถึงทำให้เดาไม่ออกว่าตอนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆตั้งแต่รู้จักกันมา ปกติก็จะจบลงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เพราะหมู่นี้เขาเริ่มน้อยใจอีกแล้วที่อีกฝ่ายเหมือนจะไม่สนใจเลยทั้งที่เขาแสดงออกว่าเทใจให้แทบตาย เลยอดคิดขึ้นมาไม่ได้ว่าเป็นตัวเขาที่ทึกทักไปเองรึเปล่าว่าสนิทกัน

     

                    ...แต่คิดแบบนั้นตอนนี้ไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาล่ะนะ

     

                    เพราะไม่สบายใจ เขาถึงคิดไม่ออกว่าควรจะพูดอะไรต่อดี บรรยากาศการเดินไปโรงเรียนในตอนนี้ระหว่างเขาและฮารุจึงเงียบกริบ

                    ...

                    ...

                    ...

                    ...เขาไม่ชอบ มันอึดอัด

     

                    "...อ่ะใช่ วันนี้มีการบ้านภาษาญี่ปุ่นด้วยนะ เอามารึเปล่า?" สุดท้ายก็หาเรื่องคุยจนได้ แต่ก็เหมือนจะใช้แก้ขัดได้ชั่วคราวเท่านั้น ถ้าให้คุยต่อด้วยอารมณ์นี้ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี

     

                    "...อื้อ เอามา" ฮารุกะตอบกลับด้วยเสียงเรียบๆและประโยคสั้นๆอย่างเคย แต่เท่านี้ก็มากพอแล้วที่จะทำให้คนฟังยิ้มออกเพราะรู้ว่าเรื่องคราวนี้จะจบลงแบบที่เคยเป็น

     

                    "พูดถึงเรื่องเรียน อาทิตย์หน้ามีสอบภาษาอังกฤษนี่นะ ไม่ค่อยมั่นใจเลยแฮะ"

     

                    "ท่องๆไปเดี๋ยวก็ได้เองแหละ"

     

                    "คราวที่แล้วท่องทั้งคืนแต่คะแนนก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่นี่นา"

     

                    "มาโหมอ่านเอาคืนเดียวเนื้อหามันเลยตีกันน่ะสิ"

     

                    "ฮารุก็มาอ่านเอาใกล้ๆวันสอบเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? แต่คะแนนก็ดีกว่าฉันเยอะเลย"

     

                    "เพราะกินซาบะทุกวันไงล่ะ"

     

                    "ที่ว่าปลาทะเลมี DHA ใช่มั้ย? ฮ่ะๆ"

     

                    จากที่เคยเดินตามอยู่ข้างหลัง มาตอนนี้ได้มาเดินข้างๆ ได้หาเรื่องคุย เห็นหน้ากัน บรรยากาศที่เคยเงียบกริบค่อยๆหายไป

     

                    ใช่...เขาชอบแบบนี้ต่างหาก

     

                    ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าสำหรับฮารุแล้วเขาสำคัญแค่ไหน แต่จะลืมไปก่อน

     

                    เพราะว่าช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกับฮารุแบบนี้น่ะ มีค่าสำหรับเขามากจนไม่อยากคิดอะไรแย่ๆให้เสียอรรถรสอีก

     

                    ___________________________________________________________________________

     

                    เที่ยงวันนี้นานาเสะ ฮารุกะ เดินขึ้นไปกินข้าวที่ดาดฟ้าคนเดียว

     

                    ออกจะเป็นเรื่องแปลกเพราะปกติจะมีร่างใหญ่ของทาจิบานะ มาโกโตะตามมาด้วยเสมอ แต่เพราะวันนี้พ่อหนุ่มร่างสูงใจดีรับปากกับชมรมวรรณกรรมเอาไว้ว่าจะไปช่วยซ่อมตู้กับขนของ ก็เลยออกมาอย่างที่เห็น

     

