คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : No.3 - Eyes
ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกก็สะดุดกับดวงตาคู่นั้นมาตลอด
ดวงตากลมๆสีน้ำเงินสวยของฮารุที่ให้ความรู้สึกลึกล้ำราวกับท้องมหาสมุทร
แต่ก็น่าเสียดาย
...ที่ดูเหมือนดวงตาคู่นั้นจะไม่เคยมองมาที่เขาเลยสักนิดเดียว...เดี๋ยวนะ...
"ฮารู้ววววววววววววว!!" นักเรียนหนุ่มม.ปลายร้องเสียงหลงเมื่อเห็นเพื่อนคนสนิทกำลังถอดเสื้อเตรียมจะกระโดดลงทะเลข้างทาง ช่วงขายาววิ่งสุดฝีเท้าก่อนที่จะเอาแขนแกร่งโอบรอบเอวเพรียวๆนั่น ทว่าคนในอ้อมแขนกลับออกแรงดิ้น บ่งบอกได้อย่างดีว่าเจ้าตัวคิดจะลงน้ำให้ได้
"ไม่ได้นะฮารุ! นี่เรากำลังจะไปโรงเรียนนะ เดี๋ยวก็สายหรอก!" แต่ไม่ได้ผล คนในอ้อมแขนยังคงดิ้นอย่างดื้อเงียบ ยื้อยุดกันอยู่ได้ไม่กี่วินาที เขาก็อาศัยที่ตัวเองแรงมากกว่าฉุดอีกฝ่ายให้ออกห่างมาจากทะเลเรื่อยๆจนในที่สุดก็มาถึงทางเดินไปโรงเรียนจนได้ และปฏิกิริยาของอีกฝ่ายก็เป็นดังคาด สายตาของฮารุเอาแต่มองไปที่ทะเลอย่างโหยหา พอเขาสะกิดให้เดิน เหมือนเจ้าตัวจะรู้ว่าขัดไม่ได้เลยเอาแต่เดินเหมือนประชด แถมยังหันหลังให้ ไม่พูดด้วยอีก (ถึงจริงๆจะไม่ค่อยพูดอะไรอยู่แล้วก็เถอะ)
"อย่าโกรธไปเลยน่า ก็มีเรียนจริงๆนี่นา" เขาพยายามง้อ "แล้วก็นะ ถึงอากาศจะอุ่นขึ้นแล้วแต่นี่ก็ยังหนาวอยู่ดี เดี๋ยวจะเป็นหวัดเอานะฮารุ"
อีกฝ่ายยังคงเงียบ เพราะฮารุเดินนำหน้าไปอยู่นั่นแหละถึงทำให้เดาไม่ออกว่าตอนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆตั้งแต่รู้จักกันมา ปกติก็จะจบลงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เพราะหมู่นี้เขาเริ่มน้อยใจอีกแล้วที่อีกฝ่ายเหมือนจะไม่สนใจเลยทั้งที่เขาแสดงออกว่าเทใจให้แทบตาย เลยอดคิดขึ้นมาไม่ได้ว่าเป็นตัวเขาที่ทึกทักไปเองรึเปล่าว่าสนิทกัน
...แต่คิดแบบนั้นตอนนี้ไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาล่ะนะ
เพราะไม่สบายใจ เขาถึงคิดไม่ออกว่าควรจะพูดอะไรต่อดี บรรยากาศการเดินไปโรงเรียนในตอนนี้ระหว่างเขาและฮารุจึงเงียบกริบ
...
...
...
