ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมื่อโลกนี้โคจรตามเลข 68 (โน่ริท)

    ลำดับตอนที่ #2 : No.2 - นอน-ดิ้น

    • อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 53


     
     
     
    ขึ้นชื่อว่ารายการเรียลลิตี้มันต้องมีจรรยาบรรณ
     
    ดังนั้น ผมเชื่อว่าเขาต้องไม่ถ่ายเวลาส่วนตัวไปออกอากาศ (คิดว่านะ)
     
    นั่นคือ อย่างน้อยๆก็ไม่ถ่ายตอนที่เข้าห้องน้ำ หรือตอนนอนตอนกลางคืน
     
    (แหงสิ คนถ่ายเขาก็อยากนอนเหมือนกัน)
     
    ซึ่งนั่นหมายความว่าจะไม่มีใครรู้ความลับของเราระหว่างทำกิจกรรมอันไม่สมควรถ่ายพวกนั้น
     
    และเมื่อไม่มีใครรู้...
     
    นอกจากพวกเราแล้ว... ก็คงไม่มีใครหน้าไหนรู้ว่าผู้เข้าแข่งขันหมายเลข 8...
     
    ครับ... ผมหมายถึงไอ้ริท ไอ้หมอตัวเตี้ยที่นอนเตียงเดียวกับผมนี่แหละ
     
    คุณคงไม่รู้ใช่ไหมว่ามันนอนดิ้นได้เลวระยำเหลือร้าย!
     
     
     
    ------------------------------------------------------------------------------------------------
     
    วันแรกที่โดนเขาถีบ
     
    วันนั้นเป็นวันอังคารอันแสนธรรมดา ผมกับน้องๆรวมกัน 7 คน (เจ้าเก่งเพิ่งออกไปวีคที่แล้ว)เพิ่งกลับจากซ้อมรอบดึก เป็นอาการอันแสนปกติที่เมื่อใครสักคนเข้ามาถึงห้องตัวเอง เห็นเตียงนอนที่นอนอยู่ทุกวัน แล้วอดไม่ได้ที่จะกระโจนเอาตัวไปสัมผัสกับความนุ่มสบายนั่น ใช่ครับ... เจ้าน้องชายผมคนนี้ก็เหมือนกัน
     
     
    วู้ว!!มันร้องเบาๆก่อนล้มลงบนเตียงของผมและมัน (เจ้าของร่วมน่ะ... ตอนนี้เรานอนเตียงเดียวกัน) ล้มไปท่านอนคว่ำ กางมือออก เหมือนต้องการผ่อนคลาย เฮ้อ...สบาย...
     
     
    ใบหน้าเคลิบเคลิ้ม ทั้งดวงตาที่หลับพริ้ม ทั้งรอยยิ้มกว้างจนเห็นเหล็กดัด อีกทั้งเสียงที่บ่งบอกว่าเจ้าน้องชายคนนี้สบายมากแค่ไหนนั้นทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้ ไม่รู้สิ... มันมองแล้วเพลินๆ
     
     
    ว่าแต่... นอนท่านี้... บนเตียงไซส์นี้... กะไม่แบ่งให้ไอ้พี่ชายบ้างเร้อ...?
     
     
    เหยิบริท พี่นอนด้วยผมว่าพลางเขย่าตัวมันเบาๆ
     
     
    โหยยยยย พี่โตโน่ ไปอาบน้ำก่อนเลย เหม็นสิ้นน้ำเสียงงัวเงียนั้น ผมก็ได้แต่มองมันด้วยสายตาพิศวง...
     
     
    แล้วเอ็งอาบแล้วซะที่ไหนล่ะวะไอ้เตี้ย?
     
     
    ริทก็เหมือนกันแหละ ไปอาบน้ำไป จะหลับแล้วไม่ใช่เหรอขันติเว้ยไอ้โน่ ขันติ...
     
     
    ไม่เอา พี่โตโน่แหละอาบก่อน
     
     
    ริทแหละ
     
     
    พี่โตโน่แหละ
     
     
    ริทน้ำเสียงจริงจัง ยังไงผมก็พี่มัน ลองไม้นี่น่าจะฟังกันบ้าง
     
     
    ...แต่ผมคงคาดการณ์ผิด ลืมไปว่าคนมันง่วง อะไรก็ฉุดไม่อยู่
     
     
    ไอ้น้องริทสุดที่เลิฟมันเลยเอาผ้าห่มคลุมโปงปิดบทสนทนาเสียงอย่างงั้น!?
     
     
    ให้ตาย! คนเรียนหมอแมร่งเรียนหนักจนไม่อาบน้ำก่อนนอนกันทุกคนเปล่าวะ?!
     