                    ฮารุกะไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไรนัก เขาชอบกินข้าวกล่องปลาซาบะเคล้าบรรยากาศดาดฟ้าโรงเรียนอันเงียบสงบ ท้องฟ้าสีคราม และลมเย็นๆพัดสบายอยู่แล้ว ถ้าเขาชอบก็ไม่เกี่ยวหรอกว่าจะต้องมีใครมาอยู่ด้วย

     

                    ส่วนอีกด้าน มาโกโตะกำลังตอกตะปูที่ตู้อย่างขมีขมัน พวกงานฝีมือเขาไม่ถนัดหรอก แต่เรื่องงานกรรมกรก็ใช้การได้อยู่บ้าง ตู้ที่ทำอยู่นี่ยังไม่ได้พังมาก ตอกแป๊บเดียวก็เสร็จ จากนั้นเลยมาช่วยคนอื่นๆในชมรมแพ็คของที่จะโละทิ้งต่อ

     

                    "ขอโทษนะจ๊ะทาจิบานะคุง รบกวนแย่เลย"

     

                    "ไม่หรอก นานๆทำทีก็สนุกดีนะ ฮ่ะๆ" ตอบพร้อมรอยยิ้ม ยิ้มที่เจ้าตัวไม่รู้หรอกว่าทำเอาเหล่าสาวๆหัวใจเต้นผิดจังหวะกันไปเป็นแถบ

     

                    "อ๊ะ นี่ก็เที่ยงแล้วนะ ทาจิบานะคุงจะไปกินข้าวที่ไหนเหรอจ๊ะ?" เด็กสาวคนหนึ่งถาม

                    "อ๋อ เดี๋ยวขึ้นไปกินกับฮารุบนดาดฟ้าน่ะ"

     

                    "นานาเสะคุงสินะ? สนิทกันมากเลยนี่นา? เห็นตัวติดกันตลอดเลย" เด็กสาวอีกคนถามบ้าง

     

                    "ก็คบกันมาตั้งแต่เล็กๆนี่นา"

     

                    "แต่สุดยอดเลยนะ ก็นานาเสะคุงดูขรึมๆน่าจะคุยยากแบบนั้นแท้ๆ แต่ทาจิบานะคุงก็คุยด้วยได้สบายๆเลย"

     

                    "ฮารุไม่ค่อยพูดก็จริงแต่ชอบแสดงออกทางสีหน้านะ เพราะงั้นก็เลยสนุกมากเวลาที่ได้เดาว่าคิดอะไรอยู่น่ะ อ๊ะ อันนี้เสร็จแล้ว ให้ขนลงไปข้างล่างใช่ไหม?" เขาถาม พอเห็นคนพยักหน้าตอบรับก็เลยแบกทั้งส่วนของตัวเองและส่วนของคนอื่นไปด้วย รู้สึกว่าตัวเองโชคดีหน่อยที่หลังจากช่วงม.ต้นปี 3 ร่างกายก็โตเอาๆจนมีกล้ามเป็นมัดเลยขนของเยอะๆหนักๆได้สบายๆ

                   

                    "ทาจิบานะคุง ขนกองนั้นเสร็จก็ไปกินข้าวเลยก็ได้จ้ะ ตรงนี้เหลืออีกนิดเดียวเดี๋ยวพวกเราขนไปเอง ขอบใจมากนะ"

     

                    "อื้ม โอเค"

     

                    "อ๊ะ แล้วก็ถ้าไม่รังเกียจ เย็นนี้ไปกินน้ำชาด้วยกันไหมจ๊ะ ตอบแทนที่ช่วยวันนี้ไง" และถ้าเขาจะสนใจเจ้าของคำพูดมากกว่านี้สักนิด คงจะรู้ไปแล้วว่าสาวเจ้าพูดออกมาด้วยเจตนาแบบไหน

     

                    "ขอบใจนะ แต่เย็นนี้มีนัดแล้วน่ะ"

     

                    "เอ๊ะ?"