...เขาไม่ชอบ มันอึดอัด
"...อ่ะใช่ วันนี้มีการบ้านภาษาญี่ปุ่นด้วยนะ เอามารึเปล่า?" สุดท้ายก็หาเรื่องคุยจนได้ แต่ก็เหมือนจะใช้แก้ขัดได้ชั่วคราวเท่านั้น ถ้าให้คุยต่อด้วยอารมณ์นี้ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี
"...อื้อ เอามา" ฮารุกะตอบกลับด้วยเสียงเรียบๆและประโยคสั้นๆอย่างเคย แต่เท่านี้ก็มากพอแล้วที่จะทำให้คนฟังยิ้มออกเพราะรู้ว่าเรื่องคราวนี้จะจบลงแบบที่เคยเป็น
"พูดถึงเรื่องเรียน อาทิตย์หน้ามีสอบภาษาอังกฤษนี่นะ ไม่ค่อยมั่นใจเลยแฮะ"
"ท่องๆไปเดี๋ยวก็ได้เองแหละ"
"คราวที่แล้วท่องทั้งคืนแต่คะแนนก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่นี่นา"
"มาโหมอ่านเอาคืนเดียวเนื้อหามันเลยตีกันน่ะสิ"
"ฮารุก็มาอ่านเอาใกล้ๆวันสอบเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? แต่คะแนนก็ดีกว่าฉันเยอะเลย"
"เพราะกินซาบะทุกวันไงล่ะ"
"ที่ว่าปลาทะเลมี DHA ใช่มั้ย? ฮ่ะๆ"
จากที่เคยเดินตามอยู่ข้างหลัง มาตอนนี้ได้มาเดินข้างๆ ได้หาเรื่องคุย เห็นหน้ากัน บรรยากาศที่เคยเงียบกริบค่อยๆหายไป
ใช่...เขาชอบแบบนี้ต่างหาก
ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าสำหรับฮารุแล้วเขาสำคัญแค่ไหน แต่จะลืมไปก่อน
เพราะว่าช่วงเวลาที่ได้ใช้ร่วมกับฮารุแบบนี้น่ะ มีค่าสำหรับเขามากจนไม่อยากคิดอะไรแย่ๆให้เสียอรรถรสอีก
___________________________________________________________________________
เที่ยงวันนี้นานาเสะ ฮารุกะ เดินขึ้นไปกินข้าวที่ดาดฟ้าคนเดียว
ออกจะเป็นเรื่องแปลกเพราะปกติจะมีร่างใหญ่ของทาจิบานะ มาโกโตะตามมาด้วยเสมอ แต่เพราะวันนี้พ่อหนุ่มร่างสูงใจดีรับปากกับชมรมวรรณกรรมเอาไว้ว่าจะไปช่วยซ่อมตู้กับขนของ ก็เลยออกมาอย่างที่เห็น
ฮารุกะไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไรนัก เขาชอบกินข้าวกล่องปลาซาบะเคล้าบรรยากาศดาดฟ้าโรงเรียนอันเงียบสงบ ท้องฟ้าสีคราม และลมเย็นๆพัดสบายอยู่แล้ว ถ้าเขาชอบก็ไม่เกี่ยวหรอกว่าจะต้องมีใครมาอยู่ด้วย
ส่วนอีกด้าน มาโกโตะกำลังตอกตะปูที่ตู้อย่างขมีขมัน พวกงานฝีมือเขาไม่ถนัดหรอก แต่เรื่องงานกรรมกรก็ใช้การได้อยู่บ้าง ตู้ที่ทำอยู่นี่ยังไม่ได้พังมาก ตอกแป๊บเดียวก็เสร็จ จากนั้นเลยมาช่วยคนอื่นๆในชมรมแพ็คของที่จะโละทิ้งต่อ
"ขอโทษนะจ๊ะทาจิบานะคุง รบกวนแย่เลย"
"ไม่หรอก นานๆทำทีก็สนุกดีนะ ฮ่ะๆ" ตอบพร้อมรอยยิ้ม ยิ้มที่เจ้าตัวไม่รู้หรอกว่าทำเอาเหล่าสาวๆหัวใจเต้นผิดจังหวะกันไปเป็นแถบ
"อ๊ะ นี่ก็เที่ยงแล้วนะ ทาจิบานะคุงจะไปกินข้าวที่ไหนเหรอจ๊ะ?" เด็กสาวคนหนึ่งถาม