     
    ผมได้แต่มองไอ้น้องชายด้วยสายตาที่สื่อหลายความหมาย (อยากถีบ อยากต่อย อยาก...) แต่ก็ได้แต่ยอมแพ้แล้วจัดของเข้าห้องน้ำไปตามคำสั่งมัน ปัญญาอ่อนเว้ย!
     
     
    หารู้ไม่... เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของเซนที่นอนห้องเดียวกันแต่คนละเตียง
     
     
    สองคนนี้มันเป็นไรกันว้า...ปัญญาอ่อนทั้งคู่!
     
    ------------------------------------------------------------------------------------------------
     
     
     
    ชายหนุ่มวัย 23 ในชุดเสื้อยืดคอกลมกับกางเกงขาสั้น พร้อมกับผ้าขนหนูที่เพิ่งผ่านการใช้งานซึ่งพาดอยู่บนบ่า เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้าสดชื่น น้ำเย็นๆช่วยให้เขาลืมเรื่องริทไปได้พักหนึ่ง คิดแล้วสายตาก็พลันมาจับจ้องร่างเล็กๆที่ยังนอนค้างท่าเดิมอยู่บนเตียง ในใจคิดแต่ว่าจะทำยังไงให้ร่างร่างนี้ลุกไปอาบน้ำได้ ไม่รู้ล่ะ... ยังไงเขาก็อาบตามคำสั่งมันแล้ว ทีนี้ถึงตามันมั่ง
     
     
    ริทเว้ย ลุกเขาสะกิด ทว่าคำตอบที่ได้มีเพียงน้ำเสียงงัวเงียกับมือเล็กๆที่ปัดไปมาอย่างรำคาญ
     
     
    ริทจากสะกิดเลื่อนขั้นเป็นตี แน่นอน คำตอบเหมือนเดิม
     
    ริทตอนนี้เขาตั้งท่าจะเอาเท้ายันให้ตื่น ถ้าไม่ติดเสียงของอีกคนรั้งไว้ก่อน
     
     
    ไม่ไหวแล้วมั้งพี่โน่ แมร่งหลับเป็นตายท่าเดียวเซนว่าขำๆก่อนสะบัดผ้าห่มคลุมตัวเอง แล้วจมหายไปในห้วงนิทรา นายโตโน่ พี่ใหญ่ของบ้านได้แต่ถอนหายใจ พร้อมกับมองเจ้าตัวเล็กตรงหน้าอย่างปลงๆ ไม่นาน เขาก็เดินไปพาดผ้าขนหนูที่ราว ก่อนออกแรงจัดท่าให้อีกคนไปนอนตะแคงอยู่ฝั่งหนึ่ง แล้วเหลือที่ว่างให้ตัวเองนอนอีกฝั่ง เดินไปปิดไฟ แล้วกลับมานอนที่เตียงอันแสนคุ้นเคย
     
     
    เขาพยายามข่มตาตัวเองให้หลับ แต่เสียงหายใจเข้าออกเป็นระยะของอีกคนทำให้นึกสนุกอะไรขึ้นมาก็ไม่ทราบได้ อาเฮียของบ้านหันหน้าไปหาเจ้าตัวเล็กข้างๆ ขยับตัวอีกนิดหวังดีดนิ้วใส่แก้มมันปิดท้ายก่อนนอน ขณะตั้งท่าอยู่นั้น เสียงละเมออย่างงัวเงียก็ทำให้เขาหยุดนิ่งฟังด้วยความขบขัน
     
     
    เฮ้ยไอ้เซน... ไก่ทอดของกู...คิดแต่เรื่องกินนะริท
     
     
    เฮ้ยยยยย มึงก็กินส่วนของตัวเองไปแล้วไง แล้วนั่น...
     
     
    มึงท้ากูเหรอ ด้ายยยยยยยยย
     
     
    ขณะที่ผมกำลังหัวเราะกับเสียงละเมอของริทนั่นเอง อยู่ๆก็มีบางสิ่งเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว
     
     
    โครมมมมมมมมม!!!!!!!!!!!!!!!
     
     
    เท้าของไอ้เตี้ยที่ไหนไม่รู้ถีบผมลงจากเตียงดังโครม!
     