     

                    "สัญญากับฮารุว่าจะไปซื้อของด้วยกัน"

    ____________________________________________________________________

     

     

                    สำหรับคนนอกแล้ว มาโกโตะและฮารุกะเป็นเพื่อนสนิทกันมากอย่างแน่นอน เริ่มจากการมาโรงเรียนในแต่ละวันที่จะเห็นทั้งสองเดินมาด้วยกันเป็นแพ็คคู่ นั่งเรียนที่ที่นั่งข้างกัน เอาการบ้านไปส่งให้กัน กินข้าวเที่ยงด้วยกัน และกลับจากโรงเรียนด้วยกัน นี่ยังไม่นับเรื่องราวแปลกประหลาดที่เพียงฮารุกะมองตาหรือเอ่ยชื่อ มาโกโตะก็รู้ใจไปเสียทุกอย่างอีก

     

                    แต่ใครจะรู้ว่าจริงๆแล้วมาโกโตะรู้สึกสับสนกับเรื่องนั้น พอบอกให้ตัวเองเลิกคิด เดี๋ยววันดีคืนดีก็คิดขึ้นมาอีก ตอนนี้ที่กำลังขนของอยู่ก็เหมือนกัน

     

                    มันเป็นมาตั้งแต่แรกที่เวลาเดินด้วยกันกับฮารุ อีกฝ่ายจะไม่ได้สนใจเขาเท่าไหร่ ในขณะที่เขาพยายามสรรหาเรื่องพูดเพราะไม่อยากให้คนข้างๆเบื่อ ยิ่งตั้งแต่ม.ต้นมานี้ สายตาของฮารุมักจะทอดออกไปยังทะเลไกลแสนไกล

     

                    มันก็แทบทุกครั้งด้วย ที่เวลาเขามีเหตุที่ทำให้ต้องผิดนัดอะไรไป ฮารุกะไม่เคยแสดงท่าทีโกรธ ผิดหวัง หรือเสียใจอะไรสักนิด

     

                    มันเป็นแบบนั้นบ่อยๆ ที่ทั้งๆที่เขาพยายามหาของที่จะทำให้อีกฝ่ายดีใจมาให้ แต่สุดท้ายผลตอบรับก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น

     

                    ทั้งที่พยายามคิดว่านั่นคือนิสัยปกติของฮารุอยู่แล้ว ต่อให้เป็นใครฮารุก็จะทำแบบนี้ไม่ต่างกัน แต่ลึกๆแล้วในใจเขาหวั่นๆ

     

                    ว่าจริงๆแล้วเพราะตัวเองก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้นเองต่างหาก

    ______________________________________________________________

     

                    หลังเลิกเรียน เขากับฮารุเดินกลับบ้านด้วยกันตามปกติ แต่วันนี้พิเศษหน่อยตรงที่จะไปซื้อของในเมืองกันด้วย จริงๆเรื่องมันเกิดขึ้นเพราะเขาเริ่มสังเกตว่าข้าวของเครื่องใช้ในบ้านฮารุร่อยหรอ ทั้งข้าวที่เหลืออยู่ก้นถุง ซอสที่แทบจะหมดขวด น้ำยาล้างจานกับน้ำยาขัดห้องน้ำที่เหลือน้อยเต็มที ก็เลยได้คะยั้นคะยอให้ออกมา

     

                    ใช้เวลาสักพักหนึ่ง ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงซุปเปอร์มาเก็ตที่หมายตาไว้จนได้ เขาเป็นคนถือตะกร้า ในขณะที่ฮารุเป็นคนเลือกของ เหมือนจะโชคดีหน่อยๆที่พวกเขามาได้จังหวะโปรโมชั่นปลาลดราคาด้วย ดวงตาของฮารุเป็นประกาย ก่อนฝีเท้านั่นจะเดินไปที่แผนกปลาอย่างไม่ต้องคิด