"อ๋อ เดี๋ยวขึ้นไปกินกับฮารุบนดาดฟ้าน่ะ"
"นานาเสะคุงสินะ? สนิทกันมากเลยนี่นา? เห็นตัวติดกันตลอดเลย" เด็กสาวอีกคนถามบ้าง
"ก็คบกันมาตั้งแต่เล็กๆนี่นา"
"แต่สุดยอดเลยนะ ก็นานาเสะคุงดูขรึมๆน่าจะคุยยากแบบนั้นแท้ๆ แต่ทาจิบานะคุงก็คุยด้วยได้สบายๆเลย"
"ฮารุไม่ค่อยพูดก็จริงแต่ชอบแสดงออกทางสีหน้านะ เพราะงั้นก็เลยสนุกมากเวลาที่ได้เดาว่าคิดอะไรอยู่น่ะ อ๊ะ อันนี้เสร็จแล้ว ให้ขนลงไปข้างล่างใช่ไหม?" เขาถาม พอเห็นคนพยักหน้าตอบรับก็เลยแบกทั้งส่วนของตัวเองและส่วนของคนอื่นไปด้วย รู้สึกว่าตัวเองโชคดีหน่อยที่หลังจากช่วงม.ต้นปี 3 ร่างกายก็โตเอาๆจนมีกล้ามเป็นมัดเลยขนของเยอะๆหนักๆได้สบายๆ
"ทาจิบานะคุง ขนกองนั้นเสร็จก็ไปกินข้าวเลยก็ได้จ้ะ ตรงนี้เหลืออีกนิดเดียวเดี๋ยวพวกเราขนไปเอง ขอบใจมากนะ"
"อื้ม โอเค"
"อ๊ะ แล้วก็ถ้าไม่รังเกียจ เย็นนี้ไปกินน้ำชาด้วยกันไหมจ๊ะ ตอบแทนที่ช่วยวันนี้ไง" และถ้าเขาจะสนใจเจ้าของคำพูดมากกว่านี้สักนิด คงจะรู้ไปแล้วว่าสาวเจ้าพูดออกมาด้วยเจตนาแบบไหน
"ขอบใจนะ แต่เย็นนี้มีนัดแล้วน่ะ"
"เอ๊ะ?"
"สัญญากับฮารุว่าจะไปซื้อของด้วยกัน"
____________________________________________________________________
สำหรับคนนอกแล้ว มาโกโตะและฮารุกะเป็นเพื่อนสนิทกันมากอย่างแน่นอน เริ่มจากการมาโรงเรียนในแต่ละวันที่จะเห็นทั้งสองเดินมาด้วยกันเป็นแพ็คคู่ นั่งเรียนที่ที่นั่งข้างกัน เอาการบ้านไปส่งให้กัน กินข้าวเที่ยงด้วยกัน และกลับจากโรงเรียนด้วยกัน นี่ยังไม่นับเรื่องราวแปลกประหลาดที่เพียงฮารุกะมองตาหรือเอ่ยชื่อ มาโกโตะก็รู้ใจไปเสียทุกอย่างอีก
แต่ใครจะรู้ว่าจริงๆแล้วมาโกโตะรู้สึกสับสนกับเรื่องนั้น พอบอกให้ตัวเองเลิกคิด เดี๋ยววันดีคืนดีก็คิดขึ้นมาอีก ตอนนี้ที่กำลังขนของอยู่ก็เหมือนกัน
มันเป็นมาตั้งแต่แรกที่เวลาเดินด้วยกันกับฮารุ อีกฝ่ายจะไม่ได้สนใจเขาเท่าไหร่ ในขณะที่เขาพยายามสรรหาเรื่องพูดเพราะไม่อยากให้คนข้างๆเบื่อ ยิ่งตั้งแต่ม.ต้นมานี้ สายตาของฮารุมักจะทอดออกไปยังทะเลไกลแสนไกล
มันก็แทบทุกครั้งด้วย ที่เวลาเขามีเหตุที่ทำให้ต้องผิดนัดอะไรไป ฮารุกะไม่เคยแสดงท่าทีโกรธ ผิดหวัง หรือเสียใจอะไรสักนิด
มันเป็นแบบนั้นบ่อยๆ ที่ทั้งๆที่เขาพยายามหาของที่จะทำให้อีกฝ่ายดีใจมาให้ แต่สุดท้ายผลตอบรับก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น
ทั้งที่พยายามคิดว่านั่นคือนิสัยปกติของฮารุอยู่แล้ว ต่อให้เป็นใครฮารุก็จะทำแบบนี้ไม่ต่างกัน แต่ลึกๆแล้วในใจเขาหวั่นๆ