     
    ------------------------------------------------------------------------------------------------
     
     
    วันแรกที่โดนฟาด
     
     
    จากเหตุการณ์เมื่อไม่กี่วันก่อน ทำให้ผมมองริทแปลกไป
     
     
    คนไรวะ... ตัวเล็กๆ แต่ถีบหนักชิ-หาย
     
     
    มันทำให้ผมรู้ว่าอย่าไปยุ่งกับไอ้เตี้ยนี่ตอนมันง่วงและตอนมันละเมอเรื่องของกิน ฉะนั้นนับจากวันนั้นมา ผมจึงต้องรีบนอนให้หลับไวๆทุกครั้ง (อย่างน้อยตอนโดนมันถีบจะได้ไม่เจ็บมากเพราะหลับอยู่) แต่ก็ไม่วาย...ดึกๆหน่อยก็จะมีมือเล็กๆมาตี มาฟาด มาอะไรมั่ง ก็พองุ้งๆงิ้งๆ ไม่หนักเท่าวันโดนถีบ จนผมพอสรุปได้แล้วว่าริทมันนอนดิ้น เอาวะ...มันคงดิ้นหนักแค่วันเดียวน่ะแหละ
     
     
    ขณะที่ผมล้มตัวลงนอนนั้น อดไม่ได้ที่จะชะเง้อไปใกล้ๆอีกคนที่หลับก่อนแทบทุกครั้ง ตั้งใจฟังว่าละเมออะไรอีกไหม(จะได้หลบไปนอนข้างล่างทัน) แต่สิ่งที่ปรากฏมีเพียงเสียงที่ดังที่สุด... เสียงแห่งความเงียบ...
     
     
    ว่าไปแล้วริทก็ไม่ได้ละเมออีกเลยนับจากวันนั้น งั้นคืนนี้ผมคงสบายใจได้
     
     
    และขณะที่กำลังจะล้มตัวลงนอนนั่นเอง
     
     
     
    โครมมมมมมมมมมมมม!!!!!!!!!!!!!!!!!!
     
     
    ไอ้เตี้ยที่ไหนไม่รู้ก็ใช้ท่าจระเข้ฟาดหางจู่โจมผมแบบเงียบเชียบ
     
    ------------------------------------------------------------------------------------------------
     
     
    วันต่อจากวันนั้น และอีกหลายๆวัน
     
     
    ผมเพิ่งรู้ว่าริทไม่ใช่คนนอนดิ้น แต่ดิ้นมาก ไม่ใช่มากธรรมดา แต่มากถึงมากที่สุด
     
     
    ผมเดาไม่ได้เลยว่าวันไหนมันจะดิ้นเบาะๆ ดิ้นงุ้งงิ้ง ดิ้นมาก ดิ้นน้อย ดิ้นแล้วแอคชั่น หรือบางวันกินยาผิด ไม่ดิ้น มันมาเวียนกันไม่เป็นระเบียบอย่างลำดับเลขคณิต แรกๆก็ไม่ชินหรอก แต่นานๆเข้าก็เริ่มจับทางได้ เป็นอีกครั้งที่รู้สึกโชคดีที่ชกมวยมาก่อน ไม่งั้นคงแย่กว่านี้
     
     
    วันก่อนผมโดนเท้าฟาด วันต่อมามันผลัก ต่อจากนั้นก็โดนมือตบ ถัดมาไม่โดน (แต่คิดว่ามันน่าจะเอาขาถีบกำแพง) ไม่นานผมก็โดนมันเอานิ้วจิ้มๆอย่างไม่ประสา ก่อนจะโดนคอมโบด้วยเท้าเตะไม่เลือกท่า ดีที่วันต่อมามันผิดสำแดง ไม่ดิ้น
     
     
    ถ้าทางบ้านเห็นผมหน้าตาระทม โปรดรู้ไว้นะครับว่ามันเป็นความผิดของไอ้เตี้ยมัน
     
     
    ขณะที่ผมกำลังคิดถึงการนอนดิ้นของไอ้เตี้ยนั่นเอง... จระเข้ฟาดหางท่าเก่าก็มาอีกรอบ
     
     
    หมับ!
     
     
    ผมใช้มือสกัดการเคลื่อนไหวนั้นไว้ ก่อนจัดให้ขาเล็กๆนั่นอยู่ในท่าที่ควรจะเป็น
     
     
    เอาวะ... ถ้ารู้จักรับมือ นอนดิ้นแค่นี้ก็ไม่หนักหนาหรอก
     
     
    ------------------------------------------------------------------------------------------------
     
     
    และวันนั้น...
     
     
    หลังจากที่ผมมั่นใจในการรับมือการนอนดิ้นของริทแล้ว ทุกคืนก็เป็นเวลาแห่งความสุข จะมีหลายครั้งที่เขาดิ้นมาหนักๆแล้วผมรับได้ทันอัตโนมัติ เหมือนเป็นปฏิกิริยาร่วมที่ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าได้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ถึงบางครั้งจะรับไม่ทัน ผมก็ชิน ไม่สะทกสะท้านอีกต่อไป
     
     
    ผมเพิ่งออกมาจากห้องน้ำ มองมาที่เตียงของตัวเอง...ว่าที่คุณหมอหลับปุ๋ยไปก่อนแล้วเหมือนทุกวัน ส่วนเจ้าเซน... รายนี้ก็คลุมโปงหลับไปแล้วเหมือนกัน
     