     

                    ปลาที่อยู่บนถาดน้ำแข็งเรียงราย หนังที่สะท้อนแสงไฟจนเงาวับบอกชัดถึงความสด แม้จะมีปลาหลากหลายให้เลือก แต่ซาบะก็เป็นปลาชนิดแรกที่ฮารุเดินเข้าไปหา แม้จะมีผมปรกหน้าอยู่ แต่เขาก็เห็นดวงตาของฮารุจับจ้องไปที่ภาพตรงหน้าอย่างสนใจ

     

                    ใช่แล้ว ดวงตาคู่นั้นมักจะมองแต่สิ่งที่ตัวเองสนใจเสมอ

     

                    ไม่รู้ว่าเพราะอารมณ์หรือคิดอะไรอยู่กันแน่ แต่พอรู้ตัวอีกทีก็จับผมสีดำที่เกะกะนั่นทัดหูให้ไปแล้ว

     

                    ทุกอย่างระหว่างพวกเขายังคงนิ่งอยู่หลายวินาที ก่อนที่ฮารุกะจะหยิบปลาที่มองอยู่เข้าตะกร้า

     

                    "ต่อไปก็ข้าวสินะ?" เขาเอ่ยยิ้มๆ คนตัวเล็กกว่าพยักหน้าหงึกหงักแล้วเดินนำไป ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ฮารุมักจะเลือกแต่ของยี่ห้อเดิมๆไม่ก็ของที่คล้ายๆกับที่ตัวเองเคยชินเสมอ การซื้อของเข้าบ้านคราวนี้ก็เลยเสร็จไวไม่ต่างจากครั้งก่อนๆ เขากับฮารุแบ่งของกันถือคนละครึ่ง ที่อยู่กับเขาก็มีข้าวสาร ส่วนอีกมือก็น้ำยาล้างจานกับน้ำยาขัดห้องน้ำ

     

                    แต่พอเดินๆไปก็ชักหิว เมื่อได้กลิ่นหอมพร้อมกับเห็นหน้าตาน่ากินของทาโกะยากิร้านใกล้ๆก็อดเหลียวมองไม่ได้

                   

                    "ฮารุ รอแป๊บนะ"

     

                    ได้ทาโกะยากิเพิ่มชีสราดหน้าด้วยมายองเนสและต้นหอมญี่ปุ่นพอประมาณ แต่น่าเสียดายที่แม้ของอร่อยจะอยู่ตรงหน้า แต่เพราะมือข้างหนึ่งก็ถือของ มืออีกข้างก็ถือถาดทาโกะยากิอยู่ ก็เลยไม่มีมือว่างจะจิ้มเจ้าลูกกลมๆเข้าปาก

     

                    แต่ในขณะที่กำลังสมเพชตัวเองแบบแปลกๆอยู่นั้น ฮารุก็ใช้มืออีกข้างที่ว่างจิ้มทาโกะยากิมาจ่อตรงปากเขาแล้ว

     

                    "มือไม่ว่างนี่? เอ้า?"

     

                    อยู่ๆใจก็เต้นแรง หนุ่มร่างใหญ่อ้าปากงับอย่างงงๆ แต่ก็ต้องตกใจสุดขีดเพราะความร้อนทำเอาลิ้นพองน้ำตาไหล

    คนป้อนเบิกตากว้างด้วยความตกใจไม่แพ้กัน

     

                    "มาโกโตะ!"

     

                    "อื้อ ไม่..เป็นไร ฮารุ" หลังจากทนกลืนเข้าไปอย่างยากลำบาก ในที่สุดคนที่ทำหน้าทรมานจนแดงก่ำเมื่อกี้ก็ยิ้มออกมาจนได้ "ขอโทษนะ ลืมไปเลยว่ามันจะร้อน"

     

                    "...ต้องเป่าก่อนสิ"

     

                    "นั่นสินะ อ่ะ ฮารุก็กินด้วยกันสิ?"