ว่าจริงๆแล้วเพราะตัวเองก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้นเองต่างหาก
______________________________________________________________
หลังเลิกเรียน เขากับฮารุเดินกลับบ้านด้วยกันตามปกติ แต่วันนี้พิเศษหน่อยตรงที่จะไปซื้อของในเมืองกันด้วย จริงๆเรื่องมันเกิดขึ้นเพราะเขาเริ่มสังเกตว่าข้าวของเครื่องใช้ในบ้านฮารุร่อยหรอ ทั้งข้าวที่เหลืออยู่ก้นถุง ซอสที่แทบจะหมดขวด น้ำยาล้างจานกับน้ำยาขัดห้องน้ำที่เหลือน้อยเต็มที ก็เลยได้คะยั้นคะยอให้ออกมา
ใช้เวลาสักพักหนึ่ง ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงซุปเปอร์มาเก็ตที่หมายตาไว้จนได้ เขาเป็นคนถือตะกร้า ในขณะที่ฮารุเป็นคนเลือกของ เหมือนจะโชคดีหน่อยๆที่พวกเขามาได้จังหวะโปรโมชั่นปลาลดราคาด้วย ดวงตาของฮารุเป็นประกาย ก่อนฝีเท้านั่นจะเดินไปที่แผนกปลาอย่างไม่ต้องคิด
ปลาที่อยู่บนถาดน้ำแข็งเรียงราย หนังที่สะท้อนแสงไฟจนเงาวับบอกชัดถึงความสด แม้จะมีปลาหลากหลายให้เลือก แต่ซาบะก็เป็นปลาชนิดแรกที่ฮารุเดินเข้าไปหา แม้จะมีผมปรกหน้าอยู่ แต่เขาก็เห็นดวงตาของฮารุจับจ้องไปที่ภาพตรงหน้าอย่างสนใจ
ใช่แล้ว ดวงตาคู่นั้นมักจะมองแต่สิ่งที่ตัวเองสนใจเสมอ
ไม่รู้ว่าเพราะอารมณ์หรือคิดอะไรอยู่กันแน่ แต่พอรู้ตัวอีกทีก็จับผมสีดำที่เกะกะนั่นทัดหูให้ไปแล้ว
ทุกอย่างระหว่างพวกเขายังคงนิ่งอยู่หลายวินาที ก่อนที่ฮารุกะจะหยิบปลาที่มองอยู่เข้าตะกร้า
"ต่อไปก็ข้าวสินะ?" เขาเอ่ยยิ้มๆ คนตัวเล็กกว่าพยักหน้าหงึกหงักแล้วเดินนำไป ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ฮารุมักจะเลือกแต่ของยี่ห้อเดิมๆไม่ก็ของที่คล้ายๆกับที่ตัวเองเคยชินเสมอ การซื้อของเข้าบ้านคราวนี้ก็เลยเสร็จไวไม่ต่างจากครั้งก่อนๆ เขากับฮารุแบ่งของกันถือคนละครึ่ง ที่อยู่กับเขาก็มีข้าวสาร ส่วนอีกมือก็น้ำยาล้างจานกับน้ำยาขัดห้องน้ำ
แต่พอเดินๆไปก็ชักหิว เมื่อได้กลิ่นหอมพร้อมกับเห็นหน้าตาน่ากินของทาโกะยากิร้านใกล้ๆก็อดเหลียวมองไม่ได้
"ฮารุ รอแป๊บนะ"
ได้ทาโกะยากิเพิ่มชีสราดหน้าด้วยมายองเนสและต้นหอมญี่ปุ่นพอประมาณ แต่น่าเสียดายที่แม้ของอร่อยจะอยู่ตรงหน้า แต่เพราะมือข้างหนึ่งก็ถือของ มืออีกข้างก็ถือถาดทาโกะยากิอยู่ ก็เลยไม่มีมือว่างจะจิ้มเจ้าลูกกลมๆเข้าปาก
แต่ในขณะที่กำลังสมเพชตัวเองแบบแปลกๆอยู่นั้น ฮารุก็ใช้มืออีกข้างที่ว่างจิ้มทาโกะยากิมาจ่อตรงปากเขาแล้ว
"มือไม่ว่างนี่? เอ้า?"
อยู่ๆใจก็เต้นแรง หนุ่มร่างใหญ่อ้าปากงับอย่างงงๆ แต่ก็ต้องตกใจสุดขีดเพราะความร้อนทำเอาลิ้นพองน้ำตาไหล
คนป้อนเบิกตากว้างด้วยความตกใจไม่แพ้กัน
"มาโกโตะ!"