     
    ผมเดินเอาผ้าขนหนูไปพาดกับราว ปิดไฟ แล้วมานอนที่เตียงตัวเดิมอีกครั้ง หันหน้าไปทางไอ้เตี้ย เอานิ้วดีดหน้าผากมันเบาๆ ตั้งใจจะทำตั้งแต่วันแรกที่โดนมันถีบแล้ว แต่ลืม มัวแต่พะวงเรื่องนอนดิ้น
     
     
    เป็นอาการผิดปกติของริทที่เกิดขึ้นไม่กี่ครั้ง ไม่บ่อยนักที่มันจะกินยาลืมเขย่าขวด ไม่ละเมอ ไม่นอนดิ้น และคืนนี้ก็เป็นคืนหายากที่ว่านั่นอีกคืน
     
     
    ผมหันหน้าไปทางคนตัวเล็ก ถอนหายใจเบาๆ สายตาจับจ้องที่อีกคนผ่านความมืด อะไรไม่รู้ดลใจให้ผมลูบหัวริทอย่างนึกเอ็นดู ก่อนนึกได้ว่าพรุ่งนี้ยังมีอะไรต้องทำอีกเยอะ ต้องรีบนอน
     
     
    ...และขณะที่ผมคิดอย่างนั้น กำลังหันหน้าไปอีกทาง อยู่ๆมือเล็กๆที่แสนคุ้นเคยก็เอื้อมมาเกาะแขนของผม ตามมาด้วยสัมผัสอุ่นๆจากร่างกายมนุษย์
     
     
    นะ...แม่... ริทอยากได้อันนั้นจริงๆเดาได้ว่ามันกำลังละเมอ อ้อนแม่ขออะไรสักอย่าง
     
     
    นะ น้า........จากสัมผัสอุ่นๆเริ่มเปลี่ยนเป็นความร้อนเมื่อคนข้างๆเบียดชิดร่างกายผมมากขึ้น และมากขึ้น...
     
     
    ริท... ริท...ผมพยายามผลักมันออก แต่มือที่เกาะแขนดันเลื่อนเป็นเกาะไหล่ซะงั้น!
     
     
    น้า... แม่... ออกช่วยกันก็ได้... นะๆๆๆและในที่สุด ไอ้เตี้ยมันก็เอาหน้ามาซุกที่บ่าของผม ถูไปถูมาทั้งๆที่ดูยังไงมันก็หลับอยู่ชัดๆ
     
     
    ผมพยายามแกะมือปลาหมึกนั่น แต่ผมน่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าเวลาเด็กน้อยมันอ้อนอยากได้ของเล่น มือมันเหนียวยังกับติดกาวแค่ไหน แน่นอนครับ ผมแกะไม่ออก สุดท้ายก็เลยได้แต่ปลง ยอมให้ริทมันเกาะอยู่อย่างนั้น และที่สุดของที่สุด... ริทมันหลับสนิทไปทั้งที่ร่างกายมันเกาะผมอยู่อย่างนี้
     
     
    ผมได้แต่ถอนหายใจพรืดให้คนข้างๆอย่างสังเวชใจ ก่อนนึกสนุกหันหน้าไปทางที่ริทซบบ่าผมอยู่
     
     
    อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าริทตื่นมาแล้วเห็นตัวเองนอนท่านี้จะตกใจแค่ไหน
     
     
    อือ... พี่โตโน่เสียงละเมอเรียกชื่อผม กับจมูกที่ซุกมาที่ซอกคอเบาๆ
     
     
    ไม่รู้ทำไม... รู้สึกหน้าร้อนขึ้นมากะทันหัน
     
     
    ให้ตายเถอะ! ถ้านอนดิ้นท่านี้ ต่อให้เจอกี่ครั้งพี่ก็ไม่ชินหรอกนะริท!
     
    ------------------------------------------------------------------------------------------------
     
     
     
    แล้ววันต่อมา สมาชิกทุกคนในบ้านก็ถามถึงที่มาของรอยคล้ำใต้ตาเหมือนหมีแพนด้า ของอาเฮียใหญ่แห่งเดอะสตาร์ 6...
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    -เล็กน้อยถึงปานกลาง-

    ฟิคนี้เป็นฟิคที่สองที่เราแต่งนะคะห่วงอยู่ว่าต่อจากนี้จะเรียงลำดับฟิคที่แต่งก่อนหลังได้มั้ยเพราะแต่งๆไปก็ชักเบ๊อะๆ (ฮา)ตอนนี้ก็ได้แรงบันดาลใจจากนิตยสารหนึ่งที่มีบทสัมภาษณ์เฮียเผาน้องว่านอนดิ้นเราก็ปิ๊ง เอ้อ เขียนซะเลย หวังว่าอ่านแล้วจะสนุกกันนะคะ ขอบคุณที่อ่านค่ะเจอกันตอนหน้าหนอ...
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×