     

                    ไม่มีคำตอบอะไร ฮารุกะจิ้มทาโกะยากิขึ้นมาอีกลูกแล้วเป่าเบาๆ จากนั้นจึงงับคำหนึ่งเข้าปาก แล้วคงเพราะเห็นเขามอง เจ้าตัวจึงเป่าทาโกะยากิอีกครั้งแล้วยื่นมาให้เขา

     

                    เขารู้สึกว่ามีอะไรอุ่นๆอยู่ในใจจนหุบยิ้มไม่ได้ อ้าปากรับทาโกะยากิที่เหลืออยู่ค่อนลูกนั่นไว้ รสชาติกลมกล่อมและความอุ่นร้อนท่ามกลางอากาศที่เริ่มเย็นลง แค่การกินเท่านั้นก็ทำให้คนเรามีความสุขได้ขนาดนี้เลยเหรอ?

     

                    เขาน่ะชอบฮารุมากจริงๆน่ะแหละ

                   

    ______________________________________________________________

     

                    กว่าจะกลับมาถึงละแวกบ้านก็เริ่มมืดแล้ว บรรยากาศยามเย็นของเมืองอิวาโทบิช่างเงียบสงบ ท้องฟ้าไล่ระดับจากสีม่วงแดงไปสีน้ำเงินจบด้วยสีกรมท่า ลมเย็นพัดเอาไอและกลิ่นของทะเลแตะจมูก เสียงคลื่นซัดฝั่งฟังเป็นท่วงทำนองที่ชวนผ่อนคลาย

     

                    แล้วก็ ได้เดินด้วยกันในบรรยากาศแบบนี้กับฮารุ

     

                    แต่ไม่นานนักหรอก สุดท้ายก็มาถึงหน้าบ้านฮารุจนได้ พอเอาของเข้าไปวางเสร็จก็คงต้องกลับแล้ว

     

                    ...เสียดายนิดๆล่ะมั้ง

     

                    "งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะฮารุ" เขากล่าวก่อนที่จะเปิดประตูหน้าบ้าน ฮารุกะที่ออกมาส่งพยักหน้าหงึกหงัก

     

                    "อ๊ะ ใช่ พรุ่งนี้คุณแม่ว่าจะทำครีมโคร็อกเกะให้เป็นมื้อเที่ยง เดี๋ยวเอามาแบ่งฮารุกินนะ?"

     

                    ทำไมไม่รู้ แต่ก็เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ ก่อนที่ฮารุกะจะเอ่ยปาก

     

                    "อย่านานเหมือนวันนี้ซะล่ะ"

     

                    ชั่วครู่เดียวเท่านั้นที่เขาเห็นดวงตาสีสวยของฮารุกะวูบไหว แต่ไม่ทันตั้งตัวดีเจ้าตัวก็หันหลังกลับเข้าบ้านทั้งอย่างนั้น ทิ้งให้เขายืนงงอยู่คนเดียว

     

                    ...จะอะไรก็ไม่รู้ล่ะนะ แต่

     

                    ไม่มีอะไรให้ต้องคิดมากอีกแล้ว แค่ดวงตาที่ไหวระริกเพราะเรื่องของเขาก็เกินพอ

     

                    ...ที่ทำให้มั่นใจได้ว่า เขาไม่ใช่คนอื่นคนไกลของฮารุอย่างแน่นอน

     




    -Talk-
    และตอนนี้เพิ่งแต่งเสร็จเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว รู้สึกฝืดๆด้วยหลายๆอย่าง แต่ก็คิดว่าแบบนี้ดีแล้วแหละ น่ะค่ะ TwT
    ก็คิดว่าจะพยายามเขียนต่อไปเรื่อยๆ แม้คู่นี้แค่จิ้นเอาในหัวจะฟินแล้วก็ตาม(ฮา)
    ขอบคุณที่อ่านนะคะ > <!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×