"อื้อ ไม่..เป็นไร ฮารุ" หลังจากทนกลืนเข้าไปอย่างยากลำบาก ในที่สุดคนที่ทำหน้าทรมานจนแดงก่ำเมื่อกี้ก็ยิ้มออกมาจนได้ "ขอโทษนะ ลืมไปเลยว่ามันจะร้อน"
"...ต้องเป่าก่อนสิ"
"นั่นสินะ อ่ะ ฮารุก็กินด้วยกันสิ?"
ไม่มีคำตอบอะไร ฮารุกะจิ้มทาโกะยากิขึ้นมาอีกลูกแล้วเป่าเบาๆ จากนั้นจึงงับคำหนึ่งเข้าปาก แล้วคงเพราะเห็นเขามอง เจ้าตัวจึงเป่าทาโกะยากิอีกครั้งแล้วยื่นมาให้เขา
เขารู้สึกว่ามีอะไรอุ่นๆอยู่ในใจจนหุบยิ้มไม่ได้ อ้าปากรับทาโกะยากิที่เหลืออยู่ค่อนลูกนั่นไว้ รสชาติกลมกล่อมและความอุ่นร้อนท่ามกลางอากาศที่เริ่มเย็นลง แค่การกินเท่านั้นก็ทำให้คนเรามีความสุขได้ขนาดนี้เลยเหรอ?
เขาน่ะชอบฮารุมากจริงๆน่ะแหละ
______________________________________________________________
กว่าจะกลับมาถึงละแวกบ้านก็เริ่มมืดแล้ว บรรยากาศยามเย็นของเมืองอิวาโทบิช่างเงียบสงบ ท้องฟ้าไล่ระดับจากสีม่วงแดงไปสีน้ำเงินจบด้วยสีกรมท่า ลมเย็นพัดเอาไอและกลิ่นของทะเลแตะจมูก เสียงคลื่นซัดฝั่งฟังเป็นท่วงทำนองที่ชวนผ่อนคลาย
แล้วก็ ได้เดินด้วยกันในบรรยากาศแบบนี้กับฮารุ
แต่ไม่นานนักหรอก สุดท้ายก็มาถึงหน้าบ้านฮารุจนได้ พอเอาของเข้าไปวางเสร็จก็คงต้องกลับแล้ว
...เสียดายนิดๆล่ะมั้ง
"งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะฮารุ" เขากล่าวก่อนที่จะเปิดประตูหน้าบ้าน ฮารุกะที่ออกมาส่งพยักหน้าหงึกหงัก
"อ๊ะ ใช่ พรุ่งนี้คุณแม่ว่าจะทำครีมโคร็อกเกะให้เป็นมื้อเที่ยง เดี๋ยวเอามาแบ่งฮารุกินนะ?"
ทำไมไม่รู้ แต่ก็เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ ก่อนที่ฮารุกะจะเอ่ยปาก
"อย่านานเหมือนวันนี้ซะล่ะ"
ชั่วครู่เดียวเท่านั้นที่เขาเห็นดวงตาสีสวยของฮารุกะวูบไหว แต่ไม่ทันตั้งตัวดีเจ้าตัวก็หันหลังกลับเข้าบ้านทั้งอย่างนั้น ทิ้งให้เขายืนงงอยู่คนเดียว
...จะอะไรก็ไม่รู้ล่ะนะ แต่
ไม่มีอะไรให้ต้องคิดมากอีกแล้ว แค่ดวงตาที่ไหวระริกเพราะเรื่องของเขาก็เกินพอ
...ที่ทำให้มั่นใจได้ว่า เขาไม่ใช่คนอื่นคนไกลของฮารุอย่างแน่นอน
-Talk-
และตอนนี้เพิ่งแต่งเสร็จเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว รู้สึกฝืดๆด้วยหลายๆอย่าง แต่ก็คิดว่าแบบนี้ดีแล้วแหละ น่ะค่ะ TwT
ก็คิดว่าจะพยายามเขียนต่อไปเรื่อยๆ แม้คู่นี้แค่จิ้นเอาในหัวจะฟินแล้วก็ตาม(ฮา)
ขอบคุณที่อ่านนะคะ > <!!
ความคิดเห็น